ชั้นวางของไม้ วัสดุธรรมชาติที่ให้ทั้งความสวยงามและทนทานชั้นไม้วางของ นับเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่หลายบ้านขาดไม่ได้ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเนื้อไม้ที่ให้ความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ทำให้ชั้นวางไม้สามารถเข้ากันได้กับการตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น มินิมอล หรือคลาสสิกก็ตาม เรามาดูรายละเอียดต่าง ๆ ของ
ชั้นวางของไม้และวิธีการเลือกซื้อ หรือดูแลรักษาไม่ให้ชั้นไม้เสื่อมสภาพกันดีกว่า!
ชั้นวางของไม้ มีจุดเด่นที่น่าสนใจอะไรบ้างชั้นวางของไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ทำให้ชั้นวางของไม้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการตกแต่งบ้าน ซึ่งข้อดีของชั้นวางของไม้มีมากมาย เช่น
- ความสวยงามและความอบอุ่น: ด้วยเส้นลายไม้ที่เป็นเอกลักษณ์และสีสันที่หลากหลาย ทำให้ชั้นวางของไม้แต่ละชิ้นมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ เนื้อไม้ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าอยู่ภายในบ้าน
- ความแข็งแรงทนทาน: เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน สามารถรับน้ำหนักได้ดี และเมื่อได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมก็สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปี
- รูปแบบหลากหลาย: ชั้นวางของไม้มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบชั้นวางของไม้อย่างเรียบง่ายไปจนถึงแบบชั้นวางของไม้ที่ออกแบบมาอย่างประณีต สามารถเลือกได้ตามสไตล์การตกแต่งบ้านที่ต้องการ
- เข้ากันได้กับทุกสไตล์: ไม่ว่าจะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น มินิมอล หรือคลาสสิก ชั้นวางของไม้ก็สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่คลาสสิกและมีความเป็นกลาง
- เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน: ชั้นวางของไม้ที่มีคุณภาพดีและมีดีไซน์สวยงาม สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านของคุณได้
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ชนิดของไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นชั้นวางของไม้ชั้นวางของไม้มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตามชนิดของไม้ที่นำมาทำเป็นชั้นวางไม้ โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างกันไป โดยไม้ที่นิยมใช้ผลิตชั้นวางของ มีดังนี้
- ไม้สัก เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และปลวก แมลงได้ดี มีลวดลายสวยงาม สีทองอร่าม เมื่อใช้งานนานสีจะเข้มขึ้น มีความมันวาว ทำให้ชั้นวางของไม้สักเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาค่อนข้างสูง
- ไม้มะค่า มีความแข็งแรงทนทานสูง ทนปลวกและแมลงได้ดี สีของไม้มีความหลากหลาย ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม มีเส้นลายที่สวยงาม เหมาะสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความแข็งแรง
- ไม้สน มีลักษณะเนื้อไม้ที่นุ่ม น้ำหนักเบา มีสีไม้อ่อน ๆ เช่น สีเหลืองอ่อนหรือขาวอมเหลือง ลายไม้ดูเป็นธรรมชาติ ราคาไม่แพงและหาได้ง่าย เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลหรือสแกนดิเนเวียน เพราะง่ายต่อการตัดแต่งหรือปรับแต่งสีนั่นเอง
- ไม้โอ๊ค มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน มีลวดลายสวยงาม มีความหลากหลายของสีสัน ตั้งแต่สีขาวนวลไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิก
- ไม้ยางพารา เป็นไม้เนื้ออ่อน มีน้ำหนักเบา ราคาไม่แพง มีสีเหลืองอ่อนถึงน้ำตาลอ่อน มีลวดลายที่สวยงาม เหมาะสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการน้ำหนักเบา
- ไม้วอลนัท มีเนื้อไม้แข็ง สีเข้ม เช่น สีน้ำตาลช็อกโกแลต มีลวดลายที่สวยงามและหรูหรา ยืดหยุ่นพอสมควร ทำให้ขึ้นรูปได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียมที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์นและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน
- ไม้เมเปิล เนื้อไม้มีสีอ่อน ลายไม้ละเอียด มีความแข็งแรงและทนต่อรอยขีดข่วน จึงเหมาะสำหรับการนำไปทำชั้นวางของแบบไม้ที่ต้องการความเรียบหรู
เลือกซื้อชั้นวางของไม้อย่างไรดีการเลือกซื้อชั้นวางของไม้ให้เหมาะสม ควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญหลายด้าน เช่น
- การใช้งาน หากของมีน้ำหนักมาก ควรเลือกชั้นไม้อเนกประสงค์ที่มีเนื้อแข็งอย่างไม้โอ๊คหรือไม้สัก ส่วนของเบา ๆ อาจใช้ไม้สนหรือไม้ยางพาราที่น้ำหนักเบาและราคาย่อมเยา
- ดีไซน์และสไตล์ ควรเลือกให้เข้ากับการตกแต่งบ้าน เช่น ชั้นไม้สีอ่อนเหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอล หรือไม้สีเข้มอย่างไม้วอลนัทจะเหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิก
- ขนาดและพื้นที่ ควรวัดพื้นที่ที่จะวางให้แน่ใจก่อนซื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาชั้นวางใหญ่เกินไปหรือไม่พอดีกับพื้นที่
- คุณภาพของไม้ ควรเลือกไม้ที่มีคุณภาพ ไม่มีรอยแตกหรือร่องรอยปลวก หากใช้ในพื้นที่เสี่ยงต่อความชื้น เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ ควรเลือกไม้ที่ทนต่อความชื้นและเคลือบผิวอย่างดี
- ความแข็งแรง ทนทาน ควรตรวจสอบโครงสร้างและความมั่นคงของข้อต่อ โดยเฉพาะหากมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง ควรเลือกชั้นที่สามารถยึดติดกับผนังได้เพื่อป้องกันการล้ม
- งบประมาณ ควรตั้งงบล่วงหน้าและเลือกชั้นวางที่คุ้มค่ากับการใช้งาน หากคุณมีงบประมาณจำกัด ไม้สนหรือไม้ยางพาราก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
การดูแลชั้นวางของไม้ให้แข็งแรง ทนทานการดูแลรักษาชั้นวางของไม้ เพื่อให้ชั้นวางไม้มีอายุการใช้งานยาวนานและคงความสวยงามไว้ได้อย่างดี เรามาดูวิธีการดูแลรักษาชั้นวางของจากไม้กันเลย
- ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ผ้านุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดฝุ่นออกจากพื้นผิวไม้เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าหยาบหรือแปรงแข็ง เพราะอาจทำให้ไม้เป็นรอย ควรใช้น้ำยาเช็ดเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ไม่มีสารกัดกร่อน เพื่อรักษาสีและผิวของไม้ให้ดูเงางาม
- หลีกเลี่ยงการวางชั้นไม้ในบริเวณที่มีความชื้นสูง ควรวางชั้นวางในที่แห้ง ห่างจากบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือบริเวณที่มีน้ำหยด หากเกิดความเปียกชื้น ควรเช็ดให้แห้งทันที เพื่อป้องกันไม้บวม หรือเกิดเชื้อรา
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพราะการวางชั้นวางของไม้ในบริเวณที่โดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน อาจทำให้ไม้ซีดจางหรือแตกร้าวได้ ควรวางในบริเวณที่แสงแดดส่องถึงน้อย หรือใช้ผ้าม่านกันแสงเพื่อปกป้องเฟอร์นิเจอร์ไม้
- ใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบผิวไม้ เช่น น้ำมันไม้ธรรมชาติ แว็กซ์ หรือแลคเกอร์ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อช่วยปกป้องไม้จากรอยขีดข่วน ความชื้น และการเสื่อมสภาพ
- ระวังการวางของที่มีขอบแหลมหรือของหนักลงบนชั้นไม้โดยตรง แนะนำให้ใช้แผ่นรองหรือผ้ารองเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
- ไม่ควรวางของที่หนักเกินไปจนเกินความสามารถของชั้นไม้ เพราะอาจทำให้โครงสร้างเสียหายหรือไม้แอ่นตัวได้
- หากใช้ไม้ธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการอบหรือเคลือบกันปลวก ควรใช้สเปรย์กันปลวกหรือน้ำยารักษาเนื้อไม้ และหมั่นตรวจสอบว่ามีร่องรอยของปลวกหรือไม่
- หากพบรอยแตก รอยร้าว หรือสีถลอก ควรซ่อมแซมทันทีเพื่อป้องกันการลุกลาม อาจใช้กาวไม้สำหรับรอยแตกเล็ก ๆ หรือเรียกช่างเฟอร์นิเจอร์สำหรับการซ่อมที่ใหญ่ขึ้น
สรุป ชั้นวางของไม้ เสน่ห์ที่เหนือกาลเวลาชั้นวางของไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ผสานความสวยงามแบบธรรมชาติเข้ากับการใช้งานได้อย่างลงตัว วัสดุไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น แข็งแรง ทนทาน และเหมาะกับการใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางหนังสือไม้ ชั้นไม้ตกแต่งบ้าน หรือวางของใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น ชั้นวางของไม้ยังมีดีไซน์ให้เลือกอย่างหลากหลาย ตั้งแต่แบบเรียบง่ายมินิมอลจนถึงแบบหรูหราที่มีรายละเอียดประณีตอีกด้วย
|
โปรโมชั่นแฟรนไชส์
| ร้านหนังสือออนไลน์
| สนใจลงโฆษณา
0 ตอบ
102 อ่าน
แชร์