ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Withholding Tax เป็นระบบการเก็บภาษีที่ให้ผู้จ่ายเงินหักภาษีจากจำนวนเงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับเงิน ก่อนที่จะทำการจ่ายเงินไปให้กับผู้รับ โดยเงินที่ถูกหักไว้จะถูกนำส่งให้กับกรมสรรพากรเพื่อเป็นการชำระภาษีในนามของผู้รับเงินนั้น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นรายได้ประเภทต่าง ๆ เช่น เงินเดือน ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และอื่น ๆ
การเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือบทบาทสำคัญในการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี และทำให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียภาษีเต็มจำนวนในช่วงเวลานั้นๆ แต่จะได้รับการหักภาษีเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณภาษีที่ต้องชำระในรอบภาษีของตน
1. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคืออะไร?ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคือภาษีที่ผู้จ่ายเงินต้องหักจากเงินที่จ่ายให้กับผู้รับเงิน ซึ่งภาษีที่หักไว้นั้นจะถูกนำส่งให้กับกรมสรรพากรแทนผู้รับเงิน ภาษีหัก ณ ที่จ่ายมีการกำหนดอัตราภาษีที่แตกต่างกันไปตามประเภทของรายได้ โดยอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจะถูกกำหนดตามกฎหมายและประเภทของรายได้ เช่น การหักภาษีจากเงินเดือน ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียม
ตัวอย่างเช่น เมื่อบริษัทจ่ายเงินค่าบริการให้กับผู้ให้บริการ (เช่น นักบัญชี หรือที่ปรึกษา) หากมีอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% บริษัทจะหักภาษีจากจำนวนเงินที่จ่าย เช่น ถ้าจ่ายค่าบริการ 10,000 บาท บริษัทจะหักภาษี 3% หรือ 300 บาท แล้วนำส่งให้กรมสรรพากร ส่วนผู้ให้บริการจะได้รับเพียง 9,700 บาท
2. ประเภทของรายได้ที่ต้องหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายสามารถใช้ได้กับหลายประเภทของรายได้ โดยที่แต่ละประเภทจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของกรมสรรพากร เช่น:
2.1 เงินเดือนและค่าจ้าง
เมื่อจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างให้แก่พนักงาน บริษัทหรือผู้จ่ายเงินต้องหักภาษีจากเงินเดือนหรือค่าจ้างเหล่านั้น และนำส่งให้กรมสรรพากร ตัวอย่างเช่น พนักงานที่มีเงินเดือน 30,000 บาท บริษัทจะหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายตามอัตราที่กำหนดและนำส่งให้รัฐ
2.2 ค่าบริการและค่าธรรมเนียม
การจ่ายค่าบริการ เช่น ค่าธรรมเนียมที่ปรึกษา ค่าบริการทางกฎหมาย หรือการจ่ายค่าบริการจากผู้ให้บริการที่ไม่ได้เป็นพนักงาน จะต้องหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วย เช่น การจ่ายค่าบริการ 10,000 บาท อาจหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% หรือ 5%
2.3 เงินปันผลและดอกเบี้ย
การจ่ายเงินปันผลจากบริษัทให้กับผู้ถือหุ้น หรือการจ่ายดอกเบี้ยจากการกู้ยืม อาจต้องหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยอัตราภาษีที่ใช้จะเป็นไปตามข้อบังคับที่กำหนด
2.4 ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนจากการให้เช่า
หากผู้ประกอบการให้เช่าทรัพย์สิน เช่น อพาร์ตเมนต์ หรือที่ดิน และได้รับเงินค่ารับบริการจากผู้เช่า ก็จะต้องหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากรายได้เหล่านี้
2.5 ค่าจ้างนักแสดงหรือผู้ให้บริการทางศิลปะ
การจ่ายค่าจ้างให้กับนักแสดง หรือศิลปินที่มีการแสดงผลงาน ก็ต้องหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายตามอัตราที่กำหนด เช่น 5% เป็นต้น