เช็กก่อนเช่า! วิธีเลือกทำเลค้าส่งให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!การบริหารร้านค้าส่งให้ประสบความสำเร็จนั้น นอกจากจะขายสินค้าดี มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสมแล้ว การเลือกทำเล
ค้าส่งก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้ร้านของเราโดดเด่นในตลาดค้าส่ง เพราะทำเลที่ของตั้งร้านมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ผู้ประกอบการจึงควรพิจารณาศักยภาพของทำเลที่ตั้งอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะเลือกเช่าที่เปิดร้านสักแห่ง เพื่อให้ร้านของเราสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นต่อไปในอนาคต
เช็กลิสต์ก่อนเลือกทำเลค้าส่งทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยที่สำคัญรองมาจากตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์ในการลงทุนทำ
ค้าส่ง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องเลือกทำเลให้เหมาะสมกับร้านค้าส่งที่สุด เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการร้านมากขึ้น
1. ประเภทสินค้าที่ทำค้าส่ง
เราต้องรู้ก่อนว่าดูว่าสินค้าที่นำมาขายค้าส่งเป็นอะไร เพราะการเลือกที่ตั้งร้านต้องเหมาะกับสินค้าของเรา เพื่อให้สามารถเลือกทำเลที่ตั้งได้เหมาะกับร้านมากที่สุด เช่น หากเราเปิดร้านขายส่งของเบ็ดเตล็ด ซึ่งเป็นของใช้ที่ซื้อง่ายขายคล่องและราคาจะถูก จึงเหมาะกับทั้งคนทั่วไปและผู้ประกอบการค้าปลีก ร้านจึงควรตั้งในบริเวณที่คนพลุกพล่าน แต่หากร้านของเราขายสินค้าพิเศษที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ก็สามารถตั้งในที่ที่ไม่ต้องมีคนพลุกพล่านมากแต่จำเป็นต้องมีที่จอดรถเพียงพอ เพราะลูกค้าที่มาซื้ออาจจะนำรถส่วนตัวมาซื้อในครั้งละมาก ๆ เพื่อไม่ต้องเดินทางมาซื้อบ่อยครั้ง
2. มีผู้คนสัญจรไปมา
ทำเลค้าส่งที่ดีจะทำให้ลูกค้ามองเห็นและจดจำได้ง่าย ดังนั้นสิ่งที่ทำเลดีที่ต้องมีคือ
- ผู้คนและรถสัญจรผ่านไปมา
- มีขนส่งสาธารณะในบริเวณรอบ ๆ
- รถบรรทุกต่าง ๆ สามารถเข้า-ออกได้สะดวก
- มีร้านค้าอื่นๆ ตั้งอยู่ในบริเวณนั้นด้วย
3. คนที่เดินบริเวณนั้นมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร
ลองสำรวจและสังเกตว่าคนที่เดินผ่านเขามีความต้องการอะไร ทำไมถึงเลือกมาซื้อของหรือเดินในย่านนั้น ๆ อาจจะทำได้โดยจากการสอบถามคนแถวนั้นหรือดูว่าร้านแถวนั้นร้านไหนขายดี เมื่อเรารู้ข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าแล้ว เราจะสามารถรู้ได้ว่าร้านค้าส่งของเราเข้ากับผู้คนที่เดินในทำเลนั้นหรือไม่
4. ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน
นอกจากค่าเช่าที่แล้ว การทำค้าส่งยังมีค่าใช้จ่ายอีกมากมายในการสร้างหน้าร้าน ผู้ประกอบการจึงต้องบริหารจัดการงบประมาณที่มีให้ดี เพื่อให้สามารถหาทำเลดี ๆ พร้อมกับตั้งร้านที่มีมาตรฐานไปด้วยได้ นอกจากค่าเช่าที่แล้วยังมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการตั้งร้าน มีดังนี้
- ค่าปรับปรุงตกแต่งพื้นที่ เช่น ทาสีร้าน ชั้นวางสินค้า เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
- ประกัน และค่ามัดจำ
- ค่าบำรุงรักษาสถานที่ หรือค่าส่วนกลางต่าง ๆ
- ค่าทำความสะอาดพื้นที่ เช่น ค่าจ้างแม่บ้าน
5. มีพื้นที่จอดรถ
ที่จอดรถ เป็นสิ่งสำคัญของทุกธุรกิจ เพราะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ใช้รถส่วนตัวมาซื้อของ และยังเพิ่มความสะดวกเวลารถบรรทุกเข้ามาส่งของให้กับร้านอกด้วย หากทำเลที่เราสนใจนั้นมีคนพลุกพล่าน ร้านควรมีที่จอดรถที่สามารถรองรับรถของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ แต่หากไม่มีพื้นที่ให้จอดรถหรือไม่พอจริง ๆ ให้ลองสังเกตว่าบริเวณนั้นมีลานจอดรถสาธารณะหรือลานจอดรถเช่าหรือไม่ หากร้านมีที่จอดรถเพียงพอและสามารถเข้า-ออกได้สะดวกก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเลือกมาใช้บริการร้านเราเช่นกัน
6. ร้านใกล้เคียงและคู่แข่งค้าส่ง
หากเราเจอพื้นที่ทำเลดีแล้ว ให้ลองสังเกตว่าใกล้ ๆ กับพื้นที่ที่เราจะเช่านั้นมีร้านคู่แข่งที่ทำค้าส่งแบบเดียวกันกับร้านเราด้วยหรือไม่ เพราะหากมีร้านคู่แข่งเยอะและตั้งใกล้กับทำเลนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ แต่หากร้านใกล้ ๆ เรานั้นขายของที่สอดคล้องกับสินค้าส่งที่เราขาย ก็จะกลายเป็นร้านที่เอื้อผลประโยชน์และส่งเสริมกันและกันได้ในอนาคต
เมื่อผู้ประกอบการต้องการเลือกทำเลในการลงหลักปักฐานสร้างร้านค้าส่งซักแห่งหนึ่ง ควรจะต้องคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบกับธุรกิจค้าส่งของเราในอนาคต หากเราพิจารณาได้อย่างรอบคอบ พิถีพิถัน จะทำให้ร้านของเรานั้นโดดเด่นขึ้นในตลาดค้าส่ง เพราะการเลือกทำเลเปิดร้านได้อย่างดีเยี่ยมจะส่งผลให้ร้านสามารถสร้างรายได้มากขึ้นในระยะยาวอีกด้วย