ภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบันและส่งผลกระทบต่อคู่รักหลายคู่ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จึงกลายมาเป็นเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถช่วยให้คู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากสามารถมีลูกได้สำเร็จ ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วก็มีด้วยกันหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าการทำ
ICSI จะมีโอกาสสำเร็จเท่าไร ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง ปัจจัยนี้จะพาไปไขคำตอบกัน
การทำ ICSI คืออะไรการทำ ICSI คือกระบวนการปฏิสนธินอกร่างกายที่แพทย์จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียง 1 ตัว ฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงในห้องปฏิบัติการ โดยใช้เข็มขนาดเล็กภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ทำให้โอกาสปฏิสนธิสูงขึ้น เหมาะสำหรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุฝ่ายชาย เช่น อสุจิน้อย อสุจิอ่อนแอ อสุจิรูปร่างผิดปกติ เป็นต้น
การทำ ICSI มีโอกาสสำเร็จเท่าไรการทำ ICSI จะมีโอกาสสำเร็จเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยทั่วไปแล้ว โอกาสสำเร็จในการทำ ICSI อยู่ที่ประมาณ 50-80% โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อโอกาสสำเร็จในการทำ ICSI ได้แก่
อายุของฝ่ายหญิง โดยทั่วไปแล้ว โอกาสตั้งครรภ์จากการทำ ICSI จะลดลงตามอายุของฝ่ายหญิง โดยฝ่ายหญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปจะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่าฝ่ายหญิงอายุต่ำกว่า 35 ปี
คุณภาพของไข่และตัวอสุจิ คุณภาพของไข่และตัวอสุจิเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการปฏิสนธิ หากไข่และตัวอสุจิมีคุณภาพดี โอกาสปฏิสนธิก็จะสูงขึ้น
จำนวนไข่ที่เก็บได้ จำนวนไข่ที่เก็บได้มีผลต่อจำนวนตัวอ่อนที่ผลิตได้ หากจำนวนไข่ที่เก็บได้น้อย โอกาสตั้งครรภ์ก็จะลดลง
คุณภาพของตัวอ่อน คุณภาพของตัวอ่อนมีผลต่อโอกาสการฝังตัวในโพรงมดลูก หากตัวอ่อนมีคุณภาพดี โอกาสการฝังตัวก็จะสูงขึ้น
เทคนิคการทำ ICSI หากเทคนิคการทำ ICSI ของแพทย์มีความแม่นยำสูง ก็จะส่งผลให้การทำ ICSI มีโอกาสสำเร็จสูงขึ้นเช่นกัน
โรคประจำตัว หากคู่รักมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นต้น อาจส่งผลต่อโอกาสตั้งครรภ์จากการทำ ICSI
ประวัติการมีบุตร หากคู่รักเคยมีลูกมาก่อน โอกาสตั้งครรภ์จากการทำ ICSI ก็จะสูงขึ้น
ประวัติการทำ ICSI หากคู่รักเคยทำ ICSI มาก่อน และประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ โอกาสตั้งครรภ์จากการทำ ICSI ครั้งต่อไปก็จะสูงขึ้น
การทำ ICSI เป็นเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุฝ่ายชาย อย่างไรก็ตามการทำ ICSI ให้มีโอกาสสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนั้น คู่รักที่วางแผนจะเข้ารับการรักษาด้วยวิธี ICSI ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินโอกาสความสำเร็จที่เหมาะสมกับตนเอง