ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เปิดจุดเด่น การลงทุนในกองทุนรวม สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้


        ปัจจุบันคนจำนวนมากไม่นิยมฝากเงินไว้กับธนาคารเนื่องจากผลตอบแทนของเงินฝากในรูป “ดอกเบี้ย” นั้นค่อนข้างต่ำมาก ซึ่งหากเทียบกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่เพิ่มขึ้นราว 3 - 4% แล้ว ถือว่าดอกเบี้ยรับจากการฝากเงินนั้นไม่คุ้มค่า ทำให้ต้องมองหาวิธีอื่นเพื่อสร้างผลตอบแทนเงินออมได้ดีกว่า หนึ่งในวิธีการที่หลายคนเลือกใช้คือ “การลงทุน” ซึ่งทำได้หลายรูปแบบ ทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ ที่มีผลตอบแทนคืนกลับมาสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารแน่นอน แต่นั่นหมายถึงผู้ลงทุนต้องพร้อมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย   

   หลายคนจึงกลัวการลงทุน ไม่แน่ใจว่าควรจะลงทุนอย่างไร จังหวะไหน มีขั้นตอนในการวางแผนทางการเงิน และควรลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดดี ตลอดจนเงื่อนไขกติกาต่าง ๆ ของการลงทุนที่ต้องศึกษาให้ดีก่อนนำเงินออมไปลงทุนด้วย แต่หากยังไม่แน่ใจว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะลงทุนเองจะทำอย่างไร ? คำตอบคือควรเริ่มจาก การลงทุนในกองทุนรวม ก่อน 
   
กองทุนรวม คือ อะไร ?
   กองทุนรวม คือ การระดมเงินทุนจากนักลงทุนที่มีความสนใจในการลงทุนเหมือน ๆ กันเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทุนก้อนใหญ่ โดยจะมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม หรือ บลจ. ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินมืออาชีพเป็นผู้จัดการกองทุนคอยทำหน้าที่บริหารเงินทุน ด้วยการนำเงินในกองทุนดังกล่าวไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามนโยบายการลงทุนที่ประกาศไว้ในหนังสือชี้ชวน ซึ่งสามารถลงทุนได้อย่างหลากหลาย โดยผู้ลงทุนรายย่อยที่นำเงินเข้ามาร่วมลงทุนจะได้รับเป็น “หน่วยลงทุน” มีมูลค่าแตกต่างกันในแต่ละกองทุน และเมื่อได้ผลกำไรจากการลงทุนทางผู้บริหารกองทุนจะนำเงินส่วนแบ่งดังกล่าวมากระจายจัดสรรให้กับเจ้าของเงินหรือผู้ถือหน่วยลงทุนตามจำนวนหน่วยที่มีอยู่นั่นเอง

กองทุนรวมมีอะไรบ้าง
    การลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้นสามารถเลือกประเภทการลงทุนได้อย่างหลากหลาย เพราะกองทุนรวมแต่ละกองจะมีนโยบายเข้าลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ อาทิ ลงทุนในตลาดหุ้นทั้งในและต่างประเทศ, ตราสารหนี้, ตลาดเงิน, ทองคำ และน้ำมัน โดยแยกประเภทของกองทุนหลัก ๆ  กองทุนน่าสนใจ 2566 ได้เป็น

- กองทุนรวมตลาดเงิน เน้นการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดี ความเสี่ยงน้อย ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนในกลุ่มนี้จะไม่สูงมากนัก หลายคนมักใช้กองทุนประเภทนี้เป็นที่พักเงิน แทนการฝากออมทรัพย์กับธนาคาร
- กองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมหุ้น ซึ่งมักถูกเรียกว่า “Equity Fund” เป็นการนำเงินไปลงทุนในหุ้น สามารถเลือกได้ด้วยว่าจะลงทุนในตลาดหุ้นเฉพาะ SET 50, หุ้นที่กำลังฟื้นตัว (Turn Around), หุ้นที่มีปันผล หรือหุ้นที่มีความผันผวนสูง ซึ่งแน่นอนว่าผลตอบแทนของการลงทุนในกองทุนรวมแบบนี้จะสูงกว่าแบบแรก แต่จะมีความผันผวนมากขึ้นตามลักษณะของสินค้าที่เข้าลงทุนด้วยเช่นกัน เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากกว่าแบบแรก
- กองทุนรวมตราสารหนี้ เน้นการฝากเงินหรือลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้เอกชน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่ต้องการรับความเสี่ยงมากนัก
- กองทุนรวมผสม เป็นการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ทั้งที่เป็นหุ้น, ตราสารหนี้ และสินทรัพย์รูปแบบอื่น ๆ ซึ่งกองทุนลักษณะนี้จะมีการกำหนดสัดส่วนประเภทของสินทรัพย์ที่จะเข้าลงทุนไว้อย่างชัดเจน เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนนั่นเอง
- กองทุนที่เน้นการลงทุนในต่างประเทศ มีนโยบายที่จะนำเงินไปลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ในต่างประเทศเพื่อหาโอกาสที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศ กองทุนประเภทนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้มาก เพราะนอกจากจะต้องรับความผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในต่างประเทศได้แล้ว ยังมีตัวแปร “อัตราแลกเปลี่ยน” ที่ต้องแบกรับด้วยเช่นกัน
- กองทุนรวมในสินทรัพย์ทางเลือก เป็นการเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ ที่จะเลือกลงทุน อาทิ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์, โครงสร้างพื้นฐาน และสินค้าโภคภัณฑ์ ถือเป็นประเภทกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากและนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนกองทุนรวมประเภทนี้ต้องศึกษาเงื่อนไขและนโยบายการลงทุนให้ดีก่อน
- กองทุนรวมเพื่อการหักลดหย่อนภาษี เป็นกองทุนที่มีเงื่อนไขกำหนดให้ลงทุนในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลได้ให้แต้มต่อจูงใจให้สามารถนำเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้ด้วย ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งกองทุนรวมทั้งสองประเภทนี้มีทั้งแบบจ่ายปันผลกลางทางและแบบไม่มีปันผล ส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนที่นักลงทุนต้องการหาสิทธิประโยชน์ในเรื่องการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก

     กองทุนรวมประเภทต่าง ๆ เหล่านี้เป็นแหล่งลงทุนที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลต่าง ๆ หรือไม่ต้องการลงทุนด้วยตนเองก็สามารถเลือกลงทุนแบบนี้ได้ ด้วยการติดต่อกับ บลจ.ต่าง ๆ เพื่อรับข้อมูลกองทุนไปศึกษานโยบายการลงทุน ก่อนนำเงินเข้าลงทุนต่อไป