ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รวมเคล็ดลับแก้อาการแพ้ท้อง สำหรับคุณแม่มือใหม่ จาก แอพคุยกับหมอ

คุณแม่ส่วนใหญ่มักมีอาการแพ้ท้องเป็นสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ในระยะแรก นอกจากนี้ยังพบว่าคุณแม่ท้องอ่อนบางส่วนรู้สึกคลื่นไส้วิงเวียนช่วง 4 เดือนแรก แต่ละคนมีอาการแพ้ท้องแตกต่างกัน บางรายมีอาการแพ้ท้องหนักมาก เมื่อปรึกษาแพทย์จะสั่งยาแก้แพ้ช่วยบรรเทาอาการในเบื้องต้น และ แอพคุยกับหมอ วันนี้เรามีข้อแนะนำสำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาวิธีบรรเทาอาการแพ้ท้องหนักจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มาดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
1.กินยาหรือวิตามินที่คุณหมอให้มาสำหรับอาการแพ้ท้อง
หากมีอาการแพ้ท้องมากในเกณฑ์ที่ต้องใช้ยาควบคุม แพทย์ที่ ฝากครรภ์ จะสั่งยาสำหรับบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนโดยเฉพาะ ซึ่งมีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ โดยระดับการใช้ยาต้องเป็นไปตามแพทย์สั่ง นอกจากยารักษาอาการแพ้ท้องตามที่แพทย์สั่งแล้ว ยังมีวิตามินลดอาการคลื่นไส้สำหรับคุณแม่ท้องอ่อนรายที่อาการแพ้ท้องไม่รุนแรงด้วย
2.จิบน้ำขิงระหว่างวัน
คุณแม่มือใหม่แพ้ท้องอ่อน ๆ แค่รู้สึกผะอืดผะอมและวิงเวียนศีรษะ ดื่มน้ำขิงแก้อาการคลื่นไส้ได้ผลดี จิบน้ำขิงอุ่น ๆ บ่อย ๆ ช่วยให้สดชื่นขึ้น ช่วยลดอาการบวมน้ำระหว่างตั้งครรภ์ ข้อสำคัญคือไม่เกิดผลข้างเคียงต่อทารก จึงเหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่สุด ขิงเป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ขับลมในท้อง บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และบำรุงเลือด นอกจากต้มน้ำขิงดื่มร้อน ๆ แล้ว แอพคนท้อง ยังแนะนำให้ทำเป็นอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น เมนูหมูผัดขิง ต้มซุปขิง เต้าฮวยน้ำขิง บัวลอยน้ำขิง และน้ำขิงมะนาว เพื่อช่วยบรรเทาอาการ และงดอาหารสำเร็จรูปที่มีผงชูรสมากซึ่งส่งผลให้คลื่นไส้อาเจียนและวิงเวียนมากขึ้น
3.พักผ่อนให้เพียงพอ
คนท้องต้องกินอิ่มนอนหลับบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ยิ่งมีอาการแพ้ท้องรุนแรงด้วยแล้ว จำเป็นต้องรับประทานอาหารและพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ไม่ให้ร่างกายอ่อนล้าจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และ พัฒนาการทารกในครรภ์
4.หลังกินข้าวไม่ควรนอนลงทันที
แอพสําหรับคนท้อง แนะนำว่า หลังกินข้าวอิ่มใหม่ ๆ คุณแม่ท้องอ่อนไม่ควรนอนเอนหลังลงไปทันทีเพราะมีความเสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อน ทางที่ดีควรนั่งรอ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง แล้วค่อยเอนหลังนอน ควรงดอาหารก่อนเข้านอนประมาณ 3-4 ชั่วโมง
5.ปรับเปลี่ยนวิธีการกิน กินอาหารที่ย่อยง่าย
ระหว่างตั้งครรภ์มักจะท้องอืดและท้องผูกง่ายกว่าปกติ ควรปรับพฤติกรรมการกินใหม่ เลือกอาหารย่อยง่ายและมีกากใยสูง งดเว้นอาหารบางชนิดและอาหารรสจัดที่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ แอพคุยกับหมอ แนะนำว่าควรงดผลไม้บางชนิดที่ย่อยยากอย่างมะม่วงดิบ ทุเรียน เพราะทำให้จุกเสียดแน่นท้อง ผลไม้หวานจัดเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ถั่วลิสงต้มทำให้ท้องอืด ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อลดปัญหาอาหารไม่ย่อยส่งผลให้จุกเสียดแน่นท้อง สำหรับแม่ท้องที่ชอบรับประทานอาหารรสเปรี้ยวและของหมักดองเพื่อลดอาการแพ้ท้อง หลังกินอาหารรสเปรี้ยวควรดื่มน้ำหรือบ้วนปากก่อน รอประมาณ 15-30 นาที จึงค่อยแปรงฟันเพื่อลดการทำลายชั้นเคลือบฟันให้สึกกร่อน
6.ดื่มน้ำอุ่นให้มากขึ้น
อาการแพ้ท้องอาเจียนมากทำให้ร่างกายขาดน้ำ คุณแม่ควรดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน เนื่องจากตอนเช้าท้องว่าง มักทำให้เวียนหัวคลื่นไส้อาเจียนได้ การดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำโดยเฉพาะหลังอาเจียน จะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเหล่าคุณแม่มีอาการแพ้ท้องหนักมาก จนหน้ามืดเป็นลมหมดเรี่ยวแรงบ่อย ๆ หรือบางรายที่มีอาการแพ้ท้องหนักมากและอาเจียนตลอดเวลาไปจนถึงใกล้คลอด ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วนเพื่อตรวจร่างกายและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีให้ถูกต้อง แนะนำสอบถามเรื่องที่สงสัยกับแพทย์และพยาบาลโดยตรงได้ใน แอป Alive Powered by AIA ซึ่งอาจมีข้อสงสัยว่า แอพ alive ดีไหม เป็นแอพสําหรับคนท้อง ที่มีข้อมูลน่าเชื่อถือจากแพทย์และพยาบาลที่เชี่ยวชาญ และเป็นช่องทางให้พูดคุยแชร์ประสบการณ์กับคุณแม่ท่านอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์