ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รู้ทันโรคริดสีดวง และวิธีป้องกันรักษา

การมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัย เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เช่นเดียวกับประโยคที่ว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” แต่การมีสุขภาพที่ดีได้เราต้องรู้ทันโรค เพื่อหาวิธีป้องกันและดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคเหล่านั้น ริดสีดวง หรือโรคริดสีดวงทวาร เป็นปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบขับถ่ายที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน การรู้ทันโรคทำให้สามารถดูแลและป้องกันตนเองได้ดีที่สุด

โรคริดสีดวง คืออะไร
ริดสีดวง เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากภาวะหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนัก หรือส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่ที่อยู่ติดกับทวารหนักเกิดอาการโป่งพอง มีลักษณะเป็นขอดหรือเป็นติ่งยื่นนูนออกมาจากทวารหนัก ที่เรียกว่า หัวริดสีดวง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ ริดสีดวงที่มองเห็นได้จากภายนอก และริดสีดวงภายในเกิดจากหลอดเลือดที่อยู่ลึกเข้าไป ริดสีดวงลักษณะนี้จะตรวจพบได้เมื่อใช้กล้องส่องตรวจโดยตรงเท่านั้น

สาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร
ริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่ไม่สามารถสรุปสาเหตุได้แน่ชัด ส่วนปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมาจากอาการหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักโป่งพองเป็นติ่งเนื้อและมีภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูง ซึ่งเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ส่งผลให้มีภาวะท้องผูกเรื้อรังทำให้ต้องเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นประจำ และส่งผลให้หลอดเลือดโป่งพองหรือหลอดเลือดขอดได้ง่าย
เกิดจากพฤติกรรมการขับถ่าย เช่น การเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน เนื่องจากเล่นโทรศัพท์มือถือหรืออ่านหนังสือขณะขับถ่าย
เกิดจากมีอาการท้องถูกและชอบใช้ยาสวนอุจจาระหรือทานยาระบายเป็นประจำ
เกิดจากภาวะตั้งครรภ์ เพราะเมื่อน้ำหนักครรภ์มากขึ้นจะกดทับลงบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดเกิดการบวมพอง
ริดสีดวงที่มีสาเหตุจากความอ้วน หรือการที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ เพราะอาจเกิดภาวะกดทับลงบนกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือดได้เช่นเดียวกับภาวะตั้งครรภ์
ผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรัง การไอแรง ๆ เพราะมีผลต่อการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง
ผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆที่เกี่ยวพันทางทวารหนัก
การยกของหนักบ่อย ๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
ริดสีดวง อาจพบร่วมกับโรคในช่องท้องอื่น ๆ ได้ เช่น เนื้องอกมดลูก เนื้องอกหรือถุงน้ำรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่
มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม โดยอาจพบว่าคนที่เป็นริดสีดวง มักมีคนในครอบครัวเป็นริดสีดวงทวารมาก่อน
ริดสีดวง

อาการของโรคริดสีดวงทวาร ที่ควรรู้
โรคริดสีดวงทวาร มีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ ริดสีดวงภายในและริดสีดวงภายนอก อาการของโรคจะแตกต่างกัน ดังนี้

อาการริดสีดวงภายใน
ริดสีดวงภายใน อาการที่ชัดเจนคือจะมีเลือดออกทางทวารหนักโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด เลือดที่ออกจะมีลักษณะสีแดงสดไหลหยดลงในโถส้วม หรืออาจสังเกตได้จากเลือดที่เปื้อนติดกระดาษชำระ และบางครั้งอาจปนมากับอุจจาระ อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ ถ้ามีเลือดออกมากหรือเป็นเรื้อรัง อาจทำให้เกิดอาการซีดตามมาได้ หากอาการเริ่มรุนแรงหรือเป็นมาก อาจมีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาบริเวณปากทวารหนัก หรือเห็นเป็นก้อนเนื้อนิ่ม ๆ ปลิ้นโผล่ออกมาและทำให้เกิดอาการปวดหรือเจ็บที่ทวารหนัก ในรายที่เป็นมากริดสีดวงอาจกลายเป็นก้อนแข็งเกิดภาวะเซลล์ตาย และอาจมีอาการคันและกลั้นอุจจาระไม่อยู่ได้
อาการริดสีดวงภายนอก
อาการของริดสีดวงภายนอก จะเห็นได้อย่างชัดเจน คือมีติ่งเนื้อออกมาจากปากทวารหนัก เมื่อมีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย จะทำให้มีอาการบวม ปวด และรู้สึกระคายเคือง ปกติอาการจะหายเจ็บได้ภายใน 2-3 วัน หรือหายแล้วจะยังมีผิวหนังเป็นติ่งเหลืออยู่ และหากหัวริดสีดวงมีขนาดใหญ่ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือคันบริเวณรอบปากทวารหนักได้ด้วย
การวินิจฉัยโรคของแพทย์
วินิจฉัยโรคจากการดูประวัติอาการ
การตรวจร่างกาย การตรวจก้อนเนื้อบริเวณทวารหนัก
การส่องกล้องตรวจทางทวารหนักและลำไส้โดยตรง
ในผู้ป่วยบางราย อาจมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยาด้วย
การรักษาโรคริดสีดวงทวาร
การรักษาแบบประคับประคอง ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้อาการริดสีดวงมีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ระวังป้องกันไม่ให้ท้องผูก หรือท้องเดินบ่อย ๆ ทานอาหารที่มีกากใย ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน ๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
การรักษาทางศัลยกรรม การรักษาด้วยวิธีนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการรักษาด้วยวิธีประคับประคอง
แล้วไม่ได้ผล และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา เช่น การฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวงทวาร การรักษาโดยวิธีใช้ยางรัด เพื่อทำให้หัวริดสีดวงยุบหรือฝ่อ หรือการผ่าตัดริดสีดวงทวา
วิธีป้องกันตนเองให้ห่างไกล ริดสีดวงทวาร
ดื่มน้ำหรือจิบน้ำบ่อย ๆ อย่างน้อยวันละ 6- 8 แก้ว และควรดื่มน้ำแก้วใหญ่ทันทีหลังตื่นนอน
ตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายเป็นการป้องกันอาการริดสีดวง ได้ดี
ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา ป้องกันปัญหาท้องผูกหรือนั่งขับถ่ายเป็นเวลานาน ๆ
หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายอย่างรุนแรง หรือการสวนถ่ายอุจจาระจนเป็นนิสัย
หลีกเลี่ยงความเครียด ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันโรคอ้วนที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคริดสีดวง

ขอบคุณบทความจาก https://aufarm.shop/hemorrhoids/

อ่านเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์  https://aufarm.shop/