เกี่ยวกับประกัน mrta ที่เราควรรู้

[มุทิตา แสนสุข]

สำหรับใครก็ตามที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านกับธนาคารในสถาบันการเงินต่างๆนั้นย่อมจะเจอกับคำว่า การทำประกันสินเชื่อบ้าน mrta ซึ่งหลายๆคนที่คอยศึกษาข้อมูลมาแล้วนั้นก็อาจจะไม่ค่อยมีปัญหาสักเท่าไหร่หากทางเจ้าหน้าที่ได้เสนอเงื่อนไขให้เราทำประกัน mrta หวยด้วยหากจะขอสินเชื่อซื้อบ้าน แต่ถ้าหากว่าใครเพิ่งเจอเจอกับ mrta เป็นครั้งแรกนั้นก็อาจจะต้องกลับมาพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียในการทำประกันสินเชื่อบ้าน mrta ชะแลงสำหรับวันนี้ใครก็ตามที่มีข้อมูลเกี่ยวกับประกันสินเชื่อบ้าน mrta น้อยนั้นเราก็มีคำตอบเกี่ยวกับประกัน mrta ที่เราควรรู้ก่อนที่จะไปคุยกับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อบ้านมาฝากเพื่อนๆทุกคนด้วย ถึงแล้วบอกไว้ก่อนเลยว่าประกัน mrta คือ ประกันที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนกับผู้ให้กูู้และผู้รับผลประโยชน์ของผู้กู้ ถ้าหากผู้ขอสินเชื่อบ้านเสียชีวิตหรือทุพพลภาพพสิ้นเชิงถาวรนั้นเอง คราวนี้เรามาดูข้อมูลที่เรานำมาฝากกันค่ะทุกคนกันบ้างดีกว่า
1.   สำหรับการทำประกัน mrta นั้นผู้ขอสินเชื่อมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่าเราจะทำหรือไม่ทำประกันก็ได้ และทางธนาคารมันก็ไม่มีสิทธิ์บังคับให้เราทำประกัน mrta เพราะทางธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นจะห้ามธนาคารพาณิชย์บังคับขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยควบคู่กับผลิตภัณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ไว้ด้วย
2.   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ขอสินเชื่อก็ควรที่จะพิจารณาถึงความเสี่ยงให้รอบคอบ เพราะถ้าหากว่าผู้ขอสินเชื่อไม่สามารถผ่อนบ้านต่อไปได้แล้วนั้น อย่างเช่น เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจนไม่สามารถทำงานหารายได้นั้น ภาวะหนี้สินก็จะตกอยู่กับลูก ดังนั้นแล้วเราควรที่จะดูด้วยว่าบ้านที่เราจะซื้อนั้นมีความชำนาญกับการอยู่อาศัยของสมาชิกครอบครัวเราหรือไม่และจำเป็นที่จะต้องให้การผ่อนบ้านหลังนี้เสร็จสิ้นจนจบหรือไม่แม้เราได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งถ้าหากว่ามันจำเป็นกับการอยู่อาศัยของสมาชิกครอบครัวเราแม้ว่าตัวของผู้ขอสินเชื่อจะเสียชีวิตนั้น การที่ผู้ขอสินเชื่อเรื่องทำประกัน mrta ด้วยก็จะเกิดประโยชน์กับครอบครัวมากกว่านั้นเอง
3.   หากเลือกทำประกันสินเชื่อ mrta ด้วยนั้นก็ควรที่จะเลือกระยะเวลาความคุ้มครองให้เหมาะสมด้วย โดยเราอาจจะต้องดูด้วยว่ามันเก็บที่เรามีเงินสามารถนำมาใช้ผ่อนบ้านในระยะเวลาเท่าใดและครอบครัวสามารถผ่อนบ้านได้แทนตัวเรามากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าหากว่าครอบครัวเราสามารถที่จะผ่อนบ้านต่อจากเราได้นั้นเราก็อาจจะเลือกความคุ้มครองวงเงินกู้เพียงแค่บางส่วนและไม่จำเป็นต้องทำประกันเต็มระยะเวลาที่เรากู้ขอสินเชื่อก็ได้
4.   สำหรับผู้ขอสินเชื่อท่านใดที่มีประกันชีวิตอยู่แล้วและก็อาจจำเป็นที่จะต้องพิจารณาทุนประกันชีวิตของเราด้วยว่าเพียงพอที่จะใช้ในการปิดบ้านที่เราขอสินเชื่อไว้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากว่าทุนประกันชีวิตของเราเพียงพอที่จะติดสินเชื่อบ้านที่เราได้ทำการกู้นั้นเราก็อาจจะไม่ต้องทำประกัน mrta แต่จะมีข้อแตกต่างคือ ประกันชีวิตทั่วไปนั้นผู้รับประโยชน์นั้นไม่ใช่ธนาคารโดยตรง แต่คือบุคคลที่ผู้ทำประกันระบุไว้ในกรมธรรม์ ฉะนั้นอาจจะเกิดการแบ่งผลประโยชน์ขัดแย้งจนต้องแบกรับภาระผ่อนชำระหนี้บ้าน ขณะที่ประกันสินเชื่อ MRTA นั้นผู้รับผลประโยชน์คือ ธนาคารโดยตรงทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเงินประกันจะถูกนำมาชำระหนี้บ้านก่อน