ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - โทนี่ วู๊ดดี้

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 13
1


ในปัจจุบัน การเข้าถึงการรักษาพยาบาลสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ ๆไม่เคยง่ายเพียงนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอกับปัญหาฉุกเฉินในกลางดึก หรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยงในเวลาที่สะดวกสบาย "Pet Pob Pad" มีบริการ สัตวแพทย์ ออนไลน์ และ หมอสัตว์ ออนไลน์ ที่พร้อมให้บริการคุณ ๆได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สัตวแพทย์ ออนไลน์ ผ่าน "Pet Pob Pad" ถูกออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเข้าถึงการรักษาและคำปรึกษาได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย คุณสามารถเลือกสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญตามชนิดของสัตว์หรืออาการป่วยที่พบเจอได้ทันที พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบคะแนนรีวิวจากผู้ใช้งานรายอื่นเพื่อช่วยในการตัดสินใจ

ไม่ว่าท่านจะต้องการแชทกับ หมอสัตว์ ออนไลน์ เพื่อถามคำถามเบื้องต้น หรือเลือกใช้บริการวิดีโอคอลเพื่อให้สัตวแพทย์ตรวจสอบอาการแบบสดๆ "Pet Pob Pad" ก็มีบริการที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการติดต่อที่คุณต้องการ ทั้งนี้ยังเปิดให้บริการ หมอสัตว์ 24 ช.ม. จึงไม่ต้องกังวลเมื่อต้องพบเจอกับเหตุการณ์ฉุกเฉินในช่วงเวลาที่ไม่คาดคิด

นอกจากนี้ "Pet Pob Pad" ยังเป็นชุมชนสำหรับคนรักสัตว์ที่เต็มไปด้วยสาระความรู้และบทความที่มีประโยชน์ เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ร่วมกับผู้อื่นได้ผ่านฟอรั่มที่หลากหลาย พร้อมรับข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ ๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนคนรักสัตว์กับเรา พร้อมรับการดูแลที่ดีที่สุดจาก หมอสัตว์ ออนไลน์ ที่คุณวางใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับ "Pet Pob Pad"!

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.petpobpad.com และเตรียมพบกับแอปพลิเคชันของเราเร็วๆ นี้ รองรับทั้ง iOS และ Android เพื่อให้การดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณ ๆเป็นเรื่องที่และสะดวกสบายยิ่งขึ้น

Webstie : https://www.petpobpad.com
E-Mail : info@petpobpad.com
Mobile : 082-489-2251

2


ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า - ฝาบน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเลือกหาแบรนด์ไหนรุ่นไหนดี เราไม่รอช้าที่จะรวบรวมมาให้คุณเลือกสรรตามใจ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่การันตีความสมบูรณ์แบบ เลือกซื้อเลือกหาใช้งานได้เหมาะสม ได้เสื้อผ้าซักสะอาด แถมประหยัดพลังงานไปอีก ซึ่งหากท่านไหนอยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเราก็มีมาแนะนำอย่างละเอียด
4 เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า - ฝาบน รุ่นใหม่ล่าสุดที่ควรซื้อใช้งาน
1. แบรนด์ SAMSUNG รุ่น WA12CG5441BYST 12 กิโลกรัม อินเวอร์เตอร์
เครื่องแรกที่อยากนำเสนอมาก ๆ ก็ต้องเครื่องซักผ้าฝาบน SAMSUNG WA12CG5441BYST 12 กก. อินเวอร์เตอร์ โดยที่มี Eco Bubble พร้อมเปลี่ยนน้ำยาซักผ้าให้กลายเป็นฟอง ทำให้การซักทำความสะอาดมีความทรงพลังและประสิทธิภาพสูง โดยที่มีระบบทำงานไร้เสียงรบกวนอย่าง Digital inverter ทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้า มีระบบ Deep Softener เพิ่มประสิทธิภาพน้ำยาปรับผ้านุ่ม ผ้าหอมยาวนาน โดยที่มีราคาจำหน่ายเครื่องละ 14,990 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 7,890 บาท
2.  แบรนด์ TOSHIBA รุ่น TW-T21BU105UWT(MG) 9.5 กก. 1200RPM อินเวอร์เตอร์
ต่อมาเป็นแบรนด์ TOSHIBA รุ่น TW-T21BU105UWT(MG) 9.5 กิโลกรัม 1200RPM อินเวอร์เตอร์ ที่ทำงานเงียบมาก ประหยัดไฟมาก ๆ ประสิทธิภาพการซักผ้ามีสูง โดยที่มี Great Steam เป็นโปรแกรมฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำ ที่ลดการสะสมของแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ผ้าสะอาดมากขึ้น ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของผงซักฟอกได้ดี ทำให้การขจัดคราบฝังลึกดีมากยิ่งขึ้น ราคาจัดจำหน่ายที่ 13,990 บาท เลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 13,490 บาทเท่านั้น
3. แบรนด์ LG รุ่น FV1411H2BA 11/7 กิโลกรัม 1400RPM อินเวอร์เตอร์
เครื่องซักผ้าฝาหน้าอีกรุ่น โดยที่เป็นของ LG เน้นระบบซักถนอมผ้าอัจฉริยะ ที่ทำการตรวจสอบชนิดผ้าและทำการเลือกการหมุนถังได้เหมาะสมกับผ้ามากที่สุด ซึ่งก็ยังมี Auto Dosing ระบบจ่ายน้ำยาซักและน้ำยาปรับที่เป็นรูปแบบอัตโนมัติ สะดวก ประหยัดเวลาสุด รวมทั้งมีระบบการซัก 6 Motion Hand Wash ที่ทำให้การซักสะอาดหมดจด ราคาจำหน่าย 37,900 บาท สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 24,300 บาท
4. แบรนด์ ELECTROLUX รุ่น EWF9024P5WB 9 กิโลกรัม อินเวอร์เตอร์
และยี่ห้อสุดท้ายที่อยากแนะนำก็ต้องนี่เลย ELECTROLUX EWF9024P5WB 9 กก. อินเวอร์เตอร์ ที่มีเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ใหม่ที่ประสิทธิภาพการซักและพลังงานประหยัดมาก ทั้งยังมีรอบการปั่นหมาดสูงสุด 1200 รอบ/นาที (ตั้งแต่ 400, 600, 800, 1,000, 1,200) ซึ่งก็ยังมีเทคโนโลยีประหยัดเวลาการซัก ประหยัดพลังงาน ถนอมสีผ้าให้สดใส อย่าง UltraMix ที่มีราคา 25,990 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลด 34% เหลือเพียง 17,990 บาท

และทั้งหมดก็เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า - ฝาบนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เรารวบรวมมาให้คุณ ๆได้เลือกซื้อตามต้องการ ตอบโจทย์การซักผ้าที่ประหยัดพลังงาน และยังได้ผ้าสะอาดหอมยวนใจใช้งานอย่างมีความสุข ก็หวังว่าจะทำให้ท่านตัดสินใจซื้อง่ายมากยิ่งขึ้น

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP13

3


เมื่อกล่าวถึงเครื่องอบผ้าแล้วนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีให้เลือกใช้หลายแบรนด์ หลายรุ่น และหลากหลายราคามาก กระนั้นเผื่อว่าบางคนอยากจะซื้อเครื่องอบผ้าเครื่องละไม่เกิน 20,000 บาทแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อเครื่องไหน รุ่นไหนดี เราไม่รอช้าที่จะมีมาแนะนำอย่างหมดเปลือก รับรองว่าแม้จะราคาไม่เกิน 20,000 บาทแต่ประสิทธิภาพเกินคุ้มแน่นอน
4 เครื่องอบผ้าราคาไม่เกิน 20,000 บาท แต่ประสิทธิภาพเกินคุ้ม
1. PANASONIC NH-E70JA1WTH 7 กิโลกรัม
PANASONIC NH-E70JA1WTH 7 กก. สามารถทำความร้อนได้ต่อเนื่อง มีโปรแกรมลดรอยยับ Easy Iron ที่ช่วยเรื่องการรีดผ้า ประหยัดเวลาสุด ๆ โดยยังเพิ่มฟังก์ชันที่ครบครันกับการอบที่หลากหลาย มีอุณหภูมิสูงเพื่อทำลายแบคทีเรียได้มากถึง 99.9% เลยทีเดียว โดยที่แบรนด์นี้รุ่นนี้จะมีราคาขายที่ 12,990 บาท เมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์ และยังติดตั้งให้ฟรีอีกด้วย
2. WHIRLPOOL AWD712S TH 7 กก.+ขาตั้ง
ตู้อบผ้า WHIRLPOOL AWD712S TH 7 กก.+ขาตั้ง มีเทคโนโลยีแบบ 6th Sense ที่ตรวจวัดความชื้นเพื่อทำให้การทำงานของเครื่องมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบการแห้ง ถนอมของใยผ้าแบบอัจฉริยะ มีความสามารถในปรับตั้งรอบปั่นได้ มี 15 โปรแกรมที่รองรับความต้องการของการอบผ้าทุก ๆ ชนิด มีระบบการลดรอยยับของผ้าด้วย การหมุนสลับของถังเป็นจังหวะ ลดรอยยับที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทำการอบสำเร็จ โดยที่มีราคาลดทันทีเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์เหลือ 16,900 บาท
3. BEKO DA9112RXOW 9 กก.
อีกยี่ห้อที่ไม่ควรพลาด ก็ต้อง BEKO DA9112RXOW 9 กิโลกรัม โดยที่มี 15 โปรแกรมการอบผ้า เลือกการใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยที่ถังซักเป็นแบบ AquaWave ที่ทำให้เสื้อผ้าเคลื่อนไหวในถังแบบคลื่น สัมผัสเนื้อผ้าเบาลงเป็นการถนอมเนื้อผ้าในทุก ๆ ตัวที่ซัก โดยที่ยังมีโปรแกรมอบผ้าเพื่อสุขอนามัย ป้องกัน กำจัดสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนังเด็กที่บอบบาง อย่าง Hygiene (BabyProtect+) เครื่องอบผ้า ราคาอยู่ที่ 13,490 บาท เป็นราคาลดทันที 25% เมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์
4. TOSHIBA TD-H80SET 7 กก.
ปิดท้ายยี่ห้อและรุ่นที่เราอยากนำเสนอกับ TOSHIBA TD-H80SET 7 กก. มีระบบเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น ที่เหมาะกับการอบผ้า โดยที่คงสภาพให้เนื้อผ้าสวยงาม มี Anti – Crease ที่ตัวถังสามารถหมุนแบบวนเข็ม และตามเข็มนาฬิกาได้หมด ช่วยให้เนื้อผ้าไม่เกิดรอยยับ หรือยับน้อยที่สุด ลดปัญหาผ้าพันกันเมื่อใช้งานอบผ้า โดยที่มีราคาเครื่อง 12,990 บาท แต่หากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลด 15% เหลือเพียงแค่ 10,990 บาทเท่านั้น

ปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่าเครื่องอบผ้ากลายเป็นอีกไอเท็มที่หลายบ้านเลือกมีไว้ใช้งาน แต่กระนั้นในแง่ของราคาก็มีหลากหลาย และหากท่านใดอยากได้ไม่เกิน 20,000 บาทเราก็หวังว่าทั้ง 4 ยี่ห้อ 4 รุ่นนี้จะมาทำให้การตัดสินใจสั่งซื้อใช้งานของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น แน่ใจได้ว่าคุณภาพ ประสิทธิภาพเกินราคาแน่นอน

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1302

4


หากว่าใครที่มีความต้องการอยากจะเปลี่ยนเครื่องซักอบผ้าแต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่อาจจะยังไม่เพียงพอในการซื้อทันที ยังขาดอยู่ ห้ามพลาดที่จะศึกษารายละเอียดต่อไปนี้ เหตุเพราะเรารวบรวมมาให้คุณ ๆได้ลองเลือกเอาเครื่องเก่าไปแลกเครื่องใหม่ เมื่อเลือกซื้อเลือกหาผ่านเว็บออนไลน์โฮมโปร ลองมาดูว่าจะมีแบรนด์ไหนที่แลกเครื่องเก่าใหม่ได้
เครื่องซักอบผ้าเก่าแลกใหม่ สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ออนไลน์โฮมโปร
1. TCL WT11EPWDG
เป็นรุ่นมอเตอร์อัจฉริยะที่ทำงานเงียบมาก สม่ำเสมอ พร้อมช่วยประหยัดพลังงานได้ดี โดยที่มี Air Fresh เป่าผ้าแห้งได้ด้วยลมร้อน ช่วยลดรอยยับและกลิ่นอับต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างดีที่สุด มีฟังก์ชันการซักด้วยไอน้ำ ที่ไม่ทำให้เชื้อโรค แบคทีเรีย และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้สะสมได้ ซึ่งปกติก็จะมีราคาจำหน่าย 17,990 บาท และสั่งซื้อผ่านออนไลน์ที่โฮมโปรก็ลด 16% เหลือเพียงแค่ 14,990 บาทถือว่าคุ้มค่ามาก
2. SAMSUNG WD10T734DBX/ST
ต่อมาก็คือเครื่องซักผ้าอบผ้ายี่ห้อนี้ ที่มีการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพคราบเกาะติดฝังลึกแบบฟังก์ชัน Bubble Soak โดยที่ระบบซักผ้าอัจฉริยะ AI Control ที่จดจำการซัก และยังมีแนะนำแต่ละโปรแกรมการซักให้ด้วย มาพร้อมเทคโนโลยี Eco Bubble ที่เปลี่ยนน้ำยาซักเป็นฟอง ทำให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพ ขจัดสิ่งสกปรกได้ดี โดยมีราคาลดลงเมื่อสั่งซื้อผ่านเว็บที่ 23,990 บาท (จาก 38,990 บาท)
3. HAIER HWD100-BP14959S8
เป็นเครื่องซักถังขนาดใหญ่ที่จุได้เยอะมาก ๆ แต่ก็ช่วยลดรอยยับได้เป็นอย่างดี เพิ่มประสิทธิภาพการซักได้มากกว่า 50% โดยที่มีมอเตอร์ BLDC Inverter Motor ทำงานได้เงียบพร้อมประหยัดพลังงานได้ดี ทำให้การใช้งานยาวนาน  ตัวถังเชื่อมด้วยเลเซอร์ ที่ความแข็งแรงมีสูงมากกว่าถังซักแบบปั๊มกว่า 3 เท่า ไม่มีตะเข็บรอย ทำให้การถนอมผ้าเป็นไปในทิศทางที่ดี และแน่นอนสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลด 4% จาก 22,690 บาท เหลือเพียงแค่ 21,690 บาท
4. SHARP ES-DK1054PT-S
สุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงเป็นเครื่องซักผ้าอบแห้งแบรนด์นี้ ที่เป็นถังฝาหน้า ความจุ 10.5 กิโลกรัม ซึ่งก็ถือว่าสูงมาก ความเร็วรอบปั่นหมาด ๆ สูงสุดต่อนาทีได้ 1400 รอบ มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการขจัดกลิ่นได้ดี เชื่อแบคทีเรีย สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่าง ๆ ความสามารถอบแห้งมีความจุมากถึง 7 กิโลกรัม เลยด้วย โดยที่มีราคาขายเครื่องละ 37,990 บาท และหากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 33,990 บาท

ทันทีที่ท่านสั่งซื้อเครื่องซักอบผ้าผ่านเว็บไซต์ออนไลน์โฮมโปรทุกเครื่องที่เราแนะนำจะมีโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่โดยสามารถนำเครื่องเก่ามาแลกได้และรับส่วนลดพิเศษ 1,000 บาท โดยที่ต้องเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน และต้องพร้อมยก ไม่มีมารื้อ ถอด ถอน หรือเก็บหน้างานใด ๆ ทั้งสิ้น โดยมีเงื่อนไขอื่น ๆ ให้ต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1301

5


เพียงคุณเลือกซื้อเลือกหาเครื่องซักผ้าฝาหน้า LG F2515STGV.AESPETH 15 กก. ที่มีความน่าสนใจด้วยฟังก์ชันที่มีให้คุณตอบสนองทุกสไตล์การซัก ที่สำคัญเมื่อซื้อผ่านออนไลน์ก็ยังได้ในราคาที่ถูกกว่าไปอีก แต่กระนั้นหากท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อการตัดสินใจสั่งซื้อเราไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เลย
เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG F2515STGV.AESPETH 15 กก. ฟีเจอร์ยอดเยี่ยม
นอกจากเครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux ก็มี LG F2515STGV.AESPETH 15 กิโลกรัม นี่แหละที่ค่อนข้างน่าสนใจอย่างมาก ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีให้ท่านได้สัมผัสความคุ้มค่าการใช้งานอย่างยอดเยี่ยม ยกระดับให้การซักผ้ากลายเป็นเรื่องง่าย พร้อมถนอมเนื้อผ้าให้ได้ใช้งานอย่างดี ซึ่งคุณก็จะได้รับการซักที่ทำให้ผ้าสะอาดมากยิ่งขึ้น รวดเร็ว ทันใจ มาพร้อมโปรแกรมทำงานที่มีให้เลือก 14 โปรแกรม ทำงานได้ชาญฉลาด และเต็มไปด้วยความปลอดภัยที่มีต่อผู้ใช้งาน คราบสกปรกต่าง ๆ ขจัดได้จริง ทำงานเงียบ ทนทาน ผ้าสะอาดเหมือนใหม่
-    ระบบ AI DDTM ที่ช่วยถนอมผ้าให้อัจฉริยะ เครื่องทำการเลือกรูปแบบการหมุนของถังที่เหมาะกับการซักได้ดี
-    ระบบการซักเป็นแบบ 6 Motion Hand Wash ที่ถังเคลื่อนที่เป็นรูปแบบ 6 ทิศทาง สะอาดเหมือนใหม่ราวกับซักมือ
-    Steam มีส่วนช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ 99.9% อย่างฝุ่นขนาดเล็กในใยผ้า ไรฝุ่น เป็นตัวการที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้นั่นเอง
-    Inverter Direct Drive มีแรงสั่นสะเทือนน้อยมาก ทนทาน และก็เงียบด้วย ไม่เกิดการรบกวนในขณะใช้งาน
-    มีประตูกระจกนิรภัยที่เพิ่มความทนทาน พร้อมทำให้ถังมีความสะอาดซักทำงานได้ดีด้วยตัวถังสเตนเลส
-    มีแอปพลิเคชัน ThinQ ที่ช่วยให้การสั่งงานเป็นเรื่องง่ายดาย อยากสั่งครั้งไหนก็สั่งได้ทุกเวลา ตรวจสอบอัตราการใช้พลังงานได้ด้วย
-    มีการรับประกันสินค้ามอเตอร์ 10 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังกับเครื่องซัก LG
สำหรับการใช้งานเครื่องซักผ้าฝาหน้า LG แบรนด์นี้ก็จะใช้เพื่อซักทำความสะอาดเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย โดยที่ควรมีการทำความเข้าใจข้อมูล และวิธีการใช้งานให้ละเอียด โดยที่ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือนำไปใช้งานผิดประเภท ห้ามดึงปลั๊กออกในขณะที่มือของคุณกำลังเปียกด้วยเหตุว่าอาจถูกไฟฟ้าดูดได้ ห้ามสัมผัสสารเคมีที่ออกฤทธิ์กรด ด่าง ติดตั้งสายดินเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเสมอ โดยเครื่องนี้ก็จะมีราคา 41,900 บาท แต่หากสั่งผ่านออนไลน์อย่างที่บอกก็จะลดราคาถูกลงเยอะมาก คือ 30% พิเศษลดเหลือเพียง 29,200 บาทเท่านั้น และเป็นราคาที่มีแค่ในออนไลน์เท่านั้นด้วย

เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG F2515STGV.AESPETH 15 กก. ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างยิ่ง และยิ่งหาซื้อผ่านออนไลน์ก็จะยิ่งลดราคาลงไปถูกกว่าเดิมไปอีก รับรองว่าซื้อมาใช้งานแล้วคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน หวังว่าจะตัดสินใจซื้อกันได้แล้วนะ..

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1303

6


เครื่องซักผ้าฝาบนนับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายท่านเริ่มเลือกใช้งานมากยิ่งขึ้น ทว่าอาจจะมีบางท่านที่ยังไม่แน่ใจอยากรู้ถึงจุดเด่นที่มี รวมถึง Tips ในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับสมาชิกในบ้าน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด เราไม่รอช้าที่จะรวบรวมมาเล่าสู่กันฟัง ลองไปศึกษาดูได้เชื่อว่าจะทำให้การตัดสินใจซื้อง่ายมากยิ่งขึ้นแน่นอน
เปิดจุดเด่นของเครื่องซักผ้าฝาบน ที่ก่อนผู้ใช้งานจะเลือกซื้อต้องทราบ
ที่จริง ต้องบอกก่อนว่าเครื่องซักผ้านั้นมีทั้งฝาบนด้วย และฝาหน้าด้วย ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ หลายรุ่นมาก เช่น เครื่องซักผ้าฝาบน LG, Panasonic, TOSHIBA, SAMSUNG ฯลฯ แต่กระนั้นปัจจุบันเชื่อว่าแบบฝาบนกำลังเป็นที่นิยมเลยทีเดียว แน่นอนว่ามีจุดเด่นให้เราได้สัมผัสมากมาย เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องทราบก่อนที่จะเลือกซื้อเลือกหา
-    เครื่องแบบฝาบนมีราคาที่ไม่แพง และเหมาะมาก ๆกับผู้ซื้อที่มีงบน้อย
-    มีความจุในการซักได้เยอะมาก ตอบโจทย์กับบ้านใหญ่ สมาชิกเยอะ มีปริมาณผ้าซักมาก
-    เวลาในการทำงานค่อนข้างสั้น ไม่นานก็สามารถซักได้เสร็จสมบูรณ์
-    มีฟีเจอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือกในเครื่องเดียว มีการปั่นหมาดแห้งเร็วด้วย
-    การใช้งานกินพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าแบบฝาหน้า เพราะเราสามารถเปิดได้เลยด้านบน ไม่ต้องเหลือที่ด้านข้างไว้

Tips การเลือกใช้งานเครื่องซักฝาบนให้เหมาะกับสมาชิกในบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อเลือกหาเครื่องซักผ้าฝาบน Samsung, LG, Panasonic, TOSHIBA ฯลฯ ใด ๆ แล้วก็สามารถใช้ Tips การเลือกใช้งานเครื่องซักฝาบนเหล่านี้ให้เหมาะกับสมาชิกในบ้านได้ทั้งสิ้น เพื่อให้ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งการเลือกอยากให้เลือกซื้อวัดจากจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ภายในบ้าน ปริมาณของผ้าที่ต้องการซัก ไปจนถึงการใช้งานว่าใช้มากน้อยแค่ไหนใน 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าเป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่สิ้นเปลืองไฟไม่เปลืองน้ำมากเกินโดยใช่เหตุ ซึ่งจะเน้นที่ความจุเครื่องกับจำนวนสมาชิกได้ แบ่งออกเป็น จำนวนสมาชิก 2 – 3 คน แนะนำใช้ถังซักความจุ 6 – 8 กิโลกรัม จำนวนสมาชิก 4 – 5 คน แนะนำใช้ถังความจุ 8 – 11 กิโลกรัม และจำนวนสมาชิกมากกว่า 6 คน แนะนำใช้ความจุที่มากกว่า 11 กก.

ซึ่งการใช้งานเครื่องซักผ้าฝาบนก็จะต่างจากเครื่องฝาหน้าอยู่พอสมควร โดยที่เครื่องแบบฝาหน้าก็จะเปลืองพื้นที่มากกว่า ซึ่งต้องมีการติดตั้งโดยใช้พื้นที่ ทั้งเครื่องฝาหน้าก็ยังมีความจุน้อยกว่า ไม่เหมาะในปริมาณที่มีมาก ๆ ฟังก์ชันปั่นหมาดก็จะเสียงดังมากกว่าปกติ ทั้งยังใช้บริการในการซักตั้งแต่ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เลยด้วย หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณ ๆเลือกซื้อเลือกหาได้อย่างสบายใจ

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1305

7


ปัจจุบันเครื่องซักผ้ามีทั้งถังเดียว และ 2 ถัง แน่นอนว่าเครื่องซักผ้านี้อาจจะทำให้พ่อบ้านแม่บ้านเกิดความสงสัยว่าจะเลือกซื้ออย่างไร ชนิดไหนดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องซักผ้า 2 ถังแบบฝาบนที่ดูจะได้รับความนิยมมากกว่า แน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะรวบรวมมาแนะนำกับ 4 เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ เพราะเมื่อเข้าใจก็ทำให้การเลือกซื้อเลือกหาง่ายมากยิ่งขึ้น ว่าแล้วก็ตามเรามาทางนี้โดยด่วน
4 เรื่องของเครื่องซักผ้า 2 ถังแบบฝาบน ที่ต้องทำความเข้าใจ
1. ขนาดของเครื่องใหญ่ ต้องใช้พื้นที่วาง
เรื่องของเครื่องมีความใหญ่อยู่ไม่น้อยสำหรับเครื่องซักแบบ 2 ถังนี้ เนื่องด้วยเป็นเครื่องที่มีทั้งระบบปฏิบัติการกึ่งอัตโนมัติ และแยกส่วนระหว่างถังซักกับถังปั่นหมาด ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการวางอยู่พอสมควรด้วยขนาดของเครื่องนั่นเอง กระนั้นก็จะไม่ได้กว้างมากเพราะว่าเวลาเปิด – ปิดใช้งานจะทำจากทางด้านบนก็ไม่ต้องเว้นที่เผื่อเวลาเปิด – ปิดฝาเครื่องเหมือนฝาหน้านั่นเอง
2. เหมาะกับคนที่มีเวลาการซัก
สำหรับหลักการใช้งานของเครื่องซักแบบฝาบนนั้นหลัก ๆ ก็จะต้องเปิดน้ำใส่ถังเอง ใส่ผงซักฟอกเอง รวมถึงน้ำยาปรับผ้าก็ต้องใส่เองด้วย พร้อมกับตั้งเวลาในการซักเองไปอีก ดังนั้นจึงค่อนข้างใช้เวลาที่จะรอปั่น รอเปิดน้ำ รอใส่ผงซักฟอก รวมถึงตั้งเวลาในการซัก จึงจะเหมาะกับคนที่สามารถเฝ้าเครื่องได้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการซักจนกว่าจะเสร็จพอสมควร
3. ความเหมาะสมในการใช้งานของเครื่องซัก 2 ถัง
สำหรับเครื่องซักแบบ 2 ถังนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีจำนวนผ้าซักเยอะ ๆ อยากได้ความรวดเร็วในการซัก แม้ว่าจะเป็นเครื่องแบบกึ่งอัตโนมัติก็ตาม แต่รอบการหมุนมีความเร็ว แรง ซักผ้าได้ความสะอาดแบบหมดจด แต่อย่างที่บอกก็ต้องรู้ข้อจำกัดในการซักที่ต้องรอใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือย้ายมาถังปั่นหมาดด้วยตัวเอง
4. ราคาย่อมเยาแม้จะมี 2 ถัง
สุดท้ายก็คือเรื่องของสนนราคา แน่นอนว่าแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นก็จะต่างกันออกไป โดยที่ท่านสามารถลองเปรียบเทียบหลาย ๆ แบรนด์ หลาย ๆ รุ่นก่อนได้ โดยราคา เครื่องซักผ้า 2 ถังก็จะมีตั้งแต่หลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นต้น ๆ ซึ่งนับว่าก็ไม่ได้แพงมากเท่าไหร่ เข้าถึงผู้ใช้งานทุกระดับแน่นอน ระบบการทำงานของเครื่องซักผ้า 2 ถังก็จะเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกสุด ๆ โดยที่ทำให้การทำงานยืดหยุ่นสูง มีการตัดหรือหยุดทำงานเองแต่ก็ต้องมีเวลาในการซักเนื่องมาจากต้องใส่ผงซักฟอก น้ำยาปรับ หรือเปลี่ยนย้ายเสื้อผ้าไปถังปั่นหมาดเอง แต่ทว่าราคาก็ค่อนข้างถูกจับต้องได้ ประสิทธิภาพสูงด้วยเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1306

8


เชื่อเหลือเกินว่ามีหลายท่านที่ต้องการติดตั้งกันสาดแต่ก็ยังมีความลังเลทั้งนี้เพราะมีให้เลือกหลายชนิดมาก หนึ่งในนั้นคือแบบเมทัลขีทที่ยอมรับว่าได้รับความนิยมไม่น้อย ดังนั้นเพื่อให้ท่านมีความมั่นใจมากขึ้นเรามีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนี้มาแนะนำ พร้อมบอกจุดที่เหมาะสมกับการติดตั้งใช้งานมากที่สุดให้ด้วย ไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย
กันสาดแบบเมทัลชีท จุดเด่น - จุดด้อยที่ควรทำความเข้าใจ
กันสาดเมทัลชีท หรือ Metal Sheet เป็นหลังคาที่ใช้แผ่นเหล็กอะลูมิเนียมและสังกะสีผลิตออกมา ซึ่งก็จะนำมารีดลอนเป็นแผ่นให้กับเราได้นำไปติดตั้งต่อไป จะเหมาะสมกับการใช้งานที่อยู่ได้ทั้งภายในและภายในนอกอาคารบ้านเรือน มักได้รับความนิยมนำมาใช้เป็นแผ่นหลังคา ติดตั้งได้ง่ายๆ สะดวก รวดเร็ว มีเกรดของหลังคาให้เลือกหลากหลาย งบมากงบน้อยมีตอบสนองท่านด้วยแบรนด์ รุ่นที่มีให้เลือกตามต้องการ
จุดเด่นคือมีความทนทาน แข็งแรง รั่วซึมยาก หาซื้อได้ง่ายๆ น้ำหนักเบา ติดตั้งได้สะดวกสบายสุด ไม่เสียเวลามาก แต่ก็มีข้อด้อยอยู่ด้วยคือเมื่อเกิดฝนตก หรือต้องรดน้ำบนหลังคาก็จะเกิดเสียงกระทบตัวแผ่นเมทัลชีท อาจรบกวนหรือสร้างความรำคาญให้ได้เหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพของหลังคาก็ถือได้ว่าไม่ได้แย่อะไร

จุดที่เหมาะสมกับการติดตั้งใช้งานหลังคา Metal Sheet
1. เหนือประตูหน้าต่าง
ถือเป็นจุดที่เหมาะสมมาก ๆ คือบริเวณเหนือประตูหน้าบ้าน หน้าต่าง ที่เป็นพื้นที่รอรับแสงสว่าง ความร้อน  รวมทั้งเรื่องของอาจสาดเข้ามาได้ จึงเป็นทางเลือกในการติดตั้ง เพื่อลดความชื้นที่จะสะสมอยู่ที่วงกบขอบหน้าต่าง ประตู ที่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีโอกาสทำให้เกิดปัญหารั่วซึม รวมไปถึงยังช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านด้วย ซึ่งนอกจากหลังคากันสาด Metal Sheet จริง ๆ ก็ยังมีประเภทอื่นที่ใช้งานได้ อย่างเช่น อะคริลิก, ไวนิล, โพลีคาร์บอเนต, ไฟเบอร์กลาส เป็นต้น
2. โรงจอดรถ
เป็นอีกพื้นที่ที่นิยมติดตั้งหลังคาประเภทนี้ต่อเติมได้ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์เฮ้าส์ นิยมใช้เพื่อยื่นออกมาจากตัวบ้าน สร้างเสารับน้ำหนัก โดยที่จะช่วยปกป้องรถให้ถูกแสงแดดน้อยลง พร้อมช่วยไม่ให้มีฝนสาดเข้ามาด้วย หรือจะเลือกสร้างเป็นแบบ 4 เสาก็ช่วยรับน้ำหนักได้ดี ให้แยกออกจากตัวบ้าน เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มีความสวยงามลงตัว ซึ่งนอกจากเมทัลชีทก็ยังใช้ประเภทอื่นด้วยได้ อาทิเช่น กระเบื้องลอนคู่, ไวนิล, อะคริลิก, โพลีคาร์บอเนต, ไฟเบอร์กลาส

เมื่อทราบแบบนี้แล้วก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆที่กำลังมองหากันสาดชนิดเมทัลชีทจะเข้าใจถึงความสามารถในการใช้งาน จุดเด่น – จุดด้อย ไปจนถึงความเหมาะสมในการติดตั้งที่แต่ละพื้นที่ก็จะมีความแตกต่างกัน ทำให้การใช้งานราบรื่น ยืนยาวมากขึ้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0802

9


รถตัดหญ้ายี่ห้อไหนดี? เชื่ออย่างยิ่งว่านี่คงเป็นอีกคำถามที่ต้องการคำตอบของใครหลาย ๆ คนที่กำลังมองหารถตัดหญ้ามาใช้งาน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายมาก ๆ ทั้งเดินตาม ทั้งรถเข็น ฯลฯ วันนี้เราจึงได้รวบรวมมาให้ 4 ยี่ห้อด้วยกัน เพื่อให้ท่านได้เลือกสรรตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
4 แบรนด์รถตัดหญ้า ที่รับรองว่าดีจริง ตอบโจทย์การใช้งาน
1. MATALL 1300 วัตต์
เป็นแบรนด์แรกที่อยากแนะนำโดยที่จะมีด้ามจับยาวช่วยให้ถนัดมือ ควบคุมง่ายดาย มีแรงหมุนตัด 3400 รอบต่อนาที มอเตอร์มีกำลังไฟถึง 1300 วัตต์ เลือกปรับระดับการตัดหญ้าได้ 3 ระดับ ทำให้เกิดความสะดวกมากกว่าเดิม โดยที่ยังรับประกันมอเตอร์ให้ 1 ปีด้วย ซึ่งมีราคา 3,990 บาทเท่านั้น สั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 2,990 บาทเท่านั้น
2. CARINA CG-1200 1200 วัตต์
ต่อมาเป็นรถตัดหญ้าเดินตามตัวเครื่องกะทัดรัดมาก ๆ น้ำหนักเบาไม่เมื่อยมือ มาตรฐานการผลิตประเทศอิตาลี ที่เลือกปรับระดับความสูงเมื่อต้องการตัดหญ้าได้ 3 ระดับด้วยกัน เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งยังมีแรงหมุนใบตัดได้ 3450 รอบต่อนาที มอเตอร์มีกำลังไฟที่ 1200 วัตต์ ซึ่งราคาขายจะอยู่ที่ 5,290 บาท แต่หากเลือกซื้อผ่านออนไลน์ก็ลดอีกเหลือ 4,490 บาท
3. JP JP8-GA1 1000 วัตต์
อีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นรูปแบบไฟฟ้าที่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ตัดเกี่ยวกับวัชพืชที่มีในงานเกษตร หรืองานภายในสวน ที่สามารถปรับความสูงได้ 3 ระดับด้วยกัน ตั้งแต่ 24 – 45 – 65 มม. ถือว่าดีมาก ๆ ตัดได้หลากหลาย โดยที่มอเตอร์เป็นขดลวดทองแดงแท้ 100% ทำงานได้เต็มที่ 1000 วัตต์ ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 5,590 บาท แต่หากซื้อตอนนี้ทางออนไลน์ก็ลดด้วยเหลือเพียง 3,990 บาทเท่านั้น
4. HYUNDAI HLM-1000 1,000 วัตต์
รถเข็นตัดหญ้ายี่ห้อนี้มีการรับประกันมอเตอร์ให้ 1 ปีด้วย ซึ่งมอเตอร์มีความสามารถในการระบายความร้อนได้ดี โดยที่มีระบบการป้องกันมอเตอร์ไหม้ได้ ล้อขนาดใหญ่มีให้ 4 ล้อเข็นง่าย เคลื่อนที่ได้ในพื้นที่ทั้งขรุขระ และเรียบ คันโยกก็ใช้ปรับระดับที่บริเวณด้านจับได้ด้วยเช่นกัน ทำให้การใช้งานสะดวกกว่าเดิม ราคาลดแล้วเหลือแค่เพียง 5,490 บาท จากปกติ 5,920 บาท เมื่อเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถตัดหญ้านั้นมีหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น รวมถึงราคา และความสามารถ ฟังก์ชันการทำงานที่แตกต่างกันออกไป อยากให้ท่านลองเปรียบเทียบดูสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์เหล่านี้เราการันตีเลยว่าดีจริง และตอบโจทย์การใช้งาน ก็อยู่ที่ว่าคุณจะมีงบเหมาะสมเท่าไหร่เท่านั้นเอง ทั้งนี้ วิธีการใช้งานของแต่ละยี่ห้อก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ก็ขอให้ศึกษาตามคู่มือการใช้งานดีที่สุด ไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT070501

10


ยุคปัจจุบันมีเครื่องทำน้ำอุ่นหลากหลายรุ่นหลากหลายแบรนด์มาก และเชื่ออย่างยิ่งว่ามีบางท่านที่อาจจะยังตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหาไม่ได้ เราจึงไม่รอช้าที่จะมาแนะนำกับรุ่นยอดนิยมดีไซน์สวย ประหยัดพลังงาน และมีราคาย่อมเยาเหล่านี้ เชื่อเหลือเกินว่าจะตอบโจทย์ตรงใจเพื่อนๆอย่างแน่นอน แล้วจะมีรุ่นอะไรแบรนด์ไหนบ้างล่ะ? เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปติดตามรายละเอียดกันดีกว่า
เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นยอดนิยม จุดเด่นตอบโจทย์ตรงใจทุกคน
1. ELECTROLUX EWE351PX-DWX5 3500 วัตต์
รุ่นแรกที่เราอยากแนะนำก็ต้อง EWE351PX-DWX5 3500 วัตต์ จาก ELECTROLUX ที่มีระบบเปิดการทำงานเมื่อน้ำไหลผ่านได้ด้วย พร้อมระบบนิรภัย ELCB ที่ตัดกระแสไฟฟ้า 0.1 วินาที ในกรณีที่เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว ทั้งวัสดุหม้อต้มก็เป็นแกลลอนที่ทำความร้อนได้เร็วไว กำลังไฟ 3500 วัตต์ ดีไซน์สวยสีขาวมินิมอล ราคาจำหน่าย 3,440 บาท แต่หากเลือกซื้อผ่านออนไลน์ในราคาพิเศษลดเหลือเพียง 2,490 บาท
2. STIEBEL WS 35 E-2 3500 วัตต์
เครื่องทำน้ำอุ่น Stiebel รุ่น WS 35 E-2 3500 วัตต์ เป็นหม้อต้มทองแดงที่ทำงานได้แม้แรงดันน้ำต่ำ เมื่ออุณหภูมิสูงเกินไปเครื่องก็จะตัดการทำงานเครื่องอัตโนมัติได้ 2 ขั้นตอน ปรับอุณหภูมิน้ำได้แม่นยำด้วยปุ่มควบคุมที่มีเพียงปุ่มเดียว การดีไซน์เรียบหรู ดูแพง มีทั้ง 3500 วัตต์ ราคา 3,690 บาท และ 4500 วัตต์ ราคาขาย 3,890 บาท ซึ่งลดจากราคาปกติเมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์
3. TOSHIBA TWH-38WTH 3800 วัตต์
อีกแบรนด์ที่น่าสนใจ TOSHIBA TWH-38WTH 3800 วัตต์ ที่เป็นหม้อทำความร้อนแบบแกลลอน ทนทานต่ออุณหภูมิความร้อนได้ดีมาก ปลอดภัยด้วยระบบ ELCB ที่ตัดไฟได้เมื่อเกิดปัญหาไฟรั่ว อุ่นใจกับระบบตรวจสอบการเชื่อมต่อสายดินแบบอัตโนมัติด้วย อุปกรณ์ป้องกันอุณหภูมิน้ำสูงเกิน 2 ชั้น ราคาย่อมเยามาก ๆ กำลังไฟ 3800 วัตต์ แต่เครื่องทำน้ำอุ่น ราคาเมื่อซื้อผ่านออนไลน์แค่ 1,890 บาท
4. HITACHI HES 38GS 3800 วัตต์
เป็นเครื่องที่มีหม้อทำความร้อนผสมด้วยทองแดงที่คุณภาพสูง ทนทาน โครงสร้างป้องกันน้ำเข้า มาตรฐาน IP25 ที่ปลอดภัยทุกครั้งที่ได้ใช้งาน ระบบตัดไฟแบบอัตโนมัติด้วย ทันทีที่ไฟฟ้าลัดวงจร หรือรั่วก็พร้อมตัดไฟทันที ระบบนิรภัยแบบ 12 จุด หาซื้อผ่านออนไลน์ราคาเพียง 4,190 บาทเท่านั้น
5. PANASONIC DH-4US1TW 4800 วัตต์
ปิดท้ายที่เครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic รุ่น DH-4US1TW 4800 วัตต์ ที่ได้พลาสติกคุณภาพสูง ABS เกรดไม่ลามไฟมาผลิต โดยที่มีกำลังไฟถึง 4800 วัตต์ มีการออกแบบติดฝักบัวผสมสารยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรียได้ด้วย ทั้งนี้เพราะเคลือบ Ag+ Crystal เพื่อสุขภาพที่ดี มีฮีตเตอร์ขดลวดทองแดง ทำความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ราคาขาย 5410 บาท เมื่อหาซื้อผ่านออนไลน์ ลดจากเดิม 5,750 บาท

เป็นยังไงกันบ้างกับเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นยอดนิยมที่เรานำมาฝากทั้ง 5 นี้ มีความน่าสนใจมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? เพราะว่าแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน แต่ก็เชื่ออย่างยิ่งว่าตอบโจทย์ตรงใจเพื่อนๆที่กำลังมองหาซื้อมาติดตั้งใช้งานแน่นอน ยิ่งเลือกซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาคุ้มค่าย่อมเยากว่าเดิมไปอีก

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU0501

11


ครั้งนี้เรามีแบรนด์ต่าง ๆ ของเครื่องทำน้ำร้อนมานำเสนอให้กับหลาย ๆ คนที่อาจจะกำลังมองหาอยู่ รับรองว่าเป็นแบรนด์ที่มีฟีเจอร์โดดเด่นสุด ๆ โดยเฉพาะระบบเซฟตี้ที่ทำงานได้ดีสุด ไร้ปัญหา ปลอดภัยขณะใช้งาน ซึ่งจะมีรุ่นไหน ยี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง เราไปดูรายละเอียดพร้อมกันเลยดีกว่า ของดีแบบนี้ต้องบอกต่อกันอยู่แล้ว!
เครื่องทำน้ำร้อนฟีเจอร์โดดเด่น ระบบเซฟตี้ทำงานดีปลอดภัยสุด
1. MAZUMA P-STREAM PLUS2 8000 วัตต์
เริ่มต้นเครื่องทำน้ำร้อน Mazuma ที่มีชุดฮีตเตอร์แบบท่อน้ำผ่านความร้อนได้ดี ปลอดภัย และมีความทนความร้อนสูง ใช้เป็นขดลวดทองแดงที่ทำความร้อนได้รวดเร็วมาก และยังให้อุณหภูมิที่คงที่ขั้นสุด ที่สำคัญเรื่องระบบเซฟตี้ก็จะใช้เป็นสายไฟซิลิโคนหุ้มไฟเบอร์กลาส ที่ทนทานต่ออุณหภูมิ 180 องศาฯ ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 7,890 บาท เมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์
2. PANASONIC DH-6GM4TW 6000 วัตต์
เป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจ โดยที่มีระบบความร้อนหม้อต้มผลิตด้วยทองแดง ปรับระดับได้ 2 ระดับ เลือกปรับแบบไฟฟ้าได้ 2 ระดับ สูงสุดความปลอดภัยที่มีถึง 7 ระบบนิรภัย ทั้งภายในเครื่องยังมี ELB ที่เมื่อเกิดไฟฟ้ารั่วก็จะตัดให้แบบอัตโนมัติ กำลังไฟ 6000 วัตต์ ราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 7,190 บาทเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์
3. STIEBEL DEM 6 6000 วัตต์
ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยจริง ๆ กับเครื่องทำน้ำร้อน Stiebel DEM 6 6000 วัตต์ ที่ใช้ขดลวดทำความร้อนได้รวดเร็วมาก ปลอดภัยสุด ๆ ด้วย ออกแบบกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ ติดตั้งเลือกเองได้หลากหลายทิศทาง สามารถปรับอุณหภูมิได้หลากหลายระดับตามความต้องการ 30 – 50 องศาฯ โดยที่ราคาจะอยู่เครื่องละ 12,290 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 9,790 บาทเท่านั้น ทั้งนี้สามารถแลกเครื่องเก่าได้ส่วนลดสูงสุด 500 บาทด้วย
4. RINNAI DENKI 600MP 6000 วัตต์
ต่อมาก็คือ RINNAI DENKI 600MP 6000 วัตต์ ที่เป็นหม้อต้มทองแดงแท้ เก็บอุณหภูมิ ทำความร้อนได้ดี ปลอดภัยด้วยระบบนิรภัยแบบ ELCB ที่ตัดกระแสไฟฟ้าได้เลยทันทีหากเกิดไฟรั่ว ทำให้การใช้งานมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย ซึ่งยังมีระบบแบบ ELECTRONIC TEMPERATURE SELECTION ที่ทำให้อุณหภูมิของน้ำที่ใช้อยู่มีความสม่ำเสมอ โดยราคาจัดจำหน่ายจะอยู่ที่ 7,190 บาท แต่หากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 6,690 บาท
5. SAFE THERMO PRO 6000
เป็นเครื่องขนาด 6000 วัตต์ ระบบทำความร้อนไม่ได้ผ่านหม้อต้ม แต่ผ่านโลหะผสมอะลูมิเนียม โดยที่แยกท่อลำเลียง ท่อทำความร้อนออกจากกัน ไม่เกิดเรื่องตะกรัน สนิม หรือหม้อต้มละลายแต่อย่างใด ซึ่งมีความปลอดภัยสูงระหว่างใช้งานด้วย โดยมีราคาลดแล้วเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 6,490 บาทเท่านั้นเอง

ต่อไปนี้ก็หวังว่าใครที่ต้องการซื้อเครื่องทำน้ำร้อนจะสามารถตกลงใจได้ทันที ด้วยทั้ง 5 ยี่ห้อเหล่านี้มีฟีเจอร์โดดเด่นซึ่งก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ที่ไม่ควรมองข้ามคือระบบเซฟตี้ทำงานดีจึงทำให้ระหว่างการใช้งานปลอดภัยสุด ๆ

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/PLU0503

12


Stiebel เป็นหนึ่งในหม้อต้มที่น่าสนใจใช้งานอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่มีให้ในหลายรุ่น และเผื่อว่าท่านใดอยากจะซื้อแต่ก็ยังไม่มั่นใจจะเลือกใช้รุ่นไหนดี เราไม่พลาดที่จะมาแนะนำรับประกันว่าซื้อแล้วคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นแน่ แต่จะมีรุ่นไหนบ้าง เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลย
หม้อต้มของยี่ห้อ Stiebel ที่น่าใช้ ซื้อแล้วคุ้มราคาแน่นอน
1. รุ่น ESH 80H PLUS T 80 ลิตร สีขาว/เทา
เริ่มต้นกับรุ่นที่มีโครงสร้างภายนอกผลิตจากพอลิเมอร์โพลีลีน ที่ทนทานต่อการกัดกร่อน โดยที่แข็งแกร่งมาก ๆ ควบคุมอุณหภูมิน้ำได้เป็นอย่างดี แม่นยำด้วยท่อแคปปิลารี่ของเทอร์โมสตัท ทั้งยังปรับอุณหภูมิได้มาก 75 องศาเซลเซียส หน้าปัดมีไฟ LED แสดงอุณหภูมิน้ำด้านหน้าเครื่อง โดยราคาจำหน่ายก็จะอยู่เครื่องละ 17,190 บาท แต่เลือกซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 13,990 บาทเท่านั้น โดยมีให้เลือกทั้งสีขาวและสีเทา
2. รุ่น EVS30 30 ลิตร สีขาว
หม้อต้มน้ำร้อนรุ่นต่อมาที่อยากแนะนำก็ต้อง EVS30 30 ลิตร สีขาว ทำความร้อนได้เร็ว โดยที่แรงดันเสถียรมากใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยที่เครื่องก็จะเป็นแบบแนวตั้ง 2000 วัตต์ ที่มีขนาด 30 ลิตร โดยที่หม้อมีความหนา ทั้งยังเก็บความร้อนและไม่เกิดตะกรัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ ราคาขายก็จะอยู่ที่ 11,890 บาท และเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 9,890 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีความจุอื่น ๆ ด้วย อาทิเช่น 15 ลิตร ราคา 8,290 บาท 50 ลิตร ราคา 11,990 ไปจนถึง 150 ลิตร ราคา 17,390 ที่ราคาก็จะลดแล้วเมื่อซื้อผ่านออนไลน์ แตกต่างกันตามความจุที่เหมาะสม
สำหรับหม้อต้มน้ำร้อน Stiebel นั้นก็จะมีกำลังไฟที่แตกต่างกัน แต่ทุกสิ่งที่เหมือนกันคือความปลอดภัยในการใช้งาน อุปกรณ์มีตัวช่วย ELCB ที่ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว รวมทั้ง Thermostat กำหนดน้ำร้อนเกิน และ Safety Valve วาล์วนิรภัย ทั้งยังรับประกัน 1 ปี ทั้งนี้ก็จะใช้งานเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับบ้าน หรืออาคารสำนักงาน ควรใช้งานกับน้ำสะอาดเท่านั้น และควรศึกษาคู่มือให้ละเอียดก่อนติดตั้งและใช้งาน รวมทั้งควรติดตั้งในพื้นที่ซ่อมบำรุง และดูแลรักษาความสะดวก ซึ่งยังมีข้อควรระวังที่ต้องรู้อีก เช่น
-    จัดเก็บในพื้นที่แห้ง และให้พ้นมือของเด็ก
-    ห้ามมีการแก้ไข ดัดแปลง หรือนำไปใช้งานแบบผิดประเภท
-    ห้ามใช้งานเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นด่าง กรดมาทำความสะอาด
-    ห้ามจัดเก็บเครื่องใกล้เปลวไฟ หรือใกล้ความร้อนเด็ดขาด
-    ห้ามใช้งานที่มีพื้นที่น้ำท่วม หรือต้องเอาเครื่องแช่น้ำตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ในการงานหม้อต้มควรติดตั้งช่างผู้เชี่ยวชาญ และติดตั้งสายดินพร้อมติดตั้งเครื่อง พร้อมตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำในการใช้งานให้เหมาะสมทุกครั้งด้วย เชื่อเหลือเกินว่ารุ่นเหล่านี้จะช่วยให้การต้มน้ำร้อนของคุณมีประสิทธิภาพ

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/PLU0502

13


ประเภทของรางน้ำฝนนั้นมีหลากหลาย และเชื่ออย่างยิ่งว่าไอเท็มนี้ก็หลาย ๆ บ้านควรติดตั้งไว้ใช้งานเพื่อประโยชน์ทั้งช่วยป้องกันสวน ป้องกันผนัง เฟอร์นิเจอร์เปรอะเปื้อน ไปจนถึงการป้องกันปัญหาของเพื่อนบ้าน ทว่าจะเลือกชนิดรางยังไงให้พอเหมาะกับบ้าน เราได้รวบรวมเคล็ดลับดี ๆ มาเสนอแนะ นอกจากเหมาะกับบ้านก็ยังเหมาะกับสไตล์เจ้าของบ้านด้วย
การเลือกประเภทรางน้ำฝนให้เหมาะกับบ้านและสไตล์เจ้าของบ้าน
1. ความคุ้มค่าในการใช้งาน
เสนอแนะว่าให้เลือกวัสดุของรางที่มีอันดับแรกโดยที่มีให้เลือกหลายลักษณะ หลายขนาด อย่างเช่น รางน้ำฝน PVC หรืออื่น ๆ หากจะมองหาความคุ้มค่านอกจาก PVC ก็จะมีเป็นอะลูมิเนียม ที่อายุการใช้งานก็จะยาวนานมากกว่าประเภทอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
2. งบประมาณการติดตั้งที่เหมาะสม
สิ่งต่อมาที่ต้องทราบก็คือค่าของราง ไปจนถึงจ้างช่าง หรือค่าติดตั้ง เสนอแนะให้ลองสำรวจและเปรียบเทียบกับร้านที่รับติดตั้งก่อน ทั้งนี้เพราะจะมีทั้งวัสดุ มีค่าติดตั้งรูปแบบที่ต่างก็จะมีงบประมาณที่ต่างด้วยเช่นกัน มีตั้งแต่ไม่สูงไปจนถึงสูงมาก ลองดูเงินในกระเป๋าก่อนค่อยเลือกติดตั้งได้ไม่ใช่เรื่องยาก
3. การติดตั้งราง
การติดตั้งรางจะติดตั้งด้วยตะปูกับเชิงชาย หรือไม้ปีกนก หรือ อย่าง รางสังกะสี ก็จะจับแขวนกับจันทัน ซึ่งการติดตั้งก็จะมีได้หลายที่ มีตั้งแต่บริเวณหลังคาโรงจอดรถ หลังคาครัวไทยหลังคาบ้าน หากมีอุปกรณ์ครบก็ติดตั้งเองได้ แต่หากเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หรือบ้านเดี่ยวแนะนำว่าให้ช่างติดตั้งดีกว่า เพราะว่าบางวัสดุจำเป็นต้องมีช่างที่เชี่ยวชาญงานมารับผิดชอบ ทำให้ยืดอายุการใช้งานมากขึ้น อาทิ รางน้ำฝนไวนิล
4. ขนาดพื้นที่ที่มีของหลังคา
ในกรณีที่มีหลังคาขนาดใหญ่ก็ควรเลือกขนาดให้เหมาะสม ปัจจุบันก็มีหลากหลายขนาดให้เลือก ทั้ง 4 นิ้ว 5 นิ้ว และ 6 นิ้ว หากหลังคามีขนาดใหญ่มากกว่า 5 นิ้วขึ้นไป กรณีที่หลังคามีความยาวมาก ๆ ก็ควรเพิ่มรูระบายน้ำในหลายจุดเพื่อให้ระบายน้ำฝนออกได้ทันเวลาที่ฝนตกลงมาหนักมาก แรงมาก
5. ความสวยงามของราง
เพื่อให้เกิดความสวยงามในตัวบ้านเพิ่มขึ้นไม่ทำให้เป็นไอเท็มสะดุดตา หรือขัดตา ด้วยความที่มีหลายรางจะให้สีสันที่สวยงามเยอะ อย่าง ไฟเบอร์กลาส อะลูมิเนียม ไวนิล จะมีดีกว่าสังกะสี

สำหรับการติดตั้งรางน้ำฝนจริง ๆ แต่ละประเภทจะมีต่างกันออกไป ซึ่งคุณสามารถติดตั้งเองได้ แต่เชื่อว่าการจ้างให้ช่างมาติดตั้งก็จะได้ความเชี่ยวชาญมากกว่า ได้ประสิทธิภาพมากกว่า และเกิดปัญหาตามมาภายหลังน้อย ปัจจุบันก็มีหลายร้านรับติดตั้ง แนะนำว่าให้ลองเปรียบเทียบพิจารณาหลายร้านก่อนเอาร้านที่เหมาะสม รับประกันว่าได้งานดี ใช้งานรางตอบโจทย์สุด ๆ

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0805

14


โพลียูรีเทนเป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้ไม้คงสภาพ ทนทานต่อแสงแดดและฝน ซึ่งแบรนด์ BEGER 1K SUPREME OUTDOOR นี้คุณสมบัติโดดเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไม้สักที่เหมาะมาก ใช้ง่าย ข้อสำคัญคือมีราคาจับต้องได้ไม่แพงมากยิ่งเลือกซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคา กระนั้นบางคนอาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เรารวบรวมมาให้ศึกษาเพื่อพิจารณาตัดสินใจใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติโพลียูรีเทน ยี่ห้อ BEGER 1K SUPREME OUTDOOR
สำหรับผลิตภัณฑ์นี้เป็นสูตรทาไม้ 2 in 1 ที่เป็นสีทับหน้า และรองพื้นในตัว โดยที่ยังสามารถทากลางแจ้งได้ คิดค้นมาคุณสมบัติทนทานสภาวะได้มากกว่าเดิม ทนทานต่อแดดและฝนที่ทนต่อรอยขีดข่วน แรงกระแทก รวมไปถึงทนไอทะเล ทนต่อคลอรีนจากสระน้ำได้ ทั้งทนสารเคมีที่มีในชีวิตประจำวัน จะใช้เพื่อทาเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ หรือผนังไม้ ทาทับสีงานไม้เก่าได้เลยโดยเฉพาะไม้สัก โดยที่ยังเป็นสูตรที่พร้อมใช้เลย ไม่ต้องเอาไปผสมทินเนอร์ต่อ ทำให้ปลอดภัยต่อตะกั่ว สารปรอท โลหะหนัก จบงานง่ายใน 1 วัน กลิ่นจางไวสุดไม่เหม็นพาปวดหัว
-    เป็นเจ้าแรกที่สามารถใช้สีย้อมไม้แบบทากลางแจ้งได้ เพราะว่าเป็นสูตร 2 in 1 ที่ทาทับหน้าได้ รองพื้นไปในตัวด้วย
-    ทาได้ทั้งผนังไม้ พื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ได้เลยทั้งภายใน ภายนอก หรือก็ทาได้ทั้งไม้แท้ไม้เทียมด้วย
-    เป็นสูตรที่พร้อมใช้งาน Ready to use ที่ไม่จำเป็นต้องผสมทินเนอร์เพิ่มให้กลิ่นเวียนหัว
-    ไร้สารปรอท โลหะหนัก สารตะกั่ว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน EN71 ยุโรป
-    สามารถทาสีทับไม้ได้ทุกชนิด อย่าง แลคเกอร์เก่า สีย้อมของไม้เก่า สีน้ำมันเก่า หรือวานิชเก่า
-    กลิ่นจางไวมาก แห้งเร็ว สามารถจบงานได้เลยภายใน 1 วัน ไม่ต้องเสียเวลารอกลิ่นหมด

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
จะเหมาะกับการเป็นสีทาไม้เพื่อเคลือบผิวไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ทุกแบบ ช่วยขัดผิวไม้ให้เรียบด้วยกระดาษทรายเบอร์หยาบ รวมถึงเบอร์ละเอียดตามลำดับ ซึ่งควรมีการศึกษาข้อมูลก่อนใช้งานอย่างละเอียด ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้ไม่มีคราบไข ฝุ่น สิ่งสกปรกต่าง ๆ

นอกจากนี้ ก็ยังมีข้อควรระวังด้วย คือห้ามจัดเก็บใกล้ความร้อน เปลวไฟ ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ห้ามสูดดม หรือกิน ห้ามใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังใช้งานต้องผิดฝาให้สนิททุกครั้ง ใครที่สัมผัสผลิตภัณฑ์โดยตรงจะต้องล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที กรณีที่เข้าตาก็ให้ล้างน้ำสะอาดแล้วรีบไปพบแพทย์ในทันที ควรสวมใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกันผิวหนังเพื่อกันการระคายเคืองที่มีต่อผิว

โดยโพลียูรีเทน ยี่ห้อ BEGER 1K SUPREME OUTDOOR นี้มีราคาจับต้องได้กระป๋องละ 872 บาท แต่หากสั่งผ่านออนไลน์ลด 10% เหลือเพียงแค่ 820 บาทเท่านั้น เรียกว่าคุ้มค่าด้านคุณสมบัติ 2 in 1 และราคาอย่างที่สุด หากกำลังมองหาอยู่รีบซื้อใช้เลย!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/CON070504

15


ต้องบอกก่อนว่ากาวตะปูคือกาวอเนกประสงค์ที่ใช้เพื่อยึดติดสิ่งต่าง ๆ แทนการตอกตะปูแบบปกติได้ดีหรือจะเรียกว่ามีคุณสมบัติที่เหนือกว่าการตอกตะปูปกติด้วยซ้ำ จะตกแต่ง หรือซ่อมแซมบ้านช่วยได้หมด นอกจากนี้ ยังสามารถใช้กับงานที่มีพื้นที่แคบอย่างคอนโด และพื้นที่กว้างอย่างบ้านได้หมดเลย พร้อมช่วยให้การยึดติดวัตถุพื้นผิวต่าง ๆ ดีมาก สะดวก ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ หรือสว่านเจาะให้ยุ่งยาก คุณสมบัติที่มีของกาวตะปูที่เหนือกว่าตอกตะปูทั่วไป
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักคุณสมบัติอยากให้ลองศึกษาประเภทที่มีให้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน โดยที่จะมีด้วยกัน 2 สูตร คือสูตรน้ำที่จะมีน้ำผสมอยู่ เนื้อกาวไม่ฉุน ไม่มีกลิ่น ไม่แสบตา ไม่แสบจมูก โดยที่จะเหมาะกับงานตกแต่งภายใน พื้นผิวที่รูพรุน ไม่เรียบมาก เช่น ปูน อิฐ คอนกรีต หินธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งจะต้องไม่มีความชื้น หรืออุณหภูมิไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส อีกสูตรคือสูตรน้ำมัน หรือโซลเวนท์ ที่ใช้กับพื้นผิวได้หลากหลาย ทั้งโลหะ กระเบื้อง ไม้ ทนทานต่อ UV ยึดติดได้แน่น ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ทนทานต่อความร้อนสูงถึง 50 องศาฯ ปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ ดังเช่น กาวตะปู 3M, TOA, PATTEX ฯลฯ และหากถามว่ามีคุณสมบัติอะไรที่ว่าเหนือกว่าการตอกตะปูทั่วไป?
-    มีความสามารถในการยึดติดได้ดี : โดยที่ทั้งสูตรน้ำและน้ำมันนั้นใช้ได้ทุกพื้นผิว แต่หากจะให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม ก็จะแบ่งเป็นพื้นผิวเรียบ ไม่มีรูพรุน อย่าง โลหะ อะลูมิเนียม กระจก กระเบื้อง เหล็ก ฯลฯ และพื้นที่ผิวขรุขระ มีรูพรุน อย่าง คอนกรีต ซีเมนต์ แผ่นไม้ อิฐ หินธรรมชาติ ฯลฯ
-    ความสามารถยึดเกาะสูง : ที่จัดว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญ หรือจะเรียกว่าเป็นกาวพลังตะปูก็ว่าได้ ซึ่งจะมีแรงยึดเกาะสูง ทนทาน แข็งแรง ติดแน่นเหมือนกับเราตอกตะปูจริง โดยที่สูตรน้ำจะรองรับน้ำหนักได้ 100 กก. / ตารางเมตร และถ้ายิ่งเป็นสูตรน้ำมันก็จะรองรับน้ำหนักสูงไปได้ถึง 200 กิโลกรัม / ตารางเมตรเลยทีเดียว
-    สามารถใช้กับงานแนวเหนือหัวได้ : เพราะกาวลักษณะนี้จะเหมาะกับการซ่อมแซม ตกแต่ง หรือติดวัสดุที่อยู่ในแนวระนาบได้ ใช้กับงานเหนือหัวที่ไม่สามารถตอกตะปูได้ อาทิเช่น งานคิ้ว งานติดบัว งานฝ้าเพดาน เหตุเพราะจะยิงด้วยปืนกาว แค่ใส่หลอดกาวก็ยิ่งได้เลยทันทีไม่ยุ่งยาก

ในการใช้งานกาวตะปูจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยความเหมาะสมที่มีด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริเวณที่ใช้งาน ที่ต้องรู้ว่าจะใช้ที่ไหน ภายในภายนอกอาคาร บ้านเรือน ผิวที่เราจะติด เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงมากขึ้น รวมถึงน้ำหนักของชิ้นงาน หรือวัสดุที่จะติดด้วย ว่ามีมากน้อยแค่ไหน เหตุเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะยึดติดวัสดุกับพื้นผิวไม่ได้นั่นเอง

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031003

16


เมื่อเอ่ยถึงผลิตภัณฑ์ยาแนวแล้วนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอะคริลิคซีลแลนด์ก็เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม และปัจจุบันก็มีให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์มาก และหากท่านยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแบรนด์ไหนดี เรามีมาแนะนำให้รู้จัก 4 แบรนด์ด้วยกัน ยืนยันจากผู้เคยใช้งานหลาย ๆ คนแล้วว่าคุณภาพสูสีมาก เลือกอันไหนก็มีประสิทธิภาพคุ้มราคาแน่นอน
4 ยี่ห้ออะคริลิคซีลแลนด์ คุณภาพสูสีคุ้มราคาที่จ่าย
1. TOA 303 280 มล. สีขาว
เป็นผลิตภัณฑ์ยาแนวรอยต่อ ที่ลดเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ไม่มีตะกั่ว หรือสารปรอท ทั้งยังทนทานต่อรังสียูวี และสภาวะอากาศที่มีในประเทศไทย ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง ทาสีทับหน้าเหลืองได้สามารถทาสีทับ หรือขัดตกแต่งได้ ใช้งานกับภายในภายนอกได้หมด โดยที่มีราคาขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อ คือ 1 ea ราคา 43 บาท 6 – 11 ea ราคา 42 บาท และมากกว่า หรือเท่ากับ 12 ea ราคา 41 บาท
2. จระเข้ 450 กรัม
นับว่าเป็นสินค้าขายดีที่สุดก็ว่าได้กับยาแนวจระเข้ 450 กรัม ที่มีให้เลือกทั้งสีขาว สีโอ๊ค สีเชอร์รี่ สีน้ำตาล ที่เป็นยาแนวเพื่ออุดรอยต่อ กันความชื้น รั่วซึม และฝุ่นละอองได้ดี ทนทานกับทุกสภาพผิวที่จะใช้งาน รวมถึงทุกสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ แห้งเร็ว ทาทับสีเพื่อการตกแต่งที่เหมาะสมได้ด้วย โดยที่มีราคาหลอดละ 125 บาท เมื่อเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 88 บาทเท่านั้น
3. SISTA F130 300 มล. สีเมเปิ้ล
ในส่วนของปากหลอดยาแนว SISTA F130 300 มล. สีเมเปิ้ล ก็จะใช้งานได้ในพื้นที่แคบหรือไม่มาก จำกัดได้ ช่วยป้องกันย้ำ เสียง อากาศ หรือฝุ่นละอองได้ดี ซึ่งถือเป็นยาแนวกันซึมที่แห้งแล้วก็ทาสีอื่นทับไปได้ทันที มีความยืดหยุ่นสูงไม่แห้งกรอบ เป็นสูตรน้ำที่ปลอดภัยไร้กลิ่น ทนทานต่ออุณหภูมิได้สูงสุดถึง 80 องศาฯ ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนที่สั่งซื้อ 1 ea 99 บาท 6 – 11 ea 97 บาท หรือมากกว่า / เท่ากับ 12 ea ราคา 95 บาท
4. BOSNY B212 300 มิลลิลิตร
ปิดท้ายแบรนด์นี้เลย BOSNY B212 300 มล. มีให้เลือกทั้งสีเทา สีดำ สีขาว สีน้ำตาล ซึ่งจะเหมาะกับการใช้เพื่อป้องกันฝุ่นละออง การรั่วซึม ความชื้น อุดรอยต่อต่าง ๆ จะเพื่อซ่อมแซม อุดร่อง หรือปิดรอยได้หมดเลยตามต้องการ โดยที่ทนทานต่องานทุกสภาพผิว สภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ราคาอยู่ที่หลอดละ 45 บาทจากราคาปกติ 65 บาท เมื่อสั่งผ่านออนไลน์
อย่างไรก็ตาม การใช้งานอะคริลิคซีลแลนด์ก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วยไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม คือ ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือใช้สินค้าแบบผิด ๆ ควรจัดเก็บในพื้นที่แห้งและพ้นมือเด็ก ห้ามวางใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน เลี่ยงการวางโดนแสงแดดนาน ๆ ก็เพราะว่าสินค้าอาจเสียหายได้ และเมื่อเข้าตาให้เอาน้ำสะอาดล้างออกและพบแพทย์ทันที

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON031002

17


ต้องยอมรับว่าซีเมนต์เป็นวัสดุก่อสร้างที่นิยมใช้งานกันมากที่สุด และบางคนก็อาจจะมองข้ามถึงอันตรายที่มี ซึ่งจริง ๆ แล้วจัดเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากควรมีการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ และเราไม่รอช้าที่จะมาไปตรวจสอบข้อควรระวังในการใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้ปลอดภัยไร้ปัญหาสุขภาพมากที่สุด
4 ข้อควรระวังในการใช้งานซีเมนต์ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
1. ควรมีการสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด
สุดท้ายก็คืออันตรายจากการสัมผัสตัวปูน ทั้งปูนกันซึม และอื่น ๆ ควรมีการสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดมากที่สุด เพื่อไม่ให้มีปูนกระเด็นมาโดน หรือป้องกันไม่ให้เนื้อปูนแทรกซึมเข้ามาทางผิวหนัง เลือกสวมได้ทั้งกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว รองเท้าบูต ถุงมือกันน้ำ หรือแว่นตานิรภัย ช่วยป้องกันได้อย่างดี
2. ระวังไม่ให้เข้าตา หรือเข้าปาก
ให้เลี่ยงการสัมผัสแบบตรง ๆ และต้องระวังไม่ให้เข้าตา เข้าปาก จะเป็นผง หรือส่วนที่เปียกชื้นก็ตาม กรณีที่สัมผัสผิวหนังก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองที่รุนแรง เพราะทำลายผิวชั้นในและชั้นนอกได้ ทำให้เกิดแผลไหม้พุพอง แนะนำให้รีบล้างออกไวที่สุด ถ้าเข้าตาแม้จะเล็กน้อยก็อาจบาดกระจกตาได้ ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที และล้างให้นาน 15 นาที และรีบพบจักษุแพทย์โดยด่วน หากเข้าปากแล้วเกิดอาเจียน คลื่นไส้ก็ให้ดื่มน้ำมาก ๆ ห้ามอาเจียนออกมา และพบแพทย์โดยด่วนด้วยเช่นกัน
3. รู้จักเก็บให้เหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นซีเมนต์กันซึม หรืออื่นใดก็ตามสามารถดูดความชื้นได้ดีมาก หากนำไปวางไว้ในบริเวณที่ชื้นสูงก็จะทำให้จับตัวเป็นก้อน หรือเป็นเม็ด ๆ ได้ และเมื่อเป็นแบบนั้นก็จะใช้งานไม่ได้สุดท้ายต้องทิ้งไปเปล่าประโยชน์ แถมเปลืองเงินซื้อใหม่ไปอีก ต้องเก็บให้สูงจากพื้นมากกว่า 1 ฟุต ควรเก็บในที่มิดชิด และไม่ควรไว้นานกว่า 1 เดือนในหน้าฝน หรือ 2 เดือนในหน้าร้อน
4. อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้จะมีผงปูนที่อาจจะโดนลมพัดปลิวเข้าไปในระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้งาน ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ ต่อเยื่อบุโพรงจมูก ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรค อาทิเช่น หอบหืด, ถุงลมโป่งพอง, ภูมิแพ้ ฯลฯ แม้จะเป็นการสูดดมแบบเล็กน้อย หรือแค่ละอองก็ตาม กรณีที่รู้ตัวว่าสูดผงเข้าไปแนะนำให้ไปหาพื้นที่อากาศถ่ายเทสะดวกแล้วสูดอากาศเข้าไปเยอะ ๆ แต่หากพบว่าอาการไม่ดี มีอาการอื่นร่วมด้วย อาทิเช่น แสบจมูก หายใจติดขัด จมูกอักเสบ ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน อาจจะใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นขณะใช้งานก็ช่วยได้มาก

การทราบถึงข้อควรระวังด้านการใช้งานซีเมนต์เหล่านี้ช่วยให้ท่านรู้จักใช้งานอย่างดี เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพสูงสุด แต่หากเกิดอันตรายต่อสุขภาพจริง ๆ อย่างที่บอกหนทางที่ดีที่สุดให้รีบพบแพทย์เลย ขืนปล่อยไว้หรือชะล่าใจอาจจะเกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าตามมาได้

ท่านสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/CON030601

18


ปืนยิงซิลิโคนแบบอะลูมิเนียมนับว่าเป็นอีกรูปแบบที่เริ่มจะเป็นที่สนใจในงานช่าง อย่างยี่ห้อ SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงินก็เป็นอีกไอเท็มที่ค่อนข้างน่าสนใจ ด้วยคุณสมบัติที่มีให้สัมผัสคุ้มค่า แถมมีวิธีการใช้งาน คำแนะนำ รวมทั้งข้อควรระวังที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไร และหากท่านใดต้องการเลือกซื้อเลือกหาแต่ก็ยังลังเล ลองมาทำความเข้าใจกับข้อมูลเหล่านี้ดูเพื่อการพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อง่ายมากขึ้น
ปืนยิงซิลิโคนแบบอะลูมิเนียม SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงิน
ในส่วนของปืนยิงกาว SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงินเป็นปืนยิงที่เหมาะกับการติดตั้งควบคู่กับหลอดซิลิโคน ของกาว หรือยาแนว ที่จะต้องใช้การบีบอัดจากปลายกระบอก เพื่อดันเอาน้ำยาภายในออกมา โดยที่จะไหลไปตามหัวยิงที่มีบริเวณปลายหลอด โดยที่ประยุกต์ใช้งานได้เยอะ ทั้งการเชื่อมตรงกระจก ติดตั้งอุปกรณ์ประปา อุดรอยรั่ว เช่น อ่างล้างหน้า อ่างล้างมือ ก๊อกน้ำ อ่างอาบน้ำ ฯลฯ เป็นการอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ตรงตามการใช้งานที่ลงตัว
-    เหมาะกับการใช้งานร่วมกับยาแนว หลอดกาว หรือซิลิโคน
-    วัสดุผลิตจากอะลูมิเนียมที่เน้นความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานสุด
-    ถูกออกแบบมาให้สามารถถอดหรือสวมหลอดของซิลิโคนเข้า / ออกได้สะดวก
-    ด้ามจับกระชับมือ จะกด บีบ หรือใช้งานอะไรก็ผ่อนแรงได้ดี

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังของผลิตภัณฑ์
สำหรับการใช้งานปืนยิงยาแนวก็จะใช้เพื่อบีบอัดเพื่อการยิงซิลิโคนที่เหมาะสม โดยให้เตรียมกาวและปืนยิงโดยที่เปิดจุกตัวกาว จัดส่วนจุกตามต้องการ นำจุกมาสวมใส่ กดที่ตัวล็อคเพื่อดึงตัวแกนกลาง จากนั้นก็ใส่กาวกดที่ยิงให้แน่นมากยิ่งขึ้น เท่านี้ก็นำไปใช้งานได้เลยยิงไปที่จุดนั้น ๆ ที่ต้องการ แนะนำว่าให้ศึกษาข้อมูลการใช้งานอย่างละเอียดที่คู่มือก่อน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมถูกประเภทงานด้วย

ทั้งนี้ การใช้งานก็มีข้อควรระวังด้วย โดยที่ห้ามมีการแก้ไข ดัดแปลง และใช้งานสินค้าแบบผิดประเภท หรือผิดวิธีใช้งานเด็ดขาด ซึ่งยังต้องห้ามวางใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน รวมไปถึงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง และต้องให้พ้นมือเด็กด้วยเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีราคาอยู่ที่ 399 บาท และยิ่งหาซื้อผ่านออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 299 บาทเท่านั้น

ปืนยิงซิลิโคนแบบอะลูมิเนียมยี่ห้อ SEALEX AL กระบอก 9 นิ้ว สีเงิน มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ด้วยความแข็งแรง ทนทาน กระชับมือ กดบีบ หรือใช้งานได้ดี ทั้งยังมีสนนราคาที่เหมาะสม สั่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาถูกลงกว่าเดิมไปอีก ท่านใดต้องการผลิตภัณฑ์แนวแบบนี้ไปใช้งานอุด ซ่อมแซม ปิดรอยรั่ว รอยร้าวต่าง ๆ ให้กับตัวบ้าน อาคาร สิ่งนี้ตอบโจทย์การใช้งานคุณอย่างแน่นอน ลองเลย!

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031006

19


ในคราวนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ “ซิลิโคนซีลเลอร์” ที่ถือว่าเป็น Best Seller สินค้าขายดีสุดที่รับประกันว่ามีคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน ราคาคุ้มกับที่จ่ายไปแน่นอน แต่จะมีแบรนด์ไหน รุ่นไหนบ้างนั้น เราไปติดตามรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กันดีกว่า เพื่อการใช้งานที่ได้ประสิทธิภาพตอบโจทย์มากที่สุด
ผลิตภัณฑ์ Best Seller ซิลิโคนซีลเลอร์ คุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน
1. ซิลิโคนชนิดไร้กรด ยี่ห้อ 3M
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซิลิโคน 100% มีคุณภาพสูงมาก ทนทาน แข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และรังสี UV ที่ทนได้ดี เนื้อซิลิโคนไม่มีไหลย้อย เหมาะกับการซ่อมแซม หรืออุดรอยต่อได้ดี โดยที่ราคาก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณ มีทั้ง 60 ML ราคา 90 บาท และ 300 ML ราคา 299 บาท เป็นราคาเมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์เท่านั้น
2. ซิลิโคนชนิดมีกรด แบรนด์ TOA 280 มิลลิลิตร
ต่อมาเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ โดยที่ออกฤทธิ์เป็นกรด มีแรงยึดเกาะได้สูง แข็งแรงทนทาน เนื้อแห้งเร็วมากทำให้ประหยัดเวลา เหมาะกับการใช้งานด่วน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ สามารถนำไปใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งมีสีให้เลือก 2 สี คือสีขาว และสีใส ราคา 125 บาท แต่เมื่อสั่งซื้อผ่านออนไลน์ลดเพิ่มเหลือ 107 บาทเท่านั้น
3. ซิลิโคนชนิดไร้กรดกันเชื้อรา แบรนด์ NEOBOND 300 มล.
อีกหนึ่งซิลิโคนยาแนวที่คุณภาพสูง โดยที่ออกฤทธิ์เป็นกลาง มีแรงยึดเกาะได้ดี ยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อการใช้งานทุกสภาพอากาศ ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร บ้านเรือน ไม่กัดกร่อนทำลายพื้นผิวของวัสดุ รวมถึงมีกลิ่นรบกวนเมื่อใช้งานด้วย โดยที่มีสีให้เลือกทั้ง สีดำ สีขาว สีใส สีเทา ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนการซื้อ ตั้งแต่ 1 ea ราคา 219 บาท, 6 – 11 ea ราคา 216 บาท และมากกว่า / เท่ากับ 12 ea ราคา 213 บาท
ทั้ง 3 ยี่ห้อซิลิโคนอุดรอยรั่ว ยาแนวเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ Best Seller ขายดีที่สุดเมื่อซื้อผ่านออนไลน์ คิดเห็นจากจำนวนยอดซื้อที่มีสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของเว็บไซต์ ซึ่งจริง ๆ ก็ยังมีอีกหลายยี่ห้อ อาทิเช่น DEXZON, SISTA หรืออื่น ๆ อีกเพียบ แน่นอนว่าคุณภาพ ความทนทานแข็งแรงก็ไม่แพ้กัน ซึ่งก่อนที่จะใช้งานก็ต้องมีการทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น และคราบไขมันด้วย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกับวัสดุเพิ่มมากขึ้น โดยที่ต้องมีการศึกษาข้อมูลการใช้งานให้ละเอียด และเลือกให้เหมาะสมกับประเภทงานด้วย

และเหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องไม่ลืมที่จะศึกษาเกี่ยวกับข้อควรระวังในการใช้งานซิลิโคนซีลเลอร์ ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็ตาม โดยที่ห้ามมีการดัดแปลง แก้ไข หรือใช้งานแบบผิดประเภท ซึ่งต้องวางไว้ในพื้นที่แห้ง และเก็บให้พ้นมือเด็ก ห้ามใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ด่างมาทำความสะอาดเด็ดขาด ทั้งนี้ ห้ามสูดดม หรือรับประทานด้วย

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/CON031001

20


ในช่วงฤดูฝนแบบนี้เชื่อเหลือเกินว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่อาจจะเจอกับปัญหาน้ำรั่วที่มีโอกาสเกิดประจำ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาเมทัลชีท กระเบื้องรั่ว รางน้ำรั่ว หลังคาสังกะสีรั่ว หรือแม้แต่ดาดฟ้ารั่ว ฯลฯ ซึ่ง “บิวทิล” ก็จัดว่าเป็นอีกเทปกาวประเภทหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติช่วยอุดรอยรั่วในงานอุตสาหกรรมได้ดี กระนั้นบางคนอาจจะไม่รู้จักยังไม่เชื่อมั่นในการนำไปใช้ เรารวบรวมข้อมูลมาให้ศึกษาอย่างละเอียด
เหตุผลที่ควรใช้งานเทปกาวประเภท “บิวทิล” ใช้ในงานอุตสาหกรรม
ต้องบอกเลยว่าเทปกาวบิวทิลนั้นจะเป็นเทปที่เหมาะสำหรับการใช้งานแวดวงอุตสาหกรรม โดยที่มีการซ่อมแซมตู้คอนเทนเนอร์ รถบรรทุก หรือหลังคา รางน้ำ กระเบื้อง ดาดฟ้า หรืออะไรก็ตามที่มีการขยับ รับแรงลดได้ตลอดไม่มีผิดหวัง มีความแข็งแรงทนทาน ไม่เกิดการหลุดร่อนออกจากวัสดุพื้นผิวได้ง่าย ๆ ติดกับพื้นผิววัสดุได้หมด ทั้ง เหล็ก กระจก พลาสติก คอนกรีต โพลีคาร์บอเนต อะลูมิเนียม ไม้ พีวีซี หรือวัสดุทั่วไปที่มีภายในอาคารก่อสร้าง ซึ่งเป็นวัสดุที่ปิดทับอะลูมิเนียมฟอยด์คุณภาพสูง โดนความร้อนก็ไม่หดตัว ไม่มีการไหลเป็นคราบเลอะเทอะ สามารถกันความร้อนได้สูงสุด 200 องศาเซลเซียส เหมาะมากกับการใช้งานในอากาศร้อน ๆ ของเมืองไทยเราได้ และถ้าต้องการจะทาสีทับก็ทำได้สร้างความสวยงามไปอีกแบบ
วิธีการใช้งานเทปบิวทิลด้วยตัวเอง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ในส่วนของการใช้งานเทปกาวกันรั่วซึมประเภทบิวทิลก็ไม่ได้ยุ่งยากถึงกับทำเองไม่ได้ ซึ่งหากท่านใดต้องการจะใช้งานเองแล้วอยากทราบวิธีการใช้เราก็มีรายละเอียดมาแนะนำเพิ่มเติม เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด
-    เริ่มต้นให้คุณ ๆทำความสะอาดพื้นผิวของสิ่งนั้น ๆ ที่เราจะติดให้แห้งสะอาด ไม่มีน้ำมัน ไม่มีฝุ่น หรือคราบไขมันหลงเหลือ
-    ตัดตัวเทปนี้ให้เท่ากับความยาวของรอยต่อ หรือรอยรั่วต่าง ๆ ที่จะติด
-    ลอกแถบพลาสติกออก ซึ่งจะอยู่ทางด้านหลังของเทปนั่นเอง
-    แปะเทปนี้ลงบนรอยรั่ว หรือรอยต่อได้เลย
-    ให้เอาผ้ารูดทับด้านบนของผิวเทปได้เลย ทำให้เทปปิดไปกับพื้นผิวที่เราติดสนิทดี
-    ใช้เครื่องเป่าลมร้อนมาเป่าทับที่ตัวเทปอีกครั้งให้ทั่วเทปเลย ทำให้กาวละลายติดกับพื้นผิวได้อย่างดี
-    ใช้ผ้ารูดบนผิวหน้าของเทปอีกครั้ง ทำให้เทปติดสนิทมากกว่าเดิม

เทปกาวชนิด “บิวทิล” ใช้ในงานอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ช่วยกันรั่วซึม ปิดรอยต่อ ซ่อมแซมรอยแตกร้าว กันน้ำรั่ว 100% โดยที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์ทุกกลุ่มคน แถมยังสามารถทาสีทับปกปิดตัวเทปให้ดูไม่หลอกตา ไม่สะดุดตา ปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่นแนะนำเทียบเอาสิ่งที่ดีต่อตัวเองทั้งคุณภาพและราคา ใช้งานตรงใจ

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON030603

21


เมื่อเอ่ยถึงคิ้วกันแมลงแล้วนั้นก็ต้องบอกเลยว่ามีหลายรูปแบบ ทั้งยาง แปรง สอด แถบแม่เหล็ก ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายด้วย เราก็เลยได้หยิบยกมาให้ลองได้ศึกษากัน 4 แบบ 4 ยี่ห้อด้วยกัน เพื่อให้การเลือกซื้อใช้งานง่ายยิ่งขึ้น เลือกได้เองเลยตามต้องการ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้
4 รูปแบบคิ้วกันแมลง จาก 5 ยี่ห้อที่น่าสนใจซื้อใช้งาน
1. แบบแถบเเม่เหล็ก SMILE 90 เซนติเมตร
ชนิดแรกที่ตั้งใจแนะนำก็จะเป็นแถบแม่เหล็กจากแบรนด์ SMILE ที่มีขนาด 90 ซม. โดยที่จะเป็นคิ้วช่วยป้องกันแมลง ฝุ่นละออง ป้องกันฝุ่น กลิ่น เสียงที่มี ไม่ทำให้อากาศไหลเข้า – ออกได้ง่าย ๆ วัสดุก็ทำจากยางคุณภาพดี ทนทานต่อการใช้งาน ติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกของบานประตู หรือหน้าต่างได้หมด โดยที่มีทั้งสีน้ำตาล และสีขาว ราคา 199 บาท หรือหากสั่งซื้อผ่านออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 179 บาทเท่านั้น
2. แบบแปรง DEXZON BRUSH 80 เซนติเมตร สีขาว
ต่อมาเป็นคิ้วขอบประตูแบบแปรง แบรนด์ DEXZON BRUSH 80 เซนติเมตร สีขาว ที่ช่วยป้องกันแมลง ฝุ่น ที่ลอดมาทางใต้บานประตู พร้อมเก็บแสงสว่าง และเสียงได้ดี หรือหากท่านไหนที่มีเครื่องปรับอากาศต้องการป้องกันความเย็นออกไปทางบานประตูก็ใช้งานได้ ทั้งยังติดตั้งง่าย ถอดออกทำความสะอาดได้สะดวกสุด ราคาก็จะอยู่ที่ชิ้นละ 120 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านออนไลน์ก็จะลดราคาลงเหลือ 79 บาทเท่านั้น
3. แบบยางยี่ห้อ HAFELE 489.97.701 80 ซม. สีขาว
อีกยี่ห้อที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือชนิดยาง HAFELE 489.97.701 80 เซนติเมตร สีขาว ที่พร้อมช่วยป้องกันฝุ่น และแมลงเล็ดลอดเข้ามาจากใต้บานประตู โดยป้องกันการสูญเสียความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่ให้ออกไปจากภายนอกห้องได้ ซึ่งคุณสมบัติก็จะไม่เป็นเชื้อราง่าย ไม่อมน้ำ แข็งแรงทนทานต่อการใช้งานอย่างสูง ซึ่งมีราคาจัดจำหน่ายอยู่ที่ 170 บาท เมื่อเลือกซื้อเลือกหาผ่านเว็บออนไลน์ลดราคาเหลือเพียง 109 บาทเท่านั้น
4. แบบกันประตูบานเลื่อน GALL FORD 0052 100 เซนติเมตร สีน้ำตาล
คิ้วกันแมลงประตูบานเลื่อนที่จะผลิตจากพลาสติกที่มีคุณภาพ ปลอดภัยการใช้งาน ไร้สารพิษ ทำจากยางที่ไม่มีกรอบแตก นุ่ม ทำให้พื้นผิวของประตูหรือพื้นไม่เสียหาย เทปกาวติดแน่นมาก ๆ เช็ดทำความสะอาดได้ ไม่ทิ้งคราบกาวสกปรกแต่อย่างใด โดยที่มีราคาขายอยู่ที่ 165 บาท และเมื่อเลือกซื้อผ่านออนไลน์ลดราคาเหลือ 99 บาทเท่านั้น

แต่ละแบบ แต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นของคิ้วกันแมลงก็จะมีวิธีการใช้งานแตกต่างออกไป แต่ที่แน่ ๆ ทุกการใช้งานจำเป็นต้องทำความเข้าใจข้อมูลการใช้งานให้ละเอียด พร้อมเลือกชนิดให้เหมาะสมกับบานประตูเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และอย่าวางใกล้เปลวไฟ ความร้อน จัดเก็บในพื้นที่แห้ง และเก็บให้พ้นมือเด็ก

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/DOW0104

22


 บอกเลยว่าใครที่ทำงานแวดวงอุตสาหกรรม หรือต้องเดินเหยียบย่ำน้ำ ของเหลว ห้ามพลาดกับของมันต้องมีอย่างรองเท้าบูทโบว์ลิ่ง สูง 11 นิ้ว เบอร์ 10 สีดำ ที่มีคุณภาพดี สวมใส่ป้องกันได้ทนต่อน้ำรวมถึงของเหลวได้ดี และเพื่อให้คุณได้มั่นใจในการใช้งานรู้ถึงคุณสมบัติมากขึ้น รวมถึงวิธีใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวัง เรารวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาให้ศึกษา
 รองเท้าบูทยี่ห้อโบว์ลิ่ง สูง 11 นิ้ว เบอร์ 10 สีดำ คุณภาพดีสุด
 รองเท้าบูทยาวโบว์ลิ่ง สูง 11 นิ้ว เบอร์ 10 ที่สามารถสวมใส่เพื่อการป้องกันการสัมผัสน้ำได้โดยตรงอย่างดี หรือจะเป็นของเหลวต่าง ๆ ก็ช่วยป้องกันได้ ไม่ว่าจะกรด ด่าง สารเคมี ที่ไม่ทำให้ลื่นไถลขณะที่กำลังทำงาน เหมาะกับการใช้งานพื้นที่ทั่วไป ที่ต้องลงพื้นที่ที่มีน้ำหรือในช่วงฤดูฝน ทั้งงานเกษตรกรรม ทำไร่ ทำสวน หรือท้องทุ่งนา งานทำความสะอาด รวมถึงแวดวงอุตสาหกรรม โดยที่มีคุณสมบัติแจกแจงเป็นรายละเอียดให้เข้าใจมากขึ้น
 -    ช่วยป้องกันไม่ให้เท้าเปียก หรือไปสัมผัสกับสารเคมีที่มีสภาวะเป็นกรด หรือด่าง รวมถึงสารปนเปื้อนต่าง ๆ
 -    ผลิตจากยางที่มีคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดี และทนทานต่อสภาพน้ำ ถือเป็นรองเท้าบูทยางที่มีคุณภาพสูงและน่าใช้งานมาก ๆ
 -    ช่วยป้องกันเท้า หรือขาจากสัตว์มีพิษ ของมีคมต่าง ๆ รวมถึงวัชพืชที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง
 -    ช่วยในช่วงที่ฝนตกหนัก หรือพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง รวมถึงใช้ในโรงอาหาร เรือนเพาะปลูก รวมถึงงานอุตสาหกรรม

 วิธีการใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังของผลิตภัณฑ์
 สำหรับผลิตภัณฑ์ โบว์ลิ่ง สูง 11 นิ้ว เบอร์ 10 ใช้งานโดยสวมใส่เท้าเพื่อป้องกันบรรดาสารเคมี ของเหลว และน้ำ หลังจากใช้เสร็จก็ควรผึ่งแดด หรือจัดเก็บในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท ซึ่งก็ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปทรง ขนาดเท้า และหมั่นต้องดูแลทำความสะอาด บำรุงรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อให้ใช้งานยาวนานมากขึ้น

 ข้อควรระวังคือ ห้ามมีการแก้ไขสินค้า ดัดแปลง หรือใช้งานแบบผิด ๆ จัดเก็บในที่แห้ง และพ้นมือเด็ก ห้ามอยู่ใกล้ความร้อน เปลวไฟ ระวังเรื่องของมีคมที่อาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหายได้ รวมถึงในการทำความสะอาดห้ามใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรดและด่างเด็ดขาด โดยที่โบว์ลิ่ง สูง 11 นิ้ว เบอร์ 10 นี้มีราคาคู่ละ 200 บาท และหากซื้อผ่านออนไลน์ลดเหลือ 179 บาท

 เป็นยังไงกันบ้างกับรองเท้าบูทยี่ห้อโบว์ลิ่ง สูง 11 นิ้ว เบอร์ 10 สีดำ ถือว่าเป็นอีกยี่ห้อที่มีคุณภาพดีสุด พร้อมให้ได้ใช้งานได้กับทุก ๆ งาน ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่รุนแรงได้ดี ยิ่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งได้ในราคาถูกลงกว่าเดิมไปอีก หวังว่าจะทำให้การตัดสินใจซื้อใช้ง่ายมากขึ้น

 เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
 Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO020113

23


หากท่านเป็นอีกคนที่อยากใช้งาน ผลิตภัณฑ์ตาข่ายไฟเบอร์แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้ยี่ห้อใด อย่างไรดี เรารวบรวมมาให้แบบจัดเต็มเน้น ๆ กับ 4 ยี่ห้อดัง ที่มีคุณภาพดีสุด เหนียว แข็งแรง ยึดเกาะได้อย่างดี แถมมีราคาที่เหมาะสมไม่ได้สูงเกินไปด้วย แล้วจะมียี่ห้อไหนแนะนำบ้างนั้นตามมาไปทางนี้เลยดีกว่า
4 ตาข่ายไฟเบอร์ยี่ห้อดัง เหนียว แข็งแรง ยึดเกาะดีมีราคาถูก
1. ยี่ห้อ PACK IN 8 นิ้ว x 10 ม.
สำหรับ PACK IN 8 นิ้ว x 10 ม. จะเหมาะกับการใช้เพื่อปิดรอยปริต่อ งานคอนกรีต ช่องว่างขนาดเล็ก กระเบื้อง มุงหลังคา เพื่อความสวยงาม พร้อมทาสีทับได้เลยตามใจ ผลิตจากไฟเบอร์คุณภาพสูง ที่มีกาวในตัว ไม่ทิ้งรอยกาวที่พื้นผิว เพิ่มการยึดเกาะให้กับวัสดุกันซึมกับพื้นผิวได้ดี ตัวแผ่นมีความยืดหยุ่น ป้องกันการขยายตัวของรอยที่แตกร้าวได้ดี ราคาอยู่ที่ 169 บาท เมื่อซื้อ 1 ea และ 149 บาท เมื่อซื้อมากกว่า / เท่ากับ 3 e
2. แบรนด์ LANKO 1.2X6 ม. สีขาว
ต่อมาก็จะเป็นเทปตาข่ายไฟเบอร์ แบรนด์ LANKO 1.2X6 ม. สีขาว ได้ไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง เนื้อเหนียว สามารถรับแรงดึงได้มากกว่า 180 นิวตัน มีความทนต่อด่าง ปกปิดรอยแตกร้าวที่มีขนาดกว้างที่น้อยกว่า 2 มม.ได้ดีมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันการขยายตัวรอยแตก และรอยปริแตกของพื้นผิว โดยที่มีราคาขายอยู่ที่ 712 บาท และหากเลือกซื้อเลือกหาผ่านออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 665 บาทเท่านั้น
3. ยี่ห้อ BESBOND 5 CMX45เมตร สีขาว
เป็นอีกยี่ห้อที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยที่จะเป็นเนื้อเทปแบบไฟเบอร์ที่มีคุณภาพสูง ไม่ฉีกขาดได้ง่าย เหนียวแกร่งพิเศษ โดยที่ปิดรอยต่อ งานเข้ามุม หรือรอยแตกได้ พร้อมป้องกันปัญหาปริแตกของพื้นผิวได้ดี เนื้อกาวติดแล้วไม่ทิ้งรอยบนพื้น เนื้อกาวแน่นอนสุด ๆ คุณภาพดีมาก โดยที่มีราคาขาย 260 บาท ยิ่งหาซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาเหลือ 189 บาทเท่านั้น
4. ยี่ห้อ TOA 1 ม.X10 ม. สีขาว
ตาข่ายไฟเบอร์ TOA 1 ม.X10 ม. สีขาว ที่เป็นไฟเบอร์กลาสที่เคลือบอะคริลิกคุณภาพสูง ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับวัสดุกันซึม รอยติดจะขยับ จุดที่มีรอยแตกร้าว ตามขอบมุมผนังและพื้นต่าง ๆ ไม่ทำให้เกิดการฉีกขาดขณะที่กำลังเคลื่อนไหว และยังยืดอายุการใช้งานกันซึมได้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะมีราคาขายที่ 940 บาท ทันทีที่สั่งซื้อผ่านออนไลน์ยิ่งลดราคาเหลือ 769 บาทเท่านั้น

ในการใช้งานทั้ง 4 ตาข่ายไฟเบอร์ยี่ห้อดังเหล่านี้ควรมีการศึกษารายละเอียด ข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติม และต้องเลือกขนาด ชนิดของตาข่ายให้เหมาะสมกับประเภทงานที่จะใช้งานด้วย ซึ่งขณะใช้งานต้องระวังการตัดแผ่นเย่าให้ย่น หรือให้เป็นขุยที่ขอบได้ เท่านี้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพก็ตกอยู่ในมือคุณ

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON030602

24


เทปกาวแบบอลูมิเนียมถูกผลิตจากแผ่นโลหะอลูมิเนียมฟอยล์ที่ทนทานต่ออุณหภูมิไม่ว่าจะร้อนหรือเย็นก็ตาม พร้อมเคลือบเนื้อกาวอะคริลิกที่ทำให้แรงยึดเกาะดีมากยิ่งขึ้น ทนทานอุณหภูมิที่แตกต่างจากการเสื่อมสภาพของสารเคมีบางชนิด รังสี UV ควัน และไอน้ำ โดยยังใช้ติดพื้นผิวขรุขระ หรือเรียบก็เลือกเองได้หมด ทว่าในการซื้อใช้งานเพื่อให้ตรงใจและตอบโจทย์มากที่สุด การศึกษารายละเอียดเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
4 แนวทางการสั่งซื้อเทปกาวแบบอลูมิเนียมใช้งาน ผลลัพธ์คุณภาพสูง
1. ดูที่ลักษณะของเทปที่เป็นอยู่
เริ่มต้นให้ท่านดูที่ลักษณะของเทปที่เป็นอยู่ ต้องมีคุณภาพดี เรียบร้อย ไม่เสียหาย กรณีที่ไม่ได้ซื้อผ่านหน้าร้าน ก็ต้องเลือกเว็บไซต์ออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย อย่างโฮมโปรก็เป็นทางเลือกที่ดี เนื่องมาจากนอกจากจะได้เทปของแท้คุณภาพสูง ก็ยังมีลดราคาให้ด้วย
2. ความนุ่มนวลที่มีของเทป
เทปกาวกันรั่วซึมต้องมีความนุ่มนวลของเทปอยู่เมื่อใช้มือในการสัมผัส กรณีที่เทปมีความหนา หรือแข็งมากเกินไป ก็จะไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานด้วยเหตุว่าอาจขาดความยืดหยุ่นก็เป็นได้ กรณีที่เทปมีความนิ่มมากเกินไป ก็จะหลุดลอกออกง่ายกว่าเดิม ด้วยความต้านทานแรงดึงของเทปมีไม่เพียงพอนั่นเอง
3. ทดลองใช้เทปก่อนเสมอ
แนะนำว่าให้ทดลองใช้เทปที่ซื้อมาก่อนก็ได้ในกรณีที่ซื้อผ่านออนไลน์ เพื่อเป็นการทดสอบว่าแต่ละชั้นของกาวเป็นยังไง มีความสม่ำเสมอไหม หรือมีความบางมากเกินไป ก่อนที่จะเอาไปใช้งานจริง ๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงตอบโจทย์การใช้งานผลิตภัณฑ์มากที่สุด
4. สามารถลนไฟได้ ทนทานสุด
แน่นอนว่าเทปแบบอลูมิเนียมนี้ก็จะต้องมีความสามารถต่ออุณหภูมิไม่ติดไฟได้ดี เหตุเพราะโดยทั่วไปตัวเทปจะมีสารเคลือบป้องกันติดไฟที่ดีมาก ไม่ทำให้เกิดการเผาไหม้ได้ง่าย ๆ อาจจะลองเอาเทปไปลนไฟก่อนก็ได้ เหตุเพราะเทปก็จะแค่มีเขม่าคาร์บอนติดเท่านั้น แค่เช็ดออกจากอลูมิเนียมฟอยล์ก็กลับมาเป็นสีอลูมิเนียมเดิมแล้ว

อย่างไรก็ดี ต้องรู้จักระวังในการใช้งานเทปอลูมิเนียมนี้ด้วย โดยไม่ควรใช้เทปกับสิ่งที่มีชีวิต หรือห้ามแปะกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเหตุเพราะแรงยึดเกาะแน่นมาก ดึงออกอาจจะเกิดอุบัติเหตุ หรือทำให้ผิวระคายเคืองได้ ซึ่งควรเก็บให้พ้นจากมือเด็ก หรือเปลวไฟ รวมทั้งห้ามมีการดัดแปลง แก้ไขตัวเทปหรือนำเทปไปใช้งานแบบผิดประเภท

มั่นใจได้เลยว่าเทปกาวแบบอลูมิเนียมเพื่อการเลือกใช้งานเหล่านี้เมื่อได้ศึกษาและลองนำไปปรับใช้ผลลัพธ์คุณภาพสูงตามมาแน่นอน ไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ ยิ่งสั่งซื้อผ่านออนไลน์ก็จะได้รับความสะดวก รวดเร็ว นั่งอยู่ที่บ้านก็มีของคุณภาพมาส่งแล้ว

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/CON0301

25


ในการใช้งาน “ปั๊มจุ่ม” ใช่ว่าจะรีบ ๆ ซื้อ รีบ ๆ จ่ายเงินแล้วเอามาใช้งานเกิดประโยชน์สูงสุด เพราะว่าบางครั้งเราอาจจะมีข้อผิดพลาดได้ ด้วยเหตุนั้น เรื่องของอุปกรณ์นี้ที่เรากำลังจะแนะนำเป็นสิ่งที่ต้องศึกษา ต้องรู้และทำความเข้าใจก่อนเสมอ เพื่อให้การหาซื้อใช้งานผ่านไปได้ราบรื่นมากที่สุด ว่าแล้วก็ตามมาทางนี้ได้เลยอย่ารอช้า
รู้จักอุปกรณ์ปั๊มจุ่มแบบเจาะลึก
ปั๊มไดโว่ เป็นปั๊มที่มีลักษณะการใช้งานตรงตามชื่อเรียกได้เลย โดยที่จะต้องเอาตัวปั๊มไปจุ่มอยู่ในน้ำแล้วเปิดสวิตซ์ให้เครื่องทำงานเป็นการสร้างพลังงาน ทำให้เกิดน้ำไหลเวียนไปตามทิศทางการหมุนที่ใบพัดพัดไป ก่อนที่กระแสน้ำนั้นจะถูกส่งออกทางท่อน้ำสูบน้ำแจกที่หนึ่งไปยังอีกที่ ทำให้เป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อย่างฟาร์มกุ้งเมื่อใช้งานก็จะเป็นการเพิ่มออกซิเจน ที่น้ำหมุนเวียนได้ดี
ประเภทของปั๊มจุ่มแบ่งตามการทำงาน
ในส่วนของประเภทปั๊มที่มีนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ เป็นไปตามลักษณะการทำงานของตัวปั๊มที่แตกต่างกัน คือ ปั๊มที่มีลูกลอย เป็นปั๊มที่นำไปจุ่มที่น้ำทำให้ลูกลอยลอยตัวสูงขึ้น เมื่อมีการสูบน้ำจนหมดลูกลอยก็จะลมเพื่อทำให้เครื่องปั๊มตัดการทำงานไปแบบอัตโนมัติ ส่วนอีกประเภทคือชนิดไม่มีลูกลอย ที่จะไม่สามารถควบคุมการทำงานของปั๊มได้แบบอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้งานต้องคอยควบคุมสวิตช์ปิด – เปิดของปั๊มด้วยตัวเอง
ประเภทปั๊มจุ่มที่มีให้เลือกใช้ทั่วไป
จริง ๆ ก็จะแบ่งประเภทของไดโว่ออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือบอดี้ปั๊มพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก ทนทานมากน้อยขึ้นอยู่กับพลาสติก บอดี้ปั๊มแบบอะลูมิเนียม ที่มีความแข็งแรงทนทานสูง บอดี้ปั๊มแบบเหล็กหล่อ แข็งแรงทนทานจริง แต่ก็จะหนักและทำให้การขนย้ายลำบาก สุดท้ายคือบอดี้ปั๊มสเตนเลสที่แข็งแรงทนทาน ไม่ทำให้เกิดสนิมและกัดกร่อนได้ง่าย ๆ

จุดเด่นของปั๊มจุ่ม
ปกติปั๊มลักษณะนี้ก็จะมีขนาดเล็ก กะทัดรัด ทนทานต่อการกัดกร่อน การกระแทกได้ดี สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว แค่จุ่มตัวปั๊มลงในน้ำเท่านั้น ไม่ต้องติดตั้งเครื่องให้วุ่นวาย ทั้งยังมีแรงสั่นสะเทือน เสียงรบกวนที่น้อยกว่าแบบปั๊มน้ำแรงดันสูง ปั๊มบ้าน ปั๊มออโต้ ปั๊มอุตสาหกรรม โดยที่มอเตอร์ก็ทำงานได้นาน ไม่ร้อนง่ายด้วย

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ปั๊มจุ่มที่หลายยี่ห้อ หลายรุ่นมาก แนะนำว่าให้เปรียบเทียบถึงคุณสมบัติ ฟีเจอร์พิเศษ รวมไปถึงราคาจากผลิตภัณฑ์ที่สนใจ เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน และงบที่มี พร้อมใช้งานได้ราบรื่นสมใจไม่ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/PLU0604

26


แผงโซล่าเซลล์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยที่จะเป็นการนำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปดำเนินการต่อกับระบบแผง โดยที่ปัจจุบันนี้หลาย ๆ ท่านบ้านและที่พักอาศัยก็เลือกที่จะติดตั้งอุปกรณ์นี้ใช้งาน แต่ว่าบางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจ ไม่รู้เกี่ยวกับการทำงานรวมถึงการเลือกให้เหมาะกับบ้านและที่พักอาศัย เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เรารวบรวมข้อมูลมาให้ศึกษา
ขั้นตอนทำงานของระบบแผงโซล่าเซลล์ เพื่อการใช้สร้างพลังงาน
ในส่วนของใครที่กำลังมีความคิดจะติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องไม่ลืมที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของระบบ เพื่อการนำไปสร้างพลังงานที่ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด เราไม่รอช้าที่จะนำมาอธิบายเพิ่มเติม
-    เริ่มต้นเมื่อเช้าตรู่มีแสงแดดส่องมาที่อุปกรณ์แผง ที่เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าได้
-    ปรับแรงดันไฟฟ้าที่ได้ด้วยเครื่องควบคุมประจุให้กลายเป็น 12V (Solar Charge Controller) เพื่อเป็นการควบคุมแรงดันของไฟฟ้าให้มีความคงที่ กระแสไฟฟ้าที่ได้ก็จะเป็นรูปแบบ DC หรือกระแสตรง
-    อุปกรณ์แผงก็จะเก็บสำรองเป็นพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ ในกรณีที่ระบบ Solar Sell เป็นรูปแบบ Off Grid
-    สุดท้ายก็จะแปลงไฟฟ้าจาก DC หรือกระแสไฟฟ้าตรงสลับเป็น AC หรือกระแสไฟฟ้าสลับ โดยใช้ตัวแปลงกระแส หรืออินเวอร์เตอร์ที่ทำให้ไฟฟ้าที่ได้มานำไปใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับได้ หรือจะใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปที่มีภายในบ้านก็ได้ด้วยเช่นกัน

การเลือกแผง Solar Sell ให้เหมาะกับบ้านและที่พักอาศัย
ในส่วนของการเลือกแผง Solar Sell นั้นหากเป็นการใช้เพื่อติดตั้งที่หลังคาก็จะมีตั้งแต่ขนาด 1 - 12 กิโลวัตต์ หรือ 1,000 - 12,000  วัตต์ สามารถเลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ ลดภาระการใช้ไฟฟ้าตอนกลางวันได้สูงสุด 30 - 70% เลยทีเดียว โดยจะขึ้นอยู่กับขนาดในการติดตั้งตามความต้องการเกี่ยวกับ Requirement ในแต่ละคนด้วย  ระบบที่ติดตั้งสำหรับบ้านหรือที่พักอาศัยก็จะเป็น On grid ที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบไฟฟ้า เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด ถามว่าแผงโซล่าเซลล์ ราคาเท่าไหร่? จริง ๆ ก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์กำหนด รวมถึงขนาดวัตต์ด้วย ยังไงก็ลองศึกษาเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อกันดูได้ แต่แอบบอกว่าซื้อผ่านเว็บไซต์ออนไลน์มีส่วนลดด้วยนะ
และหากใครที่ไม่รู้จักระบบ On grid ก็คือระบบที่ใช้ทั้งไฟจากการไฟฟ้า และไฟฟ้าที่ได้จากแผงโดยตรงนั่นเอง เหมาะสมกับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าตอนกลางวันมาก มีจะไม่มีแบตเตอรี่สำรองไฟแต่อย่างใด ผลิตมาแล้วก็ใช้งานไฟฟ้าในทันที ระบบนี้ค่อนข้างเป็นที่สนใจในปัจจุบันอย่างมาก ทั้งนี้ จะติดตั้งโซล่าเซลล์ระบบนี้ก็ต้องมีการขออนุญาตจากการไฟฟ้าก่อนด้วยทุกครั้ง ซึ่งเราก็หวังว่าการตกลงใจติดตั้งของท่านต่อจากนี้จะกลายเป็นเรื่องสะดวกมากกว่าเดิม

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/ELT0802

27


หน้ากากอนามัยชนิดไหนป้องกันฝุ่น? เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่านี่กำลังเป็นคำถามในใจใครหลายคนเนื่องมาจากปัจจุบันเรื่องของฝุ่นเจอกันได้ทุกวันโดยเฉพาะ PM 2.5 ที่จัดว่าเป็นวายร้ายทำลายปอดของเราเลยทีเดียวหากได้สูดดมในทุก ๆ วัน ซึ่งเราก็อยากให้คำถามนี้หมดไป จึงได้รวบรวมแมสช่วยป้องกันฝุ่นมาบอกต่อ พร้อมแนะนำเพิ่มเติมถึงวิธีการใส่ให้ได้ประสิทธิภาพเพิ่มเติมไปด้วย
หน้ากากอนามัยแบบไหนป้องกันฝุ่น? คำถามนี้เรามีคำตอบ
ในคราวนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับหน้ากากกันฝุ่นเพื่อป้องกันตนเองในช่วงเวลาที่ทุกวันนี้ฝุ่น PM 2.5 รวมถึง COVID – 19 ปะปนในอากาศ ว่าแต่จะมีหน้ากากชนิดไหน อย่างไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
-    หน้ากาก N95 : ที่เป็นหน้ากากกรองฝุ่นควัน รวมไปถึงเชื้อไวรัสขนาดเล็กสูงสุด 0.3 ไมครอน ที่พร้อมป้องกันแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ดักจับฝุ่น PM 2.5 ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ที่ทำได้ไม่น้อยกว่า 95%
-    หน้ากากแบบอนามัย Surgical Mask : ที่จะมีฟิลเตอร์แผ่นกรอง 3 ชั้น โดยที่ป้องกันได้ทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ หรือสารคัดหลั่งต่าง ๆ ได้ แต่ก็ยังป้องกัน PM 2.5 ไม่ได้
-    หน้ากากผ้า Fabric Mask : ที่สามารถซักและนำกลับมาใช้ซ้ำได้เลยตามใจ แต่ก็ควรเลือกที่มีใยผ้าขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน เพื่อให้ประสิทธิภาพการกรองฝุ่น สารคัดหลั่ง เกสรดอกไม้ เชื้อไวรัสยังคงมีอยู่ แต่ก็จะกรอกฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ไม่ได้ หรือเชื้อโรคที่เล็กมาก ๆ มากกว่า 0.3 ไมครอน
-    หน้ากาก Super 3D : ที่มีความสามารถในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 รวมถึงเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี รูปทรงกระชับหน้า ขอบแมสแนบสนิทไปกับใบหน้าของผู้สวมใส่

วิธีการใส่หน้ากากให้ถูกต้อง ช่วยป้องกันฝุ่น แบคทีเรีย ไวรัสได้ดี
สำหรับการสวมใส่แมสปิดปากก็ยังคงจำเป็นต้องศึกษากันอยู่ เพื่อช่วยป้องกันฝุ่น แบคทีเรีย ไวรัส เกสรดอกไม้ หรือสารคัดหลั่งต่าง ๆ ได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ ให้ท่านเริ่มต้นจากการล้างมือใหม่สะอาดก่อนสัมผัสแมส ต่อไปก็ใช้มือจับสายแมสทั้ง 2 ข้างคล้องไปที่หู ตรวจสอบรู รอยขีดขาด และความสะอาดของแมสก่อนสวมใส่ด้วย โดยต้องดึงสายให้คล้องหู และปิดลงมาถึงใต้คาง กดสันเหล็กให้แนบแน่นที่สันจมูก ทั้งนี้ ต้องเปลี่ยนแมสทันทีเมื่อรู้สึกว่าชื้น หรือเห็นสิ่งสกปรก เพื่อไม่ทำให้ใบหน้าเกิดปัญหาสิวตามมาภายหลังได้นั่นเอง

การเลือกหน้ากากอนามัยและใช้อย่างถูกต้อง รวมถึงสวมใส่เหมาะสมถือว่ามีความสำคัญอย่างมากมาย เพื่อเป็นการป้องกันร่างกายให้ห่างไกลจากสิ่งสกปรก ฝุ่น แบคทีเรีย ไวรัส รวมไปถึง Covid – 19 ที่ปัจจุบันก็ยังคงมีปะปนในอากาศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็หวังว่าหลังจากนี้เพื่อนๆจะสามารถเลือกซื้อเลือกหาแมส รวมทั้งใส่ได้ดี ไร้ปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจเข้ามาในชีวิต

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO020106

28


ในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศปัจจุบันนี้มีได้รับความนิยมสูงสุด แต่ก็เชื่อว่ามีบางคนอาจจะยังไม่ทราบถึงสิ่งที่ห้ามทำเมื่อคิดจะใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ว่านี้ เราไม่อยากให้การทำงานของเครื่องลดน้อยลง ยืดอายุการใช้งาน พร้อมให้อากาศบริสุทธิ์ เรารวบรวม 5 สิ่งที่ห้ามทำเมื่อติดจะใช้งานมาบอกต่อ ว่าแล้วก็ไปติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้
4 สิ่งต้องห้ามเมื่อใช้งานเครื่องฟอกอากาศ เพื่อประสิทธิภาพ
1. อย่าวางสิ่งของทับเครื่อง
เริ่มต้นก็คือไม่ควรเอาของ หรืออะไรก็ตามหนัก ๆ ไปวางทับเครื่อง เพราะอาจจะบดบังอากาศ หรือวางไปก็มีโอกาสโดนปุ่มได้ ทำให้การตั้งค่าของเครื่องมีความเปลี่ยนแปลง ทั้งยังห้ามนั่งทับ หรือพิงเครื่องฟอกด้วย ทั้งนี้เพราะจะไปกีดขวางการทำงานด้วยเช่นกัน ท่านใดที่จะใช้งานเครื่องก็อย่าเอาอะไรไปวางกันล่ะ
2. อย่าปิดกั้นการไหลเวียนของเครื่อง
เครื่องกรองอากาศจะมีการทำงานที่ดึงอากาศด้านล่างของเครื่องนำไปฟอกอากาศก่อนปล่อยออกจากเครื่อง บางรุ่นอาจจะดึงอากาศจากด้านบนเครื่องฟอกที่เสร็จก็จะปล่อยมากลางเครื่อง ดังนั้นตำแหน่งที่วางเครื่องก็สำคัญด้วยเช่นกัน ดูว่าเครื่องมีทางออกส่วนไหนก็อย่าไปวางปิดกั้นเครื่อง ควรวางให้โล่งไม่มีอะไรกั้นไม่อย่างนั้นจะไปทำลายการทำงานของเครื่อง สุดท้ายอาจจะส่งผลต่อการดูแลเครื่องได้
3. อย่าเสียบปลั๊กเครื่องค้างไว้
หลังจากที่คุณ ๆใช้งานเครื่องเสร็จแล้วอยากให้ปิดตัวเครื่องและถอดปลั๊กที่เสียบออก โดยที่ต้องดึงออกจากเครื่องด้วย และอย่าเพิ่งถอดปลั๊กออกทันทีที่เครื่องยังทำงานอยู่ อาจจะเป็นผลกับระบบได้ หรือโปรแกรมที่มีในเครื่องยังทำงานค้างไว้ ทำให้มีโอกาสที่ไฟจะกระชากเครื่องจนส่งผลต่ออายุการใช้งานระยะยาวได้ จะเป็นเครื่องมีแบรนด์ดีแค่ไหน เครื่องฟอกอากาศ Phillips, Sharp, LG ฯลฯ
4. ห้ามเอาเครื่องไปใช้ฟอกนอกอาคาร
เนื่องจากหลักการทำงานของเครื่องดึงอากาศมาฟอกตัวเครื่อง แล้วปล่อยให้มันหมุนเวียนในห้อง การเอาไปใช้ข้างนอกอาคารซึ่งจะมีสิ่งปนเปื้อนในมลภาวะจำนวนมาก จะทำให้เครื่องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา ส่งผลลัพธ์ให้เครื่องเสื่อมอายุการใช้งานได้เร็ว จะเครื่องฟอกอากาศ Sharp หรือแบรนด์ไหนก็ตาม ทั้งควรใช้เครื่องฟอกกับอากาศที่แห้งด้วย เพื่อป้องกันการสะสมความชื้น เลี่ยงการไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงตลอด หรืออยู่ใต้เครื่องปรับอากาศ

ทั้งนี้ ในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศก็ต้องเปลี่ยนแผ่นเพราะว่าจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องไม่ทำงานหนักเกินไป ทำให้ใช้ไฟฟ้าต่ำ เพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องให้มีมากขึ้น อาจจะทำความสะอาดเดือนละครั้ง หรือสัปดาห์ละ 1 ครั้งในช่วงที่มีฝุ่นมาก

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/SMA0301

29


เป็นอีกอุปกรณ์ที่ควรมีติดตัวไว้เลยกับเครื่องฟอกอากาศพกพา ยี่ห้อ SABAIDEE CARE สีขาว ที่มีประสิทธิภาพการทำงานดีมาก ปล่อยประจุลบได้สูง ใช้งานเมื่อชาร์จ 1 ครั้ง ยาวนาน 8 - 12 ชม. เลยด้วย เรียกว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด แถมยังรับประกันสินค้า 1 ปีด้วย ท่านใดที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอยู่แนะนำว่าให้เลือกซื้อยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ไม่ผิดหวัง
คุณสมบัติเครื่องฟอกอากาศพกพา SABAIDEE CARE สีขาว
ยี่ห้อ SABAIDEE CARE สีขาว เป็นเครื่องฟอกอากาศห้อยคอที่มีความโดดเด่นและทันสมัยมาก แม้จะขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาได้สะดวกมาก ซึ่งน้ำหนักก็เบาด้วยไม่ต้องกังวล ใช้งานได้ดี โดยที่มีความสามารถในการปล่อยประจุได้ 6,500,000 ประจุ ต่อ 1 วินาที พร้อมช่วยดักจับฝุ่น ทำให้อากาศสะอาดสดชื่น ป้องกันละอองเกสร ฝุ่น PM 2.5 ควันบุหรี่ รวมทั้งแบคทีเรียต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดภูมิแพ้ได้ การใช้งานก็ทำได้ดี ไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์ ความปลอดภัยสูงผ่านการรับรองมาตรฐานด้วย เหมาะอย่างยิ่งกับการพกพาในที่ต่าง ๆ ได้ห้อยติดตัวทั้งวัน ช่วยในการกรองอากาศได้ดี ปรับเปลี่ยนอากาศให้สะอาดดีต่อสุขภาพสุด ๆ มั่นอกมั่นใจทุกการหายใจ
-    ช่วยดูดซับอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ ทั้งควันบุหรี่ ฝุ่น PM 2.5 สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ เกสรดอกไม้ แบคทีเรีย ฯลฯ
-    ปล่อยประจุลบได้มาก 6,500,000 ต่อ 1 วินาที พร้อมครอบคลุมพื้นที่ได้รอบตัว 100 เซนติเมตร 
-    เหมาะอย่างยิ่งกับการพกพา ใส่ติดตัวได้เลยตลอด น้ำหนักเบามากแค่เพียง 30 g.เท่านั้น
-    มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE ที่ผ่านการทดสอบ SGS
-    ใช้งานง่ายไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์ก่อน และเมื่อชาร์จ 1 ครั้งก็จะใช้งานได้ 8 - 12 ชั่วโมง
  -    สินค้ารับประกัน 1 ปี

วิธีการใช้งาน คำแนะนำ ข้อควรระวังในการใช้งาน
ในส่วนของวิธีการใช้งานเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กนี้ จะใช้เพื่อฟอกอากาศไอออน เป็นชนิดพกพาเพื่อห้อยคอ แค่กดปุ่ม Power เปิดใช้งานได้ทันที ทั้งนี้ ต้องศึกษาคู่มือก่อนการใช้งานโดยละเอียด ด้านนอกของอุปกรณ์ความสะอาดก็ต้องแห้งด้วยห้ามใช้ผงซักฟอกที่กัดกร่อนมาทำความสะอาด  ข้อควรระวังคือหากอุปกรณ์ทำงานไม่ถูกต้อง มีสิ่งแปลก ๆ หลังโดนน้ำ หรือตกให้หยุดใช้ทันที อย่าให้ของเหลว หรือน้ำเข้าอุปกรณ์ และอย่าปิดอุปกรณ์ขณะที่กำลังทำงาน อย่าถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์ด้วยตัวเอง อย่าให้ไปอยู่ในอุณหภูมิหรือสภาพแวดล้อมที่มีวัตถุไวไฟระเบิดได้ ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เป็นโรคหัวใจ ก่อนใช้งานอุปกรณ์ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
เครื่องฟอกอากาศพกพา ยี่ห้อ SABAIDEE CARE สีขาวมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ โดยที่มีราคาอยู่ที่ 1,990 บาทเท่านั้น โดยที่คุณสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้ผ่านออนไลน์ง่าย ๆ ได้เลย กดคลิกเดียวมีมาส่งให้ถึงหน้าบ้านไม่ต้องเสียเวลาออกไปไหนให้ลำบาก

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/SMA0306

30


เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์นับว่าสำคัญอย่างมากในการนำมาติดตั้งไว้ในรถยนต์ของคุณ ๆ และยี่ห้อ SHARP IG-NX2B-A 3.6 ตารางเมตร ก็น่าสนใจอย่างมาก และหากใครที่อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเราไม่พลาดที่จะรวบรวมมาบอกต่อการันตีว่าสิ่งนี้ควรมีติดไว้ เนื่องด้วยนอกจากคุณสมบัติแล้วก็ยังมีราคาจับต้องได้ด้วย ว่าแล้วก็ไปติดตามกัน
เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อ SHARP IG-NX2B-A 3.6 ตารางเมตร
เพื่อให้การสูดอากาศในรถมีประสิทธิภาพสูงแน่ใจได้ตลอดทาง ก็ต้องมีเครื่องฟอกภายในรถยนต์มาใช้งาน โดยการออกแบบก็สวยด้วยมีขนาดพกพาได้ง่ายด้วยรูปทรงแก้วน้ำ เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำให้การฟอกรวดเร็ว พร้อมกำจัดเชื้อโรคได้ สบายกลิ่นอับชื้นได้ ไม่ทำให้เกิดภูมิแพ้ ทั้งยังใช้งานสะดวกผ่านเชื่อมต่อผ่าน USB ที่ทำให้เพลินกับอากาศสดชื่นดีต่อสุขภาพ
-    สะดวกใช้งานง่ายมากขึ้นผ่านทาง USB ที่มีอะแดปเตอร์เพื่อใช้ในรถยนต์
-    ช่วยฟอกอากาศได้รวดเร็วมาก ด้วยอนุภาคพลาสม่าคลัสเตอร์บวกแบบเข้มข้นเพิ่มมาจากปกติ 2 เท่า
-    รูปทรงแก้วน้ำมีความกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ ใช้ได้ทั้งในรถยนต์และสถานที่ภายในอาคารก็ไม่ผิดหวัง
-    ปรับระดับความแรงลมได้ 3 ระดับ
-    มีส่วนช่วยฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา ไข้หวัดนก H5N1 ไรอากาศ สลายสารก่อภูมิแพ้ สลายกลิ่นอับชื้น
-    อายุการใช้งานยาวนานสูงถึง 17,500 ชั่วโมง
-    มีการรับประกันสินค้านาน 1 ปี

การใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
ควรมีการศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด โดยที่จะใช้เพื่อฟอกอากาศบนรถยนต์ หรือภายในอาคาร โดยที่มีความสามารถในการทำงานครอบคลุมพื้นที่ 3.6 ตารางเมตร โดยมีข้อควรระวังในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศในรถ SHARP IG-NX2B-A 3.6 ตร.ม. โดยห้ามติดตั้งเครื่องใกล้บริเวณที่มีความชื้นสูง มีความร้อน ห้ามทำให้สายไฟเกิดแสงแดดโดยตรง ห้ามสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะของปลั๊กกับที่เสียบจุดบุหรี่ของสายอะแดปเตอร์ ห้ามให้เครื่องโดนแสงแดดจัดแบบโดยตรงเนื่องจากอาจจะทำให้เครื่องเสียหายง่าย และห้ามวางไว้ในพื้นที่ที่ผิวสั่นสะเทือนหรือเป็นแนวระนาบ โดยที่ผลิตภัณฑ์นี้มีราคาอยู่ที่เครื่องละ 5,990 บาท ซึ่งหากซื้อผ่านออนไลน์เหลือเพียง 4,990 บาท คือลดไปทันที 1,000 บาทซึ่งถือว่าสูงมาก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมืองไทยของเรานั้นมีมลภาวะทางอากาศที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ และรถยนต์ก็เป็นยานพาหนะที่ก็มีโอกาสเจอสิ่งสกปรกเข้ามาได้ง่าย ๆ การที่มีเครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อ SHARP IG-NX2B-A 3.6 ตารางเมตร ไว้ การันตีว่ามีประสิทธิภาพในการใช้งานสูง และยังคุ้มกับราคาที่เสียไปแน่นอน ยิ่งสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ราคาลดไปอีก ไม่ซื้อไม่ได้แล้วจริง ๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/SMA0305

31


หากว่าใครที่กำลังจะใช้งานแผ่นกรองอากาศแต่ก็ยังมีความลังเลใจ ยังตกลงใจสั่งซื้อไม่ได้ อยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับเคล็ดลับการใช้งาน และวิธีเก็บรักษาที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น แล้วจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ลองไปศึกษารายละเอียดพร้อม ๆ กันดีกว่า รับประกันว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
วิธีการใช้งานแผ่นกรองอากาศ ที่ต้องทำความเข้าใจ
1. การใช้งานแผ่นกรอง
ด้วยความที่แผ่นกรองนี้จะมีอายุการใช้งานจำกัด โดยที่สามารถวัดได้จากระยะการใช้งานที่ไม่เท่ากัน มีทั้ง Pre Filter ควรเปลี่ยนเมื่อ Pressure Drop ตกคร่อม Pre Filter ไม่เกิน 1 W.G. ประมาณ 3 – 6 เดือนในสภาวะปกติ, HEPA/ULPA Filter ที่ควรเปลี่ยนเมื่อ Pressure Drop ตกคร่อมไม่เกิน 2W.G. หรือประมาณ 1 ปี (12 เดือน), Medium Filter ที่ควรเปลี่ยนเมื่อ Pressure Drop ตกคร่อมไม่เกิน 1.5 W.G. หรือ 6 – 12 เดือน
2. การติดตั้งแผ่นกรอง
ในส่วนของการติดตั้งแผ่นกรองเครื่องฟอกอากาศควรต้องทราบเกี่ยวกับสภาพโดยตรงตรวจสอบให้อยู่ในความสมบูรณ์ สามารถใช้งานได้ปกติ อย่างโครงสร้างเฟรมแผ่นกรองที่ไม่หักงอ หรือเสียหายชำรุด เนื้อกรองต้องยึดติดเฟรมที่แน่น ไม่มีรอยฉีก ชำรุด และไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ทั้งปะเก็นต้องยึดติดกับตัวเฟรมที่แน่นไม่หลุดออก ปะเก็นก็ต้องมีคุณภาพพร้อมใช้งาน

ก่อนจะเปลี่ยนก็ต้องปิดเครื่องแผ่นกรองก่อน ถอดรื้อแผ่นกรองอากาศเดิมออก ทำความสะอาดที่ Housing ติดตั้ง นำแผ่นกรองอากาศใหม่ที่ผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ติดตั้งไว้อย่าให้มือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ สัมผัสเนื้อกรองที่อาจทำให้เสียหายทำให้การกรองประสิทธิภาพลดน้อยลง ล็อคหรือยึดแผ่นกรองให้เรียบร้อย พร้อมตรวจสอบความแข็งแรง ไร้รอยรั่ว

แนวทางการเก็บรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานแผ่นกรอง
ในส่วนของการเก็บรักษาไส้กรองอากาศเพื่อยืดอายุการใช้งานนั้นก็เป็นข้อสำคัญและควรต้องมีการศึกษาแนวทางเอาไว้บ้าง โดยมีด้วยกันคือ
-    แนะนำให้เลือกบำรุงรักษา Pre Filter ให้ตรงตามคำแนะนำ เพื่อให้ส่วนอื่น อย่าง Medium, Filter และ HEPA Filter มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นกว่าเดิม
-    หากไม่ต้องการให้แผ่นกรองเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ไม่ควรเก็บแผ่นในสถานที่ที่ความชื้นสูง หรืออุณหภูมิสูง
-    ควรมีการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแผ่นกรองที่ใช้งานร่วมกัน เพื่อให้คงสภาพการใช้งาน
-    ไม่ควรย้ายแผ่นกรองโดยไม่จำเป็นเนื่องด้วยโครงสร้างเฟรม หรือเนื้อกรองจะเสียหายได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่าง ๆ ก็มีส่วนในการเก็บรักษา หรือยืดอายุใช้งาน อย่าง ปริมาณความเข้มของฝุ่นที่มีมากอายุการใช้งานของแผ่นกรองอากาศก็จะสั้นกว่า แต่ละสถานที่ก็จะมีฝุ่นแตกต่างกัน อายุการใช้งานในแต่ละสถานที่ก็จะแตกต่างกันตามไปด้วย ฤดูกาลก็สำคัญ อย่างฤดูฝนปริมาณฝุ่นก็จะน้อยกว่าเนื่องด้วยน้ำมาชะล้างลงสู่พื้นดิน ส่วนฤดูหนาวก็จะมีอากาศแห้งแล้ง ฝุ่นก็จะมาก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/SMA0309

32
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ กรุงเทพ บ้านที่อบอุ่นและปลอดภัยสำหรับคนที่ท่านรัก

เมื่อคนที่คุณรักเริ่มมีอายุมากขึ้น ความต้องการการดูแลและการสนับสนุนก็เพิ่มขึ้น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสามารถเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีการดูแลเป็นอย่างดี
บริการที่ครอบคลุมสำหรับความต้องการที่หลากหลาย

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ทันสมัยให้บริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้สูงอายุ บริการเหล่านี้อาจรวมถึง:
• การดูแลทางการแพทย์: พยาบาลและแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยดูแลผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
• การดูแลส่วนบุคคล: ช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวัน อย่างเช่น การอาบน้ำ การแต่งตัว และการรับประทานอาหาร
• กิจกรรมทางสังคมและการพักผ่อนหย่อนใจ: กิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นจิตใจและร่างกาย อาทิเช่น งานฝีมือ เกม และการออกกำลังกาย
• อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ: มื้ออาหารที่ปรุงอย่างดีและมีคุณค่าทางโภชนาการซึ่งคำนึงถึงความต้องการด้านอาหารของผู้สูงอายุ
• สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย: สถานที่ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้สูงอายุทุกคน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น ได้แก่ ห้องน้ำที่เข้าถึงได้ ราวจับในห้องน้ำ

ประโยชน์ของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ กรุงเทพ
การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสำหรับคนที่คุณ ๆรักมีประโยชน์มากมาย ได้แก่:
• ความอุ่นใจ: คุณสามารถมั่นอกมั่นใจได้ว่าคนที่คุณรักได้รับการดูแลอย่างดีและปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่ดีไซน์มาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของพวกเขา
• การดูแลแบบมืออาชีพ: พนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและมีประสบการณ์จะให้การดูแลที่เป็นมืออาชีพและมีคุณภาพสูง
• การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม: ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุให้โอกาสผู้สูงอายุในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้คนในวัยเดียวกัน
• การกระตุ้นทางจิตใจและร่างกาย: กิจกรรมและโปรแกรมที่ดีไซน์มาเพื่อกระตุ้นผู้สูงอายุทั้งทางจิตใจและร่างกาย
• การบรรเทาภาระของครอบครัว: ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวในการดูแลผู้สูงอายุที่คุณรัก

การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสม
เมื่อเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ข้อสำคัญคือต้องไตร่ตรองถึงปัจจัยหลายประการ ได้แก่:
• บริการที่ให้: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าศูนย์ให้บริการที่ตรงกับความต้องการของคนที่คุณรัก
• คุณสมบัติของพนักงาน: ถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและประสบการณ์ของพนักงาน
• สภาพแวดล้อมทางกายภาพ: เยี่ยมชมศูนย์เพื่อประเมินสภาพแวดล้อมทางกายภาพและความสะดวกสบาย
• ค่าใช้จ่าย: พิจารณาค่าใช้จ่ายของศูนย์และเปรียบเทียบกับงบประมาณของคุณ
• คำวิจารณ์: อ่านคำวิจารณ์จากครอบครัวอื่นๆ ที่ใช้บริการศูนย์

การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสมสามารถทำให้คนที่ท่านรักมีชีวิตที่มีคุณภาพและมีสุขภาพดีในช่วงปีทองของพวกเขาได้
ศึกษารายละเอียดอื่น ๆเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.thaielder.com/nursinghome/province/10/bangkok
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/profile.php?id=61556118675422
อีเมล : contact@thaielder.com
โทรศัพท์ : 0818087558






33


ครั้งนี้เราจะมาบอกต่อถึงอาหารแมวในราคาหลักร้อย ที่คุณ ๆสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้เลยตามต้องการ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ อิ่มท้องด้วย และยังมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วยเช่นกัน แต่จะมียี่ห้อใด อย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมกันได้เลย การันตีว่าผลลัพธ์สำหรับน้องแมวไม่ธรรมดาแน่นอน
อาหารแมวราคาหลักร้อย รู้ไว้เลือกให้น้องแมวอย่างเหมาะสม
1. KANIVA SALMON TUNA AND RICE 380 ก.
เริ่มต้นแบรนด์แรกกับ KANIVA SALMON TUNA AND RICE 380 กรัม ที่เป็นสูตรเนื้อปลาแซลมอน ข้าว ทูน่า ที่เป็นทั้งอาหารลูกแมว และแมวโตในทุกสายพันธุ์ โดยที่จะมีการผสมเนื้อปลาแซลมอนโปรตีนสูงด้วย ช่วยเสริมสร้างระบบกล้างเนื้อต่าง ๆ อย่างดี พร้อมโอเมก้า 3 และ 6 ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น บำรุงขนให้นุ่มสวย อ่อนโยน จำหน่ายในราคาถุงละ 92 บาท
2. NEKKO LOVEMIX CHICKEN FOR INDOOR ADULT 400 กรัม
ต่อมาก็จะเป็นยี่ห้อ NEKKO LOVEMIX CHICKEN FOR INDOOR ADULT 400 กรัม ที่เหมาะกับแมวโตเต็มวัยเลี้ยงภายในบ้านทุกสายพันธุ์ ที่กำหนดอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยที่จะมีคุณค่าทางสารอาหารครบ สมบูรณ์ และสมดุล เสริมแอล - คาร์นิทีน มีส่วนช่วยเผาผลาญเรื่องของไขมัน และยังเป็นพลังงานต่อร่างกายที่ดีด้วย ซึ่งได้วัตถุดิบเนื้อไก่แท้เกรดเอคุณภาพสูง อุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างดี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ถุงละ 95 บาท หากซื้อออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 85 บาทเท่านั้น
3. SMARTHEART GOLD TUNA AND BROWN RICE 300 ก.
อีกอาหารเม็ดแมวแบรนด์กับ SMARTHEART GOLD TUNA AND BROWN RICE 300 ก. ที่เป็นสูตรปลาทูน่า และข้าวกล้อง โดยที่สามารถเลือกกินได้กับแมวโตในทุกสายพันธุ์ ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี เต็มไปด้วยสารอาหารและโปรตีนที่มีคุณภาพ มีกากใยธรรมชาติ พรีไบโอติก ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของระบบการดูดซึม และย่อยง่าย ป้องกันก้อนขนอุดตันภายในลำไส้ได้ดี ราคาขายอยู่ที่ 84 บาท
4. ME-O GOLD ADULT FIT AND FIRM 400 กรัม
ปิดท้ายกันที่ ME-O GOLD ADULT FIT AND FIRM 400 ก. ที่เป็นชนิดเม็ด สูตรฟิตแอนด์เฟิร์ม เหมาะสำหรับแมวโตทุกสายพันธุ์ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี ให้คุณค่าคาร์โบไฮเดรตจากข้าว ช่วยในระบบการย่อย ร่างกายสามารถดูดซึมพร้อมนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี อุดมไปด้วยโปรตีนที่มาจากไก่ เสริมสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี โดยแบรนด์นี้จะมีราคาอยู่ที่ 89 บาท

อาหารแมวราคาหลักร้อยเหล่านี้ค่อนข้างน่าสนใจอย่างสูง โดยที่จะใช้เป็นอาหารของสัตว์เลี้ยง แบ่งสัดส่วนอาหารที่สมดุลกับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง รับรองว่าหากได้เลือกแล้วแมวสุดรักของคุณ ๆจะได้รับสารอาหารครบถ้วน อิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจ คนเลี้ยงอย่างเราเองก็มีความสุข ซึ่งหากใครลองแบรนด์ไหนแล้วได้ผลอย่างไรอยากมาเล่าสู่กันฟังก็ทำได้เลย เรายินดีอย่างมาก

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/PET0103

34


ที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพนั้นมีหลากหลายแบบ แต่ถ้าจะให้ใช้งานอย่างตอบโจทย์ เสนอแนะว่าให้เลือกเหมาะสมกับอายุของแต่ละช่วงวัย ซึ่งแต่ละช่วงวัยก็จะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันนั่นเอง แต่อายุเท่าไหร่ควรใช้งานอย่างไร เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันได้เลย รับรองว่าการนอนหลับของลูกน้อยต่อจากนี้จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมกับช่วงวัย
1. ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับเด็กทารก อายุแรกเกิด – 1 ปี
อายุแรกเกิด – 1 ปี แนะนำว่าให้ใช้ที่นอนเด็กทารกที่มีคุณสมบัติที่สามารถถ่ายเทอากาศได้อย่างดี ระบายความร้อนสะดวกสบาย หรือนอนหายใจผ่านไปได้ง่าย ๆ ไม่นิ่งมากจนเกินไป ก็เพราะว่าหากลูกน้อยมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแล้วคว่ำออกมาก็อาจจะหน้าจมที่นอนแล้วขาดอากาศหายใจ รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งตัวที่นอนควรต้องเช็ดล้างทำความสะอาด และต้องทำได้สะดวกด้วย ไม่มีไรฝุ่นสะสม ทำให้ผิวเจ้าตัวน้อยเกิดการระคายเคือง พร้อมลดอัตราการเกิดของโรคภูมิแพ้ได้ดี ทั้งตัวที่นอนต้องรองรับสรีระเด็กได้ดีไปอีก
2. ลักษณะที่เหมาะสำหรับเด็ก อายุ 1 – 3 ปี
ในส่วนของเด็กที่มีอายุ 1 – 3 ปีจะเป็นช่วงของการใช้สมอง และร่างกายที่มีการพัฒนารวดเร็ว การเลือกใช้ที่นอนก็จะต่างจากเบาะนอนทารกจึงต้องใส่ใจเลือกสรรเป็นพิเศษ โดยคุณสมบัติที่เหมาะจึงควรต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับสรีระร่างกาย ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อลดแรงกดทับกล้ามเนื้อขณะที่กำลังนอนหลับ ตัวที่นอนสามารถถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่เกิดอาการอับชื้น หรือร้อน เพื่อช่วยให้เกิดการนอนหลับที่สนิทเพิ่มขึ้น ที่นอนก็ต้องถ่ายเทอากาศได้ดี เพื่อช่วยเจ้าเด็กไม่ร้อน ผิวหนังไม่เกิดการระคายเคือง รวมไปถึงที่นอนควรต้องเช็ดทำความสะอาดง่ายด้วย เพื่อไม่เป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรก หรือไรฝุ่น
3. ที่นอนเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กโต อายุ 3+ ปี
สุดท้ายก็จะเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับเด็กอายุในวัย 3 ปีขึ้นไปจะไม่ซีเรียสเท่ากับเด็กแรกเกิด – 3 ปี ก็เพราะว่าเด็กโตสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นแล้ว ทางที่ดีผู้ปกครองต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับน้ำหนักและร่างกายของเด็ก เพื่อให้การนอนหลับเต็มประสิทธิภาพ เสนอแนะให้เลือกเตียงขนาด 3.5 ฟุต ที่จะเหมาะมากที่สุด และควรเลือกที่นอนที่ทำความสะอาดไม่ยาก อย่างที่นอนยางพารา เป็นต้น แต่ราคาอาจจะสูงกว่าที่นอนทั่วไปซึ่งต้องพิจารณาเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็เป็นลักษณะที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพที่พอเหมาะกับช่วงวัย ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้เลยตามต้องการ ปัจจุบันนี้มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรร ยังไงก็ลองพิจารณาจากคุณสมบัติ ขนาด ฟังก์ชันการใช้งานดูก่อน รวมทั้งต้องตอบโจทย์การเงินตัวเองด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ไม่ผิดหวัง

ท่านสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/MOM0401

35


เมื่อกล่าวถึงผ้าอ้อมแล้วนอกเหนือไปจากของเด็กก็ยังมีของผู้ใหญ่ด้วย กระนั้นการใช้งานจะเหมาะสม จะเป็นประโยชน์กับใครบ้าง เชื่ออย่างยิ่งว่าเรื่องนี้มีหลายท่านอยากรู้อยากใส่ใจ และเราไม่รอช้าที่จะพาไปทำความเข้าใจอย่างละเอียด เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมตอบโจทย์ และได้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่คืออะไร มีกี่ประเภท
อยากให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจด้วยว่านอกจากผ้าอ้อมเด็กจริง ๆ ของผู้ใหญ่ก็ยังมีด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาในรูปแบบสำเร็จรูปที่มีไว้เพื่อป้องกันการรั่วซึมด้านการขับถ่ายที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยวัสดุที่ใช้มีทั้งวัสดุใยสังเคราะห์ที่พื้นผิวนุ่มสบาย พลาสติก ที่จะไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง โดยแบ่งออกมาได้ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- แบบเทปกาว : ที่มีลักษณะของแผ่นใช้ซึมซับที่ด้านหลังจากเทปกาวที่ให้แปะเข้ากับกางเกงชั้นในปกติของผู้ที่สวมใส่
- แบบกางเกง : ที่จะเป็นรูปแบบสำเร็จรูป ออกแบบมามีลักษณะเหมือนกางเกงชั้นในทั่วไป  ใช้งานง่ายๆ ใส่ง่าย ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ดูแล

แน่นอนว่าการใช้งานตัวช่วยสำหรับผู้ใหญ่นี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือเพื่อให้การดำเนินชีวิตของหลายท่านสบาย ป้องกันการรั่วไหลของทั้งปัสสาวะ และอุจจาระ ทำให้มีความมั่นอกมั่นใจเพิ่มมากขึ้นรู้สึกสะดวกสบายในขณะที่ขับถ่าย ไม่ให้เกิดความกังวลได้ ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ขยับไม่ได้ หรือผู้ป่วยติดเตียง ทั้งยังหมดห่วงเรื่องกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากปัญหาการขับถ่ายเล็ดราด

ตัวช่วยการขับถ่ายนี้ มีประโยชน์สำหรับใครบ้าง?
ประโยชน์ในการใช้งานแพมเพิสสำหรับผู้ใหญ่นั้นมีมากมาย แต่ใครบ้างที่เหมาะสมจะใช้งานเพื่อให้ตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานสูงสุด เรามีมาแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น
- เหมาะสมกับผู้ป่วยที่ติดเตียง หรือผู้ที่เคลื่อนไหวร่างกายจากเตียงได้ยากลำบาก
- ผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วง ท้องเสีย หรือผู้ที่เจ็บป่วยต้องลุกเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ หรือขับถ่ายมากจนทำให้เพลียไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้สะดวก ๆ
- ผู้ที่กระเพาะปัสสาวะทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ โดยที่ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะเองได้
- ผู้หญิงที่มีปัญหาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แล้วไม่สามารถเข้าห้องน้ำสาธารณะ หรือสถานที่ที่สุขอนามัยไม่เหมาะสม ไม่สะอาดได้ หากกลั้นเป็นเวลานานก็จะทำให้โรคกำเริบได้ไปอีก มีไว้ก็จะช่วยให้การขับถ่ายสะดวกสบายมากกว่าเดิม
- ผู้ที่กลั้นปัสสาวะไม่ได้อย่างรุนแรง โดยที่ถือเป็นภาวะที่ปัสสาวะผู้ป่วยมีโอกาสเล็ดราดออกมาได้ง่ายขณะที่หัวเราะ ไอ หรือยกของ หรือมีการทำกิจกรรมที่มีแรงดันกลั้นเอาไว้ไม่ได้

การใช้งานผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่นั้นต้องรู้จักดูแลด้านของความสะอาดด้วย โดยเฉพาะการใช้งานที่หากยาวนานเกินไปก็อาจจะเกิดปัญหาระคายเคืองผิวหนังตามมาได้ อย่างผื่นคัน หรืออับชื้น จึงควรต้องหมั่นเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้งด้วยเช่นกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0201

36


ที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพนั้นมีหลากหลายแบบ แต่ถ้าจะให้ใช้งานอย่างตอบโจทย์ เสนอแนะว่าให้เลือกเหมาะสมกับอายุของแต่ละช่วงวัย ซึ่งแต่ละช่วงวัยก็จะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันนั่นเอง แต่อายุเท่าไหร่ควรใช้งานอย่างไร เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันได้เลย รับรองว่าการนอนหลับของลูกน้อยต่อจากนี้จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมกับช่วงวัย
1. ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับเด็กทารก อายุแรกเกิด – 1 ปี
อายุแรกเกิด – 1 ปี แนะนำว่าให้ใช้ที่นอนเด็กทารกที่มีคุณสมบัติที่สามารถถ่ายเทอากาศได้อย่างดี ระบายความร้อนสะดวกสบาย หรือนอนหายใจผ่านไปได้ง่าย ๆ ไม่นิ่งมากจนเกินไป ก็เพราะว่าหากลูกน้อยมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแล้วคว่ำออกมาก็อาจจะหน้าจมที่นอนแล้วขาดอากาศหายใจ รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งตัวที่นอนควรต้องเช็ดล้างทำความสะอาด และต้องทำได้สะดวกด้วย ไม่มีไรฝุ่นสะสม ทำให้ผิวเจ้าตัวน้อยเกิดการระคายเคือง พร้อมลดอัตราการเกิดของโรคภูมิแพ้ได้ดี ทั้งตัวที่นอนต้องรองรับสรีระเด็กได้ดีไปอีก
2. ลักษณะที่เหมาะสำหรับเด็ก อายุ 1 – 3 ปี
ในส่วนของเด็กที่มีอายุ 1 – 3 ปีจะเป็นช่วงของการใช้สมอง และร่างกายที่มีการพัฒนารวดเร็ว การเลือกใช้ที่นอนก็จะต่างจากเบาะนอนทารกจึงต้องใส่ใจเลือกสรรเป็นพิเศษ โดยคุณสมบัติที่เหมาะจึงควรต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับสรีระร่างกาย ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อลดแรงกดทับกล้ามเนื้อขณะที่กำลังนอนหลับ ตัวที่นอนสามารถถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่เกิดอาการอับชื้น หรือร้อน เพื่อช่วยให้เกิดการนอนหลับที่สนิทเพิ่มขึ้น ที่นอนก็ต้องถ่ายเทอากาศได้ดี เพื่อช่วยเจ้าเด็กไม่ร้อน ผิวหนังไม่เกิดการระคายเคือง รวมไปถึงที่นอนควรต้องเช็ดทำความสะอาดง่ายด้วย เพื่อไม่เป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรก หรือไรฝุ่น
3. ที่นอนเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กโต อายุ 3+ ปี
สุดท้ายก็จะเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับเด็กอายุในวัย 3 ปีขึ้นไปจะไม่ซีเรียสเท่ากับเด็กแรกเกิด – 3 ปี ก็เพราะว่าเด็กโตสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นแล้ว ทางที่ดีผู้ปกครองต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับน้ำหนักและร่างกายของเด็ก เพื่อให้การนอนหลับเต็มประสิทธิภาพ เสนอแนะให้เลือกเตียงขนาด 3.5 ฟุต ที่จะเหมาะมากที่สุด และควรเลือกที่นอนที่ทำความสะอาดไม่ยาก อย่างที่นอนยางพารา เป็นต้น แต่ราคาอาจจะสูงกว่าที่นอนทั่วไปซึ่งต้องพิจารณาเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็เป็นลักษณะที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพที่พอเหมาะกับช่วงวัย ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้เลยตามต้องการ ปัจจุบันนี้มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรร ยังไงก็ลองพิจารณาจากคุณสมบัติ ขนาด ฟังก์ชันการใช้งานดูก่อน รวมทั้งต้องตอบโจทย์การเงินตัวเองด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ไม่ผิดหวัง

ท่านสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/MOM0401

37


ครั้งนี้เราจะมาบอกต่อถึงอาหารแมวในราคาหลักร้อย ที่คุณ ๆสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้เลยตามต้องการ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ อิ่มท้องด้วย และยังมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วยเช่นกัน แต่จะมียี่ห้อใด อย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมกันได้เลย การันตีว่าผลลัพธ์สำหรับน้องแมวไม่ธรรมดาแน่นอน
อาหารแมวราคาหลักร้อย รู้ไว้เลือกให้น้องแมวอย่างเหมาะสม
1. KANIVA SALMON TUNA AND RICE 380 ก.
เริ่มต้นแบรนด์แรกกับ KANIVA SALMON TUNA AND RICE 380 กรัม ที่เป็นสูตรเนื้อปลาแซลมอน ข้าว ทูน่า ที่เป็นทั้งอาหารลูกแมว และแมวโตในทุกสายพันธุ์ โดยที่จะมีการผสมเนื้อปลาแซลมอนโปรตีนสูงด้วย ช่วยเสริมสร้างระบบกล้างเนื้อต่าง ๆ อย่างดี พร้อมโอเมก้า 3 และ 6 ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น บำรุงขนให้นุ่มสวย อ่อนโยน จำหน่ายในราคาถุงละ 92 บาท
2. NEKKO LOVEMIX CHICKEN FOR INDOOR ADULT 400 กรัม
ต่อมาก็จะเป็นยี่ห้อ NEKKO LOVEMIX CHICKEN FOR INDOOR ADULT 400 กรัม ที่เหมาะกับแมวโตเต็มวัยเลี้ยงภายในบ้านทุกสายพันธุ์ ที่กำหนดอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยที่จะมีคุณค่าทางสารอาหารครบ สมบูรณ์ และสมดุล เสริมแอล - คาร์นิทีน มีส่วนช่วยเผาผลาญเรื่องของไขมัน และยังเป็นพลังงานต่อร่างกายที่ดีด้วย ซึ่งได้วัตถุดิบเนื้อไก่แท้เกรดเอคุณภาพสูง อุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างดี ราคาจำหน่ายอยู่ที่ถุงละ 95 บาท หากซื้อออนไลน์พิเศษลดเหลือเพียง 85 บาทเท่านั้น
3. SMARTHEART GOLD TUNA AND BROWN RICE 300 ก.
อีกอาหารเม็ดแมวแบรนด์กับ SMARTHEART GOLD TUNA AND BROWN RICE 300 ก. ที่เป็นสูตรปลาทูน่า และข้าวกล้อง โดยที่สามารถเลือกกินได้กับแมวโตในทุกสายพันธุ์ ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี เต็มไปด้วยสารอาหารและโปรตีนที่มีคุณภาพ มีกากใยธรรมชาติ พรีไบโอติก ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของระบบการดูดซึม และย่อยง่าย ป้องกันก้อนขนอุดตันภายในลำไส้ได้ดี ราคาขายอยู่ที่ 84 บาท
4. ME-O GOLD ADULT FIT AND FIRM 400 กรัม
ปิดท้ายกันที่ ME-O GOLD ADULT FIT AND FIRM 400 ก. ที่เป็นชนิดเม็ด สูตรฟิตแอนด์เฟิร์ม เหมาะสำหรับแมวโตทุกสายพันธุ์ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี ให้คุณค่าคาร์โบไฮเดรตจากข้าว ช่วยในระบบการย่อย ร่างกายสามารถดูดซึมพร้อมนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี อุดมไปด้วยโปรตีนที่มาจากไก่ เสริมสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี โดยแบรนด์นี้จะมีราคาอยู่ที่ 89 บาท

อาหารแมวราคาหลักร้อยเหล่านี้ค่อนข้างน่าสนใจอย่างสูง โดยที่จะใช้เป็นอาหารของสัตว์เลี้ยง แบ่งสัดส่วนอาหารที่สมดุลกับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง รับรองว่าหากได้เลือกแล้วแมวสุดรักของคุณ ๆจะได้รับสารอาหารครบถ้วน อิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจ คนเลี้ยงอย่างเราเองก็มีความสุข ซึ่งหากใครลองแบรนด์ไหนแล้วได้ผลอย่างไรอยากมาเล่าสู่กันฟังก็ทำได้เลย เรายินดีอย่างมาก

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/PET0103

38


คุณคิดว่ากล้องวงจรปิดมีรูปลักษณ์แบบไหนได้บ้าง? แน่นอนว่าคงนึกไม่ถึงแน่ ๆ กับทรงหลอดไฟ EAGLE EYE 1.3 ล้านพิกเซล ที่มีการเชื่อมต่อ Wi – Fi ที่ช่วยให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น โดยที่ท่านสามารถเลือกซื้อมาใช้งานได้ด้วยคุณสมบัติตอบโจทย์แน่นอน แต่หากใครยังลังเล อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมเราไม่รอช้ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาบอกต่อ
กล้องวงจรปิด ทรงหลอดไฟ EAGLE EYE 1.3 ล้านพิกเซล
กล้องวงจรปิดไร้สายทรงหลอดไฟ EAGLE EYE 1.3 ล้านพิกเซล ที่ให้ความคมชัดมาก ระดับ HD ที่มีมุมมองภาพกว้าง 360 องศา เทียบเท่ากับว่าท่านได้ติดกล้อง 4 – 6 ตัว รองรับเมมโมรี่การ์ดได้สูงสุดถึง 32 GB สามารถบันทึกได้นานต่อเนื่อง 15 วัน สื่อสารได้เลยสองทิศทางพูดคุยผ่านกล้องกับตัวสมาร์ตโฟน ที่มีระบบแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวอย่างดี ใช้ขั้ว E27 ติดตั้งซึ่งเป็นมาตรฐานหลอดไฟบ้าน ที่สามารถนำไปใช้แทนได้เลย มี Wi – Fi 2.4 G ขึ้นไป รับชมผ่านออนไลน์ที่มือถือ แท็ปเล็ต โน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ได้ทั้งสิ้น รองรับทั้ง IOS – Android สบาย ๆ
- มีความคมชัดระดับ HD 1.3 ล้านพิกเซล มุมมองภาพกว้าง 360 องศา เทียบการติดกล้อง 4 – 6 ตัว
- มีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ รับชมผ่านออนไลน์ทั้ง iOS – Android
- มีการเชื่อมต่อสัญญาณ Wi – Fi 2.4G ขึ้นไป ที่ใช้งานได้ทุกระบบไม่มีปิดกั้น
- มีไฟโครโฟน ระบบเสียงสองทิศทาง พูดคุยได้ผ่านตัวกล้องและสมาร์ตโฟนตามต้องการ
- บันทึกได้ยาวนานต่อเนื่อง 15 วัน รองรับเมมโมรี่การ์ดสูงสุด 32 GB
- มีขั้ว E27 ที่ได้ตามมาตรฐานหลอดไฟบ้าน สามารถนำไปใช้แทนได้เลย

การใช้งาน คำแนะนำ และข้อควรระวังที่มี
วิธีการใช้งานกล้อง CCTV นั้นจะเป็นรูปแบบกล้องวงจรปิดที่ตรวจจับเคลื่อนไหวภายในบริเวณที่ต้องการ โดยที่เชื่อมต่ออุปกรณ์กับ WI – Fi ที่โหลดแอปพลิเคชันเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย แนะนำว่าให้ทำความเข้าใจคู่มืออย่างละเอียดก่อนการติดตั้งพร้อมใช้งาน และควรติดตั้งที่ที่ไม่กีดขวาง หรือบดบังทัศนวิสัยของกล้อง ทั้งนี้ ข้อควรระวังคือห้ามมีการแก้ไขสินค้า ดัดแปลง หรือใช้งานผิดประเภท จัดเก็บในพื้นที่แห้ง พ้นมือเด็ก ห้ามใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่าง กรด ที่มาทำความสะอาด รวมทั้งไม่ควรจัดเก็บใกล้เปลวไฟ หรือความร้อนเด็ดขาด โดยกล้องที่ว่านี้มีราคาจำหน่ายอยู่ที่เครื่องละ 1,090 บาท แต่หากซื้อผ่านออนไลน์ ลด 27% เหลือเพียงแค่ 790 บาทเท่านั้น

เมื่อทราบแบบนี้เชื่อว่าหลายคนจะสามารถตกลงใจเลือกซื้อกล้องวงจรปิดมาใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ ซึ่งแบรนด์นี้รุ่นนี้ได้ค่อนข้างน่าสนใจตั้งแต่เอกลักษณ์ที่สามารถอำพรางไม่ให้ใครทราบได้ และยังเชื่อมต่อ WI – Fi ที่ทันสมัย พูดคุยได้สองทิศทางในราคาย่อมเยาไปอีก ท่านใดที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ตัวช่วยนี้ก็อย่าลืมลองเลือกแบรนด์นี้ รุ่นนี้ใช้งานกัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO020302

39


สำหรับคุณแม่ที่มีลูกเล็กเด็กแดง แล้วยังต้องใช้งานขวดนมอยู่ สิ่งที่ไม่อาจละเลยไปได้ก็คือเรื่องของวิธีล้าง และฆ่าเชื้อที่เหมาะสม ถูกต้อง ทำให้การใช้งานได้ประสิทธิภาพสูง และยังปลอดภัยต่อสุขภาพของลูกน้อยไปอีก ทว่าจะมีการล้าง และฆ่าเชื้ออย่างไรบ้างนั้น รีบตามเราไปศึกษาพร้อมกันเลย รับรองว่าการล้างและฆ่าเชื้อจะผ่านไปราบรื่น
การล้างทำความสะอาดขวดนม ที่แม่ ๆ ต้องเรียนรู้
สำหรับการล้างขวดให้เจ้าตัวน้อยจริง ๆ ก็ไม่ได้ยาก แต่สำหรับคุณแม่ หรือผู้ปกครองบางท่านก็อาจจะกำลังล้างแบบผิดวิธีอยู่ด้วย กระนั้นจะต้องล้างอย่างไร?
- วิธีการล้างขั้นตอนแรกก็ต้องถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ของขวดออก โดยที่จะมีทั้งฝาขวด จุกนมแบบยาง และตัวขวด
- ใส่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถอดออกทั้งหมดลงในภาชนะที่มีขนาดพอดี แล้วเติมน้ำร้อนเพื่อชำระคราบนมในชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกให้หมดจด แล้วก็ค่อย ๆ เทน้ำออกมา
- ผสมผลิตภัณฑ์ล้างกับน้ำอุ่น แล้วใช้ฟองน้ำล้างชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้สะอาดเริ่มจากล้างด้านในขวด จากนั้นก็ล้างด้านนอก
- ขณะที่ล้างขวดไม่ต้องใช้ฟองน้ำขัดขวดนมแรง ๆ ก็เพราะว่ามีโอกาสที่จะทำให้เกิดรอยได้ง่าย อายุการใช้งานก็จะสั้นลงด้วย
- ล้างขวดด้วยน้ำสะอาด 2 รอบ แล้วใช้นิ้วมือถูที่ขวดเบา ๆ ดูว่ามีคราบนมหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาตกค้าง หลงเหลืออีกไหม ดมกลิ่นขวดว่ายังมีกลิ่นนมหรือเปล่า หรือมีกลิ่นนมตกค้างไหม ทั้งนี้เพราะขวดที่สะอาดจะต้องไม่มีกลิ่นอะไรเลย
- ล้างเสร็จก็คว่ำผึ่งกับตะแกรง หรือภาชนะ โดยต้องผึ่งให้แห้งกับลมดีที่สุด เหตุเพราะแสงแดดมีโอกาสที่จะทำให้จุกนม และพลาสติกเสื่อมสภาพไวจากนั้นก็ยกเข้ามาเก็บให้เรียบร้อยเพื่อรอใช้งานต่อไป

วิธีการฆ่าเชื้อขวดที่เหมาะสม ปรับใช้ได้ตามต้องการ
ในการฆ่าเชื้อชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่าง ขวดนม พีเจ้น หรืออื่น ๆ เสนอแนะว่าใส่ในหม้อต้ม 20 – 30 นาที ต่อจากนั้นก็นำชิ้นส่วนขวดนมขึ้นมาวาง แล้วผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปใช้งาน หรือจะฆ่าเชื้อด้วยหม้อนึ่งไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน โดยใส่ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นในหม้อนึ่งเติมน้ำลงไป แล้วเสียบปลั๊ก ส่วนระยะเวลาการนึ่งก็จะต่างกับแต่ละแบรนด์ ซึ่งต้องรู้จักอ่านวิธีใช้งาน และคู่มือก่อนเสมอ สุดท้ายคือการฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ที่แค่เติมน้ำลงภาชนะแล้วเติมน้ำยาฆ่าเชื้อลงไป ผสมให้เข้ากัน แล้วเอาชิ้นส่วนต่าง ๆ ลงไปแช่ทิ้งไว้ 30 นาที หรือตามคำแนะนำเป็นอันเสร็จ

การล้างขวดนมเป็นเรื่องง่าย ๆ ทั้งวิธีล้างต่าง ๆ รวมไปถึงการฆ่าเชื้อที่แค่ต้องรู้จักเอาใจใส่ และใช้ความละเอียดอ่อนไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ อยากแนะนำให้เลือกขวดที่ได้พลาสติกปลอดสาร BPA ซึ่งจะไม่ทำให้ลูกได้รับสารพิษจากขวดเข้าสู่ร่างกายง่าย ๆ นั่นเอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0205

40


สำหรับเครื่องไม้เครื่องมือที่มาช่วยให้แม่ ๆ ที่มีลูกน้อยวัยกำลังกินนมแม่สะดวกเยอะขึ้น ก็คงไม่พ้นเครื่องปั๊มนม ทว่าบางคนอาจจะแม่มือใหม่ยังไม่รู้จักการใช้งานที่ถูกต้องเหมาะสม เราไม่รอช้าที่จะมาแนะนำรายละเอียดต่าง ๆ อย่างเจาะลึก เพื่อผลลัพธ์ที่ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ
วิธีการใช้งานเครื่องปั๊มนมอย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ตอบโจทย์
สำหรับแม่ ๆ คนใดที่ได้ซื้อที่ปั๊มนม จะแบบทั่วไปหรือไร้สายก็ตาม เรื่องที่ไม่อาจมองข้ามก็คือเรื่องของการเลือกซื้อเลือกหาที่เหมาะสม ซึ่งเราก็รวบรวมมาให้เรียนรู้กันอย่างเจาะลึก
1. เลือกขนาดกรวยให้เหมาะ
ขนาดกรวยควรมีความเหมาะสมกับขนาดของหัวนม เหตุเพราะหากใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปก็จะทำให้เกิดเป็นแผลถลอกจากการเสียดสีที่หัวนมขณะที่กำลังปั๊มได้นั่นเอง
2. ล้างและนึ่งกรวย ขวดนมทุกครั้งหลังใช้งาน
เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการล้าง นึ่งขวดนมทุกครั้ง เหตุเพราะการล้างวันละ 1 ครั้ง ใส่ตู้เย็นไว้หลังใช้งานก็ยังมีความปลอดภัยไม่เพียงพอ โดยมีตัวช่วยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซื้อกรวยปั๊มเผื่อไว้หลายคู่เพื่อที่จะล้างขวดนมได้หลาย ๆ ใบ เตรียมไว้ใช้งานทีเดียว 3 คู่ กลับถึงบ้านก็ล้างไว้นึ่งเตรียมใช้รอบดึกได้ ตอนเช้าก็ล้างและนึ่งเพื่อเตรียมไว้ใช้งานต่อ หรือปัจจุบันมีถุงพิเศษที่ใส่อุปกรณ์เข้าไมโครเวฟได้ เป็นการฆ่าเชื้อแทนการนึ่งเติมน้ำในถุงแล้วใส่อุปกรณ์ที่ล้างแล้วใส่ถุง เอาเข้าไมโครเวฟ 3 นาที ใช้ได้ด้วย หรือจะเป็นสเปรย์ ผ้าเปียกน้ำยาทำความสะอาดขวดนม และจุกนมรูปแบบพกพา สารออร์แกนิคที่เข้าปากลูกได้ ทำความสะอาดได้ทุกครั้งแทนการล้างและนึ่งเมื่อต้องออกไปนอกบ้าน

ในการเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมไร้สาย หรืออื่น ๆ โดยที่ท่านใดจะใช้งานก็ต้องทราบถึงความจำเป็นด้วย อย่างแม่วางแผนจะใช้บ่อยมาเท่าใด ถ้าต้องกลับไปทำงานเต็มตัวก็ควรเลือกแบบไร้สายไฟฟ้า ที่ใช้งานไม่ยาก อีกความจำเป็นคือคุณแม่มีเวลามากน้อยแค่ไหน โดยทั่วไปจะใช้งาน 10 – 15 นาที หากใช้ในที่ทำงานที่ไม่ควรใช้เวลานาน คุณแม่ต้องเลือกแบบไฟฟ้าที่ยิ่งปั๊ม 2 ข้างพร้อมกันก็ช่วยประหยัดไปได้ ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมเพิ่มมากขึ้น อยากให้ปรับระดับความแรงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งระดับการปั๊มจะแตกต่างกัน ควรดูหลาย ๆ ระดับไว้ การประกอบง่ายหรือไม่ที่ส่วนประกอบอาจจะมีถอดแยกได้ เพื่อทำความสะอาด ควรเลือกที่น้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระเกินไป

เมื่อทราบแบบนี้ก็หวังว่าแม่ ๆ มือใหม่ทุก ๆ ท่านจะสามารถใช้งานเครื่องปั๊มนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เจ้าตัวน้อยได้มีน้ำนมใช้ดื่มกินอย่างอิ่มเอม ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้อมาก การใช้งานก็ไม่ใช่เรื่องยากด้วย ยืดอายุการใช้งานได้เต็ม 10 ไม่หัก!

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0701

41


ต้องยอมรับว่า “เบาะรองคลาน” เป็นอีกอุปกรณ์ที่ห้ามมองข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแม่ ๆ ที่มีลูกน้อย ซึ่งสามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยด้วยซ้ำ เนื่องด้วยมีส่วนช่วยในหลากหลายเรื่องที่จะทำให้เราวางใจเมื่อลูกต้องอยู่กับพื้นได้อย่างดี ทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะอาด การเสริมสร้างพัฒนาการ หรือแม้แต่ระเบียบวินัย แต่ทว่าอาจจะมีแม่ ๆ บางคนที่ยังลังเลเลือกซื้อไปใช้งาน เราไม่พลาดที่จะมาบอกต่อถึงเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับตัวช่วยนี้ เป็นเรื่องที่แม่ ๆ ต้องทำความเข้าใจ
พื้นที่ภายในบ้านจำเป็นต้องมีเบาะรองคลาน
บ้านไหนที่มีลูกน้อยอยู่ไม่ควรพลาดกับการเลือกซื้อเลือกหาแผ่นรองคลานกันเลยจริง ๆ เนื่องด้วยมีส่วนที่จะช่วยจัดสัดส่วนให้เห็นเด่นชัด ทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ได้อย่างดี อาทิเช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ที่บ้านอาจจะต้องจัดห้องให้เป็นรูปแบบ Play room ที่มีการปูแผ่นไว้ในมุมต่าง ๆ อย่าง มุมอ่านหนังสือ มุมเล่านิทาน มุมเล่น หรือมุมบ่อบอล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และยังสร้างรอยยิ้มให้เจ้าตัวน้อย เป็นการเสริมสร้างพัฒนาการต่าง ๆ ได้ดีตั้งแต่ลืมตาดูโลก เนื่องจากบางเบาะรองก็มีรูปภาพ สีสันสดใส น่ารัก หรือเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ พยัญชนะไทย เป็นต้น
เทคนิคการเลือกซื้อเบาะใช้รองคลานสำหรับลูกน้อย
หลังจากที่รู้ถึงความจำเป็นในการมีเบาะเด็กไว้ใช้งานภายในบ้าน ในมุมต่าง ๆ แล้ว ก็ต้องมารู้ถึงการเลือกซื้อที่เหมาะสมด้วย โดยนึกถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ พร้อมดูแลลูกน้อยของเราได้อย่างดีที่สุด
- ควรเลือกซื้อเลือกหาแผ่นรองสำหรับเด็กที่มีความหนามากพอในการรับแรงกระแทก แล้วยังซับพอร์ตอวัยวะต่าง ๆ ของลูกได้เป็นอย่างดี
- ควรเลือกจากคุณสมบัติที่มีความสามารถในการกันน้ำ เพื่อให้การทำความสะอาดดีมากขึ้น ลดการเกิดเชื้อรา
- ในการซื้อรูปแบบจิ๊กซอว์ปูพื้น ควรเลือกที่มีแผ่นขนาดใหญ่ มีรอยต่อน้อยที่สุด เพื่อลดการเกาะของฝุ่นที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูง
- เลือกแผ่นที่มีการป้องกันสารปนเปื้อนต่าง ๆ อย่าง BPA FREE ที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ เพราะว่าเด็ก ๆ มีโอกาสที่จะนำมือไปสัมผัสแผ่นปูแล้วเอาไปเข้าปากต่อ หรือเอามือไปหยิบจับอาหารเข้าปากนั่นเอง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเบาะรองคลานนั้นมีความน่าสนใจ และควรค่าต่อการนำไปใช้งานอย่างที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของการป้องกันอุบัติเหตุที่จะไม่ทำให้ต้องเป็นปัญหาต่อลูกน้อย เนื่องมาจากอุบัติเหตุมีโอกาสเกิดขึ้นได้เป็นประจำ การป้องกันไว้ก็ย่อมดีมากกว่า ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก แนะนำว่าพิจารณาจากคุณสมบัติ ฟังก์ชัน รวมทั้งราคา เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เจ้าตัวน้อยกันดีกว่า

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0103

42


หากคุณเป็นผู้นึงที่ต้องการทราบเกี่ยวกับแนวทางในการใช้งานรถเข็นเด็ก เพื่อสร้างความปลอดภัยกับเจ้าตัวน้อยมากที่สุด เราไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษาเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องรู้อย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น และทำให้การใช้งานตอบสนองความต้องการให้มากที่สุด แต่จะเป็นเช่นใดไปติดตามกันได้
แนวทางการใช้งานรถเข็นเด็ก เพื่อการใช้งานปลอดภัย
มีผลการสำรวจจากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างความปลอดภัย พร้อมป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งพบเรื่องที่น่าตกใจว่าในการเลือกใช้รถเข็นสำหรับเด็กของพ่อแม่ ผู้ปกครองมีโอกาสที่จะใช้รถที่ไม่ได้มาตรฐาน สร้างความเสี่ยงให้กับเด็กได้มากถึง 73% และมีเด็กที่เคยได้รับการบาดเจ็บเพราะรถเข็นอีก 8% เลยทีเดียว ซึ่งโดยมากเกิดจากการพลิกคว่ำ หรือตกจากรถเข็น คิดเป็น 54.5% เลยด้วย นั่นจึงเป็นสิ่งที่ควรรู้ถึงการใช้งานที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหน แบรนด์ใดก็ตาม
  - เมื่อให้เด็กนั่งหรือนอนภายในรถเข็น ต้องมีการยึดเหนี่ยวด้วยเข็มขัด 5 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กปีนเล่น หรือเลื่อนไหลไปขณะที่นอนหลับ
- วัสดุหรือโครงสร้างที่ใช้ทำต้องมีความแข็งแรง ปลอดภัย ได้มาตรฐาน มีน้ำหนักที่เบา หรือจะเป็นรถเข็นเด็กพับได้ก็ย่อมได้ ข้อต่อต้องไม่หัก หรือชำรุดก่อนใช้งานต้องตรวจสอบให้ดี ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานเสมอ ทั้งเข็มขัด ส่วนล้อ ด้ามจับรถเข็น ที่ต้องซ่อมแซมก่อนใช้งาน
- ห้ามให้เด็กนั่งอยู่ภายในรถเข็นนานเกิน 6 ชม.
- ถุงวางของต้องอยู่ตำแหน่งด้านหลังล่าง ที่สูงเกินถึงแกนเข็น และต้องอยู่ล้อหลัง หรือพอดีกับล้อ ไม่ให้เกิดการเสียสมดุลและเกิดพลิกคว่ำได้
- ไม่ควรเข็นลงบันไดเลื่อนขณะที่มีเด็กนั่งอยู่ด้วยเหตุว่าโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมีสูง แนะนำว่าให้ใช้ลิฟต์โดยสารขึ้น/ลงแทนจะดีกว่า หรือไม่ก็อุ้มเด็กไว้แล้วใช้เฉพาะรถเข็นกับบันไดเลื่อน ไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง
- ควรมีผู้ใหญ่คอยดูแลเด็ก ๆ ในรถเข็นอยู่ตลอด ไม่ปล่อยให้เด็กหลับคารถคนเดียว หรือปล่อยให้เด็กเล่นรถเข็น
- ขณะที่มีการใช้งานรถเข็น ข้อสำคัญคือไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็เพราะว่าต่อให้เข็นดี แต่ตามองจอมือถือก็มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน แม้เพียงเสี้ยวนาที

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถเข็นเด็กเป็นอีกสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับพ่อ แม่ ผู้ปกครองในการที่จะพาลูก ๆ ออกเดินทางท่องเที่ยว หรือไปห้างสรรพสินค้า ไปทำกิจกรรมนอกบ้าน กระนั้นก็ต้องไม่ลืมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้านการใช้งานเหล่านี้ด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้ทุก ๆ คนจะเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และลงมือใช้งานรถเข็นเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0104

43


อย่ารอช้าที่จะเริ่มต้นใช้งานไปกับคาร์ซีทสำหรับลูกที่มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแบบ โดยที่ท่านสามารถเลือกซื้อได้เลยตามต้องการ กระนั้นบางท่านอาจจะเป็นมือใหม่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้าสิ่งนี้มีรูปแบบใดบ้าง แล้วจะเลือกอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด เราไม่รอช้าขออาสาพาไปศึกษาอย่างเจาะลึก ตามมาทางนี้เลย..
คาร์ซีทมีกี่รูปแบบ ลักษณะเป็นเช่นไรบ้าง?
1. รูปแบบ Infant car
เป็นคาร์ซีทแรกเกิดที่จะออกแบบมาเพื่อให้ทารกได้ใช้ จนมีน้ำหนักที่ 10 กิโลกรัม หรือมีความสูง 85 ซม. หรือถ้าเทียบเท่าอายุก็จะประมาณ 1 ปีเท่านั้น โดยที่จะต้องวางให้หันไปทางด้านหลัง หรือ Rear facing เท่านั้น โดยรูปแบบนี้มักจะมีฐานให้ยึดที่เบาะรถยนต์ได้เลย บางรุ่นถอดออกได้ และหิ้วตัวอุปกรณ์ออกมาจากฐานได้ด้วยเช่นกัน
2. แบบ Booster Seat
ที่จะเป็นแบบเพิ่มความสูงให้กับเด็กเวลานั่ง โดยที่จะให้สายเข็มขัด Safety พาดผ่านสะโพกแทนท้อง และพาดที่หัวไหล่เด็กแทนคอ โดยที่จะสามารถใช้น้ำหนักได้ตั้งแต่ 18 - 36 กิโลกรัม โดยที่มีความสูง 100 - 150 ซม. หรือถ้าเทียบเท่าอายุก็จะประมาณ 4 - 12 ปี ที่อาจจะมีทั้งเบาะหลัง หรือมาแค่ที่นั่งได้หมด
3. รูปแบบ Convertible car seats
จะเป็นรูปแบบการใช้งานที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 18 กิโลกรัม สามารถใช้ได้ตั้งแต่การวางหันออก forward-facing หรือหันหลัง ที่ใช้ได้ตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ ไปจนถึงเด็กที่มีอายุประมาณ 9 ขวบได้เลย มีขนาดที่นั่งค่อนข้างใหญ่ มีฐานยึดติดถอดออกได้เหมือนชนิดแรก
แนวทางการเลือกซื้อเลือกหาให้ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยระหว่างเดินทาง
ถึงกระนั้นก็ตาม ในการใช้งานไม่ว่าจะคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ควรคิดถึงความปลอดภัยเสมอ แนะนำว่าให้ดูจุดยึดทั้ง 5 ตำแหน่งด้วย คือ ยึดไหล่ 2 สะโพก 2 รวมทั้งระหว่างขา โดยต้องเลือกใช้งานสามารถติดตั้งได้ 2 แบบ คือ Rear - Facing คือหันไปด้านหลังเหมาะกับเด็ก 2 ขวบ และ Forward - Facing ที่จะหันออกด้านหน้าแบบผู้ใหญ่   ซึ่งแบบ Rear - Facing จะใช้ได้นานในกรณีที่มีลูกเล็ก ๆ เหมาะมากกับการซื้อแบบนี้เหตุเพราะยังดูแลตัวเองไม่ได้ ทั้งต้องมีการป้องกันที่ด้านข้าง เพื่อลดแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ ต้องเลือกให้เหมาะกับขนาดของเด็กด้วย รวมไปถึงยังต้องคำนึงถึงการใช้งานที่ผ่านรับรองความปลอดภัย และต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของรถที่ใช้งาน เพื่อการยึดติดตัวรถที่มั่นคง

ในการใช้งานคาร์ซีทปัจจุบันควรต้องให้ความสำคัญอย่างที่สุด เนื่องด้วยมีส่วนช่วยลดการสูญเสียที่มีต่อเจ้าตัวน้อย เนื่องจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่นมาก ก็อยากให้ไตร่ตรองเลือกที่เหมาะทั้งคุณภาพ และเงินในกระเป๋า

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/MOM0101

44


เก้าอี้กินข้าวเด็กนั้นมีหลายแบบ และหนึ่งในนั้นก็คือรูปแบบ High Chair ที่จะมีลักษณะเป็นน่าสนใจมาก ๆ กระนั้นบางคนอาจจะยังไม่มั่นอกมั่นใจ อยากทราบถึงเหตุผลที่ควรใช้งานเก้าอี้รูปแบบนี้ เราไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษารายละเอียดที่น่าสนใจ เพื่อการตกลงใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4 เหตุผลที่ควรใช้งานเก้าอี้ทานอาหารเด็ก แบบ High Chair
1. ช่วยฝึกด้านวินัยให้ลูกเรื่องการรับประทาน ช่วยตัวเองได้
สิ่งแรกก็คือเรื่องของการฝึกวินัย ที่จะทำให้ลูกได้นั่งกินอยู่กับที่ ไม่เดินเล่น และยังกินอาหารอย่างเรียบร้อย เรียนรู้เวลารับประทานด้วยตัวเองในแบบที่สนุกสนาน เป็นอิสระ เมื่อได้นั่งทานดี ๆ ก็จะมีความสุขไปกับการกิน ไม่งอแงไปอีก
2. ช่วยฝึกให้ทานแบบ BLW
เก้าอี้เด็กทำให้ลูกน้อยได้ลองฝึกหัดหยิบกินเอง โดยที่ไม่ต้องปั่น หรือบดอาหาร และไม่มีใครมาป้อนลูกด้วย ทำให้เกิดความสนุกสนาน และหากจะให้เกิดความปลอดภัยก็ต้องใช้วิธีนี้ เพื่อให้หยิบจับได้ดี รับประทานอาหารตรงหน้าด้วยตัวเองจนสำเร็จหมดเกลี้ยง เป็นการฝึกที่จะช่วยแก้ปัญหาการกินได้ในอนาคตแบบที่ไม่ต้องมีพี่เลี้ยง หรือคนช่วยเหลือ
3. ช่วยเสริมสร้างความสะดวกสบาย
ต่อมาก็คือเรื่องของการนั่งกินข้าวที่จะช่วยให้ลูกได้รับประทานอย่างสะดวกสบายมากที่สุด เหตุเพราะส่วนมากก็จะมีเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลัง มีการวางที่ขาได้ มีถาดอาหารให้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับประทานอาหารมื้อสำคัญตลอดวันได้อย่างดี ไม่ทำให้เกิดปัญหาติดขัดระหว่างทาน
4. เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อลูกน้อย
ด้านความปลอดภัยก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการใช้อาหารกับเจ้าตัวน้อย เนื่องจากเก้าอี้ทานข้าวเด็กจะมีพื้นที่ในการกินอาหารของลูก ๆ และยังออกแบบให้เก้าอี้มีความแข็งแรง มั่นคง มีเข็มขัดนิรภัยช่วยล็อคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ในการรับประทานอาหารของเจ้าตัวน้อยก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องพลัดตกได้นั่นเอง
5. ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเจ้าตัวน้อย
สุดท้ายก็คือเรื่องของพัฒนาการที่ลูกน้อยจะได้รับในการใช้งานเก้าอี้ที่ว่า ไม่ทำให้ลูกเหนื่อย เจ้าตัวน้อยสามารถนั่งทานได้ดี พ่อแม่ ผู้ปกครองก็ไม่ต้องเดินตามป้อนข้าวลูกอีก ทำให้เกิดความผ่อนคลาย สะดวกสบายขั้นสุด

ในการใช้งานเก้าอี้ทานอาหารเด็ก ชนิด High Chair นั้น นอกจากช่วยเรื่องของลูกน้อยจริง ๆ ก็ยังช่วยผู้ปกครองได้ดี ทั้งด้านการรับประทานอาหารที่เราก็มีเวลารับประทานของตัวเองด้วย ไม่เหนื่อยตามป้อนข้าวลูก ๆ แถมยังนั่งอยู่ในสายตามองเห็นกันได้ ทำให้สบาย และผ่อนคลายอารมณ์เพิ่มขึ้น ลดอาการหงุดหงิด วีนแตกไปได้ไม่มาก ๆ ยังไงก็ลองเลือกซื้อเลือกหามาใช้งานกันดูได้

ท่านสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0507

45


เครื่องนึ่งขวดนม” ปัจจุบันเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนเลือกใช้งาน เพื่อใช้ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค กระนั้นก็มีสิ่งที่อยากแนะนำให้คุณแม่ ได้ทราบกันไว้ด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการดูแล พร้อมใช้งานได้อย่างเหมาะสม ตอบสนองความต้องการอย่างที่สุด แต่จะเป็นเรื่องไหนที่แม่ ๆ ไม่ควรเพิกเฉยบ้าง เรามีรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้ศึกษา
แนะนำสิ่งที่แม่ ๆ ไม่ควรละเลยเมื่อคิดจะใช้งาน “เครื่องนึ่งขวดนม”
1. วางขวดที่ผ่านการล้างแล้วเท่านั้น
ในการใช้งานต้องวางขวดที่ล้างทำความสะอาดมาแล้วเท่านั้น แนะนำให้คุณแม่ หรือคุณพ่อ หรือผู้ปกครองล้างขวดนมด้วยผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดมาก่อน ต่อมาให้ล้างสะอาดอย่างหมดจดก่อนแล้วจึงใส่ในเครื่องนึ่งได้ แนะนำว่าไม่ควรวางขวดนมที่ยังไม่ได้ล้าง หรือขวดที่มีคราบสิ่งสกปรกในเครื่องเด็ดขาด เนื่องมาจากที่นึ่งขวดนมมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อฆ่าเชื้อโรค ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ขวด ที่ผ่านการทำความสะอาดมาก่อนแล้วนั่นเอง
2. กำจัดคราบตะกรันเดือนละ 1 ครั้ง
อีกสิ่งที่อยากแนะนำคุณแม่ ก็คือการกำจัดคราบตะกรัน ที่ควรต้องทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการลดคราบตะกรันของเครื่องนึ่งที่จะป้องกันการก่อตัวของเกล็ด หรือคราบตะกรันที่มีการสะสมฝังแน่นลึกจนไม่สามารถ หรือทำความสะอาดได้ยาก เพื่อความสะอาดของเครื่องที่จะไม่ก่อให้เกิดเชื้อโรคสิ่งสกปรกติดไปกับขวดต่อลูกน้อย
3. กลไกทำงานของเครื่องมี 2 รูปแบบ
เครื่องอบขวดนมจะมีกลไกในการทำงานอยู่ 2 แบบด้วยกัน ซึ่งเป็นระบบฆ่าเชื้อที่เลือกได้ คือ ระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง UV ที่ระบบนี้จะอบแห้ง และฆ่าเชื้อไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะมีหลอดไฟ UV เพื่อเลียนแบบแสงจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดกลิ่นอับได้ดีโดยใช้เวลารวดเร็ว ประหยัดเวลาอบ หรืออีกประเภทคือระบบ Sterilize ที่เป็นระบบอบทั่วไป ทำงานผ่านระบบการอบแห้งที่เหมือน ION ที่ระบบจะมีฟังก์ชันปล่อยประจุ เพื่อดักจับสิ่งสกปรก และเชื้อโรคที่ลอยในอากาศที่ทำให้ผิวขวดนมสะอาดมากขึ้น
4. เลือกขนาดที่นึ่งให้เหมาะสม
สุดท้ายก็คือการเลือกขนาดของที่นึ่ง ที่ควรมีพื้นที่เหมาะสมกับขวด กับจำนวนขวด เหตุเพราะที่นึ่งที่มีพื้นที่จะวางขวดนมได้ไม่ต้องเบียด ไม่แออัดมาก ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดยอดเยี่ยม ช่วยกำจัดไวรัส แบคทีเรีย หรือฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ดี เหตุเพราะพื้นที่เหลือจะทำให้ไอความร้อนกระจายตัว ทำความสะอาดทั่วถึงนั่นเอง

เมื่อทราบแบบนี้แล้วก็หวังว่าทุกคนจะสามารถใช้งานเครื่องนึ่งขวดนมได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ประสิทธิภาพการทำงานอย่างที่สุด เพื่อการล้างที่ได้ผลลัพธ์ความสะอาดสูง

คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0207

46


สำหรับการใช้งานคอกกั้นเด็กนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีหลายคนที่นิยมเลือกใช้งานกัน แต่กระนั้นก็มีสิ่งที่ต้องทราบอย่างข้อควรระวังในด้านการใช้งานมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อความปลอดภัยต่อเจ้าตัวน้อย และเราก็จะได้วางใจในการใช้งานมากขึ้นด้วย แล้วจะมีข้อมูลอย่างไรบ้าง เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันดีกว่า
จะใช้งานคอกกั้นเด็ก ต้องรู้ถึงข้อควรระวังเหล่านี้
แม้ว่าการใช้งานคอกเด็กจะมีประโยชน์มากมายโดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย แต่กระนั้นก็มีในเรื่องของข้อควรระวังที่ต้องทราบเอาไว้ด้วย เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
1. ระวังเรื่องขนาดของคอก
สิ่งแรกที่ให้รู้ถึงข้อควรระวังในการใช้งานก็คือขนาดของคอกที่มี ต้องวัดให้พอดีกับพื้นที่ที่เราจะวางด้วย ไม่ใช่ว่าพื้นที่บ้านมีขนาดเล็กแต่เลือกผิดไปซื้อคอกที่มีขนาดใหญ่ ก็อาจจะไม่เหมาะสม วางใช้งานไม่ได้ หรือมีปัญหาเรื่องคับแคบตามมาในอนาคต
2. ต้องรู้จักนิสัยของลูกน้อยด้วย
ก็เพราะว่าเด็กแต่ละคนนั้นมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันออกไป เด็กบางคนก็สามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้ แต่เด็กบางคนก็ไม่ชอบการจำกัดพื้นที่ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาอึดอัด ร้องไห้งอแงขณะที่ต้องอยู่ภายในคอก แม้จะเป็นคอกกั้นทารกก็ตาม ก็จะทำให้เราไม่สามารถเอาลูกไว้ได้ก็จะกลายเป็นเสียเงินโดยใช่เหตุ
3. อยู่ในคอกมากเกินไปอาจจำกัดการเรียนรู้
ด้วยความที่เราให้เจ้าตัวน้อยอยู่แต่ในคอก ซึ่งการอยู่เป็นเวลานาน อยู่มาก ๆ ไม่ได้ออกเดิน คลาน หรือทำกิจกรรมอื่น ไม่ได้สำรวจสิ่งแวดล้อม ก็จะกลายเป็นการจำกัดการเรียนรู้ที่มีภายนอกของเด็ก ๆ ได้นั่นเอง
4. อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจเด็กได้
เป็นอีกข้อควรระวังที่คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองต้องรู้และเข้าใจไว้ ก็คือการใช้งานคอกอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจเจ้าตัวน้อยได้ ยิ่งบ้านไหนที่ต้องทำอะไรห่าง ๆ ลูกที่อยู่ในคอก ลูกไม่ค่อยมองเห็นเรา ทั้งนี้เพราะอาจจะทำให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยว เศร้าหมอง เนื่องด้วยมีการจำกัดพื้นที่สภาพแวดล้อมภายนอก
5. วางของภายในคอกตามความเหมาะสมช่วงวัย
สุดท้ายหากเด็กเริ่มที่จะพลิกตัวเองได้แล้ว ไม่แนะนำให้ใช้คอกที่มีฟูก ตุ๊กตา หรือหมอนอยู่ภายใน เนื่องด้วยมีโอกาสที่เด็กจะพลิกตัวแล้วไปกดทับสิ่งเหล่านี้ทำให้หายใจไม่ออกและอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

เมื่อทราบแบบนี้แล้วก็หวังว่าทุกท่านจะสามารถเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดอย่างคอกกั้นเด็กให้กับเจ้าตัวน้อยอย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่เป็นปัญหาทั้งด้านร่างกาย สภาพจิตใจในอนาคตได้ เราเองก็มีความสุขเมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยมีความสุข จริงไหมล่ะ..?

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/MOM0102

47


อาหารแมวเปียก” เป็นอีกสิ่งที่เชื่อเหลือเกินว่าคนเลี้ยงแมวหลาย ๆ ท่านต้องให้เจ้าเหมียวได้เลียได้กินกัน ทว่าบางคนอาจจะเกิดความลังเล ว่าจะเลือกซื้อเลือกหาเพิ่มเติมให้ดีหรือไม่ เราไม่รอช้าที่จะมาพูดถึงประโยชน์ของเจ้าสิ่งนี้ ที่ท่านอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ว่าแต่จะมีเรื่องอะไรบ้างเราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
ประโยชน์ของอาหารแมวเปียก ที่คนเลี้ยงแมวอาจไม่เคยรู้
สำหรับอาหารเปียกแมวนั้นจะมีบรรจุอยู่ในถุง กระป๋อง หรือถ้วย ที่มีความชื้นสูงกว่าอาหารของแมวแบบแห้ง โดยที่มักจะมีน้ำมาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่มีอยู่สูง 70 – 80% จะมีเป็นเนื้อชิ้นเล็ก ๆ ผสมอยู่ด้วย ซึ่งจะผสมกับเนื้อบดผสมไขมัน หรือปาเต ไม่ก็ซอสเกรวี่ (หรืออาจจะผสมกันทั้ง 2 อย่าง) โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ โปรตีนคุณภาพสูง คาร์โบไฮเดรต วิตามินและแร่ธาตุ ไขมัน น้ำ วิตามิน แร่ธาตุ ซึ่งมีประโยชน์หลากหลาย ที่ผู้เลี้ยงอาจไม่เคยรู้มาก่อน
- อาหารแมวแบบเปียกนั้นจะมีส่วนช่วยให้ได้รับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งทำให้ได้รับน้ำเพียงพอในแต่ละวัน โดยที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าเหมียวที่ไม่ชอบดื่มน้ำ และเจ้าเหมียวที่อยู่ในสภาพแวดล้อมร้อน หรือแห้งแล้ง
- ช่วยดึงดูดเจ้าเหมียวที่เลือกกิน โดยรูปแบบอาหารเปียกของเจ้าเหมียวก็จะมีรสชาติ รวมทั้งกลิ่นที่ค่อนข้างหอมมากกว่าอาหารแบบแห้ง น้องแมวใครที่เลือกรับประทานแนะนำเลยนี่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
- เจือจางปัสสาวะของแมว ที่การให้อาหารรูปแบบเปียกจะเสมือนให้น้องแมวได้ดื่มน้ำเยอะขึ้น ซึ่งก็จะทำให้ป้องกันโรคระบบทางเดินปัสสาวะได้ดี
- รับประทานได้ง่ายสุด ๆ โดยเฉพาะแมวสูงอายุ หรือที่มีปัญหาเรื่องฟัน เนื่องด้วยจะมีความนุ่มนิ่มมากกว่าอาหารแมวชนิดเม็ด ทำให้การรับประทานไม่เป็นปัญหา
- การควบคุมน้ำหนักของเจ้าเหมียวที่ปกติอาหารควบคุมน้ำหนักสำหรับแมวจะมีแคลอรีต่อหน่วยที่น้อยกว่าอาหารแห้ง เหตุเพราะมีปริมาณน้ำสูงสุด ดังนั้น แมวใครที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ก็สามารถเลือกบริโภคในรูปแบบเปียกได้ รับรองว่าช่วยให้แมวมีน้ำหนักที่เหมาะสม ไม่เป็นปัญหาสุขภาพตามมา

อย่างไรก็ดี มีเรื่องของข้อควรระวังในการให้สิ่งนี้กับน้องแมวเหมียวด้วย คือ ให้ท่านมองหายี่ห้อที่มีโปรตีนสูงเข้าไว้ จะดีต่อสุขภาพน้อง ไม่ว่าจะ เนื้อวัว ไก่ ปลา ซึ่งต้องไม่มีสารปรุงแต่งที่เป็นอันตราย หลีกเลี่ยงพวกรส กลิ่น หรือใส่สารวัตถุกันเสีย เจ้าเหมียวบางตัวก็อาจจะมีภาวะสุขภาพการกินอาหารแบบเฉพาะ ได้แก่ อาหารที่ต้องมีแมกนีเซียมต่ำเพื่อสุขภาพทางเดินปัสสาวะ ไขมันต่ำเพื่อควบคุมน้ำหนัก แนะนำว่าต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนที่จะให้อาหารเหล่านี้เสมอ ทั้งนี้ เรื่องของช่วงวัยกับการให้ก็สำคัญ เนื่องด้วยลูกแมว แมวโตเต็มวัย หรือแมวสูงวัยมีความต้องการทางโภชนาการที่แตกต่าง ควรต้องเลือกให้เหมาะสมกับอายุนั่นเอง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/PET0104

48


นับเป็นไอเทมชั้นยอดเยี่ยมสำหรับคนรักแมวเลยจริง ๆ กับ “ทรายแมว” ที่ทำให้แมวอึ หรือฉี่ได้อย่างเหมาะสม ถูกสุขลักษณะ ไม่ต้องมาเหน็ดเหนื่อยกับการเช็ดเลอะเทอะ เรี่ยราด กระนั้นอาจจะมีบางท่านที่ยังไม่เคยรู้จัก อยากศึกษารายละเอียดเรื่องของทรายที่ว่านี้เพิ่มเติม เราไม่พลาดที่จะมานำเสนออย่างเจาะลึก พูดเลยยิ่งท่านไหนเป็นน้องใหม่ในการเลี้ยงแมวยิ่งไม่ควรพลาด
4 เรื่องที่ควรต้องรู้ของทรายแมว ที่มือใหม่ไม่ควรพลาด
1. ทำความสะอาดง่ายมาก
ต้องยอมรับว่าเลยทรายสำหรับแมวนี้เป็นสิ่งที่มาช่วยเหลือเราได้อย่างมากมาย เนื่องมาจากเมื่อน้องแมวได้อึหรือฉี่ไป ก็จะสามารถทำความสะอาดอึ หรือฉี่ที่ว่าได้เลยทันที ไม่มีกลิ่นแรงเหมือนที่หลายคนต้องสัมผัสมาก่อน เพราะว่าหลังจากที่แมวเหมียวทำภารกิจของตัวเองเสร็จแล้วก็จะกลบอึ กลบฉี่กับทรายไปเองเลย เราก็จัดการตักทรายไปทิ้งลงชักโครกได้ตามต้องการ สะดวกสบายสุด
2. ดีกว่าดินทรายปกติทั่วไป
แน่นอนว่าทรายที่ท่านเลือกซื้อ ไม่ว่าจะทรายแมวภูเขาไฟ หรืออื่น ๆ ก็ย่อมดีมากกว่าดินทรายปกติทั่วไปแน่นอน เนื่องจากไม่ทำให้เกิดกลิ่นอึของเจ้าเหมียว หรือสิ่งไม่พึงประสงค์มากวนใจ เหตุเพราะมีส่วนช่วยกลบกลิ่นได้ดี ยิ่งบางสูตรมีการผสมคาร์บอนควบคุมกลิ่นเข้าไปอีกก็ยิ่งทำให้แทบไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ไม่เกิดปัญหากวนใจทางกลิ่นตามมา
3. ฝึกให้เจ้าแมวอึได้เป็นที่เป็นทาง
แน่นอนว่าบางท่านอาจจะใช้แผ่นรองซับเพื่อฝึกการขับถ่าย ต้องการให้แมวอึหรือฉี่เป็นที่เป็นทาง ทว่าการใช้ทรายก็มีโอกาสที่จะฝึกได้ดีมากกว่า สิ่งสำคัญมีหลายสูตรที่ทำให้ทรายมีน้ำหนักมากจนแมวคุ้ยเขี่ยด้วย ใครที่กลัวแมวจะอึหรือฉี่ไม่เป็นที่เป็นทาง หรือกลัวว่าบ้านจะเกิดฝุ่นก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป กลายเป็นว่าการอยู่อาศัยร่วมกับเจ้าแมวเหมียวมีความสะดวกสบาย ไม่ทำให้ใครหลายคนเหนื่อยตามเก็บตามล้าง
4. มีหลากหลายประเภททราย
เป็นเรื่องที่มือใหม่เลี้ยงแมวไม่ควรมองข้าม กับลักษณะของทรายที่มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทรายแบบภูเขาไฟ ทรายแมวเต้าหู้ หรืออื่น ๆ ที่จะมีลักษณะ สรรพคุณการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งมีหลายยี่ห้อให้เราได้เลือกสรร แนะนำว่าพินิจพิจารณาดูจากคุณสมบัติ ลักษณะ ราคาที่ควรตอบโจทย์ความต้องการของการใช้งานน้องแมวเรา ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาสแมวโดยเฉพาะมือใหม่จะเกิดความเข้าใจและสามารถเลือกใช้งาน เลือกซื้อทรายแมวได้อย่างเหมาะ ตอบโจทย์ รับรองว่าช่วยให้การขับถ่ายของเจ้าเหมียวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หมดห่วงเรื่องของกลิ่นไม่พึงประสงค์ และการเก็บล้างแน่นอน 

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PET0504

49


สิ่งที่คนเลี้ยงแมวทั้งหลายต้องมีติดบ้านเอาไว้เลยก็คือขนมแมว ที่มีหลากหลาย ทั้งขนมสำหรับแมวเลีย ขนมแท่ง อาหารเปียก ฯลฯ ที่พร้อมช่วยให้เจ้าเหมียวมีอารมณ์ที่ดี ใช้ง้อได้ หรือจะฝึกก็ได้ผลราบรื่น กระนั้นหากท่านจะให้ขนมในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้แมวป่วยได้ด้วย อย่างนั้นจึงจำเป็นต้องให้ปริมาณที่เหมาะด้วย แล้วควรให้ปริมาณเท่าไหน ทาสแมวทั้งหลายไปทำความเข้าใจพร้อมกันได้
ขนมแมว ให้เพื่อฝึกน้อง ผลลัพธ์ไม่ธรรมดา
สำหรับขนมของแมว อย่าง อาหารเปียกแมว, ขนมสำหรับแมวเลีย, แบบแท่ง ฯลฯ จะมีรสชาติ กลิ่นที่มากกว่าอาหารแมวทั่วไป ทำให้เป็นอาหารที่เหมาะสมกับการนำมาเป็นรางวัลให้กับแมว ไม่ว่าจะเป็น น้องแมวอาบน้ำ ก็อาจจะให้เพื่อตอบแทนที่ยอมให้อาบ ฝึกว่าเมื่ออาบน้ำไปแล้วจะได้กินขนมอร่อย ๆก็จะอยากให้อาบน้ำอยู่เรื่อย ๆ หรือบางสายพันธุ์ก็สามารถให้เพื่อเป็นรางวัลฝึกทำตามคำสั่ง ดังเช่น สั่งให้นั่ง ขอมือ รอ เป็นแรงจูงใจให้กับแมวเพื่อที่จะช่วยฝึกฝนให้ง่ายมากขึ้น ทำตามคำสั่งง่ายมากขึ้น

ต้องให้ขนมในปริมาณพอเหมาะ ลดความเสี่ยงแมวไม่สบาย
เชื่อเหลือเกินว่ามีหลายท่านที่อาจจะละเลย หรือนึกไม่ถึงเกี่ยวกับปริมาณในการให้อาหาร ทั้งนี้เพราะเห็นแมวเหมียวมีความสุขก็อยากให้เพื่อความเอร็ดอร่อย เป็นที่ถูกใจ ที่รักของแมว กระนั้นต้องเข้าใจว่าการให้ขนมของแมวควรให้ในปริมาณที่เหมาะ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บหากให้ในปริมาณมากเกินไป เพราะจะเสี่ยงเป็นโรคไตในแมวได้ ทำให้ต้องรักษากันยาว ๆ และยังต้องควบคุมไปตลอดชีวิตด้วย
ถ้าไม่อยากให้น้องแมวต้องล้มป่วย ทรมานจากการเกิดโรคภัยก็อยากให้เลือกให้ขนม ไม่ว่าจะ อาหารแบบเปียก ขนมแมวเลีย ฯลฯ ในปริมาณที่พอเหมาะ แนะนำว่าไม่ควรให้เกิน 1 – 2 ครั้งต่ออาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวที่โตเต็มวัย ด้วยเหตุว่าด้วยกลิ่น และรสชาติที่ชัดเจนมีผลมาจากความเค็ม และการปรุงรสที่มากขึ้น รสชาติเหล่านี้ทำให้กลายเป็นตัวการร้ายทำลายสุขภาพเจ้าเหมียวเราง่าย ๆ เกิดเป็นโรคที่ว่าแม้แมวจะชอบมาก ๆ ก็ตามก็อย่าไปตามใจเด็ดขาด ยิ่งให้แทนเป็นอาหารมื้อหลักคือไม่ได้จริง ๆ นอกจากจะเกิดโรคภัยง่ายก็ยังทำให้เจ้าเหมียวขาดสารอาหารไปด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของขนมแมวที่เราหยิบยกมาแนะนำ เพื่อไม่ให้น้องแมวต้องรับประทานบ่อยเกินพอดี ซึ่งปัจจุบันมีขนมหลากหลายมาก แนะนำให้พิจารณาเลือกยี่ห้อ เลือกแบรนด์ที่เหมาะสม ตอบสนองต่อความต้องการของน้องแมว รวมทั้งดูส่วนผสมหลักเพื่อความเข้าใจ ที่สำคัญต้องมีราคาที่สบายกระเป๋าด้วย หวังว่าต่อจากนี้การให้ขนมของเจ้าเหมียวจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ทำลายสุขภาพอย่างที่สุด แบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PET0202

50


การหาซื้อขนมหมานั้นเป็นอีกสิ่งที่หลาย ๆ คนเลือกทำกัน เนื่องจากมีโอกาสที่จะทำให้น้องหมาได้รับรู้ถึงความอร่อยในแบบฉบับที่คุณ ๆในฐานะเจ้าของเลือกให้ได้ตอบโจทย์ กระนั้นปัจจุบันก็มีหลากหลายแบรนด์หลากหลายประเภทให้ได้เลือกสรร แล้วจะเลือกซื้อเช่นไรให้ถูกใจเจ้าตูบด้วยได้ประโยชน์ด้วย เชื่อเหลือเกินว่ามีบางคนอาจจะยังไม่รู้ เอาเป็นว่าเรามีรายละเอียดที่น่าสนใจมาแนะนำ
4 ประเภทขนมหมา เลือกให้ถูกใจน้องหมาพร้อมประโยชน์ครบ
1. ขนมชนิดกรุบกรอบ
เป็นขนมที่มีอยู่ในรูปแบบบิสกิต หรือคุกกี้ที่มีความหอม กรอบ สีสันสดใส กินง่าย เคี้ยวเพลิน ที่หมาบางตัวก็ชื่นชอบด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ทานหมดอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการฝึกสุนัขที่ต้องทำเวลารวดเร็ว และทำอย่างต่อเนื่อง กระนั้นด้วยสีของขนมที่มีความสดใส เจ้าของจึงต้องระวังเหล่าสารปรุงแต่งรส สี ข้าวสาลี ข้าวโพด สารกันบูดในขนมด้วย
2. ขนมแบบชิ้นเนื้ออบแห้ง
เป็นอีกขนมสุนัขที่ถือว่าน่าสนใจสุด ๆ และได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุนัข ด้วยเหตุว่ามีกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ เหมือนเนื้อสัตว์ที่กินได้จริง ๆ ส่วนมากก็จะเป็นเนื้อที่ถูกอบแห้งแล้ว  นำน้ำออกไปแล้วจากส่วนเนื้อผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เกิดกลิ่นชัดเจน นับว่าเป็นขนมที่ให้โปรตีนสูง แต่ต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสมด้วย เนื่องมาจากอาจจะทำให้น้องหมาติดใจ และไม่อยากทานอาหารมื้อหลักได้
3. ขนมแบบ Freeze-Dried
จัดว่าเป็นอีกรูปแบบขนมที่ค่อนข้างน่าสนใจกับ Freeze-Dried ที่ได้รับความสนใจ ด้วยเหตุว่าจะเป็นลักษณะของเนื้อสัตว์แท้ที่เอามาทำเป็น Freeze-Dried ไม่มีการปรุงแต่งรส หรือกลิ่นใด ๆ เพิ่มเติมเลย สามารถคืนรูปได้ด้วยการนำไปแช่น้ำ ในส่วนของความนิยมก็จะรับประทานไปพร้อมกับมื้ออาหารที่มีเพิ่มเติมเพื่อสารอาหาร ตัวขนมก็จะไม่มีการแต่งกลิ่นที่รุนแรงเหมือนรูปแบบอื่นด้วย
4. ขนมแบบแท่ง
สุดท้ายก็คงไม่พ้นกับขนมสุนัขแบบแท่ง ที่มีทั้งความอ่อนนุ่ม แท่งยาว หรือบางครั้งก็เป็นแผ่นแบน ๆ ยาว ๆ ด้วย กินได้นาน ซึ่งโดยมากก็จะนำเนื้อสัตว์มาปรุงแต่ง ทั้งรส กลิ่น ที่น่ากินอย่างมาก ในส่วนของขนมประเภทนี้นอกจากส่วนผสมที่มีโซเดียมมากเกินไป เจ้าของควรดูเรื่องปริมาณด้วยไม่ควรให้เยอะ ให้บ่อย เพราะให้ในปริมาณน้อย ๆ แบ่งครึ่งให้ด้วย เผื่อว่ากินไม่หมดจะได้ไม่ทิ้งไว้สกปรก มีเชื้อโรคเกิด

นอกจากนี้ ยังมีขนมหมาอีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะ ขนมแบบขัดฟัน อาหารคนที่ทำออกมาเหมือนมาก ฯลฯ ซึ่งสังเกตได้ว่าจะมีหลากหลายทั้งสด อบแห้ง หรือนำไปแปรรูปแล้ว คุณ ๆสามารถให้เพื่อเป็นอาหารว่าง หรือเพื่อฝึกฝน เพื่อให้รางวัลได้ด้วย รับรองว่าน้องหมาต้องติดใจชัวร์

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/PET0201

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 13