ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - มายติสจ้า

หน้า: [1]
1
เติมไขมันหน้า คืออะไร? เทคนิคฟื้นฟูใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

เติมไขมันหน้า

เติมไขมันหน้า (Fat Grafting) คือหัตถการเสริมความงามที่นำไขมันจากร่างกายของคุณเอง มาเติมเต็มบริเวณใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาร่องลึก ใบหน้าตอบ ขาดวอลลุ่ม หรือริ้วรอยที่เกิดจากวัยและการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง โดยไม่ใช้สารสังเคราะห์ เช่น ฟิลเลอร์ทั่วไป ซึ่งแพทย์จะดูดไขมันจากจุดที่มีไขมันสะสมแล้วนำมาผ่านกระบวนการคัดกรองก่อนฉีดเติมบริเวณใบหน้าที่ต้องการปรับรูปให้ดูอิ่มฟู อ่อนเยาว์ และสมดุลมากขึ้น
จุดเด่นของการเติมไขมันหน้า คือผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เพราะใช้เนื้อเยื่อไขมันของตัวเองจึงได้รับการยอมรับจากร่างกายดีและลดโอกาสการแพ้หรือปฏิเสธจากระบบภูมิคุ้มกัน


ใครเหมาะกับการเติมไขมันหน้า?
เติมไขมันหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่
  • มีใบหน้าเหี่ยว ต้องการเติมวอลลุ่มให้ดูอ่อนวัยขึ้น
  • แก้มตอบ ขมับบุ๋ม หรือสภาพโครงหน้าไม่สมส่วน
  • ต้องการลดริ้วรอยลึก และคืนความอิ่มฟูให้ใบหน้า
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าที่ไม่ได้ตอบโจทย์จากการใช้ครีมหรือฟิลเลอร์เพียงอย่างเดียว
  • ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า และดูเป็นธรรมชาติ เพราะไขมันที่ติดอยู่สามารถคงอยู่ได้ถาวรส่วนหนึ่งเมื่อร่างกายรับได้เป็นเนื้อเยื่อของตัวเอง


ขั้นตอนการเติมไขมันหน้า (Overview)
การเติมไขมันหน้าโดยทั่วไปจะมีขั้นตอนหลัก ดังนี้
1. การประเมินและวางแผน – แพทย์ตรวจโครงหน้า และประเมินจุดที่ต้องการเติมให้เหมาะสม
2. การดูดไขมัน – ดูดไขมันจากส่วนที่มีไขมันสะสม เช่น ต้นขา หน้าท้อง เพื่อใช้เป็นแหล่งไขมัน
3. การเตรียมไขมัน – ทำความสะอาด กรอง และคัดเฉพาะเซลล์ไขมันคุณภาพดี เพื่อเพิ่มโอกาสให้ไขมันอยู่รอดสูง
4. การฉีดไขมัน – ฉีดไขมันเข้าในบริเวณใบหน้าที่ต้องการเติม
5. การดูแลหลังทำ – แพทย์ให้คำแนะนำการพักฟื้นเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
การทำหัตถการทั้งหมดนี้มักใช้เวลาประมาณ 1–2 ชั่วโมง ทั้งการดูดไขมันและการฉีดเติมหน้าอย่างละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและกลมกลืนกับใบหน้าเดิมของคนไข้


ข้อดีของการเติมไขมันหน้า

ข้อดีของการเติมไขมันหน้า

เติมไขมันหน้าได้รับความนิยมเพราะมีข้อดีหลายประการ
  • ดูเป็นธรรมชาติ - ไขมันที่เติมเข้าไปจะถูกจัดเรียงเป็นชั้น ๆ ทำให้ใบหน้าอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง หรือเป็นก้อนเหมือนบางสารเติมเต็มสังเคราะห์
  • ใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง ลดการแพ้ - เพราะเป็นไขมันจากร่างกาย จึงมีความเข้ากันได้สูงและลดโอกาสการเกิดปฏิกิริยาแพ้ได้มากกว่าวัสดุเติมเต็มอื่น ๆ
  • ช่วยเพิ่มคุณภาพผิว - ไขมันมีสเต็มเซลล์ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและดูสดใสยิ่งขึ้น
  • อยู่ได้ยาวนาน - ไขมันที่รอดชีวิตหลังฉีดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อใบหน้า ซึ่งสามารถอยู่ได้นานหลายปี หรือบางส่วนถาวร ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคแพทย์ และการดูแลหลังทำ


ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
  • ต้องมีไขมันส่วนเกินในร่างกาย - การเติมไขมันหน้าเหมาะกับคนที่มีไขมันเพียงพอ ในส่วนอื่นของร่างกายเพื่อใช้ดูดแล้วนำมาฉีด
  • อาจต้องใช้เวลาในการเห็นผล - ผลลัพธ์สุดท้ายที่ชัดเจนต้องรอประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ที่เห็นผลทันที
  • การดูแลหลังทำ - อาการบวมและช้ำอาจเกิดขึ้นในช่วงพักฟื้นประมาณ 1–2 สัปดาห์ และการดูแลตัวเอง เช่น งดสูบบุหรี่ และดูแลน้ำหนักตัวให้คงที่ ก็ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น


ความปลอดภัยและความเสี่ยง
เติมไขมันหน้าโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน แต่อย่างไรก็ตามการฉีดไขมันก็มีความเสี่ยงบางอย่าง เช่น
  • บวม ช้ำ หรือรอยแดงบริเวณที่ทำ
  • ไขมันละลายบางส่วนและต้องฉีดเพิ่มอีกครั้ง
  • โอกาสที่ไขมันบางส่วนอาจเกิดเป็นก้อนหรือไม่อยู่รอดทั้งหมด
  • ภาวะแทรกซ้อนจากหัตถการดูดไขมันเองหรือจากการฉีดผิดตำแหน่ง
โดยการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และคลินิกที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ลงอย่างมาก


เติมไขมันหน้า vs ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
การเติมไขมันหน้า และฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มและแก้ปัญหาร่องลึกบนใบหน้าเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยการเติมไขมันหน้าเป็นการใช้ไขมันของตัวเอง ดูดจากบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น หน้าท้องหรือต้นขา แล้วนำมาเติมเต็มใบหน้า จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติสูง โอกาสแพ้น้อย และไขมันที่ติดดีสามารถอยู่ได้นานหลายปีหรือบางส่วนถาวร อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะค่อย ๆ เห็นชัดหลังทำประมาณ 2–3 เดือน และมีระยะพักฟื้นมากกว่าจากอาการบวมช้ำทั้งบริเวณที่ดูดไขมันและใบหน้า

ในขณะที่ฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มสังเคราะห์ เช่น Hyaluronic Acid ซึ่งให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ พักฟื้นน้อย เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเล็กน้อยหรือแก้ปัญหาเฉพาะจุดแบบเร่งด่วน แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ชั่วคราวประมาณ 6–18 เดือนและต้องฉีดซ้ำเมื่อฟิลเลอร์สลายไป ดังนั้น หากต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน การเติมไขมันหน้าจะเหมาะกว่า แต่หากต้องการเห็นผลเร็ว เจ็บน้อย และไม่อยากพักฟื้น ฟิลเลอร์จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า

โดยสรุปแล้วทั้งสองวิธีมีจุดเด่นของตัวเอง แต่ เติมไขมันหน้าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน ในขณะที่ฟิลเลอร์เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลทันทีและมีระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่า


สรุป
การเติมไขมันหน้า (Fat Grafting) เป็นเทคนิคศัลยกรรมความงามที่ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ อิ่มเอิบ และมีมิติขึ้น โดยใช้งานจริงจากร่างกายเอง ลดโอกาสการแพ้และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ได้ยาวนานกว่าวิธีการเติมเต็มทั่วไป

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทำควรคำนึงถึงความต้องการผลลัพธ์, สุขภาพของตัวเอง, ปริมาณไขมันที่มี และการเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงามที่สุด

2
ลู่วิ่งไฟฟ้า สำคัญอย่างไรในการออกกำลังกาย แล้วควรเลือกซื้อยังไงดี

ลู่วิ่งไฟฟ้า

หากคุณกำลังมองหาเครื่องออกกำลังกายไฟฟ้าไว้ที่บ้าน ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพหรือออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน

การใช้ลู่วิ่งไฟฟ้ามีประโยชน์หลายประการที่ส่งผลดีต่อร่างกายและการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน อาทิเช่น การเพิ่มความสะดวกสบายในการออกกำลังกาย ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับความเร็วและความชันได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บเมื่อเปรียบเทียบกับการวิ่งบนพื้นถนนมากขึ้น

การออกกำลังกายในบ้านกับลู่วิ่งไฟฟ้ายังช่วยให้ผู้คนสามารถตั้งเวลาในการออกกำลังกายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศภายนอก และยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ พร้อมไปด้วยได้ เช่น ดูโทรทัศน์ หรือฟังเพลงสร้างแรงบันดาลใจ ในขณะเดียวกัน ง่ายต่อการติดตามผลการออกกำลังกายด้วยฟังก์ชันที่ปรากฏบนหน้าจอ เช่น ระยะทางที่วิ่ง แคลอรีที่เบิร์น และเวลา เท่ากับว่าผู้ใช้งานสามารถควบคุม และวางแผนการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ประเภทของ ลู่วิ่งไฟฟ้า
ลู่วิ่งไฟฟ้าภายในตลาดมีหลากหลายประเภทที่ตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกัน อาทิเช่น

ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบพับได้
ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบพับได้ ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดในบ้าน เนื่องจากสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน และยังมีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก รุ่นนี้มักมาพร้อมกับฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น ความเร็วที่ปรับได้ และการแสดงผลระยะทาง ซึ่งเพียงพอสำหรับการออกกำลังกายเบื้องต้น

ลู่วิ่งไฟฟ้าขนาดใหญ่
ลู่วิ่งไฟฟ้าขนาดใหญ่มีความเสถียรและมักมีฟังก์ชันที่หลากหลายมากกว่า เช่น ความสามารถในการปรับความชัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกายได้ ลู่วิ่งขนาดใหญ่ยังมักมีพื้นที่การวิ่งที่กว้างขวาง ซึ่งทำให้การวิ่งรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องกังวลกับการชนขอบลู่วิ่ง

ทั้งนี้แต่ละประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้าตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกันไป ผู้ใช้จึงควรพิจารณาความต้องการของตัวเอง ใครที่ต้องการประหยัดพื้นที่อาจเลือกแบบพับได้ ในขณะที่ผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพและความทนทานมากกว่าก็แนะนำให้เลือกลู่วิ่งขนาดใหญ่

การเข้าใจความสำคัญและประเภทของลู่วิ่งไฟฟ้าจะช่วยให้คุณเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยการเลือกคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการออกกำลังกาย รวมถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพและการฟิตเนสของตัวเอง


วิธีเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า

วิธีเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า

การเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นการลงทุนที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและออกกำลังกายที่บ้าน ก่อนทำการตัดสินใจซื้อ เครื่องลู่วิ่ง ต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง

ตรวจสอบฟีเจอร์ที่สำคัญ
ก่อนจะเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า คุณควรตรวจสอบฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น

  • ความยาวของสายพาน: ควรเลือกขนาดที่เหมาะกับการวิ่งของผู้ใช้ โดยทั่วไปแล้วควรมีความยาวประมาณ 120 ซม. ถึง 150 ซม.
  • มอเตอร์: ควรตรวจสอบความแรงของมอเตอร์ที่เป็นหน่วยแรงม้า (HP) ยิ่งมากยิ่งดี โดยทั่วไปควรมีอย่างน้อย 2.0 HP สำหรับการใช้งานปกติ
  • ฟังก์ชันการใช้งาน: พิจารณาฟังก์ชันเช่น การตั้งค่าโปรแกรมการวิ่ง, ระบบลดแรงกระแทก, และฟังก์ชันเก็บข้อมูลการออกกำลังกาย
  • การรับประกัน: เลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีการรับประกันเพื่อการบริการหลังการขายที่มั่นใจ

การเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่น
การเปรียบเทียบราคา ลู่วิ่งไฟฟ้า จากหลายๆ แหล่ง เช่น ร้านค้าออนไลน์และศูนย์การค้า จะทำให้คุณพบสินค้าที่ราคาถูกหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ต้องตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดส่งและการประกอบเครื่อง เนื่องจากการมีบริการนี้จะช่วยให้การตั้งค่าเครื่องทำได้ง่ายขึ้น


ประโยชน์ของการใช้ ลู่วิ่งไฟฟ้า
การใช้ ลู่วิ่งไฟฟ้า มีข้อดีหลายประการที่ส่งผลให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการไปฟิตเนสหรือที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้

ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
การออกกำลังกายด้วย ลู่วิ่งไฟฟ้า ช่วยให้กระบวนการเผาผลาญไขมันเป็นไปได้รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยในการควบคุมน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ การวิ่งสามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มาก และถ้าหากมีการตั้งโปรแกรมการวิ่งที่ถูกต้องร่วมด้วย ก็จะยิ่งเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น

เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
การวิ่งบน ลู่วิ่งไฟฟ้า ไม่ได้แค่ช่วยเผาผลาญไขมัน แต่ยังช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ การใช้งานที่ต่อเนื่องสามารถทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและสุขภาพดี การปรับความชันของลู่วิ่งจะช่วยเพิ่มระดับความท้าทายให้กับการออกกำลังกาย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น

เมื่อคุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อและประโยชน์ในการใช้งาน ลู่วิ่งไฟฟ้า คุณจะสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องและใช้เครื่องออกกำลังกายนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพของคุณ


ลู่วิ่งไฟฟ้า อุปกรณ์ออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกบ้าน
โดยรวมแล้วลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายที่บ้าน ด้วยความสามารถในการปรับความเร็วและความชัน ผู้ใช้สามารถเลือกออกกำลังกายแบบเข้มข้นตามต้องการ

ประเภทของลู่วิ่งที่มีให้เลือกนั้นยังตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่งแบบพับได้ที่เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด หรือลู่วิ่งขนาดใหญ่ที่ให้ความเสถียรมากขึ้น และฟังก์ชันที่หลากหลาย การเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าควรพิจารณาด้านความยาวของสายพาน มอเตอร์ และฟังก์ชันการใช้งานที่สำคัญ เพื่อให้คุณสามารถใช้มันเพื่อประโยชน์สูงสุดในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และการควบคุมน้ำหนัก

การวิ่งบนลู่วิ่งยังช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บเมื่อเทียบกับการวิ่งกลางแจ้งแถมยังสามารถทำได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศอีกด้วย การลงทุนในลู่วิ่งไฟฟ้าดีๆ ครั้งนี้ย่อมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพในระยะยาว

3
Endolift X คืออะไร? เทคโนโลยีเลเซอร์ไฟเบอร์ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

Endolift X คืออะไร

ในยุคที่ใคร ๆ ก็อยากหน้าเรียว กรอบหน้าชัด แต่ไม่อยากเจ็บตัวหรือพักฟื้นนาน “Endolift X” กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่อยาก ยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้า และลดไขมันเฉพาะจุดได้จริงด้วย เลเซอร์ไฟเบอร์ (Laser Fiber) ขนาดเล็กที่แม่นยำสูง วันนี้เราจะพาไปรู้จักให้ลึกว่า Endolift คืออะไร การทำ Endolift ดีอย่างไร และเหมาะกับใคร


Endolift คืออะไร
Endolift หรือ Endolift X คือเทคโนโลยียกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลใหญ่ พักฟื้นสั้น โดยจะใช้เลเซอร์ไฟเบอร์ (Laser fiber) แบบเส้นใยขนาดเล็ก ซึ่งปล่อยคลื่น 1470 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความถี่ที่ออกแบบมาให้เข้าไปทำงานในชั้นไขมันโดยตรง สอดเข้าใต้ผิวเพื่อสลายไขมัน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ในชั้นลึกของผิวได้อย่างแม่นยำ


Endolift เหมาะกับใคร
Endolift X เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา ดังนี้
  • มีกรอบหน้าไม่ชัด แก้มเริ่มหย่อน มีเหนียง หรือใต้คางเริ่มเห็นชัดเจน
  • ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง ร่องแก้ม โดยที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารอาจไม่ช่วยเต็มที่
  • ต้องการหน้าเรียว กระชับ แต่ไม่อยากผ่าตัด ต้องการกลับไปใช้ชีวิตได้เร็ว

Endolift ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
โดยการทำ Endolift สามารถช่วยได้ ดังนี้

  • สลายไขมันเฉพาะจุด ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น

  • ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย
  • ลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ และเพิ่มความเรียบเนียนให้ผิว


Endolift ยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
หนึ่งในคีย์เวิร์ดที่ควรรู้คือ ยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะ Endolift คือหนึ่งในทางเลือกนั้น เมื่อเทียบกับการผ่าตัดดึงหน้าแบบเต็มรูปแบบ มีข้อดีคือ

  • ไม่มีแผลใหญ่ ไม่มีการดมยาสลบแบบหนัก
  • พักฟื้นสั้น กลับไปใช้ชีวิตได้เร็วกว่า
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และสามารถเลือกทำเฉพาะจุดได้

แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ผลอยู่ได้ไม่นานเท่าการผ่าตัด (อาจอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับบุคคล)


Endolift ต่างจากเลเซอร์ทั่วไปอย่างไร
เลเซอร์ทั่วไปมักยิงผ่านผิวจากด้านบน แต่ Endolift ใช้เส้นใยเลเซอร์สอดใต้ผิวเข้าไปทำงานโดยตรง ซึ่งช่วยให้ถึงชั้นไขมันและเนื้อเยื่อได้แม่นยำกว่า เพราะทำงานจากภายใน จึงเหมาะกับจุดที่เลเซอร์ภายนอก/คลื่น HIFU อาจเข้าถึงยาก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม กราม


ทำ Endolift เห็นผลภายในกี่เดือน
หลายคนที่ทำแล้วเห็นกรอบหน้าชัดขึ้น แก้มหย่อนลดลง ผิวดูตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ระยะเวลาเห็นผล ส่วนใหญ่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-3 เดือน และผลอยู่ได้ประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล


สรุปบทความ Endolift
หากคุณกำลังมองหาวิธียกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และอยากเลือกเทคโนโลยีใหม่อย่าง Endolift หรือ Endolift X ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ  ใช้เลเซอร์ไฟเบอร์ (laser fiber) ที่เข้าถึงได้ลึกแม่นยำ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเฉพาะจุด หรือผิวเริ่มหย่อน และไม่อยากพักฟื้นนาน แต่อย่างไรก็ตาม ควรมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดูรีวิว และประเมินความเหมาะสมของตัวเองก่อนเสมอ

หน้า: [1]