ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - รู้เรื่องรอ

หน้า: [1]
1
5 เหตุผลที่ไม่ควรขับรถโดยไม่มีประกัน
ทำไมการมีประกันรถยนต์จึงสำคัญ
การมีรถยนต์คือความสะดวกสบาย แต่ก็มีความเสี่ยงสูง หากเกิดอุบัติเหตุ การไม่มีประกันรถยนต์อาจทำให้คุณต้องแบกรับค่าใช้จ่ายและความเสียหายเองทั้งหมด

1. รับผิดชอบค่าเสียหายด้วยตัวเอง
หากเกิดอุบัติเหตุและคุณเป็นฝ่ายผิด รถยนต์ที่ ไม่มีประกัน หมายถึงคุณต้องจ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด ทั้งรถของคุณและคู่กรณี
ลองคิดดูว่าถ้ารถคู่กรณีเป็นรถหรู ราคาค่าซ่อมอาจสูงกว่าค่าเบี้ยประกันทั้งปีเสียอีก ส่งผลให้คุณสูญเสียเงินเก็บและแบกรับภาระทางการเงินอย่างหนัก

2. ต้องทำทุกขั้นตอนเองและสู้คดีในศาล
การไม่มีประกันรถยนต์ทำให้คุณต้องจัดการทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง ตั้งแต่เจรจากับคู่กรณี รวบรวมหลักฐาน พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปจนถึงการเจอกับบริษัทประกันของคู่กรณี
ในกรณีร้ายแรง เช่น อุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิต คุณอาจต้องขึ้นศาล และหากเป็นคดีอาญา คุณจะต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายและการประกันตัวเองทั้งหมด ไม่มีใครมาช่วยเหลือ

3. ไม่มีคนคอยช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หลายคนมักตกใจและทำอะไรไม่ถูก หากรถที่คุณขับ ไม่มีประกันรถยนต์ คุณจะต้องเคลียร์ปัญหากับคู่กรณีเองทั้งหมด ทั้งเจรจา เก็บหลักฐาน และติดต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้เสียเวลาและเครียดมากกว่าเดิม
แต่หากคุณมีประกันรถยนต์ จะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ทุกปัญหาถูกจัดการอย่างมืออาชีพ

4. ไม่ได้รับความคุ้มครองจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
หากเกิดภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือแม้กระทั่งรถหาย รถที่ ไม่มีประกัน จะไม่ได้รับความคุ้มครองหรือชดเชยค่าเสียหายใด ๆ ทำให้คุณต้องสูญเสียทรัพย์สินไปโดยไม่ได้อะไรคืน
ในทางกลับกัน การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ 2+ จะช่วยคุ้มครองคุณจากความเสี่ยงเหล่านี้ และทำให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้น

5. ต้องมีสติและขับรถระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม
การมีสติและขับรถอย่างระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อคุณ ไม่มีประกันรถยนต์ ทุกการขับขี่ต้องแบกรับความเสี่ยงเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเกิดจากความประมาทของคุณหรือของผู้อื่น คุณจะกังวลมากขึ้น และอาจทำให้การขับขี่ไม่เป็นธรรมชาติ

สรุป
การขับรถโดยไม่มีประกันเสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายสูง ปัญหาทางกฎหมาย และความปลอดภัยของตัวคุณเองและผู้อื่น การทำประกันรถยนต์คือการลงทุนเพื่อความอุ่นใจและความปลอดภัยระยะยาว
อย่ารอให้เกิดเหตุไม่คาดคิด! ทำประกันรถยนต์วันนี้ เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของคุณและครอบครัว เพราะอุบัติเหตุไม่เคยถามก่อนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การขับรถโดยไม่มีประกัน = เสี่ยงทั้งค่าใช้จ่าย เสี่ยงผิดกฎหมาย การทำประกันรถยนต์ไม่ใช่แค่เรื่อง “เงินชดเชย” แต่คือการซื้อ ความมั่นใจ ความปลอดภัย และความอุ่นใจ ให้ทุกการเดินทาง อย่าปล่อยให้ความเสี่ยงอยู่ในมือคุณคนเดียว
เลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะกับคุณวันนี้ เพื่อให้ทุกเส้นทางปลอดภัย…และไร้กังวล

สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิก https://www.oohoo.io/ln/904679

2
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ออกประกาศเกณฑ์ใหม่สำหรับการทำ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญคือ “ทุกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ทุกคัน”
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการประกันภัยรถยนต์ไทย ที่มุ่งเน้นให้ระบบการประเมินเบี้ยประกันมีความโปร่งใส ยุติธรรม และสะท้อนพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถแต่ละรายอย่างแท้จริง

???? เกณฑ์ใหม่มีผลเมื่อไร?
เริ่มบังคับใช้ตามลำดับต่อไปนี้
1 มิถุนายน 2568
 รถยนต์ป้ายแดง (อายุไม่เกิน 1 ปี) ที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์

1 มกราคม 2569
 รถยนต์ทุกประเภทที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่เช่นเดียวกัน

???? รายละเอียดของนโยบายใหม่
ผู้เอาประกันสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คน ในกรมธรรม์เดียว
ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน หรือเลขใบขับขี่ เพื่อให้บริษัทประกันสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่และประวัติอุบัติเหตุย้อนหลังได้
หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่หลักในระหว่างปี ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยทันทีเพื่อปรับข้อมูลให้ถูกต้อง

???? ทำไมต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์?
การ “ระบุชื่อผู้ขับขี่” ไม่ได้เป็นเพียงข้อบังคับใหม่เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์โดยตรงต่อทั้งผู้เอาประกันและบริษัทประกันภัย
✅ 1. ส่งเสริมพฤติกรรมขับขี่ที่ดี
เมื่อข้อมูลการขับขี่ถูกบันทึกอย่างเป็นระบบ ผู้ขับขี่จะมีความระมัดระวังและรับผิดชอบต่อการใช้รถของตัวเองมากขึ้น เพราะประวัติการขับขี่จะมีผลต่อเบี้ยประกันในอนาคตโดยตรง
✅ 2. สร้างระบบรางวัลสำหรับผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่ำ
ผู้ที่มีประวัติการขับขี่ดี ไม่มีการเคลมหรือไม่มีอุบัติเหตุ จะได้รับ ส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุดถึง 40%
✅ 3. เปิดทางสู่ระบบ “ประกันภัยแบบรายบุคคล” (Personalized Insurance)
บริษัทประกันจะสามารถนำข้อมูลเชิงพฤติกรรม เช่น อายุ เพศ พื้นที่อยู่อาศัย และประวัติการขับขี่ มาประเมินความเสี่ยงเฉพาะบุคคล เพื่อออกแบบกรมธรรม์ที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับแต่ละคนมากยิ่งขึ้น
✅ 4. ลดความเหลื่อมล้ำในการจ่ายเบี้ยประกัน
คนที่ขับรถดี ไม่ควรต้องจ่ายเบี้ยเท่ากับคนที่ขับรถเสี่ยงสูง การระบุชื่อผู้ขับขี่ช่วยให้ระบบคำนวณเบี้ยมีความยุติธรรมมากขึ้น

???? ส่วนลด “ระบุผู้ขับขี่” 40% + “ส่วนลดประวัติดี” 40%
ก่อนหน้านี้ ส่วนลดสูงสุดที่ผู้เอาประกันจะได้รับคือ “ส่วนลดประวัติดี” สูงสุด 50%
 แต่เมื่อมีระบบ “ระบุชื่อผู้ขับขี่” เข้ามา จะมีส่วนลดเพิ่มเติมอีก 1 ชั้น
???? ตัวอย่างการคำนวณเบี้ยประกันใหม่
เบี้ยประกันเต็ม: 20,000 บาท
ส่วนลดจากการระบุชื่อผู้ขับขี่ (ขับดี): 20,000 × 40% = ลด 8,000 บาท → เหลือ 12,000 บาท
ส่วนลดจากประวัติขับขี่ดี: 12,000 × 40% = ลด 4,800 บาท → เหลือเบี้ยสุทธิ 7,200 บาท
???? สรุป: จากเบี้ยประกันเดิม 20,000 บาท หากผู้ขับขี่ขับดี + ไม่มีประวัติเคลม + ระบุชื่อในกรมธรรม์ครบ อาจได้เบี้ยเหลือเพียง 7,200 บาท (ลดรวมสูงสุดถึง 64%)
หมายเหตุ: ส่วนลดนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทประกันภัย ควรตรวจสอบรายละเอียดก่อนซื้อทุกครั้ง

???? ผลดีที่เกิดขึ้นกับวงการประกันภัยไทย
เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
ลดภาระของบริษัทประกันจากการเคลมซ้ำซ้อน
ส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีจิตสำนึกและวินัยในการขับรถ
พัฒนาไปสู่ระบบ “ประกันภัยรถยนต์ดิจิทัลแบบอัจฉริยะ (Smart Insurance)” ที่ใช้ข้อมูลจริงในการคำนวณเบี้ย

???? สรุป
เกณฑ์ใหม่ของ คปภ. ปี 2568 เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูประบบประกันภัยรถยนต์ไทยให้ “ยุติธรรม โปร่งใส และปลอดภัย” มากยิ่งขึ้น
 ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมดีจะได้รับรางวัลเป็นส่วนลดเบี้ยประกันที่คุ้มค่า ในขณะที่ผู้ที่ขับเสี่ยงสูงก็จะถูกประเมินเบี้ยตามความเหมาะสม

???? แนะนำสำหรับผู้ใช้รถ
หากคุณกำลังจะต่อประกันรถยนต์ในปี 2568 นี้ ควรเตรียมเอกสารของผู้ขับขี่หลักไว้ให้พร้อม และเลือกบริษัทประกันที่สามารถจัดการข้อมูลและส่วนลดได้อย่างมืออาชีพ
OOHOO.IO โบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ที่ให้คุณ “เลือกประกันได้เองอย่างมั่นใจ”
 เปรียบเทียบเบี้ยจากหลายบริษัทในไม่กี่นาที พร้อมบริการแนะนำส่วนลด “ระบุผู้ขับขี่” ให้คุณได้เบี้ยประกันที่คุ้มค่าที่สุด
สนใจต่อประกันรถยนต์
https://www.oohoo.io/ln/903615

หน้า: [1]