
คุณอาจกำลังจ่ายดอกเบี้ยให้กับ OD, Term Loan, บัตร/วงเงินธุรกิจ และสัญญาเช่าซื้อเครื่องจักรจากหลายสถาบันการเงินพร้อมกัน—ค่างวดไม่เท่ากัน วันตัดรอบไม่ตรงกัน ทำให้เงินหมุนสะดุดบ่อย ๆ “รีไฟแนนซ์” หรือ
รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ คือการย้ายและ “รวบหนี้เป็นก้อนเดียว” ไปยังผู้ให้กู้รายใหม่ (หรือธนาคารเดิมบนเงื่อนไขใหม่) เพื่อให้คุณได้ ดอกเบี้ยต่ำลง ระยะเวลายืดหยุ่นขึ้น และสภาพคล่องดีขึ้น
บริบทปี 2568 เอื้อให้เจ้าของกิจการพิจารณารีไฟแนนซ์อย่างมีเหตุผลมากขึ้น: คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติ ลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.50% เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2568 เพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่ทางการชี้ว่าการขยายตัวของสินเชื่อยังอ่อนแรง โดยเฉพาะกลุ่ม SME ซึ่งสะท้อนเงื่อนไขคัดกรองที่เข้มขึ้นแต่เปิดโอกาสสำหรับผู้กู้ที่ “เอกสารและตัวเลขดี” ในการเจรจาเงื่อนไขใหม่ให้คุ้มกว่าเดิมได้มากขึ้น

รีไฟแนนซ์ธุรกิจ SME คืออะไร? ต่างจาก “ปรับโครงสร้างหนี้” อย่างไร
สินเชื่อรีไฟแนนซ์: ย้ายหนี้จากหลายก้อน/หลายสถาบัน มารวมเป็นก้อนเดียว (หรือไม่กี่ก้อน) กับผู้ให้กู้ที่เสนอ อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า หรือ โครงสร้างค่างวดเหมาะกว่า เป้าหมายคือ ลดต้นทุนทางการเงิน และ ทำให้กระแสเงินสดสม่ำเสมอ
ปรับโครงสร้างหนี้ (Restructuring): เปลี่ยนเงื่อนไขกับผู้ให้กู้ “รายเดิม” เพื่อคงความสามารถชำระหนี้ เช่น ขยายเวลาผ่อน ลดค่างวด ผ่อนชำระเฉพาะดอกช่วงหนึ่ง ฯลฯ ซึ่งทางการมีแนวนโยบายกำกับให้สถาบันการเงินทำอย่างเป็นระบบตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา
มุมมองที่ปรึกษา: ถ้ากิจการ แข็งแรง (ยอดขาย–กำไร–DSCR ดี) “รีไฟแนนซ์” มักให้ผลประหยัดสูงสุด เพราะคุณใช้ อำนาจต่อรอง ที่มีอยู่ไปแลกดอกเบี้ย–ค่างวดที่ดีกว่า แต่ถ้า ยังเปราะบาง (กระแสเงินสดตึง/ยังฟื้นตัว) การ “ปรับโครงสร้างหนี้” กับเจ้าหนี้เดิมอาจเหมาะกว่าในระยะสั้น
วิเคราะห์เชิงลึก: เมื่อไรควรพิจรณาว่า
สินเชื่อsme ที่มีอยู่ควรรีไฟแนนซ์ได้แล้ว
ในปี 2568 ภาพรวมสินเชื่อธุรกิจโดยเฉพาะ SME ยังขยายตัวอย่างระมัดระวัง ธปท.ระบุว่าการปล่อยสินเชื่อใหม่ยังอ่อนแรงและมีความเสี่ยงเฉพาะกลุ่ม ขณะเดียวกัน NPL ของ SME ลดลงส่วนหนึ่งเพราะมาตรการช่วยเหลือ–ปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFI) ซึ่งตีความได้ว่า “ลูกค้าที่เอกสารดีและกระแสเงินสดแน่น” จะได้เปรียบในการต่อรองเงื่อนไขรีไฟแนนซ์มากขึ้น
ตัวชี้วัด 6 ข้อที่บอกว่า “ถึงเวลารีไฟแนนซ์”
ส่วนต่างดอกเบี้ย (Spread) ≥ 1.0–1.5% เทียบระหว่างดอกเบี้ยเดิมกับข้อเสนอใหม่ หลังหักค่าธรรมเนียมทั้งหมด
DSCR ≥ 1.5 เท่า หลังรีไฟแนนซ์แล้วค่างวดรวมต้อง “เบาลง” พอให้ DSCR ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
คงเหลืออายุสัญญา ≥ 3 ปี ยิ่งเหลือยาว การประหยัดดอกเบี้ยสะสมยิ่งมาก (คุ้มค่าธรรมเนียมย้ายค่าย)
รายได้สม่ำเสมอ มี Statement/ใบกำกับภาษีรองรับ 6–12 เดือน
ไม่มีธงแดงเครดิต (ค้างชำระ/ผิดนัด) ใน 12 เดือนล่าสุด
โครงสร้างหนี้หลังรีไฟแนนซ์ ต้องช่วยแก้ “ต้นตอ” เช่น ลดภาระ OD ที่แพง/ผันผวน ด้วย Term Loan ดอกต่ำ–ผ่อนคงที่
“กฎหัวแม่มือ” ประเมินความคุ้มอย่างเร็ว
ทุก ๆ ส่วนลดดอกเบี้ย 1% บนหนี้ 5 ล้านบาท ช่วยประหยัดดอกเบี้ย “ระดับหลายหมื่นบาท/ปี” ในช่วงแรก (ตัวเลขจริงขึ้นกับโปรไฟล์ค่างวด–ยอดคงเหลือ)
ถ้าค่าปรับปิดก่อนกำหนด (Prepayment), ค่าจดจำนอง/ประเมิน, ค่าธรรมเนียมรีไฟแนนซ์ รวมกันไม่เกินดอกเบี้ยที่จะประหยัดใน 18–24 เดือนแรก มัก “คุ้ม”
ความเห็นผู้เชี่ยวชาญ: ในตลาดดอกเบี้ยขาลง (MPC ลดดอกเบี้ยนโยบายสู่ 1.50% เมื่อ ส.ค. 2568) ผู้กู้ควรเจรจา อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง–ส่วนเพิ่ม (Spread) และ เงื่อนไขรีเซ็ต ให้ชัด รวมถึงพิจารณา “ตรึงดอก” บางส่วน (Fixed) บนสัญญาหลัก เพื่อล็อกความแน่นอนของต้นทุนการเงินระยะกลาง โดยสำรองวงเงินลอยตัว (Floating) ไว้เฉพาะส่วนที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เช่น OD/Working Capital ฯลฯ
bot.or.th
ความเสี่ยงและ “ธงแดง” ในสัญญาที่ห้ามมองข้าม
Prepayment Penalty และ “Lock-in” ที่ยาวเกิน—ทำให้เสียโอกาสลดดอกในอนาคต
Negative Pledge / Cross Default—ข้อกำหนดค้ำคอทรัพย์และการผิดนัดไขว้
Covenant DSCR/D/E—ตั้งเพดานสูงเกินตัว อาจกลายเป็นเหตุผิดเงื่อนไขง่าย ๆ
ค่าธรรมเนียมยิบย่อย—ค่าประเมิน ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมค้ำ (ถ้าใช้ บสย.) ต้องรวมใน TCO (Total Cost of Ownership) เสมอ

แผนปฏิบัติการรีไฟแนนซ์: 4 สัปดาห์ให้จบอย่างมืออาชีพ
สัปดาห์ 1 – วินิจฉัยหนี้
รวบรวมสัญญาเดิมทั้งหมด: ยอดคงเหลือ, อัตราดอก, ตารางค่างวด, ค่าปรับปิดก่อนกำหนด, หลักประกันที่ผูกไว้ แล้วคำนวณ DSCR ปัจจุบัน
สัปดาห์ 2 – เตรียมแฟ้มอนุมัติ
งบการเงิน 2–3 ปี + Statement 6–12 เดือน, ภพ.30/งบภาษี, แผนธุรกิจ–กระแสเงินสดคาดการณ์ 3–5 ปี, เอกสารหลักประกัน (ถ้ามี) และสรุปวัตถุประสงค์รีไฟแนนซ์ (รวบ OD/เปลี่ยนเป็น Term/ยืดค่างวด ฯลฯ)
สัปดาห์ 3 – เปรียบเทียบข้อเสนอ
ยื่นอย่างน้อย 2–3 สถาบัน (ธ.รัฐ/ธ.พาณิชย์/ไฟแนนซ์เฉพาะทาง) แล้วเปรียบเทียบ ดอกเบี้ยอ้างอิง + Spread, ค่าธรรมเนียมรวม, Covenant, กรอบอนุมัติวงเงินเสริม (OD, Factoring, Invoice Financing)
สัปดาห์ 4 – ปิดดีลอย่างปลอดภัย
เคลียร์ภาระผูกพัน (ปลดจำนอง/เปลี่ยนผู้รับจำนอง), ตรวจถ้อยคำสัญญา, วางแผนโยกบัญชีรายรับหลักเข้าธนาคารใหม่เพื่อสร้าง Behavior Score รองรับการขอวงเงินเพิ่มในอนาคต

ทางเลือก “ผู้ให้กู้” สำหรับ รีไฟแนนซ์สินเชื่อ SME (จัดหมวดเพื่อการเปรียบเทียบ)
ธนาคารของรัฐ: SME D Bank, ออมสิน—เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการวงเงินรีไฟแนนซ์พร้อมเสริมสภาพคล่อง/ลงทุน เพิ่มโอกาสได้เงื่อนไขตามนโยบายภาครัฐ หรือเข้ากรอบช่วยเหลือเฉพาะพื้นที่ภัยพิบัติ–เศรษฐกิจ (ธปท.มีแนวทางผ่อนปรนการจัดชั้นหนี้กรณีภัยพิบัติเป็นการชั่วคราว)
bot.or.th
ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่: กสิกรไทย, กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, ttb ฯลฯ—เหมาะกับลูกค้าที่งบการเงินแข็งแรง ต้องการวงเงินสูง มีหลายผลิตภัณฑ์ประกบ (OD, Trade, FX Hedge)
ไฟแนนซ์เฉพาะทาง/Non-Bank: ใช้ “รีไฟแนนซ์บางก้อน” เพื่อแก้คอขวด เช่น สลับวงเงิน OD แพง ไปเป็น Term Loan ดอกต่ำ แล้วคง OD ไว้เท่าที่จำเป็น
บสย. ค้ำประกัน: ถ้าหลักทรัพย์ไม่พอ การใช้ค้ำเสริม อาจ ช่วยปิดดีลได้ แต่ต้องรวม “ค่าธรรมเนียมค้ำ” เข้าใน TCO ก่อนตัดสินใจ
หมายเหตุ: ปี 2568 การแข่งขันราคาดอกระหว่างผู้ให้กู้ยังอิงภาวะดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลง แต่การคัดกรองยังเข้ม—จุดชี้ขาดจึงอยู่ที่ คุณภาพเอกสาร กระแสเงินสดจริง และความโปร่งใสของข้อมูล มากกว่าการ “ช้อปดอกเบี้ย” เพียงอย่างเดียว
bot.or.th
เคสตัวอย่าง (สมมติ): โรงงานอาหารพร้อมรีไฟแนนซ์เพื่อ “ลดดอก–เสริมทุนหมุน”
โรงงาน SME รายได้ 120 ลบ./ปี มียอดหนี้รวม 32 ลบ. กระจาย 4 สัญญา (OD 8 ลบ., Term 18 ลบ., ลีสซิ่ง 4 ลบ., วงเงินสั้น 2 ลบ.) จ่ายดอกเฉลี่ย “สูงและผันผวน” ทำให้ DSCR แกว่ง ระหว่าง 1.2–1.4 เท่า
แผนรีไฟแนนซ์:
รวบ OD 8 ลบ. + วงเงินสั้น 2 ลบ. เป็น Term Loan 10 ลบ. ดอกต่ำลง–ผ่อนคงที่
รีไฟแนนซ์ Term เดิม 18 ลบ. ไปอัตราที่ต่ำลง + ยืดอายุอีกเล็กน้อย
คง OD หลังรีไฟแนนซ์ไว้ 4 ลบ. สำหรับฤดูกาลขายพีก (ลดความผันผวนของดอก)
ผลลัพธ์ที่มุ่งหวัง: ค่างวดรวมลดลง, DSCR > 1.6 เท่า สม่ำเสมอ, ต้นทุนทางการเงินต่อรายได้ลดลง มีกำลังลงทุนอัตโนมัติเครื่องจักรเพิ่มเติม
เช็กลิสต์เอกสารที่ “เพิ่มโอกาสอนุมัติ” ในตลาดปี 2568
งบการเงินตรวจสอบแล้ว 2–3 ปี + Statement 6–12 เดือน (ให้เห็น Cash Conversion จริง)
ภพ.30/ภงด.50/51 และใบกำกับภาษี (สะท้อนรายได้มีฐานภาษี)
Aging ลูกหนี้–เจ้าหนี้ และ สัญญารายได้ (PO/LOA/สัญญารับงาน) เพื่อพิสูจน์ความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด
เอกสารหลักประกัน (โฉนด/นิติกรรม/ประเมินเบื้องต้น) หากต้องการลดดอกด้วยทรัพย์ค้ำ
แผนธุรกิจและ Cash Flow Projection 3–5 ปี (ระบุสมมติฐาน–ความเสี่ยง–แผนรับมือ)
บริบทคุณภาพเครดิตของธุรกิจปี 2568: ธปท.รายงานว่า คุณภาพหนี้ธุรกิจโดยรวมทรงตัว แต่ NPL SME ลดลง ส่วนหนึ่งจากการปรับโครงสร้างหนี้โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจ—จึงยิ่งจำเป็นที่ผู้กู้จะต้อง “โชว์” การบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ธนาคารเชื่อมั่นว่าหลังรีไฟแนนซ์แล้วหนี้จะมีคุณภาพกว่าเดิม
bot.or.th
สรุปเชิงกลยุทธ์: รีไฟแนนซ์สินเชื่อ SME ให้ “คุ้มจริง” ในปี 2568
ประเมิน Spread ที่ลดได้ หลังหักค่าใช้จ่ายย้ายค่ายทั้งหมด 2) ย้าย “หนี้แพง–ผันผวน” ไปเป็นโครงสร้าง ผ่อนคงที่–ดอกต่ำ 3) จัด Covenant ให้สอดคล้องฤดูกาลขายและวัฏจักรธุรกิจ 4) วาง Buffer/OD เท่าที่จำเป็นเพื่อความยืดหยุ่น 5) โปร่งใสเรื่องข้อมูล–ภาษี–เอกสาร เพื่อเลี้ยง Behavior Score ให้พร้อมขอวงเงินเสริมในอนาคต
ถ้าคุณต้องการทีมมืออาชีพช่วยวิเคราะห์ความคุ้ม รีเช็คสัญญา และเตรียมแฟ้มอนุมัติให้ผ่านด่านแรกอย่างสวยงาม ติดต่อเราได้เลยที่
www.easycashflows.com – เราพร้อมวางแผนรีไฟแนนซ์ธุรกิจ SME ให้เหมาะกับ “กระแสเงินสดจริง” ของกิจการคุณ
ที่มาบทความฉบับเต็ม
สินเชื่อรีไฟแนนซ์ รวบหนี้ธุรกิจหลายก้อนให้เป็นก้อนเดียวแหล่งข้อมูลอ้างอิง (อัปเดตปี 2568)
Bank of Thailand – Monetary Policy Committee’s Decision No. 4/2025 (มติลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.50% และมุมมองสินเชื่อธุรกิจ/SME)
https://www.bot.or.th/en/news-and-media/monetary-policy/monetary-policy-decisions/2025/mpc-decision-425.html bot.or.th
Bank of Thailand – Monetary Policy Report Q1/2025 (ทิศทางคุณภาพหนี้ธุรกิจและ SME; ปัจจัย NPL)
https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/en/our-roles/monetary-policy/mpc-publication/monetary-policy-report/MPR_2025_Q1.pdf bot.or.th