ทำประกันชั้น 1 กันดีกว่า

[อัญณา]

   ทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี คนประสบความสำเร็จและคนล้มเหลว คนที่รักในอาชีพและคนที่ทำแค่เพื่อความอยู่รอด คนที่บริการที่ดีและคนที่บริการไม่ดี…บางทีการได้รับการบริการบางอย่าง เราอาจไม่ได้รับการบริการที่ดีอย่างที่เราคาดหวังไว้ หรืออาจไปเจอผู้ให้บริการบางรายที่ไม่เข้าใจลูกค้าก็เป็นไปได้…แต่ในฐานะลูกค้าเราอาจไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจคนอื่นทุกครั้งที่เราต้องการการดูแลและบริการที่ดี จริงมั๊ย ?
เมื่อนานมาแล้ว หลายๆ ปี  ก่อนหน้านี้ เราออกรถใหม่คันแรก พอดีที่โชว์รูมเจอเซลส์น่ารักเลยแถมประกันรถชั้น 1 มาให้ ณ วันที่ออกรถเลย ด้วยความที่ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะแค่ขับออกจากบ้านมาทำงานแค่นั้นเอง ได้รับกรมธรรม์มาก็เอามาเก็บๆ เอาไว้ ไม่ได้สนใจจะอ่านหรือไม่ได้สนใจเรื่องเรทเบี้ยประกันอะไรเลย จนเวลาล่วงเลยไป
ผ่านไปหนึ่งปี ช่างเป็นเวลาที่รวดเร็วนัก เป็นหนึ่งปีที่ต้องถึงคราวที่เราต้องจ่ายเบี้ยประกันเองแล้ว แต่เห็นว่าเบี้ยประกันที่โชว์รูมแถมให้พอถึงปีต่ออายุ ก็ยังแพงอยู่ดีและทั้งปีก็เหมือนเราเสียเงินไปเปล่าๆ โดยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย จึงตัดสินใจไม่ต่อของที่เดิม แต่ก็ยังไม่มีเวลามองหาที่ใหม่ๆ เพราะคิดว่าทำไปก็ไม่ได้ใช้ กลับเสียดายตังค์ด้วยซ้ำ
ผ่านไปหลายวัน ก็มีบริษัทหนึ่งโทรเข้ามาที่มือถือเรา (ไม่รู้ไปได้เบอร์จากไหนเหมือนกัน รู้ชื่อเราด้วยและรู้ด้วยว่าประกันเดิมใกล้หมดแล้ว) ก็โทรเข้ามาขายประกัน เราก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง แต่ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าไม่อยากทำประกันที่เบี้ยแพงๆ เพราะส่วนใหญ่ประกันชั้น 1 ก็มักจะเบี้ยสูงกว่าปกติ จึงสอบถามเรทเบี้ยประกันที่ต่ำที่สุด ความคุ้มครองยังไงก็ได้ (ตอนนั้นยังไม่เข้าใจเลยว่า ประกัน ชั้น 1 เคลม อะไร ได้ บ้าง) ในใจนึกแต่เพียงว่าไม่อยากจ่ายเบี้ยแพง
หลังจากจบขั้นตอนชำระเงินต่างๆ แล้วเราก็ได้รับกรมธรรม์มา ก็เก็บๆ เอาไว้เหมือนเดิม แล้วก็ขับรถไปทำงาน เช้าไป-เย็นกลับ เหมือนเดิม ปรากฏว่ามอเตอร์ไซค์มาจากไหนไม่รู้ ขับซ้ายทีขวาที ซ่อกแซ่กๆ จนมาเฉี่ยวหูช้างเราอย่างจัง มันบิดฉีกขาดออกจากตัวรถเลย แล้วไม่จอดมาดูด้วย หนีไปหน้าตาเฉย…
พอเราโทรแจ้งเคลมกลับเคลมไม่ได้… ก็เลยถึงบางอ้อ เลยว่าที่เราทำไปไม่ได้เป็นประกันชั้น 1 เพราะตอนนั้นเข้าใจเอาเองว่าการทำประกันรถยนต์ก็เหมือนๆ กัน ทำแบบไหนก็ได้ความคุ้มครองเหมือนกันแล้วน้องที่เค้าโทรมาขายให้ช่วยซื้อก็ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดด้วย ปรากฏว่าเป็นช่วงค่อนมาใกล้ปลายเดือนค่าซ่อมและค่าแรงหมดไปร่วมๆ ห้าพันเลยแค่ครั้งเดียว ปาดเหงื่อทีเดียว
ตั้งแต่นั้นมาเราก็ตั้งใจไว้เลยจะไม่ซื้อประกันรถยนต์กับตัวแทนที่โทรเข้ามาอีกแล้ว หลังจากนั้นเลยเริ่มมองหาประกันอย่างจริงจัง และหา ซื้อ ประกัน รถยนต์ ออนไลน์ แทน โดยในครั้งนี้ ก็เริ่มคิดและหาข้อมูลอย่างละเอียดมากขึ้น ว่าเราควรจะซื้อประกันรถยนต์ ที่ไหนดี
ประสบการณ์ต่าง ๆ ต่างก็มีราคาในตัวมันเอง สำหรับเรายังโชคดีที่ใช้เงินเพียงเท่านี้ซื้อประสบการณ์ในครั้งนี้ แต่อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่โชคดีเหมือนเรา ดังนั้นการจะซื้อสินค้าอะไรผ่านช่องทางไหนก็แล้วแต่ ควรศึกษาข้อมูล, สอบถามและอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนการตัดสินใจ