ถังแชมเปญ vs ระบบปั๊มน้ำอัตโนมัติ (Booster Pump) เลือกแบบไหนเหมาะสม

[พัณณิกา พรูสิริพร]

เคยไหมครับ? เวลาจะเปิดน้ำใช้แล้วน้ำไหลอ่อนเป็นเส้นบะหมี่ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ปลายท่อหรือรีสอร์ทบนเขาที่ต้องเจอปัญหานี้บ่อยๆ เรื่องแรงดันน้ำที่ไม่คงที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลายคนปวดหัว วันนี้เราจะมาเจาะลึก 2 สุดยอดระบบจ่ายน้ำยอดนิยมที่เปรียบเสมือน "มวยคนละรุ่น" แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือการส่งน้ำให้แรงสะใจ

นั่นก็คือ ถังแชมเปญ ยักษ์ใหญ่ใจดีที่ใช้แรงโน้มถ่วงเป็นอาวุธ กับ ระบบปั๊มน้ำอัตโนมัติ (Booster Pump) มวยรุ่นเล็กที่หมัดหนักและว่องไว บทความนี้จะเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ว่าระบบไหนเหมาะกับใคร เพื่อให้คุณเลือกลงทุนได้อย่างคุ้มค่าและจบทุกปัญหาเรื่องน้ำครับ

หลักการทำงานของถังแชมเปญที่ใช้แรงโน้มถ่วงส่งน้ำโดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าตลอดเวลา
ลองจินตนาการถึงน้ำตกขนาดใหญ่ดูนะครับ น้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำด้วยพลังธรรมชาติเสมอ นี่คือหลักการทำงานที่แสนจะเรียบง่ายแต่ทรงพลังของ ถังแชมเปญ ครับ

ระบบนี้จะใช้ปั๊มน้ำทำงานแค่ครั้งเดียวเพื่อสูบน้ำปริมาณมหาศาลขึ้นไปเก็บไว้บนถังทรงสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่ จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของ "แรงโน้มถ่วง" ล้วนๆ เมื่อเราเปิดก๊อกน้ำ น้ำที่อยู่บนที่สูงก็จะไหลลงมาตามท่อด้วยแรงดันที่เกิดจากความสูงของถัง ยิ่งถังสูงเท่าไหร่ แรงดันน้ำก็จะยิ่งแรงและสม่ำเสมอมากเท่านั้น ข้อดีสุดๆ คือ ปั๊มน้ำไม่ต้องทำงานทุกครั้งที่เราเปิดน้ำ ทำให้ ถังแชมเปญ ประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ระบบปั๊มน้ำอัตโนมัติ (Booster Pump) คืออะไร และทำงานต่างจาก ถังแชมเปญอย่างไร ?
ถ้า ถังแชมเปญ คือยักษ์ใหญ่ใจเย็น ระบบ Booster Pump ก็เปรียบเสมือนนักวิ่งระยะสั้นที่พร้อมออกตัวทันทีเมื่อได้ยินสัญญาณ หลักการของมันคือการใช้ "มอเตอร์ไฟฟ้า" สร้างแรงดันน้ำโดยตรง เมื่อเราปิดก๊อกน้ำทุกจุดในบ้าน ปั๊มจะหยุดทำงาน แต่ทันทีที่เราเปิดก๊อกน้ำแม้เพียงนิดเดียว เซ็นเซอร์ในระบบจะตรวจจับแรงดันที่ลดลงและสั่งให้มอเตอร์ทำงานเพื่อ "อัด" น้ำส่งตรงมาให้เราทันที

ความแตกต่างที่สำคัญคือ Booster Pump จะต้องใช้ไฟฟ้า "ทุกครั้ง" ที่มีการใช้น้ำ ทำให้มันเป็นระบบที่ตอบสนองเร็วทันใจ แต่ก็แลกมากับการใช้พลังงานที่ต่อเนื่องกว่าเมื่อเทียบกับ ถังแชมเปญ

เปรียบเทียบแรงดันน้ำที่ได้จาก ถังแชมเปญ กับ Booster Pump แบบหมัดต่อหมัด
เรื่องแรงดันน้ำถือเป็นหัวใจสำคัญ ถ้าให้เปรียบเทียบกันแบบชัดๆ จะเป็นแบบนี้ครับ

แรงดันน้ำจาก ถังแชมเปญ: ให้ความรู้สึกเหมือน "แม่น้ำที่ไหลอย่างสม่ำเสมอ" แรงดันจะนิ่งและคงที่มากๆ ไม่ว่าจะเปิดน้ำพร้อมกันหลายจุดแค่ไหนก็ตาม เพราะมีมวลน้ำขนาดใหญ่คอยกดทับลงมาตลอดเวลา ความแรงของน้ำจะขึ้นอยู่กับความสูงของถังเป็นหลัก

แรงดันน้ำจาก Booster Pump: ให้ความรู้สึกเหมือน "น้ำที่ถูกฉีดออกจากสายยาง" แรงดันจะพุ่งแรง แต่บางครั้งอาจมีอาการกระตุกเล็กน้อยตอนที่ปั๊มเริ่มทำงาน และอาจแกว่งบ้างถ้ามีการเปิด-ปิดน้ำหลายจุดพร้อมกัน ความแรงจะขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ของมอเตอร์ปั๊ม

ข้อดี-ข้อเสีย ของการติดตั้ง ถังแชมเปญ ที่เจ้าของโครงการควรรู้
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เรามาลิสต์ข้อดีข้อเสียของ ถังแชมเปญ กันครับ

ข้อดี:

• ประหยัดค่าไฟระยะยาว: เพราะปั๊มทำงานแค่ตอนเติมน้ำเข้าถัง ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา
• แรงดันน้ำนิ่งและเสถียรมาก: เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความคงที่ของแรงดันสูง
• มีน้ำสำรองใช้ในกรณีไฟดับ: ตราบใดที่ยังมีน้ำในถัง ก็ยังสามารถใช้น้ำได้ตามปกติ
• บำรุงรักษาง่าย: ระบบไม่มีความซับซ้อน ดูแลรักษาน้อยกว่า

ข้อเสีย:

• ใช้งบประมาณเริ่มต้นสูง: ทั้งค่าโครงสร้างและค่าติดตั้ง
• ต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง: ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีจำกัด
• ต้องมีฐานรากที่แข็งแรง: เพื่อรองรับน้ำหนักของโครงสร้างและน้ำ

ข้อดี-ข้อเสีย ของระบบ Booster Pump เมื่อเทียบกับหอถังสูง
ทีนี้มาดูฝั่ง Booster Pump กันบ้างเมื่อต้องเทียบกับ หอถังสูง (ซึ่งเป็นอีกชื่อเรียกของถังเก็บน้ำทรงสูง)
ข้อดี:

• งบประมาณเริ่มต้นต่ำกว่า: หาซื้อได้ง่ายและมีหลายราคาให้เลือก
• ติดตั้งง่าย ใช้พื้นที่น้อย: สามารถติดตั้งในห้องเก็บของหรือพื้นที่เล็กๆ ได้
• ให้แรงดันสูงได้ทันที: เหมาะกับการแก้ปัญหาน้ำอ่อนในบางจุดอย่างรวดเร็ว

ข้อเสีย:

• ค่าไฟฟ้าสูงกว่าในระยะยาว: เพราะปั๊มทำงานทุกครั้งที่เปิดน้ำ
• มีเสียงดังรบกวน: ขณะที่ปั๊มทำงานอาจมีเสียงดัง
• แรงดันอาจไม่นิ่งเท่าหอถังสูง: มีโอกาสเกิดแรงดันกระชาก
• ไฟดับเมื่อไหร่ คือใช้น้ำไม่ได้ทันที: เพราะต้องพึ่งพาไฟฟ้า 100%

พื้นที่แบบไหนที่การติดตั้ง ถังแชมเปญ จะคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด
ถังแชมเปญ จะเปล่งประกายความคุ้มค่าสูงสุดในพื้นที่เหล่านี้ครับ

• ระบบประปาหมู่บ้าน/ชุมชน: ที่ต้องจ่ายน้ำให้บ้านหลายสิบหรือหลายร้อยหลังคาเรือนพร้อมกัน
• รีสอร์ท โรงแรม บนพื้นที่สูงหรือห่างไกล: ที่ต้องการความเสถียรของน้ำและมีน้ำสำรองไว้บริการลูกค้า
• โรงงานอุตสาหกรรม: ที่ต้องการใช้น้ำปริมาณมากในกระบวนการผลิต
• พื้นที่การเกษตรขนาดใหญ่: เช่น สวนทุเรียน สวนผลไม้ ที่ต้องใช้ระบบน้ำสปริงเกอร์เป็นวงกว้าง

เมื่อไหร่ที่ควรเลือกใช้ Booster Pump แทนการสร้างหอถังสูง ?
Booster Pump จะเป็นพระเอกในสถานการณ์เหล่านี้

• บ้านพักอาศัยทั่วไป: ที่มี 2-3 ชั้น และต้องการเพิ่มแรงดันน้ำให้ชั้นบน
• อาคารพาณิชย์ หรือทาวน์โฮม: ที่มีพื้นที่ติดตั้งจำกัด
• โครงการที่มีงบประมาณเริ่มต้นจำกัด: และต้องการแก้ปัญหาน้ำไหลอ่อนแบบเร่งด่วน
• พื้นที่ที่ไม่สามารถก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างสูงๆ ได้: เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายหรือโครงสร้าง

สรุปเรื่องถังแชมเปญ
การตัดสินใจเลือกระหว่าง ถังแชมเปญ กับ Booster Pump ไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียวครับ แต่มันขึ้นอยู่กับ "โจทย์" และ "เป้าหมาย" ของคุณเป็นหลัก หากคุณมองการณ์ไกล ต้องการความเสถียรสูงสุด และต้องการความคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับโครงการขนาดใหญ่ การลงทุนกับ ถังแชมเปญ คือคำตอบที่ใช่ แต่ถ้าคุณต้องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่จำกัดด้วยงบประมาณที่ไม่สูงนัก Booster Pump ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.taksak.co.th/