ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แอลอีดี ทีวี ไอเท็มดีๆ ที่ตอบโจทย์วิถี New Normal

วิถี  New Normal ที่บังคับให้พวกเราอยู่บ้านกันมากขึ้น การเข้าถึงสื่อบันเทิงต่างๆ เปลี่ยนไปจากที่เดิมทุกคนต้องไปโรงภาพยนตร์ แต่ทุกวันนี้เราสามารถอยู่บ้านเปิดทีวีแล้วชมภาพยนตร์เรื่องดัง ซีรี่ส์ยอดฮิต ได้จากมินิโฮมเธียร์เตอร์ภายในบ้านของเรา ด้วยแอลอีดี ทีวีที่มาพร้อมภาพที่คมชัดและระบบเสียงชั้นเยี่ยม และแอลอีดี ทีวี ยังมีขนาดที่บางสวย ทำให้ดูกลมกลืนกับบ้านได้ไม่ยาก



ทำความรู้จักกับ แอลอีดี ทีวี
แอลอีดี ทีวี - LED TV (Light Emitting Diode) คือ เทคโนโลยีที่ต่อยอดมาจาก LCD TV (Liquid Crystal Display) โดยเปลี่ยนจากหลอดไฟ CCFL เป็นหลอดไฟ LED 3 สี (แดง,น้ำเงิน และเขียว) เป็นตัวให้กำเนิดแสงแทน ซึ่งหลอดไฟ LED 3 สี กินไฟน้อยกว่า แต่สามารถให้แสงสว่างได้มากกว่าหลอดไฟ CCFL และยังมีขนาดที่เล็กกว่า จึงทำให้จอทีวี LED มีขนาดบางกว่าจอทีวี LCD ค่อนข้างมาก

วิธีการเลือกซื้อเลือกหา แอลอีดี ทีวี
ถ้าท่านไหนอยู่บ้านอยากได้แอลอีดี ทีวีดีๆ ซักเครื่องเอาไว้ เล่นเกม ดูซีรี่ส์ ดูหนัง เปิดข่าวฟังเพลินๆ หรืออยากทำเป็นมินิโฮมเธียร์เตอร์ภายในบ้าน เรามีวิธีเลือกซื้อเลือกหามาแนะนำค่ะ

1. เลือกขนาดหน้าจอ ให้พอดีกับจุดที่วาง
เพราะบ้านหรือคอนโดมีเนียมของแต่ละคนมีพื้นที่ที่จะตั้งหรือติดตั้งไม่เท่ากัน ด้วยเหตุนั้นประการแรกที่เราต้องคำนึงถึงคือ พื้นที่ที่เราจะติดตั้งรองรับจอได้สูงสุดที่ขนาดเท่าไหร่  นอกจากนี้ระยะห่างในการรับชมก็มีผล เนื่องมาจากยิ่งนั่งห่างมากยิ่งต้องใช้จอที่ใหญ่มากขึ้น

2. เลือกความละเอียดของหน้าจอ
แอลอีดี ทีวี เป็นจอทีวีที่ให้สีสันสดใส สมจริง แต่ความละเอียดของหน้าจอทีวีก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยให้ภาพคมชัดมากขึ้น ถ้าเราต้องการแค่ดูข่าวดูรายการทั่วไป ความละเอียดแบบ HD 1366 x 768 ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากต้องการดูหนัง เล่นเกม ดู Netflix ที่ต้องการความสมจริงมากๆ แนะนำให้เลือก ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 อย่างเช่น ทีวี LG เทคโนโลยีภาพแบบ Full HD พร้อมการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทผ่าน Smart TV การดู Youtube, Netflix หรือท่องเว็บได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว

3. เลือกระบบเสียง
ระบบเสียงจัดเป็นอรรถรสที่ขาดไม่ได้ในการดูหนัง ฟังเพลง และการเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่อยากจะทำมินิโฮมเธียร์เตอร์ไว้ในบ้าน ไม่ควรมองข้ามระบบเสียงที่ติดมากับทีวี ซึ่งแต่ละแบรนด์ได้ให้ความใส่ใจกับระบบเสี่ยงเป็นอย่างมาก เช่น ทีวี Samsung ที่นอกจากจะโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีด้านภาพแล้ว เทคโนโลยีด้านระบบเสียง Object Tracking Sound Lite (OTS Lite) ที่สามารถจำลองเสียงจากทิศทางด้านบนได้สมจริงยิ่งขึ้นพร้อมเพิ่มความชัดเจนด้วยทิศทางเสียง 2.0 CH ให้เสียงที่ได้มีมิติ สมจริงไม่แพ้งานภาพ

4. เลือกวิธีการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
เพราะในปัจจุบันทีวีรุ่นใหม่ๆ เกือบทุกรุ่นได้กลายเป็น Smart TV ที่ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งดูหนังฟังเพลง ดูซีรี่ส์ เล่นเกม และท่องโลกอินเตอร์เน็ต ดังนั้นพอร์ตต่างๆ ที่มีให้มาควรรองรับการเชื่อมที่เราต้องการ เช่นว่าการเชื่อมต่อผ่าน USB, HDMI, AV ที่ต้องมีเป็นช่องพื้นฐาน แต่สิ่งที่ควรมองหาเพิ่ม คือการเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเกมต่างๆ เช่น Playstation ในกรณีที่เราเป็นเกมเมอร์ การเชื่อมต่อด้วย WiFi ที่ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อการใช้งานอื่นได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ทีวี sharp สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับทีวี ผ่าน WiFi Router เพื่อฉายภาพในโทรศัพท์บนจอทีวีได้ เป็นต้น

5. เลือกการรับประกันและบริการหลังการขาย

ควรตรวจสอบเงื่อนไข ศูนย์บริการ และการให้คำแนะนำช่วยเหลือในกรณีที่พบปัญหาระหว่างการใช้งาน การรับประสินค้าและการเปลี่ยน หรือคืน เป็นสิ่งที่ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนซื้อ

การอยู่บ้านในยุค New Normal จะไม่เหงาอีกต่อไป แค่เรามี แอลอีดี ทีวี ดีๆ ซักเครื่อง เอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรี่ส์ หรือเล่นเกมโปรด ก็ช่วยให้เราเพลินลืมความเบื่อไปได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/TVA07