ดาวเด่นแฟรนไชส์    ‘Inthanin’ ร้านกาแฟในปั๊มบางจาก ชูแฟรนไชส์การันตีความสำเร็จ
23K
12 พฤศจิกายน 2553

‘Inthanin’ ร้านกาแฟในปั๊มบางจาก ชูแฟรนไชส์การันตีความสำเร็จ 

 

 


       ร้านกาแฟเป็นอีกหนึ่งธุรกิจในฝันของใครหลายคน แต่ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ การจะลงทุน ความเชื่อมั่นถึงความสำเร็จ บวกความเสี่ยงต่ำ เป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจ ฉะนั้น เมื่อ “บางจาก” บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของไทย พัฒนาร้านกาแฟ รูปแบบแฟรนไชส์ ในชื่อ “อินทนิล” (Inthanin) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน
 

 


       ยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้อำนวยการอาวุโส สายตลาดค้าปลีก บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ผู้รับผิดชอบโครงการแฟรนไชส์ร้านกาแฟ Inthanin เผยแนวคิดการเปิดแฟรนไชส์ ว่า จากพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ เข้ามาในปั๊มน้ำมัน ไม่ได้เติมน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการใช้บริการอื่นๆ หนึ่งในนั้น คือ ดื่มกาแฟ ซึ่งแต่เดิมปั๊มบางจากแต่ละแห่ง จะมีร้านกาแฟแต่ละยี่ห้อ แต่ละรูปแบบให้บริการแตกต่างกันไป ฉะนั้น เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของปั๊มบางจาก จึงเกิดแนวคิดสร้างร้านกาแฟแบรนด์ของตัวเอง
  

 

 
       “การออกแบบร้าน เราทำการวิจัยและพัฒนา เก็บข้อมูลจากคู่แข่ง ร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันต่างๆ และในห้างสรรพสินค้า ทั้งในและต่างประเทศ ใช้เวลากว่า 6 เดือน จนได้บทสรุปเป็นร้านที่เน้นบรรยากาศอบอุ่นและร่มรื่น ส่วนความชำนาญในเชิงธุรกิจกาแฟ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท กอจาก จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการผลิตสูตร และเมล็ดพันธุ์กาแฟมากว่า 10 ปี โดยวัตถุดิบเมล็ดกาแฟที่ใช้ในร้าน เป็นพันธุ์อาราบิก้า ทั้งหมดปลูกภายในประเทศจากดอยคำ เป็นผลิตภัณฑ์ในโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมอาชีพคนไทย สอดคล้องกับแนวคิดของบางจากที่ต้องการให้แฟรนไชส์นี้ เป็นของคนไทย เพื่อคนไทย”
      
       จุดเด่นประการสำคัญของ Inthanin คือ ความน่าเชื่อถือของแฟรนไชส์ ผู้ลงทุนสามารถเชื่อใจในความสำเร็จได้สูง เนื่องจากธุรกิจนี้ จุดประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมแบรนด์บางจากมากกว่าเน้นผลตัวเงิน เพราะมูลค่ารายได้รวมของบริษัทฯ บางจากต่อปีกว่า 90,000 ล้านบาท มาจากส่วนแฟรนไชส์ แค่เกือบ 10 ล้านบาท ดังนั้น ทางบริษัทฯ ไม่คิดนำชื่อเสียงมาเสียกับการเปิดขายแฟรนไชส์ ฉะนั้น ทุกสาขาที่เปิด ต้องพยายามผลักดันให้ได้มาตรฐานเดียวกัน และประสบความสำเร็จครบทั้งหมด
      
       ผู้อำนวยการอาวุโส อธิบายต่อว่า ร้านกาแฟ Inthanin วางแผนการตลาดในปีแรก คือ การแจ้งเกิด โดยเปิดสาขาแรก ที่เจริญนคร เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2548 ถึงขณะนี้ รวมแล้ว มี 31 สาขา อยู่ในปั๊มบางจากพื้นที่กรุงเทพฯ และใกล้เคียง ส่วนแผนตลาดในปีนี้ (2550) คือ การตอกย้ำแบรนด์ โดยเป้าจะขยายเพิ่มอีก 15-20 สาขา แบ่งเป็นขยายภายในปั๊มบางจาก พื้นที่กรุงเทพฯ และเขตล้อมรอบ ประมาณ 15 จุด และนอกปั๊มบางจาก อีก 5 จุด

 

  
 

       “ปีนี้วางเป้าแค่ 15 สาขา เนื่องจากปั๊มที่เราเลือกนำเสนอให้แฟรนไชซี จะคัดเฉพาะปั๊มที่มียอดขายน้ำมันสูง เดือนละ 300,000 – 700,000 ลิตร มีรถเข้าใช้บริการวันละ 500-1,000 คัน เป็นการการันตีว่า แฟรนไชส์ต้องประสบความสำเร็จแน่ ๆ ซึ่งปั๊มบางจากในพื้นที่กรุงเทพฯ และเขตรอบ จำนวนทั้งหมดประมาณ 200 สาขา มียอดขายระดับนี้ แค่ประมาณ 15 สาขา ส่วนการขยายนอกปั๊ม 5 จุดนั้น เกิดจากเสียงเรียกร้องของผู้อยากลงทุน ผ่านมาทางทีมตรวจสอบของเรา เนื่องจากเรามีข้อจำกัดด้านพื้นที่ แต่ถ้าเขามีพื้นที่น่าสนใจจริงๆ เหมาะสมกับแบรนด์ Inthanin เช่น ในห้างฯ หรืออาคาร พร้อมจะทำตามกติกาของแฟรนไชส์ เราก็พร้อมเปิดโอกาสตรงนี้ไว้ให้”
      
       ยอดพจน์ เสริมว่า รายรับจากส่วนแฟรนไชส์เข้าบริษัทฯ ในปี 2549 อยู่ที่ประมาณ 7 ล้านบาท ส่วนในปี 2551 แผนตลาดจะเข้าสู่การขยายสาขาให้กว้างขึ้น สู่ปั๊มบางจากทั่วประเทศ ซึ่งเวลานี้มีอยู่ 560 แห่ง โดยมั่นใจว่า จากการขยายสาขาในปี 2549 ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2550 จะทำให้แบรนด์เข้มแข็ง ผู้บริโภคจดจำได้ ส่งให้เมื่อถึงสิ้นปี 2551 จะมีแฟรนไชส์ Inthanin รวมแล้วกว่า 100 สาขา สอดรับไปกับแนวทางการปรับโฉมปั๊มบางจากทั่วประเทศ เพื่อสร้างแบรนด์ให้มีความสดใส และทันสมัยมากขึ้น สำหรับตอบสนองคนรุ่นใหม่      

       ในด้านการลงทุนแฟรนไชส์ Inthanin แบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ 25 ตารางเมตร , 35 ตารางเมตร และ 50 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 500,000 – 900,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดร้าน คาดคืนทุนภายใน 3 ปี โดย 31 สาขาที่เปิดมา จำนวน 25 สาขา ประสบความสำเร็จสูง มียอดขายต่อเดือน 60,000 – 130,000 บาท มีลูกค้าเข้าร้านวันละ 50-60 คน ต่อคนใช้จ่ายประมาณ 100 บาท ขณะที่อีก 6 สาขา ยอดขาย 45,000 – 60,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่บริษัทฯ กำหนดไว้เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นล้มเหลว ซึ่งบริษัทฯ กำลังช่วยเสริมการตลาด และให้คำปรึกษา เพื่อกระตุ้นยอดขายต่อไป


       ผู้อำนวยการอาวุโสฯ เผยถึงแผนส่งเสริมการตลาดให้แฟรนไชซีในปีนี้ วางงบไว้จำนวน 2 ล้านบาท ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น จัดโปรโมชั่น 2 เดือนแรกสำหรับเปิดสาขาใหม่ การจัดอบรมพนักงาน มอบคูปองสะสมไว้เติมน้ำมันปั๊มบางจาก คูปองส่วนลดในร้าน และออกงานแสดงสินค้าแนะนำแบรนด์ ปีละ 2 ครั้ง เป็นต้น นอกจากนั้น ได้หาสินค้าอื่นๆ เข้ามาเป็นพันธมิตรขายในร้าน ล่าสุด คือ ไส้กรอกอีซี่

       สำหรับเครื่องดื่มในแฟรนไชส์ Inthanin แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ กาแฟร้อน กาแฟเย็น น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มอื่นๆ ส่วนหมวดอาหารว่าง มี 3 ประเภท คือ วาฟเฟิ้ล ขนมปังปิ้ง และโรตี รวมทั้งหมดมีกว่า 30 รายการ ราคาอยู่ระดับกลาง เช่น กาแฟ แก้วละ 35-45 บาท โดยเฉลี่ยแฟรนไชซี่จะมีกำไรจากยอดขายต่อหน่วยประมาณ 50%
 
       ยอดพจน์ ทิ้งท้ายว่า จากการสำรวจตลาดธุรกิจร้านกาแฟ ในปีที่แล้ว มีอัตราการเติบโต 10-15% และในปีนี้ แนวโน้มจะเติบโตในระดับใกล้เคียงเดิม อีกทั้ง พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยทุกวันนี้ การดื่มกาแฟกลายเป็นวัฒนธรรมที่แทรกเข้าอยู่ในชีวิตประจำวันแล้ว ดังนั้น จึงมั่นใจว่า ธุรกิจร้านกาแฟตลาดยังไม่อิ่มตัว และไม่ได้เป็นแค่ธุรกิจแฟชั่นที่มาเร็วไปเร็ว
      
       ส่วนผู้ที่จะประสบความสำเร็จในแฟรนไชส์ Inthanin คุณสมบัติสำคัญที่สุด ต้องรักงานบริการ ตามด้วยมีความตั้งใจจริง ยอมรับที่จะทำตามกฎระเบียบของแฟรนไชส์ได้ และมีเงินทุนประมาณ 1 ล้านบาท รวมถึง มีพนักงานขายหน้าร้าน ที่สามารถบริการลูกค้า ได้ประทับใจ
 
โทร.0-2335-4219 , 081-848-5606 หรือ www.bangchak.co.th


อ้างอิงจาก    ผู้จัดการออนไลน์

ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
157,056
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,454
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,286
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,515
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,472
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,684
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด