1.4K
19 พฤศจิกายน 2559
อุตฯ เดินเครื่องพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่ม Spring up ตั้งเป้าอัพเกรดผู้ประกอบการเพื่อสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมไทย

 
  
กสอ. เปิดโครงการเอสเอ็มอีสปริงอัพ รุ่น 2 และรุ่น 3 ติวผู้ประกอบการกว่า 200 ราย รับนโยบายการขยายตัวอุตสาหกรรมไทย

กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งเดินหน้าพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่ม Spring Up หรือผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพ และมีความสามารถในการก้าวกระโดดในการทำธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันได้มีการดำเนินการฝึกอบรมโครงการ SMEs Spring UP รุ่นที่ 1 ไปแล้ว 100 ราย และกำลังจะฝึกอบรมรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 อีก รุ่นละ 100 ราย รวมทั้งสิ้น 200 ราย ให้มีความโดดเด่นและมีศักยภาพ สามารถสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ผ่านยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ ให้ตนเองสามารถก้าวกระโดดสู่เวทีการค้าระดับนานาชาติ

ทั้งนี้ ในงบประมาณปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้ต่อยอดดำเนิน โครงการ SMEs Spring Up รุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 ด้วยงบประมาณสำหรับโครงการนี้กว่า 15 ล้านบาท พร้อมเพิ่มหลักสูตรที่กลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวต้องการเพิ่มเติม

อาทิ การช่วยเหลือทางด้านการเงิน และกิจกรรมการจัดทำแผนนวัตกรรม และการพัฒนาตนเองภายใต้ความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงโลก การปรับตัวองค์กรในการเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 การจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการและนโยบายในส่งเสริมการพัฒนา SMEs ให้สามารถพัฒนาองค์กรธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด โดยผู้เข้าร่วมมาจากอุตสาหกรรมหลากหลาย

ซึ่งรวมทั้ง 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค กลุ่มสุขภาพและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง กลุ่มดิจิทัล และกลุ่มครีเอทีฟและบริการ 
 
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร.0 2202 4531 ,02 202 4578 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th
 

 
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การจะผลักดันประเทศไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ได้นั้น จะต้องทำการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี โดยนอกจากผู้ประกอบการในกลุ่มสตาร์ทอัพ หรือกลุ่มผู้เริ่มต้น

ซึ่งขณะนี้ถือเป็นฐานใหม่ของการจ้างงาน การเกิดนวัตกรรมใหม่ ที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการส่งเสริมแล้วนั้น ผู้ประกอบการกลุ่มสปริงอัพ หรือผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่งมีศักยภาพ และมีความสามารถในการก้าวกระโดดในการทำธุรกิจ ก็เป็นหนึ่งยุทธศาสตร์ที่ภาครัฐก็ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน

เพื่อที่จะยกระดับให้สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศให้สูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม โดยสัดส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Spring up ที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้าได้อย่างก้าวกระโดด ในปัจจุบันมีประมาณ 3-5% ของผู้ประกอบการทั้งหมดที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 2.9 ล้านราย 
 
ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนากลุ่มธุรกิจSMEs ในปี 2559 - 2560 คือ การพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่ม Spring Up หรือผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพ และมีความสามารถในการก้าวกระโดดในการทำธุรกิจที่ปัจจุบัน ได้มีการดำเนินฝึกอบรมโครงการ SMEs Spring UP รุ่นที่ 1 ไปแล้ว 100 ราย และกำลังจะฝึกอบรมรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 อีก รุ่นละ 100 ราย รวมทั้งสิ้น 200 ราย

ให้มีความโดดเด่นและมีศักยภาพ สามารถสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ผ่านยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ ให้ตนเองสามารถก้าวกระโดดสู่เวทีการค้าระดับนานาชาติ เติบโตเป็นกิจการที่มีความแข็งแกร่ง และมุ่งสู่การแข่งขันกับธุรกิจในระดับโลกได้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มดังกล่าว นับเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญ

ซึ่งถ้าหากได้รับการพัฒนา เสริมสร้างองค์ความรู้ ปรับกระบวนการดำเนินงานด้วยกลยุทธ์ใหม่ ๆ อย่างจริงจังก็จะเป็นส่วนช่วยให้เกิดการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ นำพาสู่การเป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำ และสามารถเป็นต้นแบบให้ธุรกิจในระดับเริ่มต้นเกิดการต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
 
 
ด้าน ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ. ได้ดำเนินโครงการ SMEs Spring UP ด้วยการจัดหลักสูตรการอบรมระดับสูง ซึ่งรวบรวมผู้บริหารทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำของประเทศ

มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการและอีกหลากหลายด้านให้แก่ ผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถพัฒนาอย่างก้าวกระโดดโดยในปีงบประมาณ 2560 ได้ต่อยอดดำเนินโครงการ SMEs Spring Upรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 ด้วยงบประมาณสำหรับโครงการนี้กว่า 15 ล้านบาท โดยได้เพิ่มหลักสูตรที่องค์กรกลุ่มดังกล่าวต้องการเพิ่มเติม

อาทิ การช่วยเหลือทางด้านการเงิน และกิจกรรมการจัดทำแผนนวัตกรรม และการพัฒนาตนเองภายใต้ความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงโลก การปรับตัวองค์กรในการเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 การจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ มาตรการและนโยบายส่งเสริมการพัฒนา SMEs ให้สามารถพัฒนาองค์กรธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากธุรกิจภาคเอกชนขนาดใหญ่ อาทิ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอลเคมีคอล จำกัด ฯลฯ

มาร่วมถ่ายทอดบทเรียนที่จะนำผู้ประกอบการไปสู่ความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ โดยมีผู้ประกอบการกว่า 200 คน จากอุตสาหกรรมหลากหลายซึ่งรวมทั้ง 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค กลุ่มสุขภาพและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง กลุ่มดิจิทัล และกลุ่มครีเอทีฟและบริการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอบรมหลักสูตรในครั้งนี้
 
นอกจากนี้ กสอ.ยังพร้อมผลักดันโครงการต่าง ๆ ภายใต้งบประมาณปี 2560 กว่า 830 ล้านบาทอาทิ โครงการเพิ่มผลิตภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคอุตสาหกรรม โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โครงการสร้างและส่งเสริมเอสเอ็มอีอัจฉริยะ ฯลฯ มาเป็นแนวทางร่วมส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในภาพรวม

โดยเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการ SMEs ในสาขาต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการของ กสอ. จะสามารถพัฒนาตนเองให้เกิดแนวคิดและมุมมองใหม่ ๆ เพื่อการก้าวพาตนเองไปสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการพัฒนาในด้านผลิตภาพ มาตรฐาน และนวัตกรรมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จำเป็นต้องตระหนักถึง 
 
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร.0 2202 4531 ,02 202 4578 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th
 
อ้างอิงจาก thaipr.net
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
มูฟ อีวี เอกซ์ แฟรนไชส..
2,177
ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ทรา..
1,011
สาขาใหม่มาแล้ว! #แฟรนไ..
653
แฟรนไชส์สะดวกล้างมาแรง..
645
อยากรวยเชิญทางนี้! ธงไ..
616
“โมโม่เชค” แฟรนไชส์ชาน..
596
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด