บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
562
2 นาที
18 เมษายน 2567
ยาดม ธุรกิจรวยเงียบ ขายได้เรื่อย รวยขึ้นเรื่อยๆ มูลค่า 4,500 ล้านบาท
 

ยาหอม ยาดม ยาอม ยาหม่อง ธุรกิจที่มาเงียบๆ แต่รายได้เหยียบหลักพันล้าน! แถมยังเป็นอีก Soft Power ของเมืองไทยแบบ Thailand Only ที่ชาวต่างชาติบอกว่า “ชอบมาก” 
ถามถึงที่มาของ “ยาดม” ไม่รู้ว่าต้นกำเนิดคือเมื่อไหร่ รู้แค่ว่าคนไทยนั้นใช้สมุนไพรเป็นยารักษาโรคกันมานาน

ถ้านับตามยี่ห้อยาดมเก่าแก่ที่สุดในเมืองไทยคือ “โป๊ยเซียน” ที่มีมาตั้งแต่ปี 2479 ถึงตอนนี้อายุรวม 88 ปี ซึ่งจะว่าไป “ยาดม” ก็ผูกผันอยู่กับชีวิตคนไทยอย่างไม่รู้ตัว และยังถูกบรรจุให้เป็นยาสามัญประจำบ้าน ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขไทย 
 
 
 
ตลาดยาดมนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ตอนนี้โตมากและยังโตได้เรื่อยๆ ถ้าไปดูตัวเลขจะพบว่า
  • ตลาดสมุนไพรไทยมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2569 จะสูงถึง 59,500 ล้านบาท
  • ตลาดยาดมในเมืองไทยมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท
  • ยาดมแท่งมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท
  • ยาดมแบบกระปุกและผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่นๆ มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท
และในปัจจุบันลูกค้าของยาดมกลายเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น ลูกค้ากลุ่มหลักอายุเฉลี่ย 30-55 ปี มีอยู่ประมาณ 50% ขณะที่มากกว่า 55 ปี คิดเป็น 20% รวมถึงกลุ่มลูกค้าในช่วงอายุอื่นๆ ด้วย แน่นอนว่าหากไปดูในเรื่องส่วนแบ่งการตลาดตอนนี้ “โป๊ยเซียน” มาแรงที่สุด แต่แบรนด์อื่นก็พัฒนาสินค้าขึ้นมาได้แรงและมียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถ้าลองดูรายได้จะพบว่า
  • “โป๊ยเซียน” รายได้ในปี 2564 จำนวน 751 ล้านบาท 
  • “เปปเปอร์มินต์ รายได้ในปี 2565 จำนวน 140 ล้านบาท
  • “ยาดมสมุนไพรหงส์ไทย” รายได้ในปี 2565 จำนวน 39.5 ล้านบาท

ซึ่งในตลาดยาดมจริงๆ แต่ละบริษัทไม่ได้มีสินค้าแค่เพียง “ยาดม” เท่านั้น แต่ละแบรนด์ก็มีสินค้าหลาย SKU ที่ล้วนแต่มีการพัฒนา+ใส่ไอเดียเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่ และต้องไม่ลืมที่จะรักษากลุ่มลูกค้าเก่าของตัวเองเอาไว้ด้วย โดยในตลาดตอนนี้มียาดมที่ขายดีอยู่หลายแบรนด์เราลองยกตัวอย่างมาให้ดูเช่น
  1. ยาดมโป๊ยเซียน
  2. ยาดมตราถ้วยทองกลิ่นเลมอน
  3. SIANG PURE 
  4. ยาดมสมุนไพรกานพลู
  5. Cheraim ยาดมสมุนไพรหลอด 
  6. Peppermint 
  7. Vapex ยาดมแก้วิงเวียน
ถ้าวิเคราะห์ในเชิงพฤติกรรมทำไม “ยาดม” ถึงขายดีแบบไม่มีตกเทรนด์ แถมยังมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นเรื่อยๆ พบว่า
 
พฤติกรรมการใช้ยาดมของผู้บริโภคไทย แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ
 

1. กลุ่ม Heavy users หรือคนติดยาดม โดยเฉลี่ยคนหนึ่งใช้ 1 – 2 หลอดต่อเดือน เช่น คนที่เครียดแล้วหยิบยาดมขึ้นมาดม เพื่อผ่อนคลาย หรือคนขี้เบื่อ เวลารู้สึกเบื่อๆ ก็หยิบยาดมมาใช้ ดังนั้นผู้บริโภคกลุ่มนี้จะพายาดมติดตัวไปด้วยเสมอ ใส่ในกระเป๋าประจำวัน, ในกระเป๋ากางเกง และบางคนยังวางยาดมตามจุดต่างๆ เช่น โต๊ะทำงาน, ห้อง/โซนนั่งเล่น, หัวเตียง, ในรถ

2. กลุ่ม Light users เป็นกลุ่มที่ใช้ในบางโอกาสเท่านั้น เช่น ใช้ยาดมเมื่อมีอาการ เช่น เป็นหวัด คัดจมูก, ซื้อไว้เวลาจะเดินทางไปท่องเที่ยว และข้อมูลที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ ยาดมเป็นสินค้าที่เกิดการซื้อซ้ำบ่อยที่สุด สาเหตุมาจากคนส่วนใหญ่ไม่เคยใช้ยาดมหมดหลอด และทำหายบ่อยครั้ง/ ลืมทิ้งไว้ เป็นต้น
 
 
ไม่ใช่แค่นั้นเดี๋ยวนี้ “ยาดม” เป็นสินค้าที่ไม่ใช่แค่คนไทยซื้อให้ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ก็นิยมมากยิ่งดันให้ยอดขายของยาดมแต่ละแบรนด์ดีขึ้นชัดเจน  นักท่องเที่ยวจาก จีน , เวียดนาม , ญี่ปุ่น คือกลุ่มลูกค้าที่นิยมยาดมเมืองไทยมาก ถึงขนาดที่ติดอันดับ 10 อันดับแรกของฝากจากเมืองไทยที่นักท่องเที่ยวจะไม่พลาดการซื้อแน่นอน และยอดขายที่ได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาตินี้ก็ช่วยดันให้ยอดขายยาดมในเมืองไทยมีมูลค่าตลาดสูงขึ้น 10 -20 % กันเลยทีเดียว
 
ในอดีตตลาดยาดมมี Major Brand ไม่กี่แบรนด์ เช่น โป๊ยเซียน, เซียงเพียวอิ๊ว , เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์, ยาดมท่านเจ้าคุณ ฯลฯ แต่ปัจจุบันมีแบรนด์ยาดม ทั้งแบบหลอด และแบบตลับ-กระปุกมากมายหลากหลายแบรนด์ เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ยิ่งกระตุ้นให้ตลาดยาดมในภาพรวมเติบโตมากขึ้น
 
รวมถึงความหลากหลายของการกระจายสินค้าซึ่งนอกจากช่องทางร้านค้า Modern Trade และร้านขายยา ในปัจจุบันยังมีช่องทางออนไลน์เข้ามา ทำให้ยาดมเป็นสินค้าหาซื้อได้ง่าย-สะดวก จึงเข้าถึงผู้บริโภคทุกหนแห่งทั่วประเทศยังไม่นับรวมเรื่องการตลาดที่อัพเกรดกันขึ้นมาชัดเจน ยิ่งมีดาราดังมาช่วยนำเสนอก็ยิ่งตอกย้ำให้ยาดมเมืองไทยเป็นธุรกิจที่รายได้หอมสดชื่นไม่แพ้กลิ่นยาดมกันเลยทีเดียว
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
417
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
401
ถกไม่เถียง! ยุคนี้งานประจำทำ "เอกชน"เสี่ยงสูงกว่..
368
อย่างฮิต! รวมร้านชื่อ "ตี๋" มีดีที่ชื่อ
364
รู้จักประวัติศาสตร์: Birkenstock & Keds แบรนด์รอ..
363
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
356
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด