คนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อาจมองว่าการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์เป็นทางลัดในการทำธุรกิจ ไม่ต้องเสียเวลาในการลองถูกลองผิดในการดำเนินธุรกิจ กว่าจะธุรกิจจะประสบความสำเร็จ แบรนด์ได้รับความนิยม ก็ไม่รู้ว่าจะเสียงบประมาณมากน้อยแค่ไหน แม้ว่าการลงทุนแฟรนไชส์เป็นทางลัดในการทำธุรกิจจริง แต่ก็ใช่ว่าซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วจะประสบความสำเร็จทุกคน

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอ 5 สิ่งที่ต้องทำก่อนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ด้วยการลงทุนแฟรนไชส์ครับ

 

 

ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายจากเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายการค้า แบรนด์ ชื่อเสียง สินค้าและบริการ การตลาด การสนับสนุนจากเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ ฯลฯ แต่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องแลกมากับการจ่ายค่า Royalty Fee, Marketing Fee ประมาณ 3-5% จากยอดขายในแต่ละเดือน (สำหรับแฟรนไชส์มาตรฐาน) ส่วนแฟรนไชส์ขนาดเล็ก หรือแฟรนไชส์สร้างอาชีพ ไม่ต้องจ่ายรายเดือน จ่ายค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า และ วัตถุดิบต่างๆ

 

 

แม้ว่าการซื้อแฟรนไชส์จะมีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะไม่ต้องเสียเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจ แต่การซื้อแฟรนไชส์มีความเสี่ยงและความท้าทายมากมายสำหรับผู้ซื้อแฟรนไชส์บางคน ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบแฟรนไชส์อย่างเคร่งครัด มีความรู้ความสามารถ ต้องขยัน อดทน มีความเป็นผู้ประกอบการ ถึงจะประสบความสำเร็จในการทำแฟรนไชส์

 

 

ความพร้อมของผู้ซื้อแฟรนไชส์อย่างแรก คือ เรื่องของเงินลงทุนเริ่มแรก เงินลงทุนตกแต่งร้าน และเงินทุนหมุนเวียนระหว่างเดือน หากคุณไม่มีความพร้อมเรื่องการเงินลงทุน ก็ไม่ควรที่จะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ในตอนนั้น นอกจากเรื่องเงินลงทุนแล้ว คุณต้องมีความพร้อมในเรื่องของทักษะในการทำอาหาร (หากเปิดแฟรนไชส์อาหาร) รวมถึงการทุ่มเวลาให้กับการทำธุรกิจ

 

 

หากคุณสนใจหรือชอบการทำอาหาร ควรเลือกบริษัทแฟรนไชส์เกี่ยวกับอาหาร หากชอบงานบริการควรเลือกแฟรนไชส์บริการ หากชอบค้าขายควรแฟรนไชส์ค้าปลีก หากชอบสอนหนังสือควรเลือกแฟรนไชส์การศึกษา เป็นต้น เมื่อรู้ว่าตัวเองชอบแฟรนไชส์อะไร ต่อไปต้องดูในเรื่องของเงินลงทุน ความคุ้มค่า การสนับสนุนของบริษัทแฟรนไชส์ ควรเปรียบเทียบกันหลายๆ แบรนด์ หรือติดต่อกับบริษัทแฟรนไชส์โดยตรง เพื่อพูดคุยกับผู้บริหารแบรนด์แฟรนไชส์ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง

 

 

ผู้ซื้อแฟรนไชส์มาทำธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้นั้น อันดับแรกอยู่ที่ทำเลที่ตั้งของร้าน ส่วนใหญ่แล้วบริษัทแฟรนไชส์จะมีการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งสำหรับเปิดร้านให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นการเฉพาะ เพราะบริษัทแฟรนไชส์ต้องการให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จเช่นกัน แต่หลายๆ แบรนด์แฟรนไชส์จะให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์หาทำเลที่ตั้งเปิดร้านเอง หลังจากนั้นบริษัทแฟรนไชส์จะส่งทีมงานมาวิเคราะห์สถานที่ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์เลือก ว่าเหมาะสมหรือไม่

 

นอกจากนี้แล้วการเลือกทำเลที่ตั้งจะต้องดูด้วยว่า สถานที่แห่งนั้นมีข้อบังคับ หรือกฎระเบียบอะไรบ้างที่จะต้องยึดปฏิบัติอย่างไร รวมถึงค่าเช่าคุ้มค่ากับการเปิดร้านหรือไม่ พื้นที่แห่งนั้นห้ามขายสินค้าอะไรบ้าง ซึ่งผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบครับ

 

ทั้งหมดเป็น 5 สิ่งที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องทำ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ หากผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ได้ปฏิบัติตาม 5 ข้อข้างต้น เมื่อซื้อแฟรนไชส์ไปแล้ว อาจมีปัญหาตามมาภายหลังได้ครับ  

• แฟรนไชส์อาหาร คลิก https://bit.ly/38mbBE7
• แฟรนไชส์เครื่องดื่มและไอศกรีม คลิก https://bit.ly/2JSEH4z
• แฟรนไชส์เบเกอรี่ คลิก https://bit.ly/3opxO9L
• แฟรนไชส์บริการ คลิก https://bit.ly/38iutDU
• แฟรนไชส์การศึกษา คลิก https://bit.ly/3hSpQDu
• แฟรนไชส์ความงาม คลิก https://bit.ly/3hR623u
• แฟรนไชส์ค้าปลีก คลิก https://bit.ly/3nqM6FQ
• แฟรนไชส์งานพิมพ์ คลิก https://bit.ly/35eMZLh
• แฟรนไชส์โอกาสทางธุรกิจ คลิก https://bit.ly/396MZhL

 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)