ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อธิบายการยื่นภาษี 2567 อย่างละเอียด ช่วยให้ยื่นภาษีแบบออนไลน์ได้อย่างราบรื่น

ยื่นภาษี

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน เมื่อทำงานได้ครบปีแล้ว ก็จำเป็นจะต้องยื่นภาษี 2567 เพราะการยื่นภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้เราได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น การขอคืนภาษี การลดหย่อนภาษี สิทธิประโยชน์ทางการศึกษา สิทธิประโยชน์ทางสาธารณสุข เป็นต้น โดยจะต้องยื่นภาษีออนไลน์2566 ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี

แล้วการยื่นภาษีคืออะไร ทำไมเราจะต้องยื่นภาษี 2567 จะทราบได้อย่างไรว่า เราจะต้องยื่นแบบฟอร์มใด แบบฟอร์มภงด91คืออะไร แล้วแบบภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 31 แตกต่างกันอย่างไร เราจะคำนวณภาษีเงินได้อย่างไร จำเป็นต้องชำระภาษีเพิ่มหรือได้ภาษีคืน บทความนี้ มีคำตอบ

ยื่นภาษีคืออะไร ทำไมเราต้องยื่น?
การยื่นภาษี คือ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเงินได้และค่าลดหย่อนของเราให้กรมสรรพากรทราบ โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกําหนด และมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กําหนด ซึ่งโดยปกติ จะยื่นแบบภาษีเพื่อจัดเก็บเป็นรายปี รายได้ที่ได้รับในปีใด ๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องนำไปแสดงรายการตนเอง ตามแบบแสดงรายการภาษีที่กำหนด ภายในเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของปีถัดไป

แล้วทำไมเราต้องยื่นภาษี? เพราะภาษีเป็นรายได้ของภาครัฐ ซึ่งนำไปใช้จ่ายในกิจการสาธารณะ เช่น การก่อสร้างถนน โรงพยาบาล โรงเรียน การรักษาพยาบาล เป็นต้น ภาษีจึงเป็นหน้าที่พลเมืองอย่างหนึ่งที่จะต้องปฏิบัติตาม โดยมีระยะเวลาในการยื่นภาษีบุคคลธรรมดาประจำปี 2566 คือ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 หรืออาจเรียกว่า ยื่นภาษี 2567

การยื่นภาษีสามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นภาษีด้วยตนเอง ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ และการยื่นภาษีออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต หากไม่ยื่นภาษีภายในกำหนด จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากพ้นกำหนดเกิน 1 ปี โทษปรับจะเพิ่มเป็นไม่เกิน 10,000 บาท โดยการยื่นภาษีเป็นหน้าที่พลเมืองที่ทุกคนควรปฏิบัติเป็นประจำทุกปี

ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี?

ยื่นภาษี 2567

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นภาษี คือ ผู้ที่มีเงินได้ในระหว่างปีภาษีนั้น ๆ ซึ่งจะต้องยื่นแบบภาษี เมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด แม้ว่า เมื่อคำนวณภาษีออกมาแล้ว จะต้องชำระภาษีเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้

1.บุคคลธรรมดาที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด จะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเกณฑ์ขั้นต่ำในการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา แบ่งตามสถานะโสดและสมรส ดังนี้

  • คนโสดที่มีรายได้เป็นเงินเดือนตั้งแต่ 10,000 บาท ต่อเดือน (ภงด91) หรือ 120,000 บาท ต่อปี รวมถึงคนโสดที่มีรายได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน (ภงด90) ตั้งแต่ 5,000 บาท ต่อเดือน หรือ 60,000 บาท ต่อปี
  • คู่สมรสที่มีรายได้รวมกันตั้งแต่ 20,000 บาท ต่อเดือน (ภงด94) หรือ 240,000 บาท ต่อปี
2.ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลที่มีรายได้รวมแล้วเกินปีละ 60,000 บาท มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี
3.นิติบุคคลทุกประเภทที่มีรายได้รวมแล้วเกินปีละ 60,000 บาท มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี

นอกจากนี้ สำหรับผู้มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ก็ยังมีหน้าที่ต้องยื่นภาษี เช่น

  • ผู้มีรายได้จากเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น เงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น
  • ผู้มีรายได้จากต่างประเทศ
  • ผู้มีรายได้จากเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี แต่มีเงินได้ประเภทอื่นที่ต้องนำมาคำนวณภาษี

วิธีการคำนวณภาษีเงินได้
ก่อนจะยื่นภาษีจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการคำนวณภาษีเงินได้เสียก่อน โดยวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 คำนวณหาเงินได้สุทธิ
โดยเงินได้สุทธิ คือ เงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน โดยคำนวณจากสูตรยื่นภาษี ดังนี้

เงินได้สุทธิ = เงินได้รวม - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
ซึ่งอธิบายความหมาย คือ

  • เงินได้รวม คือ เงินได้ทั้งหมดที่ได้รับในปีภาษีนั้น ๆ โดยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
1.เงินได้จากการจ้างงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ฯลฯ)
2.เงินได้จากทรัพย์สิน (ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินได้จากการเช่า ฯลฯ)
3.เงินได้จากธุรกิจ (กำไรสุทธิจากกิจการ)
4.เงินได้อื่น ๆ (เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ เงินได้จากการเล่นเกม ฯลฯ)

  • ค่าใช้จ่าย คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการหารายได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักได้ (ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าการศึกษา เป็นต้น
2.ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักได้เฉพาะกรณี (ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลิขสิทธิ์ ค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าซ่อมแซม ค่าประกันภัย ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร เป็นต้น

  • ค่าลดหย่อน คือ ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักออกจากเงินได้ก่อนคำนวณภาษี โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.ค่าลดหย่อนทั่วไป (ค่าลดหย่อนตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลดหย่อนค่าจ้าง ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น
2.ค่าลดหย่อนเฉพาะบุคคล (ค่าลดหย่อนตามมาตรา 43 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลดหย่อนค่าซื้อสินค้าและบริการ ค่าซื้อสินค้าและบริการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ค่าซื้อสินค้าและบริการเพื่อการศึกษา เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2 คำนวณหาภาษีที่ต้องชำระ ก่อนยื่นภาษี
ภาษีที่ต้องชำระ คือ ภาษีที่คำนวณจากเงินได้สุทธิ โดยคำนวณจากสูตรยื่นภาษีดังนี้
ภาษีที่ต้องชำระ = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี

โดยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 5 ขั้น ดังนี้
  • เงินได้สุทธิ ไม่เกิน 150,000 บาท อัตราภาษี 0%
  • เงินได้สุทธิ 150,001 - 300,000 บาท อัตราภาษี 5%
  • เงินได้สุทธิ 300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%
  • เงินได้สุทธิ 500,001 - 750,000 บาท อัตราภาษี 15%
  • เงินได้สุทธิ 750,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 20%

ยกตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้ เพื่อนำไปใช้ในการยื่นภาษี เช่น นาย A มีรายได้รวมในปีภาษี 2566 เป็นเงิน 500,000 บาท โดยหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว เหลือเงินได้สุทธิ 400,000 บาท ดังนั้น ภาษีที่ต้องชำระของนาย A คือ ภาษีที่ต้องชำระ = 400,000 x 10% = 40,000 บาท หรือนาย B เหลือเงินได้สุทธิ 50,000 บาท ดังนั้น ภาษีที่ต้องชำระของนาย B คือ ภาษีที่ต้องชำระ = 50,000 x 0% = 0 บาท นั่นหมายความว่า นาย B ไม่ต้องชำระภาษี หากแต่ยังต้องยื่นภาษี 2567 ตามกำหนด

ทั้งนี้ ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยอัตราภาษีและค่าลดหย่อนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของกรมสรรพากร

ยื่นภาษีแบบภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 31 แตกต่างกันอย่างไร?

ประเภทของการยื่นภาษี

การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มี 2 แบบหลัก ๆ คือ แบบ ภ.ง.ด. 90 และแบบ ภ.ง.ด. 31 ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • แบบ ภ.ง.ด. 90 โดย ภงด90คือ การยื่นโดยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ฯลฯ โดยรายได้รวมตั้งแต่ 120,000 บาท (คนโสด) หรือ 220,000 บาท (คู่สมรส) ซึ่งมีกำหนดยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี และสามารถขอคืนภาษีได้
  • แบบ ภ.ง.ด. 31 เป็นการยื่นโดยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น เงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ ฯลฯ โดยรายได้รวมตั้งแต่ 60,000 บาท ซึ่งกำหนดยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี แต่ไม่สามารถขอคืนภาษีได้

หากดำเนินการยื่นภาษีไม่ทันจะต้องทำอย่างไร?
ในการยื่นภาษี 2567 ตามความเข้าใจคือ การยื่นภาษีของปี 2566 จะต้องยื่นภาษีบุคคลภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 - 31 มีนาคม 2567 แต่ทั้งนี้ หากยื่นภาษีไม่ทันภายในเวลาดังกล่าว สามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ โดยต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 31 แล้วแต่กรณี พร้อมชำระเงินภาษีและเงินเพิ่ม โดยคำนวณจากอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นภาษีจนถึงวันชำระภาษี

นอกจากนี้ หากมีเงินภาษีที่ต้องชำระคืน ก็ยังสามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ โดยต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 31 แล้วแต่กรณี พร้อมขอคืนเงินภาษี ทั้งนี้ ควรยื่นภาษีภายในกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงโทษปรับและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับยื่นภาษี 2567
การยื่นภาษี คือ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเงินได้และค่าลดหย่อนของเราให้กรมสรรพากรทราบ โดยจะต้องยื่นภาษีภายในเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของปีถัดไป สำหรับการยื่นภาษี 2567 คือ การยื่นภาษีบุคคลธรรมดา2566 ว่ามีเงินได้และค่าลดหย่อนเท่าใด โดยเราสามารถคำนวณภาษีเงินได้ด้วยตนเอง แล้วยื่นแบบให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์มภงด91, ภงด90, ภงด50, ภงด53 หรือ ภ.ง.ด. 31

สำหรับผู้ต้องยื่นภาษีที่มีเงินได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด อาจจะต้องชำระภาษีกับกรมสรรพากร หากไม่ชำระภายในกำหนดเวลา ก็อาจจะต้องชำระเงินเพิ่มได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถยื่นภาษีออนไลน์2566 และชำระภาษีได้อย่างราบรื่น ก็อาจเลือกใช้บริการบัตรกดเงินสดของ KTC ได้ ทุกคนสามารถสมัครง่าย อนุมัติไว ได้เงินก้อนมาใช้จ่าย แก้ทุกปัญหาทางการเงินในกรณีต้องการใช้เงินเร่งด่วน