ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ประยุกต์กลยุทธ์ออนไลน์กับธุรกิจจริง โดย เจ๊กเม้ง (JMcuisine) หน้าไม่งอ รอไม่นานต้นตำรับเพชรบุรี 





      ทุกวันนี้ หลายท่านจะได้ยินและเห็นคำว่า Social Media วนเวียนอยู่รอบตัวเต็มไปหมด มันคืออะไร และเราจะนำมาประยุกต์ ใช้กับธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเราได้อย่างไร วันนี้ผมมีคำตอบมาฝากทุกท่านครับ

      โดยเริ่มที่ Concept ของ JMcuisine (เจ๊กเม้ง)  อาหารความคิดสร้างสรรค์ต้นตำรับเพชรบุรี ในการทำการตลาดผ่านทาง Social Media คือ JMcuisine Everywhere ซึ่งไอเดียและแนวคิดนี้ ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2008 ที่ Barack Obama ได้มีการนำ Facebook และ Social Media ต่างๆ เข้ามาช่วยในการรณรงค์หาเสียง จนได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น และส่งผลให้เป็นการจุดพลุให้เกิดการนำ Social Media ต่างๆ เข้ามาประยุทธ์ใช้กับธุรกิจต่างๆมากมาย และผมได้นำมาทดลองแนวคิดนี้ มาทดลองใช้กับ www.SOdA-PrintinG.com ของขวัญแบบนี้มีชิ้นเดียวในโลก ที่เริ่มทำมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งผลตอบรับที่ดีมาก จึงได้นำมาปรับใช้กับทาง JMcuisine (เจ๊กเม้ง)

      แน่นอนว่าท่านผู้อ่าน คงมีคำถามในใจว่า แล้วธุรกิจ SME อย่างเราๆ จะนำสื่อ Social Media มาใช้ให้เกิด Impact และ ได้รับผลตอบรับ ได้อย่างบุคคลที่มีอิทธิพลหรือธุรกิจใหญ่ๆที่มีฐานมวลชนหรือลูกค้า มีความภักดีในแบรนด์ ได้อย่างไร และวันนี้มันไปช้าไปหรือที่จะเริ่มใช้ เพราะใครๆก็ทำกันหมดแล้ว

      ดังนั้นในวันนี้ผมขอแนะนำเครื่องมือต่างๆ ใน Social Media พร้อมกับอธิบายหน้าที่ และลักษณะเด่น ผ่านกรณีศึกษาของ JMcuisine (เจ๊กเม้ง)  อาหารความคิดสร้างสรรค์ต้นตำรับเพชรบุรี ให้ท่านได้เห็นภาพมากขึ้น ดังนี้

     




Facebook.com

      ท่านทราบหรือไม่ว่า ทุกวันนี้ Facebook มีผู้ใช้เมื่อเปรียบเทียบเป็นประชากรมากถึง 995 ล้านคน เป็นรองเพียงประเทศจีนมีประชากร1.37พันล้านคน และประเทศอินเดียมีประชากรประมาณ 1 พันล้านคน  และยิ่งกว่านั้น จำนวนผู้ใช้ Facebook บน Mobile ทะลุ 488 ล้านบัญชีแล้ว ส่วนผู้ใช้ Facebook ในประเทศไทยนั้นมีมากถึง 16,049,660 คน คิดเป็น 22.8% ของประชากรในประเทศ (ข้อมูลจาก checkfacebook.com 12 สิงหาคม 2555) ซึ่งกลุ่มผู้ใช้ Facebook ประเทศไทย สะท้อนถึงกลุ่มคนที่มีศักยภาพทั้งในแง่รายได้และการใช้ชีวิต ดังนั้น Facebook จึงเสมือนประตูให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น แต่เพียงว่าต้องมีการวางแผน วิธีการนำเสนอ การกระตุ้น เพื่อให้เกิดการซื้อเพียงเท่านั้นเอง ผมขอยกตัวอย่างวิธีการง่ายๆ ของ www.facebook.com/JekmengNoodle  และ www.facebook.com/JMcuisine  ดังนี้

      การโพสภาพอาหาร สำหรับ JMcuisine นั้น จะโพส โดยมีช่วงเวลา 11.00-12.15 น. ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เพราะเป็นช่วงเวลาใกล้พักเที่ยงของคนทำงาน จะเป็นช่วงเวลาที่คนจะเริ่มหยิบโทรศัพท์และเข้ามาใน Facebook เพื่อเช็คสถานะต่างๆ ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ จะโพสในช่วง 9.00-10.00 น. ซึ่งช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่คนที่มาท่องเที่ยวอยู่ระหว่างทางมาชะอำหรือหัวหิน หรืออีกด้านจะเป็นช่วงเวลาที่เพิ่งตื่นนอน โดยส่วนใหญ่จะนิยมเข้ามาเช็คความเคลื่อนไหวต่างๆของเพื่อนใน Facebook ในการเลือกช่วงเวลานั้นจะมีผลต่อการตอบโต้ของลูกค้า จะทำให้เราสามารถอยู่ในหน้า News Feed ได้ง่ายขึ้น

      การโพสภาพลูกค้า วิธีนี้จะเป็นวิธีที่เราสามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ โดยส่วนใหญ่รูปของลูกค้าที่ถ่ายในร้านนั้นจะส่งภาพมาให้เราทั้งทาง BB Twitter Whatapp Line Instagram หรือนำมาโพส เองทาง Facebook และภาพที่ลูกค้าส่งมานั้นเราสามารถติดแท๊กกลับไปที่ลูกค้าซึ่งจะเป็นการ PR ให้กับเราในทางอ้อมได้อีกด้วย แต่จุดนี้ต้องพึงระวัง เราควรที่จะขออนุญาตลูกค้าก่อนว่าทางลูกค้ายินยอมหรือไม่ มิฉะนั้นจะเป็นผลเสียกับทางเราเอง เพราะจะเป็นการรบกวนลูกค้า

      Event วิธีนี้จะทำเมื่อทางร้านได้มีการจัดกิจกรรมออกร้านนอกสถานที่ เช่น การไปเปิดร้านชั่วคราวตามเทศกาลอาหารต่างๆ หรือ งานแสดงสินค้า เป็นการเชิญชวน Fan Page ให้ทราบถึงรายละเอียดกิจกรรม ตำแหน่งของบูธJMcuisineในสถานที่จัดงาน ซึ่งจะทำให้เราทราบเสียงตอบรับเบื้องต้นว่ามีเสียงตอบรับมากน้อยอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดเตรียมได้รอบครอบมากยิ่งขึ้น และทราบความต้องการเบื้องต้นของลูกค้าว่าอยากได้สิ่งไหนเป็นพิเศษ

      จาก 3 ตัวอย่างข้างต้นนั้น ท่านผู้อ่านสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที แต่ควรต้องมีความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อให้ Fan page เกิดความสนใจและติดตามเราอย่างต่อเนื่อง เพราะจากสิ่งที่ทำตรงนี้ จะเป็นการสร้างความซึมซับในแบรนด์ ในระยะยาว

หลายๆท่านมักจะคิดว่า Fanpage มากๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่สำหรับผมคิดว่า การทำให้ลูกค้าตัวจริงๆมาเป็น Fanpage เรานั้นสำคัญกว่า  สัปดาห์หน้าเรามาดูกันซิว่า วิธีการที่จะทำให้ลูกค้าตัวจริงมาเป็น fanpage จะมีวิธีการอย่างไร และเราจะติดตามผลการทำงานของ Page facebook ได้ด้วยวิธีการไหนบ้าง

แล้วพบกันใหม่.....




ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจ SME และกรณีศึกษาผู้ที่ใช้สื่อออนไลน์จนประสบความสำเร็จ ได้ที่
http://www.facebook.com/ThailandOnlineFocus