ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รู้ไว้ก่อน แนะนำการรักษาหลุมสิว สิวคีลอยด์ รอยแผลเป็นจากสิวเบื้องต้น

รอยแผลเป็นจากสิว

ปัญหาแผลเป็นจากสิวไม่ใช่เรื่องเล็กที่ผู้กำลังเป็นอยู่ควรมองข้าม เพราะหากละเลยปล่อยแผลเป็นไว้ อาจทำให้รอยหลุมสิวเกิดการระคายเคืองจนเป็นรอยดำ รอยแดง ที่ทำลายชั้นผิวหนังเป็นหลุมสิว หรือสิวคีลอยด์ได้ในภายหลัง หากจะรักษาสิวด้วยตัวเอง การลดรอยแดง รอยดําจากสิวกี่วันหาย แล้วรักษาแผลเป็นจากสิวมีกี่วิธีรักษา บทความนี้จะมาให้หลักการการรักษาหลุมสิว สิวคีลอยด์ รอยแผลเป็นจากสิวเบื้องต้น มาเป็นความรู้เสริมกัน

รอยแผลเป็นจากสิว (Acne Scar)

รอยแผลเป็นจากสิว (Acne Scar) คือ แผลถลอกจากสิวที่เกิดอาการอักเสบรุนแรง ที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เช่น การแกะ แคะ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือการเสียดสีบริเวณสิวอักเสบ  ทำให้พื้นผิวรอบๆ ตัวสิวเป็นแผลสิวอักเสบขนาดใหญ่ รูขุมขนกว้าง แม้หัวสิวจะหลุดออกไปแล้วแต่ยังคงทิ้งรอยแดง รอยดำ ไว้อยู่ ส่งผลให้บริเวณตรงแผลสิวทิ้งรอยไว้ หากปล่อยอาการนี้ไว้อาจทำให้แผลเป็นจากสิวติดถาวรตลอดไป

สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว

แผลสิวอักเสบ

ต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว เกิดได้จากระบบต่อมไขมันใต้ผิวหนังได้ผลิตน้ำมันมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ตัวน้ำมันอุดตันในรูขุมขน ทำให้ลักษณะผิวมีตุ่มแดงๆ นูนขึ้นมา แต่หากมีคราบเชื้อรา แบคมีเรีย หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ในรูขุมขน อาจทำให้สิวเกิดการอักเสบเป็นหนอง หากสิวที่ดึงออกไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี พื้นผิวจะทิ้งรอยแผลเป็นจากสิว ลักษณะสีผิวบางเคสเป็นรอยแดงเหมือนผื่น เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว เนื้อเยื่อที่ถูกทำลายอาจเกิดกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวผิดปกติจนเป็นรอยดําจากสิวได้ในระยะเวลาต่อมา

รอยแผลเป็นจากสิวมีกี่ประเภท

ประเภทแผลสิวอักเสบ

โดยทั่วไป รอยแผลเป็นจากสิวเกิดขึ้นเป็น 3 ประเภทสิว ดังนี้

1. รอยดำ-รอยแดงจากสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation)

  • รอยดำจากสิว เกิดขึ้นจากกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อฟื้นฟูรอยแผลเป็นไม่สมบูรณ์ เพราะการเป็นแผลสิวทำให้เกิดปฎิกิริยาผลิตเม็ดสีที่ไม่สม่ำเสมอ  ทำให้รอยแผลเป็นจากสิวเป็นจุดด่างดำ
  • รอยแดงจากสิว เกิดขึ้นจากหลอดเลือดแดงถูกเบียดเบียนจากสิวอักเสบใต้ผิวหนัง ทำให้เส้นเลือดบวมปูดเป็นรอยแดงทิ้งไว้บนผิว ทำให้ผิวหนังอักเสบ ถึงแม้สิวจะถูกนำออกแล้ว แต่รอยแดงยังทิ้งอยู่
2. รอยหลุมสิว (Atrophic Scars)

  • หลุมสิวแบบรูเจาะ (Ice pick) ลักษณะรอยแผลเป็นสิวคล้ายน้ำแข็งเจาะ เป็นรูแคบแต่หลุมมีความลึกถึงผิวหนังชั้นแท้ มักอยู่รวมเป็นกลุ่มๆ พบในบริเวณช่วงจมูก แก้ม โดยส่วนใหญ่
  • หลุมสิวแบบบล็อก (Boxcar) ลักษณะรอยแผลเป็นสิวคล้ายหลุมโดนลบทับ ขนาดหลุมมีฐานความกว้างแต่ตื้นกว่าสิวแบบรูเจาะ แต่บางคนอาจเป็นรูลึกใต้ชั้นผิวหนัง มีพังผืดในชั้นใต้ผิวหนังมาก ทำให้บริเวณที่รอยหลุมมีความแข็งและหนามาก มักพบบริเวณช่วงแก้มกับขมับ
  • หลุมสิวแบบคลื่น (Rolling) ลักษณะรอยแผลเป็นสิวเป็นหลุมที่มีความกว้าง แต่หลุมตื้นโค้งเอียงเป็นก้นกระทะ มองตาเปล่าจะเห็นหลุมสิวไม่ค่อยชัดเจน หากทำให้บริเวณรอยเป็นสิวชนิดนี้ให้ตึง จะทำให้ผิวดูเรียบเนียน เป็นสิวที่รักษาง่ายที่สุดในบรรดา 3 รอยหลุมสิวทั้งหมด

3. รอยแผลเป็นนูนและคีลอยด์จากสิว (Hypertrophic and Keloid Scars)

รอยแผลเป็นจากสิวคีลอยด์ (Keloid Scars) ลักษณะผิวจะนูนปูดบวมเป็นตุ่มแดงอักเสบ พบในบริเวณแก้ม จมูก คาง ใต้คาง กรอบหน้า คอ และช่วงหน้าอก

รอยแผลเป็นจากสิวเกิดจากสิวแบบใด

ชนิดรอยแผลเป็นจากสิว

ชนิดสิว 7 ประเภทที่ก่อให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวค้างหลงเหลือไว้บนใบหน้า มีดังนี้

  • สิวผด (mallorca Acne) เกิดจากการสัมผัสกับฝุ่น สภาพอากาศที่ร้อน ทำให้ผิวหนังระคายเคืองเป็นสิวเห่อในลักษณะผื่นแดง
  • สิวอุดตัน (Comedones) เกิดจากการผลัดเซลล์ผิวไม่หมด ทำให้เนื้อเยื่อที่ตกค้างมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาอุดตันในรูขุมขน เป็นก้อนสิวอุดตันขึ้นมา
  • สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย C.acnes กระตุ้นผิวหนังให้เกิดอาการระคายเคือง
  • สิวหัวหนอง (Pustules) เกิดจากรอยแผลเป็นสิวติดเชื้อในชั้นผิวหนัง ทำให้สิวติดเชื้อแล้วเป็รหนองในเวลาต่อมา
  • สิวหัวช้าง (Severe Nodular acne) เกิดจากการอักเสบบนผิวหนังชั้นกำพร้าและผิวหนังชั้นหนังแท้ ได้สัมผัสสิ่งแปลกปลอมอย่างเชื้อโรคกเข้าสู่ผิวหนัง ระตุ้นต่อระบบภูมิคุ้มกัน สร้างความระคายเคืองให้ผิวหนังปวดบวม
  • สิวหัวดำ (Blackhead) เกิดจากเซลล์คอร์นีโอไซต์(Corneocyte) และซีบัม(Sebum) ถูกผลิตในรูขุมขนเยอะเกินไป จนขยายกว้างขึ้นเป็นจุดดำ
  • สิวหัวขาว (whitehead) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ในรูขุมขนกับน้ำมัน จนกลายเป็นสิวหัวขาลักษณะเป็นไตเม็ดเล็กๆ


วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิว

1. วิธีรักษารอยแดง-รอยดำจากสิว

สามารถใช้ยาลบเลือนรอยสิวเฉพาะจุดในการฟื้นฟูสภาพพื้นผิวให้กลับมาเรียบเนียน หรือใช้การรักษาด้วยเลเซอร์ลบรอยแผลเป็นจากสิวเพื่อลบรอยถลอกให้จางลง รวมไปถึงการบำรุงผิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์มาร์กหน้า สครับหน้า ทานอาหารเสริม ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง

2. วิธีรักษาหลุมสิว

สามารถใช้ยากลุ่มเรตินอยด์ที่มีกรดวิตามิน A สูงในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ หรือการศัลยกรรมด้วย ผ่าตัดพังผืดสำหรับผู้ที่เป็นหลุมสิวมานาน หรือ การทำเลเซอร์เร่งด่วนเพื่อทำให้รอยแผลเป็นจากสิวลดลง
 
3. วิธีรักษารอยแผลเป็นนูนและคีลอยด์จากสิว

สามารถใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือ ยาที่มีส่วนผสมของวิตามิน A สำหรับกรณีคีลอยด์จากสิวมีขนาดเล็ก แต่หากเป็นแผลคีลอยด์ขนาดใหญ่ให้ใช้แผ่นซิลิโคนเจลปิดบริเวณแผลเป็นจากสิว เพื่อลดการขยายตัวของแผล

วิธีรักษารอยดำ รอยแดงจากสิว

รอยแดง รอยดำจากสิว

1. การใช้ยาทารอยสิว

การเลือกยาทาบรรเทา เช่น ครีม หรือ เซรั่มลดรอยแผลเป็นจากสิว ควรมี 4 ส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
  • กรดวิตามิน A ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวตายหลุดออกไป กระตุ้นเนื้อเยื่อสร้างผิวหนังใหม่
  • วิตามิน C ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิวให้กระจ่างใส ลดเม็ดสีที่เจริญเติบโตผิดปกติ และสลายสารเมลานิน
  • เทรติโนอิน ช่วยลดผิวที่อักเสบพร้อมยับยั้งการเติบโตเม็ดสีที่ผลิตสีผิดปกติขึ้นมา
  • อาร์บูติน ยับยั้งสารต้านอนูมูลอิสระที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบต่อผิวหนัง
2. การรักษาด้วยเลเซอร์

ลดรอยแผลเป็นจากสิวด้วยการทำเลเซอร์ เป็นการกำจัดปัญหาผิวหน้าเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง ก็สามารถสลายจุดด่างดำ เพิ่มความสดใสของใบหน้ากลับมาอีกครั้ง กระตุ้นเซลล์ผิวให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่ ใช้ระยะเวลาการรักษาที่เร็ว ฟื้นตัวไม่นาน เห็นผลลัพธ์รักษารอยแผลเป็นจากสิวใน 1 เดือน

วิธีรักษารอยหลุมสิว

หลุมสิว

1. การรักษาหลุมสิวด้วยการทายา

การทายารักษาหลุมสิว ควรใช้ยาประเภทเรตินอยด์ที่มีส่วนประกอบกรดวิตามิน A มีฤทธิ์ปรับโครงสร้างชั้นผิวหนังกำพร้าให้เนียนใส พร้อมผลัดเซลล์ผิวที่ตายเพื่อทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น

2. การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนชั้นใต้ผิวหนังมาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังชั้นบน ลดความแห้งกร้านแก่สภาพผิวหนัง กระตุ้นให้ผิวเกิดโครงสร้างซ่อมแซมเนื้อเยื่อหลังเกิดรอยแผลเป็นจากสิวทันที

3. การใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิว

เลเซอร์รักษาหลุมสิว จะช่วยให้ผิวหนังที่ยุบตัวลงกลับมาตื้นเท่าๆ กับผิวชั้นเดียวกัน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนชั้นใต้ผิวหนังให้มีโครงสร้างชั้นผิวหนังให้แข็งแรง ผิวกระชับลดรูขุมขนกว้าง

4. การผ่าตัดหลุมสิว

การผ่าตัดหลุมสิว เป็นการศัลยกรรมเพื่อให้หลุมสิวที่กว้างและลุกไปยังชั้นใต้ผิวหนังกลับมาตื้นในระดับชั้นเดียวกัน เห็นผลชัดเจนหลังทำแน่นอน

วิธีรักษารอยแผลเป็นนูนและคีลอยด์จากสิว

คีลอยด์จากสิว

1. การรักษาด้วยการจี้เย็น

การจี้เย็นรักษารอยแผลเป็นจากสิวคีลอยด์ ช่วยสลายเนื้อเยื่อที่ปูดบวมเป็นตุ่มน้ำพองให้หดตัวลง แล้วเป็นก้อนแห้งจนตกสะเก็ด ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เพราะต้องรอคีลอยด์จี้ตกเป็นสะเก็ตประมาณ 3 - 4 สัปดาห์

2. การฉีดยาสเตียลอยด์รักษาคีลอยด์

การฉีดยาสเตียลอยด์เข้ารอยแผลเป็นสิวคีลอยด์โดยตรง จะช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง ให้ตุ่มพองยุบตัวแล้วฝ่อเล็กลง ตุ่มจะนุ่มลงไม่เกิดอาการคัน ระคายเคืองหลังทำ

3. การใช้เลเซอร์รักษาแผลคีลอยด์

การใช้เลเซอร์รักษารอยแผลเป็นสิวคีลอยด์ เป็นการจี้ไฟรักษาเพื่อลดความแข็งของตุ่มพอง ให้นิ่มตัวลง ตัวคีลอยด์จะค่อยๆ หดตัว ผิวเรียบเนียนขึ้น

4. การผ่าตัดนำแผลคีลอยด์ออก

การผ่าตัดนำรอยแผลเป็นสิวคีลอยด์ออก จะทำได้ในกรณีที่ แผลคีลอยด์ของคนไข้มีขนาดใหญ่และบวมนูนออกมา ทางแพทย์จะผ่าตัดนำก้อนเนื้อออกแล้วเย็บแผลปิดทันที

แนวทางดูแลตัวเองเมื่อมีรอยแผลเป็นจากสิว

วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวแบบธรรมชาติ มีข้อปฏิบัติดังนี้

สิ่งที่ควรปฏิบัติ

  • หากสิวที่หลงเหลือกลายเป็นแผล ให้รีบทำการรักษาทันที
  • ทาผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
  • ปรึกษาการเลือกใช้ยารักษารอยแผลเป็นจากสิวกับแพทย์ เพื่อให้ยาสามารถลดเลือนรอยสิวได้มากที่สุด
  • ทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะการทานผักและผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สร้างความระคายเคืองต่อผิว
สิ่งที่ห้ามปฏิบัติ

  • ไม่แกะ เกา บีบ บริเวณที่มีรอยแผลเป็นจากสิว เพราะอาจทำให้สิวอักเสบมากกว่าเดิม
  • ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าประเภท สครับ มาร์ก เพราะอาจสร้างความระคายเคืองแก่ผิวหนัง
  • งดทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะอาจกระตุ้นการอุดตันกับอักเสบของสิว
  • ไม่อยู่พื้นที่กลางแจ้งและมีแดด เพราะรังสีแสงยูวีอาจยับยั้งการซ่อมแซมผิวหนังให้หายช้าลง
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว

รักษาแผลเป็นจากสิว

4 วิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว มีดังนี้

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อสภาพผิวหนังตัวเอง
  • ไม่แกะ บีบ เกา สิวบนใบหน้าด้วยตัวเอง
  • ทาครีมกันแดดก่อนออกไปข้างนอกทุกครั้ง
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ที่รักษาอย่างเคร่งครัด

ข้อสรุป

สรุปแล้วแผลจากสิวกี่วันหายล่ะ? จะเห็นได้ว่าวิธีแก้รอยแผลเป็นจากสิว มีหลากหลายวิธีรักษาให้คนไข้ศึกษาเป็นความรู้แล้วเป็นตัวเลือกประกอบตัดสินใจในการปรึกษาแพทย์ในภายหลัง บทความนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณค้นหาวิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวที่เหมาะสมที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงการรักษารอยสิวด้วยตนเองหลังผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยเช่นกัน