ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


4 รถยนต์พลังงานทางเลือก ทางเลือกใหม่เพื่อการเดินทางแห่งอนาคต

แม้สถานการณ์น้ำมันโลกจะเริ่มขยับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ราคาน้ำมันก็ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจและการลดอัตราการผลิตของกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน พลังงานทางเลือกสำหรับรถยนต์ จึงเป็นทางออกสำหรับราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดมลภาวะให้กับโลกอีกด้วย ซึ่งนอกจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้ขับขี่รถยนต์แล้ว ยังมีรถยนต์พลังงานทางเลือกอีกหลายประเภทที่ตอบโจทย์คนรักสิ่งแวดล้อมได้ มีอะไรบ้าง
 
1.   รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแรกที่หลายคนนึกถึง เพราะไม่เพียงมีมาตรการและส่วนลดหลายอย่างที่ดึงดูดให้คนใช้รถตัดสินใจเลือกใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่รถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการปล่อยควันเสีย ส่งผลดีต่อสภาพอากาศ และประหยัดเงินค่าน้ำมันในกระเป๋าได้มากขึ้น (รถยนต์ EV ประหยัดเงินได้เท่าไหร่? ชาร์จไฟอย่างไรให้คุ้ม? https://www.smk.co.th/newsdetail/2923) เนื่องจากสามารถชาร์จพลังงานจากที่บ้านได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติก็ตาม (รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท? ประเภทรถไฟฟ้าแบบไหนที่เหมาะ? https://www.smk.co.th/newsdetail/2873)

2.   รถยนต์พลังงานโซลาร์เซลล์

รถยนต์พลังงานโซลาร์เซลล์นับเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการใช้รถยนต์พลังงานสะอาด แต่ในปัจจุบันอาจจะมีผู้ผลิตน้อยกว่าพลังงานไฟฟ้า แต่จุดเด่นที่สำคัญ คือ การชาร์จพลังงานทำได้ไม่จำกัด โดยเฉพาะในวันที่มีแดดแรง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาให้แผงโซลาร์เซลล์มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ไกลขึ้น
ปัจจุบันรถยนต์พลังงานโซลาร์เซลล์เริ่มมีวางจำหน่ายแล้วในยุโรป โดยบริษัท Lightyear สตาร์ตอัปจากเนเธอร์แลนด์ ผู้พัฒนารถ EV พลังงานแสงอาทิตย์รายแรกของโลก ซึ่งกำลังจะเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ในปลายปี 2022 โดย Lightyear ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งมาบนฝากระโปรงรถและหลังคาซึ่งการได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ทั้งวัน ทำให้สามารถขับรถยนต์ได้ไกลถึง 70 กิโลเมตร
 
สำหรับรถ EV พลังงานโซลาร์เซลล์ที่บริษัทเปิดตัวคันแรกนั้นมีชื่อรุ่นว่า Lightyear 0 ซึ่งผลิตขึ้นที่ประเทศฟินแลนด์โดย Valmet Automotive มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 250,000 ยูโร หรือราว 9.1 ล้านบาท มีคุณสมบัติหลักๆ คือ นอกจากจะใช้พลังงานจากการชาร์จผ่านระบบไฟฟ้าปกติแล้ว ยังสามารถรับพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าให้กับรถได้อีกด้วย

Lightyear 0 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ทำให้การชาร์จไฟฟ้าปกติ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกล 625 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัด WLTP) แต่หากชาร์จผ่านแผงโซลาร์เซลล์เต็มวัน (ในสภาพที่ได้รับแดดเต็มที่) จะสามารถวิ่งได้สูงสุด 70 กิโลเมตร หรือหากเป็นสภาพอากาศแบบมีเมฆปกคลุมก็ยังได้รับพลังงานที่ทำให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ไกลถึง 35 กิโลเมตรต่อวัน

3.   รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน

รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน หรือ Full Cell Electric Vehicles (FCEVs) เป็นการใช้พลังงานแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel cell) โดยมีถังเก็บไฮโดรเจนซึ่งจะถูกป้อนเข้าเซลล์เชื้อเพลิงด้วยแรงดันสูงเพื่อไปผสมกับออกซิเจนทำให้เกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีเพื่อป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าและนำไปใช้ในการขับเคลื่อนตัวรถ ซึ่งการใช้พลังงานในลักษณะนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยใช้พลังงานจากไฮโดรเจนมาช่วยในการสร้างพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าแทน

ในกระบวนการสร้างไฟฟ้าของ FCEVs จะไม่ปล่อยไอเสียที่เป็นพิษออกมาแม้แต่น้อย ผลที่ได้เพียงอย่างเดียวของกระบวนการทั้งหมด คือน้ำและความร้อนอันเป็นผลมาจากการผสมของอะตอมไฮโดรเจนและออกซิเจน ทำให้เกิดเป็นโมเลกุลของ H2O ซึ่งก็คือน้ำนั่นเอง
 
ปัจจุบัน รถยนต์ไฮไดรเจนที่ถูกจัดอันดับว่าวิ่งได้ไกลที่สุดคือ Hyundai Nexo (จากข้อมูลของเว็บ Carguide) ที่ภายในตัวรถมีถังเก็บไฮโดรเจนความจุ 156.5 ลิตร ทำให้รถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 660 กิโลเมตรต่อก๊าซหนึ่งถัง ในขณะที่ Tesla Model S ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่ดีที่สุดของ Tesla  สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 637 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งระยะทางไกล้เคียงกันอย่างมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น จำนวนผู้โดยสาร การเปิดหรือปิดเครื่องปรับอากาศ การใช้งานอุปกรณ์อื่น ๆ ในรถ น้ำหนักบรรทุกของ รูปแบบการขับขี่ รถวิ่งขึ้นถนนที่ลาดชันหรือจอดติดอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งตัวแปรเหล่านี้ จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน

สำหรับการเติมพลังงานของรถยนต์ไฮโดรเจน พบว่า จะใช้เวลาในการสูบก๊าซเข้าไปในถังเก็บ อยู่ที่ประมาณ 5-10 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันกับรถที่เติมน้ำมัน ส่วน Supercharger ของ Tesla ใช้เวลา 15 นาที ในการชาร์จรถให้ได้แบตเตอรี่ที่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ นั่นแปลว่า ถ้าไม่ใช่ Tesla Supercharger เป็นหัวชาร์จของแบรนด์อื่น อาจจะใช้เวลามากกว่านี้ และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมสถานีชาร์จถึงต้องมีมากกว่าสถานีเติมไฮโดรเจน เนื่องจากต้องใช้เวลาในการชาร์จมากกว่า

4.   รถยนต์พลังงานลม

รถยนต์พลังลม หรือ “air pod” ออกแบบโดยบริษัท MDI (Motor Development International) ที่ขับเคลื่อนด้วย “พลังงานลม” ทำให้ไม่เกิดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีที่นั่งสำหรับผู้ใหญ่ 3 ที่และที่นั่งเด็กอีก 1 ที่ ควบคุมล้อด้านหน้าด้วย Joystick ผลิตและขายโดย Tata Motors บริษัทสัญชาติอินเดีย มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ $10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 316,625 บาท) โดยมีล้อหน้าเพียงล้อเดียว แต่ก็มีบางรุ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มี 4 ล้อด้วย
 
รถยนต์ Air Pod สามารถทำความเร็วได้สูงสุดระหว่าง 45 ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังสามารถเดินทางได้ไกลถึง 225 กิโลเมตร สำหรับการเติมลมเต็มถังขนาด 46 แกลลอน 1 ครั้ง ซึ่งจะใช้เวลา 8 ชั่วโมงหรือ หากบริการผ่านสถานีเติมอากาศจะใช้เวลาเพียง 2 นาที เท่านั้น

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องไม่คาดคิด ต่อให้ใช้รถยนต์ประเภทใดอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ เลือกทำประกันรถยนต์ที่ช่วยลดทุกความเสี่ยงภัยบนท้องถนน ประกันภัยรถยนต์คนกรุง ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 เบี้ยเริ่มต้น 11,600 บาท อัตราเบี้ยคงที่เท่ากันทุกปีคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี  ไม่ว่าจะรถชนรถ รถชนของ รถคันอื่นมาชน เกิดอุบัติเหตุนอกเมือง สูญหายไฟไหม้ น้ำท่วม พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางรถยนต์ (Roadside Assistance Service) สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/19 หรือ โทร.1596  Line : @smkinsurance พร้อมติดตามอ่านข้อมูลและเนื้อหาสาระดีดีเพิ่มเติมได้ที่  https://smkinsurance.blogspot.com