เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่อยากมีบ้านสักหลังเป็นของตนเอง คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน ที่จะช่วยให้เรารับภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน หรือคอนโดลดลง จากการย้ายสินเชื่อบ้านที่เรากู้อยู่กับธนาคารเดิม ไปยังธนาคารใหม่ที่จะเสนอดอกเบี้ยบ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิมเป็นการจูงใจให้เราย้ายไปรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ ส่งผลให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง การผ่อนบ้านก็จะใช้หมดเร็วขึ้น
ในวันนี้เรารวบรวมมาให้แล้วสำหรับ 7 ธนาคารเด่น โปรโมชั่นสุดปัง ! สำหรับผู้ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน ถ้าหากอยากเปรียบเทียบเพิ่มเติมตามไปที่
Refinance บ้าน ได้เลย
รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดี รวมธนาคารเด่นสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกสิกรไทยจุดเด่น- วงเงินสูงสุดถึง 90% ของราคาหลักประกัน
- ไม่ว่าจะอาชีพไหน ก็รีไฟแนนซ์ได้
- กู้เพิ่มได้ ดอกเบี้ยต่ำ
- รู้ผลอนุมัติไวใน 3 วัน
โดยมีดอกเบี้ยรวมสำหรับรีไฟแนนซ์บ้านต่อปีอยู่ที่ 5.97% และระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี
*หมายเหตุ อัตราดอกเบี้ยข้างต้นสำหรับลูกค้าที่ยื่นกู้สินเชื่อบ้านตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2565
สินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัสโปร ธนาคารไทยเครดิตจุดเด่น- ยื่นกู้ได้ทุกอาชีพ
- ผ่อนสบายด้วย ดอกเบี้ย 0% 7 เดือน
- สมัครง่าย เพียงมีบ้าน คอนโด อาคารพาณิชย์ที่พักอาศัย
โดยมีอัตราดอกเบี้ยสำหรับรีไฟแนนซ์ MRR 9.05% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.55% ภายในระยะเวลากู้ 30 ปี
*หมายเหตุ อ้างอิงประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อของธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) (ครั้งที่ 2/2565) เริ่มใช้วันที่ 12 ตุลาคม 2565
สินเชื่อเคหะรีไฟแนนซ์ และกู้เพิ่ม ธนาคารออมสินจุดเด่น- อัตราดอกเบี้ยต่ำ ลดภาระการผ่อนชำระ
- วงเงินกู้รวมสูงสุด 110% ของราคาประเมินหลักทรัพย์
- วงเงินเหลือ สามารถกู้เพิ่มเติมอุปโภคบริโภคได้สูงสุด 5 ล้านบาท
- ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี
อัตราดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์จุดเด่น- อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านต่ำ
- ได้วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน
- หากมีวงเงินเหลือ กู้เพิ่มสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช sm ได้
- ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาผ่อนชำระรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี)
โดยมี อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ MRR – 2.70% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ธนาคารกรุงเทพจุดเด่น- ขอกู้ครั้งใหม่ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าด้วยวงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ พร้อมรับวงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์เพิ่มเติมได้ทั้งในรูปแบบเงินกู้หรือแบบโอดี
- ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุกับระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 65 ปี สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่
- ใช้หลักประกันเป็น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัย
- ค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน 3,000 บาท (ไม่รวม VAT)
สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ธนาคารกรุงเทพ มีอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป หรือหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร
สินเชื่อบ้านสุขสันต์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส)จุดเด่น- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด จากสถาบันการเงินอื่น
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร จากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้าง หรือต่อเติม / ขยาย / ซ่อมแซมอาคาร
- เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
*หมายเหตุ
- นิยามคำว่า “อาคาร” หมายถึง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ เพื่อที่อยู่อาศัย ยกเว้น แฟลต และบ้านเช่า
- กำหนดระยะเวลา ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 - 30 ธันวาคม 2565 อนุมัติ และทำนิติกรรม ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565
สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ธนาคารกรุงไทยจุดเด่น- ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 1.00% ต่อปี
- ฟรี ค่าธรรมเนียมยื่นกู้
- ธนาคารออกค่าจดจำนองให้ 1%*
- ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี
โดยมีอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย MRR = 6.22% ต่อปี
*หมายเหตุ ข้อมูลดอกเบี้ยล่าสุดวันที่ 4 ตุลาคม 2565
คุณสมบัติของผู้ที่จะ Refinance บ้าน1. พนักงานประจำ (มีเงินเดือน)- สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
- รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
- อายุงานในบริษัทปัจจุบันต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว
ในบางธนาคารอาจกำหนดอายุงานหรือเงินเดือนขั้นต่ำในการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของแต่ละธนาคารอย่างครบถ้วน
2. เจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ- สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
- รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
- มีการจดทะเบียนบริษัท และประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
คุณสมบัติสำคัญคือการที่ธนาคารสามารถเช็กรายรับรายจ่ายได้อย่างสะดวก หากไม่มีการจดทะเบียนการค้า จะต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายที่สม่ำเสมอ เพื่อให้ธนาคารเห็นจำนวนเงินหมุนเวียนของธุรกิจ
กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระ- สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
- รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
- มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้
- ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
กลุ่มอาชีพอิสระจำเป็นต้องมีรายได้เข้าบัญชีทุกเดือน มีหลักฐานการทำงานที่ชัดเจน และมีการยื่นภาษีอย่างถูกต้อง เมื่อนำไปยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน บางธนาคารอาจกำหนดให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือรายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลังที่มากกว่า 12 เดือน
เอกสารสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หรือสำเนาทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
- สำเนาใบมรณะบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
2. เอกสารแสดงรายได้แบ่งออกเป็นสองกรณี ได้แก่
กรณีบุคคลผู้มีรายได้ประจำ หรือประกอบอาชีพอิสระ - สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน
- หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ (ถ้ามี)
- สำเนารับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) (สำหรับบางธนาคารเท่านั้น)
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ถ้ามี)
กรณีบุคคลผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 12 เดือน (ทั้งในนามบุคคล และกิจการ)
- สำเนาแบบแสดงภาษีซื้อขาย ภ.พ. 30 (ถ้ามี) หรือ ภงด. 50/51 ย้อนหลัง 5 เดือน (ถ้ามี)
3. เอกสารแสดงหลักประกัน- สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องที่บ่งชี้ถึงหลักประกัน
- สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 ,สัญญาให้ที่ดิน ทด.14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
- สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือสำเนาสัญญาจำนองห้องชุด
- สำเนาสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน หรือ ถ้าผ่อนชำระแบบตัดค่างวดอัตโนมัติ ให้ใช้รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน
มีประวัติเสียทางด้านการเงิน รีไฟแนนซ์บ้านได้ไหมแล้วสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติเสียทางด้านการเงิน เช่นมีประวัติค้างชำระ จ่ายหนี้ช้า หรือจ่ายไม่ตรงเวลาจะสามารถทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม? คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละธนาคารที่จะสามารถยืดหยุ่นให้เราได้หรือไม่ โดยธนาคารจะพิจารณาจาก เอกสารการเงินหรือรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เอกสารเดินบัญชีธนาคาร อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง และประวัติการผ่อนชำระกับธนาคารเดิมที่เราเคยมีประวัติอยู่
สรุปการรีไฟแนนซ์บ้านที่คุ้มค่าสำหรับการย้ายธนาคารสำหรับการกู้เงิน คือ การต้องทำให้ดอกเบี้ยสำหรับการผ่อนบ้านต่ำลงกว่าเดิม การจัดการระเบียบการเงินที่ดี และการหาข้อมูลเพื่อให้คุ้มกับเม็ดเงินที่จะเป็นค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านจึงสำคัญมาก ไหนจะการเตรียมเอกสาร ไหนจะการเปรียบเทียบโปรโมชั่นแต่ละธนาคาร ถ้ามองหาที่ปรึกษาที่จะช่วยให้การรีไฟแนนซ์บ้านง่ายสำหรับคุณมากขึ้น Refinn รออำนวยความสะดวกให้คุณอยู่นะ