ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


สิ่งที่ต้องรู้ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน ทำยังไงให้คุ้มที่สุด !

รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดี

เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่อยากมีบ้านสักหลังเป็นของตนเอง คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน ที่จะช่วยให้เรารับภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน หรือคอนโดลดลง จากการย้ายสินเชื่อบ้านที่เรากู้อยู่กับธนาคารเดิม ไปยังธนาคารใหม่ที่จะเสนอดอกเบี้ยบ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิมเป็นการจูงใจให้เราย้ายไปรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ ส่งผลให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง การผ่อนบ้านก็จะใช้หมดเร็วขึ้น

ในวันนี้เรารวบรวมมาให้แล้วสำหรับ 7 ธนาคารเด่น โปรโมชั่นสุดปัง !  สำหรับผู้ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน ถ้าหากอยากเปรียบเทียบเพิ่มเติมตามไปที่
Refinance บ้าน ได้เลย


รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดี รวมธนาคารเด่น

สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกสิกรไทย

จุดเด่น

  • วงเงินสูงสุดถึง 90% ของราคาหลักประกัน
  • ไม่ว่าจะอาชีพไหน ก็รีไฟแนนซ์ได้
  • กู้เพิ่มได้ ดอกเบี้ยต่ำ
  • รู้ผลอนุมัติไวใน 3 วัน

โดยมีดอกเบี้ยรวมสำหรับรีไฟแนนซ์บ้านต่อปีอยู่ที่ 5.97% และระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี
*หมายเหตุ อัตราดอกเบี้ยข้างต้นสำหรับลูกค้าที่ยื่นกู้สินเชื่อบ้านตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2565

สินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัสโปร ธนาคารไทยเครดิต

จุดเด่น

  • ยื่นกู้ได้ทุกอาชีพ
  • ผ่อนสบายด้วย ดอกเบี้ย 0% 7 เดือน
  • สมัครง่าย เพียงมีบ้าน คอนโด อาคารพาณิชย์ที่พักอาศัย

โดยมีอัตราดอกเบี้ยสำหรับรีไฟแนนซ์ MRR 9.05% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.55% ภายในระยะเวลากู้ 30 ปี

*หมายเหตุ อ้างอิงประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อของธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) (ครั้งที่ 2/2565) เริ่มใช้วันที่ 12 ตุลาคม 2565

สินเชื่อเคหะรีไฟแนนซ์ และกู้เพิ่ม ธนาคารออมสิน

จุดเด่น

  • อัตราดอกเบี้ยต่ำ ลดภาระการผ่อนชำระ
  • วงเงินกู้รวมสูงสุด 110% ของราคาประเมินหลักทรัพย์
  • วงเงินเหลือ สามารถกู้เพิ่มเติมอุปโภคบริโภคได้สูงสุด 5 ล้านบาท
  • ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี

อัตราดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์

จุดเด่น

  • อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านต่ำ
  • ได้วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน
  • หากมีวงเงินเหลือ กู้เพิ่มสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช sm ได้
  • ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาผ่อนชำระรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี)

โดยมี อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ MRR – 2.70% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา

สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ธนาคารกรุงเทพ

จุดเด่น

  • ขอกู้ครั้งใหม่ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าด้วยวงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ พร้อมรับวงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์เพิ่มเติมได้ทั้งในรูปแบบเงินกู้หรือแบบโอดี
  • ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุกับระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 65 ปี สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่
  • ใช้หลักประกันเป็น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัย
  • ค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน 3,000 บาท (ไม่รวม VAT)

สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ธนาคารกรุงเทพ มีอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไป หรือหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร

สินเชื่อบ้านสุขสันต์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส)

จุดเด่น

  • เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด จากสถาบันการเงินอื่น
  • เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร จากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้าง หรือต่อเติม / ขยาย / ซ่อมแซมอาคาร
  • เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่น พร้อมปลูกสร้างอาคาร
  • เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น

*หมายเหตุ
  • นิยามคำว่า “อาคาร” หมายถึง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ เพื่อที่อยู่อาศัย ยกเว้น แฟลต และบ้านเช่า
  • กำหนดระยะเวลา ยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 - 30 ธันวาคม 2565 อนุมัติ และทำนิติกรรม ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565

สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ธนาคารกรุงไทย

จุดเด่น

  • ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 1.00% ต่อปี
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมยื่นกู้
  • ธนาคารออกค่าจดจำนองให้ 1%*
  • ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี

โดยมีอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย MRR = 6.22% ต่อปี

*หมายเหตุ ข้อมูลดอกเบี้ยล่าสุดวันที่ 4 ตุลาคม 2565

คุณสมบัติผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน 2565


คุณสมบัติของผู้ที่จะ Refinance บ้าน

1. พนักงานประจำ (มีเงินเดือน)

  • สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
  • รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
  • อายุงานในบริษัทปัจจุบันต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว

ในบางธนาคารอาจกำหนดอายุงานหรือเงินเดือนขั้นต่ำในการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของแต่ละธนาคารอย่างครบถ้วน

2. เจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ

  • สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
  • รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
  • มีการจดทะเบียนบริษัท และประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

คุณสมบัติสำคัญคือการที่ธนาคารสามารถเช็กรายรับรายจ่ายได้อย่างสะดวก หากไม่มีการจดทะเบียนการค้า จะต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายที่สม่ำเสมอ เพื่อให้ธนาคารเห็นจำนวนเงินหมุนเวียนของธุรกิจ

กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระ

  • สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
  • รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
  • มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้
  • ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

กลุ่มอาชีพอิสระจำเป็นต้องมีรายได้เข้าบัญชีทุกเดือน  มีหลักฐานการทำงานที่ชัดเจน และมีการยื่นภาษีอย่างถูกต้อง เมื่อนำไปยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน บางธนาคารอาจกำหนดให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือรายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลังที่มากกว่า 12 เดือน 


เอกสารสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน

เอกสารรีไฟแนนซ์บ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง

1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หรือสำเนาทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
  • สำเนาใบมรณะบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)

2. เอกสารแสดงรายได้

แบ่งออกเป็นสองกรณี ได้แก่

กรณีบุคคลผู้มีรายได้ประจำ หรือประกอบอาชีพอิสระ

  • สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน
  • หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ (ถ้ามี)
  • สำเนารับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) (สำหรับบางธนาคารเท่านั้น)
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ถ้ามี)

กรณีบุคคลผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว

  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 12 เดือน (ทั้งในนามบุคคล และกิจการ)
  • สำเนาแบบแสดงภาษีซื้อขาย ภ.พ. 30 (ถ้ามี) หรือ ภงด. 50/51 ย้อนหลัง 5 เดือน (ถ้ามี)

3. เอกสารแสดงหลักประกัน

  • สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องที่บ่งชี้ถึงหลักประกัน
  • สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 ,สัญญาให้ที่ดิน ทด.14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
  • สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือสำเนาสัญญาจำนองห้องชุด
  • สำเนาสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินเดิม
  • สำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน หรือ ถ้าผ่อนชำระแบบตัดค่างวดอัตโนมัติ ให้ใช้รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน


มีประวัติเสียทางด้านการเงิน รีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม

แล้วสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติเสียทางด้านการเงิน เช่นมีประวัติค้างชำระ จ่ายหนี้ช้า หรือจ่ายไม่ตรงเวลาจะสามารถทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม? คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละธนาคารที่จะสามารถยืดหยุ่นให้เราได้หรือไม่ โดยธนาคารจะพิจารณาจาก เอกสารการเงินหรือรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เอกสารเดินบัญชีธนาคาร อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง และประวัติการผ่อนชำระกับธนาคารเดิมที่เราเคยมีประวัติอยู่

สรุป

การรีไฟแนนซ์บ้านที่คุ้มค่าสำหรับการย้ายธนาคารสำหรับการกู้เงิน คือ การต้องทำให้ดอกเบี้ยสำหรับการผ่อนบ้านต่ำลงกว่าเดิม การจัดการระเบียบการเงินที่ดี และการหาข้อมูลเพื่อให้คุ้มกับเม็ดเงินที่จะเป็นค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านจึงสำคัญมาก ไหนจะการเตรียมเอกสาร ไหนจะการเปรียบเทียบโปรโมชั่นแต่ละธนาคาร ถ้ามองหาที่ปรึกษาที่จะช่วยให้การรีไฟแนนซ์บ้านง่ายสำหรับคุณมากขึ้น Refinn รออำนวยความสะดวกให้คุณอยู่นะ