ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้ เทคนิคการเลือก ยาง ออฟ โรด เรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้าม


   หากคุณสนใจและกำลังศึกษาเกี่ยวกับในการท่องเที่ยวผจญภัยโดยการใช้รถยนต์ออฟโรดสายลุยขับไปบนเส้นทางที่ไม่คุ้นชินอยู่ล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องให้ความสำคัญและทำความเข้าใจร่วมด้วยคือเรื่องของยางออฟโรดเพราะรถยนต์ประเภทออฟโรดนั้นไม่ได้ถูกจำกัดการใช้งานเพื่อลุยป่าเขาเท่านั้น แต่ยังถูกนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายทั้งทางเรียบในเมือง ทางขรุขระ พื้นทรายและดินโคลน ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะสัมผัสประสบการณ์สายลุยในระดับไหน ดังนั้นจึงควรรู้ว่ายางแต่ละประเภทเหมาะที่จะใช้งานแบบไหนและยางออฟโรดแท้จริงแล้วมีอยู่กี่ประเภทกันแน่ เพื่อที่จะได้เลือกซื้อมาใช้กับรถคู่ใจได้อย่างลงตัวนั่นเอง

เทคนิคการเลือกยางออฟโรดแต่ละประเภท โดยดูจากความเหมาะสมของลักษณะการใช้งาน
   1. ยางประเภท HT หรือ HIGHWAY TERRAIN ยางประเภทนี้ส่วนใหญ่จะติดมาพร้อมกับรถใหม่จากโรงงาน เป็นทั้งยางกระบะ และ ยาง suv โครงสร้างของยางเป็นแบบเรเดียลทั่วไปสามารถระบายความร้อนได้ดี ลักษณะของดอกยางจะมีขนาดเล็ก เรียบ ละเอียด เน้นให้ตัวดอกยางสัมผัสกับพื้นถนนมาก ๆ เข้าไว้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำและการยึดเกาะถนน ยางประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับการขับขี่บนพื้นถนนเรียบเป็นหลัก ให้ความรู้สึกเงียบ นุ่ม สามารถใช้ความเร็วสูงได้ นิยมใช้ขับขี่ในเมืองหรือขับขี่บนพื้นถนนขรุขระได้เล็กน้อย แต่ไม่เหมาะสำหรับงานบรรทุกหนักและลุยป่า

   2. ยางประเภท AT หรือ ALL TERRAIN มีโครงสร้างยางที่แข็งแรงมากขึ้น ดอกยางมีขนาดใหญ่ หนา และมีระยะห่างเพิ่มขึ้นจากรุ่น HT เล็กน้อย เน้นให้ดอกยางสัมผัสกับพื้นผิวถนนได้ดีในระดับหนึ่ง มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดี เหมาะสำหรับใช้งานบนพื้นถนนเรียบทั่วไป มีเสียงรบกวนบ้างแต่ไม่ถึงกับน่ารำคาญมากนัก และสามารถขับขี่บนพื้นถนนขรุขระที่ไม่ถึงกับทุรกันดารได้เป็นบางครั้ง แต่ด้วยความที่เป็นยางที่มีน้ำหนักมากจึงทำให้การใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นตามไปด้วย ถึงอย่างไรก็ตามยางประเภท AT ก็ยังได้รับความนิยมในกลุ่มรถออฟโรดสูงพอสมควร เพราะสามารถขับขี่ได้ทุกสภาพถนน แต่จะเน้นขับขี่แบบทั่วไปมากกว่าและขับลุยได้บ้างนิดหน่อย

   3. ยางประเภท MT หรือ MUD TERRAIN นี่คือ ยาง ออฟ โร ด สำหรับสายลุยตัวจริง เพราะมีโครงสร้างยางที่แข็งแกร่งมากกว่าทุกรุ่น แก้มยางหนา ดอกยางเยอะ มีขนาดใหญ่ ร่องยางลึก และมีระยะห่างกันมาก เป็นการออกแบบเพื่อเน้นการขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทายสมบุกสมบัน สามารถขับขี่ลุยน้ำ ลุยดินโคลน ขึ้นเขาและเข้าป่าได้อย่างคล่องตัว มีความสามารถพิเศษทั้งตะกุยดินและสลัดดินออกจากตัวยางได้ในขณะขับขี่ ยางประเภทนี้รองรับการใช้งานแบบหนัก ๆ ได้ แต่ไม่เหมาะที่จะขับขี่บนพื้นถนนเรียบ เพราะด้วยน้ำหนักยางที่มากกว่าทุกรุ่นจึงทำให้มีเสียงดังรบกวน และเมื่อต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูง ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนก็ลดลงด้วย เพราะดอกยางจะสัมผัสกับพื้นผิวถนนได้ไม่มากพอ อีกทั้งยางรุ่นนี้ยังสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นอื่น ๆ และมีราคาที่สูงมากกว่า

   ยางออฟโรด เป็นยางที่สามารถใช้งานได้บนเส้นทางที่หลากหลาย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับการใช้วิ่งบนถนนทุกรูปแบบ เพราะยังมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยซึ่งเป็นข้อจำกัดของยางแต่ละประเภทอยู่ ดังนั้นเพื่อให้ได้ยางที่ถูกใจผู้ขับขี่และตรงกับจุดประสงค์ของการใช้งาน ควรศึกษารายละเอียดและให้ความสำคัญกับสเปกของยางก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง ถ้าหากคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือก ยางรถยนต์ขอบ 18 ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำยางออฟโรด และ ยาง suv ที่มีประสิทธิภาพสูงจาก Bridgestone เป็นยางที่มีเนื้อยางและโครงสร้างพิเศษ ออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ช่วยให้การยึดเกาะถนนดียิ่งขึ้น มีความสะดวกสบายปลอดภัยทุกการขับขี่ ให้ความคล่องตัวและตอบสนองได้ดีเยี่ยมในทุกเส้นทาง ไม่ว่าอุปสรรคไหนก็สามารถฝ่าไปได้อย่างราบรื่น มีให้เลือกหลายรุ่นหลายแบบครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานที่มีสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกัน ชอบแบบก็ไหนสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดของยางแต่ละรุ่นจากเว็บไซต์ของ Bridgestone กันได้เลย