เพราะการเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้มีคุณภาพชีวิติที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จึงทำให้คนยุคนี้นิยมสร้างเนื้อสร้างตัวให้พร้อมก่อนจะวางแผนมีบุตร แต่เพราะสังคมสมัยนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เหล่าพ่อแม่จึงจำเป็นต้องมีเงินเก็บที่มากพอ กว่าจะเก็บได้ถึงตามเป้า อายุก็ล่วงเลยมามากแล้ว ทำให้เกิดภาวะมีลูกยาก
แต่เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันสามารถทำให้การมีลูกเป็นไปได้สูงขึ้น โดยเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยเพิ่มโอกาสการมีลูกสูงกว่าวิธีอื่น ๆ ที่เคยมีมานั่นก็คือการทำอิ๊กซี่
ICSI นั่นเอง
ในบทความนี้จะมาแนะนำการเพิ่มโอกาสการมีบุตรที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วยการทำอิ๊กซี่ ICSI คืออะไร ทำไมถึงช่วยให้การมีบุตรเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น มีวิธีการทำอิ๊กซี่ ICSI อย่างไร โอกาสสำเร็จมีแค่ไหน
อิ๊กซี่ ICSI คือIntracytoplasmic sperm injection หรือ อิ๊กซี่ ICSI คือ วิธีรักษาภาวะมีบุตรยากโดยอาศัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการชักนำให้เซลล์สืบพันธุ์อย่างเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิให้เกิดการปฏิสนธิกันได้เลยทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้เซลล์อสุจิเข้าไปเจาะเซลล์ไข่ตามธรรมชาติ
เพราะโดยปกติแล้วที่คุณแม่ไม่สำเร็จการตั้งครรภ์ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เซลล์ไข่และเซลล์อสุจิไม่สามารถปฏิสนธิกันได้ เมื่อไม่มีการปฏิสนธิก็จะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้นั่นเอง การทำอิ๊กซี่จึงเป็นการแก้ไขปัญหาการที่เซลล์ไข่กับเซลล์อสุจิไม่ปฏิสนธิกันเองตามธรรมชาติให้มาปฏิสนธิกันได้ง่าย ๆ นั่นเอง
อิ๊กซี่ (ICSI) ต่างจาก IVF อย่างไรวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่เป็นการปฏิสนธินอกร่างกายหรือการทำเด็กหลอดแก้วในปัจจุบันมีอยู่ 2 วิธี คือ IVF และ ICSI ซึ่งทั้ง 2 วิธีมีขั้นตอนการรักษาที่แตกต่างเพียงเล็กน้อย แต่กลับเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้ประสบความสำเร็จขึ้นอย่างมาก ดังนี้
IVF (In-Vitro Fertilization)IVF คือการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการนำเซลล์สืบพันธุ์อย่างเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิออกมาให้เกิดการปฏิสนธิกันภายนอกร่างกาย ซึ่งขั้นตอนจะค่อนข้างไม่ยุ่งยากเท่า ICSI หากเซลล์สืบพันธุ์ยังไม่อ่อนแอจนเกินไปก็จะทำให้การตั้งครรภ์ประสบความสำเร็จมากขึ้น
การทำ IVF จะนำเซลล์สืบพันธุ์ทั้งสองประเภทมาจำนวนหนึ่ง แล้วไว้รวมกันในจานเพาะเลี้ยงหรือหลอดทดลอง และรอให้เซลล์อสุจิว่ายไปเจาะเซลล์ไข่เพื่อปฏิสนธิกันเอง และเมื่อปฏิสนธิสำเร็จจึงนำตัวอ่อนที่ได้นั้นไปเลี้ยงต่อในห้องปฏิบัติการจนแข็งแรงแล้วจึงนำกลับเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวและเกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection)อิ๊กซี่ ICSI คือการทำเด็กหลอดแก้วเช่นเดียวกับ IVF แต่มีการพัฒนาขั้นตอนที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์สำเร็จสูงกว่าเดิม
ปกติแล้วเมื่ออายุฝ่ายหญิงมากขึ้น เซลล์ไข่ก็จะอายุมากตามไปด้วยและทำให้เซลล์ไข่ที่สมบูรณ์น้อยลง เซลล์ไข่ที่หลงเหลือก็มักจะมีปัญหาไม่ว่าจะฝ่อ หรือเปลือกไข่หนา ทำให้เซลล์อสุจิไม่สามารถเจาะเข้าไปปฏิสนธิได้นั่นเอง
การทำ ICSI ก็จะเข้ามาแก้ปัญหาจุดนี้ โดยการคัดเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิที่คุณภาพดีที่สุดมาเพียง 1 ใบและ 1 ตัว จากนั้นใช้เครื่อง ICSI มาเจาะเซลล์ไข่เพื่อนำเซลล์อสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรงและเกิดการปฏิสนธิกันได้เลยทันทีก่อนจะนำตัวอ่อนไปเลี้ยงจนแข็งแรงและนำกลับเข้าไปในโพรงมดลูกเหมือนการทำ IVF
ทำไมถึงต้องทำ ICSIเมื่ออายุมากขึ้น โอกาสเกิดภาวะมีบุตรยากก็สูงขึ้นตามไปด้วย หากคิดจะมีลูกในตอนที่อายุมาก ๆ แล้วอาจทำให้การตั้งครรภ์ทำได้ยาก ถึงตั้งครรภ์สำเร็จลูกที่เกิดมาก็มีความเสี่ยงผิดปกติ ไม่แข็งแรงสมบูรณ์สูงอีกด้วย
หรือในฝ่ายหญิงที่มีโรคหรือความผิดปกติใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ไม่ว่าจะภาวะตกไข่ผิดปกติ ภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน มีความผิดปกติในท่อนำไข่ และอื่น ๆ ด้วยสาเหตุเหล่านี้ก็มักจะทำให้การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ยากเช่นกัน
เพราะเหตุนี้การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำอิ๊กซี่ ICSI จึงเป็นการช่วยให้ผู้บุตรยากได้มีบุตรง่ายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้โอกาสที่ลูกเกิดมาจะผิดปกติก็น้อยกว่าการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติอีกด้วย
โอกาสสำเร็จมากแค่ไหนสำหรับ ICSIการทำอิ๊กซี่ ICSI เป็นวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากโดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์สำเร็จสูงกว่าวิธีอื่น ๆ ประมาณ 70-80% เลยทีเดียว
การเตรียมตัวสำหรับการทำ ICSIเพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำอิ๊กซี่ ICSI มากที่สุด ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินร่างกายว่ามีภาวะมีบุตรยากหรือไม่ (ในการพบแพทย์ควรมาในช่วงวันที่ 2-3 ของการมีประจำเดือน)
หากเข้าข่ายภาวะมีบุตรยากสามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง แพทย์จะพิจาณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สภาพของเซลล์สืบพันธุ์ ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ และความต้องการของผู้ป่วย
หากพิจารณาแล้วว่าการรักษาด้วยการทำอิ๊กซี่ ICSI คือวิธีที่เหมาะสมที่สุด แพทย์จะให้ผู้ป่วยเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดเครื่องดื่มประเภทคาเฟอีน แอลกอฮอล์
- หากผู้ป่วยสูบบุหรี่ แพทย์จะให้งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือนก่อนเข้ารับการรักษา
- ออกกำลังกายในปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ
- ฝ่ายชายงดกิจกรรมทางเพศที่ทำให้เกิดการหลั่งอสุจิประมาณ 5-7 วันก่อนพบแพทย์
- ฝ่ายชายงดสวมชั้นในที่รัดแน่น และหลีกเลี่ยงการแช่น้ำอุ่น การทำซาวน่าในช่วงก่อนเข้ารับการรักษา
- ทำจิตใจให้สบาย ไม่ควรเกิดความเครียด ความกังวลใด ๆ ก่อนเข้ารับการรักษา
- หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาประจำต้องแจ้นให้แพทย์ทราบ
ขั้นตอนการทำ ICSI เมื่อผู้ป่วยเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว ในวันเข้ารับการรักษาด้วยการทำ ICSI จะมีขึ้นตอนดังนี้
Ovulation Induction (OI)แพทย์จะนัดฝ่ายหญิงมาตรวจเลือดและอัลตราซาวด์มดลูก หากผลตรวจออกมาปกติดีแพทย์จะให้ฉีดยากระตุ้นไข่ เพื่อให้เซลล์ไข่โตพร้อม ๆ กันในปริมาณมากกว่าปกติ ยาที่ใช้ฉีดกระตุ้นไข่แพทย์จะให้ผู้ป่วยฉีดเข้าบริเวณหน้าท้องในเวลาเดิมของทุกวัน และมีการนัดเข้ามาอัลตราซาวด์ดูเซลล์ไข่เป็นระยะ
หากพบว่าเซลล์ไข่มีขนาดที่เหมาะสมแล้ว แพทย์จะฉีดยากระตุ้นไข่ตกหรือฉีดยาเร่งไข่ตกให้กับผู้ป่วย หลังจากฉีดยาไข่ตกไปแล้วประมาณ 1-2 วันแพทย์จะนัดผู้ป่วยเข้ามาอีกครั้งเพื่อทำการเก็บเซลล์ไข่ที่จะนำมาใช้ในการปฏิสนธิต่อไป
Egg Retrivalหลังจากที่เซลล์ไข่สุกแล้ว แพทย์จะทำการเก็บเซลล์ไข่ออกมาภายนอกร่างกาย โดยใช้เครื่องมือสอดผ่านเข้าไปทางช่องคลอด จากนั้นดูดเซลล์ไข่ออกมาโดยดูตำแหน่งของเซลล์ไข่จากการอัลตราซาวด์ เมื่อดูดเซลล์ไข่ออกมาแล้วจะทำการพักเซลล์ไข่ไว้ในน้ำยาเพาะเลี้ยงเพื่อรอปฏิสนธิกับเซลล์อสุจิต่อไป
การเก็บ Sperm ในวันเดียวกันนั้นแพทย์จะให้ฝ่ายชายหลั่งเชื้ออสุจิใส่ในภาชนะที่แพทย์เตรียมไว้ให้ (กรณีที่ไม่สามารถหลั่งเชื้ออสุจิได้แพทย์อาจทำการเจาะดูดเชื้ออสุจิออกจากอัณฑะโดยตรง) จากนั้นทำการคัดเซลล์อสุจิที่สภาพสมบูรณ์ แข็งแรงที่สุดผ่านกล้องจุลทรรศน์ในห้องปฏิบัติการเพื่อนำไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่
Fertilizationผ่านขั้นตอนการเก็บเซลล์สืบพันธุ์ทั้งสองประเภทแล้วแพทย์จะทำการชักนำให้เซลล์เกิดการปฏิสนธิกันด้วยการใช้เครื่องอิ๊กซี่ทำการเจาะเซลล์ไข่และพาเซลล์อสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง ในขั้นตอนนี้จะใช้เซลล์ไข่ 1 ใบต่อเซลล์อสุจิ 1 ตัวในการชักนำการเกิดปฏิสนธิ
แพทย์อาจทำการชักนำให้เกิดการปฏิสนธิด้วย ICSI เพื่อให้เกิดตัวอ่อนขึ้นมาหลาย ๆ ตัวเพื่อเพิ่มโอกาสการพัฒนากลายเป็นตัวอ่อนสูงขึ้น
Embryo Transferเมื่อชักนำให้เกิดการปฏิสนธิและกลายเป็นตัวอ่อนเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการเลี้ยงตัวอ่อนต่อภายในห้องปฏิบัติการที่มีการควบคุมสภาวะที่ใกล้เคียงกับในครรภ์มากที่สุด เมื่อตัวอ่อนอยู่ในระยะที่เหมาะสมแล้วแพทย์จะทำการนัดฝ่ายหญิงอีกครั้งเพื่อนำตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนเกิดการฝังตัวและก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ ในขั้นตอนนี้แพทย์จะหาจุดที่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อนก่อนแล้วจึงนำตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูกผ่านทางช่องคลอด ไม่มีการเปิดแผลผ่าตัดแต่อย่างใด
แต่หากสภาพร่างกายของฝ่ายหญิงยังไม่เหมาะสมที่จะนำตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกแพทย์อาจให้ทำการแช่แข็งตัวอ่อนไว้ก่อน เมื่อร่างกายอยู่ในสภาพที่เหมาะสมแล้วค่อยนำตัวอ่อนนี้มาละลายและนำกลับเข้าไปในโพรงมดลูกทีหลังได้ โดยตัวอ่อนที่แช่แข็งนี้สามารถเก็บรักษาได้นานถึง 10 ปี
ข้อดีของการทำ ICSI- การทำอิ๊กซี่ ICSI เป็นวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ให้โอกาสสำเร็จสูงที่สุดด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ล่าสุด
- การทำอิ๊กซี่ ICSI สามารถแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากได้หลากหลายปัญหาที่สุด ไม่ว่าจะอายุมากจนเซลล์ไข่เปลือกหนา เซลล์ไข่สมบูรณ์น้อย หรือเป็นโรคบางอย่างที่อาจทำให้การตั้งครรภ์ยากขึ้น
- การทำอิ๊กซี่ ICSI สามารถลดโอกาสการตั้งครรภ์ผิดปกติ การให้กำเนิดลูกที่มีความผิดปกติหรือโรคทางพันธุกรรมได้ เพราะสามารถตรวจโครโมโซมก่อนนำเซลล์สืบพันธุ์ไปชักนำให้เกิดการปฏิสนธิ หรือก่อนนำตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกได้
ข้อจำกัดการทำ ICSIถึงแม้ว่าการทำอิ๊กซี่ ICSI จะสามารถแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากได้หลากหลายปัญหา แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บางประการ ดังนี้
- อาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์แฝด เนื่องจากบางครั้งกรณีที่จำนวนตัวอ่อนที่หลงเหลือจาากการทำอิ๊กซี่ก่อนนำเข้าไปในโพรงมดลูกเหลือน้อยมาก ๆ แพทย์อาจพิจารณานำตัวอ่อนที่เหลือใส่เข้าไปในโพรงมดลูก และหากการฝังตัวของตัวอ่อนสำเร็จทั้งสองตัวก็จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์แฝดเทียมนั่นเอง
- อาจทำให้เซลล์ไข่เสียหาย เพราะการทำอิ๊กซี่จะต้องมีการเจาะเปลือกไข่เพื่อนำเซลล์อสุจิเข้าไปให้เกิดการปฏิสนธิ
- การทำอิ๊กซี่ ICSI จะต้องมีการกระตุ้นรังไข่เพื่อทำให้ไข่โตพร้อมกันหลาย ๆ ใบ ในขั้นตอนนี้รังไข่อาจตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่มากเกินไปและทำให้เกิดอาการท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนได้
- มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงกว่าวิธีอื่น ๆ และยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อน จำเป็นต้องทำภายใต้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นจะใช้การทำอิ๊กซี่รักษาก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น
ค่าใช้จ่าย การทำอิ๊กซี่ ICSI ราคาประมาณ 150,000-500,000 บาทขึ้นกับสถานพยาบาล โดยราคานี้มักจะรวมค่าใช้จ่ายสำหรับทำอิ๊กซี่ ICSI ทุกขั้นตอนแล้ว ถึงแม้ว่าราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการรักษาภาวะมีบุตรยากวิธีอื่น ๆ แต่ก็ทำให้โอกาสสำเร็จสูงกว่าวิธีอื่น ๆ ค่อนข้างมาก