ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อิมูร่า คีโม, อาหารเสริมอีมูล่า อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ของ I.M.U.RA

อิมูร่า คีโม, อาหารเสริมอีมูล่า
อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ของ I.M.U.RA
I.M.U.RA อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell


อิมูร่า คีโม อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน

ผลข้างเคียงจากการทำคีโมมีอาการใดบ้าง

อาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งพบประมาณ 50% ของผู้เข้ารับการรักษาทั้งหมด จึงจัดเป็นปัญหาสำคัญเนื่องจากอาการดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยอ่อนเพลีย น้ำหนักลด เกิดภาวะขาดสารอาหารและเกลือแร่ และมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการรักษาจนอาจมีผลต่อการรักษาได้ ในการป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนนั้นควรเริ่มให้ยาป้องกันตั้งแต่ก่อนการให้ยาเคมีบำบัดต่อเนื่องไป จนกระทั่งเลยช่วงเวลาที่ยาเคมีบำบัดจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยการให้ยาป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน มีวิธีการให้ยาได้หลายทาง ขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่ใช้ เช่น ชนิดรับประทาน การฉีดเข้าหลอดเลือด การฉีดเข้ากล้าม การสอดเข้าทางทวารหนัก การอมใต้ลิ้น หรือแบบแผ่นแปะผิดหนัง ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานยาทางปากได้ และเสริมอาหารด้วย อิมูร่า คีโม อาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell

ดังนั้นอาการข้างเคียงเหล่านี้มีหลายอย่างที่ป้องกันได้ โดยแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาให้ยา หรือมาตรการในการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ท่านจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองเมื่อได้รับยาเคมีบำบัด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรักษาจากยาสูงสุด โดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ตามที่ผู้ป่วยและแพทย์ผู้ทำการรักษาตั้งใจไว้

อาการคลื่นไส้อาเจียน-www imura

คำแนะนำเรื่องโภชนาการสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด  พร้อมกับทาน อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ของ I.M.U.RA ควบคู่จะดีมาก
เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัดเป็นผู้ป่วยนอก ดังนั้นจึงควรเตรียมอาหารและของว่างมาด้วย หากการให้ยาเคมีต้องใช้ระยะเวลาที่นาน บางโรงพยาบาลมีการอำนวยความสะดวกโดยมีตู้เย็น และเครื่องไมโครเวฟไว้ให้บริการ



ควรรับประทานอาหารว่างหรืออาหารเบาๆ ก่อนให้ยาเคมีบำบัด
การพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์สามารถช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี
หากรู้สึกไม่อยากอาหารหลังจากได้รับยาเคมีบำบัด ก็ไม่ควรฝืนรับประทานซึ่งแก้ไขได้ด้วยการรับประทานทีละน้อยบ่อยๆ หรือเลือกรับประทานอาหารที่ชอบในระหว่างการรักษา
ควรรับประทานอาหารตามปกติหากสามารถทำได้ ที่สำคัญคือ ไม่ควรฝืนรับประทานอาหารที่ไม่ชอบหรือเมื่อยังรู้สึกอิ่มอยู่  อย่าเกรงใจที่จะขอให้ญาติและเพื่อนๆ มีส่วนช่วยในการเลือกซื้อ และเตรียมอาหาร หรือหากอยู่คนเดียวก็อาจสั่งอาหารมารับประทานที่บ้านหรือออกไปรับประทานอาหารกับเพื่อนบ้าง
ผลข้างเคียงจากการรักษา ส่วนใหญ่เป็นแบบชั่วคราวเท่านั้น หากอาการไม่หายไป ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ผู้รักษาทราบเพื่อดำเนินการรักษาต่อไป

การดูแลตนเอง เมื่อเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน

ในผู้ป่วยที่ต้องควบคุมอาหาร เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรมีการปรับเปลี่ยนอาหารตามความเหมาะสม โดยปรึกษากับทีมแพทย์ผู้ให้การรักษา
ควรแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ และบ่อยๆ แทนที่จะเป็นมื้อหลัก 3 มื้อตามปกติ
ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและพลังงานสูง
สามารถรับประทานอาหารเสริมควบคู่ไปด้วย โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้จากทีมผู้ให้การรักษา
สามารถรับประทานอาหารเสริมควบคู่ไปด้วย โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้จากทีมผู้ให้การรักษา
ในแต่ละวันหากช่วงเวลาใดที่สามารถทานได้ ควรรับประทานให้เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่มื้อเช้าจะเป็นมื้อที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้มาก

หากไม่สามารถรับประทานอาหารได้เพียงพอ ควรบอกแก่ทีมผู้ให้การรักษาหรือนักโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง

หากรับประทานยาแก้อาการคลื่นไส้อาเจียนไม่ได้ผล ควรแจ้งทีมผู้ให้การรักษาทราบเพื่อพิจารณาปรับยาให้เหมาะสม

วิธีบรรเทาอาการ สามารถทาน   I.M.U.RA อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ช่วยได้มาก
– รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ขนมปัง แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารร้อนเพราะมีกลิ่น และทำให้ท่านรู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้น
– รับประทานอาหารเหลว ใส หรือเครื่องดื่มเย็น ๆ เช่น น้ำผลไม้ น้ำขิง โดยใช้หลอดดูดแทนการดื่ม
– รับประทานทีละน้อย แต่บ่อยมื้อขึ้น
– หลีกเลี่ยงอาหารกลิ่นฉุน รสจัด อาหารมัน อาหารทอด เพราะจะทำให้ท่านรู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้น
– ทำความสะอาดปากและฟันหลังทานอาหารทุกมื้อด้วยน้ำเกลือกลั้วปาก
– พักผ่อนมาก ๆ หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือดูรายการโทรทัศน์ที่ชอบ
– รับประทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนตามแพทย์สั่ง


อาการข้างเคียงดังต่อไปนี้ควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ ท่านควรรีบมาพบแพทย์ทันทีถ้ามีอาการดังต่อไปนี้
มีอาการซีดมาก อ่อนเพลียมาก เหนื่อยหอบ หรือหน้ามืดมีไข้ (วัดไข้ซ้ำอีกครั้งใน 1 ชั่วโมงต่อมา หากยังมีไข้ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที โดยห้ามกินยาลดไข้เด็ดขาด) หรือมีอาการหนาวสั่น ปวดศีรษะ โดยเฉพาะเมื่อมีไข้ในช่วง 7-14 วัน หลังได้รับยาเคมีบำบัด
มีจุดเลือดจ้ำเลือดขึ้นตามตัว หรือมีเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล มีจุดแดงที่ตาขาว ลำตัว แขน และขา
อาการข้างเคียงต่าง ๆ มีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ท้องเสียรุนแรง ปวดศีรษะรุนแรง น้ำหนักเพิ่มขึ้น หรือลดลงอย่างรวดเร็ว
มีผื่น หรือตุ่มขึ้นตามร่างกาย สูญเสียการทรงตัว แจ้งแพทย์หรือพยาบาลหากมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมาก และไม่สามารถควบคุมได้



โรคมะเร็ง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลกและเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ อาหารเสริมอีมูล่า สามารถช่วยได้ โดยมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่

มะเร็งปอด
มะเร็งเต้านม
มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งกระเพาะอาหาร
ส่วนมะเร็งที่เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่ง คือ
– มะเร็งปอด
– มะเร็งกระเพาะอาหาร
– มะเร็งตับ
– มะเร็งลำไส้ใหญ่


นอกจากนี้ยังมีโรคมะเร็งที่พบได้อีก เช่น มะเร็งตับอ่อน มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งศีรษะและลำคอ มะเร็งกระดูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ การรักษามะเร็งด้วยยาเคมีบำบัดเป็นรูปแบบการรักษาที่สำคัญและเป็นการรักษาแรกที่นำมาใช้รักษาโรคมะเร็งที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติอีกครั้ง

มะเร็งที่รักษาให้หายขาดได้
โรคมะเร็งที่รักษาให้หายขาดได้ (Curable Cancer) นั้น ส่วนใหญ่ถ้าสามารถวินิจฉัยได้ในระยะเริ่มแรก โดยมากจะรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด เช่น โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น แต่หากวินิจฉัยเมื่อโรคเป็นมากแล้วและมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ มักไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

แต่ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง ทำให้โรคมะเร็งบางชนิดที่แม้มีการแพร่กระจายไปแล้วก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยโรคมะเร็งที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ (Curable) ด้วยยาเคมีบำบัด ประกอบไปด้วย
1. โรคมะเร็งอัณฑะ
2. โรคมะเร็งเนื้อรก หรือ Choriocacinoma
3. โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิด
4. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิด


วิธีการรักษาโรคมะเร็ง
การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาแบบ “สหสาขา” หมายถึง การรักษาโดยทีมแพทย์หลายสาขาร่วมกัน ประกอบด้วย
• แพทย์รังสีวินิจฉัย
• แพทย์รังสีร่วมรักษาช่วยในการวินิจฉัย การตัดชิ้นเนื้อเพื่อการวินิจฉัย การฉีดยาเคมีบำบัดเข้าสู่เส้นเลือดแดงที่เลี้ยงก้อนมะเร็งโดยตรง
• ศัลยแพทย์โรคมะเร็งที่ทำการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก
• แพทย์ทางรังสีรักษาที่ให้การรักษาด้วยแสงรังสีรักษา
• อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาที่ให้การรักษาทางยา ซึ่งประกอบไปด้วย
◦ การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) นับเป็นการรักษาหลักของการรักษาทางยาที่ใช้มากที่สุดในการรักษาโรคมะเร็งปัจจุบัน  โดยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) อาจใช้เป็นการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอย่างเดียว หรืออาจใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับรังสีรักษาที่เรียกว่า Chemoradiation อาจใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับยามุ่งเป้า หรือยาภูมิคุ้มกันบำบัดได้ โดยขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรคมะเร็ง
◦ การรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน (Hormonal Therapy) นับเป็นการรักษาที่ใช้รองลงมาจากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
◦ การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)
◦ การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) โดยการพยายามใช้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง


ระยะโรคมะเร็งและแนวทางการรักษา

วิธีการรักษาโรคมะเร็งจะมีแนวทางการรักษาตามระยะของโรคมะเร็งโดยทั่วไปแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่

• โรคมะเร็งระยะที่ 1 – 2 คือ โรคมะเร็งระยะแรกที่สามารถผ่าตัดได้ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องให้การรักษาเสริมภายหลังด้วยยาเคมีบำบัดและ / หรือยาต้านฮอร์โมน ที่เรียกว่า Adjuvant Treatment
• โรคมะเร็งระยะที่ 3 คือ โรคมะเร็งที่มักมีการลุกลามมากขึ้น โดยมีการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงบางรายสามารถผ่าตัดได้ ศัลยแพทย์ก็จะผ่าตัดก่อน หลังการผ่าตัดผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องให้การรักษาเสริมภายหลังด้วยยาเคมีบำบัด และ / หรือรังสีรักษา และ / หรือยาต้านฮอร์โมน  และ / หรือยามุ่งเป้า  เหตุผลที่มีการนำเอายาเคมีบำบัดและยาอื่น ๆ มาให้เสริมหลังผ่าตัดก็เพื่อลดอุบัติการณ์ของการกลับมาของโรคมะเร็งทั้งแบบเฉพาะที่และแบบแพร่กระจาย ซึ่งท้ายที่สุดจะเพิ่มระยะเวลาการรอดชีวิตของผู้ป่วย
ในบางรายที่โรคเป็นมากและการผ่าตัดอาจทำได้แต่ผลการรักษาอาจไม่ดีเนื่องจากขนาดก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่จึงมีการนำเอายาเคมีบำบัดมาใช้รักษาในระยะเบื้องต้นก่อนการผ่าตัดเพื่อให้ก้อนเล็กลงทำให้ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดเก็บอวัยวะหรือผ่าตัดเก็บเต้านมได้ จากนั้นก็ให้การรักษาอื่นตามในภายหลัง


ในบางรายที่โรคเป็นมากและการผ่าตัดอาจทำได้แต่ผลการรักษาอาจไม่ดีเนื่องจากขนาดก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่จึงมีการนำเอายาเคมีบำบัดมาใช้รักษาในระยะเบื้องต้นก่อนการผ่าตัดเพื่อให้ก้อนเล็กลงทำให้ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดเก็บอวัยวะหรือผ่าตัดเก็บเต้านมได้ จากนั้นก็ให้การรักษาอื่นตามในภายหลัง
• โรคมะเร็งระยะที่ 4 หรือโรคมะเร็งระยะที่ 1 – 3 และมีการกลับมาของโรค ผู้ป่วยจะมีโรคลุกลามมากขึ้นและแพร่กระจายไปอวัยวะต่าง ๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง และที่อื่น ๆ ซึ่งโรคมะเร็งระยะที่ 4 นี้ โรคมะเร็งบางชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาเคมีบำบัด เช่น โรคมะเร็งอัณฑะ โรคมะเร็งเนื้อรก เป็นต้น

อย่างไรก็ตามโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายนี้ส่วนมากรักษาไม่หายขาดแต่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้หากผู้ป่วยมีกำลังใจดีมีร่างกายที่แข็งแรงและมีภาวะโภชนาการที่ดีพอสมควร แพทย์จะสามารถให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) ที่เป็นการรักษาหลักในการรักษาโรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย โดยยาเคมีบำบัดจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ทั้งที่อยู่เฉพาะที่และที่แพร่กระจายไป ในปัจจุบันมีการนำยามุ่งเป้าหรือยาภูมิคุ้มกันบำบัดมาใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง หากการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยาเคมีบำบัดและยาที่ใช้ร่วมด้วยนั้นได้ผลดี การรักษาก็จะเพิ่มระยะเวลาการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้และคุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้การรักษาอื่นๆของโรคมะเร็งระยะที่ 4 อาจเป็นการรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน การรักษาด้วยยามุ่งเป้า หรือ Targeted Therapy และ ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) แล้วแต่ชนิดของโรคมะเร็ง

อย่างไรก็ตามหน้าที่การรักษาเป็นของคุณหมอ หน้าที่เตรียมร่างกายเป็นของเรา ให้อิมูร่าดูแลคุณในทุกก่อนและหลังการให้คีโม

https://youtu.be/WcncIziNt44
https://youtu.be/AXeh-zkkwsE

สั่งซื้อออนไลน์ : https://www.imurathailand.com/shop/

Line ID: https://lin.ee/6ouKgmw





I.M.U.RA อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ของ I.M.U.RA
ในอาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน I.M.U.RA นั้นมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายในการเพิ่มภูมิคุ้มกันถึง 9 ชนิด เรามาดูกันว่าแต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติอย่างไร

Grape Skin Extract

มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ อีกทั้งยังปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน NK Cell เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

Cranberr Extract

มีคุณสมบัติช่วยลด Creatinine ในผู้ป่วยเบาหวานและมีสารโพลีฟีบอลที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากความเสื่อมและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

Berry Extract

มีคุณสมบัติ Anthocyanins ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการสร้างภูมิคุมกันอีกทั้งยังช่วยยับยั้งไวรัสได้ในระดับดีอีกด้วย

Magnesium Amino Acid Chelated

มีคุณสมบัติช่วยในการนอนหลับ โดยเป็นตัวที่ช่วยในการสร้างสารเมลาโทนิน ช่วยปรับสมดุลเซโรโทนินในร่างกายให้หลับลึกสบาย ช่วยให้ร่างกายเกิดการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ในขณะที่ร่างได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะทำให้ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ

D Salina

คุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้าง โกรทแฟคเตอร์ ซึ่งเป็นตัวช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่ออื่นๆ

Inulin

คุณสมบัติส่งเสริมให้จุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้เจริญโต ช่วยป้องกันการติดเชื้อและปรับสภาวะสมดุลของลำไส้ ทำให้ช่วยลดอาการท้องผูก อันเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้

Vitamin B

คุณสมบัติในการรักษาสุขภาพช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง อีกทั้งวิตามินบียังช่วยเรื่องของการทำงานสมองและบำรุงระบบประสาท คนที่มีอาการมือชา เท้าชา หรือปวดเมื่อยตามนิ้วมือนิ้วเท้า หรือข้อต่างๆ นั่นคือสาเหตุของการขาดวิตามิน B นั่นเอง

Vitamin C

คุณสมบัติของวิตามินซี นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังชะลอความเสื่อมของเซลล์ กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันและ NK Cell แล้ว ยังช่วยเรื่องของชะลอวัย ช่วยเรื่องผิวพรรณให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ สารอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้ง 9 ชนิดเรียกได้ว่าสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันเหล่านี้เราคงไม่สามารถที่จะหาอาหารที่มีความสมบูรณ์ครบองค์ประกอบทั้งหมด เพื่อนำรับประทานให้ได้ปริมาณที่เพียงพอ ดังนั้นการทานอาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน จึงมีความจำเป็นเพราะในสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันในเครื่องดื่ม I.M.U.RA นั้นเราสกัดจากสารอาหาร ที่ให้ความเป็นธรรมชาติและคงความสมบูรณ์ของวิตามินแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ในทันทีหลังจากที่ดื่ม  ดังนั้นการดื่มอาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ของ I.M.U.RA นั้นให้ดื่มขณะตื่นนอนดีที่สุดเพราะร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที

อาหารเสริมจะใช้ได้ผลหรือดูดซึมได้ดีนั้นต้องประกอบกับร่างกายของแต่ละบุคคล ผลลัพธ์จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการทานอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 6-12 เดือน จึงเห็นผลที่แน่ชัดที่สุด อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค จึงควรทานคู่กับยาที่แพทย์สั่งทุกครั้งโดยเว้นระยะห่างจากการดื่มอาหารเสริม 1-2 ชม.

อาหารเสริม ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน NK Cell เพิ่มภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากธรรมชาติ สูตรเฉพาะจากงานวิจัย ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันสูงสุด

การสร้างงานวิจัยต่างๆ นั้นใช้เวลานานบางผลิตภัณฑ์ใช้เวลาวิเคราะห์วิจัยสูตรต่างๆ นานเกือบ 10 ปี ยังไม่รวมถึงการทดสอบผลิตภัณฑ์ ดังนั้นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ผ่านงานวิจัยจึงเป็นผลิตภัณฑ์ค่อนข้างมีคุณภาพอย่างมากเลยทีเดียว

TAG: อิมูร่าคีโม , อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ของ I.M.U.RA , I.M.U.RA อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell , อาหารเสริมอีมูล่า



ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

ขออนุญาต อัพเดทกระทู้