« เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2012, 03:15:55 AM »
ยิงเป็นโดนตอนที่แล้วจบลงด้วยคำถามที่ว่า"ธุรกิจที่ท่านทำนั้น เป็นเทรนด์หรือเป็นแค่กระแส"
ซึ่งเป็นคำถามที่สำคัญมาก เพราะถ้าธุรกิจที่ทำเป็นเทรนด์ ก็จะอยู่นานแสนนาน แต่ถ้่าเป็นกระแส ก็จะอยู่เพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น
พูดง่ายๆก็คือท่านจะทำชาเขียวหรือจะทำชาไข่มุก
ชาเขียวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าอยู่ยงคงกระพัน ไม่มีวันตาย เพียงแต่จะตูมตามมากหรือน้อย ในแต่ละช่วงเท่านั้นทว่าชาไข่มุก เป็นธุรกิจแฟชั่น มาเร็วไปเร็ว และก็พร้อมจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ดังนั้นไม่แปลกที่คุณตันสร้างตัวจากชาเขียว เมื่อกลับมาสร้างธุรกิจใหม่อีกครั้ง เขาก็เลือก กลับมาทำชาเขียวอีกครั้ง เพราะรู้ว่าชาเขียวไม่มีวันตาย
ทำอย่างไรเราจึงจะเจอชาเขียว ไม่ใช่เจอชาไข่มุก แล้วหลงนึกว่านั่นคือชาเขียว แล้วทุ่มทรัพยากรไปจนแทบหมดตัว ก่อนจะจบลงอย่างรวดเร็ว
การยิงให้โดนนั้น ไม่ใช่สักแต่ว่ายิงแม่นเท่านั้น การเลือกเป้่าหมายว่าจะยิงอะไร ก็เป็นเรื่องที่มี ความสำคัญมาก โทมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเคเผยเคล็บลับความหมายเป็นนักประ ดิษฐ์พันล้านของเขาว่า "ผมขึ้นไปเหยียบบนบ่าไหล่ของยักษ์ใหญ่" ความหมายของเขาก็คือเขาจะไม่ทำงานอะไรจากศูนย์ หากมีคนเก่งได้เริ่มทำจากศูนย์มาก่อน แล้ว เขาจะต่อยอดจากผลงานของคนเก่งๆที่ทำมาก่อนหน้านั้นทันที
เอสเอ็มอีก็เฉกเช่นเดียวกัน ควรกวาดสายตาไปรอบๆว่า "อะไรคือสิ่งที่เราจะยิง" โดยดูว่าผู้ที่ "ยิงเป็นโดน" ก่อนหน้าเรานั้น เขาเลือกยิงอะไร
สตีฟ จ็อบส์ เลือกทำไอพอด ทั้งๆที่ควรเป็นโซนี่ต่างหากที่ทำก่อน เพราะโซนี่ทำวอล์กแมน มาก่อนหน้านั้นแล้วในอนาล็อก แต่โซนี่กลับมองไม่เห็น ปล่อยให้แอปเปิ้ลทำไปก่อน นอกจากเราจะ ยกย่องสตีฟ จ็อบส์ว่าเก่งแล้ว ก็ควรหาเหตุผลว่าทำไมโซนี่ถึงไม่ต่อยอดวอล์คแมนของตนเอง
Sergry Brin และ Larry Page นักศึกษาปริญญาเอกจาสแตนฟอร์ดสองคนเห็นอะไร จึงได้สร้าง Google จนสนั่นโลก กลายเป็นยักษ์ใหญ่แห่ง Search Engine หาใครโค่นไม่ได้ตราบ กระทั่งปัจจุบัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นหลาย คู่หูนักศึกษาปริญญาเอกจากสถาบันเดียวกัน ประสบความ สำเร็จก่อนหน้านั้นมาแล้วด้วยการตั้ง Yahoo แต่เหตุไฉนถึงมองไม่ออกว่ากล่องเล็กๆที่ใช้ Search บนเว็บของตนเองนั้น คืออนาคต กลับ Outsource ให้บรินและเพจ สองรุ่นน้องจากสแตนฟอร์ดไปทำ แถมยังร่วมหุ้นในบริษัทที่รุ่นน้องก่อตั้งด้วย
Yahoo เข้าไปลงทุนในบริษัทเกิดใหม่มากมาย ซึ่งต่อมาในภายหลังได้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ ของวงการ เช่น Google Alibaba และได้ซื้อเว็บหนึ่งซึ่งมีผู้วิเคราะห์ว่าถ้าทำดีๆจะกลายเป็น Facebook แห่งศตวรรษที่ 20 นั่นคือ Geocities Yahoo ซื้อมาในราคาสามพันล้่านเหรียญ แต่เมื่ออยู่ในมือ yahoo กลับกลายเป็นสิ่งที่ ไม่มีค่าไปเลย และในอีกหลายปีต่อมา ก็เลิก Geocities ไปอย่างน่าเสียดายและ Yahoo นี่แหละ เมื่อหลายปีก่อนตอน Facebook ตั้งใหม่ๆ เคยขอซื้อ FB ในราคาหนึ่งพันล้านเหรียญ แต่ซักเคอร์เบอร์กปฏิเสธ คงไม่อยากเหผ้นชะตากรรมของตนเองเหมือน กับ Geocities กระมัง อะไรทำให้ Yahoo มองเห็นว่า "จะยิงอะไร" แต่เมื่ิอยิงจริงๆแล้วกลับแป๊กตลอด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในธุรกิจทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ เป็นสิ่งที่เอสเอ็มอีควรใส่ใจ ไม่เพียงมองผ่านๆเท่านั้น แต่ต้องวิเคราะห์เจาะลึก หาที่มาที่ไปและนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเรา
เมื่อถึงเวลาที่เรายิงจริงๆแล้ว
จะไม่มีวันแป๊ก
***ฝากข่าวประชาสัมพันธ์
เตรียมพบกับ Thailand online expo งานมหกรรมออนไลน์ที่จัดแสดงเทคโนโลยี สินค้าและบริการด้านออนไลน์พร้อมทั้งสัมมนาออนไลน์ครั้งใหญ่สุดในประเทศไทย รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
http://www.thailandonlineexpo.com