ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ฮอร์โมน hCG คือ อะไร เกี่ยวกับการตั้งครรภ์อย่างไร?



สำหรับว่าที่คุณแม่ที่วางแผนอยากจะมีลูกน้อยคอยอยู่เคียงข้างกาย ก็คงจะเคยได้ยินถึงฮอร์โมน hCG กันมาไม่มากก็น้อย แล้วทราบหรือไม่ว่าฮอร์โมน hCG มีความเกี่ยวข้องและมีความสำคัญต่อการตั้งครรภ์ รวมถึงสภาพครรภ์อย่างไรบ้าง ในบทความนี้จะมีข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กลับสำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ที่กำลังจะเตรียมเป็นคุณแม่

ฮอร์โมน hCG คืออะไร

Human Chorionic Gonadotropin หรือที่เรียกว่า hCG คือ ฮอร์โมนที่ผลิตมาจากเซลล์ของรกหรือเรียกว่าฮอร์โมนตั้งครรภ์ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วฮอร์โมนตัวนี้จะมีเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์เท่านั้น เนื่องจากฮอร์โมน hCH จะประกอบด้วย เซลล์รกของทารก นับว่าเป็นเซลล์ที่สำคัญสำหรับฮอร์โมน hCG โดยจะพบในช่วงหลังที่อสุจิมีการปฏิสนธิกับรังไข่ประมาณ 1 สัปดาห์ และระดับฮอร์โมน hCG นั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็น 2 เท่า ทุก 3 วัน และเพิ่มมากที่สุดในช่วง 8-11 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ หลังผ่านช่วงนั้นฮอร์โมนจะเพิ่มลดลงและค่อย ๆ คงที่

ฮอร์โมน hCG สร้างจากอะไร

เนื่องจากฮอร์โมน hCG คือ ฮอร์โมนคนท้อง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิสนธิสำเร็จก่อน เมื่อร่างกายเกิดการปฏิสนธิระหว่างอสุจิกับรังไข่ และเคลื่อนย้ายไปฝังตัวที่ผนังโพรงมดลูกแล้ว ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมน hCG ขึ้นมา ซึ่งฮอร์โมน hCG สร้างจากรก โดยจะมีหน้าที่ช่วยตัวอ่อนให้สามารถฝังตัวที่ผนังโพรงมดลูกได้ดีมากยิ่งขึ้น และยังเป็นฮอร์โมนที่คอยกระตุ้นรังไข่ให้สร้างฮอร์โมนอื่น ๆ ที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ เช่น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และ ฮอร์โมนเอสโตรเจน

ฮอร์โมน hCG มีประโยชน์กับการตั้งครรภ์อย่างไร



หลังจากอสุจิทำการปฏิสนธิกับรังไข่ประมาณ 12-14 วัน ก็จะเกิดฮอร์โมน hCG ขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  • ช่วยทำให้ตัวอ่อนสามารถฝังตัวที่ผนังโพรงมดลูกได้ดีมากขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และฮอร์โมนแอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อการตั้งครรภ์
  • สามารถนำมาใช้ในการตรวจตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากฮอร์โมน hCG เป็นฮอร์โมนที่เกิดขึ้นจากรก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ตั้งครรภ์ล้วนมี สามารถตรวจสอบได้ว่าร่างกายมีฮอร์โมนตัวนี้หรือไม่ได้โดยการตรวจผ่านปัสสาวะหลังจากผ่านการปฏิสนธิแล้ว 12-14 วัน
  • สามารถเช็คความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับการตั้งครรภ์ได้โดยวัดปริมาณของฮอร์โมน ซึ่ง ฮอร์โมน hCG อาการจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับร่างกายว่ามีระดับฮอร์โมนชนิดนี้เท่าไหร่

การตรวจค่าฮอร์โมน hCG คืออะไร
การตรวจฮอร์โมนตั้งครรภ์ หรือ hCG pregnancy test คือ การนำฮอร์โมน  hCG มาตรวจวัดเชิงคุณภาพและปริมาณ ดังนี้

1.การตรวจวัดเชิงคุณภาพ เป็นการตรวจเพื่อตรวจสอบว่ากำลังตั้งครรภ์หรือไม่ หลังจากอสุจิและรังไข่ผ่านการปฏิสนธิ 11 วันขึ้นไป โดยระดับปริมาณของฮอร์โมน hCG จะเป็นตัวชี้บ่งบอกถึงผลการตั้งครรภ์ รวมถึงอายุครรภ์อย่างคร่าว ๆ ได้

2.การตรวจวัดเชิงปริมาณ เป็นการตรวจวัดระดับฮอร์โมน hCG ทางเลือด เพื่อวัดว่าระดับฮอร์โมนอยู่ในระดับที่สมดุลหรือไม่ โดยจะสามารถวัดผลการตั้งครรภ์ รวมถึงอายุครรภ์อย่างคร่าว ๆ ได้ และยังสามารถตรวจสอบความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกด้วย

วิธีตรวจค่า hCG มีอะไรบ้าง



การตรวจครรภ์ด้วยการตรวจค่า hCG มีอยู่หลัก ๆ 2 ประเภท คือ การตรวจด้วยเลือด และ การตรวจด้วยปัสสาวะ

การตรวจเลือด
การตรวจเลือด เป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถใช้ตรวจค่า hCG เพื่อตรวจผลการตั้งครรภ์ได้อย่างแม่นยำ โดยจะทำการเก็บเลือดมาตรวจในห้องปฏิบัติการประมาณ 1-2 ชั่วโมงจึงจะทราบผล นอกจากนี้ระดับของฮอร์โมน hCG ในเลือดสามารถนำมาตรวจหาความบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ได้อีกด้วย

การตรวจปัสสาวะ
การตรวจปัสสาวะ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะใช้ตรวจค่า hCG ได้ ซึ่งหลาย ๆ คนมักจะเห็นเครื่องมือตรวจในลักษณะของ ที่ตรวจครรภ์ นั่นเอง โดยที่ตรวจครรภ์จะแสดงผลต่าง ๆ เช่น

-ขึ้น 2 ขีดที่ขีด C และขีด T = ผลบวก หมายความว่ามีโอกาสตั้งครรภ์
-ขึ้น 1 ขีดที่ขีด C อย่างเดียว = ผลลบ หมายความว่าไม่ตั้งครรภ์
-ในกรณีที่ตรวจครรภ์ไม่ขึ้นขีดใด ๆ เลย หมายความว่าที่ตรวจครรภ์หมดอายุ เสีย หรือเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในขั้นตอนการเก็บปัสสาวะ จำเป็นต้องตรวจใหม่อีกครั้ง

หมายเหตุ การตรวจปัสสาวะ เป็นการตรวจผลการตั้งครรภ์ได้อย่างคร่าว ๆ เท่านั้น ในบางครั้งอาจจะเกิดผลผิดพลาดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นในกรณีที่ต้องการทราบผลการตั้งครรภ์อย่างแม่นยำ จึงควรใช้ทางเลือกอื่นในการตรวจแทน

ระดับค่า hCG ของหญิงตั้งครรภ์
ระดับฮอร์โมน hCG ในร่างกายนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 2 เท่า ทุก 3 วัน และจะเพิ่มมากที่สุดในช่วง 8-11 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ โดยในแต่ละสัปดาห์ของการตั้งครรภ์จะมีระดับค่า hCG ในร่างกาย ดังนี้

  • สัปดาห์ที่ 0-2 : 0-5 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 3 : 6-50 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 4 : 10-750 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 5 : 200-7,100 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 6 : 160-32,000 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 7 : 37,000-160,000 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 8-9 : 32,000-230,000 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 10-11  : 47,000-290,000 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 12-13  : 28,000-210,000 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 14-16  : 9,000-71,000 mIU/ml
  • สัปดาห์ที่ 16-29  : 1,400-50,000 mIU/ml (ไตรมาสที่ 2)
  • สัปดาห์ที่ 29-41  : 940-50,000 mIU/ml (ไตรมาสที่ 3)

และหลังจากตั้งครรภ์ 16 สัปดาห์ ค่า hCG จะค่อย ๆ ลดลงจงคงที่ในช่วงสัปดาห์ที่ 22 หรือช่วงไตรมาสที่ 2
ระดับค่า hCG ไม่สมดุลจะส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว หลังจากที่ตั้งครรภ์ได้ 4 สัปดาห์ ร่างกายจะมีค่าฮอร์โมน hCG ราว 500-6000 U/ml ซึ่งในกรณีที่ร่างกายมีระดับค่า hCG ไม่สมดุล จะส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ดังนี้

ค่า hCG ต่ำผิดปกติ หรือ เพิ่มขึ้นช้ากว่าปกติ นั้นมีความเสี่ยงต่อการแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือ ไข่ฝ่อ ได้
ค่า hCG สูงผิดปกติ ในบางครั้งอาจจะเป็นเพราะตั้งครรภ์ลูกแฝด แต่ก็มีความเสี่ยงที่ครรภ์จะเติบโตอย่างผิดปกติหรือการตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ได้

ดังนั้นหากร่างกายมีระดับค่า hCG ไม่สมดุล มีมากหรือน้อยกว่าปกติจึงควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษา

ปัจจัยที่ทำให้ค่า hCG ไม่สมดุล



ปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพทางด้านร่างกาย หรือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ล้วนส่งผลทำให้ค่า hCG เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้

  • น้ำหนัก โดยเมื่อผู้ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือ มีภาวะโรคเบาหวาน ก็จะส่งผลทำให้ค่า hCG ต่ำกว่าบุคคลทั่วไป
  • การตั้งครรภ์ลูกแฝด จะทำให้ร่างกายมีปริมาณฮอร์โมน hCG สูงกว่าการตั้งครรภ์ลูกคนเดียว
  • โดยปกติผู้ที่กำลังตั้งครรภ์จะมีระดับ uE3 (Unconjugated estriol) สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในกรณีที่ระดับ uE3 ต่ำกว่าปกติ กล่าวคือจะทำให้ร่างการผลิตฮอร์โมน hCG มากกว่าปกติ ซึ่งเป็นเหตุทำให้ทารกมีความเสี่ยงที่จะเป็นดาวน์ซินโดรมได้

คำถามที่พบบ่อย

ค่า hCG ของคนปกติทั่วไปอยู่ที่เท่าไหร่?
โดยปกติแล้ว ในร่างกายคนทั่วไปรวมถึงผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์จะไม่มีฮอร์โมน hCG อยู่เลย เนื่องจากฮอร์โมน hCG เป็นฮอร์โมนที่เกิดจากเซลล์รกของทารก โดยสามารถตรวจพบได้ในปัสสาวะหลังจากเกิดการปฏิสนธิ 12-14 วัน ระดับฮอร์โมนจะมีค่าเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 3 วัน และจะขึ้นสูงสุดในช่วงสัปดาห์ที่ 8-11 ของการตั้งครรภ์ แต่ในกรณีที่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์ ร่างกายจะไม่มีค่าฮอร์โมน hCG อยู่เลยทำให้ไม่สามารถวัดค่าฮอร์โมน hCG ได้

ระดับฮอร์โมน hCG เท่าไหร่ถึงจะท้อง?
อย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้นว่าฮอร์โมน hCG จะถูกผลิตขึ้นมาหลังจากเกิดการปฏิสนธิประมาณ 12-14 วัน ซึ่งระดับฮอร์โมนนั้นจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก ๆ 3 วัน และจะขึ้นสูงสุดในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 8-11 และระดับจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นลดลง และคงที่ตลอดช่วงการตั้งครรภ์ หากกล่าวในเชิงทางการแพทย์ เมื่อฮอร์โมน hCG อยู่ในระดับมากกว่า 25 mlU/mL จะถือว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่

ข้อสรุป

hCG คือ ฮอร์โมนที่มีเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์เนื่องจากมีการผลิตจากรก จึงนับว่าเป็นฮอร์โมนที่สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ ซึ่งการตรวจค่า hCG ในร่างกายจะมีทั้งการตรวจด้วยปัสสาวะ และการตรวจด้วยเลือด โดยแต่ละวิธีก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจผลการตั้งครรภ์ควรเลือกวิธีตามความเหมาะสมกับตนเองเพื่อให้เกิดความสบายใจในระหว่างการตรวจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2022, 04:28:52 AM โดย เดซี่ คิม »