« เมื่อ: ตุลาคม 12, 2021, 03:35:03 AM »
จะสังเกตได้ว่าในปัจจุบัน เราสามารถหาความรู้และข้อมูลในเรื่องต่างๆได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินชีวิตที่มีนักเขียนชื่อดังคอยให้คำแนะนำและสติในการดำเนินชีวิตที่ทำให้เราค้นพบความสุขที่เรียบง่ายและยังช่วยให้เราค้นพบตัวเองได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงเรื่องราวที่เข้มข้นในเรื่องกฎหมายที่เราอาจจะมองข้าม แต่เป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตของเรามากๆ ยิ่งถ้าเรารู้กฎหมายมากเท่าไร เราก็จะทราบว่ามีสิ่งใดที่เราควรไม่กระทำในสิ่งนั้น ส่วนในเรื่องของการทำธุรกิจที่เราอาจจะยังไม่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในเรื่องกฎหมาย การมีที่ปรึกษาเพื่อที่จะได้ดำเนินการในเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจได้อย่างถูกต้อง
กฎหมายอะไรบ้างที่คนทำธุรกิจควรรู้และศึกษา นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จระดับโลกส่วนมากจะมีที่ปรึกษาที่ดีคอยให้คำแนะนำในเรื่องข้อกฎหมายอยู่เสมอ อย่าง Intellectual Property Law Thailand ที่จะคอย support และ consult ให้นักธุรกิจทุกท่านได้เข้าใจในเรื่องข้อกฎหมาย กฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจทั่วไป อย่างเช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ตามข้อมูลในเว็บไซต์ dip.go.th ที่เป็นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งกล่าวไว้ว่า การส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยเริ่มต้นมานานถึง 50 กว่าปีแล้ว ปัจจุบันการส่งเสริมการลงทุนอยู่ ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2560 เป็นกฎหมายหลักที่กำหนดในเรื่องการให้สิทธิและประโยชน์แก่ผู้ลงทุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ นักลงทุนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจของ ประเทศ โดยกฎหมายส่งเสริมการลงทุนให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ อันได้แก่ สิทธิและประโยชน์ที่เกี่ยวกับภาษีอากร และที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร ตลอดจนหลักประกันและความคุ้มครองให้กับนักลงทุน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุนเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลที่รับผิดชอบในด้านการดำเนินงานและชักจูงการลงทุน โดยการนำเสนอนโยบายการส่งเสริมการลงทุนให้แก่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ออกกฎ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนในการขอรับการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริม การลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น การบริหารงานภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนอยู่ในรูปแบบคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และประกอบด้วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ข้าราชการระดับสูง ตัวแทนจากองค์กรเอกชนชั้นนำและนักวิชาการ เป็นคณะกรรมการและที่ปรึกษา ส่วนงานประจำด้านดูแลกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนต่างๆ เป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน