วิธีกินยาคุม รักษาสิวปานกลางและสิวเห่อมาก เลือกยาคุมต่างกันหรือไม่

[อัญณา]

ยาคุมกำเนิดเป็นยาคุมปรับฮอร์โมนที่มีคุณสมบัติในการรักษาสิวได้ผล วิธีกินยาคุม ให้ออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดจะต้องกินยาอย่างสม่ำเสมอในเวลาเดียวกันทุกวัน และทานตามวิธีที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัดถึงจะได้ผลดีที่สุด และก่อนใช้ยาคุมเพื่อรักษาสิวควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้แนะนำตัวยาที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่สุด เพราะสิวระดับปานกลางและสิวเห่อมากจำเป็นต้องใช้ตัวยาแตกต่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงกับความต้องการ มาดูกันว่า ยาคุมช่วยลดสิวแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร
1.ยาปรับฮอร์โมนชนิด ee35c สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาสิวค่อนข้างมากและใช้ยาทาภายนอกแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำให้กินยาคุมกำเนิดช่วยปรับฮอร์โมนเพศหญิงให้สมดุล พร้อมกับยับยั้งฮอร์โมนเพศชายที่เป็นสาเหตุของปัญหาผิวมัน เป็นสิว และอาการขนดกในหญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยยาคุมชนิด ee35c มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงสุด พร้อมกับปรับลดฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจนที่สูงกว่าปกติ ทำให้เกิดปัญหาสิวและขนดกเป็นเรื่องกวนใจสาว ๆ เมื่อใช้ยาตัวนี้ต่อมไขมันจะลดการผลิตไขมันออกมา ทำให้ปัญหาสิวเห่อลดลง หน้าใสขึ้น ข้อควรระวังคือตัวยาชนิดนี้มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงซึ่งก่อผลข้างเคียงรุนแรง โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยกินยาคุมมาก่อน ในระยะแรกฮอร์โมนจะปรับเปลี่ยนเฉียบพลันทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ถ้ามีอาการแพ้ยา ควรเปลี่ยนไปใช้ตัวยาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำแทนจนกว่าร่างกายจะปรับตัวได้
2.ยาปรับฮอร์โมนชนิด ee20d และ ee30d เป็นตัวยาที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนระดับต่ำ โดย ee20d เป็นตัวยาคุมกำเนิดสำหรับคนที่เริ่มใช้ยาคุมกำเนิดเป็นครั้งแรกเนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำที่สุด ช่วยป้องกันอาการแพ้ยา ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากผลข้างเคียงของยาคุมปรับฮอร์โมนได้ ยาคุมกำเนิดทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวระดับปานกลาง เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการรักษาสิวหลังจากทายาแต้มสิวแล้วแต่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร วิธีกินยาคุม จะเข้ายับยั้งการผลิตไขมันที่มีสาเหตุจากฮอร์โมนเพศชายสูงเกินไป การใช้ยาคุมปรับฮอร์โมนจะต้องอาศัยเวลาพอสมควรกว่าที่ร่างกายจะปรับสมดุลได้ ควรรับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะเห็นผลเรื่องการลดปัญหาสิว ผิวมันและหนังศีรษะมัน
แม้ว่าสาว ๆ จะใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เป็นประจำอยู่แล้ว แต่การใช้ยาเพื่อปรับฮอร์โมนในการรักษาสิว จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพื่อให้พิจารณาว่าควรเลือกใช้ยาตัวไหนดี เพื่อให้การคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพมากที่สุด และมีผลให้การรักษาสิวได้ด้วย สำหรับสาว ๆ ที่มีโรคประจำตัวหรือแม่ให้นมบุตรที่ไม่สามารถใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมซึ่งมีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน จำเป็นต้องขอความเห็นจากแพทย์ให้สั่งยาและกำหนดวิธีกินยาที่ถูกต้อง ปลอดภัย พร้อมกับขอคำแนะนำว่าควรรักษาสิวด้วยวิธีอื่นใดแทนการใช้ ยาคุมช่วยรักษาสิว เพื่อให้เหมาะสมกับสุขภาพตนเองมากที่สุด