ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


จดทะเบียนบริษัท ต้องมีความพร้อม 3 ข้อ

เมื่อเกิดความคิดริเริ่มประกอบธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำให้จดทะเบียนบริษัทไว้ก่อน เพื่อช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบริษัทมีอายุการจัดตั้งนาน ๆ ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนดำเนินการจดทะเบียนเป็นบริษัทของตนเอง ต้องลองสำรวจดูก่อน ว่ามีความพร้อมดังต่อไปนี้มากน้อยเพียงใด
 
1.ค่าใช้จ่ายสำหรับจดทะเบียนบริษัท

อันดับแรกคือ “เงินลงทุนและค่าใช้จ่าย” เพื่อนำมาใช้ดำเนินการจดทะเบียนบริษัท ที่ต้องจ่ายให้กับกรมพัฒนาธุรกิจและการค้าในราคาประมาณ 10,000-15,000 บาท นอกจากนี้ ยังต้องจ่ายเงินค่าเช่าสำนักงาน ค่าจ้างพนักงาน ค่าจ้างทำบัญชีและค่าสอบบัญชี ค่าวัสดุสิ้นเปลืองสำนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

ส่วนทางด้านเงินลงทุนนั้น คนที่ต้องการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเป็นของตนเอง ต้องมีเงินสดเป็นเงินทุนหมุนเวียนเก็บเอาไว้ด้วย ซึ่งหากเงินเก็บไว้มีไม่เพียงพอ ก็จำเป็นต้องแปลงสินทรัพย์ที่ครอบครอง เพื่อนำมาเป็นเป็นทุน เช่นบ้าน รถ บัตรเครดิต เป็นต้น ทั้งหมดนี้ ถือเป็นความพร้อมข้อแรกที่ทุกคนต้องมี

2.ลำดับต่อมาก่อนเริ่มต้นจดทะเบียนบริษัทคือ “ความรู้และลูกค้า”

การจดทะเบียนบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด แต่การให้บริษัทอยู่อย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง ถือเป็นเรื่องที่ยากพอควร แต่ไม่ก็ไม่เกินความสามารถของคนอยู่ดี เพียงแค่ต้องอาศัยความรู้ในเรื่องภาษีบัญชีและความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจนั้น ๆ ประกอบด้วย นี่จึงนับเป็นอีกความพร้อมที่สามารถส่งเสริมให้ธุรกิจที่ทำอยู่ประสบความสำเร็จได้ ไม่วันนี้ก็วันข้างหน้า

ส่วน “ลูกค้า” ก็นับว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการจดทะเบียนบริษัท ที่ต้องมาก่อนความพร้อม มาก่อนความรู้ หรือมาก่อนค่าใช้จ่ายและเงินลงทุน ดังนั้น หากมีลูกค้าอยู่ในมือและมองเห็นอัตราเติบโตของธุรกิจในระยะยาวอยู่แล้ว การจดทะเบียนเป็นบริษัทนิติบุคคล ก็จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

3.สิ่งสุดท้ายที่ต้องคำนึงก่อนจดทะเบียนบริษัทคือ “ภาษี”

การเปรียบเทียบแค่จำนวนเงินภาษีบุคคลธรรมดากับบริษัท ไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจจดทะเบียนบริษัท เนื่องจากเป็นบริษัท จึงจำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับส่วนอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ ค่าจดทะเบียนสำหรับจัดตั้งบริษัท ค่าใช้จ่ายจริงในการประกอบกิจการ ค่าใช้จ่ายในการจัดทำบัญชี ค่าใช้จ่ายในการสอบบัญชี ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการด้านเอกสาร เป็นต้น
 
ค่าใช้จ่ายดังกล่าว ถือว่ามีความสำคัญมากต่อใครก็ตามที่คิดจะจดทะเบียนบริษัท ดังนั้น ตัวเลขของบริษัทที่จะนำไปเปรียบเทียบกับภาษีบุคคลธรรมดานั้น ต้องมีการบวกเพิ่มค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ครบถ้วนก่อน และเมื่อคำนวณออกมาแล้วพบว่า ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่ในปริมาณสูงพอสมควร ถึงจะพิจารณาจดทะเบียนเพื่อเปิดบริษัทเป็นของตนเองได้ โดยไม่เกิดปัญหา.