ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - สิริ พร

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7
51
มิเตอร์ไฟฟ้า ถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ทุกบ้านต้องมี ลองมาดู 8 เรื่องน่ารู้ของมิเตอร์ไฟฟ้า อาทิ มิเตอร์ไฟฟ้ามีกี่ขนาด และวิธีการเลือกขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าให้ถูกต้องตามจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับบ้านคุณ

ประเภทของมิเตอร์ไฟฟ้า
มิเตอร์ไฟฟ้า มีหลายประเภทด้วยกันดังต่อไปนี้
1. มิเตอร์ไฟสำหรับบ้านอยู่อาศัย
2. มิเตอร์ไฟสำหรับกิจการขนาดเล็ก
3. มิเตอร์ไฟสำหรับกิจการขนาดกลาง
4. มิเตอร์ไฟสำหรับกิจการขนาดใหญ่
5. มิเตอร์ไฟสำหรับกิจการเฉพาะอย่าง
6. มิเตอร์ไฟสำหรับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
7. มิเตอร์ไฟสำหรับกิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร
8. มิเตอร์ไฟสำหรับผู้ใช้ไฟชั่วคราว


มิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับบ้านที่พักอาศัยมีขนาดไหนบ้าง
มิเตอร์ไฟฟ้ามีด้วยกันหลายขนาด โดยสามารถสังเกตได้จากตัวเลขในช่องบนมิเตอร์ เช่น 5(15) A หมายความว่า เป็นมิเตอร์ไฟขนาด 5 แอมป์ สามารถใช้ไฟได้มากถึง 15 แอมป์ ขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้า มีดังนี้
ขนาดมิเตอร์   ขนาดการใช้ไฟฟ้า
มิเตอร์ 5(15) เฟส 1   ไม่เกิน 10 แอมแปร์
มิเตอร์ 15(45) เฟส 1   11-30 แอมแปร์
มิเตอร์ 30(100) เฟส 1   31-75 แอมแปร์
มิเตอร์ 50(150) เฟส 1   76-100 แอมแปร์
มิเตอร์ 15(45) เฟส 3   ไม่เกิน 30 แอมแปร์
มิเตอร์ 30(100) เฟส 3   31-75 แอมแปร์
มิเตอร์ 50(150) เฟส 3   76-100 แอมแปร์
มิเตอร์ 200 เฟส 3   101-200 แอมแปร์
มิเตอร์ 400 เฟส 3   201-400 แอมแปร์


รู้จักตัวเลขบนมิเตอร์ไฟฟ้า

เลือกขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าให้เหมาะกับบ้าน
ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะสมในการใช้งานในบ้านเรือนทั่วไปนั้น จะต้องพิจารณาถึงจำนวนสมาชิกในบ้าน และจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งปัจจุบัน และในอนาคต
โดยสามารถคำนวณเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองว่าบ้านของเราเหมาะกับขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าเท่าไหร่ โดยนำกำลังไฟฟ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น (วัตต์) ซึ่งสามารถดูได้จากฉลากบนเครื่องใช้ไฟฟ้า หารด้วยความต่างศักย์ (โวลต์) และคูณด้วยจำนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น และนำกระไฟฟ้าทั้งหมดมาบวกรวมกัน และคูณด้วย 1.25 (ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคต) ยกตัวอย่างเช่น

1. พัดลมตั้งพื้น 75 วัตต์ จำนวน 2 ตัว คิดเป็นกระแสไฟฟ้า (75 ÷ 220) x 2 = 0.68 แอมแปร์
2. หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ 36 วัตต์ จำนวน 6 หลอด คิดเป็นกระแสไฟฟ้า (36 ÷ 220) x 6 = 0.98 แอมแปร์
3. เครื่องปรับอากาศ 1,000 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 1,000 ÷ 220 = 4.54 แอมแปร์
4. หม้อหุงข้าว 500 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 500 ÷ 220 = 2.27 แอมแปร์
5. เตารีด 430 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 430 ÷ 220 = 1.95 แอมแปร์
6. โทรทัศน์ 43 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 43 ÷ 220 = 0.2 แอมแปร์
7. ตู้เย็น 70 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 70 ÷ 220 = 0.32 แอมแปร์

กระแสไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดรวมกันจะเท่ากับ 10.94 แอมป์ เมื่อนำมาคูณกับ 1.25 จะได้ประมาณ 13.68 แอมแปร์ ถือว่ายังสามารถใช้ขนาดเมิเตอร์ 5(15) ได้เนื่องจากยังไม่เกิน 15 แอมแปร์ และปกติเราจะไม่ได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อม ๆ กันอยู่แล้ว แต่หากเผื่อในอนาคตจะพบว่า มิเตอร์ไฟฟ้าอาจมีขนาดไม่เพียงพอ โดยเฉพาะหากต้องการติดเครื่องปรับอากาศเพิ่มอีก 1 ตัว ต้องเปลี่ยนมิเตอร์ให้เป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย เพื่อความปลอดภัย


ผู้ที่จะขอใช้ไฟฟ้ามีดังนี้

1. เจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของสถานที่ใช้ไฟฟ้า
2. ผู้ขอใช้ไฟฟ้ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ใช้ไฟฟ้า
3. ผู้เช่า หรือผู้เช่าซื้อสถานที่ใช้ไฟฟ้า
4. ผู้ประกอบการในสถานที่ใช้ไฟฟ้า
เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าจะเป็นผู้ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า
เอกสารที่ผู้ขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าต้องนำมาแสดง
ผู้ขอใช้ไฟฟ้าเตรียมเอกสารดังนี้ เพื่อใช้ยื่นประกอบคำร้องขอใช้ไฟฟ้ากับการไฟฟ้า

หลักฐานการขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่
1. สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอติดตั้งการใช้ไฟฟ้า และสำเนาทะเบียนบ้านที่อยู่ปัจจุบัน
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3. สัญญาซื้อขาย (กรณีซื้อขายบ้าน), สัญญาเช่า (กรณีเช่าบ้าน)
4. หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีเจ้าของบ้านไม่มาดำเนินการ)
5. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
6. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านผู้ให้เช่า
7. ใบยินยอมผ่านที่หรือใบยินยอมในกรณีต่าง ๆ (กรณีผ่านที่ดินผู้อื่น), สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านขอผู้ยินยอม
8. ใบเสร็จค่าไฟฟ้าข้างเคียงของเสาที่จะติดตั้งมิเตอร์ (ถ้ามี)


ขั้นตอนการขอใช้ไฟฟ้า

1. หลังจากได้รับคำร้องขอใช้ไฟฟ้า พร้อมเอกสารประกอบครบถ้วนแล้ว เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะเข้าไปตรวจสอบการเดินสายไฟในอาคาร หากยังไม่เดินสายไฟฟ้าให้เดินสายให้เรียบร้อยแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
2. เมื่อตรวจสอบการเดินสายไฟฟ้าแล้วพบว่ามีการเดินสายไฟที่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ขอใช้ไฟฟ้าชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แต่ถ้าการเดินสายไฟไม่ถูกต้อง ไม่ปลอดภัยก็จะแจ้งให้ดำเนินการแก้ไข และตรวจสอบอีกครั้ง โดยค่าธรรมเนียมนั้นการไฟฟ้าจะกำหนดไว้ตามประเภทและขนาดของมิเตอร์ที่ขอติดตั้ง
3. ผู้ขอใช้ไฟฟ้าชำระค่าธรรมเนียมและรับใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน



บริหารจัดการอาคาร: มิเตอร์ไฟฟ้ากับ 8 เรื่องน่ารู้ แบบไหนเหมาะกับบ้านคุณ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

52
เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส พบได้บ่อยในคนทุกวัย พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ พบได้ประปรายตลอดปี

เนื่องจากโรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายและระบาดได้รวดเร็ว จึงนิยมเรียกว่า โรคตาแดงระบาด ซึ่งมักพบระบาดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงธันวาคม โดยอาจพบระบาดภายในบ้าน ตามหมู่บ้าน โรงเรียน โรงงาน ที่ทำงาน ค่ายทหาร เป็นต้น

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด ที่พบบ่อยที่สุด คือ กลุ่มไวรัสอะดิโน (adenovirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิดย่อย ๆ

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 3 และ 7) ทำให้มีไข้และการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับคอหอย เรียกว่า ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ (pharyngoconjunctival fever) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ (เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า สบู่ ขันน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ เป็นต้น) ที่แปดเปื้อนเชื้อ และยังอาจติดต่อแบบเดียวกับคอหอยอักเสบ (ไอ จาม หรือสัมผัสถูกสิ่งคัดหลั่งในช่องปากของผู้ป่วย) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 8, 19 และ 37) ทำให้มีการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับกระจกตา และมีลักษณะระบาดได้รวดเร็ว เรียกว่า เยื่อตาขาวและกระจกตาอักเสบชนิดระบาด (epidemic keratoconjunctivitis/EKC) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ และอาจติดต่อจากการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน (จากผู้ป่วยที่ลงเล่นน้ำ) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

นอกจากนี้ยังมีไวรัสอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคนี้ คือ กลุ่มไวรัสพิคอร์นา (picornavirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ ไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 (enterovirus type 70) และไวรัสค็อกแซกกีเอชนิด 24 (coxsackie virus A type 24) ทำให้เยื่อตาขาวอักเสบร่วมกับเลือดออกใต้เยื่อตาขาว เรียกว่า "Acute hemorrhagic conjunctivitis" ซึ่งพบระบาดได้เช่นกัน ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงหรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ มีระยะฟักตัว 1-2 วัน


อาการ

มีอาการตาแดง เคืองตาคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล มีขี้ตาเล็กน้อย อาจมีอาการหนังตาบวม ลืมตาไม่ค่อยขึ้น

ในรายที่เป็นคอหอยอักเสบร่วมด้วย (ซึ่งพบใน "ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ") จะมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย

ในรายที่มีการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย หากเป็นรุนแรงมักมีอาการปวดตาและสายตาพร่ามัว

อาการตาแดงตาอักเสบมักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงลามมาอีกข้างหนึ่งภายใน 2-3 วัน

ส่วนมากอาการมักจะค่อย ๆ ทุเลาลง และหายขาดภายใน 1-3 สัปดาห์

เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส
เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส
 

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ เช่น มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนหรือสายตาพร่ามัว (มองเห็นไม่ชัด) เนื่องจากกระจกตาอักเสบ ซึ่งอาจเป็นนานเป็นสัปดาห์ ๆ ถึงเป็นแรมปี

บางรายอาจมีรอยแผลเป็นที่เยื่อตาขาว หรือการติดกันของเยื่อตาขาวกับลูกตา (symblepharon)

ในรายที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 อาจทำให้เกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน มีอาการแขนขาอ่อนแรงได้ ซึ่งพบได้น้อยมาก มักพบในคนอายุมากกว่า 20 ปี หลังตาอักเสบ 5 วันถึง 6 สัปดาห์


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

สิ่งตรวจพบที่สำคัญ ได้แก่ อาการตาแดง หนังตาบวม ต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูโต ซึ่งจะเริ่มเป็นข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปอีกข้าง

บางรายอาจตรวจพบไข้ (38-40 องศาเซลเซียส) คอหอยแดงเล็กน้อย

บางรายอาจพบมีเลือดออกเป็นจุดเล็ก ๆ จุดใหญ่ ๆ หรือเป็นปื้นแดงที่ใต้เยื่อตาขาว

ในรายที่วินิจฉัยไม่ได้แน่ชัด แพทย์อาจนำของเหลวที่ตา (น้ำตา ขี้ตา) ไปตรวจหาเชื้อ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้พาราเซตามอลแก้ปวดลดไข้ ประคบตาด้วยความเย็น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดตา เป็นต้น

ถ้ามีอาการเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาวันละ 3-4 ครั้งเพื่อบรรเทาอาการ

ในรายที่พบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน (ซึ่งพบได้น้อย) แพทย์จะใช้ยาป้ายตาหรือหยอดตาที่เข้ายาปฏิชีวนะ ทุก 2-4 ชั่วโมง

มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง ซึ่งจักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์หรือยาต้านไวรัส อาทิ

    ในรายที่มีการอักเสบของเยื่อตาขาวอย่างรุนแรง หรือมีการอักเสบของกระจกตาจนทำให้สายตามัวลงอย่างมาก จักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาจทำให้โรคเริมที่แฝงอยู่กำเริบได้
    ในรายที่ตรวจพบว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริม จักษุแพทย์จะให้ยาหยอดตาที่มีตัวยาต้านไวรัส (เช่น อะไซโคลเวียร์)

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง ผู้ป่วยจะมีอาการมากอยู่นานไม่เกิน 1 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ ทุเลาและหายขาดได้ภายใน 1-3 สัปดาห์โดยการรักษาตามอาการ ไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะและยาต้านไวรัส มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง หรือมีภาวะแทรกซ้อน

การดูแลตนเอง

เมื่อมั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ให้การรักษาตามอาการ เช่น

- ถ้ามีอาการปวดตาหรือมีไข้ กินพาราเซตามอล*

- ถ้ารู้สึกเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา วันละ 3-4 ครั้ง

    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามตรากตรำงานหนัก หรือออกกำลังหักโหมเกินไป
    งดใช้คอนแท็กต์เลนส์จนกว่าจะหายดี
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา อาจทำให้ติดเชื้อไวรัสที่มือแล้วแพร่ให้คนอื่น และอาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเนื่องจากมือที่ไม่สะอาด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เพราะอาจมีตัวยาที่ไม่ปลอดภัยหรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
    เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อให้ผู้อื่น ผู้ป่วยควรแยกตัวไม่นอนหรืออยู่ใกล้คนอื่น, ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ และสิ่งของเครื่องใช้อื่น ๆ ร่วมกับผู้อื่น, ควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ (เพื่อกำจัดเชื้อที่อาจติดที่มือ), ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำตาหรือขี้ตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด และควรหยุดเรียนหรือหยุดงาน พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่เข้าไปในที่ที่มีคนแออัด และไม่ลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการหายดีแล้ว


ควรไปพบแพทย์/กลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลรักษาด้วยตนเองแต่แรก
    มีอาการปวดตารุนแรง ขี้ตาแฉะ มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว หรือมีอาการตาพร่ามัว
    มีอาการแขนขาอ่อนแรง
    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1 สัปดาห์   
    มีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา เช่น ลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม หายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ หายใจลำบาก เวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเดิน ถ่ายอุจจาระดำ คลื่นไส้ อาเจียน ดีซ่าน (ตาเหลือง) จุดแดงจ้ำเขียว เป็นต้น

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว คอนแทคเลนส์ แว่นตา หมอน แก้วน้ำ จาน ชาม สบู่ ขันน้ำ โทรศัพท์ เป็นต้น) ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา
    ในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ และการเข้าไปในที่ที่มีคนแออัด

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อย และหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ ส่วนในรายที่มีกระจกตาอักเสบร่วมด้วยก็มักจะไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น แผลกระจกตา) แต่อาจเป็นกระจกตาอักเสบแบบเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม ถ้าแพทย์ให้การรักษาแล้วอาการไม่หายดีใน 3 สัปดาห์ หรือมีอาการปวดตารุนแรง หรือตาพร่ามัวมากขึ้น ก็ควรปรึกษาจักษุแพทย์

2. เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัสบางชนิด อาจเกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน ทำให้มีอาการแขนขาอ่อนแรง แม้ว่าพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคตาแดงระบาด (จากไวรัส) ควรสังเกตอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด หากสงสัยควรไปพบแพทย์โดยเร็ว



โรคเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส (Viral conjunctivitis) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

53
การจัดฟันมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งได้แก่ การฟันแบบโลหะทั่วไป ที่สวมใส่เหล็กจัดฟัน การจัดฟันแบบใส ที่มองเห็นเครื่องมือได้ยาก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้ารับการรักษา ทั้งยังทำให้คนอื่นมองไม่ออกเลยว่าคุณกำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดฟันแบบรวดเร็วที่ช่วยลดระยะเวลาการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบเฉพาะ โดยการจัดฟันในปัจจุบันถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะการจัดฟันจะช่วยลดปัญหาฟันในกรณีต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันล้ม หรือฟันไม่สบกัน ซึ่งรูปแบบของการจัดฟันก็จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลและการพิจารณาของทันตแพทย์ด้วย ผู้ที่ต้องการจัดฟันจะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดฟันอย่างละเอียด


โดยมองทั้งข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงวิธีการดูแลรักษาระหว่างที่จัดฟัน เพื่อที่จะได้ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การจัดฟันมีด้วยกันหลายรูปแบบอย่างที่บอกไปข้างต้น แต่ก็มียังการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งถือว่ามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา ทำให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือ การจัดฟันแบบ In-Ovation R ซึ่งวันนี้ทางคลินิก เราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบ In-Ovation R เผื่อใครอาจจะยังไม่เคยได้ยิน และต้องบอกว่า พิเศษสุดๆ เพราะทางคลินิกของเรามีโปรโมชั่น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 59,000บาท จากปกติราคา 69,000 บาท สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำในการจัดฟันได้ที่คลินิกของเรา ทางเราทีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญยินดีให้คำปรึกษา

สำหรับการจัดฟันแบบ In-Ovation R เป็นการจัดฟันที่ใช้เครื่องมือจะมีหน้าต่างที่สามารถเลื่อนขึ้นลงได้เพื่อล็อคลวดแทนการมัดด้วยยาง เช่นเดียวกับระบบดาม่อน ส่งผลให้ฟันเกิดการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องได้ดีกว่าระบบธรรมดา และยัง ใช้แรงเคลื่อนตัวน้อยกว่า ทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกเจ็บน้อยกว่าและใช้เวลาจัดเร็วกว่าระบบธรรมดาอีกด้วย โดยการจัดฟันแบบ In-Ovation R มีข้อดีคือ การจัดฟันจะได้ผลสำเร็จมากที่สุด จบการรักษาเร็วกว่าและได้ผลการรักษาที่แน่นอน


ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเจ็บน้อยกว่า รวมไปถึงช่วยลดโอกาสในการถอนฟัน และที่สำคัญก็คือ เครื่องมือในการจัดฟัน จะเป็น Bracket ที่ถูกออกแบบมาให้มีความบางที่สุด ซึ่งผลดีคือช่วยลดโอกาสในการเกิดแผลภายในช่องปากมากขึ้น เนื่องจากตัว Bracket ไม่ไปเสียดสีกับอวัยวะในบริเวณช่องปากมากนัก และไม่เกิดปฏิกิริยาลบต่อร่างกายด้วย  เห็นมั้ยว่า การจัดฟันแบบ In-Ovation R มีข้อดีมากมาย และยังช่วยลดโอกาสการสูญเสียฟัน เนื่องจากการถอนฟันได้อีกด้วย ทั้งยัง ช่วยเสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษาให้สามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบใด ก็สามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ผู้เข้ารับการรักษาควรจะได้รับการตรวจการสบฟันจากทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา ซึ่งหลายคนก็มีคำถามว่า ควรเริ่มจัดฟันตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ต้องบอกก่อนว่า การจัดฟันส่วนใหญ่ มักจะเริ่มทำในเด็กมีฟันแท้ขึ้นเกือบครบ คืออายุประมาณ 11-13 ปี อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาการสบฟันบางอย่างสามารถทำได้ในช่วงฟันแท้ขึ้นผสมกับฟันน้ำนมได้ เพื่อให้ลุกน้อยมีฟันที่สวยงามตั้งแต่เนิ่นๆเลยทีเดียว


ดังนั้น หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบ In-Ovation R สามารถเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญได้ที่คลินิกได้ เพราะทางเรามีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการทันตกรรมอย่างครบวงจร และนอกจากนี้ ทางคลินิกยังมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบ In-Ovation R โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่  59,000บาท จากปกติราคา 69,000 บาท พิเศษสุดๆ สำหรับผู้ที่อยากมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี หากใครสนใจก็สามารถเข้ามาขอรับคำแนะนำได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่



การจัดฟันแบบ In-Ovation R คืออะไร อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

54
ฮอนด้า Honda CR-V e:HEV RS 4WD ปี 2023
HONDA CR-V e:HEV RS 4WD สปอร์ตพรีเมียม เจเนอเรชันที่ 6 โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม แตกต่างกันในแต่ละรุ่น เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ภายในเบาะหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ประตูแบบอัจฉริยะ Honda Smart Key Card

 
เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที พร้อม 3 โหมดขับขี่ ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)


โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)

รายละเอียดเบื้องต้น
แบรนด์          Honda
รุ่น               ฮอนด้า Honda CR-V e:HEV RS 4WD ปี 2023
ประเภทรถ      รถอเนกประสงค์ SUV, รถไฮบริด
ปีที่เปิดตัว      2023
ราคา            1,729,000 บาท


ดีไซน์
   
ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (RS)
สเกิร์ต (RS)
ล้อแม็ก (19 นิ้ว)
ประตูระบบไฟฟ้า (ประตูท้าย Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
สปอยเลอร์หลัง (RS)
สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค (RS)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว (พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ)
ไฟตัดหมอก (หน้าและด้านหลัง LED)
ไฟหน้าส่องสว่างอัตโนมัติ (เปิด-ปิด อัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB))
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
ไฟ Daytime Running Lights (LED)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential)
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (อัตโนมัตอพร้อมปรับตั้งหน่วงเวลา)
ไฟหน้า LED (ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์ พร้อมไฟส่องขณะเลี้ยว)
ไฟท้าย LED
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (เปิด-ปิด ไฟฟ้า)
ชุดท่อไอเสีย (ท่อไอเสียคู่)
   

ภายใน

เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ระบบจดจำปรับที่นั่งคนขับ (2 ตำแหน่ง)
ตกแต่งภายใน (พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ แบบ TFT 10.2 นิ้ว)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (4 ทิศทาง ปรับใกล้-ไกลได้)
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (ECON+NORMAL+SPORT)
อุปกรณ์วัดความเร็วสะท้อนกระจก Head Up Display
ระบบฟอกอากาศในตัวรถ (AIR BALANCE package) (Plasmacluster)

สเปค
   
เครื่องยนต์                     2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 148 แรงม้า แรงบิด 183 นิวตันเมตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 338 นิวตัน-เมตร กำลังรวมทั้ง 2 ระบบ 207 แรงม้า (PS)

ขนาดเครื่องยนต์ (CC)      1,993 CC
กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)   207 แรงม้า
ระบบเกียร์                     เกียร์อัตโนมัติ
รูปแบบเกียร์                   E-CVT
ระบบเบรค ABS              มี (พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD)
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง      เบนซิน 95, เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน E20, เบนซิน E85
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)       N/A
ระบบจ่ายน้ำมัน                Direct Injection
น้ำหนักตัวรถ   
ประเภทยางรถยนต์
ขนาดล้อ (นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน               ขับเคลื่อนสี่ล้อ

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค
สัญญาณกันขโมย
กุญแจรีโมท
กุญแจนิรภัย
ล็อคประตูอัตโนมัติ
ไฟเบรกดวงที่ 3
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ
เข็มขัดนิรภัย
พวงมาลัยยุบตัวได้
กระจกนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
อื่นๆ
เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio
เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ


tokyo motor show 2024: ฮอนด้า Honda CR-V e:HEV RS 4WD ปี 2023 อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/tokyomotorshow/

55
เชื่อว่าหลายๆคนคงอาจจะเคยนอนกัดฟัน หรือ มีคนรอบข้างนอนกัดฟัน เสียงดังสนั่นในตอนกลางคืน และหลายๆคนก็อาจจะปล่อยให้ตัวเองหรือคนรอบข้างนอนกัดฟัน โดยที่ไม่ได้ใส่ใจในการรักษาหรือแก้ไข เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมชาตินั่นเอง แต่อันที่จริงแล้ว การนอนกัดฟัน นอกจากจะสร้างความรำคานรบกวนการนอนหลับที่สนิทให้กับผู้ที่ต้องนอนร่วมด้วยแล้ว ยังสร้างผลเสียมากมายเกี่ยวกับฟัน และสุขภาพช่องปากของผู้ที่นอนกัดฟันอีกด้วย เหตุนี้เองการนอนกัดฟันจึงไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ แต่เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข

ซึ่งในวันนี้ทางด้านของ Clinic อยากจะมาเล่าถึงสาเหตุ ผลเสีย และวิธีการแก้ไขเบื้องต้น ให้คุณผู้อ่านได้รับทราบและนำไปแก้ไข ด้วยความเป็นห่วงจากเรา โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

นอนกัดฟันคืออะไร ?

การที่เราหรือคนรอบข้างเรานั้นนอนกัดฟัน เกิดจากการทำงานนอกหน้าที่ หรือการทำงานที่ผิดปกติของระบบบดเคี้ยวในขณะนอนหลับ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้ในการบดเคี้ยวหดตัวผิดปกติในขณะหลับ ทำให้เกิดการกัดฟัน แพทย์ยังถือว่าการนอนกัดฟันนั้นคืออาการผิดปกติในขณะนอนหลับอย่างหนึ่ง

 

รู้ได้อย่างไรว่าเรานอนกัดฟัน ?

– คนรอบข้างอาจจะบอกว่าเรานอนกัดฟันในเวลากลางคืน แต่ในบางคนมีลักษณะนอนกัดฟันแบบกัดแน่น ไม่บดไปมา ก็จะทำให้ไม่เกิดเสียงในขณะนอนกัดฟัน

– ให้สังเกตตัวเองว่าในขณะตื่นนอนทุกครั้งมีอาการปวดเมื่อย หรือรู้สึกตึงๆที่แก้ม หน้าหูหรือไม่

– ถ้าหากไปหาทันตแพทย์ ก็อาจจะสามารถวินิจฉัยได้จากการดูที่ฟันสึกผิดปกติไม่สมกับอายุ หรือมีรอยหยักตามแนวสบฟันชัดเจน หรือบางทีทันตแพทย์อาจจะใช้เครื่องมือในการทดสอบร่วมด้วยเพื่อให้แน่ใจมากขึ้น

 

สาเหตุของการนอนกัดฟัน ?

– ในเด็ก

การนอนกัดฟันในเด็ก บางทีอาจจะเป็นเรื่องธรรมชาติ เนื่องจากว่าเด็กเล็กที่กำลังมีฟันกรามงอกขึ้นมาในช่องปาก จะมีความสันนูน จึงเป็นเหตุให้ถูกกระทบได้ก่อนฟันส่วนอื่น ซึ่งการนอนกัดฟันในเด็กนั้นไม่นานจะหายไปเองเมื่อ ฟันส่วนบดเคี้ยวสึกกร่อนเข้าที่ตามธรรมชาติแล้ว

– อุดฟัน

ต้องบอกเลยว่าร่างกายเรา โดยเฉพาะช่องปากสามารถรับรู้ความเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ดีหากทำการสังเกต สาเหตุที่เกิดการนอนกัดฟันที่มักพบได้บ่อยๆมักเกิดจากคนไข้ที่ทำการอุดฟันมาใหม่ๆ ซึ่งระดับชั้นการเรียงตัวของฟันอาจจะมีความเหลื่อมล้ำเล็กน้อย ในเวลานอนจึงอาจทำให้เกิดการนอนกัดฟันในซี่ที่ทำการอุดมานั้นเอง

– ความผิดปกติของขากรรไกร

ผู้ที่มีความผิดปกติของขากรรไกรส่วนใหญ่จะมีการนอนกัดฟัน เนื่องจากในเวลานอนขากรรไกรอาจจะขยับตัวตามธรรมชาติเลื่อนมาชิดกัน ทำให้เกิดการสบกันได้ง่ายกว่าผู้ที่มีขากรรไกรปกติ

 

ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการนอนกัดฟัน ?

ผลเสียที่เกิดขึ้นชัดเจนน่าจะเป็นความรำคานของคนรอบข้างที่ต้องนอนร่วมด้วย แต่ที่แน่ๆสำหรับผู้ที่นอนกัดฟันนั้น ส่งผลเสียโดยตรงต่อฟัน คือ ฟันด้านบดเคี้ยวจะมีการสึกกร่อน ความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับการนอนกัดฟันที่ถี่บ่อยขนาดไหน

ทุกครั้งที่นอนกัดฟัน กล้ามเนื้อที่ใบหน้าจะออกแรงมากพร้อมกับการบดเคี้ยวของฟันที่กระทบกัน โดยปกติอาหารจะเป็นตัวกลางคั่นในการถูกกระทบ แต่ในขณะที่นอนหลับไม่มีตัวกลางคั่นจึงทำให้เกิดการกระทบกันอย่างรุนแรง จึงเป็นเหตุที่ทำให้ฟันสึกลงได้อย่างง่าย และหากว่าไม่รีบรักษาจะทำให้ฟันค่อยๆสึกจนถึงชั้นในเนื้อฟัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการเสียวฟันตามมาอีกด้วย

 
วิธีแก้ไขและป้องกันการนอนกัดฟัน ?

– การป้องกันที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือ สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงในช่องปาก หากพบว่าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง แปลกไปจากเดินภายในช่องปาก แม้เรื่องเล็กน้อย ก็ควรพบทันตแพทย์และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในช่องปาก แค่นั้นก็สามารถป้องกันการนอนกัดฟันที่อาจเกิดขึ้นได้

– รับประทานอาหารที่ไม่อ่อนเกินไปบ่อยๆ เพราะ ฟันจะไม่ถูกกร่อนอย่างพอดี ให้พยายามรับประทานของที่มีความแข็งบ้าง แต่ไม่แข็งจนเกินไป และให้ใช้การบดเคี้ยวทั้ง 2 ข้าง เท่านี้ฟันบดเคี้ยวก็จะสึกกร่อนอย่างพอเหมาะ

– สุดท้ายหากว่าลองใช้วิธีต่างๆแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่านอนกัดฟันอยู่ ให้ทำการเข้าพบทันตแพทย์ เพราะ การนอนกัดฟันนั้นทันตแพทย์จะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ จะมีนวัตกรรมมากมายที่ช่วยไม่ให้นอนกัดฟัน เช่น ยางกัดฟัน ไว้ใส่ตอนนอนเพื่อป้องกันการกัดฟันได้นั่นเอง


จัดฟันบางนา: วิธีแก้ไข “นอนกัดฟัน” ตัวร้ายทำลายฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

56
การกลั้นอุจจาระบ่อย อาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย และทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น ท้องผูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ ริดสีดวงทวาร ภาวะอุจจาระตกค้าง ลำไส้อุดตัน 
   
หากรู้สึกว่าตนเองมีปัญหาในการขับถ่าย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านระบบทางเดินอาหารและตับ เพื่อทำการวินิจฉัยและป้องกันโรค และทำการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
   
นอกจากการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้แล้ว เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้เราสามารถตรวจยีนมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นการตรวจแบบเฉพาะเจาะจง ที่จะช่วยป้องกันและรู้ทันมะเร็งลำไส้จากพันธุกรรมได้ 

การกลั้นอุจจาระ อาจเป็นพฤติกรรมที่หลายคนทำเป็นปกติ เนื่องด้วยการดำเนินชีวิต ที่ไม่เอื้อต่อการเข้าห้องน้ำ เมื่อปวดอุจจาระและมีความรีบเร่งในชีวิตประจำวัน ก็ทำให้กลั้นอุจจาระจนเคยชิน แต่ทราบหรือไม่ว่า การกลั้นอุจจาระ สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายและอาจก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้


กลั้นอุจจาระบ่อย ส่งผลเสียอะไรบ้าง?

การกลั้นอุจจาระ อาจส่งผลเสียต่าง ๆ ต่อร่างกาย ดังนี้

    ถ่ายอุจจาระไม่เป็นเวลา
    ท้องผูกเรื้อรัง การกลั้นอุจจาระ จะทำให้อุจจาระที่ค้างในลำไส้ มีการถูกดูดซึมน้ำกลับมากขึ้น กลายเป็นก้อนแข็ง ส่งผลให้ถ่ายลำบากมากขึ้นหรือที่เรียกว่า “ท้องผูก” อาการท้องผูกหากเป็นเรื้อรัง หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลด ถ่ายเป็นเลือด ท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง อาจเป็นอาการนำของโรคที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่
    ริดสีดวงทวาร สืบเนื่องจากการที่อุจจาระที่ตกค้างในลำไส้ ถูกดูดซึมน้ำกลับมากขึ้น ทำให้มีลักษณะแข็ง ในการถ่ายแต่ละครั้ง ต้องมีการใช้แรงเบ่ง ทำให้เส้นเลือดที่ทวารหนัก มีการโป่งพอง ก่อให้เกิดโรคริดสีดวงทวารและอาการปวดได้ หากมีการโป่งพองมาก และถูกครูดด้วยอุจจาระที่แข็งก็อาจทำให้มีการแตก และมีเลือดออกได้

อาการของริดสีดวงทวาร อาจเริ่มตั้งแต่ไม่มีอาการ มีก้อน มีอาการปวด ไปจนถึงมีเลือดออกมากได้

    ภาวะอุจจาระตกค้าง เกิดจากการอุจจาระไม่หมด อาจทำให้มีภาวะท้องผูกที่รุนแรงขึ้น แน่นท้อง แน่นลม คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ รับประทานอาหารได้น้อย นอนไม่หลับ
    ลำไส้อุดตัน หากอุจจาระไม่เป็นเวลา จนอุจจาระกลายเป็นก้อนแข็งสะสมกันนานเข้า อาจทำให้ไม่สามารถถ่ายออกมาได้ เกิดภาวะลำไส้อุดตัน ซึ่งอาจต้องทำการแก้ไขโดยการผ่าตัด

นอกจากนี้หากมีการกลั้นอุจจาระจนท้องผูก และต้องใช้ยาระบายบ่อย ๆ อาจเกิดภาวะลำไส้ดื้อยา ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยาไปเรื่อย ๆ
ดูแลตัวเอง เลิกนิสัยกลั้นอุจจาระ

จากผลเสียของการกลั้นอุจจาระดังที่กล่าวมาแล้ว แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการไม่กลั้นอุจจาระ และฝึกการขับถ่ายให้เป็นกิจวัตร โดยการปฏิบัติตัว ดังนี้

    ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลาทุกวัน อาจเป็นเวลาเช้าหลังตื่นนอน หรือหลังอาหารเช้า เนื่องจากร่างกายมีกลไกตามธรรมชาติที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ หลังจากได้รับอาหารมื้อแรก เราสามารถอาศัยกลไกตามธรรมชาตินี้ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้
    ท่านั่งในการถ่ายอุจจาระ หากนั่งบนชักโครก ควรโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย มีที่วางเท้าเพื่อช่วยเสริมให้เท้าถึงพื้นหรือเข่างอเล็กน้อย คล้ายท่านั่งยอง
    รับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้ หากมีอาการท้องผูก อาจเสริมอาหารที่มีโปรไบโอติก เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต ชาหมัก เป็นต้น
    ดื่มน้ำให้พอเพียง การรับประทานน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด การดื่มน้ำช่วยให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้น สุขภาพดี และช่วยเรื่องระบบกระเพาะปัสสาวะ ระบบย่อยอาหาร กระตุ้นระบบการขับถ่ายป้องกันนิ่วและท้องผูก
    ออกกำลังกาย เมื่อเราออกกำลังกาย ขยับตัวเป็นประจำ จะช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนไหว ระบบต่างๆ ในร่างกายเกิดการยืดหยุ่น สร้างความแข็งแรงต่อกล้ามเนื้อ ช่วยสร้างและรักษาภาวะสมดุลของร่างกาย ควบคุมน้ำหนัก
    ไม่กลั้นอุจจาระ เมื่อมีอาการปวดควรขับถ่ายตามเวลา ฝึกการเข้าห้องน้ำให้เป็นสุขนิสัยติดตัว เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองในระยะยาว
    หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่าย ควรปรึกษาแพทย์ไม่ควรปล่อยไว้ จนอาการของโรคเรื้อรัง เพราะอาจจะส่งผลกระทบจนทำลายการใช้ชีวิตประจำวันได้ รวมถึงอาจจะเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ตามมา
    การกลั้นอุจจาระ แม้อาจจะดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ หากรู้สึกว่าตนเองเริ่มมีปัญหาในการขับถ่าย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวินิจฉัยและป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นได้

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ถ้าระบบการขับถ่ายผิดปกติ อาจจะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับสุขภาพลำไส้ตามมา ได้แก่  ริดสีดวงทวารหนัก แผลปริที่ขอบทวารหนัก ลำไส้อักเสบเรื้อรัง มะเร็งลำไส้ ฯลฯ

ดังนั้นหากระบบทางเดินอาหารมีปัญหา หรือขาดสมดุล  ร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้ปกติ ส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้า ขาดสมาธิ สุดท้ายอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้

เช็กความผิดปกติของตัวเองว่า มีปัญหาในเรื่องขับถ่ายหรือไม่?

    ลักษณะของอุจจาระมีการเปลี่ยนแปลง
    รู้สึกถ่ายไม่ออก ถ่ายไม่สุดนานติดต่อกันกว่าหนึ่งเดือน
    อาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
    ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหารและตับ เพื่อตรวจคัดกรอง และติดตามอาการเพื่อการป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ

การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่

ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยผ่านทางกล้อง เช่น NBI (Narrow Band Image) EMR (Endoscopic Mucosal Resection) และ Endobrain (เป็นprogram AI) ที่ช่วยประเมินความเสี่ยงของติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ ซึ่งในการตรวจคัดกรองนั้น มีดังนี้

    สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป (โดยไม่ต้องรอให้มีอาการ)
    หากตรวจพบ มะเร็งลำไส้และทวารหนักได้ตั้งแต่ระยะแรก แพทย์จะสามารถประเมินผล เพื่อวางแผนในการรักษาต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
    การตรวจคัดกรองและรีบดำเนินการรักษา จะสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้


ตรวจยีนมะเร็งลำไส้ใหญ่

ผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ประมาณ 5% เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งได้รับยีนที่ผิดปกติมาจากบิดาหรือมารดา

ปัจจุบันมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ชนิดที่พบบ่อยแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่

    Familial adenomatous polyposis (FAP)
    Hereditary nonpolyposis colorectal cancer (HNPCC)

Familial adenomatous polyposis (FAP)
เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบประมาณ 0.5-1% ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากกลายพันธุ์ของยีน APC tumor suppressor gene โดยผู้ป่วยจะเริ่มมีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นและมากกว่า 99% จะพัฒนาเป็นมะเร็งในช่วงอายุก่อน 40 ปี

Hereditary Nonpolyposis Colorectal Cancer (HNPCC) หรือ Lynch Syndrome
เป็นโรคทางพันธุกรรม เช่นเดียวกับ FAP แต่พบได้บ่อยกว่า คือ ประมาณ 3-5% ของผู้ที่เป็นมะเร็ง โรคนี้เกิดจากยีน MLH1, MSH2, MSH6 และ PMS2 ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรหัสพันธุกรรมเกิดการกลายพันธุ์ ปกติแล้วโรคนี้ตลอดช่วงชีวิต มีโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้สูงถึง 80% 
อายุเฉลี่ยของการเกิดมะเร็งลำไส้อยู่ที่ประมาณ 40-50 ปี อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อื่นๆ ได้อีก เช่น มดลูก กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ตับอ่อน ไต และท่อทางเดินปัสสาวะ


การแพทย์แบบเฉพาะเจาะจง (Precision Medicine) ช่วยป้องกันและรู้ทันมะเร็งลำไส้จากพันธุกรรม

โรงพยาบาลสมิติเวช ผู้นำด้านการแพทย์แบบเจาะจง (Precision Medicine) มีการพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจยีนขั้นสูง ในการดูแลสุขภาพเชิงรุกโดยค้นหารหัสพันธุกรรมที่ผิดปกติในร่างกาย มีการนำมาใช้แพร่หลายในกลุ่มโรคมะเร็ง ซึ่งมีประโยชน์สำหรับ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่ต้องการทราบว่ามียีนผิดปกติ ที่อาจส่งต่อลูกหลานได้ในอนาคตหรือไม่

ญาติสายตรงของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่ต้องการทราบว่าในร่างกายของตนเอง มียีนผิดปกติที่ถ่ายทอดมาจากบิดามารดาหรือไม่ การตรวจยีนมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะช่วยให้แพทย์ด้านโรคทางพันธุกรรมหาแนวทางป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต แบบเฉพาะบุคคล เช่น วางแผนแนะนำอายุที่เหมาะสมที่ควรเริ่มรับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (คนทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยงด้านพันธุกรรม จะเริ่มส่องกล้องที่อายุ 45 ปีขึ้นไป) วางแผนครอบครัว เตรียมตัวตั้งครรภ์ รวมถึงการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ห่างไกลจากโรคมะเร็ง

    ครอบครัวที่มีประวัติเป็นมะเร็งชนิด FAP แนะนำญาติสายตรงที่ต้องการตรวจยีน สามารถเริ่มตรวจได้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป
    ครอบครัวที่มีประวัติเป็นมะเร็งชนิด HNPCC แนะนำญาติสายตรงที่ต้องการตรวจยีน สามารถเริ่มตรวจได้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป
    สำหรับผู้ที่สุขภาพดี อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ที่ต้องการทราบว่า มียีนผิดปกติที่อาจได้รับการถ่ายทอดมาจากบิดามารดาหรือไม่ ยีนมะเร็งจากพันธุกรรมนั้นอาจจะแสดงออกหรือไม่ก็ได้ในช่วงชีวิตหนึ่ง ขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละคน พ่อหรือแม่ของเราอาจมียีนมะเร็ง แต่ไม่แสดงออก ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการตรวจยีนมะเร็งลำไส้ใหญ่ และรับคำปรึกษาโดยแพทย์ด้านพันธุกรรมที่จะให้คำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล ผลการตรวจจะช่วยนำมาวางแผนการรักษาโรคที่จำเพาะเจาะจง

สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง Targeted Therapy จะเป็นการรักษาอย่างตรงจุด ผลข้างเคียงน้อย สามารถใช้ได้ในผู้สูงอายุที่ไม่แข็งแรงพอที่จะรับยาเคมีบำบัด ประสิทธิภาพในการรักษาสูงถึง 80% เมื่อเทียบกับการให้เคมีบำบัดที่ได้ผลประมาณ 30%


วิธีการตรวจ และการเตรียมตัวเพื่อเข้ารับการตรวจ

หลังจากที่ได้รับคำแนะนำให้ตรวจยีนมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่ถ่ายทอดจากพันธุกรรมจากแพทย์ มีรายละเอียดการตรวจ ดังนี้

    สามารถเข้ารับการตรวจได้ทันที โดยไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
    การตรวจยีนทำโดยการเจาะเลือด และอ่านรหัสพันธุกรรมจากดีเอ็นเอในเม็ดเลือดขาว ใช้เวลารอผลประมาณ 2-4 สัปดาห์
    หลังจากนั้นผู้เข้ารับบริการ จะได้รับการประเมินผลตรวจวินิจฉัย โดยแพทย์ด้านโรคทางพันธุกรรมเพื่อเข้าสู่กระบวนการให้คำแนะนำทางพันธุศาสตร์ต่อไป
    หากท่านเพิ่งได้รับเลือดมาจากบุคคลอื่นๆ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 เดือน หรือขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์


อันตราย! กลั้นอุจจาระ เสี่ยงริดสีดวง-โรคมะเร็งลำไส้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/109

57
เคยมั้ย นั่งทำงานอยู่ดีดี แล้วเกิดง่วงขึ้นมาจนหาวไม่หยุด หรือหนักเข้า ก็แทบจะเอาหัวโขกโต๊ะเลยทีเดียว หลายคนคงเคยง่วงนอนในที่ทำงานกันบ้างละ จนต้องหาสารพัด วิธีแก้ง่วง มาช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้น และวันนี้ก็มีวิธีแก้ง่วง ในที่ทำงาน มาฝากชาวออฟฟิศ กัน



ทำไมเราถึงง่วงนอนในที่ทำงาน

การที่เราง่วงนอนใช่วงกลางวัน ซึ่งมักเป็นเวลาทำงานของคนส่วนใหญ่นั้น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น…

• นอนไม่เป็นเวลา ทำให้ปรับนาฬิการวน เมลาโทนิน สารก่อให้เกิดความง่วงที่ทำงานตามเวลากลางวันกลางคืน ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้คุณนอนไม่หลับในตอนกลางคืน และรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนในเวลากลางวัน

• นอนหลับไม่เพียงพอ ความต้องการในการนอนหลับของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่เวลาโดยเฉลี่ยที่ร่างกายต้องการสำหรับการพักผ่อนอย่างเพียงพอต่อ 1 คืน คือราว 8 ชั่วโมงครึ่ง แต่บางคนอาจต้องการนอนมาก หรือน้อย หรือมากกว่านั้น จึงจะไม่ทำให้รู้สึกง่วง

• เป็นโรคที่เกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคลมหลับ และโรคนอนไม่หลับ ซึ่งทำให้มีปัญหาในการนอนหลับ และเกิดความง่วงระหว่างวันได้ง่าย

• โรคประจำตัวบางชนิด สามารถรบกวนการนอนหลับ จนส่งผลให้เกิดความง่วงในระหว่างวันได้ เช่น โรคหืด ภาวะหัวใจล้มเหลว ข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น

• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถรบกวนการนอนหลับในเวลากลางคืนได้ และทำให้เกิดความง่วงในระหว่างวัน

• เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ และเครื่องดื่มชูกำลัง การบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเพื่อแก้ง่วง อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้การนอนของคุณผิดปกติ และลดคุณภาพในการนอนหลับลงจนทำให้คุณง่วงนอนระหว่างวันได้


วิธีแก้ง่วง ในที่ทำงาน

ง่วงแต่นอนไม่ได้ หรือไม่ควรนอน เราจึงต้องใช้ วิธีแก้ง่วง เหล่านี้มาช่วยลดความอยากหลับลง

1. ลุกขึ้นเดินเปลี่ยนอิริยาบถ
การเดินสามารถเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายให้สูงขึ้น และลดอาการอ่อนล้าได้ ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าสู่สมอง หลอดเลือดและกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นการช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและสดชื่นขึ้น

2. ให้หูทำงานเพิ่มขึ้น
การฟังเพลงขณะทำงาน จะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มสมาธิได้อีกด้วย ลองพิจารณาดูสิว่า เพลงประเภทไหน หรือเพลงของศิลปินคนไหน ที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นตัว และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งเพลงที่มีผลเช่นนี้ จะแตกต่างออกไปในแต่ละคน และแม้แต่ในคนเดียวกัน ก็อาจชอบเพลงต่างกัน ขึ้นอยู่กับงานที่กำลังทำงานอยู่ได้ด้วย

3. พักสายตาบ้าง
วิธีพักสายตาที่ดีที่สุด ก็คือการเดินไปที่หน้าต่าง และมองออกไปด้านนอกไกลๆ การละสายตาจากคอมพิวเตอร์บ้าง จะทำให้คุณลดปัญหาเรื่องอาการปวดศีรษะ ล้า และแสบตาน้อยลงได้ ดวงตาของคุณจะรู้สึกสบายขึ้น และการมองภาพวิวภายนอก จะทำให้คุณรู้สึกสบายตา และสบายใจขึ้นด้วย

วิธีแก้ง่วง

4. ยกแขนขึ้นยืดเส้นยืดสาย
การนั่งติดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันจะทำให้เกิดอาการปวดคอ จนอาจรู้สึกว่าคอแข็ง ขยับคอได้ลำบาก การยืดเส้นยืดสายร่างกายเสียบ้าง จะช่วยทำให้ร่างกายไม่เหน็ดเหนื่อยหรืออ่อนล้ามากเกินไป โดยคุณอาจค่อย ๆ ยกไหล่ขึ้นลง เพื่อลดอาการไหล่แข็งเกร็ง ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่โต๊ะทำงานของคุณเอง

5. ดื่มน้ำมาก ๆ
เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ จะทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลียและง่วงนอน การดื่มน้ำมาก ๆ และกินอาหารที่มีน้ำอยู่ในปริมาณมาก เช่น ผัก และผลไม้ จะช่วยลดความอ่อนเพลียเหล่านี้ลงได้

6. กินขนมขบเคี้ยว (ที่มีประโยชน์)
การกินอาหารมื้อใหญ่ อาจทำให้คุณรู้สึกง่วงนอน การลดปริมาณอาหารของมื้อหลักให้น้อยลง และกินขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์มากขึ้น จะทำให้เกิดพลังงานในร่างกายอย่างเพียงพอ และไม่มีพลังงานส่วนเกินที่จะมาทำให้ง่วงนอน

7. เอาน้ำเย็นเข้าช่วย
เมื่อรู้สึกง่วง การใช้น้ำเย็นล้างหน้า และดื่มน้ำเย็น เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลบความง่วงออกที่ได้ผลดีที่สุด และคุณควรดื่มน้ำตลอดทั้งวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะจะทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้พลังงานในร่างกายเพิ่มขึ้น และยังทำให้สมองของคุณสดชื่น คิดเรื่องงานและแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างฉับไวขึ้นด้วย

8. ปรับสภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อม หรือความสว่างในห้อง ก็มีผลต่อความง่วงของคุณเช่นกัน ในห้องที่มีแสงไฟสลัว จะทำให้คนรู้สึกง่วง และอ่อนเพลียได้ง่าย หากคุณไม่อยากเอะอะก็ง่วงนอนแล้วละก็ ให้ลองปรับสภาพโต๊ะทำงาน หรือเพิ่มแสงในห้องทำงานของคุณให้สว่างขึ้นกว่าเดิมดีกว่านะ

9. งีบหลับแก้ง่วง
ถ้าง่วงมากนักก็หลับไปเลย การงีบหลับครั้งละ 5-25 นาที สามารถช่วยคลายง่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว แต่ต้องเลือกช่วงเวลาในการงับหลับให้ดี เช่น ช่วงพักเบรก หรือพักเที่ยง อย่าไปหลับในเวลางานให้โดนตำหนิเสียละ อ้อ และต้องทำให้แน่ใจด้วยว่า คุณจะตื่นขึ้นมาทันเวลาทำงานนะ

“9 วิธีแก้ง่วง” ในที่ทำงาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

58
สันติ บึงหนองโคตร-ขอนแก่น (Santi Nong Kod Lake-Khon Kaen)
ราคา : เริ่มต้น 1,990,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
บ้านแฝดแนวคิดใหม่ สไตล์ Minimal Japanese แห่งแรกในขอนแก่น ทุกหลังมีสวนในบ้าน Peace ได้สัมผัสกับธรรมชาติ อารมณ์บ้านเดี่ยว Privacy ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แนวคิดที่ทันสมัย Passion สอดรับกับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ : สันติ บึงหนองโคตร-ขอนแก่น (Santi Nong Kod Lake-Khon Kaen)
ดูบ้านราคาใกล้เคียง  ดู สันติ ขอนแก่น ทุกโครงการ 
เจ้าของโครงการ : สันติ ขอนแก่น
ราคา : เริ่มต้น 1,990,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)
 
ประเภทบ้าน : บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
ลักษณะทำเล : บ้านพักตากอากาศ
พื้นที่โครงการ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนบ้าน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
แบบบ้านทั้งหมด : 2 แบบ
เนื้อที่บ้าน : ตั้งแต่ 22.5 ถึง 35 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนชั้น : ตั้งแต่ 114 ถึง 134 ชั้น
หน้ากว้าง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนห้องนอน : ไม่เกิน 3 ห้อง
จำนวนที่จอดรถ : ไม่เกิน 2 คัน
สาธารณูปโภค : สวนสาธารณะ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV
ขนส่งสาธารณะ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
Big C ขอนแก่น
ตลาดต้นตาล
Central ขอนแก่น
ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ม.ขอนแก่น
รพ.กรุงเทพขอนแก่น.
รพ.ขอนแก่นราม
 
โซน : ขอนแก่น
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น 40000


ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม: สันติ บึงหนองโคตร-ขอนแก่น (Santi Nong Kod Lake-Khon Kaen) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/house/townhouse-townhome/

59
รถรับจ้างเขตคลองเตย ให้ความรู้สู่โลกอนาคต อนาคตในภายภาคหน้าที่ไม่ไกลเกินเอื้อมให้บริการรถรับจ้างขนของที่รับจ้างขนย้ายสินค้าทุกชนิด แบบไร้คนขับด้วยเทคโนโลยีแห่งใหม่ในอนาคตที่ ขนส่งรถรับจ้างย้ายของ พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกคนแล้วจะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของทุกๆคนในช่วงทศวรรษที่กำลังจะมาถึงทั้งนี้การขนย้ายสิ่งของทุกชนิดทางเรามิอาจจะสามารถปฏิเสธได้และจำเป็นที่จะต้องมีการขนย้ายอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะต้อง ขนย้ายบ้านคลองเตยกรุงเทพ นนทบุรี และต่างจังหวัด หรือต้องการย้ายถิ่นฐาน ขนย้ายสำนักงานขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายอพาร์ทเม้นท์และขนย้ายสัตว์เลี้ยงต่างๆซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นคนที่ควบคุมในการขับขี่สิ่งของนั้นเอง


ดังนั้นก็คงไม่แปลกว่าถ้าให้บริการรถรับจ้างขนของแบบไร้ขนค่ะก็จะเอื้ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าทุกๆท่านและเพื่อป้องกันการเกิดสิ่งต่างๆหรืออาจจะมีผลกระทบทางความรู้สึกของลูกค้านั่นเองค่ะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะเป็นระบบการทำงานของนวัตกรรมในอนาคตเมื่อมีการออกแบบมาก็จะสามารถควบคุมการขับขี่แบบอัตโนมัติได้ไม่ว่าจะขนย้ายของจากใต้ไปเหนือจากเหนือมาพักกลางจะพากันไปภาคอีสานก็สามารถที่จะควบคุมได้ง่ายและมีระบบหลีกเลี่ยงกันชนด้วยระบบนี้ก็จะเป็นการช่วยจอดหรือระบบควบคุมการขับขี่ในช่องทางจราจรต่างๆและจะมีเซ็นเซอร์เหมือนรถอื่นๆทั่วไปอยู่รอบคันเพื่อป้องกันและตรวจสอบวัตถุที่อยู่ระยะใกล้นั่นเองค่ะดังนั้นเมื่อมีรถรับจ้างหรือรถไร้คนขับขึ้นมาก็จะสามารถสร้างความปลอดภัยตามท้องถนนได้เป็นอย่างดีและไม่เกิดอันตรายไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วยค่ะดังนั้นนับว่าเป็นผลดีต่อการที่จะมีรถรับจ้างขนของแบบไร้คนขับนั่นเองค่ะ


เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการตอบสนอง ทางทีมงานขนส่งจะทำการสืบหาข้อมูลเพื่อนำมาแชร์ให้กับทุกคนได้รับทราบโดยทั่วกัน ทีมงานรถรับจ้างขนของเขตคลองเตยยังให้บริการ 6ล้อรับจ้างคลองเตยขนส่ง ส่งของ ย้ายบ้านคลองเตย ขนย้ายทั่วไปในโซนกรุงเทพมหานคร เขตคลองเตยเป็นย่านเศรษฐกิจ และแหล่งขนของ เพราะผู้ประกอบการ ทั้งในด้านพ่อค้าแม่ค้า ต่างติดต่อเข้ามาใช้บริการ รถขนของคลองเตยกันอย่างมาก และนักศึกษาย่านนี้ก็เช่นกัน เมื่อมีการปิดเทอม หรือย้ายหอเก่า ไปอยู่หอใหม่ด็จะติดต่อรับรับจ้างคลองเตยมาทำหน้าที่ในการขนของ ย้ายของ จำพวก ขนย้ายห้องเช่า ห้องพัก ที่มีทั้ง มอเตอร์ไซต์ กล่องเสื้อผ้า เครื่องซักผ้า ขนย้ายตู้เย็น ขนย้ายเครื่องครัว ขนย้ายที่นอน ก็จะใช้บริการทีมงานขนส่งโดยแท้จริง เราคือผู้รับจ้างเจ้าเก่า เจ้าเดิมของคลองเตยหรือต้องการจะขนย้ายต่างพื้นที่เรามีบริการขนส่งเช่นกัน เพียงเข้ามาติดต่อ ขอรายละเอียด ขอราคาค่าบริการ พร้อมจะให้ความสะดวก ด้วยระคาสุดประหยัด และรับขนย้ายภายใน ในราคาน่ารัก พร้อมคนยก


แต่ในอนาคตที่กำลังจะมาถึงรถก็จะไร้คนขับซึ่งเป็นนวัตกรรมล้ำสมัยที่จะปรากฏที่เป็นภาพและจินตนาการนั้นออกมาทั้งหลายๆเรื่องจนเราก็คิดคาดหวังไว้ว่ารถนั้นจะไร้คนขับแน่นอนอารมณ์ก็เหมือนกับโลกที่เปลี่ยนแปลงโทรศัพท์ให้เป็นสมาร์ทโฟนใช้ง่ายใช้คล่องใช้สะดวกนั่นเองก็เปรียบเสมือนรถรับจ้างที่ไร้คนขับที่จะสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการ รถรับจ้างคลองเตยขนส่งรับขนของขนย้ายพร้อมให้ข้อมูลอีกด้วยว่าออกแบบมาเพื่อประหยัดเวลาของคน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดตามท้องถนนแบบบ่อยครั้งจึงทำให้คนนั้นเสียชีวิตที่มากมาย


ดังนั้นเมื่อได้ใช้บริการรถรับจ้างขนของแบบและคนขับทุกท่านก็ไม่ต้องกังวลว่าพนักงานคนขับรถสามารถขับขี่ได้ดีหรือไม่ถ้าเราจะมีการเซ็ตระบบนวัตกรรมโดยใช้โปรแกรมระบบคอมพิวเตอร์เป็นการควบคุมตนเองและจะไม่เกิดอันตรายเพราะสื่อเทคโนโลยีสมัยนี้มีพัฒนาการที่ดีและเร็วกว่าสิ่งอื่นใดถ้าอย่างไรก็ตามจำพวกนวัตกรรมพวกรถไร้คนขับนี้ที่มีการพูดถึงมากขึ้นเมื่อสื่อโซเชี่ยวมีความให้สนใจเป็นอย่างมากทางด้านเทคโนโลยีและได้ตัดสินใจที่จะพัฒนารถยนต์ไร้คนขับนั่นเองค่ะ



รถรับจ้าง เขตคลองเตย ซื่อตรง ตรงต่อเวลา ราคาประหยัด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

60
ของตกแต่งบ้านนั้นถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของบ้านเลยทีเดียว ถ้าของประดับตกแต่งมีความงดงามสวยหรือมีราคาย่อมเป็นที่นิยมชมชอบของผู้ที่มาเยือนและได้พบเห็น แต่ในยุคนี้ที่พื้นอยู่อาศัยนั้นคับแคบและถูกจำกัดมากคงจะดีกว่ากันเยอะ ถ้าหากว่าของประดับตกแต่งแต่ละชิ้นที่มีอยู่ในบ้านนั้น จะมีประโยชน์ด้านการใช้งานที่หลากหลายได้ด้วย หากชิ้นเดียวปรับเปลี่ยนให้ใช้งานได้มากเท่าไหร่ เราก็จะรู้สึกคุ้มค่ากับราคาและพื้นที่การใช้สอยได้มากเท่านั้น


1. เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่นคืออะไร?

คือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวที่สามารถปรับเปลี่ยนใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

เตียงนอนที่มีลิ้นชักเก็บของอยู่ข้างใต้
    ชั้นวางของที่ดึงออกมาใช้เป็นโต๊ะได้
    ตู้เก็บของที่ปรับให้เป็นโต๊ะวางของได้
    โซฟาที่ปรับให้เป็นเตียงนอนได้
    ตู้เก็บหนังสือที่เลื่อนได้ เพิ่มพื้นใช้สอยยามต้องการให้กว้างขึ้น


2. ประโยชน์ของเฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชัน

ช่วยลดจำนวนของเฟอร์นิเจอร์ให้น้อยลงเพราะมีของเพียงชิ้นเดียวก็สามารถทำงานได้หลายหลากลดพื้นที่การใช้สอยไม่จำเป็นต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์หลายๆ ชิ้น และถึงแม้ว่าไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ก็ไม่เกะกะเพราะเป็นส่วนหนึ่งในของตกแต่งบ้านได้ในตัวอยู่แล้ว ไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ ทำให้ดูแลทำความสะอาดง่าย สามารถใช้ไอเดียในการแต่งบ้านได้อย่างอิสระและสนุกได้ไม่รู้จบ ซึ่งตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่มาก


3. เคล็บลับการใช้งานของตกแต่งแบบมัลติฟังก์ชั่น

ส่วนใหญ่จะเป็นการดึงออกมา พับเก็บได้ และซ่อนเอาไว้ เวลาต้องการใช้เราก็ดึงออกมาพร้อมที่จะใช้งานได้ทันทีเพียงไม่กี่ขั้นตอน เมื่อใช้งานเสร็จก็พับเก็บเข้าที่เดิม หรือบางอย่างก็ซ่อนเอาไว้ อย่างเช่น ฝาตู้ในยามปกติที่เมื่อกางออกมาก็กลายเป็นโต๊ะเอนกประสงค์ ซึ่งยามปกติก็ไม่รู้เลยว่ามีอยู่จนกว่าจะเอาออกมาใช้งานให้ได้เห็นกัน


4. ซื้อชิ้นเดียวคุ้มค่าทั้งราคาและการใช้งาน


ตอนออกสู้ตลาดใหม่ๆ เฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชันราคาค่อนข้างสูง แต่ทุกวันนี้การแข่งขันของตลาดมีมากขึ้นส่งผลให้เกิดการแข่งขัน ราคาเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จึงค่อยปรับตัวลง  ดีมีไซน์ที่สวยงามแปลกตาน่าใช้เพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญคือสามารถใช้งานได้มากกว่า 2 คุณประโยชน์เลยล่ะ มีติดบ้านไว้ดูไฮเทคสุดๆ


บ้านสวยโคราช: เลือกของตกแต่งบ้านแบบมัลติฟังก์ชัน ดีอย่างไร  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/

61
จะจัดงานปาร์ตี้แบบไหนดีนะให้โดนใจแขก?  คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ ซึ่งกำลังมีแพลนเป็นเจ้าภาพงานปาร์ตี้ ไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือเล็ก เพราะรูปแบบการจัดปาร์ตี้ หรืองานเลี้ยงนั้น สามารถทำได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความเหมาะสม และโอกาสด้วย ว่าจัดเนื่องขึ้นในโอกาสใด โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่เต็มไปด้วยเทศกาลรื่นเริง หรือแม้แต่การนัดเพื่อนสังสรรค์สุดสัปดาห์ ก็ถือว่าเป็นการจัดปาร์ตี้ขนาดย่อม ยิ่งในปัจจุบันมักจะมีการวางแนวคิดธีมงานหลากหลาย คงไม่ดีแน่ ๆ หากเปรียบเทียบกับงานอื่น ๆ แล้วงานเรากลับจืดชืด ดังนั้นว่าที่เจ้าภาพตามผึ้งมาดูกันดีกว่าค่ะว่างานเลี้ยงหรือปาร์ตี้นั้น สามารถจัดรูปแบบใดได้บ้าง


โต๊ะจีน
รูปแบบงานปาร์ตี้สุดคลาสสิคที่เราคุ้นชินตา บางคนอาจมีความเชื่อว่าจะจัดโต๊ะจีนได้ต้องเป็นงานขนาดใหญ่เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วงานเลี้ยงโต๊ะจีนสมัยนี้สามารถจัดได้ตั้งแต่ 5 โต๊ะ ขึ้นไป เหมาะกับงานที่เชิญญาติ ๆ เยอะ และเป็นแขกที่มากันเป็นครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ การจัดงานเลี้ยงแบบนี้มีข้อดีคือมั่นใจได้ว่ายังไงแขกก็อิ่มหนำสำราญแน่นอน เพราะอาหารในชุดโต๊ะจีนก็มีร่วม 8-12 จานตามมาตรฐาน  เหมาะกับงานเลี้ยงจำพวก งานบุญ, งานปาร์ตี้ขึ้นบ้านใหม่, งานเลี้ยงวันเกิด, งานเลี้ยงครบรอบ เป็นต้น


บุฟเฟ่ต์
การจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ถือว่าเป็นแนวทางการจัดเลี้ยงในบ้านยอดฮิตเลยทีเดียว อย่างถ้าใครเคยดูซีรี่ส์ฝรั่งบ่อยครั้งจะพบกับภาพปาร์ตี้ในบ้าน ที่เต็มไปด้วยอาหารให้แขกในงานได้เดินตักกันเองชอบใจ แต่การจัดบุฟเฟ่ต์เองก็มีความเสี่ยงในการคำนวนปริมาณอาหาร เพราะมือใหม่อาจไม่คุ้นเคย และอาจต้องหันไปพึ่งบริการแคทเทอริ่ง โดยรวมแล้วงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์เหมาะกับปาร์ตี้ที่มีผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก หรือหากพาเด็กเล็กมาก็ต้องเป็นส่วนน้อย สามารถควบคุมดูแลไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้ เช่น ปาร์ตี้วันเกิดของผู้ใหญ่, งานสังสรรค์ทั่วไปในบ้าน เป็นต้น


ค็อกเทล
เป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงที่สนุกสนานไม่น้อย เพราะมีเอกลักษณ์ตรงที่อาหารภายในงานจะมาแบบเล็ก ๆ สามารถถือรับประทานและเดินพูดคุยได้ จึงทำให้งานเลี้ยงรูปแบบนี้เหมาะสมมากกับการจัดงานที่มีลักษณะเชิญผู้คนมาเพื่อพบปะกัน เช่น งานสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อน, ปาร์ตี้จับฉลากปีใหม่, งานประกาศแสดงความยินดีต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนั้นงานเลี้ยงค็อกเทลยังเหมาะกับปาร์ตี้ที่มีเด็ก ๆ เป็นจำนวนมากด้วยค่ะ เพราะเด็ก ๆ มักอยู่ไม่เป็นที่ทาง เดี๋ยวกิน เดี๋ยวเล่น วิ่งไปมา และไม่ค่อยอยากรับประทานอาหารติดโต๊ะ ดังนั้นถ้าใครนึกอยากจัดปาร์ตี้ปีใหม่ให้เจ้าตัวเล็ก หรือปาร์ตี้วันเกิด ก็ต้องเป็นรูปแบบนี้นี่แหละ ยิ่งมีคานาเป้ รวมไปจนถึงอาหารว่างแบบทอด ๆ ให้ถือรับประทานได้ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอะไรที่โดนใจแขกตัวน้อยสุด ๆ


ซิตดาวน์ดินเนอร์
เป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงที่หรูหราและเป็นทางการ ซึ่งที่นั่งจะตกแต่งไว้อย่างสวยงามดูเป็นระเบียบแบบแผนไปหมด งานเลี้ยงแบบนี้เป็นอะไรที่ดูมีสไตล์มาก ๆ หากคุณต้องการรับรองแขกที่ค่อนข้างวีไอพี และต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ เช่น งานฉลองเลื่อนตำแหน่ง, งานเจรจาธุรกิจ ซึ่งอาจเชิญคู่ค้าเข้ามารับประทานอาหารที่บ้าน, งานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ ที่กลุ่มแขกในงานค่อนข้างมีความสำคัญต่อหน้าที่การงาน เป็นต้น ส่วนอาหารก็จะมีความน่ารับประทานและเน้นการทำแบบสดใหม่พร้อมเสิร์ฟทันที ส่วนใหญ่เมนูจะเป็นแบบ Fine dining งานเลี้ยงลักษณะมีลำดับขั้นตอนพิธีการต่าง ๆ ที่อยากให้แขกได้มีส่วนร่วมกับเจ้าภาพตลอดทั้งงาน เพราะแขกไม่ต้องเดินไปตักอาหารเอง จึงทำให้ภาพรวมของงานดูเป็นระเบียบเรียบร้อย


ดินเนอร์
คำว่า Dinner ก็คือการรับประทานอาหารมื้อเย็นธรรมดา ๆ นั่นเอง แต่มีความพิเศษตรงที่จากมื้อเย็นธรรมดาที่มีแต่คนในครอบครัวก็อาจมีคนพิเศษเข้ามาเป็นส่วนร่วมด้วย ข้อดีของงานปาร์ตี้แบบนี้คือค่อนข้างอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมาะกับงานเลี้ยงสังสรรค์ภายในบ้าน, งานปาร์ตี้ตามเทศกาลต่าง ๆ เช่น ปาร์ตี้คริสมาสต์, วันขอบคุณพระเจ้า, ฉลองรับปริญญา หรือแม้แต่งานรวมญาติเพื่อปาร์ตี้มื้อพิเศษสุดสัปดาห์ เป็นต้น




สไตล์การจัดเลี้ยง จัดเลี้ยงนอกสถานที่ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับปาร์ตี้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

62
เด็กหลายคนมักจะต้องเคยเข้ารับการถอนฟันน้ำนมตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งหลายคนอาจจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับการรักษาฟันที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะด้วยความเจ็บปวดที่จะต้องเจอในระหว่างการรักษา จึงทำให้เด็กๆอาจจะกลัวการเข้าพบทันตแพทย์ ทำให้ไม่อยากที่เข้ารับการตรวจฟัน และเมื่อปล่อยไว้เป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมามากมาย จนอาจจะรุนแรงถึงขั้นเกิดการสูญเสียฟันไปเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากปัญหาฟันเกิดมีความร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียฟันแล้ว ก็อาจจะเกิดปัญหาและผลกระทบต่อฟันบริเวณข้างเคียงได้ และส่งผลต่อฟันซี่อื่นๆ อาจจะทำให้เกิดอาการฟันล้ม ฟันห่าง ฟันซ้อนเกได้

       ดังนั้น การดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด นอกจากจะเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ยังสามารถทำให้เรามีบุคลิกภาพที่ดี มีรอยยิ้มที่สดใสได้ การจัดฟันในเด็ก ไม่แม้แต่เป็นการช่วยส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน แต่ยังช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าของเด็กให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ช่วยแก่ไขปัญหาในเรื่องของกระดูกขากรรไกรได้ด้วย เรียกว่า ได้ผลการรักษาที่มากกว่าการจัดฟันแน่นอน พ่อแม่ผู้ปกครอง หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า การจัดฟันในเด็กนั้นมีประโยชน์ต่อบุตรหลานของท่านอย่างไรบ้าง ซึ่งวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ว่าสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องใดได้บ้าง เพื่อที่จะได้ช่วยตัดสินใจในการพาบุตรหลานของท่านเข้ามารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาฟันในระยะยาวได้

 
ต้องอธิบายก่อนว่า ปัญหาของฟันในวัยเด็กนั้น ที่มักจะพบได้บ่อยก็คือ ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ ซึ่งการจัดฟันในเด็กสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้

       ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกตินั้น คือลักษณะฟันที่มีความเบี่ยงเบนไปจากปกติเท่านั้น ซึ่งอาจจะผิดปกติมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ดังนั้น การมีการสบฟันผิดปกติจึงไม่มีความจำเป็นต้องรักษาทุกกรณี ซึ่งผลของการสบฟันผิดปกติสามารถส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก อาจจะทำให้เกิด โรคฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ หรือส่งผลต่อสุขภาพทั่วไป เช่น ผลต่อระบบการบดเคี้ยวอาหาร ผลต่อข้อต่อขากรรไกร นอกจากนี้ การสบฟันผิดปกติยังมีผลต่อสภาวะจิตใจทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการเข้าสังคมได้ แต่ในวัยเด็กนั้น การสบฟันที่ผิดปกติ อาจจะก่อให้เกิดฟันผุได้ง่าย เพราะจะสามารถทำความสะอาดได้ยากและอาจจะส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร ในด้วยฟันของเด็กนั้น สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 7-15 ปี และสามารถรักษาได้อย่างเต็มที่และได้ผลดีกว่าการจัดฟันตอนโต ดังนั้น ในเรื่องของการสบฟันที่ผิดปกติในเด็ก ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก


       ต่อมาในเรื่องของฟันห่าง ฟันซ้อนเก ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน เพราะเครื่องมือการจัดฟันนั้น จะช่วยทำให้ฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมและที่ทันตแพทย์ได้วางแผนการรักษาเอาไว้ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องของฟันซ้อนเก ฟันห่าง การเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก ก็จะสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยไม่ต้องรอให้เข้าสู่ช่วงของวัยรุ่น แต่ในวัยเด็กนั้น

    พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจช่องปากและฟันกับทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อที่จะได้ตรวจช่องปากและฟันอย่างละเอียด ถ้าหากมีสัญญาณของปัญหาฟัน ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

       หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์ที่คลินิก ได้ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการรักษาอย่างถูกต้องเพื่อที่จะให้บุตรหลานของท่านมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และยังสามารถช่วยแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันได้ เพื่อที่จะได้ตระหนักถึงเรื่องของการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี

จัดฟันเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องใดได้บ้าง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

63
อุไรสิริ ไลท์ ดอนทอง x ประชาสุข (Uraisiri Lite Donthong x Prachasuk)
ราคา : เริ่มต้น 1,890,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
ทาวน์โฮมใจกลางทำเลเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน กับดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ที่เน้นการใช้งานและฟังก์ชันที่ลงตัว เราใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้คุณได้สร้างความสุขบนทุกพื้นที่ในบ้าน
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ : อุไรสิริ ไลท์ ดอนทอง x ประชาสุข (Uraisiri Lite Donthong x Prachasuk)
ดูบ้านราคาใกล้เคียง  ดู บ้านอุไรสิริ ฉะเชิงเทรา ทุกโครงการ 
เจ้าของโครงการ : บ้านอุไรสิริ ฉะเชิงเทรา
ราคา : เริ่มต้น 1,890,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

ประเภทบ้าน : ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
ลักษณะทำเล : บ้านพักตากอากาศ, บ้านลักษณะทำเลอื่น
พื้นที่โครงการ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนบ้าน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
แบบบ้านทั้งหมด : 2 แบบ
เนื้อที่บ้าน : 20 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย : 132.0 ตร.ม.
จำนวนชั้น : 2 ชั้น
หน้ากว้าง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนห้องนอน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนที่จอดรถ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
สาธารณูปโภค : รปภ., CCTV, Keycard System (ระบบ Easy Pass สะดวกเมื่อเข้า-ออก คัดกรองความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน)
ขนส่งสาธารณะ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
โรบินสัน สาขาฉะเชิงเทรา
บิ๊กซี ฉะเชิงเทรา
แม็คโคร สาขาฉะเชิงเทรา
ตะวันออก คอมเพล็กซ์
โฮมโปร ฉะเชิงเทรา
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ฉะเชิงเทรา
 
โซน : ฉะเชิงเทรา
ที่ตั้ง : ต.บางตีนเป็ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา


townhouse อุไรสิริ ไลท์ ดอนทอง x ประชาสุข (Uraisiri Lite Donthong x Prachasuk) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/house/townhouse-townhome/

64
กลุ่มโรคทางเดินหายใจในปัจจุบันนี้ พบมากพอๆกับ กลุ่มโรคหัวใจที่เป็นอันดับต้นของประเทศ โดยโลกนี้นั้นเกิดจากพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ที่สะสมเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้เกิดปัญหากับถุงลมในปอด ที่ไม่สามารถแลกการ์ดออกซิเจนได้ตามปกติ จึงทำให้ผู้ป่วยโรคนี้ทั่วไปนั้นมักจะมีอาการเหนื่อยหอบง่าย

โดยโรคนี้นั้นเป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการอักเสบและแตกของเนื้อปอดที่บริเวณถุงลมปอดเนื่องจากพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เนื้อปอดมีถุงลมเล็ก ๆ มากมายคล้ายพวงองุ่นนั้นยังรวมกับถุงลมที่อยู่ติดกันจนกลายเป็นถุงลมขนาดใหญ่หลายๆอันในปอด ทำให้มีพื้นผิวในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในปอดลดลงหรือมีอากาศค้างในปอดมากกว่าปกติ ซึ่งหากเกิดความผิดปกติมากขึ้นก็จะทำให้ผู้ป่วยถุงลมโป่งพองมีอาการผิดปกติ คือมีอาการหายใจตื้น

นอกจากนี้ อาการหลักๆของถุงลมโป่งพอง นั้นก็คือมีอาการหายใจตื้นและไอ และผู้ป่วยบางรายที่เป็นถุงลมโป่งพองมักไม่รู้ตัวว่าเป็นมานานแล้วหลายๆคนคิดว่าเป็นอาการไอ เหนื่อยทั่วไปจากการทำงานหรือเป็นหวัดไม่สบาย เพราะอาการจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป มักทำให้คิดว่าอาหารนั้นจะหายไปเองเหมือนอาการเป็นหวัดทุกครั้ง ทำให้ผู้ป่วยไม่สังเกตเห็นอาการใด ๆจากตนเองเลย นอกจากนั้นผู้ป่วยมักหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้หายใจตื้น ซึ่งอาการนี้ไม่ได้สร้างปัญหามากหากไม่ส่งผลกระทบหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน แต่หากมีอาการที่รุนแรงขึ้น จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจตื้นแม้ไม่ได้ทำกิจกรรมใด ๆเมื่อหากมีอาหารกำเริบ การดูแลผู้ป่วยด้วยอาหารนั้นไม่ได้เฉพาะเจาะจงมากนัก การให้อาหารได้เหมาะสมจะช่วยลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดและการหายใจดีขึ้น ซึ่งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน จะถูกเผาผลาญเพื่อให้เกิดพลังงาน พร้อมทั้งได้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำออกมา การกินคาร์โบไฮเดรตจะผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากที่สุด และการกินไขมันจะผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาน้อยที่สุด ซึ่งการกินอาหารที่มีไขมันสูงและคาร์โบไฮเดรตต่ำจะลดการผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ในผู้ป่วยได้ จะสามารถลดการทำงานที่หนักขึ้นของถุงลมได้ การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตที่กินเข้าไปทำให้ผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามาก ซึ่งทำให้ปอดต้องทำงานมากขึ้นในการขับออก ดังนั้นแนะนำให้กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและไขมันสูง โดยมีปริมาณโปรตีนที่เพียงพอ

จะมาแนะนำอาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคชนิดนี้ โดยหลักๆนั้นอาหารปั่นผสมมีหลักเพื่อให้ผู้ป่วยที่อาจไม่สามารถประทานอาหารเองได้ ไม่สามารถย่อยอาหารเองได้ หรือมีปัญหาการกลืน เคี้ยวได้ ซึ่งมีส่วนประกอบ ฟักทอง 100 กรัม กล้วย 100 กรัม เนื้อไก่บอด 100 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟองรวมทั้งไข่ขาวและไข่แดง ไข่ขาวอย่างเดียวครึ่งฟอง น้ำตาล 42 กรัม น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา นำทุกอย่างมารวมกัน เติมน้ำท่วมวัตถุดิบและปั่นจนละเอียด นำมากรองเอากากออก เท่านี้ก็จะสามารถได้อาหารปั่นผสมสำหรับผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

ในผู้ป่วยรายนี้นั้น หากไม่ได้คุมอาหารจะไม่ได้มีผลต่ออาการมากนัก จะไม่เหมือนโรคเรื้อรังไม่ติดต่อชนิดอื่น เนื่องด้วยอาการนั้นได้เกิดขึ้นที่ปอดผู้ป่วยชนิดนี้ไปแล้ว จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการทำกิจวัตรประจำวันที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นเหนื่อย ซึ่งแนวทางการรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไม่มีการรักษาที่แน่ชัด แต่อาการของโรคสามารถรักษาได้และชะลอความก้าวหน้าของโรคได้ เป้าหมายหลักของการจัดการโรคคือ การลดปัจจัยเสี่ยง เช่น การหยุดสูบบุหรี่ แต่บางสาเหตุก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ยังคงให้ความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยด้วยอาหารที่ดี สะอาด และปลอดภัย หากผู้ป่วยได้รับอาหารที่ดีทางเรามีความเชื่อว่าจะสามารถทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นได้ตามลำดับ มีความสุขมากขึ้น
 

อาหารสายยาง สำหรับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/อาหารทางสายยาง/

65
นิ่วท่อไต (นิ่วในท่อไต ก็เรียก) เป็นนิ่วขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในไตแล้วตกลงมาในท่อไต เป็นเหตุให้ท่อไตเกิดการบีบตัวเพื่อขับนิ่วออก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องรุนแรง เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในคนทั่วไป

สาเหตุ
นิ่วในท่อไต เป็นนิ่วขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในไตแล้วตกลงมาในท่อไต มีสาเหตุของการเกิดนิ่วแบบเดียวกับนิ่วในไต (ดู "โรคนิ่วไต")

อาการ
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องรุนแรง โดยมีลักษณะปวดบิดเป็นพัก ๆ ตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว นานเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ

ลักษณะเฉพาะของโรคนี้คือ จะมีอาการปวดร้าวไปที่หลังและต้นขาด้านใน (ปวดไปที่อัณฑะหรือช่องคลอดข้างเดียวกับท้องน้อยที่ปวด) ผู้ป่วยมักจะปวดจนดิ้นไปมา หรือใช้มือกดไว้จะรู้สึกดีขึ้น

บางรายอาจปวดมากจนมีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น ใจสั่นใจหวิว คลื่นไส้ อาเจียน

ผู้ป่วยจะไม่มีอาการขัดเบา ปัสสาวะมักจะใสเช่นปกติ ไม่ขุ่น ไม่แดง (ยกเว้นบางรายอาจมีปัสสาวะขุ่นแดง)

ภาวะแทรกซ้อน
ถ้านิ่วก้อนใหญ่หลุดออกเองไม่ได้ ทิ้งไว้อาจทำให้มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ และไตวายได้

การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

การตรวจร่างกายมักจะไม่พบสิ่งผิดปกติ บางรายอาจพบว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังมีอาการเกร็งตัว หรือมีอาการกดเจ็บเล็กน้อยตรงบริเวณที่ปวด

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจปัสสาวะ (พบว่ามีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ) และอาจทำการตรวจพิเศษ เช่น เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การใช้กล้องส่องตรวจท่อไต


การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยแล้ว แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

    ให้ยาบรรเทาปวด ได้แก่ ยาแอนติสปาสโมดิก ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์ชนิดกินหรือฉีด
    ในรายที่มีสาเหตุชัดเจน ก็จะให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น ให้ยารักษาโรคเกาต์ในรายที่เป็นโรคเกาต์
    แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตว่า เวลาถ่ายปัสสาวะมีก้อนนิ่วหลุดออกมาหรือไม่ และนัดมาดูอาการเป็นระยะ ถ้านิ่วก้อนเล็กอาจหลุดออกมาได้เอง 
    ถ้าก้อนใหญ่ก็จะทำการผ่าตัดเอานิ่วออก หรือใช้เครื่องสลายนิ่ว (extracorporeal shock wave lithotripsy/ESWL) หรือใช้กล้องส่อง (ureteroscope) สอดใส่ผ่านทางท่อปัสสาวะขึ้นไปตามท่อไต แล้วใช้เครื่องมือในการนำเอานิ่วออกมา หรือทำให้นิ่วแตกละเอียดแล้วหลุดออกมากับปัสสาวะ แพทย์อาจใส่หลอดลวดตาข่าย (stent) ถ่างขยายค้างไว้ในท่อไต เพื่อให้ปัสสาวะไหลออกได้สะดวก

ผลการรักษา เมื่อเอานิ่วออกมาได้ก็จะหายเป็นปกติ แต่บางรายอาจเกิดนิ่วก้อนใหม่ในเวลาต่อมาก็จะให้การรักษาใหม่ ในรายที่เป็นนิ่วท่อไตแล้วปล่อยให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ก็จะมีความยุ่งยากในการรักษาตามมา

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดท้องรุนแรง โดยมีลักษณะปวดบิดเป็นพัก ๆ ตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว นานเป็นชั่วโมง ๆ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นนิ่วท่อไต ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

  ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา 
    มีอาการปวดท้องมากขึ้น มีไข้ หนาวสั่น ปวดที่สีข้าง ปัสสาวะขุ่น คลื่นไส้ อาเจียน
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. ดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณวันละ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร) ระวังอย่าให้ร่างกายขาดน้ำ 

2. หลีกเลี่ยงการกินวิตามินซีขนาดสูงเป็นประจำ และหลังกินวิตามินซีควรดื่มน้ำตามมาก ๆ

3. ลดการกินพืชผักที่มีสารออกซาเลตสูง

4. บริโภคเนื้อสัตว์และอาหารที่มีแคลเซียมให้พอเพียง อย่าให้มากเกิน

5. ถ้าเป็นโรคเกาต์ ควรรักษาอย่างจริงจัง และควบคุมกรดยูริกให้อยู่ในระดับปกติ

ข้อแนะนำ

1. นิ่วท่อไตส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีด (ขนาดเล็กกว่า 6 มม.) ซึ่งมักจะหลุดออกมาได้เอง ควรบอกให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะลงกระโถน เพื่อสังเกตดูว่ามีก้อนนิ่วออกมาหรือไม่ ส่วนมากมักจะหลุดออกมาภายในไม่กี่วัน

2. อาการปวดท้องจะหายดังปลิดทิ้งเมื่อนิ่วหลุดออกมา แต่ก็อาจเกิดนิ่วก้อนใหม่ในภายหลังได้อีก 

3. เมื่อรักษาหายแล้ว ควรป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ โดยดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร ดื่มน้ำมะนาววันละ 1 แก้ว (เพิ่มสารซิเทรตในปัสสาวะ ช่วยยับยั้งการเกิดนิ่ว) ลดอาหารที่มีกรดยูริก แคลเซียม และออกซาเลตสูง



อาการของโรคนิ่วท่อไต (Ureteric stone/Ureteral stone)  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

66
หากคุณเป็นสาวประเภทตื่นแล้วออกจากบ้านเลย เรามีเคล็ดลับและเทคนิคง่ายๆ 6 ข้อที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นในตอนเช้ามาฝาก

   
1. ดื่มน้ำมากๆ

    ปลุกตัวคุณให้ตื่นขึ้นด้วยน้ำเปล่าสดชื่นสักแก้วซึ่งจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกายและทำให้คุณรู้สึกชุ่มชื่น
   

2. ได้เวลาอาบน้ำแล้ว

    ต่อไปก็ได้เวลาอาบน้ำ ความรู้สึกที่น้ำไหลกระทบร่างนั้นจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ในเวลาไม่นานเลย
   

3. เลือกผลิตภัณฑ์

    ใช้ผลิตภัณฑ์บอดี้ วอชที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอาบน้ำในตอนเช้า+กลิ่นหอมอบอวลจะช่วยยามเช้าที่ง่วงเหงาที่สุดกลับกลายเป็นเช้าที่กระปรี้กระเปล่ามีพลังขึ้น และยังช่วยให้ร่างกายของคุณสะอาดสดชื่นด้วย

     
4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

    กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวบรวมทั้งการทำความสะอาดหมดจดและการบำรุงผิวทั่วร่างของคุณเข้าไว้ด้วยกัน ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวชุ่มชื่นช่วยให้คุณสดชื่น โดยไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้งตึง อุดมด้วย 1/4 มอยส์เจอไรซิ่งครีม ซึ่งช่วยบำรุงผิวของคุณระหว่างอาบน้ำ เพื่อผิวสวยสดชื่นทุกครั้งที่อาบน้ำ


5  อาบน้ำเย็นขึ้น

    หากคุณยังมีปัญหาเรื่องการตื่นนอน (และโดยเฉพาะหากคุณกล้าพอด้วยล่ะก็) คุณสามารถลองลดอุณหภูมิน้ำอาบลงด้วย การระเบิดความสดชื่นด้วยน้ำเย็นๆ จะช่วยทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ด้วย
   

6.  ทาโลชั่น

    ก่อนแต่งตัว เลือกผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นที่มีกลิ่นสดชื่น การทาครีมหรือโลชั่นลงบนผิวหมาดชื้นช่วยให้ผิวเก็บความชุ่มชื่นไว้ให้ผิวของคุณรู้สึกสุขภาพดี

6 วิธีที่จะทำให้เช้าของคุณสดชื่น กระปรี้กระเปร่า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

67
บริการรถรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช และ รถรับจ้างขนของ โซนภาคใต้ ขณะนี้เราต้องขออัพเดทสถานการณ์ น้ำท่วม ในปัจจุบัน บอกเลยว่าในช่วงในเวลาที่ผ่านมา สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงมากในเขตภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังและท่วมสูงรวมถึงถนนถูกตัดขาดหลายเส้นทำให้เราไม่สามารถที่จะให้บริการ รถรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะเราเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในการเดินรถไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างนครศรีธรรมราช รถหกล้อรับจ้างนครศรีธรรมราช ทั้งแบบคอกสูงและแบบตู้ทึบ รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช รถเทเลอร์รับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช และ รถเฮี้ยบรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงรถรับจ้างที่อยู่ในทีมงานของเราทุกคันไม่ว่าจะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ รับจ้างขนของทั่วไป ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตร ขนย้ายวัสดุก่อสร้างขนย้าย เครื่องจักร ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในช่วงภัยน้ำท่วมเราได้มีการเดินรถรับจ้างขนของในบางเขตอำเภอในบางเส้นทางเท่านั้นเนื่องจากว่าเราไม่สามารถที่จะ ผ่าน้ำท่วมในบางจุดได้ ตั้งแต่จังหวัด สงขลา นครศรีธรรมราช รวมไปจนถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราเป็นห่วงทั้งในเรื่องของสินค้าของท่าน และ พนักงานขับรถ แต่หลังจากผ่านช่วงนั้นมา ต้องขออัพเดทเลยว่าปัจจุบันนี้วันนี้ ทางเราสามารถที่จะกลับมาเดิน รถรับจ้างขนของ ได้ครบทุกเส้นทางแล้วสำหรับลูกค้าท่านไหนที่ต้องการจะขนย้ายของ ท่านสามารถโทรเข้ามาสอบถามที่เราได้เลยเพราะบางจุดอาจจะยังไม่ 100% แต่ทางทีมงาน รถรับจ้าง ของเราก็จะใช้เส้นทางที่เลี่ยงจากถนนที่เกิดการชำรุด เพื่อเข้าไปรับสินค้าของท่าน ดังนั้นท่านจึงไม่ต้องกังวลว่าสินค้าของท่านจะเสียหายแต่หรือไม่เพราะว่าพนักงานขับรถของเราทุกคนมีความชำนาญในเส้นทางจากประสบการณ์การทำงานมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี จึงทำให้เรารู้ว่าไม่ว่างานนั้นจะยุ่งยากหรือน้ำท่วมสูงขนาดไหน เราก็สามารถที่จะให้บริการท่านในเส้นทางอื่นที่ไม่ใช่เส้นทางปกติเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายสินค้าของท่านได้อย่างแน่นอน


สำหรับท่านที่ต้องการขนย้ายบ้าน หรือต้องการเคลื่อนย้ายของ สินค้าอินเองที่ เสียหายจากน้ำท่วมหรือต้องการที่จะ ย้ายบ้าน ข้ามจังหวัดก็สามารถโทรเข้ามาตรวจเช็คราคากับเราได้หากท่านต้องการพนักงานยกสินค้าเราก็มีพนักงานพร้อมให้บริการท่านเช่นกัน เราไม่อยากให้ท่านต้องมายุ่งเองเพราะการที่เราไม่เคยทำงานหรือไม่เคยยกสินค้าหนักๆ เป็นระยะเวลานานหากการยกนั้นทำให้ท่านต้องเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหรือทำให้ท่านต้อง ปวดเมื่อยเคล็ดขัดยอก เราพูดได้เลยว่าไม่คุ้มแน่นอน ท่านควรที่จะใช้พนักงานที่เค้าให้บริการการยกสินค้าจะดีกว่า ระยะเวลา ให้บริการท่านแทน น่าจะดีที่สุดเพราะว่างานเหล่านี้คนงานยกสินค้าของเราทุกคนมีความชำนาญมากดังนั้นสินค้าของท่านไม่ต้องกังวลว่าจะแตกเสียหาย ใช้บริการเราจะดีที่สุด ท่านสามารถแจ้งเข้ามาได้เลยว่าจะใช้พนักงานกี่คนขนย้ายอะไรบ้างเพียงเท่านี้ท่านก็ไม่ต้องมาเครียดกับการต้องหาคนช่วยอีกต่อไป โทรเลย


หากท่านต้องการที่จะมาท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชเราก็มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่สวยงามมาแนะนำทาง อีกมากมาย เช่น วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร น้ำตกกรุงชิง หมู่บ้านคีรีวง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ช่องรูเล็ด หาดหินงาม หาดในเพลา หาดทรายแก้ว แหลมตะลุมพุก เป็นต้น ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ท่านสามารถที่จะเดินทางมาเที่ยวได้อย่างชิวๆหรือจะดู แผนที่ของ ททท. หรือไม่ก็โทรมาสอบถามที่หน่วยบริการ รถรับจ้าง ของเราเพราะเราจะมีทีมงานที่ไว้คอยให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงบางครั้งท่านไม่จำเป็นต้องมา ติดต่อธุระเราเฉพาะเรื่อง รับจ้างขนของ เท่านั้นท่านอาจจะโทรเข้ามาสอบถามในเรื่องของ สถานที่ท่องเที่ยวว่า สถานที่ไหนที่เรา ควรจะแนะนำ หรือท่านต้องการให้เราแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไหนที่น่าไป เราก็ยินดีให้บริการท่านอยู่แล้ว เพราะเราอยาก ให้ท่านมาที่จังหวัดนครราชสีธรรมราชอย่าง สนุก ประหยัด สบายใจ


แต่หากท่านต้องการบริการ รถรับจ้างขนของนครศรีธรรมราช เราก็ยินดีเพราะว่าบางครั้งที่เราสังเกตุเห็นคือลูกค้าบางท่านเดินทางมาทาง รถทัวร์ บขส หรือทางเครื่องบินจะต้องมาหารถที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกทีหนึ่ง แต่บางครั้งท่านเตรียมกระเป๋ามาในปริมาณที่มาก ก็ต้องการที่จะหารถสักคันไว้ใช้บริการขนของกระเป๋าไปที่โรงแรมไปที่สถานที่พัก แน่นอนว่า ท่าน มีความจำเป็นมากที่จะต้องใช้บริการ รถรับจ้าง ของเรา อาจจะเป็นใช้ รถกระบะรับจ้าง ในการขนย้ายของ แต่ถ้าหากเป็นงานที่เกี่ยวกับ งานขนย้ายบ้าน แน่นอนจะต้องเป็น รถ 6 ล้อรับจ้าง ขนของจากแน่นอนเพราะมีปริมาณที่เยอะและอาจจะต้องใช้พนักงานขนย้ายของเราอีกต่างหาก เราก็พร้อมให้บริการท่านอยู่แล้วที่สำคัญ อย่าลืมนะคะ หากต้องการใช้บริการ รับจ้างขนของ โทรมาสอบถามราคากับเราได้เลย ต่อรองได้



รถรับจ้าง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการขนย้ายของ มีรถเที่ยวกลับราคาพิเศษ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

68
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/





69
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

“ออน (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) (ตราเอ็มเมด) เติมพลังให้ชีวิต”
สมองและใจที่ดี มันต้องไปกับร่างกายที่พร้อม
ด้วยภารกิจที่แสนจะหนักหน่วง ใจพร้อมแต่บางทีร่างกายมันไม่พร้อมไปด้วย เหนื่อยล้าเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
MMED สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน”
ชื่อผลิตภัณฑ์
: ออน
เลขที่ใบรับแจ้ง
: 13-1-15859-5-1159
ขนาดบรรจุ
: 1 กล่อง (7 ซอง)
วิธีรับประทาน
: รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม) เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยวก่อนกลืนและดื่มน้ำตาม
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
: ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานโดย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ส่วนประกอบสำคัญ
: L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.
คุณประโยชน์
: กระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


70
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ

???? สารสกัดกระชาย 200 มก.
???? ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
???? แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
???? วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


71
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



72
เชื่อว่าหลายๆท่านคงมีปัญหาเกี่ยวกับบุตรหลาน ฟันผุ ฟันดำ หรือแม้แต่เหงือกบวม ซึ่งอาจจะเป็นในช่วงฟันน้ำนม และบางท่านอาจจะคิดว่าเดี๋ยวพอฟันแท้ขึ้นมา อาการเหล่านี้ก็คงหายไปค่อยทำการดูแลรักษาหลังจากที่ฟันแท้ขึ้นก็ได้ ความเชื่อเหล่านี้ถือว่าผิดถนัดและมีความเสี่ยงสูงที่ฟันแท้ของเด็กจะติดโรคฟันผุมาจากฟันน้ำนมได้อีกด้วย ยังไม่หมดเท่านั้นหากเด็กในวัยฟันน้ำนมมีอาการผุมากๆจนต้องทำการถอนออก ยิ่งทำให้ฟันแท้ที่จะขึ้นมาแทนที่เกิดการผิดปกติได้อีกด้วย เรื่องสุขภาพช่องปากในเด็กจึงสำคัญมากๆไม่แพ้กับสุขภาพช่องปากของผู้ใหญ่ เพราะเหตุนี้เองจึงควรที่จะใส่ใจดูแลมากๆ อย่ารอเพราะอาจจะสายเกินไป

ซึ่งในวันนี้ทางด้าน Clinic จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับวิธีที่เรียกได้ว่าเบื้องต้นในการช่วยรักษาสุขภาพฟันและช่องปากของเด็กให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆที่จะเกิดขึ้น ต้องบอกเลยไม่ยาก แต่อย่าใจอ่อน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกิน เด็กๆอาจจะเสียใจที่ไม่ได้รับประทานสิ่งต่างๆ และไม่เข้าใจถึงการรักษาสุขภาพช่องปากไม่ให้เป็นโรครุนแรง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


สุขภาพช่องปากและฟันที่ดีคืออะไร ?

ก่อนอื่นเลยที่เราจะสามารถดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีได้นั้นเราต้องเข้าใจเสียก่อนว่าคำนี้หมายถึงอะไร การดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีไม่ใช่เพียงแค่ทำความสะอาดฟันให้สะอาดเท่านั้น เพราะ ในช่องปากของคนเราจะประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม กล้ามเนื้อบดเคี้ยว และข้อต่อขากรรไกร

ดังนั้นสุขภาพช่องปากที่ดีไม่ใช่เพียงแค่ไม่มีโรคเกี่ยวกับฟันเท่านั้น แต่ต้องปราศจากทุกโรคที่อาจจะเกิดขึ้นภายในช่องปากด้วย เช่นปัญหาด้านการบดเคี้ยว ปัญหาแผลในช่องปาก ไม่มีอาการเจ็บหรือปวดภายในช่องปาก ไม่มีอาการเกี่ยวกับเหงือกต่างๆ รวมถึงต้องไม่มีกลิ่นปากด้วยเช่นกัน

ผู้ปกครองต้องนึกถึงเสมอว่าปัญหาสุขภาพช่องปากไม่ใช่แค่ทำให้เจ็บปวด หรือปัญหาในขณะรับประทานเท่านั้น ปัญหาช่องปากยังสร้างปัญหาใหญ่ๆทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน และการเข้าร่วมสังคมของเด็กด้วยเช่นกัน เห็นไหมว่าปัญหาสุขภาพช่องปากมีความสำคัญต่อชีวิตมากๆ อย่ามองข้ามเด็ดขาด


ทำอย่างไรให้เด็กมีสุขภาพช่องปากที่ดี ?

ต้องขอบอกว่าการทำให้เด็กมีสุขภาพฟันและช่องปากที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ผู้ปกครองต้องใจแข็งซักนิดหนึ่ง ไม่ใช่ยอมตามใจปากบุตรหลานจนสร้างสุขภาพที่ไม่ดีในช่องปากให้กับเด็กเสียเอง

ก่อนอื่นอย่างแรกเลยที่ผู้ปกครองต้องเฝ้าดูอย่างต่อเนื่องหากลูกยังเล็กคือ แปรงฟันให้สะอาดสม่ำเสมอ 2 ครั้ง คือ เช้า (ตื่นนอน) – กลางคืน (ก่อนนอน) และถ้าเด็กโตขึ้นมานิดหนึ่งให้ใช้ไหมขัดฟันควบคู่ไปด้วยก็ได้

และสิ่งสำคัญที่สุดในวัยนี้ต้องบอกเลยว่าหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกิน ผู้ปกครองจำเป็นและต้องใส่ใจมากๆในการเลือกอาหารให้เด็กรับประทาน เพราะสุขภาพช่องปากนั้นอยู่กับอาหารที่คุณเลือกให้เด็กๆเช่นกัน โดยสิ่งแรกที่ไม่ควรให้เด็กๆรับประทานเป็นประจำคือ อาหารที่มีลักษณะเหนียวหรือแข็ง เพราะจะทำให้ช่องปากของเด็กทำงานหนัก ซึ่งจะส่งผลทำให้มีอาการปวดขากรรไกร รวมถึงทำให้ฟันสึกได้ และพฤติกรรมการรับประทานอีกอย่างที่ห้ามมองข้าเด็ดขาดนั่นก็คือ การทานอาหารจุกจิกหรือถี่ในการรับประทานเกินไป เพราะจะทำให้ฟันไปสัมผัสกับอาหารบ่อยๆ มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้เศษอาหารเข้าไปติดซอกฟัน ไปเกาะตามฟัน และทำความสะอาดไม่หมด จึงทำให้มีโอกาสฟันผุเพิ่มมากขึ้นกว่าคนที่รับประทานอาหารเป็นเวลา

ส่วนสิ่งสำคัญสุดท้ายที่หลายๆคนมองข้ามคือ พาเด็กไปพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำทุกๆ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจเช็คสุขภาพช่องปากว่ามีความผิดปกติตรงไหนหรือไม่อย่างไร เพราะหากว่าเจอปัญหาตั้งแต่ต้นก็จะทำให้การรักษานั้นง่ายขึ้น ไม่มีโอกาสเสี่ยงในระยะยาว เพราะหลายๆปัญหาท่านจะไม่มีวันทราบว่ากำลังเกิดขึ้น เพราะไม่มีการแสดงอาการแต่จะรุนแรงเมื่อถึงเวลาผลสุดท้ายเด็กๆอาจจะต้องเสียฟันตามธรรมชาติก่อนวัยอันควรก็เป็นได้

จัดฟันบางนา: อาหารและของว่างที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีในเด็ก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

73
แลนซีโอ คริป เทพารักษ์-บางปลา (Lanceo Crib Thepharak-Bangpra)
ราคา : 4,000,000 - 7,000,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
บ้านหรูหลังใหญ่ สไตล์ฝรั่งเศส 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ใกล้ทางด่วน ใกล้เมืองใหม่บางพลี บ้านหรูหลังใหญ่ ฟังก์ชั่นอิสระ พร้อมห้อง Extra Function พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ Flexible Functions เพิ่ม Space ให้ทุกพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งาน

รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ : แลนซีโอ คริป เทพารักษ์-บางปลา (Lanceo Crib Thepharak-Bangpra)
ดูบ้านราคาใกล้เคียง  ดู ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ ทุกโครงการ 
เจ้าของโครงการ : ลลิลพร็อพเพอร์ตี้
ราคา : 4,000,000 - 7,000,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)
 
ประเภทบ้าน : บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด
ลักษณะทำเล : บ้านใกล้เมือง
พื้นที่โครงการ : 32 ไร่ 1 งาน 24.50 ตร.ว.
จำนวนบ้าน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
แบบบ้านทั้งหมด : 4 แบบ
เนื้อที่บ้าน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
พื้นที่ใช้สอย : ตั้งแต่ 134.0 ถึง 174.0 ตร.ม.
จำนวนชั้น : 2 ชั้น
หน้ากว้าง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนห้องนอน : ตั้งแต่ 3 ถึง 4 ห้อง
จำนวนที่จอดรถ : 2 คัน
สาธารณูปโภค : สวนสาธารณะ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV
ขนส่งสาธารณะ : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
สุดยอด Lifestyle

เมกาบางนา
อิเกียบางนา
มาเก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ
เซนทรัลวิลเลจ
บิ๊กซี เอ็กตร้า บางนา
โลตัส บางนา
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์


โรงพยาบาล

รพ.จุฬารัตน์3 อินเตอร์
รพ.รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์
รพ.ไทยนครินทร์
รพ.ศิครินทร์
รพ.เปาโลสมุทรปราการ

สถานศึกษา

รร.สาธิตบางนา
รร.สารสาสน์วิเทศน์สุวรรณภูมิ
รร.ราชวินิตบางแก้ว
รร.อัสสัมชัญ สมุทรปราการ
ม.หัวเฉียว
ม.เอแบค
 
โซน : สมุทรปราการ, บางพลี, บางบ่อ, พระประแดง
ที่ตั้ง : ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ปีที่สร้างเสร็จ : พ.ศ. 2567

หมายเหตุ :
นัดหมายชมโครงการ และสอบถามรายละเอียด  โทร. 065-291-3176, 065-291-3177


บ้านโครงการใหม่ 2024: แลนซีโอ คริป เทพารักษ์-บางปลา (Lanceo Crib Thepharak-Bangpra) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/house/

74
การตกแต่งบ้านอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องลำดับท้ายๆ แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วการตกแต่งบ้านจะถูกออกแบบควบคู่ไปพร้อมกับการเขียนแบบบ้านเลย ยิ่งถ้าบ้านถูกสร้างโดยบริษัทรับสร้างบ้านหรูๆ แล้ว การออกแบบและตกแต่งบ้านนั้น นักออกแบบและมัณฑนาต้องคลุมโทนชัดเจน เพื่อไม่ให้หลุด Theme และเพื่อให้บ้านหรูของเราเป็นบ้านหรูที่มีเอกลักษณ์ มีความเป็นตัวตน และให้บรรยากาศของความ luxury อบอวลในทุกมุมบ้าน ดังนั้นเจ้าของบ้านหลายๆ คนจึงเลือกถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ผ่านการเลือกเฟอร์นิเจอร์ สี หรือ วัสดุตกแต่งบ้าน

ส่วนใครกำลังสนใจและหาแนวทางการตกแต่งบ้านสไตล์นี้อยู่ วันนี้นำเคล็ดลับการตกแต่งบ้านหรู ให้น่าอยู่มาฝากค่ะ


1. สร้างความโอ่โถงผ่านการออกแบบตกแต่ง

การออกแบบและตกแต่งบ้านสไตล์ luxury ภาพแรกเมื่อก้าวเข้าบ้าน จะต้องให้ความรู้สึกโอ่โถง โล่งสบาย งานออกแบบบ้านจึงนิยมยกเพดานฝ้าสูง เพื่อให้ความรู้สึกแตกต่างจากบ้านสไตล์อื่นๆ และเพื่อเป็นการบ่งบอกความพิเศษว่าเป็นบ้านที่เน้นการโชว์พื้นที่มากกว่าการใช้สอยที่จำกัด


2. ตกแต่งผ้าม่านอย่างมีสไตล์

เมื่อมีการออกแบบตกแต่งฝ้าที่สูงสบายตาแล้ว ผ้าม่านจึงควรติดให้ชิดกับเพดานจรดพื้น เพื่อช่วยนำสายตาให้เห็นถึงความสูงโปร่งของห้อง  เคล็ดลับการเลือกผ้าม่านคือ ต้องเน้นลายตรงทิ้งทางยาวและหากผนังด้านใดด้านนึงของบ้านเป็นกระจกโปร่งใส ควรติดตั้งผ้าม่านเต็มพื้นที่เพื่อเพิ่มเลเยอร์ให้กับผนัง


3. ตกแต่งด้วยพรมขนนุ่ม

พรมที่ใหญ่ over size จะทำให้บ้านดูอบอุ่นและแกรนด์มากขึ้น แต่เทคนิคการเลือกพรมให้เข้ากับบ้านสไตล์หรู อาจจะต้องลดความหนาลงเพื่อให้ได้ความรู้สึกที่ เบา เพื่อบาลานซ์กับขนาดพรมที่ใหญ่ไปแล้ว และการเลือกตกแต่งด้วยพรมนั้น สามารถใช้ได้กับหลายๆ ห้อง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน เป็นต้น


4. เลือกโคมไฟ Chandelier

เป็นอีกหนึ่ง accessory ชิ้นใหญ่ ที่มักจะถูกเลือกมาไว้ที่ห้องโถง ห้องรับแขก และเป็นของแต่งบ้านที่เล่าความพิถีพิถันในการเลือกของเจ้าของบ้านได้ ซึ่งส่วนนี้เจ้าของบ้านเองอาจจะต้องกำหนดขนาดหรือตำแหน่งที่ชัดเจนกับทีมตกแต่งเพื่อป้องกันการแก้ไขในภายหลัง (หากสร้างบ้านผ่าน บริษัทรับสร้างบ้าน luxury จะมีทีมนี้คอย support)


5. เฟอร์นิเจอร์ต้องเข้ากับสไตล์บ้าน

การเลือกเฟอร์นิเจอร์ สำคัญทั้งเรื่องสี และดีไซน์ เช่น โซฟา ควรเลือกโซฟาตัวยาวเพื่อให้เห็นถึงความใหญ่ของพื้นที่ใช้สอย และเลือกสีที่อ่อนอย่าง เบจ เทา เพื่อให้ดูหรูหรา และไม่ตกเทรนด์ ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา หากอยากเพิ่มลูกเล่นให้ห้องบางวาระโอกาส อาจใช้หมอนอิงลายต่างๆ เข้าไป ในทริคของนักออกแบบได้บอกไว้ว่าการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ของบ้านสไตล์ luxury นั้น ไม่เน้นการใช้งาน แต่เน้นเกินจริงเลยก็มี


6. สร้างบรรยากาศด้วยแสงสว่าง

ในที่นี้หมายถึงการตกแต่งไฟ การให้แสง lighting ต่างๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในการสร้างบรรยากาศให้บ้านดูอบอุ่นสีของไฟก็มีส่วน หากอยากให้บ้านเราดูอบอุ่นหรูหราพร้อมกับดูมีชั้นเชิงก็ไม่ควรทิ้งจุดนี้ ควรเลือกใช้ไฟที่เป็นสี warm white และแต่งไฟให้หลากหลาย เช่น บางจุดแต่งด้วย down lights บางจุดใช้โคมไฟ บางจุดใช้ไฟหลืบ และหากสามารถเพิ่มฟังก์ชันที่สามารถดีมไฟได้ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น


7. หรูด้วยกระจก และความแวววาว

กระจกถือเป็นวัสดุตกแต่งบ้านที่ฮิตตลอดกาล ไม่เพียงแค่หรูหราเท่านั้น แต่กระจกยังเป็นตัวช่วยให้บ้านดูกว้างและสว่างมากขึ้น ใช้ได้ทั้งการวางไว้มุมใดมุมหนึ่ง แขวน หรือติดไว้ตามผนังบ้านก็ได้ และหากอยากเพิ่มความหรู ก็สามารถแต่งกรอบด้วยสีทองเงา สีเงิน glossy หรือหยอด accessory สีแวววาว ตามมุมต่างๆ ก็ได้


8. กลิ่นหอมสร้างบรรยากาศ

กลิ่นหอมไม่ว่าทั้งจากดอกไม้สดบนโต๊ะ หรือ จากเทียนอะโรมาต่างๆ ก็สามารถสร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่ไม่แพ้การตกแต่งบ้านเลย เพราะนอกจากทำให้บ้านดูสดชื่นแล้ว ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้เช่นกัน ทั้งดอกไม้และเทียนอาจจะถูกเลือกไปใช้ต่างที่กัน เช่น เทียนอะโรมา อาจจะถูกใช้ในห้องนอนเพื่อความผ่อนคลาย ดอกไม้อาจจะทำหน้าที่รับแขกที่ห้องโถ่งก็ได้

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในสไตล์การแต่งบ้านเน้นความหรูหรา แต่ก็ยังมีอีกหลายฟังก์ชันอย่างอุปกรณ์ hard ware ต่างๆ ที่จะสามารถใส่ไปในบ้านเพื่อบ่งบอกสไตล์ของบ้านได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเกือบทุกข้อมีการทำงานร่วมกันกับ บริษัทรับสร้างบ้าน luxury อยู่เรื่อยๆ เพื่อวางแผนการก่อสร้างให้ตรงตามความต้องการให้มากที่สุด


โครงการบ้านโคราช: เคล็ดลับตกแต่งบ้านหรู สร้างบรรยากาศน่าอยู่อย่างมีสไตล์ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/

75
สำหรับผู้ที่ได้รับมอบหมายในการจัดงานเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงบริษัท, งานเลี้ยงประจำปี หรืองานเลี้ยงรุ่น สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเป็นลำดับต้นๆ ก็คือ การเลือกอาหารสำหรับเลี้ยงแขกภายในงานที่จะต้องมาพร้อมเคล็ดลับการเลือกอย่างเหมาะสม เพื่อให้อาหารที่สั่งมานั้นถูกปากแขกคนสำคัญของคุณ โดยวันนี้เราก็มีเคล็ดลับการเลือกอาหารจัดเลี้ยงมาฝาก ว่าควรเลือกอย่างไรจึงจะเหมาะสมมากที่สุด

5 วิธีเลือกอาหารจัดเลี้ยงให้เหมาะสมกับแขก

1.คำนวณจำนวนผู้ที่มาร่วมงาน

ขั้นตอนแรกก่อนจะเริ่มสั่งอาหาร ผู้จัดงานควรคำนวณจำนวนของแขกที่มาร่วมงาน เพื่อให้สามารถประเมินคร่าวๆ ได้ว่าควรจะสั่งอาหารประมาณไหน จำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้อาหารเพียงพอและทั่วถึง โดยในขั้นตอนนี้ ผู้จัดงานอาจจะใช้วิธีการนับจำนวนคนเพื่อความแม่นยำ หรือกะเอาคร่าวๆ แล้วสั่งอาหารมาให้มีปริมาณเกินจำนวนคนสักเล็กน้อย

2.เลือกอาหารที่มีรสชาติกลางๆ

เนื่องจากงานจัดเลี้ยงนั้น ผู้ที่มาร่วมงานอาจจะมีทั้งผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก การเลือกอาหารแต่ละประเภท จึงควรเน้นเลือกอาหารที่มีรสชาติกลางๆ ไม่ควรเลือกอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเกินไป ทั้งรสหวาน เค็ม เปรี้ยวและเผ็ด เพื่อให้ผู้คนที่มาร่วมงานสามารถรับประทานได้ทุกคนโดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องของรสชาติ

3.เลือกอาหารให้หลากหลาย

เมนูอาหารที่คุณเลือกสำหรับนำมาจัดเลี้ยงนั้น ควรมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูต้ม ผัด แกง ทอด โดยควรมีครอบคลุมทุกประเภท เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานสามารถเลือกรับประทานได้ตามความต้องการ หากเลือกสั่งอาหารประเภทเดียวกันมากเกินไป ก็อาจจะทำให้แขกที่มาร่วมงานบางรายรู้สึกเบื่อ และไม่อยากรับประทานอาหารจานนั้นๆ ได้

4.เลือกสั่งอาหารภายใต้งบประมาณที่กำหนดไว้

การจัดเลี้ยงไม่ว่าจะในรูปแบบใด ผู้จัดงานควรมีงบประมาณในแต่ละส่วนเอาไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของอาหาร ควรมีการกำหนดงบประมาณเอาไว้ เพื่อให้สามารถสั่งอาหารได้อย่างเหมาะสม เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ก็อาจจะทำให้สั่งจนเกินงบที่มี หรือเลือกสั่งอาหารจานที่มีราคาสูงเกินไป จนทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้

5.เลือกอาหารที่ได้รับความนิยม

หากคุณยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกสั่งเมนูไหนดี ลองใช้วิธีการอ่านรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยในรีวิวต่างๆ มักจะมีคำแนะนำเรื่องการสั่งอาหารว่าร้านนี้มีเมนูไหนที่ไม่ควรพลาด ทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น และเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้คุณสั่งอาหารที่มีรสชาติถูกปากแขกที่มาร่วมงานได้มากยิ่งขึ้น

ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกสั่งอาหารในงานจัดเลี้ยง ที่จะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับผู้มาร่วมงาน ซึ่งที่ร้านใบไม้ร่าเริง ร้านอาหาร แจ้งวัฒนะก็เป็นหนึ่งในร้านที่เหมาะสำหรับการจัดเลี้ยงด้วยเมนูอาหารที่หลากหลาย มีรสชาติอาหารที่อร่อย ราคาไม่แพง และยังมีบริการห้องคาราโอเกะที่จะทำให้คุณเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย ลองมาใช้บริการร้านอาหาร แจ้งวัฒนะแห่งนี้กันดูบ้างสักครั้ง อาจจะเป็นที่ที่คุณประทับใจจนอยากหวนกลับมาใช้บริการซ้ำอีกก็เป็นได้

วิธีเลือกอาหารจัดเลี้ยง จัดเลี้ยงนอกสถานที่ ให้เหมาะสมกับแขก ต้องพิจารณาเรื่องใดบ้าง  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

76
5 เทคนิคดูแลพื้นไม้ปาร์เก้แบบง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้

1.ทำความสะอาดด้วยความอ่อนโยน

ไม้ปาร์เก้คือหนึ่งวัสดุปูพื้นที่มีความละเอียดอ่อน ฉะนั้นการใช้สอยต้องระมัดระวัง ดังนั้นการดูแลรักษาด้วยการทำความสะอาดอยู่เสมอผ่านการถูด้วยน้ำสะอาดหรือใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นชนิดอ่อนเพื่อให้เนื้อไม้ชุ่มชื้นและขจัดคราบสกปรก ซึ่งสิ่งที่พึงระวังคือไม่ควรใช้น้ำที่เปียกจนเกินไปในการถูเพราะจะยิ่งทำให้เนื้อไม้แห้งช้า ฝุ่นสามารถมาเกาะและติดได้อย่างรวดเร็ว และในส่วนของน้ำยาถูพื้นควรใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้งพอ


2.ทำความสะอาดให้เป็นกิจวัตร

เนื่องจากไม้ปาร์เก้เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่มีความอ่อนโยนอย่างมากการทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดที่กล่าวมาข้างต้นสามารถทำได้ทุกวันเพื่อรักษาความสดใหม่และน่างานของพื้นผิวในช่วงเวลา อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องระวังอย่างมากเพราะถ้าเกิดรอยขีดข่วนอาจจะต้องขัดพื้นผิวใหม่คือการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ดังนั้นหมั่นทำความสะอาดพื้นในทุกวันให้เป็นกิจวัตรและระมัดระวังในการใช้สอยพื้นที่เพื่อให้ไม้ปาร์เก้สวยงามอยู่กับเราเสมอ


3.​หากเป็นรอย

ในกรณีที่ไม้ปาร์เก้เป็นรอยในบางจุด เราสามารถซ่อมแซมได้ด้วยการนำเอากระดาษทรายแบบหยาบขัดด้วยน้ำหนักที่เบาก่อนที่จะต่อด้วยกระดาษทรายแบบละเอียดขัดด้วยน้ำหนักเบาเช่นกัน เมื่อร่องรอยเริ่มจางให้นำเอาผ้าชุบหน้าหมาดๆมาถูกทำความสะอาด จากนั้นทิ้งไว้จนแห้งแล้วนำเอายูเรเทนทาลงพื้นไม้ปาร์เก้ เพียงเท่านั้นรอยขีดข่วนก็ไม่สามารถกวนใจเราอีกต่อไป ที่สำคัญเราสามารถทำได้ทันทีเมื่อพบเจอ


4.​ขัด เคลือบพื้นผิวใหม่

เมื่อใช้ไม้ปาร์เก้ไปในระยะนานๆความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นทุกคนสามารถขัดและเคลือบผิวใหม่ได้ โดยขั้นตอนดังกล่าวควรเลือกใช้ช่างไม้ผู้เชี่ยวชาญในการจัดการ โดยการขัดนั้นต้องขัดด้วยกระดาษทรายปัจจัยนี้อาจทำให้บ้านมีฝุ่นคลุ้ง ฉะนั้นควรนำเอาผ้ามาคลุมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องเรือนทั้งหมด เมื่อขัดเสร็จเรียบร้อยขั้นตอนในการเคลือบผิวนั้นส่วนใหญ่ใช้ยูรีเทนหรือน้ำยาเคลือบเนื้อไม้ทั่วไปเพื่อเพิ่มความเงางาม สวยงาม และดูสดใหม่ให้กับพื้นไม้ปาร์เก้ของเรา สำหรับระยะเวลาในการขัดและเคลือบผิวนั้นอยู่ที่ 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ภายในบ้าน โดยหมั่นทำในทุก 1-2 ปี เพื่อรักษาพื้นผิวของเนื้อไม้ให้ใช้ได้นานและคุ้มค่านั้นเอง


5.ป้องกันเนื้อไม้ทั้งก่อนและหลัง

นอกจากการใส่ใจในการดูแลและทำความสะอาดเนื้อไม้อยู่เสมอ สิ่งที่เราพึงปฏิบัติบ่อยครั้งเช่นกันคือการสองส่องร่องรอยหรือส่วนที่สึกหรออันเกิดจากการใช้งานหรือแม้กระทั่งการกัดกินของปลวกและสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะปลวกนั้นควรฉีดน้ำยาป้องกันตั้งแต่ก่อนปูพื้น รวมทั้งฉีดในทุกปีหลังการปลูกสร้างเสร็จ เพื่อรักษาไม้ให้มีอายุการใช้งานที่เหมาะสม


การดูแลอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียดของไม้ปาร์เก้ช่วยทำให้ภาพรวมของบ้านน่าอยู่อาศัย สะดวกสบายอย่างปลอดภัย และเสริมให้ภาพลักษณ์ของบ้านดูสวยงามอย่างมีรสนิยม




บริการทำความสะอาด: เทคนิคดูแลพื้นไม้ปาร์เก้แบบง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/soft-services/

77
รถหกล้อรับจ้าง
โดยปกติแล้ว รถหกล้อรับจ้าง จะให้บริการงานขนย้ายแบบด่วนและแบบไม่เร่งด่วนซึ่งถ้าเกิดว่าเป็นงานขนย้ายสินค้าทางการเกษตร เช่น ผลไม้จากต่างจังหวัดมาส่งที่ตลาดไท รถหกล้อรับจ้าง จะต้องจำกัดในเรื่องของเวลาจะต้องวิ่งให้ทันเวลา เพราะหากล่าช้าอาจจะทำให้ผลไม้เสียหายหรือเน่าได้ส่วนอีกแบบนึงนั่นเป็น รถ 6 ล้อรับจ้างขนย้ายของทั่วไป เช่น งานย้ายบ้าน ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ย้ายของแห้ง ย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่ง รถ 6 ล้อรับจ้างลักษณะนี้จะไม่เน้นในเรื่องของเวลาแต่จะเน้นในเรื่องของความปลอดภัยมีผ้าใบ คลุมสินค้าที่ปิดมิดชิดในกรณีที่ฝนตกสามารถที่จะกันฝนได้เป็นอย่างดี

การที่จะเรียกใช้บริการ รถหกล้อรับจ้าง ผู้ใช้บริการจะต้องดูว่าต้องการขนย้ายของประเภทไหนหากเป็นงาน ขนย้ายบ้าน อาจจะต้องใช้ รถ 6 ล้อขนาดใหญ่ที่มีความยาวตั้งแต่ 6.5 เมตรขึ้นไป แต่ถ้าเป็นขนย้ายสินค้าทางการเกษตร ที่ต้องการรับน้ำหนักมากๆอาจจะใช้ รถ 6 ล้อที่มีขนาดความยาวอยู่ที่ 5.5 เมตร ดังนั้น ผู้ใช้บริการจึงต้องพิจารณาและเลือก รถ 6 ล้อรับจ้างให้ถูกกับสินค้า

รถสิบล้อรับจ้าง
รถสิบล้อรับจ้าง ในทุกวันนี้ส่วนมากแล้วจะขนย้ายสินค้า การเกษตรที่มีน้ำหนักมากกว่า 10 ตันขึ้นไป แต่ไม่เกิน 15 ตันเพราะ รถสิบล้อรับจ้าง ต้องการขนย้ายของที่มีน้ำหนักและมีพื้นที่ในการใส่ของ แต่ที่สำคัญนั้นก็คือรถสิบล้อรับจ้าง ส่วนมากคิวรถจะแน่นพอสมควรเนื่องจากปริมาณรถอาจจะไม่ได้มีมากเหมือนรถกระบะหรือรถ 6 ล้อ ดังนั้น การจ้างงานการว่าจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง จะต้องมีเวลาเผื่อหรือมีการจัดคิวไว้ล่วงหน้าผู้ใช้บริการถึงจะสามารถได้รถตามที่ต้องการ

รถหกล้อรับจ้าง ราคา
ถ้าหากจะตรวจสอบราคาค่าบริการว่าการขนย้ายของในรอบนี้ รถหกล้อรับจ้าง ราคา เท่าไหร่เราจะรู้ได้อย่างไร โดยปกติแล้วรถ 6 ล้อรับจ้างในเว็บไซต์ของผู้ให้บริการจะมีการแจ้งระบุราคาที่มีความชัดเจนหรือเป็นราคาคร่าวๆให้กับผู้ให้บริการได้ทราบ เพื่อรับรู้ว่าการขนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งระยะทางประมาณนี้ราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถที่จะนำไปคำนวณค่าบริการได้ด้วยตัวเองซึ่งทุกวันนี้ในเรื่องของราคาค่าบริการของ รถ 6 ล้ออาจจะไม่ใช่ สิ่งที่เป็นความลับอีกต่อไป

ดังนั้นถ้าต้องการอยากจะทราบว่า รถหกล้อรับจ้าง ราคา เท่าไหร่นั้นสามารถเปิดผ่านเว็บไซต์หรือโทรไปสอบถามโดยตรงก็สามารถที่จะรู้ราคาได้เช่นเดียวกัน
รถรับจ้าง 6 ล้อ ราคาถูก

ส่วนมากแล้วสำหรับ รถรับจ้าง 6 ล้อ ราคาถูก จะเป็นการขนย้ายรถเที่ยวกลับหรือรถเที่ยวตีเปล่าเนื่องจากว่า รถ 6 ล้อรับจ้างที่ขนย้ายของต่างจังหวัดและต้องการวิ่งตีกลับมาซึ่งต้องบอกเลยว่า รถ 6 ล้องานขนย้ายอาจจะไม่ได้มีบ้าง หรือ รถกระบะ

ดังนั้น ในช่วงตีกลับนั้นถึงแม้ว่าระยะทางที่ไกลก็สามารถที่จะทำราคารถลงมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถจับต้องได้ดังนั้นถ้าหากต้องการอยากจะได้ รถรับจ้าง 6 ล้อ ราคาถูก ต้องโทรเข้าไปสอบถามผู้ให้บริการโดยตรงและสอบถามหาเที่ยวรถ ราคาถูก ที่จะขนย้ายในช่วงดังกล่าวว่ามีราคาเท่าไหร่

รถหกล้อรับจ้างใกล้ฉัน
รถ 6 ล้อรับจ้างจะมีราคาเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้บริการที่มีความสนใจต้องการอยากจะใช้ รถหกล้อรับจ้างใกล้ฉัน ที่อยู่ในพื้นที่หรือขนย้ายในระยะทางที่ไม่ไกล โดยปกติแล้วหากอยู่ในเขตพื้นที่ในเมืองหรืออยู่ในเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯปริมณฑลหรือจังหวัดใหญ่ๆในภาคต่างๆ ราคาค่าบริการเริ่มต้นของรถ 6 ล้อจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 3,000 บาทต่อเที่ยว

ราคาอาจจะถูกลงไปกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าระยะทางในการขนย้ายอยู่ที่เท่าไหร่และ ลูกค้าต้องการขนย้ายอะไรราคาดังกล่าวนี้เป็นราคาเทียบเคียง ณ ปัจจุบันหากต้องการสอบถามราคาที่แท้จริงสามารถตรวจเช็คกับผู้ให้บริการรถ 6 ล้อรับจ้างทั่วไปได้เลย

รถหกล้อรับจ้าง กทม
ด้วยพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯมีเขตพื้นที่มากมายและมีการจราจรที่ติดขัดดังนั้นการที่จะเรียกใช้บริการ รถหกล้อรับจ้าง กทม จึงต้องมีการแจ้งคิวล่วงหน้าหรือต้องมีการกำหนดช่วงเวลาการขนย้ายที่มีความชัดเจนและต้องไม่อยู่ในช่วงติดเวลาหมายถึงต้องหลัง 10:00 น ไปจนถึงก่อน 15:00 น เพราะหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะไม่สามารถวิ่งได้ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะเขตพื้นที่ที่เป็นกรุงเทพฯชั้นในเช่น ดินแดน อนุสาวรีย์ชัยสยาม สาทร พระราม 9 ลาดพร้าว จตุจักร บางซื่อ เป็นต้น

ซึ่งถ้าหากว่า ผู้ใช้บริการ รถหกล้อรับจ้าง กทม ต้องการอยากจะได้รถด่วน จะต้องทำการจองคิวรถก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมงเพื่อที่จะให้รถเตรียมตัวและวิ่งเข้าไปสู่หน้างานได้ทันเวลา

รถหกล้อรับจ้าง ชลบุรี
จังหวัดชลบุรีถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีผู้ให้บริการ รถหกล้อรับจ้าง ชลบุรี เป็นจำนวนมากเนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมากมี ท่าเรือแหลมฉบังจึงทำให้มีการเรียกใช้บริการขนย้ายของไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายสินค้า ขนย้ายอาหารทะเล รวมไปจนถึงการ ขนย้ายบ้าน ซึ่งเขตพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นตัวเมืองชลบุรี บางแสน ศรีราชา สัตหีบ พัทยา บางละมุง และอำเภอต่างๆของจังหวัดชลบุรีซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ที่มีการเรียกใช้บริการ รถหกล้อรับจ้าง ชลบุรี เป็นจำนวนมาก

ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อประสานงานหรือโทรสอบถามกับผู้ให้บริการเพื่อต่อรองราคาค่าบริการได้ซึ่งมีผู้ให้บริการรถรับจ้างมากมายพร้อมจะให้บริการท่านอยู่แล้ว

รถหกล้อรับจ้าง พัทยา
เมืองท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีซึ่งได้แก่พัทยานั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายมี โรงแรม มีสถานบันเทิง มีร้านค้า มีหอพัก ซึ่งทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมากในเขตพื้นที่ดังกล่าวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว หรือผู้ประกอบการต้องการย้ายที่อยู่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือต้องการขนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นจำนวนมากในแต่ละวันจึงทำให้มีรถรับจ้างอย่าง เช่น รถหกล้อรับจ้าง พัทยา จำนวนมากมายและมีจุดจอดให้บริการในเขตทุกมุมเมืองของพัทยา

ดังนั้น สำหรับท่านใดที่มีความประสงค์อยากจะใช้บริการ รถหกล้อรับจ้าง พัทยา ก็ไม่ต้องกังวลใจเพราะพื้นที่ดังกล่าวมีรถให้ใช้ขนย้ายของจำนวนมากไว้ ให้บริการ

รถหกล้อรับจ้าง อยุธยา
จังหวัดอยุธยาเป็นหนึ่งจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพมากที่สุด ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็สามารถที่จะเดินทางไปถึงตัวเมืองอยุธยาได้ ด้วยจังหวัดอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่มีพื้นที่ทางการเกษตรมากมาย มีโรงงานอุตสาหกรรม มีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ

จึงทำให้มีผู้ให้บริการ รถหกล้อรับจ้าง อยุธยา เป็นจำนวนมากที่คอยจะ support และคอยส่งสินค้าให้กับโรงงานหรือการ ขนย้ายร้าน ขนย้ายบ้าน ให้กับผู้ประกอบการต่างๆ ดังนั้นสำหรับพื้นที่ดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มี รถ 6 ล้อรับจ้างอยุธยา จำนวนมากคอยให้บริการลูกค้าส่วนในเรื่องของราคาต้องลองสอบถามผู้ให้บริการโดยตรง

รถหกล้อรับจ้าง นนทบุรี
จะง่ายแค่ไหนถ้าเกิดว่ามีผู้ให้บริการขนย้ายของที่มี ทั้งรถและคนยกสินค้ามาพร้อมกับการให้บริการในการขนย้ายให้กับเราในแต่ละครั้ง นั่นเรากำลังหมายถึง รถหกล้อรับจ้าง นนทบุรี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายในระยะใกล้หรือขนของไปต่างจังหวัดสินค้ามีปริมาณมากน้อยขนาดไหนก็มีคนยกของไว้คอยบริการ
ดังนั้น รถหกล้อรับจ้าง นนทบุรี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรถรับจ้างที่มีความพร้อมมากๆในแต่ละเขตพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น บางใหญ่ บางบัวทอง บางกรวย งามวงศ์วาน ปากเกร็ด ซึ่งพื้นที่ต่างๆเหล่านี้มีการให้บริการขนย้ายของเป็นจำนวนมากทั้งสินค้าโรงงานเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรม ต้นไม้ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอพักคนย้ายคอนโด

ท่านใดที่มีความประสงค์ต้องการจะขนย้ายของในปริมาณที่มากเรียกใช้ รถ 6 ล้อรับจ้างนนทบุรี ใต้ทันทีโดยโทรเข้าไปสอบถามหรือจองคิวล่วงหน้าไว้ได้เลย

รถหกล้อรับจ้าง ลพบุรี
รถหกล้อรับจ้าง ลพบุรี มีบริการเสริมอื่นๆให้แก่ลูกค้าพร้อมทั้งฟรีค่าประกันสินค้าตลอดการขนย้าย รถหกล้อรับจ้าง ลพบุรี มีบริการเสริมให้แก่ลูกค้า เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการขนย้ายในแต่ละครั้งพร้อมทั้งได้ราคาที่ประหยัด จะช่วยให้การ ขนย้ายสินค้าของลูกค้ามีความง่ายรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยของการยก อุปกรณ์แสริม อาทิ เช่น รถเข็นต่างๆเพื่อให้การขนย้ายนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรวดเร็วในการขนย้ายอีกทั้งยังประหยัดในส่วนของด้านเวลาและประหยัดในส่วนของราคาได้มากกว่าเดิม

รถหกล้อรับจ้าง ระยอง
แหล่งรถติด พื้นที่แออัด ถนนแคบ ลูกค้าต้องการขนย้ายของ ขนย้ายบ้าน หอพัก คอนโด ย้ายห้องเช่า แต่ไม่อยากขนเองเพราะกลัวจะยุ่งยาก สามารถใช้ รถหกล้อรับจ้าง ระยอง ได้ง่าย โดยผู้เชี่ยวชาญและเจ้าของขับเองจะมีความระมัดระวังให้เป็นพิเศษ ขนย้ายง่าย สะดวกต่อลูกค้า ไม่ว่าจะพื้นที่ไหน จะมีความยากเท่าไหร่ก็ตามยังไงก็ง่ายต่อการขนย้ายแน่นอน สามารถใช้บริการจองคิว รถหกล้อรับจ้าง ระยอง ได้ทันทีมีคนยก รถเข้าหน้างานได้ไง และสามารถเลี่ยงการจราจรรถติดเพื่อทำเวลาการขนย้ายได้ดีเยี่ยม

รถหกล้อรับจ้าง ขนย้ายทั่วไทย อยู่ที่ไหนก็หา รถรับจ้าง ราคาถูกได้ทุกเที่ยว อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

78
หยุดยาวปีใหม่เที่ยวกันเต็มที่ ยังไม่พร้อมทำงาน แต่ต้องหอบร่างมาเพราะวันหยุดหมดลงแล้ว พาลทำให้ไม่มีแรงไม่กระปรี้กระเปร่า หมดไฟเอาซะดื้อๆ ได้เครื่องดื่มอร่อยๆแก้ง่วงสักแก้วคงดีไม่น้อย ลองเช็กดูค่ะ ว่ามีแก้วโปรดของคุณอยู่ในลิสต์เหล่านี้ไหมนะ

ทำงานวันแรกหลังหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ ดูเหมือนว่า หลายคนจะยังปรับตัวไม่ได้ ง่วงหาว อยากนอนอยู่บ้านต่อ แต่ก็ต้องหอบร่างมาทำงาน แต่อาการไม่กระปรี้กระเปร่า ก็พาลไม่มีสมาธิทำงานเอาซะเลย ทำเอาหมดไฟกันง่ายๆ งั้นลองหาเครื่องดื่มแสนอร่อยสักแก้วมาเพิ่มพลังการทำงานยามบ่าย เติมเชื้อเพลิงในการทำงานกันค่ะ


กาแฟดำ

แน่นอนค่ะ กาแฟยังเป็นตัวเลือกต้นๆ เพราะคาเฟอีนในกาแฟทำให้ตาสว่าง กระปรี้ประเปร่า บอกลาความอ่อนล้า ลดอาการตึงเครียด

สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท ลดอาการหลง ๆ ลืม ๆ ได้ แต่ควรเลี่ยงในน้ำตาล นม หรือครีมเทียมนะคะ เพราะอาจจะให้ผลตรงกันข้าม อย่างที่บอกว่ากาแฟนั้นมีคาเฟอีนช่วยให้ตื่นตัวได้ ฉะนั้นอย่าเผลอกินหลัง 14.00 น. นะคะ ไม่งั้นคืนนี้อาจนอนไม่หลับเกิดอาการเหนื่อยสะสมเรื้อรังขึ้นไปอีกนะคะ ทั้งนี้ผู้มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณของกาแฟที่จะได้รับในแต่ละวัน ซึ่งปกติ “กาแฟดำ” เพรียวๆ ควรบริโภคไม่เกิน 4 แก้วต่อวัน หรือรับคาเฟอีนได้ไม่เกิน 300-400 มิลลิกรัมต่อวัน นะคะ


โกโก้ หรือ ดาร์คช็อคโกแลตอุ่นๆ

แน่นอนว่า เรายังคงคอนเซ็ป ไม่น้ำตาล ไม่ครีมเทียม นมที่ใส่ก็ต้องไม่หวานน้ำตาลน้อยๆ อีกทั้งใครที่ไม่ใช่แฟนคลับกาแฟ เครื่องดื่มโกโก้ร้อนก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ตื่นตัวกับกลิ่นหอมๆ กับรสชาติที่ขมปลายลิ้น  สารความสุขในโกโก้หรือช็อคโกแลตจะช่วยให้เราสดชื่นดูตื่นได้และแฮปปี้ไปกับการทำงาน กิจกรรมต่างๆ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยของฟลาโวนอยด์และสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ โกโก้ ยังสามารถปรับจุลินทรีย์ในลำไส้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังได้หลายอย่าง รวมถึงมะเร็งบางชนิด ช่วยลดการอักเสบและความเครียด  ปรับสมดุลอารมณ์ให้ดีขึ้น ดีต่อสุขภาพจิต ลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย ใครหมดไฟยามบ่ายแบบนี้ โกโก้ร้อนสักแก้วรับรองตื่นค่ะ!

"โกโก้" เครื่องดื่มใจฟู! ช่วยปรับสมดุลอารมณ์-ปกป้องสมองและหัวใจ


ชาเขียว ชาสมุนไพร อุ่นๆ

กลิ่นหอมอ่อนๆ และรสชาติฝาดลิ้นปลายๆ จะทำให้คุณผ่อนคลายและมีแรงในการทำงาน อีกทั้งยังมีสรรพคุณของสมุนไพรที่น่าชื่นใจ มีตัวเลือกที่น่าสนใจ อย่าง ชามิ้นต์,ชาแอปเปิ้ล,ชามะนาว,ชาใบหม่อนและแน่นอนชาเขียว ชาอูหลง ชาแดง และชาดำ ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องดื่มแก้วโปรดของหลายคน ซึ่งมีคาเฟอีนที่น้อยกว่าครึ่งแต่สมชื่นและตื่นตัวไม่แพ้กาแฟเลยนะคะ

วิจัยพบ “ชาเขียว” ต้านอนุมูลอิสระลดการอักเสบบรรเทาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์


น้ำขิง

อีกหนึ่งเครื่องดื่มสมุนไพร ที่นับเป็นยาอายุวัฒนะ มีฤทธิ์ร้อนด้วยกระตุ้นร่างกายให้สดชื่น รักษาอาการปวดศีรษะได้ทั้งชนิดปวดแบบสองข้าง และข้างเดียวหรือไมเกรน สารเคมีที่อยู่ในขิงจะสามารถปรับสารไอโคซานอยด์ ทำให้อาการปวดศีรษะบรรเทาลงได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักด้วยนะคะ หากทานยากไปหน่อย สามารถใส่น้ำผึ้ง(เล็กน้อย)และมะนาวลงไปได้นะคะ


น้ำเปล่า

เครื่องดื่มง่ายๆ แคลอรีเป็นศูนย์ จิบบ่อยแก้อาการดับกระหายได้ทั้งวัน ช่วยให้เราสดชื่นได้กระปรี้กระเปร่าไม่ง่วงหาวระหว่างวัน ให้กระตุ้นการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายให้ทำงานได้ดี  ลองดื่มน้ำอุ่นๆสักแก้ว รับรองมีแรงทำงานแน่นอนค่ะ

ทั้งนีเครื่องดื่มทุกชนิดควรเลี่ยงน้ำตาลนะคะ เพราะน้ำตาล ถือเป็นตัวร้ายของสุขภาพ การบริโภคอาจทำให้ตื่นตัวในระยะสั้นๆ แถมยิ่งกินมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งง่วงมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งหากติดหวานโรคภัยก็จะตามเราเป็นเงาตามตัว  หากง่วงไม่ไหวอะไรก็ฉุดไม่อยู่ อนุญาตให้พักสายตา 10-15 นาที ลุกขึ้นมาเดินแกว่งแขนออกกำลังลดความเครียดในการทำงาน ที่สำคัญกลับไปคืนนี้อย่าลืมนอนให้เต็มอิ่มเลี่ยงอาหารเย็นมื้อหนักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนอนด้วยนะคะ สุดท้ายเป็นกำลังใจให้คนทำงานนะคะ

 

เครื่องดื่มแก้ง่วงยามบ่าย เติมไฟเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าในการทำงาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

79
หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนสกรุ๊ป (ประเทศไทย) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่ต้องมีดีไวซ์มากกว่า 1 เครื่อง เพื่อรับมือกับยุค remote working และเรียนออนไลน์ได้แบบมือโปร มอบข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อซื้อสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์แท็บเล็ต ได้แก่ HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch, HUAWEI MatePad 11, HUAWEI MatePad และ HUAWEI MatePad T 10 รับทันทีของแถมโดนใจมูลค่ารวมสูงสุด 12,538 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ถึง 21 ตุลาคม 2564 ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการเท่านั้น
 
HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch พี่ใหญ่ในตระกูลแท็บเล็ต มอบประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับในทุกด้าน

HUAWEI MatePad Pro 12.6-inch แท็บเล็ตเรือธง จอ OLED HUAWEI FullView Display ขนาดใหญ่ 12.6 นิ้ว ความละเอียด 2K สะท้อนสีของภาพได้แม่นยำ ตัวเครื่องทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน มีผิวสัมผัสด้านใช้แล้วไม่ติดรอยนิ้วมือ มาพร้อมสเปคแรง อัดแน่นทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างดีไวซ์ผ่าน HUAWEI Share ฟีเจอร์ HUAWEI Multi-screen Collaboration ที่ประสานการทำงานกับแล็ปท็อป ช่วยให้ทำงานได้เหมือนทำงานบนคอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป หรือ App-Multiplier ที่เข้ามาช่วยให้การท่องแอปฯ ของคุณเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น เพราะสามารถเปิดแอปฯ แบบสองหน้าต่างได้พร้อมกัน รองรับทั้งการทำงาน เรียนรู้ และสร้างความบันเทิงได้อย่างครบถ้วน วางจำหน่ายในสี Matte Grey ราคา 28,990 บาท พร้อมรับฟรีทันที! HUAWEI Smart Magnetic Keyboard มูลค่า 6,590 บาท, HUAWEI M-Pencil (2nd generation) มูลค่า 4,490 บาท, HUAWEI Cloud 3 เดือน (50GB) มูลค่า 99 บาท, HUAWEI VDO VIP 1 เดือน มูลค่า 199 บาท, WPS Office VIP 3 เดือน มูลค่า 438 บาท, FilmoraGo HD VIP 3 เดือน มูลค่า 211 บาท, HUAWEI Music VIP 3 เดือน มูลค่า 387 บาท, Jnotes VIP 6 เดือน มูลค่า 124 บาท และ Touchnote VIP 3 เดือน รวมมูลค่าถึง 12,538 บาท เมื่อซื้อที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการเท่านั้น ตั้งแต่ วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ถึง 21 ตุลาคม 2564
 
HUAWEI MatePad 11 กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการทำงาน และบาลานซ์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว
 
HUAWEI MatePad 11 แท็บเล็ตทำงานน้องใหม่ ดีไซน์พรีเมียม และเป็นแท็บเล็ตตัวแรกของหัวเว่ยที่มาด้วยค่ารีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120 Hz ประมวลผลภาพลื่นไหลทันใจไม่มีสะดุด สนุกได้แม้เล่นวิดีโอความละเอียดเยอะ หรือเกมที่มีอัตราเฟรมสูง แสดงผลได้เต็มตาด้วยหน้าจอ ขนาด 10.96 นิ้ว หน้าจอ HUAWEI FullView Display แบบ IPS และยังสามารถสู้แสงได้อย่างดี รองรับการทำงานแบบ Multi-tasking ได้หลากหลายรูปแบบผ่านฟีเจอร์การประสานงานข้ามดีไวซ์ เช่น ทำงานร่วมกับแล็บท็อปกับฟีเจอร์ HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop หรือทำงานมากกว่า 1 อย่างในแท็บเล็ตเดียวผ่าน Multiple WPS files on one screen ที่สามารถเปิดเอกสารได้จุใจถึง 50 ไฟล์ได้พร้อมกัน ประหยัดเวลาในการทำงานด้วยการเปิดไฟล์งานสองฉบับได้แบบสองหน้าจอ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อไร้สายกับอุปกรณ์เสริมอัจฉริยะได้ทั้ง ปากกา เมาส์ และคีบอร์ดอีกด้วย รุ่นนี้อัดโปรฯ

HUAWEI MatePad 11 สี Matte Grey พร้อม HUAWEI M-Pencil (2nd generation) บรรจุภายในกล่อง มาในราคา 19,990 บาท รับไปเลยของสมนาคุณฟรี HUAWEI Smart Magnetic Keyboard มูลค่า 5,290 บาท และสิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 3 เดือน (50GB), HUAWEI Video VIP 1 เดือน, WPS Office VIP 3 เดือน, FilmoraGo HD VIP 3 เดือน, HUAWEI Music VIP 3 เดือน, Jnotes VIP 6 เดือน และ Touchnote VIP 3 เดือน รวมมูลค่า 6,684 บาท
HUAWEI MatePad 11 สี Isle Blue มาในราคาสุดคุ้มเพียง 15,990 รับไปเลยของสมนาคุณ Huawei M-Pencil (2nd generation) มูลค่า 4,490 บาท และสิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 3 เดือน (50GB), HUAWEI Video VIP 1 เดือน, WPS Office VIP 3 เดือน, FilmoraGo HD VIP 3 เดือน, HUAWEI Music VIP 3 เดือน, Jnotes VIP 6 เดือน และ Touchnote VIP 3 เดือน รวมมูลค่า 5,884 บาท
 

HUAWEI MatePad ตัวช่วยปลดปล่อยความคิดที่แปลกใหม่อย่างไร้ขีดจำกัด

HUAWEI MatePad แท็บเล็ตสายครีเอเตอร์ เพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์งานให้ผู้ใช้ด้วยหน้าจอแสดงผลด้วย HUAWEI FullView Display ขนาด 10.4 นิ้ว มอบอิสระด้วยสีสันที่สดใสและกราฟิกอันน่าทึ่งผ่านความละเอียด 2K พร้อมรองรับการใช้งาน HUAWEI M-Pencil และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ผ่าน HUAWEI Share นำเสนอสุนทรียภาพทางเสียงดนตรีขั้นสูง เพราะการันตีระบบเสียงอันคุณภาพด้วย harman/kardon กับลำโพงทั้งหมด 4 ตัว ทั้งยังประมวลผลไวเป็นที่หนึ่งด้วยชิปประมวลผล HUAWEI Kirin 810 โปรเซสเซอร์ 7nm. รองรับ microSD สูงสุด 512GB พร้อมประสิทธิภาพ AI ที่ปรับปรุงใหม่ วางจำหน่ายแล้วในรุ่น 4G ขนาดหน่วยความจำ 4GB + 64GB สี Midnight Grey ในราคา 11,990 บาท พร้อมของฟรีทันทีทั้ง HUAWEI Smart Magnetic Keyboard มูลค่า 2,290 บาท และสิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 3 เดือน (50GB), HUAWEI Video VIP 1 เดือน, HUAWEI Music VIP 3 เดือน, Jnotes VIP 6 เดือน และ Touchnote VIP 3 เดือน รวมมูลค่า 3,035 บาท เมื่อซื้อที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการเท่านั้น ตั้งแต่ วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ถึง 21 ตุลาคม 2564
 

HUAWEI MatePad T 10 แท็บเล็ตรุ่นเล็กที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว

ท้ายสุด HUAWEI MatePad T 10 แท็บเล็ตน้องเล็กหน้าจอ HD ขนาด 9.7 นิ้ว น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก รองรับเทคโนโลยีเสียง HUAWEI Histen 6.1 พร้อมเอาใจบ้านที่มีเด็กน้อยด้วยฟีเจอร์เสริมทักษะการเรียนรู้ Kid’s Corner พร้อมโหมดการใช้งานที่ช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้งานอย่างโหมดสบายตาที่จะช่วยลดแสงสีฟ้าบนหน้าจอ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องมากขึ้น ควบคู่กับฟังก์ชันที่ช่วยเหลือการทำงานของฝั่งผู้ปกครองให้สะดวกสบายกว่าเดิมอย่าง App Multiplier เปิดใช้งานสองหน้าจอในหนึ่งแอปฯ ได้พร้อมกัน วิดีโอคอลคุณภาพสูงผ่าน MeeTime และส่งข้อมูลไปมาข้ามดีไวซ์แบบไร้รอยต่อได้อย่างรวดเร็วด้วย HUAWEI Share วางจำหน่ายแล้วสำหรับ HUAWEI MatePad T 10 หน่วยความจำ 2GB + 32GB (รุ่น WiFi) สี Deep Sea Blue

mobile expo:หัวเว่ยส่งแคมเปญ HUAWEI MatePad Carnival ขนขบวนแท็บเล็ตมาให้ช้อปจุใจ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobileexpo/

80
ก่อนที่จะใส่เครื่องมือจัดฟันจำเป็นที่จะต้องทำการตรวจฟันเพื่อ

    ขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันให้เรียบร้อยเพื่อให้คนไข้มีสุขภาพเหงือกที่ดีก่อนทำการจัดฟัน ในรายที่เป็นโรคเหงือกจำเป็นที่จะต้องรักษาโรคเหงือกให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำการใส่เครื่องมือจัดฟัน
    ตรวจรอยผุในช่องปากและทำการบูรณะฟันให้เรียบร้อยก่อนใส่เครื่องมือจัดฟัน ในระหว่างการจัดฟันหากพบรอยผุเพิ่มเติมจะบูรณะฟันได้ยาก ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องถอดเครื่องมือเพื่อมาบูรณะฟันทำให้การรักษาล่าช้าออกไป การบูรณะฟันส่วนใหญ่ก็เป็นการอุดรอยผุ ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องมีการทำครอบฟันซึ่ง อาจทำเป็นครอบพลาสติกแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นครอบถาวรหลังจัดฟันเสร็จ หรืออาจทำเป็นครอบถาวรไปเลยแล้วแต่กรณี
    ถอนฟันซี่ที่ทันตแพทย์จัดฟันวางแผนให้ถอนฟันออก เช่นการผ่าฟันคุดออก หรือถอนฟันกรามน้อยในกรณีที่ต้องการหาเนื้อที่ในการเคลื่อนฟัน เช่นในกรณีที่มีฟันซ้อนเกบริเวณฟันหน้า


ข้อดี ข้อเสียของการจัดฟัน


ข้อดีของการจัดฟัน

    การจัดฟันทำให้ฟันของคนไข้มีสุขภาพฟันและการสบฟันดีขึ้น เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมีการจัดฟัน คนไข้จะต้องตรวจเช็คสภาพฟันกับทันตแพทย์ที่จะทำการจัดฟันเช่น การอุดฟัน การผ่าฟันคุด การขุดหินปูน และการรักษาฟันผุ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพในช่องปากก่อนรับการจัดฟัน
    เมื่อจัดฟันเสร็จแล้วจะทำให้การเคี้ยวหรือการสบฟันดีขึ้นเนื่องจากจริงๆแล้วการจัดฟันจะช่วยทำให้การสบฟันของเราดีขึ้น ซึ่งจะช่วยในการเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น
    การจัดฟันอาจจะมีส่วนในการช่วยทำให้โครงหน้าเปลี่ยนให้ดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่านการศัลยกรรม รวมถึงทำให้สร้างบุคลิกภาพของเราให้ดีขึ้น ทำให้คนไข้มีความมั่นใจในการยิ้มมากขึ้น

 

ข้อเสียของการจัดฟัน

    เมื่อคนไข้จัดฟันแรกจะมีปัญหาที่กินอาหารอะไรแข็งๆหรือเหนียวๆมากไม่ได้ เนื่องจากกลัวตัว Bracket หลุด เวลาจะทำความสะอาดหรือแปรงฟันอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิมเพื่อทำให้ฟันสะอาด
    ใช้เวลานานในการจัดฟัน เนื่องจากการจัดฟันจะต้องติดเครื่องมือไว้ตลอดเวลา อาจทำให้มีความรำคาญในเครื่องมือในช่วงแรกๆที่ทำการจัดฟัน
    แปรงฟันยากและใช้เวลานานกว่าปกติ เนื่องจากจะต้องทำการแปรงในช่วงของ Bracket เพิ่มขึ้นด้วยจากปกติ จึงทำให้การแปรงฟันต้องใช้เวลาและให้ความสำคัญมากกว่าคนปกติ ซึ่งถ้าหากคนไข้แปรงฟันหรือรักษาสุขภาพฟันไม่ดี จะมีโอกาสทำให้เกิดฟันผุ ฟันเหลือง และเป็นโรคเหงือกได้ง่ายกว่าคนปกติ

ข้อควรปฏิบัติในระหว่างการจัดฟัน

    ไม่ควรกินอาหารที่มีความเหนียวหรือแข็งมากจนเกินไปเพราะมีโอกาสที่จะทำให้เครื่องมือหลุดและต้องใช้เวลามากขึ้นในการจัดฟัน
    ดูแลรักษาสุขภาพฟันโดยการแปรงฟันให้สะอาด เพื่อให้มีสุขภาพเหงือกที่ดีและไม่มีฟันผุเพิ่มเติมในระหว่างการจัดฟัน และควรทำความสะอาดรอบๆ Bracket ให้ดีเพราะมักพบเสมอๆว่าหลังถอดเครื่องมือจะมีรอยผุ หรือรอย Decalcify เป็นรอยๆขาวๆรอบๆ Bracket ทำให้ฟันไม่สวยงามได้
    ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์โดยเคร่งครัด เช่นการเกี่ยวยาง  การใส่เครื่องมือขยายขากรรไกร การกลืนน้ำลายที่ถูกวิธี เป็นต้น
    มาพบทันตแพทย์ตามระยะการรักษาอย่างเคร่งครัด

วิธีการแปรงฟันและทำความสะอาดฟันในคนไข้จัดฟัน

การแปรงฟันในคนไข้จัดฟันก็เหมือนกับคนไข้โดยทั่วไป แต่จะมีการเพิ่มเติมในการแปรงบริเวณ Bracket และลวดจัดฟัน มีการใช้ Dental Floss ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษเช่น Floss Threader เพื่อนำ Dental Floss ลอดเข้าใต้ลวดก่อนใช้ไหมขัดฟัน และมีการใช้ Proxabrush เพิ่มเติมเพื่อให้ทำความสะอาดบริเวณ Bracket ให้ดียิ่งขึ้น รายละเอียดการแปรงฟันและการทำความสะอาดฟันในคนไข้จัดฟันมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. แปรงฟันเหมือนบุคคลทั่วไปตามขั้นตอนต่อไปนี้

- วางแปรงทำมุม 45 องศากับตัวฟันบริเวณขอบเหงือก ขยับแปรงในแนวหน้าหลังสั้นๆเบาๆไม่ให้พ้นซี่ฟัน เพื่อเน้นการทำความสะอาดที่คอฟันและบริเวณขอบเหงือก แล้วปัดแปรงไปทางด้านบดเคี้ยว หรือปลายฟัน แปรงทั้งด้านนอกและด้านในของฟันจนทั่วทั้งปาก

-  แปรงฟันด้านบดเคี้ยว โดยวางแปรงบนด้านบดเคี้ยว และแปรงในแนวหน้า-หลัง จนฟันสะอาด

2. แปรงเครื่องมือจัดฟันบริเวณ Bracket และลวด ด้วยการวางขนแปรงลงบน Bracket จากนั้นขยับแปรงหมุนรอบๆ Bracketในช่วงสั้นๆ และเน้นการแปรงเครื่องมือเหนือลวดและใต้ลวดอย่างทั่วถึง จนครบทุกซี่ฟัน

3. ใช้ Proxabrush ช่วยแปรงรอบๆ Bracket ในส่วนที่การแปรงฟันอาจเข้าไม่ถึง

4. ใช้ Dental floss ทำความสะอาดระหว่างซี่ฟัน และอาจใช้ทำความสะอาด Bracket เพิ่มเติม โดยการใช้เครื่องมือ Floss Threader ร้อย Dental floss เข้าใต้ลวดจัดฟัน เพื่อให้ผ่านเข้าไประหว่างซี่ฟันได้

 
ฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน

จริงๆแล้วในอดีต การจัดฟันจะมุ่งเน้นเพื่อแก้ไขให้คนไข้ที่มีความผิดปกติของการสบฟันให้มีการสบฟันที่ดีเป็นหลัก ซึ่งการสบฟันที่ดีนั้นย่อมทำให้เกิดความสวยงามของฟันและรอยยิ้มควบคู่ไปด้วย ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าการจัดฟันโดยส่วนใหญ่จะมักจะเน้นไปทางด้านความสวยงามมากกว่า และแน่นอนทันตแพทย์จัดฟันที่ดีก็จะมุ่งเน้นให้คนไข้ได้ทั้งความสวยงามของรอยยิ้ม รูปหน้าควบคู่ไปกับการสบฟันที่ดีด้วย ฟันแบบไหนที่ควรจัดฟันก็จะหมายถึงฟันรูปแบบต่างๆที่ไม่สวยงามหรือมีความปกติของการสบฟันดังต่อไปนี้

    ฟันซ้อนเก ไม่ว่าจะในบริเวณฟันหน้าหรือฟันหลัง
    ฟันที่มีช่องห่างระหว่างฟันไม่สวยงาม ในกรณีที่มีช่องห่างระหว่างฟันซึ่งเกิดจากการมีขนาดฟันเล็กในขากรรไกรใหญ่อาจต้องปรึกษาทันตแพทย์ที่ดูแลเรื่องการบูรณะฟันเข้าร่วมด้วย บางครั้งอาจไม่มีความจำเป็นต้องจัดฟัน เพียงแต่สร้างฟันให้ใหญ่ขึ้นเพื่อปิดช่องว่างระหว่างฟัน บางครั้งการจัดฟันให้ช่องระหว่างฟันสมมาตรเหมาะสมก่อนการบูรณะฟันจะทำให้ได้ผลการรักษาที่สวยงามยิ่งขึ้น
    มีฟันบนยื่นกว่าฟันล่างมาก (Class II malocclusion)
    มีฟันล่างยื่นมากกว่าฟันบน (Class III malocclusion)
    มีฟันล่างสบลึกเข้าไปในฟันบน (Deep bite)
    มีฟันหน้าบนและล่างไม่สบกัน (Open bite)


การเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

81
“การสร้างแบรนด์
ก็เหมือนกับ
การสร้างพื้นที่ทำธุรกิจของคุณเอง
ถ้าคุณไม่สร้างแบรนด์ เท่ากับว่าวันนี้คุณไม่มีพื้นที่ในการทำธุรกิจ“

ครูแมกซ์
“สอนสร้างแบรนด์
สอนทำธุรกิจออนไลน์”

“การสร้างแบรนด์”
ไม่ใช่แค่การทำให้สินค้าดูสวยงาม หรือการทำโลโก้กับสีสันที่ดึงดูดเท่านั้น แต่มันคือศิลปะในการสร้างเสน่ห์ที่ลูกค้าไม่อาจต้านทานได้ มันเหมือนการทำเวทมนตร์ ซึ่งไม่ต้องการไม้กายสิทธิ์ หรือหมวกวิเศษ แต่ต้องการความเข้าใจในลูกค้าและการสื่อสารที่ตรงจุด
สมมติว่าคุณกำลังขายกาแฟ ลองนึกภาพนี้สิ…
คุณไม่ได้แค่ขายกาแฟ แต่คุณกำลังขายช่วงเวลาแห่งความสุข
บทสนทนาที่ดี และความรู้สึกที่อบอุ่นใจ ทุกครั้งที่ลูกค้าหยิบถ้วยกาแฟของคุณ
พวกเขาไม่ได้แค่ดื่ม แต่พวกเขากำลังดื่มด่ำกับเรื่องราวที่คุณเล่า
.
แบรนด์ที่ดี คือแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้าจำได้ ไม่ว่าจะผ่านงานโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดนใจ หรือแม้กระทั่งการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ ทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบในการสร้างแบรนด์ที่สำคัญทั้งนั้น
แบรนด์ที่สามารถเล่าเรื่องราวที่ตรงใจและสร้างความแตกต่าง  จะเป็น แบรนด์ที่มีความมั่นคงและยั่งยืนในตลาด และนั่นคือเหตุผลที่การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นศิลปะแห่งการเชื่อมต่อกับใจคนอย่างแท้จริง

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://www.facebook.com/Krumax181026
เว็บไซด์ : https://businesssmarttools.com/
เบอร์โทร : 093-962-6545



82
รับออกแบบบ้าน
รับออกแบบบ้าน ตามความต้องการ
และงบประมาณ ของเจ้าของบ้าน
ฟังก์ชั่นครบ ดีไซน์สวย สร้างได้จริง
ปรับแบบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

รับสร้างบ้าน
รับสร้างบ้าน และควบคุมงานโดยทีมสถาปนิก-วิศวกร
ที่มีใบอนุญาต ทีมงานประสบการณ์สูง
เราเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมรับประกันความพึงพอใจ
บ้านสวย แข็งแรง ทนทาน เสร็จตรงตามเวลา
งบประมาณไม่บานปลาย
กว่า 20 ปี กับงานบริการ

บริษัทรับสร้างบ้าน และออกแบบบ้าน รับประกันคุณภาพมาตรฐานบ้านทุกหลัง


BEST BUILD DESIGN AND CONSTRUCTION
บริษัท เบสท์ บิลด์ ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (สำนักงานใหญ่)
148/2 ซอยปราโมทย์ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000
โทร. 0997829415


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
Page FB : https://www.facebook.com/AiForRealEstate
เว็บไซด์ : https://luxuryhomesdesigns.com/
เบอร์โทร : 099-782-9415



83
รับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกประเภท
บริการจริงใจ ใส่ใจลูกค้า ราคายุติธรรม
รับผลิตและแนะนำรูปแบบชุดยูนิฟอร์มบริษัท อาทิเช่น เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดโปโล ชุดช็อป เสื้อแจ๊กเก็ต และ ชุดยูนิฟอร์มพนักงานในสำนักงาน โดยสามารถสั่งตัดตามไซส์ของแต่ละบุคคลได้ รวมถึงสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ เช่น ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า หมวก เป็นต้น

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน “ยูนิฟอร์ม” หรือ Uniform ในภาษาอังกฤษคือเสื้อผ้าหรือชุดที่พนักงานหรือกลุ่มคนบางๆ สวมใส่เพื่อแสดงตัวตนหรือตำแหน่งที่มีอยู่ เพื่อความสะดวกในการระบุและการระบายตัวเองในบริบทที่ต่างๆ ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานมักจะมีการออกแบบเพื่อสอดคล้องกับลักษณะงานและศิลปะแบรนด์ขององค์กรหรือธุรกิจที่ต่างกันไปได้ เช่น ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานโรงแรมจะแตกต่างกับชุดยูนิฟอร์มของพนักงานในโรงงานผลิตสินค้า หรือพนักงานบริการในร้านค้า
การออกแบบชุดยูนิฟอร์มมักเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับการสื่อสารและการติดต่อระหว่างพนักงานและลูกค้า การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและการออกแบบที่สวยงาม เป็นต้น
การตัดต่อยูนิฟอร์มขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจหรือกิจการ การให้ความสำคัญกับความสะอาดและการบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาคุณภาพของยูนิฟอร์มให้ดูดีและสวยงามตลอดเวลาในการใช้งานประจำวันของพนักงานทุกคนในองค์กรหรือธุรกิจนั้นๆ
ยูนิฟอร์ม (Uniform) เป็นชุดเครื่องแบบที่พนักงานสวมใส่เพื่อแสดงตัวตนและตำแหน่งของพวกเขาในองค์กรหรือธุรกิจ เขาแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงของพนักงานกับบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ
ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและบริษัท ยกตัวอย่างเช่น:
ในโรงแรม พนักงานบริการอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่ประกอบไปด้วยเสื้อโปโลและกางเกงขายาวหรือกระโปรง
ในธุรกิจทางการแพทย์ พวกเขาอาจสวมเสื้อคลุมเพื่อป้องกันและอุ่นใจให้กับผู้ป่วยและลูกค้า
ในธุรกิจแห่งการบิน พนักงานสายการบินอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่รวมถึงเครื่องแต่งกายสมบูรณ์ รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายพิเศษเพื่อเน้นความสวยงามและความเรียบร้อย
ชุดยูนิฟอร์มมักจะถูกออกแบบเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กร และมักจะมีการกำหนดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถระบุและรู้จักพนักงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมองเห็นชุดยูนิฟอร์มที่สวมใส่และการปฏิสัมพันธ์กับพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์กรนั้น ๆ อย่างมั่นใจได้ในการตอบสนองและบริการลูกค้าในทางที่เหมาะสมและมีคุณภาพ

ทางบริษัทจัดนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าอย่างละเอียด จนลูกค้าเข้าใจและสามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา และพึงพอใจ ตามที่ลูกค้าต้องการ
สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : uniform
โทร      : 02-583-7598
E-mail  : casuniform@yahoo.com
เว็บไซด์: https://uniformdeluxe.com/



84

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







85
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/






86
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

“ออน (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) (ตราเอ็มเมด) เติมพลังให้ชีวิต”
สมองและใจที่ดี มันต้องไปกับร่างกายที่พร้อม
ด้วยภารกิจที่แสนจะหนักหน่วง ใจพร้อมแต่บางทีร่างกายมันไม่พร้อมไปด้วย เหนื่อยล้าเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
MMED สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน”
ชื่อผลิตภัณฑ์
: ออน
เลขที่ใบรับแจ้ง
: 13-1-15859-5-1159
ขนาดบรรจุ
: 1 กล่อง (7 ซอง)
วิธีรับประทาน
: รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม) เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยวก่อนกลืนและดื่มน้ำตาม
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
: ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานโดย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ส่วนประกอบสำคัญ
: L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.
คุณประโยชน์
: กระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกายด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


87
เชื้อร้าย ฝุ่น มลภาวะเปลี่ยนปอดพัง เป็นปอดปัง ตัวช่วยสำคัญ “กระชายพลัส เอ็มเมด”บรรเทาอาการนอนน้อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย

คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ สาร Pandulatin A และสาร Pinostrobin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสได้ 100%

จากงานวิจัยกระชาย มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณรู้หรือไม่!!! สารสกัดกระชาย 4 ชนิด คือสาร Pinostrobin, Pinicembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วย ที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้

จากงานวิจัยกระชาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
✅ คุณประโยชน์ของสารสกัดกระชายขาว ที่ช่วยลดและยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ในอากาศได้
✅ เมื่อปอดแข็งแรง การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนจากลมหายใจเข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ผลิตเป็นพลังงานให้กับเซลล์
✅ และกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์ จึงส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี เราจึงไม่เหนื่อยหอบง่าย ไม่อ่อนเพลีย
“กระชายพลัส เอ็มเมด” โดยมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อการมีสุขภาพดี ปอดแข็งแรง พร้อมเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาด
สุขภาพปอดดี จะวิ่ง จะเดิน จะเวท ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลีย

มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นความสำคัญของ สารสกัดกระชายขาว จึงได้วิจัย พัฒนา และ สกัดสารสำคัญของกระชายขาว ที่มีคุณภาพ
จึงเป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
ด้วยมาตรฐาน MST Standard จากมหาวิทยาลัยมหิดล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณทาน กระชายพลัส เอ็มเมดคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีคุณภาพ ในการช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรง ปอดมีสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ
???? สารสกัดกระชาย 200 มก.
???? ยีสต์ เบต้า-กลูแคน 70% 100 มก.
???? แคลเซียม แอสคอร์เบต ไดไฮเดรต (VitC) 60 มก.
???? วิตามิน บี1, วิตามิน บี6, วิตามิน บี12
1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล (470 มิลลิกรัม/แคปซูล)
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กระปุก      199    บาท
2 กระปุก      359    บาท
3 กระปุก     499     บาท


เลข อย. 13-1-02954-5-0548
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

ปัญหาฝุ่นพิษ และโรคติดต่อทางเดินหายใจ เชื้อโรคในอากาศ อีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ
“กระชายพลัส เอ็มเมด”
เพื่อการมี สุขภาพดี ปอดแข็งแรง ภูมิต้านทานที่ดี ของคุณและคนที่คุณรัก

สนใจสั่งซื้อ กระชายพลัส เอ็มเมด (กระชายมหิดล)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์: https://mmed.com/products/


88
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/




89
โรคซึมเศร้า (โรคซึมเศร้าหลัก) จัดเป็นโรคอารมณ์แปรปรวน* ที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกซึมเศร้าหดหู่อย่างรุนแรงกว่าปกติ เรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์ และมักมีความคิดอยากตาย ส่งผลให้มีอาการผิดปกติทางกาย ใจ และพฤติกรรมต่าง ๆ กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย

โรคซึมเศร้าพบได้ในคนทุกวัย อายุเฉลี่ยเมื่อเริ่มมีอาการครั้งแรกประมาณ 40 ปี

พบได้ประมาณร้อยละ 3 ของประชากรทั่วไป ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง (current prevalence) หรือร้อยละ 5-18 ของประชากรทั่วไปเมื่อติดตามไปชั่วชีวิต (lifetime prevalence)

พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 เท่า

*โรคอารมณ์แปรปรวน (mood disorders) เป็นภาวะผิดปกติทางอารมณ์ ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ซึมเศร้าหดหู่อย่างรุนแรงกว่าปกติ บางครั้งอาจมีอารมณ์ดีมากผิดปกติสลับกับอารมณ์ซึมเศร้า โรคกลุ่มนี้แบ่งออกเป็นชนิดย่อยได้หลายชนิด ดังนี้ 

1. โรคซึมเศร้าหลัก (major depressive disorder/MDD) นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า โรคซึมเศร้า เป็นโรคอารมณ์แปรปรวนที่พบได้บ่อย และมีความรุนแรงกว่าชนิดอื่น ๆ

2. โรคซึมเศร้าชนิดอ่อน (dysthymic disorder) เป็นภาวะซึมเศร้าที่มีอาการไม่รุนแรง แต่เรื้อรัง (นานอย่างน้อย 2 ปี) ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ปกติ เพียงแต่มีศักยภาพลดลง พบในเด็กโตและวัยรุ่น ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาแก้ซึมเศร้า แต่บางรายอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าหลักในเวลาต่อมาได้

3. โรคอารมณ์สองขั้ว (bipolar disorder หรือ manic-depressive disorder) เป็นความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ มักพบเป็นครั้งแรกในช่วงอายุ 15-24 ปี ผู้ป่วยจะมีระยะฟุ้งพล่าน (mania) สลับกับระยะซึมเศร้า เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ในระยะฟุ้งพล่าน ผู้ป่วยจะอารมณ์ดี ครื้นเครง ความคิดแล่นเร็ว มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงหรือหลงตัวเอง พูดมาก หงุดหงิดง่าย ทำกิจกรรมหลายอย่างมากกว่าปกติ นอนน้อย การรักษาในยาลิเทียม (lithium) ควบคุมอาการ

4. ภาวะซึมเศร้าที่เกิดจากโรคทางกาย เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย ต่อมพาราไทรอยด์ทำงานน้อยหรือมากเกิน โรคคุชชิง โรคแอดดิสัน พาร์กินสัน เอสแอลดี เอดส์ เป็นต้น โรคเหล่านี้อาจมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย หญิงหลังคลอดบางรายก็อาจมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้นชั่วคราวได้

5. ภาวะซึมเศร้าจากแอลกอฮอล์ สารเสพติด และยา เช่น รีเซอร์ฟีน เมทิลโดพา โพรพราโนลอล สตีรอยด์ ยาแก้ชัก ยานอนหลับ เมโทโคลพาไมด์ อินโดเมทาซิน เลโวโดพา ยารักษามะเร็งบางชนิด เป็นต้น

6. ภาวะซึมเศร้าจากความเครียดหรือปัญหาชีวิต เช่น การหย่าร้าง การสูญเสียคนรัก ความล้มเหลว ปัญหาสุขภาพ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจ็บป่วยร้ายแรง หรือเรื้อรัง) เป็นต้น มักจะมีอาการไม่รุนแรง และค่อย ๆ ดีขึ้นในเวลาไม่นาน แต่บางครั้งผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหลักก็อาจมีความเครียดหรือปัญหาชีวิตกระตุ้นให้กำเริบก็ได้ ซึ่งจะเป็นรุนแรงและเรื้อรัง

สาเหตุ

ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า พบว่ามีความผิดปกติของระบบการส่งผ่านประสาท (มีสารส่งผ่านประสาท เช่น นอร์เอพิเนฟรีน ซีโรโทนิน กรดแกมมาอะมิโนบูไทริกต่ำกว่าปกติ รวมทั้งมีความผิดปกติของตัวรับหรือรีเซปเตอร์ที่เกี่ยวข้อง) และประสาท-ต่อมไร้ท่อ (เชื่อว่ามีความผิดปกติของเซลล์สมองส่วนที่ควบคุมความคิด อารมณ์ การเคลื่อนไหวของร่างกายและการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ )

ความผิดปกติเหล่านี้อาจเกิดจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ รวมทั้งปัจจัยด้านจิตใจและสังคม

ด้านกรรมพันธุ์ พบว่าผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้ มีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าคนทั่วไป

ด้านจิตใจ พบว่าผู้ป่วยมักมีแนวคิดโน้มนำให้ตนเองซึมเศร้า เช่น มองโลกในแง่ร้าย มองตนเองในแง่ลบ มองเห็นแต่ความบกพร่องของตนเอง เป็นต้น

ด้านสังคม เช่น การหย่าร้าง การสูญเสียคู่ชีวิต อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคซึมเศร้า การมีคนคอยดูแลช่วยเหลืออาจมีส่วนช่วยให้อาการของโรคนี้ทุเลา

อาการ

ที่สำคัญ คือ ผู้ป่วยรู้สึกซึมเศร้าหดหู่ สะเทือนใจ และร้องไห้ง่าย บางครั้งอาจบอกว่ารู้สึกเบื่อหน่ายต่อสิ่งต่าง ๆ ไปหมด และจิตใจไม่รู้สึกสดชื่นเหมือนเดิม ความรู้สึกเหล่านี้จะเป็นอยู่เกือบทั้งวัน และติดต่อกันแทบทุกวัน เป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป ผู้ป่วยมักมีอารมณ์หงุดหงิด ทนเสียงดังหรือคนรบกวนไม่ได้ อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว

ผู้ป่วยมักมีอาการนอนไม่หลับ หรือนอนมากกว่าปกติ อาการนอนไม่หลับมักจะเป็นแบบสะดุด กล่าวคือ ผู้ป่วยจะนอนหลับในช่วงแรก ๆ ที่เข้านอน แต่พอตื่นตอนกลางดึกจะนอนไม่หลับ บางรายก็อาจมีอาการนอนหลับยากตั้งแต่แรกที่เข้านอน

มักมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด แต่บางรายอาจมีความรู้สึกอยากอาหารและน้ำหนักขึ้น

นอกจากนี้ ยังอาจพบอาการอ่อนเพลียตลอดทั้งวัน ทำอะไรเชื่องช้า เฉื่อยช้าลง อยากอยู่เฉย ๆ นาน ๆ (แต่บางรายอาจมีอาการกระสับกระส่าย อยู่ไม่สุข นั่งได้สักพักหนึ่งก็ต้องลุกขึ้นเดินไปมา) คิดนาน ขาดสมาธิ เหม่อลอย หลงลืมง่าย มีความลังเลในการตัดสินใจ ไม่มั่นใจตนเอง มองโลกในแง่ลบ รู้สึกว่าตนเองไร้คุณค่า หรือรู้สึกผิด กล่าวโทษหรือตำหนิตนเอง

กว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วยมีความคิดอยากตาย โดยช่วงแรกรู้สึกเบื่อชีวิต เมื่ออาการมากขึ้นจะรู้สึกอยากตาย คิดถึงการฆ่าตัวตาย ต่อมาถึงขั้นวางแผนและวิธีการฆ่าตัวตาย และในที่สุดลงมือกระทำการฆ่าตัวตาย (พบได้ประมาณร้อยละ 15 ของผู้ป่วย)

ผู้ป่วยบางรายอาจไปปรึกษาแพทย์ด้วยอาการเจ็บป่วยทางกาย เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผอมลง เวียนศีรษะ ปวดตามส่วนต่าง ๆ (เช่น ศีรษะ หน้าอก หลัง แขนขา) อย่างเรื้อรัง ประจำเดือนไม่มา ไม่มีความรู้สึกทางเพศ เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อน

อาจมีน้ำหนักตัวน้อยหรือมากเกิน

มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต เช่น การประกอบอาชีพ การงาน การเรียน การเข้าสังคม ความสัมพันธ์กับผู้อื่น

ที่สำคัญ คือ มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการรุนแรงหรือขาดการรักษา หรือเผชิญปัญหาวิกฤติ เช่น การหย่าร้าง การสูญเสียคนรัก การตกงาน ความล้มเหลว เป็นต้น โดยเฉลี่ยผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า มีอัตราฆ่าตัวตายประมาณร้อยละ 15

ผู้ที่คิดฆ่าตัวตายอาจแสดงอาการ เช่น มีอารมณ์แกว่งขึ้นลงบ่อย มีอารมณ์ดีขึ้นฉับพลันหลังจากซึมเศร้ามานาน อดนอนหลายคืน ข่มขู่หรือลงมือกระทำการรุนแรง ชอบพูดถึงความตาย มีพฤติกรรมแยกตัวหรือไม่ร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น พูดบอกลาเพื่อน ยกสิ่งของทรัพย์สินให้ผู้อื่น มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างผิดปกติ (เช่น ซื้อปืน ขับรถเร็ว เสพยา) เป็นต้น

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการเป็นหลัก

การตรวจร่างกายมักไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

มักจะพบความผิดปกติของสภาพจิต ได้แก่ สีหน้าซึมเศร้า พูดช้า พูดน้อย เสียงเบา ใช้เวลาคิดนานกว่าจะตอบคำถามและตอบสั้น ๆ หรือถามคำตอบคำ

อาจมีการเคลื่อนไหวช้าหรือมากกว่าปกติ ไม่ค่อยสบสายตา น้ำตาคลอเบ้า มองลงต่ำ

มีความรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง เบื่อชีวิต หรืออยากตาย

เกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้า

1. มีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 5 ข้อ ต่อเนื่องกันนานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยต้องมีอาการในข้อ ก. หรือ ข. ร่วมด้วย

ก. มีอารมณ์ซึมเศร้าเกือบตลอดวันและแทบทุกวัน (โดยผู้ป่วยรู้สึกเอง หรือผู้อื่นสังเกตเห็น)

ข. ความสนใจหรือความสนุกในสิ่งต่าง ๆ ลดลงอย่างมากเกือบตลอดวันและแทบทุกวัน

ค. น้ำหนักลดหรือเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 5 ใน 1 เดือน หรือมีความรู้สึกเบื่ออาหารหรืออยากอาหารแทบทุกวัน

ง. นอนไม่หลับหรือนอนมากกว่าปกติแทบทุกวัน

จ. มีอาการเคลื่อนไหวมากขึ้น (เช่น กระสับกระส่าย อยู่ไม่สุข) หรือลดลงอย่างมาก (เช่น ชอบอยู่เฉย ๆ หรือทำอะไรเชื่องช้าลง) แทบทุกวัน

ฉ. รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง แทบทุกวัน

ช. รู้สึกว่าตนเองไร้ค่าหรือรู้สึกผิดแทบทุกวัน

ซ. ความสามารถในการคิดการอ่านลดลง ขาดสมาธิ หรือมีความลังเลในการตัดสินใจแทบทุกวัน

ฌ. มีความคิดเรื่องการตายหรือการฆ่าตัวตายอยู่เรื่อย ๆ หรือมีแผนในการฆ่าตัวตาย หรือพยายามกระทำการฆ่าตัวตาย

2. อาการเหล่านี้ทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานหรือทำให้การทำงาน การเข้าสังคม และหน้าที่สำคัญอื่นบกพร่องลงอย่างมาก

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาแก้ซึมเศร้ากลุ่ม SSR2 เช่น ฟลูออกซีทีน

หากมีอาการวิตกกังวลหรือกระวนกระวายร่วมด้วย ก็จะให้ยากล่อมประสาท

หากมีอาการนอนไม่หลับ ก็จะให้ยานอนหลับ กินก่อนนอน

ในรายที่มีอาการรุนแรง หรือมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย จำเป็นต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และป้องกันไม่ให้มีการทำลายตัวเอง แพทย์จะพิจารณาปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสม ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องให้ยารักษาต่อเนื่องนานอย่างน้อย 2-3 ปี

ในรายที่ให้ยารักษาไม่ได้ผล หรือทนต่ออาการข้างเคียงของยาไม่ได้ หรือมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูง แพทย์อาจทำการรักษาด้วยไฟฟ้า (electroconvulsive therapy/ECT) วิธีนี้เพียงแต่ช่วยให้อาการดีขึ้น ไม่ได้ป้องกันไม่ให้อาการกำเริบซ้ำ ดังนั้นจะต้องให้ยารักษาต่อเนื่องแม้หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น จิตบำบัดซึ่งมีอยู่หลายวิธี แสงบำบัด (light therapy) ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล (seasonal affective disorder)

ผลการรักษา การใช้ยานับว่าได้ผลดีมากกว่าร้อยละ 80 ซึ่งจะลดระยะอาการลงเหลือประมาณ 3 เดือน ถ้าไม่รักษามักมีอาการประมาณ 9 เดือน ซึ่งจะทุเลาไปได้เอง แต่ก็จะกำเริบได้อีกในเวลา 6 เดือนต่อมา

หลังหยุดยา อาจมีอาการกำเริบได้ใหม่ประมาณร้อยละ 50 (สำหรับอาการป่วยครั้งแรก) ร้อยละ 70 (สำหรับอาการป่วยครั้งที่ 2) และร้อยละ 90 (สำหรับอาการป่วยครั้งที่ 3)

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอารมณ์ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เบื่อชีวิต คิดอยากตาย หรือคิดฆ่าตัวตาย ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคซึมเศร้า ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์  และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน  ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา( เช่น มีลมพิษ

ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน  หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

สำหรับโรคซึมเศร้าหลัก (Major depressive disorder) ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

หากมีอาการ ควรปรึกษาแพทย์แต่เนิ่น ๆ และติดตามรักษากับแพทย์เพื่อควบคุมอาการ

ข้อแนะนำ

1. เมื่อพบผู้ป่วยมีภาวะซึมเศร้า (มีอารมณ์ซึมเศร้า) หดหู่ หรือรู้สึกเบื่อหน่ายต่อสิ่งต่าง ๆ ไปหมด) แพทย์จะทำการถามประวัติและตรวจดูอาการอย่างละเอียด เพื่อแยกแยะสาเหตุ บางครั้งอาจเกิดจากโรคทางกาย แอลกอฮอล์ สารเสพติด ยา ความเครียด หรือปัญหาชีวิต หรือเป็นอาการของโรคอารมณ์สองขั้ว หรือโรคซึมเศร้าชนิดอ่อน บางรายอาจพบร่วมกับโรคกังวล ซึ่งมีวิธีการดูแลรักษาแตกต่างกันไป

ส่วนโรคซึมเศร้า (โรคซึมเศร้าหลัก) จะวินิจฉัยเมื่อมีอาการครบถ้วนตามเกณฑ์การวินิจฉัย

2. โรคซึมเศร้า หากไม่ได้ให้ยารักษา มักมีอาการต่อเนื่องประมาณ 9 เดือน ซึ่งจะทุเลาไปเอง หากได้ยารักษาจะมีอาการอยู่ประมาณ 3 เดือน บางรายอาจเป็นเพียงครั้งเดียวแล้วไม่เป็นซ้ำอีก บางรายอาจกำเริบซ้ำซากหรือเรื้อรังตลอดชีวิต แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัว ดังนี้

    พบแพทย์เป็นประจำตามนัด และกินยาอย่างต่อเนื่อง อย่าปรับยาหรือหยุดยาเองจนกว่าแพทย์จะแนะนำ การรักษาด้วยยาอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ไปแล้วกว่าจะเห็นผล
    สามารถดำเนินชีวิตตามปกติ อย่าแยกตัวออกจากผู้อื่น การมีญาติหรือเพื่อนช่วยดูแลช่วยเหลือ มีส่วนช่วยให้อาการทุเลาได้
    ดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ
    หลีกเลี่ยงการเสพเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสารเสพติด

3. โรคนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง (สารส่งผ่านประสาท) และการทำหน้าที่ผิดปกติของสมองบางส่วน ซึ่งอาจถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ผู้ป่วยบางรายจึงอาจมีอาการกำเริบโดยไม่มีปัญหาด้านจิตใจและสังคมเป็นเหตุกระตุ้นก็ได้ คืออยู่ดี ๆ ก็มีอาการกำเริบขึ้นมาเอง ควรอธิบายให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจถึงธรรมชาติของโรคนี้ ยอมรับ และหาทางดูแลรักษาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมอาการและดำเนินชีวิตเป็นปกติสุขได้

4. ญาติและคนใกล้ชิด ควรให้การดูแลช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้ป่วยในการรักษาอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงหรือมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ควรรีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล หรือหาทางป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยฆ่าตัวตาย

5. ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า บางครั้งอาจมาปรึกษาแพทย์ด้วยอาการไม่สบายทางกาย เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผอมลง ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดข้อ หรือปวดเมื่อยตามตัวแบบเรื้อรัง เป็นต้น หากให้ยารักษาตามอาการระยะหนึ่งแล้วไม่ดีขึ้น แพทย์จะซักถามอาการของโรคซึมเศร้าอย่างละเอียด เมื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าและให้ยาแก้ซึมเศร้าอาการต่าง ๆ ก็จะทุเลาได้



ตรวจโรค: โรคอารมณ์แปรปรวน (Mood disorders) โรคซึมเศร้า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker

90
การจัดฟันแบบใส Invisalign เป็นการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการวางแผนการรักษา ตั้งแต่ขั้นตอนประเมินช่องปาก จนไปถึงการออกแบบเครื่องมือสำหรับการจัดฟันแบบใส Invisalign ซึ่งในปัจจุบันการจัดฟันแบบใส เป็นที่นิยมมากไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มดารานักแสดงไปจนถึงคนทั่วไป ที่ต้องการจะมีสุขภาพช่องปากที่ดีและมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดฟัน เพราะการใส่เครื่องมือของการจัดฟันแบบใส


จะทำให้ฟันเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆในตำแหน่งที่ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาได้กำหนดไว้ รวมไปถึงการใส่เครื่องมือ จะทำให้มองเห็นได้ยากขึ้นด้วย ถือว่าเป็นการจัดฟันที่ให้ความเป็นธรรมชาติมาก นอกจากนี้การจัดฟันแบบใส Invisalign ยังช่วยในเรื่องของสุขภาพฟันอีกด้วย ช่วยทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพฟันที่ดี เนื่องจากได้ดูแลรักษา ทำความสะอาดช่องปากได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องมือจะเกิดการชำรุด เพราะการจัดฟันแบบใส Invisalign สามารถถอดเครื่องมือออกได้ จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องกังวลเรื่องของเครื่องมือขณะรับประทานอาหาร หรือขณะแปรงฟัน นี่ถือเป็นจุดเด่นของการจัดฟันแบบใส Invisalign ที่ต่างกับการจัดฟันในรูปแบบอื่น จึงทำให้ผู้ที่เข้ารับการรักษา มีความสะดวกสบายในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน

หลายคนเกิดข้อสงสัยในเรื่องของการรับประทานอาหารหรือการเคี้ยวอาหารว่า การจัดฟันแบบใส Invisalign ส่งผลอย่างไรในเรื่องของการรับประทานอาหาร มีผลต่อการบดเคี้ยวอาหารหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่า หลาคนคงทราบกันดีว่า การจัดฟันแบบใส Invisalign สามารถถอดเครื่องมือจัดฟันได้ขณะที่รับประทานอาหาร ซึ่งด้วยเหตุที่สามารถถอดเครื่องมือได้นี่เอง

จึงทำให้ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign ไม่มีอุปสรรคหรือผลกระทบต่อการรับประทานอาหารแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย หมดข้อกังวลในเรื่องของเศษอาหารที่เข้าไปติดในเครื่องมือ รวมไปถึงยังสามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างเต็มที่ สามารถใช้งานช่องปากได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เพียงแต่ว่าในการรับประทานอาหารที่ส่งผลเสียต่อฟัน ก็ควรจะหลีกเลี่ยงบ้าง เพราะไม่ว่าจะเข้ารับการจัดฟันในรูปแบบใด สุขภาพของช่องปากและฟันก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนจะต้องดูแลเอาใจใส่อยู่แล้ว แม้ว่าการจัดฟันแบบใส จะทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายชนิด แต่ถึงอย่างไรก็ต้องคำนึงถึงการรับประทานอาหารที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพฟันด้วยเช่นกัน

สำหรับอาหารที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและฟัน อย่างแรกเลยคือ ของหวาน เช่น ลูกอม หรือขนมที่มีความหวานมากๆ จะส่งผลให้เกิดโรคฟันผุ ซึ่งทุกคนควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ และหลังจากรับประทานอาหารแล้วก็ควรแปรงฟันให้สะอาดและแปรงอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันฟันผุ ไม่ว่าจะผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign หรือผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการจัดฟัน การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดฟันผุ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากละเลยสุขภาพช่องปากแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย อาจจะทำให้มีอาการปวดฟันร่วมด้วย


ซึ่งเป็นอาการที่สร้างความทรมานเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะจัดฟันหรือไม่จัดฟัน ก็ต้องดูแลในเรื่องของการรับประทานอาหารเช่นเดียวกัน จึงสรุปได้ว่า การรับประทานอาหารหรือการเคี้ยวอาหาร ไม่มีปัญหาในกลุ่มผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign แต่ก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่ส่งผลทำลายสุขภาพฟัน เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีในระยะยาว สามารถใช้งานฟันได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากที่สุด



การจัดฟันใส มีปัญหาเกี่ยวกับการรับประทาน และการเคี้ยวอาหารหรือไม่ ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

91
ไลโอ เพชรเกษม-อ้อมน้อย (Lio Petchkasem - Omnoi)
ราคา : เริ่มต้น 1,890,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
เตรียมพบทาวน์โฮมโครงการใหม่ ตรงข้าม Big C อ้อมใหญ่ ทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ French Colonial Style ภายใต้แบรนด์ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ การออกแบบทาวน์โฮมด้วยสไตล์ฝรั่งเศส โดยมีฟังก์ชั่นที่สามารถตอบรับวิถีชีวิตใหม่ ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยฟังก์ชันที่ลงตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน เปิด Presale ครั้งที่ 2 " 20-21 ม.ค.นี้ เปิดจอง ทาวน์โฮมใหม่ 1.89 ล้าน"


รายละเอียดโครงการ

ชื่อโครงการ : ไลโอ เพชรเกษม-อ้อมน้อย (Lio Petchkasem - Omnoi)
ดูบ้านราคาใกล้เคียง  ดู ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ ทุกโครงการ 
เจ้าของโครงการ : ลลิลพร็อพเพอร์ตี้
แบรนด์ย่อย : ไลโอ
ราคา : เริ่มต้น 1,890,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)
 
ประเภทบ้าน : ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
ลักษณะทำเล : บ้านใกล้เมือง
พื้นที่โครงการ : 26 ไร่ 2 งาน 14.00 ตร.ว.
จำนวนบ้าน : 279 หลัง
แบบบ้านทั้งหมด : 2 แบบ
เนื้อที่บ้าน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
พื้นที่ใช้สอย : ตั้งแต่ 105.0 ถึง 125.0 ตร.ม.
จำนวนชั้น : 2 ชั้น
หน้ากว้าง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนห้องนอน : ตั้งแต่ 3 ถึง 4 ห้อง
จำนวนที่จอดรถ : ตั้งแต่ 1 ถึง 2 คัน
สาธารณูปโภค : สวนสาธารณะ (การจัดสวนสไตล์โพรวองซ์ (Provence) พร้อม Solar Cell), ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (Main Gate แยกช่องทางเข้า-ออก), Keycard System, Co-working space
ขนส่งสาธารณะ : ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนพุทธมณฑลสาย 5, ถนนเพชรเกษม)

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :

Big C อ้อมใหญ่ 4.5 กม.
วัดอ้อมน้อย 6 กม.
ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาซอยไวไว 1.2 กม.
ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาซอยไวไว 1.2 กม.
คาเฟ่ ชะตาธรรมชาติ 0.1 กม.
โรงเรียนยอแซฟฯ 5.3 กม.
มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา 14 กม.
โรงพยาบาลวิชัยเวช 12 กม.
โรงพยาบาลมหาชัย2 6 กม.
 
โซน : นครปฐม, พุทธมณฑล, นครชัยศรี, สามพราน
ที่ตั้ง : 29 ถนนซอยเทศบาล 8 ตำบล ไร่ขิง อำเภอสามพราน นครปฐม 73210 | ดูรูปแผนที่
ปีที่สร้างเสร็จ : พ.ศ. 2566
หมายเหตุ : -
สอบถามเพิ่มเติม :
Tel. 065-528-5573-4, 1778


บ้านโครงการใหม่ 2035: ไลโอ เพชรเกษม-อ้อมน้อย (Lio Petchkasem - Omnoi) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/house/

92
รับจ้างขนย้ายทุกแบบอย่าง รับจ้างขนย้ายบ้านสงขลา รับจ้างขนของสงขลา รับจ้างย้ายห้องสงขลา ย้ายคอนโด ขนย้ายสำนักงานสงขลา ขนย้ายออฟฟิค ซึ่งรถรับจ้างขนของของเรามีรถขนของที่บริการอย่าครอบคลุมในทุกพื้นที่ให้บริการ คุณจะหมดกังวลหายห่วงไปได้เลยค่ะ

สำหรับเรื่องการใช้บริการ รถรับจ้างจังหวัดสงขลา ทั้ง รถกระบะรับจ้างสงขลา รถหกล้อรับจ้างขนของสงขลา รถรับจ้างย้ายบ้านสงขลา รถสิบล้อรับจ้างสงขลา รถรับจ้างย้ายห้องจังหวัดสงขลา รถรับจ้างขนของจังหวัดสงขลา รถเฮี๊ยบรับจ้างสงขลา รถเทรลเลอร์รับจ้างสงขลา เป็นต้น เพราะขนส่งของเรามีรถรับจ้างมากมาย ที่พร้อมจะให้บริการคุณลูกค้าด้วยความรักงานบริการอย่างแท้จริง หรือสำหรับลูกค้าอยากจะเที่ยวในจังหวัดสงขลาหรือวิ่งออกต่างจังหวัดเราก็มีรถวิ่งขนย้ายด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเรามีรถที่จะพาลูกค้าเที่ยวได้อย่างสบาย เเถมราคาก็ไม่แพง รถรับจ้างขนของจังหวัดสงขลา ถ้าพูดถึงเรื่องบริการของเรานั้นบริการเราดีจริง เราวางแผนการทำงาน และเราได้รับคำชมจากลูกค้าที่เคยให้บริการไปแล้วหลายราย เรานั้นบริการดียิ่งกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งห่วงใยใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นห่วงความปลอดภัยของลูกค้าแถมยังซื่อสัตย์ ปลอดภัย ไว้ใจได้

ขนส่งของเรานั้นเราเปิดให้ บริการรถรับจ้างสงขลา แก่ลูกค้ามาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ไม่มีคำว่าหลอกลวงลูกค้าแน่นอน ในเรื่องราคาเพราะเราบริการลูกค้าด้วยใจลูกค้าจึงสบายใจได้เลยไม่ว่าลูกค้าอยากได้รถแบบใด เรายินดีให้คำแนะนำ สามารถบอกเราได้หรือลูกค้าอยากได้ รถรับจ้างขนของ เราก็มีพร้อมมาให้บริการลูกค้าจากรถที่หลากหลายประเภทเพราะ รถรับจ้างจังหวัดสงขลา รถเฮี้ยบรับจ้างสงขลา รถ10ล้อรับจ้างสงขลา รถกระบะรับจ้างสงขลา รถรับจ้างสงขลา รถขนของสงขลา เรายังมีรถอีกหลายแบบมาให้ลูกค้าเลือกใช้บริการได้อย่างเหมาะสมกับงานที่ลูกค้าต้องการ อยากจะใช้บริการขนส่งเรามีมากกว่าที่คุณต้องการอย่างแน่นอนค่ะ บางครั้งเราอาจจะบริการได้ไม่ตรงตามใจลูกค้าหลายคนแต่ทุกครั้งที่เราได้ให้บริการลูกค้าจะเต็มที่กับงานและจะเราก็ได้รับคำชมกับมาทุกครั้งต้องการใช้ ช่องทางที่สามารถติดต่อ รถรับจ้างขนย้ายของสงขลา เราสามารถติดต่อมาที่เราได้ง่ายๆเพียงท่านกดมาที่เบอร์โทร

บริการรถรับจ้างอย่างมืออาชีพ เข้าใจทุกปัญหา ราคาถูก
รถรับจ้างสงขลา ของเรามาพร้อมทั้งความปลอดภัยและความชำนาญในทุกๆเรื่องที่ลูกค้าอยากจะได้บริการนั้นและท่านสามารถหารถรับจ้างเที่ยวกลับสงขลาราคาถูก ได้ทุกวันกับเราเพราะที่นี่มีรถเที่ยวราคาพิเศษไว้นำเสนอำหรับท่านใดที่ต้องการลดต้นทุนค่าขนส่งแต่ต้องย้ำว่ามีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน จัดโปรโมชั่นทุกวันน เรายังมีการบริการนอกเหนือจากรถรับจ้างด้วยนะคะไม่ใช่แค่มี รถรับจ้างทั่วไปเพียงอย่างเดียวไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจในสงขลา และบริการที่ทุกๆวันของเรานั้น มีบริการ รับจ้างย้ายบ้านสงขลา รับจ้างขนของสงขลา ขนย้ายเครื่องจักร หรือลูกค้าอยากได้เป็นแบบ รถรับจ้างย้ายห้องพักจังหวัดสงขลา หกล้อรับจ้าง กระบะรับจ้าง เช่ารถกระบะขนของ รถพวกนี้เราพร้อมให้บริการลูกค้าหรือลูกค้าต้องการ รถรับจ้างหรือบริการต่างๆนอกเหนือจากที่เราพูดมาแล้ว ลูกค้ายังสามารถบอกได้ว่าอยากได้รถอะไรใช้งานยังไง อันนี้เราก็มีบริการลูกค้าเช่นเดียวกัน

จุดบริการรถรับจ้างขนของทั่วไปของเราในสงขลา ที่อยากจะขอแนะนำต่างๆดังนี้

อำเภอเมืองสงขลา
อำเภอกระแสสินธุ์
อำเภอควนเนียง
อำเภอจะนะ
อำเภอเทพา
อำเภอนาทวี
อำเภอนาหม่อม
อำเภอบางกล่ำ
อำเภอระโนด
อำเภอรัตภูมิ
อำเภอสทิงพระ
อำเภอสะเดา
อำเภอสะบ้าย้อย
อำเภอสิงหนคร
อำเภอหาดใหญ่
อำเภอคลองหอยโข่ง

ประสบการณ์ในการขับรถรถรับจ้างช่วยอะไรท่านได้บ้างนั้น ต้องบอกว่าสำคัญมากเพราะความชำนาญการด้านความปลอดภัยพนักงานขับรถขนขอจะส่งผลต่อสินค้าในการขนย้าย ซึ่งหากเป็นขนส่งแล้วท่านไม่ต้องกังวลเลยค่ะเพราะถ้าพูดถึงเรื่องความชำนาญการแน่นอนว่า รถรับจ้างขนของจังหวัดสงขลา เราชำนาญในทุกๆด้านทั้งเรื่องความปลอดภัยก็เช่นเดียวกันเราได้มาตรฐานรับรองในเรื่องของความปลอดภัย มีการอบรมพนักงานขับรถให้มีความระมัดระวังและพนักงานขับรถอย่างถูกต้องตามกฏหมายใช้ความเร็วที่กำหนด ไม่ได้เอาต่างด้าวมาขับรถให้ลูกค้าแน่นอน จึงวางใจในเรื่องนี้ได้เลยค่ะเราได้มาตรฐานบริการรับจ้างขนของ 100% รับรองความการันตีได้จากลูกค้าที่มาใช้บริการของเราได้



รถรับจ้าง สงขลา บริการดีจ่ายถูก กับงานรถรับจ้างขนของที่ราคาคุ้มค่ามืออาชีพ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/

93
เล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้เป็นครั้งคราวในแทบทุกจังหวัด พบมากในคนที่มีอาชีพที่ต้องย่ำน้ำหรือแช่น้ำ เช่น ทำนา ทำสวน จับปลา เก็บขยะ ขุดท่อ เลี้ยงสัตว์ ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ทำเหมืองแร่ แม่บ้านที่เตรียมอาหารจากเนื้อสัตว์ นักท่องเที่ยวที่นิยมเที่ยวป่า น้ำตก ทะเลสาบ ว่ายน้ำในแหล่งน้ำจืด เป็นต้น

พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2.5 เท่า ส่วนใหญ่พบในกลุ่มอายุ 15-54 ปี

โรคนี้พบได้ประปรายตลอดปี แต่จะพบมากในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีน้ำขัง หรือเกิดภาวะน้ำท่วม มีเชื้อโรคขังอยู่ในน้ำ เมื่อคนเดินลุยน้ำหรือลงแช่น้ำก็มีโอกาสได้รับเชื้อนี้ บางครั้งอาจพบมีการระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีภาวะน้ำท่วม

ในระยะหลังๆ นี้ พบผู้ป่วยเป็นโรคนี้กันมากทางภาคอีสาน เนื่องจากมีหนูชุกชุมตามท้องนา และมักจะเป็นชนิดรุนแรง ชาวบ้านเรียกว่า ไข้ฉี่หนู


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่าเชื้อ เล็ปโตสไปร่า (leptospira) มีอยู่หลายพันธุ์ย่อย ซึ่งก่อให้เกิดอาการและความรุนแรงแตกต่างกันไป ขึ้นกับชนิดและปริมาณของเชื้อ

เชื้อนี้จะมีอยู่ในไตของสัตว์ ที่พบบ่อย คือ หนูท่อ หนูนา หนูพุก นอกจากนี้ยังพบในสุนัข สุกร แมว โค กระบือ แพะ แกะ

เชื้อที่ก่อโรครุนแรงมีชื่อว่า Leptospira icterohaemorrhagiae อาศัยอยู่ในหนูและสุนัข Leptospira bataviae อาศัยอยู่ในหนู สุนัข โค กระบือ

สัตว์เหล่านี้จะปล่อยเชื้อออกมากับปัสสาวะ เชื้อจะสามารถมีชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะได้นานหลายเดือน

คนเราจะรับเชื้อเข้าร่างกาย โดยผ่านเข้าทางบาดแผลถลอกหรือขีดข่วนตามผิวหนัง หรือเข้าทางเยื่อบุตา จมูกหรือช่องปากที่ปกติ วิธีติดเชื้อที่สำคัญ ได้แก่ การย่ำน้ำที่ท่วมขัง (เช่น ตามซอกซอยในเมือง) หรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ (เช่น ตามท้องนา) และการแช่อยู่ในน้ำตามห้วยหนองคลองบึง เป็นเวลาเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป (เช่น จับปลา เก็บผัก เล่นน้ำ แข่งกีฬาทางน้ำ) นอกจากนี้ยังสามารถติดเชื้อโดยการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากปัสสาวะหนู หรือสัมผัสถูกเลือด ปัสสาวะ หรือเนื้อเยื่อของสัตว์ที่ติดเชื้อโดยตรง

ระยะฟักตัว 2-26 วัน (ที่พบบ่อย คือ 7-14 วัน)


อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่แตกต่างตรงที่จะรู้สึกปวดมากตรงบริเวณน่อง หลัง และหน้าท้อง

บางรายอาจมีไข้ติดต่อกันหลายวันสลับกับระยะไข้ลด

บางรายอาจมีอาการตาแดง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน เจ็บคอ ไอ เจ็บหน้าอก บางรายอาจมีอาการปวดตรงชายโครงขวา (ซึ่งอาจปวดรุนแรง จนแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นภาวะปวดท้องเฉียบพลัน และผ่าตัดช่องท้องดู)

อาจมีอาการตาเหลืองเล็กน้อย หลังมีไข้ 4-7 วัน

ในรายที่เป็นรุนแรง (พบได้ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ป่วย) หลังมีไข้ 4-9 วัน จะมีอาการตาเหลืองจัด ปัสสาวะเหลืองเข้ม ปัสสาวะออกน้อย บางรายอาจมีอาการเลือดกำเดาไหล มีจุดแดงจ้ำเขียวขึ้นตามตัว หรืออาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายเป็นเลือด บางรายอาจมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง หายใจหอบ หรือไอเป็นเลือด


ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ได้แก่ ไตวาย ภาวะเลือดออก (ซึ่งเกิดจากการอักเสบของผนังหลอดเลือด) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลือดออกในทางเดินอาหารและในปอด ซึ่งมักพบในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการดีซ่านร่วมด้วย

นอกจากนี้อาจพบภาวะตับวาย ปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว หัวใจวาย เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

บางรายหลังจากอาการทั่วไปหายดีแล้ว อาจมีอาการผิดปกติทางจิต เช่น โรคจิต (psychosis) กระสับกระส่าย พฤติกรรมผิดปกติเป็นเวลานานมากกว่า 6 เดือน

การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส

เยื่อตาขาวมีลักษณะบวมแดง (conjunctival suffusion) ที่ตา 2 ข้าง ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดที่เยื่อบุตาขยายตัว มักเกิดขึ้นภายใน 3 วันแรกของโรค และเป็นอยู่นาน 1-7 วัน อาจพบร่วมกับภาวะเลือดออกใต้ตาขาว

เมื่อใช้มือบีบบริเวณกล้ามเนื้อน่อง จะมีอาการเจ็บปวดมาก

บางรายอาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองโต ตับโต ม้ามโต ตาเหลืองเล็กน้อย หรือพบผื่นแดง ลมพิษตามผิวหนัง

บางรายอาจพบอาการคอแข็ง (หลังเป็นไข้ประมาณ 1 สัปดาห์)

การทดสอบทูร์นิเคต์อาจให้ผลบวก

ในรายที่เป็นรุนแรง มักตรวจพบอาการตาเหลือง ตัวเหลืองจัด ตับโตและเจ็บ มีจุดแดงจ้ำเขียวหรือรอยห้อเลือดตามผิวหนัง อาการไตวายเฉียบพลัน

นอกจากนี้ ยังอาจตรวจพบภาวะซีด หายใจหอบเร็ว ภาวะหัวใจวาย ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอ ความดันต่ำ

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด จะพบจำนวนเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปกติ บางรายอาจสูงถึง 50,000 ตัว/ลบ.มม. เกล็ดเลือดต่ำ นอกจากนี้ยังพบระดับของบียูเอ็น (BUN) ครีอะตินีน (creatinine) เอเอสที (AST) และเอแอลที (ALT) สูงกว่าปกติ


การตรวจปัสสาวะพบสารไข่ขาว เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว

ในรายที่ปวดศีรษะรุนแรง หรือสงสัยเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบแทรกซ้อน อาจต้องเจาะหลัง

อาจต้องทำการเพาะเชื้อจากเลือด ปัสสาวะ หรือน้ำไขสันหลัง

การทดสอบทางน้ำเหลือง ซึ่งมีอยู่หลายวิธี เช่น IgM-ELISA, microscopic agglutination test (MAT), macroscopic slide agglutination test (MSAT), latex agglutination test, lepto-dipstick test เป็นต้น มักพบสารภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้ขึ้นสูง


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่เป็นไม่รุนแรง ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน หรือดอกซีไซคลีน

2.  ในรายที่เป็นรุนแรง แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด เช่น เพนิซิลลินจี ดอกซีไซคลีน หรือเซฟทริอะโซน (ceftriaxone) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

นอกจากนี้จะให้การรักษาตามอาการที่พบ เช่น ให้ยาลดไข้ ให้น้ำเกลือถ้ามีภาวะขาดน้ำ ให้เลือดถ้ามีเลือดออก

ถ้ามีภาวะไตวาย อาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis)

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงโรคและสภาพของผู้ป่วย ถ้าไม่มีอาการดีซ่าน อาการมักจะไม่รุนแรง แต่ถ้ามีดีซ่านร่วมด้วย มักจะมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และมีอัตราตายถึงร้อยละ 15-20 ซึ่งมักเกิดจากภาวะไตวาย หรือช็อกจากการเสียเลือด ภาวะรุนแรงมักเกิดในผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้สูงร่วมกับอาการหนาวสั่น หรือมีไข้ร่วมกับตาแดง ตาเหลือง ปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้องมาก หรือปวดน่องมาก หรือมีไข้ในช่วงที่มีคนในละแวกใกล้เคียงเป็นไข้ฉี่หนู ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไข้ฉี่หนู (เล็ปโตสไปโรซิส) ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว เพ้อคลั่ง หรือชัก
    หายใจหอบ เจ็บหน้าอกมาก หรือชีพจรเต้นผิดปกติ
    ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย
    มีเลือดออก เช่น ถ่ายเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ
    ตาเหลืองตัวเหลือง หน้าตาซีดเซียว หรือเบื่ออาหารมาก
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

1. กำจัดหนู (ซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่สำคัญ) ทั้งในนาข้าวและในที่อยู่อาศัย

2. รักษาความสะอาดบริเวณบ้านเรือน อย่าให้มีขยะและเศษอาหารตกค้าง อันจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหนู

3. ถ้ามีบาดแผล รอยถลอก ขีดข่วน ให้ปิดแผลและหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่ท่วมขังหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ หรือลงแช่น้ำในห้วยหนองคลองบึง

4. ถ้าต้องเดินย่ำน้ำหรือพื้นดินที่ชื้นแฉะ (ตามตรอก ซอย คันนา ท้องนา ท้องไร่) ให้ใส่รองเท้าบู๊ตหรือรองเท้าหุ้มข้อ

5. อย่าลงแช่น้ำในห้วยหนองคลองบึงนานเกินครั้งละ 2 ชั่วโมง และเมื่อขึ้นจากน้ำควรฟอกสบู่และชำระด้วยน้ำสะอาด

6. เก็บหรือปกปิดอาหารและน้ำดื่มให้มิดชิด อย่าให้หนูปัสสาวะใส่

7. ดื่มน้ำต้มสุก และกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ด้วยความร้อน

8. หมั่นล้างมือภายหลังจับต้องเนื้อ ซากสัตว์ และสัตว์ทุกชนิด

9. ในกรณีที่ต้องเดินทางเข้าไปในแหล่งที่มีโรคนี้ชุกชุมในช่วงเวลาสั้น ๆ (เช่น การตั้งค่ายของกองทหาร นักเรียน นักศึกษา) และไม่สามารถใช้วิธีป้องกันอย่างอื่น ๆ ได้ ควรกินยาดอกซีไซคลีนป้องกันล่วงหน้า ครั้งละ 200 มก. ตั้งแต่ในวันแรกที่เข้าไป ต่อมากินทุกต้นสัปดาห์ และวันหยุดสุดท้ายก่อนกลับ

ข้อแนะนำ

1. อาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว นอกจากนึกถึงสาเหตุจากไข้หวัดใหญ่ ไทฟอยด์ สครับไทฟัส กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน มาลาเรีย ไข้เลือดออก ถุงน้ำดีอักเสบ และท่อน้ำดีอักเสบแล้ว จะต้องนึกถึงไข้ฉี่หนูหรือโรคเล็ปโตสไปโรซิสไว้ด้วยเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบมีอาการตาแดงหรือดีซ่านร่วมด้วย ในผู้ป่วยที่อยู่ในถิ่นที่มีโรคนี้ชุกชุม

2. โรคนี้ส่วนใหญ่ (กว่าร้อยละ 90) จะมีอาการไม่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่มีอาการดีซ่านร่วมด้วย จนบางครั้งมักจะวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดเชื้อไวรัส ดังนั้นเมื่อพบผู้ป่วยที่มีอาการสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดเชื้อไวรัส ควรตรวจโดยการบีบน่องผู้ป่วย ถ้ารู้สึกเจ็บน่องมาก ควรสงสัยว่าอาจเป็นไข้ฉี่หนูหรือเล็ปโตสไปโรซิส ควรสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด และไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว การรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ผู้ป่วยหายจากโรคได้ภายใน 10-14 วัน

ส่วนรายที่เป็นรุนแรง (พบได้ร้อยละ 10) มักจะมีอาการตาเหลืองจัด บางครั้งทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นตับอักเสบจากไวรัส ข้อแตกต่าง คือ ตับอักเสบจากไวรัสมักจะไม่มีไข้เมื่อมีอาการดีซ่าน ในขณะที่เล็ปโตสไปโรซิสจะมีไข้สูงขณะที่มีอาการดีซ่าน และมักจะมีอาการอื่น ๆ เช่น ไตวาย (ปัสสาวะออกน้อย) เลือดกำเดาไหล หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวร่วมด้วย

หากสงสัยควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็มักจะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์


อาการของโรค: ไข้ฉี่หนู/เล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

94
วิธีแก้ง่วงยามบ่าย อย่ายอมให้ความง่วงเหงาหาวนอนในตอนกลางวัน มาทำลายประสิทธิภาพการเรียนและการทำงานเชียว !
       
ฮ้าววว...คำว่า "หนังท้องตึง หน้าตาหย่อน" นี่เป็นจริงเสียยิ่งกว่าจริงอีกนะ แม้ช่วงเช้า ๆ เราจะตื่นมาด้วยความลั้ลลาสดชื่นขนาดไหน แต่พอทานอาหารเที่ยงเสร็จปุ๊บ ตกบ่ายปั๊บก็เริ่มตาปรือ หาวแล้วหาวอีก แถมความง่วงยังมาพร้อมกับความมึน คิดงานสำคัญอะไรก็ไม่ออก เรียนก็ไม่รู้เรื่อง อย่างนี้ต้องหาวิธีปราบอาการง่วงตอนกลางวันแบบด่วนจี๋ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งกาแฟ ซึ่งกระปุกดอทคอมจัดมาฝากแล้ว


1. นอนหลับตอนกลางคืนให้เต็มอิ่ม
         
ลองคิดดูซิว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเข้านอนกันตอนกี่โมง แล้วตื่นกี่โมง ถ้าเวลานอนของคุณน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงติดต่อกันหลายวันล่ะก็ ไม่แปลกเลยที่คุณจะมาง่วงตอนกลางวัน วิธีแก้ไขก็ไม่ยากเย็นอะไรเลยล่ะ แค่ต่อจากนี้ไป เราต้องเข้านอนให้เร็วขึ้น อย่างปกตินอน 5 ทุ่ม ก็เขยิบมานอนสัก 4 ทุ่ม ให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ จะได้ไม่มานั่งหาวตอนกลางวันไงล่ะ    แต่ถ้าใครมีอาการนอนไม่หลับ หรือหลับยาก อันเป็นสาเหตุทำให้ตัวเองนอนไม่พอ อาจจะลองทานนมอุ่น ๆ กล้วย หรือน้ำผึ้งมาทานก่อนนอน จะช่วยให้หลับสบายขึ้น หรือจะหาน้ำมันหอมระเหยอย่างลาเวนเดอร์ มาดมดู จะช่วยคลายความเครียด ทำให้เราหลับได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน


2. ออกไปสัมผัสแสงแดดยามเช้า
         
รู้ไหมว่าแสงแดดตอนเช้า ๆ ก่อน 9 โมง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในกล้ามเนื้อของคุณไปสู่สมองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกตื่น และสดชื่นต่อเนื่องตลอดทั้งวันนั่นเอง ว่าแล้วพรุ่งนี้ก็ตื่นให้เร็วขึ้นสักหน่อย แล้วออกไปสัมผัสแสงแดดกันดีกว่า ตกบ่ายจะได้ไม่ง่วงเหงาหาวนอน หรือมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นไงล่ะ


3. จิบน้ำระหว่างวัน

เมื่อนึกถึง "น้ำ" เราจะนึกถึงความสดชื่นมาเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้น "น้ำ" ก็เป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการแก้ง่วงได้เหมือนกัน อย่างที่มีคำแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเลย และต้องดื่มแบบจิบ ๆ ตลอดทั้งวัน เพราะการที่ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ชาร์จพลังงานในตัวให้เพิ่มขึ้นด้วย       

อ้อ..ที่สำคัญคือ น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำอุ่นอุณหภูมิห้องด้วยนะ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ในระบบไหลเวียนมาเลี้ยงเลือดได้ทันที จะช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ดี แต่ถ้าใครสงสัยว่า อ้าว ! แล้วดื่มน้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจไม่ได้เหรอ งานนี้ ต้องบอกว่า การดื่มน้ำเย็นเกินไป จะทำให้เส้นเลือดที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารหดตัวลง กว่าเซลล์จะปรับตัวและขยายตัวเพื่อดูดซึม ต้องใช้เวลานานพอสมควร ต่างจากน้ำธรรมดาที่อุณหภูมิ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมมาเลี้ยงเลือดได้ทันทีเลย


4. ขอเวลางีบสัก 10-15 นาที

ถ้ารู้ตัวล่วงหน้าว่าช่วงบ่าย ๆ เราคงต้องหลับแน่ ๆ ก็ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตอนพักกลางวันก่อนเลย โดยหาที่เหมาะ ๆ หรือบนโต๊ะทำงานนั่นแหละ งีบหลับสัก 10-15 นาที

มีงานวิจัยหลายแห่งยืนยันตรงกันว่า คนที่งีบหลับในตอนกลางวันจะมีความจำดีขึ้น รู้สึกตื่นตัวขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำอะไรต่ออะไรได้ดีขึ้นด้วย

แต่ไม่ควรนอนเกินครึ่งชั่วโมงไม่เช่นนั้นคุณอาจจะหลับลึกไปเลยแล้วตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงง แทนที่จะสดชื่นยามบ่าย กลายเป็นง่วงหนักกว่าเดิมอีกนะจ๊ะ


5. เลี่ยงคาร์โบไฮเดรตหนัก ๆ ในมื้อเที่ยง

ถ้ามื้อเที่ยงที่ผ่านมา เราจัดหนักจัดเต็มกับอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ก็อาจทำให้ช่วงบ่าย ๆ มีอาการง่วงซึมได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะการทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ ที่หนักแป้ง หนักน้ำตาล จะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมากขึ้น

เพื่อเร่งย่อยอาหารในปริมาณมากให้แล้วเสร็จ ทีนี้ก็จะทำให้เลือดที่ไหลไปเลี้ยงสมองมีน้อยลง หรือไหลเวียนช้าลง ทำให้เราง่วงซึม เฉื่อยชา หลังจากทานอาหารแล้วนั่นเอง


6. บอกลาของหวาน

หลายคนคิดว่า ถ้าง่วงก็กินซะสิ ให้ปากได้ขยับเคี้ยวของหวาน ๆ บ้างจะได้แก้ง่วงได้

เอ้า...จริง ๆ ของหวานก็ช่วยทำให้เรากระชุ่มกระชวยได้อยู่หรอกค่ะ แต่แค่แป๊บเดียวเองนะ

เพราะเมื่อเราทานของหวานซึ่งเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน จะไปทำให้ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามากขึ้น ทีนี้ น้ำตาลในเลือดเราก็จะสูงขึ้นไปด้วย ส่งผลให้เราเกิดความรู้สึกง่วงนอนตามมา เพราะฉะนั้น บอกลาของหวานเลย ถ้าไม่อยากหลับผล็อย


7. ยืดเส้นยืดสายกันหน่อย

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันตาเห็นก็คือการยืดเส้นยืดสายนี่แหละจ้า ถ้านั่งทำงานอยู่หลายชั่วโมงแล้วง่วงจัด ก็ให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาซะบ้าง จะลุกไปยืนคุยกับเพื่อนแผนกอื่น ขึ้นลงบันไดไป ๆ มา ๆ หรือเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วแอบยืดเส้นยืดสาย กระโดดตบเล่นให้ร่างกายได้ตื่นตัวหน่อยก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครเห็นจริงมะ         

การลุกขึ้นมากระโดดตบจะช่วยเร่งอัตราการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มระดับอะดรีนาลีนและคอร์ติซอล

ซึ่งช่วยชาร์จพลังงานให้แก่ร่างกายด้วย ถ้าอยากสดชื่นก็อย่าได้แคร์ใคร เอ้า...ลุกขึ้นมากระโดดตบกันเร็ว !!!


8. ฟังเพลงกันเถอะ
         
หาหูฟังดี ๆ สักอันมาครอบหูแล้วเปิดเพลงฟังแก้ง่วงยามบ่ายกันดีกว่า การฟังเพลงจะช่วยทำให้เรามีสมาธิ และเพิ่มความตื่นตัวขึ้นด้วย แต่ต้องฟังกับหูฟังเท่านั้น อย่าเปิดผ่านลำโพง ส่วนจะเลือกฟังเพลงแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับตัวเราเองค่ะว่าเพลงแบบไหนจะช่วยทำให้เราตื่นตัวได้มากที่สุด ก็ลองค้นหาแนวเพลงที่เหมาะกับเราดูนะ


9. ฝึกลมหายใจ

ถ้าไม่รู้จะแก้ง่วงอย่างไรดี งั้นลองมาฝึกลมหายใจปลุกตัวเองให้กระฉับกระเฉงขึ้นก็แล้วกัน

เริ่มจากนั่งหลับตา พยายามหายใจเข้าออกถี่ ๆ ทางจมูก ถ้าทำได้สักวินาทีละ 3 รอบก็จะดีมาก

แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็เอาเท่าที่ไหวค่ะ ทำไปจนกระทั่งเรารู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ฐานต้นคอ เหนือกระดูกไหปลาร้า และที่กระบังลมเกิดการเคลื่อนไหวตาม

ลองทำแบบนี้ติดต่อกันสัก 15 วินาที แล้วกลับมาหายใจแบบปกติ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนถึง 1 นาที วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกมีพลัง ตื่นตัว แก้ง่วงได้ดีนักแล



10. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

รู้กันอยู่แล้วล่ะว่าการออกกำลังกายมีแต่ประโยชน์ แล้วก็ยังช่วยแก้ง่วงยามบ่ายได้เหมือนกันนะ เพราะการออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นประจำ จะช่วยเติมพลังให้ร่างกาย เหมือนมีไฟตลอดเวลา แถมยังปลุกความสดชื่นให้สมองอีกด้วย เอ้า ! ลุกขึ้นมาออกกำลังกายกันหน่อยจ้า


วิธีแก้ง่วงยามบ่าย ปลุกความสดชื่นง่าย ๆ ไม่ต้องพึ่งกาแฟ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

95
หลายคนที่อยากจัดฟันหรือกำลังจัดฟันอยู่ คงพอรู้กันมาอยู่แล้วว่าหลังจากที่จัดฟันเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) หรือที่เคยได้ยินกันมาว่า เครื่องมือคงสภาพฟันนั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้ฟันเรียงตัวอยู่ในตำแหน่งที่สวยงาม ป้องกันฟันล้ม หรือฟันเคลื่อนตัวภายหลังการจัดฟัน ซึ่งปัจจุบันรีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบด้วยกัน คือ รีเทนเนอร์แบบใสและรีเทนเนอร์แบบลวด


ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์จะเกิดอะไรขึ้นกับฟัน??

หลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ฟันก็จะค่อยๆเคลื่อนจนทำให้เกิดฟันล้ม ฟันเก หรือฟันห่าง ซึ่งทำให้ต้องเสียเงิน และเสียเวลากลับมาจัดฟันใหม่อีกรอบ


วิธีเก็บรักษารีเทนเนอร์

    ใช้แปรงสีฟันแปรงด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำสบู่อ่อนๆ ทำความสะอาดรีเทนเนอร์เบาๆ เป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน
    ใช้ก้านสำลีเช็ดทำความสะอาดร่องรีเทนเนอร์ เนื่องจากเป็นจุดที่ทำความสะอาดยาก
    แช่ทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยเม็ดฟู่ เพื่อช่วยกำจัดแบคทีเรีย ประมาณ 1-2 ครั้ง/เดือน โดยเมื่อแช่ทำความสะอาดแล้ว ให้เทน้ำทิ้ง ไม่ควรเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป
    ทุกครั้งที่ถอดรีเทนเนอร์ควรนำใส่กล่องทันที ไม่ควรห่อกระดาษทิษชู่
    พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อตรวจเช็ครีเทนเนอร์ และสุขภาพฟัน


ใส่ฟันปลอม จัดฟันได้ไหมคะ

มีคำถามเขาว่าถ้าเกิดว่าใส่ฟันปลอมอยู่เนี่ยจะสามารถจัดฟันได้ไหมนะคะ ทีนี้เราก็ต้องมาแบ่งกันก่อนนะคะว่าฟันปลอมเนี่ยมีแบบไหนบ้าง

อย่างแรกเลยก็ คือถ้าเกิดเป็นฟันปลอมแบบถอดได้นะคะ ถ้าเมื่อเราเลื่อนฟันหรือมีการจัดฟันอยู่เนี่ยมันปลอมที่เราใส่อยู่ตอนนั้นก็จะใส่ได้ไม่พอดีนะคะซึ่งก็จะใช้ไม่ได้แล้วต้องรอจัดให้เสร็จเลยแล้วค่อยทำฟันปลอมแบบถอดได้ใหม่นะคะ

แต่แบบที่สอง คือถ้าเกิดเป็นสะพานฟันนะคะฟันซี่นั้นอาจจะไม่สามารถที่จะเลื่อนได้นะคะแต่ถ้าเราต้องการที่จะเลื่อนฟันในตำแหน่งที่ใส่สะพานฟันไว้จริงๆเนี่ยก็ต้องมีการตัดฟันที่เป็นสะพานเชื่อมกันออกก่อนแล้วถึงจะเลื่อนฟันได้เมื่อทำเสร็จทุกอย่างแล้วเนี่ยค่อยตัดสินใจว่าจะใส่สะพานฟันอันใหม่หรือไม่นะคะ

แบบที่สาม ก็คือว่าถ้าเกิดเป็นการใส่ฟันแบบรากเทียบนะคะฟันซี่นั้นเนี้ยก็จะไม่ สามารถเลื่อนได้เลยค่ะเพราะว่าฟันซี่นั้นถูกฟิคอยู่ในกระดูกของเราเรียบร้อยแล้วนะคะก็ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟันแบบไหนก็แล้วแต่นะคะเมื่อเราเลื่อนฟันของเขาไปแล้วจากตำแหน่งเดิมนะคะก็คงต้องมีการทำฟันปลอมหรือว่าการใส่ฟันอันใหม่ขึ้นมาค่ะ



รีเทนเนอร์ อุปกรณ์สำคัญหลังจัดฟันที่ไม่ควรมองข้าม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

96
หากคุณกำลังมองหาไอเดีย สีทาบ้านภายใน ที่ยอดเยี่ยม สำหรับห้องต่าง ๆ ในบ้านของคุณ 10 สีทาภายใน ที่เราแนะนำในบทความนี้อาจมีประโยชน์กับคุณ


สีเทาอมม่วง (Lilac Gray)

สีทาบ้านภายใน เฉดสีเทาอมม่วงที่เรียบง่าย ช่วยให้ภายในห้องของคุณดูอบอุ่น เพิ่มความรู้สึกเป็นกลางสำหรับคนในครอบครัวทุกเพศทุกวัย และทำให้บรรยากาศภายในดูร่างเริงมากยิ่งขึ้น


สีเฮเซลนัท (Hazelnut)

สีทาภายใน เฉดสีเฮเซลนัท ที่อบอุ่นและน่าดึงดูดใจ ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง มั่นใจได้เลยไม่ว่าสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณก่อนหน้านี้จะเป็นสไตล์ไหน มันจะสามารถเข้ากันได้กับผนัง สีเฮเซลนัท อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังทำให้ห้องของคุณดูสว่างขึ้นอีกด้วย


สีเขียวเข้ม (Dark Greens)

สีเขียวเข้มนี้ สามารถสร้างบรรยากาศเลียนแบบความรู้สึกของการอยู่ท่ามกลางพฤกษศาสตร์อันเขียวขจีและรับพลังการบำบัดจากธรรมชาติในบ้านของคุณได้อย่างดี สีทาภายในนี้ เหมาะกับห้องที่มีแสงสว่างส่องถึงเพียงพอและห้องที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น


สีดินอ่อน (Soft Clay)

สีดินอ่อน เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีความเร่าร้อนทางจิตวิญญาณต่อผืนดิน มันจะช่วยมอบให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและความสง่างามแบบสบาย ๆ ให้กับห้องของคุณ


สีพาสเทลสงบ (Muted Pastels)

สีพาสเทลโทนสงบ อบอุ่น เรียบง่าย มีความน่าดึงดูดใจที่นำมาซึ่งกลิ่นอายของความรู้สึกที่สมบูรณ์แบบของความเป็นกลางทางเพศและวัย สีทาบ้านภายใน นี้ จึงเหมาะสำหรับการใช้ในห้องที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องครัวและห้องน้ำ


สีฟ้าใหม่ (New Blues)

สำหรับนักอนุรักษ์นิยม ด้วยวิธีการแบบสบาย ๆ ในการออกแบบตกแต่งภายใน สีฟ้าน้ำแข็ง สีฟ้าสีอมเทาและสีฟ้าอ่อน ๆ เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม สีฟ้าหล่านี้จะช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านของคุณดูผ่อนคลาย


สีหมอก (Mist)

สีหมอก จะทำให้ผนังภายในบ้านของคุณกลายเป็นเหมือนผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า มันจะเข้ากันได้กับการตกแต่งบ้านในหลากสไตล์ตามที่คุณต้องการ


สีดีบุก (Pewter)

สีดีบุก ทำให้ผนังบ้านของคุณกลายเป็นเหมือนผืนผ้าใบเช่นเดียวกับสีหมอกก่อนหน้านี้ สามารถใช้งานร่วมกับเฉดสีอื่น ๆ ได้แทบทุกเฉดสี นอกจากนี้มันยังเข้ากันได้กับการตกแต่งบ้านในสไตล์ที่เรียบหรู


สีมัสตาร์ด (Mustard)

สำหรับผู้ที่มองหาสีที่ดูป๊อป ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมคือ สีมัสตาร์ด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างจุดเน้นบนผนังบ้านของคุณ ใช้ สีทาภายใน นี้ เพื่อสร้างความเร้าใจและเน้นการตกแต่งบ้านของคุณด้วยงานศิลปะน้อยชิ้นอย่างชาญฉลาด


สีน้ำตาลอมเทา (Mushroom)

สีน้ำตาลอมเทา อีกหนึ่ง เฉดสีทาภายใน ที่เป็นกลางสำหรับคนทุกเพศทุกวัยให้ความรู้สึกเป็นกันเองสำหรับแขกผู้มาเยือน ยิ่งไปกว่านั้นมันจะดูดีมากหากคุณใช้มันร่วมกับการตกแต่งบ้านในโทนธรรมชาติ



บ้านจัดสรรโคราช: เทรนด์ สีทาภายใน ที่ยอดเยี่ยมที่สุด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/

97
ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุและหญิงวัยหมดประจำเดือน ในกรณีการนอนไม่หลับถ้าเป็นบางครั้งหรือเกิดชั่วคราว ยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเรื้อรังควรต้องรีบ แก้ไข ถ้าไม่รับแก้ไขอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

การนอนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ความรู้สึกสดชื่นเป็นสุขเมื่อตื่นนอน ช่วยให้สมองทำงานไวขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ผิวพรรณดี และลดความเสี่ยงโรคอ้วนโรค ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ

ไม่ว่าการนอนไม่หลับจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ตาม อาหารมีส่วนช่วยต่อการนอนหลับได้ดังนี้ (จากหนังสืออาหารบำบัดโรคโดยอาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช) กล่าวไว้ว่า

ผู้ที่มีนิสัยการบริโภคผิดๆ จะมีผลทำให้ร่างกายขาดสารอาหารหลาย ๆ ชนิดจะส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียและมีปัญหารบกวนการนอนหลับจนทำให้โรคนอนไม่หลับได้ ในทางตรงกันข้าม การกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้แก่ วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารครบถ้วน รวมทั้งงดเครื่องดื่มกาแฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารที่ปราศจากการปรุงแต่ง( Food additives)จะช่วยส่งเสริมสุขภาพและช่วยให้นอนหลับได้ดีที่สุด สารอาหารที่เกี่ยวข้องและ ช่วยลดปัญหาการนอนไม่หลับ ได้แก่ วิตามินบี ( 6และ 12)แคลเซียม แมกนีเซียม และทริปโตเฟน

วิตามินบี การขาดวิตามินในกลุ่ม บี เช่นขาดในอะซินและ วิตามินบี 6 อาจจะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ หากสาเหตุการนอนไม่หลับเนื่องจากการขาดวิตามินดังกล่าวการเสริมวิตามินเหล่านี้จะช่วยแก้ไขได้

วิตามินบี 6 มีความสำคัญในการสร้างเซโรโทนินในสมอง สารตัวนี้ช่วยควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ ผู้ที่ได้รับวิตามินบี 6 อาหารไม่เพียงพออาจมีการอาการนอนไม่หลับ ซึมเศร้า หงุดหงิด

วิตามินบี 12 การเสริมวิตามินตัวนี้ช่วยให้อาการนอนไม่หลับเรื้อรังดีขึ้น แต่เมื่อหยุดเสริมอาการจะกลับมาอีก แต่การเสริมวิตามิน B12 เพื่อแก้ไขอาการนอนไม่หลับต้องเสริมในปริมาณสูง ดังนั้นจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

นอกจากนี้มีหลักฐานการวิจัยว่า การกินอาหารที่มีวิตามินบี 1 และกรดโฟลิกช่วยให้นอนหลับดีขึ้นในบางคนเท่านั้น

แร่ธาตุ บางชนิดมีผลทางอ้อมต่อการนอนหลับ เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม แร่ธาตุทั้งสองจะทำงานร่วมกัน ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อ การขาดแร่ธาตุหนึ่ง ใน สอง ตัวนี้จะทำให้เกิดตะคริวและรบกวนการทำงานของเส้นประสาท มีผลทำให้นอนไม่หลับ อาหารที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูงจะช่วยให้อาการดีขึ้นในกรณีระดับสารเหล่านั้นในร่างกายลดลง

นอกจากแร่ธาตุทั้งสองชนิดที่กล่าวมาแล้ว สารอาหารทองแดงและธาตุเหล็กก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ถ้าขาดทองแดงจะทำให้หลับช้า แต่หลับได้นานขึ้น และมีความรู้สึกเหมือนนอนไม่อิ่ม ส่วนการขาดธาตุเหล็กจะทำให้นอนเร็วขึ้น นอนนานขึ้น แต่ตื่นกลางดึกบ่อยขึ้น

ผลการวิจัยอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่นเส้นก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ข้าว ขนมปัง ซีเรียล จะช่วยให้สมองผลิตเซโรโทนินมากขึ้น ฉะนั้นก่อนนอนครึ่งชั่วโมงอาจจะลองกินคาร์โบไฮเดรตเล็กน้อยเป็นอาหารว่างเบาๆเพื่อช่วยให้หลับง่าย

มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ถ้านอนไม่หลับ ให้ดื่มนมอุ่นๆ หนึ่งแก้วก่อนนอน จะช่วยให้หลับง่าย เพราะดีกว่าการใช้ยานอนหลับ

เทคนิคในการกินอาหารก็ช่วยให้หลับได้ง่าย เช่นไม่กินอิ่มเกินไปในมื้อค่ำ เพราะจะทำให้ระบบย่อยทำงานหนักแล้วทำให้นอนไม่หลับควรกินหนักในมื้อเช้า ปานกลางในมื้อเที่ยง แต่เบาในมื้อเย็น ถ้าหิวก่อนนอนอาจจะทำให้นอนไม่หลับควรเลือกอาหารเบา ๆ เช่น นมจืดพร่องมันเนย หรือขาดไขมัน นมถั่วเหลือง ขนมปัง หรือโยเกิร์ต

ออกกำลังกาย ผลการวิจัยของมหาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า การออกกำลังกายขนาดปานกลางสม่ำเสมอจะช่วยให้หลับง่ายขึ้นและนานขึ้นและร่างกายตื่นตัวขึ้นในระหว่างการทำงาน แต่ไม่ควรออกกําลังกายก่อนนอน เพราะจะทำให้ระบบประสาทตื่นตัวและนอนไม่หลับ

ดังนั้นก่อนนอนไม่หลับชั่วคราวอาจแก้ไขด้วยการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง โปรตีนต่ำ จะทำให้ระดับทริปโตเฟนในสมองสูงขึ้น ขณะเดียวกันให้เพิ่มอาหารวิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียมทองแดง และธาตุเหล็ก ซึ่งการบริโภคอาหารหลัก 5 หมู่ได้สัดส่วนที่เหมาะสม จะช่วยให้รับสารอาหารดังกล่าวเพียงพอ

กรณีที่มีอาการนอนหลับเรื้อรังควรหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อจะได้แก้ไขจากต้นเหตุ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือโภชนาการที่ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลดความเครียดฝึกการนอนเป็นเวลา เลี่ยงการนอนเวลากลางวัน เลี่ยงดื่มแอลกอฮอล์กาแฟอีน และยาที่มีฤทธิ์เป็นสารกระตุ้น ก็จะช่วยขจัดการนอนไม่หลับได้ แต่ถ้าอาการนอนไม่หลับเกิดเรื้อรังและหาสาเหตุไม่พบก็จำเป็นจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาให้ถูกทาง

อาหารสุขภาพ แก้อาการนอนไม่หลับ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

98
ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon® 680 อันทรงพลัง พร้อมพื้นที่หน่วยความจำ 6GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน 128GB ทำให้ Galaxy A05s สามารถเล่นเกม รับชมคอนเทนต์ รวมถึงแชร์สิ่งต่าง ๆ ที่คุณชื่นชอบหรือสนใจบนโซเชียลมีเดียได้อย่างลื่นไหล

รายละเอียดเบื้องต้น
   
ยี่ห้อ-รุ่น                ซัมซุง SAMSUNG Galaxy A05s (6GB/128GB)
ราคากลาง             5,499 บาท ดูโทรศัพท์มือถือราคาใกล้เคียง
จำนวนซิม              2 ซิม (Nano Sim)
แบบดีไซน์             จอสัมผัส
สี                      Black
   
ความถี่-เครือข่าย
2G
3G
4G
   
ขนาด-น้ำหนัก                  ยาว 168 x กว้าง 77.8 x หนา 8.8 มม., น้ำหนัก 194 กรัม
ความจุข้อมูลภายใน (ROM) 128 GB
ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด   -
แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ     ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
ชนิดจอ                         จอสัมผัส (PLS LCD)
ความละเอียด                  6.7 นิ้ว, 1,080 x 2,400 px
   
รายละเอียดอื่น
กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด
กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (13 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ
-
ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)
Snapdragon 680 Octa-Core
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)
6.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก
USB(Type C 2.0), Bluetooth(v5.1), Jack(3.5 มม.), Wi-Fi(802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz, VHT80)
   ระบบรับส่งข้อความ
-
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
3G, WiFi, 4G


มือถือ Samsung ซัมซุง Galaxy A05s (6GB/128GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/samsung/

99
ปัญหาเรื่องรอยร้าวเป็นปัญหาที่แทบทุกบ้านจะต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงบ้านร้าว ผนังบ้านร้าว ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างความรำคาญใจไปจนถึงความกลัวให้เกิดแก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยได้ รอยร้าวที่เห็นว่าเล็ก ๆ บางครั้งก็แค่ทำให้บ้านหรืออาคารดูไม่สวย รกหูรกตา แต่บางครั้งปัญหากำแพงบ้านร้าว ผนังบ้านร้าวก็อาจนำมาซึ่งปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างที่อาจทำให้บ้านทรุด พัง หรือถล่มลงมาได้


ผนังบ้านร้าว เกิดจากอะไร ?

บ้านร้าว-ทำยังไง

ปัญหาผนังบ้านร้าวหรือกำแพงบ้านร้าวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุตั้งแต่สาเหตุเล็ก ๆ อย่างการใช้บริการช่างที่ไม่มีความชำนาญในด้านการฉาบและผสมปูน การใช้ปูนที่ไม่ได้มาตรฐาน การผสมปูนที่ไม่ได้สัดส่วน ปัญหาปูนตายหรือการทิ้งระยะเวลาระหว่างการผสมปูนฉาบกับการทำงานไว้นานเกินไป การฉาบปูนหนาเกินไป สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจนถึงการที่คานด้านบนของกำแพงรับน้ำหนักมากเกินไป หรือการที่เสาบ้านบางต้นทรุดตัว จึงทำให้คานที่รับน้ำหนักบนเสาไม่สามารถต้านน้ำหนักเอาไว้ได้ดีเหมือนเดิม สาเหตุเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุของอาการผนังบ้านร้าว กำแพงบ้านร้าวทั้งสิ้น


รอยร้าว ระดับไหน ? ถึงควรเรียกช่าง

จะทราบได้อย่างไรว่ารอยร้าวระดับไหนถึงควรเรียกช่าง? จริง ๆ แล้วรอยร้าวแต่ละแบบนั้นสามารถบอกปัญหาของบ้านหลังนั้น ๆ ได้ ดังนั้น คุณก็สามารถสังเกตความรุนแรงของปัญหาได้ด้วยตนเอง


1.    รอยแตกร้าวลายงา

ผนังบ้านร้าว กำแพงบ้านร้าวที่มีลักษณะเป็นรอยร้าวแตกลายงาเส้นเล็ก ๆ ตามผนังปูนฉาบเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ปูนฉาบที่ไม่ได้มาตรฐาน ช่างฉาบปูนไม่มีความชำนาญ หรือเร่งฉาบปูนเกินไปเมื่อก่ออิฐเพิ่งเสร็จ ฯลฯ รอยแตกร้าวลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่มักจะสร้างความหงุดหงิดใจเพราะทำให้บ้านหรืออาคารดูเก่า ไม่น่าดู และอาจนำมาซึ่งปัญหาน้ำรั่วซึมผนังบ้านได้ จึงควรรีบซ่อมแซมให้เร็วที่สุด


2.    รอยแตกร้าวในแนวเฉียงที่กลางผนัง

รอยแตกร้าวในแนวเฉียงกลางผนังจากมุมบนลงล่าง สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากเสาต้นใดต้นหนึ่งในบ้าน เกิดการทรุดตัวจนคานที่รับน้ำหนักบนเสาไม่สามารถพยุงน้ำหนักได้เหมือนเดิม สาเหตุหลักคือการต่อเติมบ้านที่ไม่ถูกต้องหรือการที่เสาเข็มเคลื่อนตัวออกจากจุดเดิมทำให้รากฐานอาคารทรุดตัว ในกรณีนี้ เจ้าของบ้านควรรีบปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม


3.    รอยแตกร้าวในแนวดิ่งที่กลางผนัง

หากผนังบ้านร้าวเป็นแบบแนวดิ่งตรงกลางผนังอาจเป็นไปได้ว่าคานด้านบนของผนังมีการรับน้ำหนักมากเกินไปจนทำให้พื้นแอ่นเป็นรูปตัวยู (U) ซึ่งเป็นไปได้ว่ามีของที่มีน้ำหนักมากกดทับอยู่ ส่วนมากจะเกิดที่ชั้นล่างหรือชั้นบนสุดที่ติดกับดาดฟ้าที่อาจะมีการติดตั้งแท็งก์น้ำ สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้โดยย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเหล่านั้นออกจากจุดที่มีปัญหา แล้วให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างอีกครั้ง


4.    รอยร้าวแตกลึกบริเวณเสา

รอยร้าวบริเวณเสาในลักษณะนี้เกิดจากการที่เสารับน้ำหนักมากเกินไปหรือมีการใช้อาคารผิดวัตถุประสงค์ เช่น แต่เดิมเป็นบ้านที่ใช้เพื่ออยู่อาศัยแต่กลับมีการติดตั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่ทำให้เสาต้องแบกรับน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักที่วิศวกรคำนวณให้ในตอนแรก ส่งผลให้โครงสร้างอาคารแต่ละส่วน รวมถึงเสาและคานแยกออกจากกัน หากรอยร้าวแตกลึกจนมองเห็นเหล็กเสริมภายในควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญให้เร็วที่สุดเพราะอาจทำให้อาคารถล่มลงมาได้


วิธีการซ่อมรอยร้าวด้วยตัวเองเบื้องต้น

สำหรับบ้านที่มีรอยร้าวแตกลายงาที่มีขนาดน้อยกว่า 2 มม. เจ้าของบ้านสามารถซ่อมรอยร้าวเบื้องต้นด้วยตนเองได้โดยใช้ อะคริลิก ฟิลเลอร์ หรือ วอลล์ พุตตี้ สำหรับซ่อมแซมรอยแตกร้าวขนาดเล็ก โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

-    ทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องการซ่อมแซมให้สะอาด ปราศจากฝุ่นผง เศษซีเมนต์ และคราบไขต่าง ๆ และรอให้แห้งสนิท

-    ใช้อะคริลิก ฟิลเลอร์ หรือ วอลล์ พุตตี้ อุดโป๊วรอยแตกร้าวให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง

-    หากต้องการอุดโป๊วซ้ำอีกครั้ง ควรทิ้งระยะเวลาไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หากไม่ต้องอุดโป๊วซ้ำ ให้รอครบ 2 ชั่วโมง แล้วจึงใช้กระดาษทรายขัดตกแต่งให้เรียบเนียน
-    กรณีต้องการทาสีทับ ควรรอให้แห้งสนิท 24 ชั่วโมง แล้วทาสีตามต้องการ




ซ่อมบำรุงอาคาร: กำแพงบ้านร้าว ผนังบ้านร้าว เกิดจากอะไร ระดับไหนถึงต้องเรียกช่าง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

100
หลายคนคงมีปัญหาฟันเหลืองหรือมีสีฟันที่เข้มกว่าปกติ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจและอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันอื่นๆตามมาได้ ซึ่งหากเกิดปัญหาเหล่านี้ การฟอกสีฟันอาจจะตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาได้ เพราะการฟอกสีฟัน หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การฟอกฟันขาว คือวิธีการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ฟันที่มีสีเหลือง สีเข้ม สีคล้ำกลับมาขาวขึ้น เป็นธรรมชาติ  เนื่องจากอาหารหรือเครื่องดื่มที่เรารับประทานหรือการสูบบุหรี่ ซึ่งคราบต่างๆเหล่านี้สะสมบนผิวฟัน และไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยการแปรงฟันหรือขูดหินปูน จึงต้องอาศัยน้ำยาฟอกสีฟันช่วยกำจัดคราบสีที่ติดบนผิวฟัน โดยปัญหาเหล่านี้ จะสร้างปัญหาให้แก่เรา ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราเปลี่ยนแปลงไป อาจจะทำให้เราไม่กล้าพูดคุย ไม่กล้ายิ้ม และขาดความมั่นใจในตัวเอง แน่นอนว่า ปัญหาเหล่านี้ มักจะเกิดขึ้นกับวัยทำงานที่มักจะมีพฤติกรรมการดื่มกาแฟระหว่างวัน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฟันเหลือง แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีฟันเหลือง เนื่องจากดื่มชา กาแฟ ทำให้สีฟันเข้มขึ้น การฟอกสีฟัน ก็สามารถช่วยได้ แต่ฟันขาวของคุณหลังจากการเข้ารับการฟอกสีฟันจะอยู่ได้นานหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดและพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้เข้ารับการรักษาด้วย และในวันนี้ทางคลินิก เราจะมาพูดถึงเครื่องดื่มที่ผู้เข้ารับการรักษาควรจะหลีกเลี่ยง ภายหลังจากการฟอกสีฟัน เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับในเรื่องของการรับประทานอาหารนั้น สิ่งที่ผู้เข้ารับการรักษาควรจะหลีกเลี่ยงคือ  อาหารที่จะทำให้ฟันเกิดคราบสีได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น ดาร์กช็อกโกแลต ซุปสีเข้ม เนื้อวัว ซอสมะเขือเทศ หรืออื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีอาหารอีกประเภทที่ยังอาจทำให้ฟันคุณมีสีเข้มขึ้น เนื่องจากมีส่วนประกอบของซอสและเครื่องเทศต่างๆ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้เพราะจะทำให้กระบวนการฟอกสีฟันมีประสิทธิภาพต่ำสุด สำหรับเมนูเครื่องดื่มที่ผู้เข้ารับการฟอกสีฟันควรจะหลีกเลี่ยงคือ ชาและกาแฟ ยิ่งผู้เข้ารับการรักษาดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเข้มมากเท่าไหร่ โอกาสเกิดคราบยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แต่หากจะดื่ม ควรผสมนมลงไปเพื่อทำให้สีเครื่องดื่มเจือจางและลดโอกาสเกิดคราบสีได้ ต่อมาคือ น้ำผลไม้ เช่น องุ่น ทับทิม และแครนเบอร์รี่ที่มีสีสดและอาจทำให้เกิดคราบสีได้ หากผู้เข้ารับการรักษาต้องการดื่มน้ำเหล่านี้ 


ให้พยายามใช้น้ำเปล่ากลั้วปากหรือรับประทานจากหลอด เพื่อไม่ให้ฟันด้านหน้าโดนน้ำผลไม้นั้น รวมไปถึง น้ำส้ม น้ำองุ่น น้ำมะเขือเทศ หรืออีกหนึ่งคือผลไม้สีเข้มทุกชนิดเพราะกรดในผลไม้เหล่านั้นก่อให้เกิดคราบสีได้ ต่อมาเครื่องดื่มยอดฮิตอย่าง โคลาและเครื่องดื่มเกลือแร่ มีกรดสูงและช่วยเพิ่มโอกาสเกิดคราบสี ต่อมาคือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง อาจทำให้ฟันเกิดคราบสีได้ หากดื่มมากเกินไป แม้ไวน์แดงจะทำให้ฟันเป็นคราบสี แต่กรดจากไวน์ขาวยังทำให้เกิดร่องเล็กๆ ในฟัน ทำให้ฟันมีรูพรุนและเป็นคราบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และอาจจะส่งผลให้เกิดโรคฟันผุตามมาได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสี รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีฟองเช่นเบียร์ เพราะก่อให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการฟอกฟันขาว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาด ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นเดียวกัน ไม่แพ้การรับประทานอาหาร เพราะฉะนั้น ผู้เข้ารับการรักษาควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลังการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มทุกครั้ง เพื่อลดการสะสมคราบซึ่งจะก่อให้เกิดสีบนผิวฟัน และเสี่ยงต่อการเกิดคราบหินปูนควรแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยขจัดคราบบนผิวฟัน ใช้ยาสีฟันสำหรับผู้ที่ฟอกสีฟันโดยเฉพาะ เพื่อช่วยคงความขาวของฟันให้ได้ยาวนานขึ้น ทั้งนี้ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน หากสนใจเข้ารับการฟอกสีฟัน สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก ทางเรามีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา

จัดฟันบางนา: เครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงหลังจากการฟอกสีฟัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7