1
เครื่องจักรกล | Machinery / Cooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์) หอหล่อเย็นนวัตกรรมระบายความร้อนของอุตสาหกรรมและอ
« เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2022, 03:59:08 PM »
Cooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์) หอหล่อเย็นนวัตกรรมระบายความร้อนของอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์

Cooling Tower (หอหล่อเย็น) คือ
Cooling Tower (หอหล่อเย็น) คือ อุปกรณ์ระบายความร้อนที่ใช้น้ำเพื่อถ่ายเทความร้อน นับได้ว่าเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนขนาดใหญ่ มีระบบปฏิบัติการ cooling tower system อย่างมีประสิทธิภาพ หอระบายความร้อนมีการออกแบบ cooling tower ให้มีใบพัด cooling tower เพื่อให้อากาศเคลื่อนขึ้นด้านบนทำให้อากาศเย็นลง จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งหอทำความเย็นจะเป็นตัวนำพาความเย็นไปยังจุดต่างๆ ด้วยอาศัยเครื่องจ่ายลมเย็นเป็นตัวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในอาคารที่มีการติดตั้งหอหล่อเย็นไว้ เพื่อระบายความร้อนออกจากตัวอาคารและเครื่องจักร
หลักการทำงานของหอหล่อเย็น Cooling Tower
หลักการทำงานของหอหล่อเย็น Cooling Tower เป็นการทำงานด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนความร้อน โดยมีน้ำเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อนไปยังอากาศ ด้วยวิธีการระเหย ซึ่งหลักการทำงานของหอหล่อเย็นจะนำเอาน้ำไหลผ่านแผงรังผึ้ง (Filler) โดยด้านบนของ cooling tower จะมีใบพัด cooling tower ใบพัดหรือพัดลมดังกล่าวจะทำหน้าที่ดูดลมผ่านทางด้านข้างของแผงรังผึ้งขึ้นไปสู่ด้านบนของหอหล่อความเย็น น้ำที่ค่อยๆไหลผ่านตัวแผงรังผึ้งลงมาจะมีลมเย็นผ่านเข้ามา ซึ่งเรียกกระบวนการดังกล่าวว่ากระบวนการแลกเปลี่ยนความร้อน เมื่อเกิดการถ่ายเทความร้อน น้ำที่ไหลลงมาจะมีอุณหภูมิลดลง และน้ำที่ไหลลงมาจะไหลลงมายังส่วนฐานที่เป็นถาดด้านล่างของ Cooling Tower หลังจากนั้นจะถูกดูดไปหล่อเย็นผ่านระบบซิลเลอร์ (chiller) เพื่อนำไปหล่อตัวเครื่องจักร น้ำที่ถูกดูดผ่านไปยังระบบซิลเลอร์จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น น้ำที่มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะถูกดูดไปยังด้านบนของ cooling tower อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกระบวนการการทำงานของระบบ cooling tower จะเป็นการทำงานแบบวนซ้ำไปเรื่อยเรื่อย การทำงานของระบบดังกล่าวจะเป็นช่วยประหยัดพลังงานที่จะใช้ในการทำความเย็น รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบปรับอากาศในอาคารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ความสำคัญของ Cooling Tower
สภาพแวดล้อมและอากาศเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและประสิทธิภาพของการทำงาน ความร้อนและการถ่ายเทอากาศย่อมมีผลต่อความรู้สึกของมนุษย์ หากเปรียบเทียบบริเวณพื้นที่เดียวกันแต่ การถ่ายเทอากาศแตกต่างกัน แน่นอนว่าบริเวณพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง การถ่ายเทของอากาศไม่ปลอดโปร่ง จะทำให้มนุษย์เกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ความกระตือรือร้นและประทธิภาพในการประกอบกิจกรรมย่อมแตกต่างกันไป ฉะนั้นการทำร่างกายปรับสภาพให้อยู่ในสภาวะที่สมดุลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อมนุษย์ การนำ cooling tower system ซึ่งเป็นระบบที่นำมาใช้เพื่อระบายความร้อน และปรับสภาพอากาศภายในอาคารที่มีขนาดใหญ่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือโรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน ความกระตือรือร้น ทให้ความรู้สึกของมนุษย์เปิดรับ รวมไปถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้น
ประเภทของ Cooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์)
หอทำความเย็นCooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์) สามารถจำแนกประเภทของการใช้งาน ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
Mechanical Draft Cooling Tower
Mechanical Draft Cooling Tower การระบายความร้อนแบบร่างเครื่องกล ระบบ cooling tower เป็นการเคลื่อนที่ของอากาศเกิดจากการใช้ใบพัด cooling tower หรือพัดลมเป็นตัวบังคับให้อากาศผ่านแผงกระจายน้ำ การระบายความร้อนแบบร่างเครื่องกล มีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมากกว่าแบบธรรมชาติ
Natural Draft Cooling Tower
Natural Draft Cooling Tower คูลลิ่งทาวเวอร์แบบร่างธรรมชาติ ระบบ cooling tower จะมีการเคลื่อนที่ของอากาศที่แตกต่างกันของอุณหภูมิและความหนาแน่น เหมาะกับสภาพอากาศที่เย็นและแห้ง ซึ่งส่วนมากจะพบ cooling tower ในอุตสาหกรรมที่มีการไหลของน้ำหล่อเย็นที่ไม่มีที่สิ้นสุดและโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นต้น ระบบดังกล่าวมีข้อจำกัดในเรื่องของต้นทุนที่สูง

Counter Flow Cooling Tower
Counter Flow Cooling Tower ระบบคูลลิ่งทาวเวอร์ทวนกระแส การไหลของน้ำและอากาศมีการเคลื่อนที่สวนทางกัน การออกแบบ cooling tower ให้อากาศเคลื่อนขึ้นด้านบน น้ำร้อนจะตกลงมาเพื่อให้อากาศเย็นลง ซึ่งการทำงานในลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพของการทำงานของ ระบบ cooling tower สูงสุด
Cross Flow Cooling Tower
Cross Flow Cooling Tower คูลลิ่งทาวเวอร์ครอสโฟลว์ ระบบ cooling tower ประเภทนี้จะมีการทำงานโดยการไหลของน้ำและอากาศมีการเคลื่อนที่ตัดกัน พัดลมจะเป็นตัวป้องกันความชื้นจากสภาพอากาศ เมื่อเกิดความชื้นมากอาจทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานลดลงได้
จะเห็นได้ว่า ระบบ cooling tower ในแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป มีความเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ฉะนั้นก่อนการนำ cooling towers ไปใช้งานควรศึกษาสภาพแวดล้อม ความเหมาะสมในการใช้งานให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน รวมไปถึงการทำงานของระบบ cooling tower ที่ถูกจัดวางในพื้นที่ที่ต้องการใช้งานอีกด้วย
Cooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์) มีประโยชน์อย่างไร
จากการกล่าวมาข้างต้น cooling tower system หรือหอหล่อเย็นเป็นระบบที่สร้างขึ้นด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนความร้อน โดยใช้การถ่ายเทความร้อนด้วยการระเหย มีน้ำเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ทำหน้าที่ระบายความร้อน ปรับอากาศภายในอาคาร ซึ่งระบบ cooling tower มีการออกแบบมาเพื่อความเหมาะสมและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน มีความคงทน แข็งแรงต่อต้านการสึกหล่อและแตกหัก ป้องกันสนิม
ทนต่อสภาพแวดล้อม การติดตั้ง cooling tower ควรติดตั้งบริเวณที่โล่ง บนหลังคาของอาคาร หรือบริเวณพื้นที่โล่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ cooling tower ได้อย่างเต็มรูปแบบ

Cooling Tower (หอหล่อเย็น) คือ
Cooling Tower (หอหล่อเย็น) คือ อุปกรณ์ระบายความร้อนที่ใช้น้ำเพื่อถ่ายเทความร้อน นับได้ว่าเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนขนาดใหญ่ มีระบบปฏิบัติการ cooling tower system อย่างมีประสิทธิภาพ หอระบายความร้อนมีการออกแบบ cooling tower ให้มีใบพัด cooling tower เพื่อให้อากาศเคลื่อนขึ้นด้านบนทำให้อากาศเย็นลง จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งหอทำความเย็นจะเป็นตัวนำพาความเย็นไปยังจุดต่างๆ ด้วยอาศัยเครื่องจ่ายลมเย็นเป็นตัวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในอาคารที่มีการติดตั้งหอหล่อเย็นไว้ เพื่อระบายความร้อนออกจากตัวอาคารและเครื่องจักร
หลักการทำงานของหอหล่อเย็น Cooling Tower
หลักการทำงานของหอหล่อเย็น Cooling Tower เป็นการทำงานด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนความร้อน โดยมีน้ำเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อนไปยังอากาศ ด้วยวิธีการระเหย ซึ่งหลักการทำงานของหอหล่อเย็นจะนำเอาน้ำไหลผ่านแผงรังผึ้ง (Filler) โดยด้านบนของ cooling tower จะมีใบพัด cooling tower ใบพัดหรือพัดลมดังกล่าวจะทำหน้าที่ดูดลมผ่านทางด้านข้างของแผงรังผึ้งขึ้นไปสู่ด้านบนของหอหล่อความเย็น น้ำที่ค่อยๆไหลผ่านตัวแผงรังผึ้งลงมาจะมีลมเย็นผ่านเข้ามา ซึ่งเรียกกระบวนการดังกล่าวว่ากระบวนการแลกเปลี่ยนความร้อน เมื่อเกิดการถ่ายเทความร้อน น้ำที่ไหลลงมาจะมีอุณหภูมิลดลง และน้ำที่ไหลลงมาจะไหลลงมายังส่วนฐานที่เป็นถาดด้านล่างของ Cooling Tower หลังจากนั้นจะถูกดูดไปหล่อเย็นผ่านระบบซิลเลอร์ (chiller) เพื่อนำไปหล่อตัวเครื่องจักร น้ำที่ถูกดูดผ่านไปยังระบบซิลเลอร์จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น น้ำที่มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะถูกดูดไปยังด้านบนของ cooling tower อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกระบวนการการทำงานของระบบ cooling tower จะเป็นการทำงานแบบวนซ้ำไปเรื่อยเรื่อย การทำงานของระบบดังกล่าวจะเป็นช่วยประหยัดพลังงานที่จะใช้ในการทำความเย็น รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบปรับอากาศในอาคารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ความสำคัญของ Cooling Tower
สภาพแวดล้อมและอากาศเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและประสิทธิภาพของการทำงาน ความร้อนและการถ่ายเทอากาศย่อมมีผลต่อความรู้สึกของมนุษย์ หากเปรียบเทียบบริเวณพื้นที่เดียวกันแต่ การถ่ายเทอากาศแตกต่างกัน แน่นอนว่าบริเวณพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง การถ่ายเทของอากาศไม่ปลอดโปร่ง จะทำให้มนุษย์เกิดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ความกระตือรือร้นและประทธิภาพในการประกอบกิจกรรมย่อมแตกต่างกันไป ฉะนั้นการทำร่างกายปรับสภาพให้อยู่ในสภาวะที่สมดุลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อมนุษย์ การนำ cooling tower system ซึ่งเป็นระบบที่นำมาใช้เพื่อระบายความร้อน และปรับสภาพอากาศภายในอาคารที่มีขนาดใหญ่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือโรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน ความกระตือรือร้น ทให้ความรู้สึกของมนุษย์เปิดรับ รวมไปถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้น
ประเภทของ Cooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์)
หอทำความเย็นCooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์) สามารถจำแนกประเภทของการใช้งาน ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
Mechanical Draft Cooling Tower
Mechanical Draft Cooling Tower การระบายความร้อนแบบร่างเครื่องกล ระบบ cooling tower เป็นการเคลื่อนที่ของอากาศเกิดจากการใช้ใบพัด cooling tower หรือพัดลมเป็นตัวบังคับให้อากาศผ่านแผงกระจายน้ำ การระบายความร้อนแบบร่างเครื่องกล มีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมากกว่าแบบธรรมชาติ
Natural Draft Cooling Tower
Natural Draft Cooling Tower คูลลิ่งทาวเวอร์แบบร่างธรรมชาติ ระบบ cooling tower จะมีการเคลื่อนที่ของอากาศที่แตกต่างกันของอุณหภูมิและความหนาแน่น เหมาะกับสภาพอากาศที่เย็นและแห้ง ซึ่งส่วนมากจะพบ cooling tower ในอุตสาหกรรมที่มีการไหลของน้ำหล่อเย็นที่ไม่มีที่สิ้นสุดและโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นต้น ระบบดังกล่าวมีข้อจำกัดในเรื่องของต้นทุนที่สูง

Counter Flow Cooling Tower
Counter Flow Cooling Tower ระบบคูลลิ่งทาวเวอร์ทวนกระแส การไหลของน้ำและอากาศมีการเคลื่อนที่สวนทางกัน การออกแบบ cooling tower ให้อากาศเคลื่อนขึ้นด้านบน น้ำร้อนจะตกลงมาเพื่อให้อากาศเย็นลง ซึ่งการทำงานในลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพของการทำงานของ ระบบ cooling tower สูงสุด
Cross Flow Cooling Tower
Cross Flow Cooling Tower คูลลิ่งทาวเวอร์ครอสโฟลว์ ระบบ cooling tower ประเภทนี้จะมีการทำงานโดยการไหลของน้ำและอากาศมีการเคลื่อนที่ตัดกัน พัดลมจะเป็นตัวป้องกันความชื้นจากสภาพอากาศ เมื่อเกิดความชื้นมากอาจทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานลดลงได้
จะเห็นได้ว่า ระบบ cooling tower ในแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป มีความเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ฉะนั้นก่อนการนำ cooling towers ไปใช้งานควรศึกษาสภาพแวดล้อม ความเหมาะสมในการใช้งานให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน รวมไปถึงการทำงานของระบบ cooling tower ที่ถูกจัดวางในพื้นที่ที่ต้องการใช้งานอีกด้วย
Cooling Tower (คูลลิ่งทาวเวอร์) มีประโยชน์อย่างไร
จากการกล่าวมาข้างต้น cooling tower system หรือหอหล่อเย็นเป็นระบบที่สร้างขึ้นด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนความร้อน โดยใช้การถ่ายเทความร้อนด้วยการระเหย มีน้ำเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ทำหน้าที่ระบายความร้อน ปรับอากาศภายในอาคาร ซึ่งระบบ cooling tower มีการออกแบบมาเพื่อความเหมาะสมและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน มีความคงทน แข็งแรงต่อต้านการสึกหล่อและแตกหัก ป้องกันสนิม
ทนต่อสภาพแวดล้อม การติดตั้ง cooling tower ควรติดตั้งบริเวณที่โล่ง บนหลังคาของอาคาร หรือบริเวณพื้นที่โล่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ cooling tower ได้อย่างเต็มรูปแบบ