ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - บางกอกเอสอีโอ

หน้า: 1 ... 55 56 57 58 59 [60]
2951


เครื่องทําน้ำอุ่น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พบเห็นได้ตามบ้านเรือน หลายท่านคุ้นชินกับการอาบน้ำอุ่นไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศใดก็ตาม แล้วจะเลือกเครื่องทําน้ำอุ่นอย่างไรให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด

การอาบน้ำอุ่นมีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเราเป็นอย่างมาก ช่วยทำให้โลหิต มีการหมุนเวียนได้ดี กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังขจัดสิ่งสกปรกของร่างกาย ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย คืนความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกาย
ก่อนจะทำการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ควรดู มิเตอร์ไฟบ้าน ว่ากี่แอมแปร์ วิธีดูก็ต้องไปที่เสาไฟฟ้า แล้วดู หรือตรงมิเตอร์ที่ กฟฝ.มาเก็บค่าไฟ

เครื่องทำน้ำอุ่นคือหนึ่งในของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไว้ภายในบ้านที่ใช้กำลังไฟมาก การเลือกซื้อเลือกหาเครื่องทำน้ำอุ่นควรมองหาเครื่องที่ได้รับมาตรฐานและประหยัดไฟเบอร์ 5  การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการติดตั้งสายดิน ผู้บริโภคควรมองหาเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีระบบตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ เมื่อมีไฟฟ้ารั่ว ควรเลือกซื้อเลือกหาเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีการประกันที่ครอบคลุม มีศูนย์ซ่อมที่สามารถติดต่อได้ง่าย อาทิ มีเบอร์โทรศัพท์ตรงสำหรับ call center หรือพนักงานที่สามารถให้คำตอบและข้อมูลแก่ลูกค้าได้อย่างถูกต้องและมีความเชียวชาญ ชำนาญ

เลือกซื้อ เครื่องทําน้ำอุ่น ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/PLU0501

2952


พัดลมไอเย็นคือพัดลมประเภทหนึ่ง ที่มีการทำงานแตกต่างจากพัดลมปกติ เพราะว่าพัดลมไอเย็นนั้นจะทำงานด้วยระบบ Evaporative Cooling System ที่ทำหน้าที่ดูดความร้อนจากอากาศในบริเวณรอบๆ เข้าไปผ่าน Cooling Pad หรือแผ่นความเย็น ซึ่งน้ำในอากาศจะระเหยออก ทำให้ความร้อนในอากาศนั้นหายไป ลมที่ปล่อยออกมาจึงเป็นลมที่มีความเย็น ช่วยลด อุณหภูมิในอากาศ เพราะว่าลม ที่พัดผ่านตัวพัดลม จะเย็นลงตั้งแต่ 4-10 องศา

พัดลมไอเย็นใช้งานสะดวก เคลื่อนย้ายได้สะดวก แค่เพียงเติมน้ำเข้าตัวเครื่อง และ ตัวเครื่องยังได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ให้เหมาะสมกับการทำงานที่มีน้ำประปา นั่นคือ มีระบบลูกลอย ในการเติมน้ำอัตโนมัติ

พัดลมไอเย็น จะให้ความเย็น เฉพาะที่เพียงเท่านั้น ซึ่งต่างกับเครื่องปรับอากาศบ้านตรงที่เป็นการปรับอุณหภูมิทั้งพื้นที่ของในห้องๆนั้น แต่จุดดีของพัดลมไอเย็นคือ ท่านสามารถใช้พัดลมไอเย็นเพื่อให้ความเย็นได้ เมื่ออยู่บ้านเพียงคนเดียวแล้วกลัวเปลืองค่าไฟ แถมยังประหยัดค่าไฟ มากกว่า เครื่องปรับอากาศ รวมไปถึงค่าตัวของเจ้าพัดลมไอเย็นนั้น ก็ไม่ได้มีราคาแพงและไม่ต้องทำการติดตั้งให้ยุ่งยากอีกด้วย

พัดลมไอเย็นประหยัดพลังงาน มากกว่าการใช้ แอร์ พัดลมไอเย็น ใช้กำลังไฟฟ้า เทียบเท่า กับพัดลมธรรมดา ทั่วไป แต่ให้ความเย็น ที่มากกว่า พัดลมธรรมดา อาจจะเทียบเท่า กับการให้ความเย็น ของแอร์ เลยก็ว่าได้ ไม่มี ละอองน้ำ ไม่ทำให้ เกิดการเปียกชื้น ซึ่งแตกต่างจากพัดลมไอน้ำทั่วไป

การทำความสะอาดของเจ้าพัดลมไอเย็นนั้น หากเราใช้เป็นประจำทุกวันก็ควรที่จะถอดตัว Filter ที่เป็นตัวกรองฝุ่นออกมา เพื่อทำความสะอาด ประมาณ 2 อาทิตย์ นำออกมาล้างซักครั้ง ซึ่งการทำความสะอาดตัว Filter นั้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแค่ใช้ น้ำยาล้างจาน หรือผงซักฟอก เพียงเท่านี้ Filter ก็จะกลับมาสะอาดสดใสไร้ฝุ่นอีกครั้ง

พัดลมไอเย็นถูกผลิตออกมาวางจำหน่ายมากมายหลายแบรนด์หลายรุ่นด้วยกัน แต่ละแบรนด์นั้นก็มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน แตกต่างกันบ้างที่ขนาด และฟังก์ชั่นการใช้งาน การที่เราจะเลือกพัดลมไอเย็นรุ่นไหนดีนั้น ต้องดูที่คุณสมบัติต่าง ๆ และการใช้งานของเราเป็นองค์ประกอบ

ซื้อ พัดลมไอเย็น หลากหลายยี่ห้อได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0507

2953


พัดลมถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกันเกือบทุกบ้านในไทย ยิ่งมีอากาศร้อนมากเท่าไรก็ยิ่งเปิด โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษาที่เป็นช่วงหน้าร้อน เชื่ออย่างยิ่งว่าทุกคนจะต้องเปิดพัดลมกันตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาแชร์วิธีการใช้พัดลมให้ประหยัดไฟกัน ซึ่งมีวิธีต่างๆ ดังนี้

1.ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ
ถึงแม้จะปิดการใช้งานแล้วแต่การที่ยังเสียบปลั๊กค้างเอาไว้ จะทำให้กระแสไฟยังคงวิ่งอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณยังคงเสียค่าไฟอยู่ ไม่ได้หยุดลงแต่อย่างใด การถอดปลั๊กนอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้วยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้อีกด้วย ดังนั้นหากเป็นไปได้แนะนำให้ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้เสร็จจะเป็นการดีที่สุด

2.ตั้งพัดลมตรงบริเวณที่อากาศท่ายเทสะดวก
เปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติหรือวางพัดลมในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก จะช่วยระบายอากาศและทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ และช่วยทำให้อากาศในบ้านเย็นลง ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมเบอร์แรงๆ ก็สามารถสร้างความเย็นได้ดี และยังทำให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ถือเป็นการช่วยประหยัดค่าไฟได้อย่างมากเลยทีเดียว

3.ปรับระดับความแรงของลมให้เหมาะสม
เข้าใจว่าร้อน แต่การเปิดพัดลมเบอร์แรงเกินไปอยู่ตลอดเวลาจะทำให้คุณ ๆเย็นเกินความจำเป็น การใช้ไฟฟ้าก็เพิ่มมากขึ้นและเสียค่าไฟแพงขึ้นอีกด้วย อย่างนั้นหากต้องการจะเปิดพัดลมตลอดทั้งวันก็ขอแนะนำให้เปิดเบอร์กลางๆ ที่ช่วยให้คลายร้อนได้ก็เพียงพอแล้ว

4.ทำความสะอาดพัดลมอยู่เสมอ
พัดลมหากไม่ได้ทำความสะอาดเลย ยิ่งมีฝุ่นเยอะเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้มอเตอร์ใช้งานหนักมากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพของมอเตอร์ลดลง และทำให้หมดเปลืองไฟเพิ่มขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดส่วนต่างๆ ของพัดลมไม่ว่าจะเป็น ช่องลมตรงฝาครอบมอเตอร์ซึ่งเป็นช่องระบายความร้อน ตะแกรงครอบ แผงหุ้มมอเตอร์อยู่เสมอ

เลือกซื้อ พัดลม หลากหลายรุ่นได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP05

2954


อย่างที่เราเห็นกันดีว่าสิ่งหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทสำหรับให้การใช้ชีวิตประจำวันของปัจจุบันนี้ คือ การสวมใสหน้ากากอนามัยขณะที่ออกจากที่พักอาศัย แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักคือการป้องกันไวรัสโควิด 19 แต่อีกจุดประส่งหนึ่งที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือการป้องการฝุ่น PM 2.5 นั่นเอง แน่นอนว่าฝุ่นชนิดนี้สามารถเล็ดลอดเข้ามาภายในบ้านของเราได้อย่างง่ายดาย ทีนี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่าในยุคนี้ถึงต้องใช้เครื่องฟอกอากาศ

“PM 2.5” คือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กเพียง 2.5 ไมครอน(หรือเทียบเท่า 0.0025 มิลลิเมตร หรือ 0.00025 เซนติเมตร) หากเทียบเคียงให้เห็นภาพมันจะมีขนาดที่เล็กกว่าเส้นผมของเราอีก โดยเส้นผมของเรายังมีขนาดถึง 50-100 ไมครอน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าฝุ่น PM 2.5 ถึงสิบยี่สิบเท่าเลยทีเดียว หากสูดหายใจเข้าไปมากๆ ก็จะส่งผลอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ และในระยะยาวก็อาจก่อให้เกิดเป็นโรคต่างๆ ตามมาได้อย่างไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการระคายเคือง/แสบจมูก โรคมะเร็งปอดโรคหลอดเลือดหัวใจ และอื่นๆ ทำให้เครื่องฟอกอากาศจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ในปัจจุบันนี้ สำหรับกรองอากาศในที่พักอาศัย

การทำงานของเครื่องฟอกอากาศ คือ จะทำการดูดอากาศภายในบริเวณห้องที่เครื่องตั้งอยู่เข้ามา และทำการกรอกแผ่นกรองอากาศ HEPA ที่มีคุณสมบัติ ในการกรองอากาศ เพื่อดักจับฝุ่นละออง หรืออนุภาคที่มีขนาดเล็กต่างๆ ได้ตั้งแต่ขนาด 0.3 ไมครอน ขึ้นไป ซึ่งก็หมายความว่ามันสามารถที่จะกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างสบายๆ นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นยังมีฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละออง หรืออนุภาคขนาดเล็กต่างๆ ได้มากขึ้น ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองอากาศ HEPA ร่วมกันกับการปล่อยประจุไฟฟ้าสถิต เพื่อให้ฝุ่นละออง หรืออนุภาคขนาดเล็กต่างๆ สามารถลอยเข้ามาติดกับแผ่นกรองอากาศได้ง่ายมากขึ้น โดยสามารถกรองฝุ่นละออง หรืออนุภาคขนาดเล็กต่างๆ ได้เล็กสูงสุดถึง 0.1 ไมครอนเลยทีเดียว (เล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 ถึง 25 เท่า)

สั่ง เครื่องฟอกอากาศ หลากหลายยี่ห้อได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP02

2955


เครื่องปรับอากาศ ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คู่ควรกับสภาพพอากาศของประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนมากที่สุด โดยในปัจจุบันนี้ก็ได้มีเครื่องปรับอากาศให้เราได้เลือกซื้อเลือกหานำมาใช้ง่ายหลายชนิด ซึ่งล้วนมีคุณสมบัติและฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าก่อนเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศควรรู้เรื่องอะไรก่อนบ้าง

1. เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ห้อง
ประการแรกที่คุณ ๆควรรู้คือขนาดพื้นที่ของห้องที่คุณต้องการนำเครื่องปรับอากาศมาติดตั้ง เพื่อให้สามารถเลือกขนาด BTU ของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับขนาดของห้องที่คุณจะทำการติดตั้ง โดยห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่ 100-300 ตร. ฟุตจะแนะนำให้เลือกเครื่องปรับอากาศขนาด BTU ประมาณ 5,000 – 6,000 BTU ส่วนห้องขนาดกลางที่มีพื้นที่ 250-550 ตร. ฟุต จะแนะนำให้เลือกขนาดประมาณ 7,000 – 8,200 BTU และห้องขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ 350-950 ตร. ฟุตแนะนำให้เลือกขนาดประมาณ 9,800 – 12,500 BTU เป็นต้น

2. เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
เครื่องปรับอากาศที่ติดฉลากเบอร์ 5 จะมีประสิทธิภาพในการให้พลังงานสูง ช่วยให้ประหยัดไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันแทบจะทุกรุ่น ทุกยี่ห้อก็มักจะมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดเอาไว้อยู่แล้ว

3. ฟังก์ชั่นการใช้งานเครื่องปรับอากาศ
ในปัจจุบันมีเครื่องปรับอากาศให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบมากๆ ซึ่งโดยมากจะแตกต่างกันที่ฟังก์ชั่นที่มีให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับความร้อน ระบบฟอกอากาศ PM2.5 ระบบการดักจับด้วยไฟฟ้าสถิต และอื่นๆ แน่นอนว่ายิ่งมีฟังก์ชั่นครบมากเท่าไร เครื่องปรับอากาศก็ยิ่งมีราคาสูงยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนั้นให้เลือกพิจารณาจากงบประมาณที่มีและฟังก์ชั่นที่ท่านต้องการว่าต้องการใช้เครื่องปรับอากาศแบบใด

4. การติดตั้งและการบริการหลังการขาย
การติดตั้งและการบริการหลังการขาย นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณ ๆควรรู้ก่อนเลือกซื้อเลือกหาเครื่องปรับอากาศ ให้ลองตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัทว่ามีมาตรฐานติดตั้งที่ดีมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งการรับประกันและบริการหลังการขายว่ามีการบริการซ่อมแซมแก้ไขให้หรือไม่หากเครื่องปรับอากาศของเราเกิดมีปัญหาขึ้นมา ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนมากมีราคาแพง และมีอายุการใช้งานมักจะได้รับการรับประกันอยู่แล้ว แนะนำให้ดูรายละเอียดและเงื่อนไขให้ดีๆ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวล

ดูราคา เครื่องปรับอากาศ ได้ที่

เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP01

2956


เครื่องอบผ้า อย่างที่ใครต่อใครรู้ดีว่ามีไว้ใช้อบให้ผ้าที่เพิ่งซักเสร็จของเราแห้งเสร็จไวๆ ไม่ต้องรอตากแห้งเป็นวัน ๆ ซึ่งหลายๆ ครั้งที่เสื้อผ้าของเราอาจได้รับความเสียหายจากการใช้เครื่องอบแห้ง นั่นเป็นเพราะว่าเราอาจยังใช้ได้ไม่ถูกวิธี ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาแชร์วิธีการใช้เครื่องที่ถูกต้องกันว่าควรทำอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าของคุณได้รับความเสียหายเมื่อใช้เครื่องอบผ้า

วิธีที่ 1 แนะนำให้ตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์วิธีการซักผ้า (ส่วนใหญ่อยู่ตรงบริเวณป้ายปกคอเสื้อ) ทั้งนี้เพราะเนื้อผ้าบางชนิด รวมถึงวัสดุที่อยู่บนชุดนั้นอาจไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้กับเครื่องอบผ้า ซึ่งอาจส่งผลทำให้ผ้าหดตัว หรือเกิดการเสียหายอื่นๆ ได้นั่นเอง

วิธีที่ 2 ควรแยกประเภทของผ้าออกจากกัน อาทิเช่น ผ้าเนื้อบาง และผ้าเนื้อหนา เนื่องจากระยะเวลา และอุณหภูมิความร้อนในการอบผ้าสองชนิดนี้ให้แห้งนั่นต่างกัน ผ้าหนาต้องใช้เวลาและอุณหภูมิความร้อนในการอบที่มากกว่า ซึ่งผ้าที่มีความบางอาจทนไม่ไหวแล้วเกิดความเสียหายขึ้นได้

วิธีที่ 3 เลือกใช้รูปแบบให้เหมาะสมกับชนิดผ้า โดยเครื่องอบผ้าหลายๆ รุ่นจะมีการตั้งระบบมาให้เลือกใช้งานกันแบบง่ายๆ เลย ได้แก่ ฟังก์ชั่นการอบสำหรับผ้าหนา ฟังก์ชั่นการอบสำหรับผ้าบาง และอื่นๆ หลักจากแยกชนิดผ้าเสร็จแล้วก็อย่าลืมที่จะเลือกใช้งานระบบให้เหมาะสมด้วยเพื่อให้เสื้อผ้าของคุณยังคงปกติเหมือนเดิม ไม่ได้รับความเสียหาย

วิธีที่ 4 แนะนำให้ใช้เครื่องอบผ้าเฉพาะช่วงเวลาฉุกเฉินต้องการให้ผ้าแห้งไวๆ หรือวันที่ฝนตกจะดีกว่า ทั้งนี้เพราะหากวันไหนไม่มีฝน และแดดออกดีการตากผ้าจะเป็นวิธีที่ช่วยให้ผ้าแห้งดีที่สุด เหตุเพราะผ้าสามารถแห้งได้โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นสิ่งที่คุณต้องจ่ายเพิ่มนั้นเองหากใช้เครื่องอบผ้า เพียงแต่อาจต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าผ้าจะแห้งโดยเฉพาะผ้าที่มีเนื้อผ้าหนา

วิธีที่ 5 ดูแลรักษาเครื่องอบผ้าอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้อ่านทำความเข้าใจคู่มือเรื่องวิธีการใช้ และการดูแลเครื่องอบผ้า เพื่อให้สามารถใช้เครื่องอบผ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกครั้งที่ใช้งานนั่นเอง

สั่งซื้อ เครื่องอบผ้า ได้ที่ Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1302

2957


ปัจจุบันนี้มีเครื่องซักผ้าอยู่ 2 ชนิดที่ได้รับความนิยมมาก คือ เครื่องซักผ้าฝาบน และเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ซึ่งในวันนี้เราลองมาดูกันดีกว่าว่าทั้ง 2 แบบนี้มีความเหมือน หรือต่างกันยังไง และควรเลือกชนิดไหนดี

เครื่องซักผ้าฝาบน ลักษณะของฝาเปิด-ปิดอยู่บริเวณด้านบนของตัวเครื่องซักผ้า จุดดีคือมีปุ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายให้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับผ้าชนิดต่างๆ เหมือนกับเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า แต่ว่าเครื่องซักผ้าชนิดนี้จะสามารถซักผ้าได้มากถึง 16 กิโลกรัมเลยทีเดียว แถมยังใช้เวลาในการซักที่น้อยกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าอีกด้วย ที่สำคัญคือมีราคาที่ถูกกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ส่วนข้อด้อยคือในการซัก 1 ครั้งจะใช้ปริมาณของน้ำและไฟฟ้าค่อนข้างมาก และด้วยการใช้เวลาที่น้อยทำให้ความสะอาดอาจด้อยกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าด้วย อย่างนั้นเครื่องซักผ้าฝาบนจึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ ที่ต้องการซักผ้าเป็นจำนวนมาก เน้นเรื่องปริมาณมากกว่า

เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าลักษณะของฝาเปิด-ปิด จะอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่อง จุดดีคือเป็นเครื่องซักผ้าที่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด และสามารถซักและปั่นให้แห้งได้อัตโนมัติได้ในเครื่องเดียว ซักผ้าได้สะอาดมากกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน และยังประหยัดน้ำกับค่าไฟมากกว่า แต่ก็ต้องแลกมากับข้อด้อยคือสามารถซักผ้าได้ครั้งละไม่มากโดยสามารถซักผ้าได้เพียง 7-10 กิโลกรัม ต่อการซัก 1 ครั้ง และยังใช้เวลาในการซักที่นานกว่า ที่สำคัญคือมีราคาค่อนข้างสูงอีกด้วย ดังนั้นเครื่อซักผ้าชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่ไม่ได้ต้องการซักผ้าครั้งละปริมาณมาก เน้นด้านการประหยัดพลังงานและความสะอาดเป็นหลัก

เป็นอย่างไรบ้าง เล่ามาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายท่านคงมีตัวเลือกในใจกันอยู่แล้วว่าจะเลือกแบบไหน เครื่องทั้ง 2 แบบ ล้วนมีจุดเด่นด้านการใช้งานเป็นของตัวเอง เราเพียงแค่ต้องเลือกมาใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของเราเท่านั้น

เลือกดู เครื่องซักผ้าฝาบน ได้ที่ Website : https://www.homepro.co.th/c/APP130303

2959
⭐️ ⭐️ ครีม FUNDAY เห็นผลใน 10 วัน เห็นผลตั้งแต่กระปุกแรกที่ใช้ ⭐️⭐️
ครีมทาเฉพาะจุด ช่วยฟื้นบำรุงผิวใต้วงแขน ตาตุ่ม ข้อศอก หัวเข่า ขาหนีบ ก้น เป็นต้น

✔️ช่วยปรับผิวขาวใส
✔️ช่วยระงับกลิ่นกายยาวนาน 12 ชั่วโมง
✔️ช่วยปรับระดับผิวเรียบเนียน
✔️ช่วยลดตุ่มหนังไก่

ขนาด 10 ml. พกพาสะดวก

สนใจสินค้ารบกวนinboxหรือทักไลน์
ไลน์ ไอดี : @anutashop (มี@)
หรือกดลิ้งค์ https://lin.ee/zRocbnu
เว็บไซต์ : https://at-funday.com
เฟสบุ๊ค : Facebook.com/funday.official
IG : funday.store_
EMAIL : anutaaui@gmail.com


#FUNDAY #ฟันเดย์ ##ครีมรักแร้ขาว #ครีมรักแร้ #ครีมรักแร้ราคาถูก #รักแร้ขาว #ระงับกลิ่น #ระงับกลิ่นกาย #ระงับกลิ่นเต่า #เนียนใส #ของดี #howtobeauty  #thailand #ถูกและดี #ของดีบอกต่อ #พีช #กลิ่นหอม #ลดตุ่มหนังไก่  #รักแร้ใส #เห็นผลจริง #ไลค์มาไลค์กลับ #แก้ปัญหารักแร้ดำ #ดับกลิ่นรักแร้






2960


เครื่องซักผ้า นับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่แทบทุกบ้าน ทั้งนี้เพราะช่วยอำนวยความสะดวก และทำความสะอาดผ้าได้สะดวกและรวดเร็วกว่าการซักด้วยมือ และเนื่องจากมันเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหากไม่รับการดูแลรักษาที่ดีก็อาจเสื่อมสภาพและพังลงอย่างรวดเร็วได้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่ไม่ควรทำกับเครื่องซักผ้านั้นมีอะไรบ้าง เพื่อให้เครื่องซักผ้ามีอายุการใช้งานที่ยืนยาว

1. ไม่เคยปรับโหมดก่อนซักผ้า
ก่อนทำการซักควรปรับโหมดการซักให้เหมาะ แม้ว่าเครื่องซักผ้าจะมีโหมดการซักอัตโนมัติให้เลือกใช้ แต่มันก็ไม่ได้เหมาะกับการซักเสื้อผ้าทุกชนิดเสมอไป การเลือกโหมดที่เหมาะสมกับประเภทของผ้าที่ซักจะช่วยถนอมทั้งเสื้อผ้าและตัวเครื่องไม่ให้ให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาภายหลัง

2. ซักผ้าในปริมาณมากเกินไป
การซักผ้าครั้งละมากๆ เยอะเกินกว่าที่เครื่องกำหนดจะทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักและมีอายุการใช้งานสั้นลง นอกจากนี้จะส่งผลให้เสื้อผ้าไม่สะอาดด้ว ฉะนั้นแนะนำให้ซักในปริมาณที่เหมาะกับถังซัก ซึ่งมีระบุมาให้แล้ว ห้ามใส่เสื้อผ้าหนักเกินกว่าที่จำนวนระบุ

3. ขาตั้งเครื่องซักผ้าไม่สมดุลกัน
เนื่องจากเครื่องซักผ้าจะมีแรงเหวี้ยงทำให้เกิดการสั่นสะเทือน หากพื้นหรือขาตั้งของเครื่องซักผ้าไม่สมดุลกันก็จะทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักขึ้น เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และส่งผลด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย

4. ไม่เคยเปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้เลย
การปิดฝาเครื่องทันทีหลังซักผ้าเสร็จจะทำให้เกิดความชื้นอยู่ภายใน จนทำให้เกิดจุดดำ ๆ หรือเชื้อราเกาะอยู่ตามขอบยางฝาปิดและส่วนอื่นๆ ได้ เพราะฉะนั้นหลังใช้เสร็จแล้ว แนะนำให้เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ก่อน เพื่อให้อากาศท่ายเท ให้ขอบยางแห้งในระดับหนึ่งแล้วจึงปิดฝาเครื่อง

5. ใช้เครื่องซักผ้าอย่างต่อเนื่อง
หากมีความจำเป็นต้องซักผ้ามากกว่า 2 ครั้งในหนึ่งวัน แนะนำให้เว้นระยะห่างพักเครื่องซักผ้าไว้สักครู่เริ่มซักถังต่อไปอีกครั้ง ไม่ควรซักต่อกันทันทีเพราะจะทำให้ระบบไฟฟ้าภายในช็อต หยุดทำงานชั่วขณะ หรือมีปัญหาอื่น ๆ จากความร้อนที่มากเกินไป

สั่งซื้อ เครื่องซักผ้า ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1303

2961


ผู้หญิงกับรองเท้าจัดว่าเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าส้นเตี้ยก็ต้องมีประดับตู้รองเท้าของสาว ๆ ด้วยกันทั้งนั้น แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นผู้จัดจำหน่ายหรือคนขายรองเท้าก็ต้องมีเทคนิคและวิธีการเลือกรองเท้าให้ดีเพื่อจะได้เป็นที่ต้องตาของสาว ๆ ไม่ทำให้สินค้าเหลือค้างสต็อคมากเกินไป วิธีดี ๆ เหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ข้อมูลด้านล่างนี้จะบอกคุณเอง

รองเท้าส้นสูงแฟชั่นต้องมีขนาดความสูงหลากหลาย
เมื่อกล่าวถึงรองเท้าส้นสูงไม่ได้หมายความว่ารองเท้าทุกคู่จะมีความสูงเท่ากันไปทั้งหมด การเลือกขนาดความสูงที่แตกต่างกันจะช่วยให้ผู้หญิงแต่ละคนได้เลือกความสูงให้พอเหมาะกับความสูงของตัวเองได้ดีที่สุด ผู้หญิงบางคนที่มีขนาดตัวเล็กอาจต้องการรองเท้าส้นสูงที่มีขนาดความสูงหลายนิ้ว แต่สำหรับผู้หญิงที่มีส่วนสูงเหมือนนางแบบก็อาจจะต้องการรองเท้าส้นสูงไม่มาก อย่างนั้น การเลือกส้นสูงให้มีหลายขนาดจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้นนั่นเอง

รองเท้าส้นสูงแบรนด์ดีสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
รองเท้าที่ผู้หญิงหลายท่านเลือกสวมใส่ไม่ใช่เพียงเพราะสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์รองเท้าที่มีชื่อเสียงทั้งสไตล์และการตัดเย็บที่ดี การเลือกรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดีมาจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ที่ทำรองเท้ามานานถือเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ เนื่องมาจากไม่ว่าใครที่ซื้อรองเท้าก็อยากให้ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมรองเท้ากันบ่อย หากผู้ประกอบการที่อยากให้มีลูกค้าเลือกซื้อรองเท้าโดยไม่ตัดสินใจนาน ก็ควรเลือกยี่ห้อรองเท้าที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงที่ดีด้านการผลิต

เลือกสไตล์รองเท้าให้น่าสนใจเพื่อดึงดูดสาว ๆ
วิธีเลือกรองเท้าส้นสูงแฟชั่นเอาใจสาว ๆ ที่ดีควรเลือกให้หลากหลายและแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นสาวหวาน สาวเปรี้ยว สาวทำงาน หรือสาวขาลุย ต่างก็มีความต้องการสไตล์รองเท้าที่ไม่เหมือนกัน หากจะเลือกรองเท้าให้โดนใจสาว ๆ ได้หลายบุคลิกก็ควรมีรองเท้าหลายสไตล์เพื่อเลือกใช้ได้ตาม}ต้องการและหลายโอกาส นอกจากนี้ผู้หญิงแต่ละคนคงไม่ได้มีรองเท้าคู่เดียว การมีตัวเลือกให้สาว ๆ ได้ซื้อหลายคู่ไปใช้ในแต่ละโอกาสจะช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มช่องทางการขายให้ร้านตนเองได้มากขึ้นด้วย

รองเท้าส้นสูงที่ผู้หญิงหลายคนเลือกซื้อเลือกหาอาจมีหลายเหตุผลด้วยกัน ผู้ประกอบการที่ต้องการจำหน่ายรองเท้าโดยไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะค้างสต็อคจึงควรมีวิธีเลือกรองเท้าให้ดีและน่าสนใจ รวมทั้งมีตัวเลือกในร้านให้มากพอเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถเลือกรองเท้าได้ตามความชื่นชอบและตามโอกาสที่ต้องการใช้ หากผู้ประกอบการรายใดสามารถเลือกรองเท้าได้ตามที่แนะนำไปก็เชื่อได้ว่าจะสามารถลดปัญหาสินค้าค้างสต็อคไปได้มากทีเดียว


เลือกซื้อเลือกหา รองเท้าส้นสูง ได้ที่ Website https://www.charleskeith.co.th

2962


แฟชั่นรองเท้ากับผู้หญิงเป็นของคู่กันนอกจากนี้ยังมีเทรนด์ใหม่หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันอยู่เสมอ แต่ไม่ว่ายังไงทรงรองเท้าสุดฮิตอย่างรองเท้าส้นเตี้ยก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในใจของผู้หญิงเราเสมอ นั่นก็เพราะรองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าส้นแบนนั้นใส่สบาย ใส่ได้ทุกโอกาส และยังมีหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสม แต่รองเท้าส้นเตี้ยผู้หญิงมีแบบไหน มีประเภทอะไรบ้าง ลองมาทำความรู้จักเอาไว้ก่อนจะได้เลือกช้อปได้ถูกใจค่ะ

1. รองเท้าส้นเตี้ยทรงบัลเลต์
เป็นรองเท้าส้นแบนทรงยอดฮิตเพราะว่ามีหัวหลายทรงให้เลือก ทำให้สาว ๆ ที่มีรูปเท้าแบน เท้ากว้าง หรือเท้าเรียว สามารถเลือกใส่ให้เหมาะกับรูปเท้าได้ นอกจากนี้รองเท้าทรงบัลเลต์ยังมีความสุภาพ เป็นทางการ จะสวมใส่ในวันที่ต้องการเรียบร้อยก็ได้ อยากแปลงร่างเป็นสาวหวานก็ดี เรียกได้ว่าเป็นไอเทม Must have ด้วยเหตุว่าเปลี่ยนโฉมได้ทุกลุค

2. รองเท้าส้นเตี้ยทรง T-flat
รองเท้าทรง T-flat ก็คือรองเท้าส้นแบนที่เพิ่มอารมณ์ความเป็นแฟชั่นนิสต้าขึ้นมานิดนึงด้วยสายคาดทรง T-bar ช่วยพรางตาให้เท้าของสาว ๆ ดูเรียวสวย เพราะว่าสายคาด T-bar จะช่วยให้เท้าของเราดูยาวและเรียวขึ้น (เป็นกิมมิคที่มีประโยชน์มาก!) ดูมีลูกเล่นแบบไม่น่าเบื่อ จะสวมคู่กับกระโปรงก็ได้หรือกางเกงก็ดี แต่อย่าสวมกางเกงที่ยาวเกินไปจนบดบังลูกเล่นเล็ก ๆ ของตัวรองเท้าจะดีที่สุดค่ะ

3. รองเท้าทรง Hyde wrap
รองเท้าส้นเตี้ยผู้หญิงทรงหวานซ่อนเปรี้ยวที่มีเชือกแบบริบบิ้นให้เราผูกเหนือข้อเท้า อาจจะเป็นริบบิ้นเส้นใหญ่หรือเชือกเส้นเล็กพันหลาย ๆ ทบก็ได้ รองเท้าทรงนี้เหมาะที่จะใส่กับกระโปรงหรือกางเกงขาสั้นจะเข้ากันมากที่สุด นอกจากนี้หากเป็นสาวตัวเตี้ยหรือสาวอวบที่มีช่วงขาใหญ่อาจเลือกผูกเชือกเหนือข้อเท้าเล็กน้อยก็ได้ แต่ไม่ควรเลือกรองเท้าที่ผูกเชือกสูงแบบทรงกลาดิเอเตอร์นะคะเพราะว่าจะยิ่งทำให้รูปร่างของเราดูเตี้ยตันไปอีก!

4. รองเท้าทรง Loaf
เป็นอีกหนึ่งรองเท้าส้นแบนที่ฮิตที่สุดเพราะว่าสวมใส่ง่าย ใส่ได้ทุกวันแบบสบายเท้า ให้อารมณ์แฟชั่นแบบวินเทจนิด ๆ มีดีเทลและวัสดุที่หลากหลาย แค่เปลี่ยนจากวัสดุกำมะหยี่มาเป็นหนังหรือหนังกลับก็เปลี่ยนลุคได้แล้ว ใส่ได้ทั้งกับกระโปรงและกางเกง จะสวมใส่วันทำงาน ใส่ไปเรียน หรือใส่ไปเที่ยวก็ได้

5. รองเท้าส้นเตี้ยทรง Slipper
เป็นรองเท้าทรงที่กำลังฮิตเลยค่ะ เพราะว่าสวมง่ายมากคล้ายรองเท้าแตะ แต่มีหัวและเปิดส้นทำให้เพิ่มความสุภาพขึ้นมาอีกนิด เหมาะสำหรับการสวมใส่ในวันสบาย ๆ ที่เราอยากสวมรองเท้าง่าย ๆ และเดินแบบสบายเท้า รองเท้าส้นแบนแบบนี้เหมาะกับการสวมกับกางเกง เดรส หรือกระโปรงก็ได้ แต่จะเหมาะที่สุดเมื่อสวมกับลุคชิลล์ ๆ ไม่เป็นทางการจนเกินไปค่ะ

เทคนิค รักษาทรงให้รองเท้าส้นเตี้ยผู้หญิง
ถึงจะเป็นรองเท้าที่สวมง่าย ใส่สบายและเหมาะกับการสวมใส่เป็นประจำ แต่รองเท้าส้นเตี้ยผู้หญิงคู่โปรดของสาว ๆ ก็ต้องการการดูแลเหมือนกันนะคะ โดยวิธีรักษาทรงให้รองเท้าคู่สวยอยู่กับเราไปนาน ๆ ก็คือ การถอดรองเท้าและนำไปผึ่งลมเพื่อลดกลิ่นอับ จากนั้นใช้ที่ดันทรงรองเท้าใส่ไว้หากไม่ได้สวมนาน ๆ แต่ถ้าใครหยิบรองเท้าส้นแบนมาใส่บ่อย ๆ อาจใช้วิธียัดหนังสือพิมพ์ที่ขยำเป็นก้อนแทนก็ได้ค่ะ
นอกจากนี้หากไม่ได้สวมรองเท้าหลาย ๆ วัน ควรเก็บรองเท้าไว้ในกล่องให้ดีหรือจะเก็บใส่ตู้รองเท้าก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้นมาทำร้ายรองเท้าของเรา สำหรับการทำความสะอาดต้องดูด้วยค่ะว่ารองเท้าของเราผลิตจากวัสดุอะไรและเลือกทำความสะอาดให้เหมาะสมกับวัสดุนั้น ๆ ด้วยนะคะ
การสวมรองเท้าส้นเตี้ยนั้นเหมาะกับทุกลุค ทุกวัน และทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นสาวไซส์มินิ สาว ๆ ตัวสูงหรือแม้แต่สาวอวบก็สามารถสวมรองเท้าส้นเตี้ยผู้หญิงได้สวย แค่เราต้องรู้จักเลือกทรงรองเท้าให้เหมาะและนำไปมิกส์กับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้เข้ากัน เท่านี้สาว ๆ ก็สามารถเปลี่ยนโฉมตัวเองได้ด้วยรองเท้าคู่เดียวแล้วค่ะ

ดูแบบ รองเท้าส้นแบนได้ที่เว็บไซต์ https://www.charleskeith.co.th

หน้า: 1 ... 55 56 57 58 59 [60]