ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - พิมพาดีอนันต์

หน้า: [1] 2
1
เปลือกตาต้องใช้เครื่องสำอางแบบไหนจึงจะแต่งหน้าออกมาแล้วปัง

   บริเวณที่บอบบางที่สุดบนใบหน้าคงจะเป็นบริเวณผิวรอบดวงตา โดยเฉพาะเปลือกตาที่มีความบอบบางเป็นอย่างมาก แต่ดวงตาถือเป็นจุดดึงดูดแรกของใบหน้าก็ว่าได้ ดังนั้นจึงต้องมี วิธีแต่งหน้า แต่งดวงตาให้สวยงาม แต่ก็ต้องเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ทำร้ายผิวรอบดวงตาด้วยเหมือนกัน คงต้องหาเครื่องสำอางที่จะทำให้ดวงตาเป๊ะปังแต่ไม่ทำร้ายดวงตาสวย ๆ ของคุณ

   เริ่มด้วยการลงอายไพรม์เมอร์ก่อนเพื่อให้เครื่องสำอางชิ้นต่อไปอย่างอายแชโดว์ติดทนนาน ซึ่งการลงอายไพรม์เมอร์นอกจากจะทำให้อายแชโดว์ติดทนนานแล้ว ยังเป็นการปรับสภาพผิวเปลือกตาอีกด้วย ต่อจากนั้นจึงเลือกอายแชโดว์ที่มีสีสันเข้ากับการแต่งตัวในแต่ละวัน ซึ่งอายแชโดว์ในเวลานี้ไม่ได้มีเพียงเนื้อฝุ่นเท่านั้น แต่ยังมีเนื้อลิควิดสูตรเจลให้เลือกใช้ โดยมีทั้งแบบแมทหรือเมทัลลิคตามความชื่นชอบ หากใครไม่ถนัดใช้อายแชโดว์แบบฝุ่นเพราะกลัวจะทำให้ใต้ตาเลอะเทอะระหว่างวันก็เลือกใช้แบบลิควิดได้

   เมื่อทาอายแชโดว์แล้วก็ต้องไม่ลืมกรีดขอบตาให้คมชัดด้วยอายไลนเนอร์ถึงจะเป๊ะปัง แต่ถ้าไม่อยากใช้อายไลน์เนอร์จะเปลี่ยนเป็นอายแชโดว์สีเข้มแทนกันก็ได้ ซึ่งการกรีดตาควรเลือกใช้อายไลน์เนอร์ให้เหมาะกับความถนัดหรือความเหมาะสมกับเครื่องสำอางชิ้นอื่น ๆ หากอยากให้ได้ลุคเบาสบายไม่แน่นจนเกินไปก็ใช้ดินสอเขียนขอบตา แต่ถ้าต้องการความคมชัดจัดเต็มก็เลือกใช้อายไลน์เนอร์รูปแบบปากกาเมจิกหรืออาจจะเป็นหัวพู่กัน แต่ถ้ายังคิดว่าคมไม่พอหรือต้องการผิวสัมผัสแบบอื่นก็ควรเลือกแบบเจลไลน์เนอร์หรือแบบลิควิด ใช้แล้วตาคมชัดสวยงาม มองกี่ครั้งก็ชวนหลงใหล

   ยังไม่จบขั้นตอนการแต่งดวงตาให้เป๊ะปัง เพราะการแต่งแค่ผิวเปลือกตายังไม่ครบจบสมบูรณ์ของดวงตาคู่สวย แต่ต้องเลือกใช้มาสคาร่าที่ปัดขนตาให้งอนยาวและหนาเป็นแพแบบไม่ต้องต่อขนตาหรือติดขนตาปลอมแต่อย่างใด หากเลือกมาสคาร่าที่มีนวัตกรรมทำให้ขนตางอนยาวและหนาขึ้นได้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนอื่นให้ยุ่งยาก แต่ขั้นตอนสุดท้ายที่ไม่ควรลืมอีกเช่นกัน คือ การเขียนคิ้วให้เป๊ะปังไม่แพ้ผิวเปลือกตา เพื่อให้มีกรอบดวงตาที่สวยงามและยังทำให้โครงหน้าสวยงามขึ้นได้อีกด้วย

   การแต่งดวงตาคู่สวยคงต้องดูแลผิวรอบดวงตาไปพร้อมกัน เพราะการแต่งตาให้ปังต้องบำรุงและรักษาผิวเปลือกตาให้สดชื่นและพร้อมรับการแต่งตาคู่สวยในครั้งต่อไป หากแต่งตาให้เป๊ะปังด้วยขั้นตอนอย่างที่ได้เรียงลำดับมาทั้งหมดแล้ว ก็เตรียมตัวออกจากบ้านโชว์ความเป๊ะปังของดวงตาได้เลย แต่ถ้าจะให้ดีต้องรวมไปถึงการเลือกใช้ คอนซีลเลอร์ บลัชออน รองพื้นที่ดีที่สุด แป้งพัฟถูกและดี เรียกง่าย ๆ ว่าแค่ใช้เครื่องสำอางที่ไม่ทำร้ายผิว เพียงเท่านี้ก็โชว์ความสวยอย่างมั่นใจได้แล้ว


2
หน้าเป๊ะ ดูปัง ด้วยเทคนิคเมคอัพระดับมือโปร

การแต่งหน้ากับสาวๆ เป็นสิ่งคู่กัน เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาเรียนรู้เทคนิควิธีการแต่งหน้าระดับมือโปร ที่จะเนรมิตผิวหน้าธรรมดาให้ดูสวย เป๊ะปัง เว่อร์วัง อลังการกันได้แล้ว ซึ่งในอันดับแรกนั้นเราจำเป็นที่จะต้องเลือกเครื่องสำอางที่ดี มีคุณภาพ และผ่านการรับรองจากทาง อย. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถตอบโจทย์การแต่งหน้าได้อย่างตรงตามความต้องการของสาวๆ ซึ่งไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะเมย์เบลลีน (Maybelline) แบรนด์ดังระดับโลกที่น่าเชื่อถือได้ เพราะมีประสบการณ์ทางด้านเมคอัพและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว ทีนี้เราก็มาเริ่มขั้นตอนหน้าสวยเป๊ะกันเลยดีกว่า
พื้นผิวของใบหน้า

1.รองพื้น เลือก รองพื้นที่ดีที่สุด หรือ แป้งผสมรองพื้น ที่สามารถปกปิดได้ดีเยี่ยม และให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิวของเรา หรือจะเลือกใช้ ซุปเปอร์สเตย์24 ฟูล ดิฟเวอร์เรจ ฟาวน์เดชั่นรองพื้นเนื้อแมทจากเมย์เบลลีน ก็ได้ เพราะออกแบบมาให้เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบาง ด้วยเนื้อครีมบางเบา ไม่หนักหน้า สามารถปกปิดรอยคล้ำใต้ตา จุดด่างดำ และรอยสิวได้เนียนเรียบสนิทดูเป็นธรรมชาติ คุมมันกันน้ำได้ และติดทนยาวนานตลอด 24 ชม.ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเราได้ครบในขวดเดียว เมื่อได้รองพื้นที่ดีแล้ว จากนั้นก็ใช้รองพื้นแต้มในแต่ละจุดบนใบหน้าแล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้เรียบเนียนกลมกลืนไปกับผิว

2.แป้งพัฟ ใช้ แป้งพัฟคุมมัน หรือ แป้งคุมมัน ทาทับอีกครั้งเพื่อล็อคผิว โดยเลือกแป้งพัฟเฉดสีเดียวกับรองพื้น และเลือกแบบเบาบาง คุมมันกันน้ำเช่นกัน จะได้สวยเป๊ะได้ตลอดทั้งวัน

3.บลัชออน เลือกสีโทนนู้ดหรือชมพูอมส้ม เพราะเป็นสีที่ทำให้คุณดูแพงขึ้นมาทันที ปัดบริเวณพวงแก้มขึ้นไป จะทำให้หน้าดูเรียวดูเลิศเลยทีเดียว

4.ไฮไลท์และเฉดดิ้ง ลงไฮไลท์สีเงินบริเวณใต้ตา หน้าผาก คาง และพวงแก้ม จากนั้นใช้เฉดดิ้งสีน้ำตาลเข้มวาดกรอบหน้าให้เรียวได้รูป จากนั้นใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้ดูกลมกลืนกันเป็นธรรมชาติ

เท่านี้ก็เสร็จขั้นตอนของใบหน้าสวยเป๊ะกันแล้ว ต่อไปก็เป็นการเขียนคิ้ว แต่งตา ทาลิปสติก ตามที่สาว ๆ ต้องการ แต่อย่าลืมนะต้องให้แมทกับสีของบลัชออนที่เราปัดแก้มไปในตอนแรก จะได้สวยดูแพง หน้าเป๊ะ พร้อมออกไปเฉิดฉายข้างนอกได้แล้ว

จะเห็นได้ว่าการใช้เมคอัพหรือเครื่องสำอางที่ดีมีมาตรฐานจากแบรนด์ที่เรารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั้นจะทำให้เราอุ่นใจ และวางใจว่าจะปลอดภัยจากการแต่งหน้าในแต่ละครั้งแน่นอน เพียงเท่านี้สาวๆ ก็ได้หน้าที่สวย เป๊ะปังกันได้ง่ายๆ แล้ว

3
หน้าสวยเป๊ะ ดูแพง ด้วยเทคนิคการใช้เมคอัพแบบมือโปร

ถึงเวลาแต่งสวยกันอีกแล้วนะสาว ๆ วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการใช้เมคอัพแบบมือโปร ในการเนรมิตใบหน้าธรรมดา ๆ ของคุณให้ดูสวยเป๊ะเว่อร์ เลอค่าดูแพง ซึ่งในขั้นตอนเหล่านี้ สิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ก็คือการเลือกเมคอัพที่ดี มีคุณภาพ มี อย.รับรอง และตอบโจทย์ทุกความต้องการของสาว ๆ ได้ ซึ่งถ้าคุณยังไม่รู้จักแต่ละแบรนด์ดีพอ ก็ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกกับใบหน้านะ เราขอแนะนำเมย์เบลลีน (Maybelline) แบรนด์ดังระดับโลกที่น่าเชื่อถือได้ เพราะมีประสบการณ์ทางด้านเมคอัพและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว ทีนี้เราก็มาเริ่มขั้นตอนหน้าสวยเป๊ะกันเลยดีกว่า
พื้นผิวของใบหน้า

1.รองพื้น เลือก รองพื้นถูกและดี รองพื้นคุมมัน หรือ ลง คอนซีลเลอร์ ที่สามารถปกปิดได้ดีเยี่ยม และให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิวของเรา หรือจะเลือกใช้ ซุปเปอร์สเตย์24 ฟูล ดิฟเวอร์เรจ ฟาวน์เดชั่นรองพื้นเนื้อแมทจากเมย์เบลลีน ก็ได้ เพราะเป็น รองพื้น ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบาง ด้วยเนื้อครีมบางเบา ไม่หนักหน้า สามารถปกปิดรอยคล้ำใต้ตา จุดด่างดำ และรอยสิวได้เนียนเรียบสนิทดูเป็นธรรมชาติ คุมมันกันน้ำได้ และติดทนยาวนานตลอด 24 ชม.ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเราได้ครบในขวดเดียว เมื่อได้รองพื้นที่ดีแล้ว จากนั้นก็ใช้รองพื้นแต้มในแต่ละจุดบนใบหน้าแล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้เรียบเนียนกลมกลืนไปกับผิว

2.แป้งพัฟ ใช้ แป้งพัฟ ทาทับอีกครั้งเพื่อล็อคผิว โดยเลือกแป้งพัฟเฉดสีเดียวกับรองพื้น และเลือกแบบเบาบาง คุมมันกันน้ำเช่นกัน จะได้สวยเป๊ะได้ตลอดทั้งวัน

3.บลัชออน เลือกสีโทนนู้ดหรือชมพูอมส้ม เพราะเป็นสีที่ทำให้คุณดูแพงขึ้นมาทันที ปัดบริเวณพวงแก้มขึ้นไป จะทำให้หน้าดูเรียวดูเลิศเลยทีเดียว

4.ไฮไลท์และเฉดดิ้ง ลงไฮไลท์สีเงินบริเวณใต้ตา หน้าผาก คาง และพวงแก้ม จากนั้นใช้เฉดดิ้งสีน้ำตาลเข้มวาดกรอบหน้าให้เรียวได้รูป จากนั้นใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้ดูกลมกลืนกันเป็นธรรมชาติ

เท่านี้ก็เสร็จขั้นตอนของใบหน้าสวยเป๊ะกันแล้ว ต่อไปก็เป็นการเขียนคิ้ว แต่งตา ทาลิปสติก ตามที่สาว ๆ ต้องการ แต่อย่าลืมนะต้องให้แมทกับสีของบลัชออนที่เราปัดแก้มไปในตอนแรก จะได้สวยดูแพง หน้าเป๊ะ พร้อมออกไปเฉิดฉายข้างนอกได้แล้ว

ที่สำคัญการเลือกใช้เมคอัพที่ดีมีคุณภาพ จากแบรนด์ดังเป็นที่รู้จัก ย่อมทำให้เราอุ่นใจและปลอดภัยได้มากกว่าการซื้อจากแบรนด์ที่ไม่รู้จักเป็นไหน ๆ และไม่ต้องกลัวว่าของมีแบรนด์ดังจะแพง เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีจัดโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย ถูกและดี คุ้มค่ากับคุณภาพแบบนี้ ไม่ซื้อไม่ได้แล้วล่ะสาว ๆ

4
หลากหลายปัญหาการเกิดสิว พบวิธีรับมือและวิธีทำให้สิวหาย

ปัญหาเรื่องผิวหน้านั้นเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สาวๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสาวๆ บางคนอาจประสบพบเจอกับปัญหา หน้าเป็นผื่น หรือปัญหาสิวอย่าง สิวอุดตัน แต่หากเรารู้จักวิธี รักษาสิวอุดตัน และรับมือกับปัญหาสิว อย่างการใช้ โฟมล้างหน้าลดสิวอุดตัน เชื่อว่าสิวสำหรับใครหลาย ๆ คนคงเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นที่ฮอโมนส์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการกระตุ้นความมันซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว ดังนั้นเราจึงควรรู้จัก วิธีทำให้สิวหาย เพื่อรับมือกับปัญหาสิวที่จะเกิดขึ้น

   ก่อนที่เราจะไปรู้จัก วิธีทำให้สิวหาย เราควรรู้จักสาเหตุของการเกิดสิวเสียก่อน เพื่อจะได้หาทางรับมือกับปัญหาสิวที่จะเกิดขึ้นได้อย่างถูกวิธี ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวมีอยู่หลายสาเหตุ เช่น

1.   ใบหน้าสกปก สาเหตุเกิดจากการที่ไม่รักษาความสะอาด หรือล้างหน้าไม่สะอาด เช่น การเช็ดเครื่องสำอางไม่หมด ก่อนการล้างหน้าทุกครั้งควรเช็ดเครื่องสำอาง หรือสิ่งสกปกบนใบหน้าด้วยคลีนซิ่ง จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าที่สะอาดโดยการใช้โฟม หรือใช้เจลในการล้างหน้า ตามด้วยการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อีกครั้งก่อนการทาครีมบำรุงผิว

2.   ใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายต่อผิว เช่น สารสเตียรอยด์ สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเหล่านี้ และแนะนำว่าควรใช้ ครีมผิวแพ้ง่าย ที่เหมาะกับสภาพผิวแพ้ง่ายจะดีที่สุด

3.   สภาพอากาศไม่เป็นใจ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาเป็นจำนวนมาก เหงื่อที่ไหลออกมาจะทำให้รู้สึกแสบ ๆ คัน ๆ นี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวผด

สิว มีอยู่ 2 ประเภท คือ สิวอุดตัน และสิวผด วิธีการรักษาสิวจะแตกต่างกันออกไป สำหรับวันนี้เราจะขอกล่าวถึงวิธีการ รักษาสิวผด เป็นหลัก สิวผดมีลักษณะเป็นผดผื่นเม็ดเล็ก ๆ ถ้าลองบีบดูจะไม่มีหัวสิวออกมา แต่จะมีน้ำใส ๆ ออกมาแทน สิวผดชอบขึ้นตรงบริเวณหน้าผาก แก้ม และคาง สาเหตุหลักของการเกิดสิวผดมาจากการแพ้อากาศ แพ้ครีม แพ้น้ำ ฯลฯ

ที่มีผิวแพ้ง่ายที่ต้องการจะรักษาอาการสิวผดนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้า คลีนซิ่ง ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด หรือแม้แต่เครื่องสำอาง สำหรับคนที่มีปัญหาสิวผดอยู่แล้ว ควรให้ความสำคัญกับการเลือก ครีมรักษาสิว โดยผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ควรเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางสูตรอ่อนโยนเป็นพิเศษ มีคุณสมบัติช่วยรักษาสิว รอยดำ รอยแดง ควบคุมความมัน และช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว อีกทั้งควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น แต่ไม่เพิ่มความมัน มีสารช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าปลอดภัย


5
แต่งหน้ายังไงให้ดูฉ่ำวาว ทริคการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่

   สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังให้ความสนใจในเรื่องของการแต่งหน้ายังไงให้ดูสุขภาพดี ที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวขาว หรือผิวขาวเหลือง ต้องแต่งหน้าด้วยเทคนิคพิเศษให้ดูฉ่ำวาว ใส ฉ่ำน้ำ ซึ่งการแต่งหน้าแบบนี้นั้นเหมาะกับนักเรียน หรือ นักศึกษาที่สามารถแงได้ในชีวิตประจำวัน พบกับทริคดีๆได้ดังนี้

1.   การลงรองพื้นและการลงแป้ง
-   เราควรเตรียมผิวหน้าให้พร้อมด้วยการทามอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์ และครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันก่อนการลงรองพื้น จากนั้นให้เลือกลงรองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำแร่หรือมอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์ น้ำแร่จะทำให้หน้าดูชุ่มชื่น มีผิวสุขภาพที่ดี ส่วนมอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์จะทำให้หน้าดูนุ่ม เด้ง ทารองพื้นบริเวณหน้าผาก สันจมูก แก้มและคาง จากนั้นเกลี่ยให้เนียน
-   การลงแป้ง ควรใช้แป้งโปร่งแสงหรือแป้งอัดแข็ง แป้งโปร่งแสงจะเหมาะกับคนที่มีผิวหน้าเนียน ส่วนแป้งอัดแข็งจะเหมาะกับคนที่มีผิวหน้าไม่เรียบเนียน ให้ลงแป้งโดยใช้แปรงหัวใหญ่จุ่มแป้งและค่อย ๆ ปัดออกจากด้านใน การทาแป้งด้วยแปรงหัวใหญ่จะทำให้หน้าเนียนและทำให้การลงแป้งไม่หนาเกินไป

2.   การทาบลัชออน
ควรเลือกบลัชออนที่มีกลิตเตอร์ผสม มีสีสันสดใสเช่นสีชมพู สีส้มอมน้ำตาล สีชมพูอมแดง สีชมพูพีช โดยการทาบลัชออนควรยิ้มให้สุดแล้วทาบลัชออนลงไปทีละนิดเพื่อให้สีค่อย ๆ เข้มขึ้น

3.   การเฉดดิ้งไฮไลท์ ปิดจุดด้อย เสริมจุดเด่น
-   สาวหน้ารูปไข่ ทาเฉดดิ้งสีเข้มลงไปบริเวณไรผม ข้างสันจมูก และร่องแก้ม โดยทำปากจู๋แล้วทาที่ร่องแก้มทีละนิด ไม่ควรทาให้เข้มเกินไป ทาไฮไลท์ที่สันจมูก โหนกหน้าผาก ด้านบนของแก้ม บนติ่งริมฝีปากและคาง
-   สาวหน้ากลม ควรเขียน อายไลเนอร์ถูกและดี ควรเลือกทาเฉดดิ้งไฮไลท์ให้หน้าดูยาวสมส่วนมากขึ้นด้วยการ ปัด มาสคาร่าคิ้ว ทาไฮไลท์ที่สันคิ้ว สันจมูก บนติ่งริมฝีปากและทาไฮไลท์ที่คางเป็นเส้นตรง เฉดดิ้งข้างสันจมูกและร่องแก้มเล็กน้อยเพื่อทำให้หน้าดูมีมิติ
-   สาวหน้ายาว ควรเลือกทาเฉดดิ้งไฮไลท์ให้หน้าดูสั้นลง ด้วยการใช้ มาสคาร่าถูกและดี ตามด้วยทาเฉดดิ้งที่ร่องแก้ม ข้างสันจมูกและบริเวณไรผม ส่วนการไฮไลท์ให้ทาเฉพาะสันจมูกและทาแก้มในแนวนอนเท่านั้น
-   สาวหน้าเหลี่ยม เลือกทาเฉดดิ้งบริเวณกรามเพื่อลบความชัดของกรอบหน้า บริเวณไรผมและข้างสันจมูก ไฮไลท์สันจมูก ติ่งริมฝีปากบน และคาง

การแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ควรเริ่มจากการแต่งหน้าแบบง่าย ๆ ก่อน ใช้แบบฝุ่นเกือบทั้งหมดและค่อย ๆ ลงสีจะทำให้การแต่งหน้าผิดพลาดน้อยลง อาจใช้เป็น อายแชโดว์ถูกและดี หรือ อายแชโดว์ รุ่นที่กำลังฮิตเสริมเพิ่มเติม หากต้องการให้หน้าฉ่ำวาวควรฉีดสเปรย์น้ำแร่เพื่อความฉ่ำน้ำของใบหน้า

6
เทคนิคการเลือกครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว เพื่อการปกป้องผิวอย่างดีที่สุด

   ใครหลายๆ คนอาจทราบกันดีว่าแสงแดดนั้นเป็นอันตรายต่อผิวเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ควรปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ อีกทั้งสิ่งที่ควรระวังและไม่ควรมองข้ามคือรังสี รวมไปถึงอินฟาเรดต่างๆ ที่เป็นตัวก่อให้เกิดอันตรายและปัญหาต่อผิวได้ ทั้งฝ้า จุดด่างดำ หรืออาจก่อนให้เกิดสิวต่างๆ ดังนั้น จึงไม่ควรมองข้ามที่จะใช้กันแดด ครีมกันแดดกันน้ำ หรือ ครีมกันแดดหน้า เพื่อปกป้องผิวก่อนออกจากบ้านในทุกวัน

   ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวลักษณะผิวชนิดใด ก็ควรเลือกทา กันแดด เพื่อปกป้องผิวด้วยกันทั้งนั้น แต่สำหรับคนที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายต้องพิถีพิถันในการเลือกมากขึ้นสักหน่อย เพราะผิวลักษณะนี้มักจะบอบบางและไวต่อแสงแดด

   -ในปัจจุบันจะมีเนื้อครีมหลากหลายชนิดให้เลือกตามใจคุณต้องการ หากคุณชอบแบบแห้ง ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แนะนำให้เลือกใช้ สเปรย์กันแดด แต่เมื่อคุณสมบัติล้ำขึ้นก็ย่อมมีราคาสูงตามไปด้วย แต่หากคุณชอบเนื้อครีมที่ทาง่าย สร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวขณะทาไปในตัวด้วย แนะนำให้เลือกใช้ชนิด โลชั่นกันแดด เพราะนอกจากจะทาและเกลี่ยง่ายแล้ว ยังมีมอยซ์เจอไรซ์เซอร์ที่เป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นโดยเฉพาะให้กับผิวได้อีกด้วย แต่สำหรับคนที่ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย ไม่ว่าจะถนัดเลือกแบบใดก็ขอให้เลือกดูจากส่วนผสมที่ถูกคิดค้นมาโดยเฉพาะลักษณะผิวบอบบางและไวต่อแสงแดดจะดีที่สุด เพื่อตอบให้ตรงกับโจทย์สภาพผิวหน้าคุณนั่นเอง

   -ควรเลือกครีมที่ปราศจากน้ำหอมและสารในกลุ่มพาราเบน ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิว เพราะผิวชนิดนี้จะไวต่อสิ่งสัมผัส ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสารสังเคราะห์เหล่านี้ เพื่อป้องกันการอุดตันและอาการแพ้ระคายเคืองบ่อเกิดของการเกิดสิวนั่นเอง  ซึ่งANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++ จาก LA ROCHE-POSAY ตีโจทย์นี้ได้แตกทันทีสำหรับคนที่ต้องการ ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว ด้วยความอ่อนโยนของส่วนผสมจึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง ทาได้แม้ผิวรอบดวงตา แต่ยังคงคุณค่าในการปกป้องผิว จึงทำให้ผิวได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่แต่ไม่ทำร้ายผิวของเรา

   จะเห็นได้ว่าเทคนิคในการเลือก กันแดด มีไม่มากแต่จำเป็นต้องพิถีพิถันและใส่ใจในการเลือกสรรเพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องและบำรุงในขั้นตอนเดียว ทั้งยังต้องเหมาะกับสภาพผิวที่บอบบางอีกด้วย เพราะผิวหน้าเป็นจุดที่เซนซิทีฟและเกิดอาการแพ้ได้ง่าย หากเกิดอาการแพ้แล้วก็ยากในการแก้ไขกู้หน้ากลับคืน  ยิ่งหากผิวของคุณมีแนวโน้มเป็นสิวง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งต้องใส่ใจให้มากกว่าผิวชนิดอื่น ๆ ด้วย ควรใช้ ครีมล้างหน้า เพื่อ ลดรอยสิว และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว เพื่อเสริมปราการในการปกป้องผิวให้ตรงจุด จึงควรคำนึงถึงปัจจัยในการเลือกตามที่กล่าวมานี้ด้วย

   
   

   

7
แค่มีประกันรถยนต์ก็ตอบโจทย์การใช้ชีวิตดี๊ดีได้ทุกข้อ

   สำหรับคนใช้รถใช้ถนนทุกที่นั้น คุณไม่สามารถทราบได้เลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นตอนไหน จะเลือกเกิดกับคุณ หรือเลือกเกิดกับใคร ด้วยเพราะว่าเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ เพราะความเสี่ยงนั้นมีได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในเวลาขับขี่ อย่างน้อยก็มีความคุ้มครองเอาไว้ให้กับคุณและกระเป๋าเงินของคุณด้วย แต่ว่าจะต้องเลือกกรมธรรม์อย่างไรและควรศึกษาในเรื่องของ ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง เพื่อให้ตอบโจทย์ได้ตรงมากที่สุด ไม่น้อยหรือมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อต้อง ต่อประกันรถ ควรเลือกที่จะ ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี หรือ ต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี
จะใช้เหตุผลใดบ้างเพื่อนำมาเป็นตัวเลือกสำคัญของการตัดสินใจที่เรียกว่าไม่มีพลาดอย่างแน่นอน

1.   การบริการดี ทั้งก่อนและหลังการขาย โดยเฉพาะเรื่องของการเคลมและซ่อมที่มีการบริการอย่างสะดวกรวดเร็วทันใจ ไม่มีให้ได้บ่นเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งอู่ซ่อมก็ต้องมีมากเพียงพอต่อความต้องการกระจายทั่วทุกพื้นที่และเป็นอู่ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล อะไหล่ยนต์ของแท้แน่นอน มีรถสำรองใช้ระหว่างรอซ่อม แต่ไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายแต่อย่างใด

2.   ต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี มีส่วนลดให้สูงสุดถึง 50% เพียงแค่คุณเป็นคนหนึ่งที่มีประวัติการขับรถดีมาตลอดปี กรมธรรม์ ต่อครั้งไหนก็ลดลงได้อีก นอกจากกรได้ส่วนลดแล้วยังถือว่าเป็นการสนับสนุนให้ทุกคนขับขี่อย่างไม่ประมาทอีกด้วย เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนให้มีมากขึ้น ลดการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

3.   สามารถเช็คและเปรียบเทียบเบี้ยประกันกับความคุ้มครองต่าง ๆ ได้รวดเร็วเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะสนใจกรมธรรม์ประเภทไหนเลือกความคุ้มครองที่ใช่พร้อมคำนวณเบี้ยที่สามารถจ่ายแบบสบายใจได้เลย โดยทางออนไลน์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับการใช้ชีวิตยุคใหม่แบบที่ไม่ค่อยมีเวลา
4.   มีบริการซื้อกรมธรรม์ได้ทางออนไลน์ ยิ่งเป็นการตอบโจทย์ของชีวิตได้ตรงที่สุดอีกทางหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลาย ๆ คนคงไม่สะดวกติดต่อตัวแทน หรือว่าเวลาว่างของแต่ละคนไม่ตรงกันสักที อาจจะทำให้รำคาญใจได้ แต่ทางออนไลน์สะดวกสบายกว่า

เพราะฉะนั้น เพียงมี ประกันรถยนต์ ออนไลน์ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ทุกข้อ หรือตอบโจทย์ได้มากที่สุดจึงจะไม่มีวันหมดใจไปจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่เลือกเอาไว้อย่างแน่นอน แต่อย่าปล่อยให้ประกันขาดโดยเด็ดขาดก็แล้วกัน เพราะอุบัติเหตุไม่ได้เลือกวันที่คุณพร้อมจ่ายเสียด้วยสิ อาจจะเกิดขึ้นในวันที่เงินขาดมือก็เป็นได้ แต่ถ้ามีประกันเอาไว้ก็สบายใจว่ามีความคุ้มครองคอยดูแลและช่วยเกื้อกูลคุณอยู่อย่างแน่นอน

8
ต่อประกันรถยนต์ ที่เก่าVSที่ใหม่ อันไหนดีกว่า

ผู้ที่มีรถยนต์และประกันรถยนต์ใกล้จะหมดในเร็ว ๆ นี้ คงเริ่มคิดและตัดสินใจแล้วว่าจะ ซื้อประกันรถยนต์บริษัทไหนดี หรือ ต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี ซึ่งจำเป็นที่จะต้องทราบว่า ต่อประกันรถยนต์ต้องใช้อะไรบ้าง ในครั้งต่อไประหว่าง ต่อกับบริษัทประกันเดิม กับ บริษัทประกันใหม่ บางคนอาจรู้สึกสองจิตสองใจ ลังเล เพราะทำประกันมาสักพักก็พอจะสัมผัสอะไร ๆ ได้บ้างแล้ว เราจึงมาแนะนำ ประกันรถยนต์ที่ไหนดี ดังนี้

การ ต่อประกันรถยนต์ กับที่เก่า
แน่นอนเลยว่าการต่อประกันกับบริษัทประกันเดิมที่ทำมา ข้อดีก็จะอยู่ตรงที่ว่าไม่ต้องมีการดำเนินเรื่องของเอกสารใหม่ ก็ลดเวลาและขั้นตอนหลาย ๆ อย่างลงไปได้ แต่ก่อนการตัดสินใจต่อกับที่เดิม คุณต้องพิจารณาตนเองด้วยว่าคุณมีประวัติการเคลมมาบ้างหรือไม่ การเลือกต่อ ประกันรถยนต์ ที่ไหนดี ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นฝ่ายตัดสินใจได้อยู่ฝ่ายเดียว เพราะหากคุณมีประวัติการขับรถไม่ดี มีอุบัติเหตุและเฉี่ยวชนเกิดขึ้นบ่อย มีประวัติการเคลมมาหลายครั้งฝ่ายบริษัทประกันเองก็มีสิทธิ์ในการไม่อนุมัติให้คุณต่อประกันกับบริษัทเขาด้วย ซึ่งถ้าเป็นกรณีแบบนี้ก็แนะนำว่าคุณควรจะพิจารณาหาบริษัทประกันใหม่จะดีกว่า ส่วนถ้าในทางตรงกันข้ามคุณขับรถดีไม่มีประวัติการเคลม ก็แนะนำให้ต่อกับที่เก่าไปเลย เพราะประวัติที่ใสสะอาดของคุณสามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนค่าเบี้ยประกันได้ด้วย

การ ต่อประกันรถยนต์ กับที่ใหม่
บริษัทประกันใหม่อาจมีตัวเลือกหลายอย่างที่ดีกว่า อย่างเช่น ประกันชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้าง ค่าเบี้ยประกันถูกกว่า หรือมี โปรโมชั่นที่น่าสนใจ บางคนอาจจะมีประวัติการเคลมจากบริษัทเก่าหลายครั้งด้วย จึงตัดสินใจย้ายมาต่อประกันกับที่ใหม่ ไม่ว่าคุณจะมีเหตุผลในการต่อประกันกับที่ใหม่แบบไหนก็ตาม สิ่งที่เป็นข้อจำกัดของการต่อกับบริษัทใหม่ก็คือ กฎระเบียบของบริษัทนั้น ๆ เพราะตอนนี้บริษัทประกันทุกแห่งก็จะมีการยกยอดประวัติเก่าของผู้ขับขี่มาด้วย ฉะนั้น ถ้าคุณมีประวัติการเคลมจากที่เก่าเยอะ แม้ว่าทางออกคือ การย้ายบริษัทใหม่ แต่บริษัทประกันใหม่เขาก็จะขีดเส้นใต้คุณไว้ และ อาจไม่ให้ส่วนลดบางอย่างกับคุณ อีกทั้งการดำเนินการเรื่องเอกสารก็อาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะต้องพิจารณาควบคู่กันด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมด จึงอาจสรุปได้ว่า การต่อประกันรถ ไม่ว่าจะที่เก่าหรือที่ใหม่ล้วนมีปัจจัยและข้อเด่นข้อด้อยที่ต้องพิจารณาด้วยกันทั้งคู่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ประวัติการขับขี่ของผู้ทำประวัติ ถ้าไม่เคยชน ไม่เคลมบ่อย ประวัติสวยแบบนี้ไปที่ไหนก็ได้ แต่ถ้ามีประวัติการเคลมแล้วก็คงต้องพิจารณาดูให้รอบคอบอีกครั้ง รวมถึงต้องดูด้วยว่าบริษัทเก่าจะยินดีให้คุณต่อประกันกับเขาด้วยหรือไม่ ดังนั้น ขับรถให้ดีมีสติเสมอ จะได้ไม่มีประวัติการเคลมให้ต้องเหนื่อยใจนั่นเอง



9
ร่างกายต้องการทะเล! หยุดยาวนี้ เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี เน้นทะเลสวยสุด

ร่างกายต้องการทะเล ใกล้ช่วงวันหยุดยาวแล้ววางแผน เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี อยากจะเมาดิบให้ไปมัลดีฟส์เกี่ยวกันไหม ไม่เลย แต่ถ้าเน้นทะเลสวยน้ำใส ต้องมีมัลดีฟส์อันนี้เกี่ยวแน่นอน เพราะเกาะมัลดีฟส์เขาขึ้นชื่อว่าเป็น “The Last Paradise on Earth” เลยนะ มาทำความรู้จักกับเกาะที่สวยงามติดอันดับโลกกัน

มัลดีฟส์เกาะสวรรค์ของคนพักผ่อน

 เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี มัลดีฟส์ เป็นคำตอบที่น่าสนใจมากประเทศหนึ่งเลยทีเดียวมาดูความน่าสนใจของประเทศสาธารณรัฐมัลดีฟส์ หรือเกาะมัลดีฟส์กัน

มัลดีฟส์เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นประเทศที่เล็กที่สุดในทวีปเอเชีย ซึ่งเต็มไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากกว่า 1,000 เกาะ แต่มีเพียง 250 เกาะ เท่านั้นที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ในแต่ละเกาะจะมีเพียง 1 รีสอร์ทเท่านั้น ความมีชื่อเสียงของมัลดีฟส์คือ เป็นทะเลที่มีความสวยงามจนได้รับขนานการนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย” ใครที่สนใจอยากไปนอนอาบแดดบนหาดทรายที่เงียบสงบแบบเป็นส่วนตัวเลือกมาที่นี่ไม่ผิดหวัง

ผู้ที่สนใจสามารคเช็คราคาแพ็กเกจทัวร์ของแต่ละบริษัทได้ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น เลือกได้ตามความสะดวกของกระเป๋าได้เลย แนะนำนิดนึงว่าหากอยากเที่ยวแบบประหยัดก็จองที่พักในเมืองแล้วซื้อทริปท่องเที่ยวแบบเป็นแพ็กเกจเที่ยววันต่อวันราคาหลักพัน ใครที่เน้นกิจกรรมทุกอย่างแบบเต็มที่ควรอยู่อย่างน้อย 3-4 วันต่อทริป

หากไปกับทัวร์แพ็กเกจที่ราคาสูงหน่อยมีอาหารให้ครบทุกมื้อและมีกิจกรรมให้ทำระหว่างที่พักในรีสอร์ท เราอาจจะไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเลยสักบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้ต้องสอบถามข้อมูลจากทัวร์ให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ความน่าสนใจของเกาะมัลดีฟส์

•   ด้วยความที่ประเทศอยู่บนเกาะทั้งหมด จึงถูกโอบล้อมด้วยทะเลอันกว้างใหญ่ มองไปทางไหนก็จะมีแต่ท้องทะเลสีฟ้า น้ำทะเลใสจนมองเห็นปะการัง โขดหินและสัตว์น้ำที่อยู่ในน้ำได้ หาดทรายสีขาวสวยสะอาดตา
•   มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะแต่ละเกาะมีเพียงรีสอร์ทเดียวซึ่งอยู่ห่างกัน การจะข้ามไปเกาะอื่น ๆ ต้องทำเรื่องขออนุญาตข้ามเกาะก่อน
•   มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำทั้งดำน้ำดูปะการัง ตกปลา ล่องเรือชมบรรยากาศรอบเกาะ พายเรือแคนู
•   ไม่ต้องขอวีซ่า สามารถไปพักผ่อนได้แบบยาว ๆ 30 วันต่อครั้ง แบบจุใจวันพักผ่อนกันไปเลย
•   สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล แม้จะเป็นฤดูฝนก็เที่ยวได้เพราะที่นี่ฝนตกนานแค่ 15-20 นาที ก็หยุด แต่จะให้ได้ช่วงเวลาที่ทะเลสวยที่สุดคือช่วงมีนาคม-เมษายนเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของฤดูมรสุม

การเดินทางไปเกาะมัลดีฟส์

สายการบิน Bangkok Airways เป็นเพียงสายการบินเดียวที่บินตรงไปลงมัลดีฟส์ นอกนั้นต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซียต่อสายการบินอื่นที่บินไปมัลดีฟส์อีกต่อ

ไปพักผ่อนถึงมัลดีฟส์ทั้งทีต้องสนุกให้เต็มที่

เมื่อมีโอกาสเที่ยวต่างประเทศใคร ๆ ก็อยากสนุกสนานสำราญใจให้เต็มที่ ไม่ต้องมากังวลว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะทำอย่างไร เพื่อความอุ่นใจในทริปท่องเที่ยวให้ ประกันการเดินทาง ของบริษัท ซิกน่า ประกันภัย เป็นผู้รับความเสี่ยงคุ้มครองแบบครอบคลุม หากใครที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวเป็นประจำอยู่แล้วสามารถเลือก ประกันการเดินทาง รายปี ที่ซื้อเพียงครั้งเดียวได้รับความคุ้มครองในการเดินทางไปต่างประเทศได้ไม่จำกัดเที่ยวในการเดินทาง คราวนี้จะ เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี ก็เที่ยวได้แบบสบายใจตลอดการเดินทางแน่นอน

10
ตัดสินใจให้ดีก่อน ยกเลิกประกัน Cigna สุดท้ายอาจได้ไม่คุ้มเสีย

โดยส่วนใหญ่แล้วการมีประกันมากกว่าหนึ่งกรมธรรม์นั้นถือเป็นเรื่องปกติของคนในยุคปัจจุบัน สาเหตุหลักๆ คือ แต่ละกรมธรรม์นั้นให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน หากเป็น ประกันอุบัติเหตุ ก็จะคุ้มครองกรณีประสบอุบัติเหตุเท่านั้น ในขณะที่ประกันโรคร้ายแรงจะคุ้มครองเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขของแผนประกันที่เลือกทำ ได้แก่ โรคมะเร็ง  โรคไตวาย โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะโคม่าต่างๆ  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนมองว่าไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากประกันทั้งสองแบบมากนัก บางคนแทบไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยสักครั้งตั้งแต่ทำประกัน ส่วน ประกันโรคร้ายแรง ยิ่งแล้วใหญ่เพราะหลายคนมักหลอกตัวเองว่าไม่มีโอกาสเป็นโรคร้ายแรง จึงทำให้มองว่าได้แต่จ่ายค่าเบี้ยประกันไปเปล่า ๆ ในแต่ละเดือน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนนึกอยากยกเลิกประกันอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลง แต่ในความจริงการยกเลิกประกันอาจทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะลูกค้า Cigna ประกันภัย

สำหรับการ ยกเลิกประกัน Cigna หากตัดสินใจยกเลิก ประกันอุบัติเหตุ ผลเสียที่เกิดขึ้น คือ ต้องสำรองเงินจ่ายเองทุกครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวเมื่อประสบอุบัติเหตุ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงจนไม่สามารถจัดการได้ โดยเฉพาะในกรณีมีภาวะโคม่าหรือจำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ แต่ถ้ามีประกันอุบัติเหตุก็จะช่วยตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้เลย เนื่องจากสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ  ตัวอย่างเช่น ประกันอุบัติเหตุ "คุ้มครองทันใจ" ที่ชดเชยค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 50,000 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง นอกจากนั้นประกันอุบัติเหตุบางแผนยังมีการชดเชยรายได้ให้ด้วย เช่น Cigna ประกันภัย ประกันอุบัติเหตุ รักครอบครัว ที่ชดเชยรายได้สูงสุด 1,000 บาท ต่อครั้ง เมื่อเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วยอุบัติเหตุและยังมีการชดเชยรายได้ครอบครัวต่อเดือนสูงสุดอีก 40,000 บาท รวม 12 เดือน
แต่หากตัดสินใจยกเลิก ประกันโรคร้ายแรง เมื่อเกิดโรคร้ายขึ้นสิ่งที่ตามมา คือ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแน่นอนว่าต้องมีการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานทำให้มีค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก แต่การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้มีเงินสำรองเพียงพอในการรักษาตัว เช่น ประกันโรคร้าย "มะเร็งไม่เคลมคืนเร็ว" ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 2,400,000 บาท เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง นอกจากนั้นยังได้เงินชดเชยรายได้ครอบครัวสูงสุดอีกเดือนละ 40,000 บาท นานถึง 12 เดือน และค่ารักษาพยาบาลพิเศษเพิ่มเติมสูงสุด 100,000 บาท กรณีมะเร็งระยะลุกลาม

จะเห็นได้ว่าการ ยกเลิกประกัน Cigna ไม่ว่าจะเป็นประกันแบบไหนก็ได้ไม่คุ้มเสียทั้งนั้น เพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นการมีประกันทั้ง 2 แบบ จะช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่าเพราะไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือโรคร้ายมีโอกาสเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกเวลา

11
กล้อง Mirrorless Fuji X-T100 ฟังก์ชั่นพร้อมสำหรับสาย Vlog

ในวันนี้จะขอเอาใจสาย Vlog และ Blog กันอย่างพิเศษด้วยกล้องที่เปิดตัวใหม่จาก FUJIFILM เป็น กล้อง Mirrorless รุ่น Fuji X-T100 ที่มาในทรงของ DSLR แบบมินิ เพื่อช่วยให้การถ่ายภาพและวีดีโอนั้นง่ายมากขึ้น หากสาย Vlog และ Blog คนไหนที่กำลังมองหากล้องใหม่ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานคูลๆ อยู่ล่ะก็ ลองไปทำความรู้จักกับเจ้า Fuji X-T100 ตัวนี้กันเลย

สำหรับสาย Vlog หรือสาย Blog คือผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและวีดีโอเพื่อนำไปรีวิวหรือโพสต์ตามโซเชียลมีเดียเพื่อพาไปกิน เที่ยว ช้อปในสถานที่ต่าง ๆ ภาพถ่ายและภาพวีดีโอที่ได้จึงต้องดูสวยงาม สมจริง และชัดเจน เพื่อช่วยให้การนำเสนอดูน่าติดตาม รวมถึงการใช้งานของกล้องที่ต้องใช้ง่ายและสะดวกต่อการพกพาด้วย Fuji X-T100 จึงถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

Fuji X-T100 มีลักษณะเด่น คือ การถ่ายภาพ เพราะเจ้า Fuji X-T100 ตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอที่พับได้ เป็น กล้องเซลฟี่ โดยสามารถพับได้มาถึง 180 องศาและปรับขึ้นปรับลงได้ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานเพราะไม่ว่าจะเซลฟี่ ถ่ายวีดีโอ หรือใช้ขาตั้งก็ปรับใช้งานได้ง่ายสุด ๆ นอกจากนี้หน้าจอยังออกแบบมาในระบบทัชสกรีนที่สามารถปรับซูมเข้า ซูมออก และทัชสกรีนเลือกฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ ส่วน Touch Pad ก็สามารถเลือกพื้นที่ทำงานได้มากถึง 7 ตำแหน่งในการสไลด์เพื่อใช้งาน

ในส่วนของการถ่ายวิดิโอก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะในกล้อง mirrorless ส่วนใหญ่แล้วจะถ่ายวีดีโอ 4K ได้ประมาณ 10 นาที แต่เจ้า Fuji X-T100 นั้นสามารถถ่ายได้นานต่อเนื่อง 29 นาทีด้วย 4K 15P ก็ถือว่าฮือฮามาก ๆ สำหรับกล้อง mirrorless ที่มีในท้องตลาด ส่วนการเลือกการ์ดถ่ายวีดีโอ แนะนำว่าควรใช้ SD Card ที่มีความเร็ว U3 ขึ้นไป เพราะจะช่วยให้การถ่าย 4K มีความเสถียรมากขึ้นและช่วยให้ภาพไม่กระตุก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแฟลชที่ทำงานได้แบบอัตโนมัติและมีโหมดแฟลชให้เลือกใช้งานหลายฟังก์ชัน หรือหากใครจะเสียบแฟลชภายนอกก็รองรับเช่นกัน

สำหรับความสะดวกในการส่งภาพของ Fuji X-T100 นั้นทาง Fujifilm ก็ได้เพิ่มฟังก์ชันมาให้ส่งถ่ายภาพได้สะดวกมากขึ้นด้วยระบบ Seamless ที่สามารถแชร์ภาพถ่ายได้ทันทีหลังจากที่เสร็จ ทำให้สะดวกต่อการอัปโหลดที่รวดเร็วทันใจ และมีการส่งภาพถ่ายผ่านระบบ Wi-Fi และ Bluetooth เช่นดังเดิม ส่วนแบตเตอรี่ที่ใช้ก็ยังเป็นรุ่น NP-126S ที่เหมือนกับกล้องฟูจิรุ่นก่อน ๆ อยู่ โดยแบตเตอรี่หนึ่งก้อนสามารถถ่ายภาพได้ประมาณ 430 ภาพ ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวัน แต่หากใครต้องการใช้เพิ่มก็สามารถพกแบตเตอรี่เพิ่มได้

จากที่กล่าวมาด้านบนนี้เป็นคุณสมพิเศษของ Fuji X-T100 ซึ่งเรียกได้น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะหากเทียบกับกล้อง mirrorless รุ่นอื่น ๆ แล้วก็ถือว่าใช้งานง่ายและมีความมืออาชีพพอตัว หากใครสนใจก็ต้องเตรียมจับจองกันให้ดี ๆ จะได้ลองใช้ก่อนใคร

12
ก่อนตัดสินใจซื้อ กล้อง Mirrorless Fuji X-T100 อะไรคือสิ่งที่คุณต้องรู้

หากต้องการ กล้อง Mirrorless หรือ กล้องเซลฟี่ สัก 1 ตัวคุณคิดว่า ตากล้องมือใหม่อย่างคุณจะต้องมีงบเท่าไหร่กัน แล้วควรเลือกซื้อค่ายไหนดี ที่ได้กล้องมาแล้วไม่ผิดหวัง  นี่คงเป็นสิ่งที่หลายคิดก่อนตัดสินใจเสียเงินหลักหมื่นเพื่อซื้อกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง ยิ่งทุกวันนี้ในตลาดกล้องถ่ายรูปมีการเปิดตัวกล้องใหม่ ๆ มากให้เลือกเยอะ การตัดสินใจของคุณก็อาจจะยากขึ้น ซึ่งกล้อง Fuji X-T100 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นท็อป ๆ ที่ทำให้คุณลังเลได้เช่นกัน ดังนั้นมาดูสิว่าหากอยากได้กล้องรุ่นนี้จะต้องรู้หรือดูอะไรบ้าง

1.   กล้อง mirrorless Fuji X-T100  เป็นรุ่นน้องเล็กของ กล้อง mirrorless จาก Fuji และกำลังจะมาเปิดตัวในบ้านเราอีกไม่นานนี้แน่นอน สิ่งที่แตกต่างและน่าสนใจกว่ารุ่นที่ผ่านมากคือน้ำหนักเบากกว่าเดิมเยอะ เนื่องจากไม่มีกริป จึงย่อขนาดลงได้อีกเล็กน้อย มีน้ำหนัก 448 กรัม ดีไซน์สวยและเพิ่มสีทองมากให้เลือก จับถนัดมือ
2.   Function ของกล้อง มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น มีจุดโฟกัสทั้งหมดได้ 91 จุด เพิ่มความละเอียดของการถ่ายภาพ สามารถถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้องได้ง่ายกว่าเดิม ด้วย ฟังก์ชั่น ISO ที่สามารถขยายได้ 100-51200 และใน 1 วิ สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ ถึง 6 ภาพ ที่น่าสนใจมากที่สุดคือหน้าจอสามารถปรับได้ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ของกลุ่มเพื่อคู่รัก เป็นต้น
3.   ความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความที่เป็น กล้อง mirrorless ความสะดวกก็จะมากกว่าการเลือกซื้อกล้องโปรตรงที่ขนาดกล้องเล็กลง คุณไม่ต้องแบกกล้องหนัก ๆ เดินทางไปท่องเที่ยวกับคุณอีกต่อไป โดยเฉพาะรุ่น Fuji X-T100  เหมาะสมมากสำหรับใครที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว ถ่ายภาพ เพราะน้ำหนักเครื่องเบากว่าเดิมมาก แต่สามารถปรับ ถ่ายภาพและเปลี่ยนเลนส์ได้เหมือนเดิม
4.   ขนาดน้ำหนัก เป็นจุดเด่นอง Fuji X-T100  กล้อง mirrorless เพราะได้เอากริปที่เป็นแบตเตอรี่เสริมออกไปแล้ว ลดขนาดลง น้ำหนักก็จะเบามากขึ้น แต่การใช้งานก็ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม หรืออาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตัวกล้องใช้แบตเตอรี่รุ่น NP-126S ที่ให้พลังงานได้ดีเหมือนเดิม ทำให้การเดินทางของคุณสะดวกมาก เลือกที่จะแขวนคอหรือใช้มือจับก็สะดวกไม่แพ้กัน

การเลือกซื้อกล้องมีไม่กี่อย่างที่มือใหม่อย่างคุณต้องทำความเข้าใจ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกล้องที่ถูกใจและใช้งานได้ตรงตามจุดประสงค์มากที่สุด สำหรับFuji X-T100  เป็นรุ่นที่มีลูกเล่นที่น่าสนใจหลายอย่างที่คุณสามารถลองเล่นกับภาพถ่ายของคุณได้ โดยเฉพาะการถ่ายภาพแบบ Portrait ที่เน้นตัววัตถุมากกว่าสิ่งรอบข้าง กล้องรุ่นนี้ทำหน้าที่ออกมาได้ดีเลยทีเดียว ใครที่ชอบถ่ายภาพแนวนี้ รุ่นนี้แหละเหมาะกับคุณมากที่สุด


13
ผิวแพ้ง่าย หากพบสัญญาณเตือน ควรใช้ครีมบำรุงด่วนที่สุด

สำหรับสาวๆ อย่างเราๆ เรื่องของการดูแลหรือการบำรุงผิวถือเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ไม่ยอมให้อะไรก็ตามมาพรากความสวยใสของใบหน้าไป แต่อันที่จริง ก็ยังมีอีกลายคนที่ไม่ค่อยใส่ใจดูแลผิวหน้าสักเท่าไหร่ หากเป็นหนุ่ม ๆ ก็อาจจะไม่เป็นไร เพราะผิวของผู้ชายส่วนใหญ่นั้นค่อนข้างจะแข็งแรง ไม่บอบบางแพ้ง่ายอยู่แล้ว แต่หากสาว ๆ ไม่ค่อยได้ใส่ใจดูแลผิวหน้าตัวเองเท่าที่ควร หรืออาจดูแลผิดวิธี เผลอใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารอันตราย ก็อาจเกิดภาวะผิวหน้าไม่ไหวแล้ว ขอยอมแพ้ดีกว่า หรือที่เรียกว่าภาวะ ผิวแพ้ง่าย นั่นเอง

เมื่อเกิดอาการแพ้ง่ายขึ้นมาแล้ว ก็คงต้องหาวิธีฟื้นฟูผิวโดยด่วน โดยอาจจะหา ครีมผิวแพ้ง่าย ดี ๆ สักตัวมาใช้ แต่อาการแพ้ง่ายของผิวหน้านั้นสังเกตยังไงล่ะ เพราะบางคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องผิว ก็อาจไม่รู้ตัวว่าผิวหน้าของเรากำลังยกธงขาวอยู่ ดังนั้น สัญญาณที่เตือนว่าผิวหน้าเรา กำลังเข้าสู่ภาวะ ผิวแพ้ง่าย ที่สังเกตได้ง่าย ได้แก่

ผิวขาดความชุ่มชื้น – สังเกตได้เลยว่าผิวจะมันง่ายมาก บางคนอาจเข้าใจไปว่าผิวเราชุ่มชื้นเกินไป แต่อันที่จริง เกิดจากที่ต่อมไขมันพยายามสร้างน้ำมันออกมาเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป สัญญาณอีกอย่างคือ หลังล้างหน้า ผิวจะดูแห้งผาก ไม่เต่งตึง เอานิ้วมือลูบไปบนผิวแล้วผิวไม่เด้ง ไม่เนียนนุ่ม นั่นแปลว่าผิวมีปัญหาแล้วล่ะ

ผิวไวต่อสิ่งรบกวน – ผิวจะมีความเซนซิทีฟต่อสิ่งรบกวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด มลภาวะ หรือส่วนผสมในครีมทาผิว โดยผิวจะเกิดการอักเสบ เกิดรอยแดงได้ง่าย มีผดผื่นขึ้น มีอาการผิวลอก และรู้สึกคัน

สิวขึ้นง่าย – คือไม่ว่าจะเจอกับมลภาวะ ฝุ่นควัน ฮอร์โมนเปลี่ยน เปลี่ยนสกินแคร์ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนที่นอน ขยับไปทางไหนสิวก็เห่อได้ง่าย ๆ ซะอย่างนั้น ทั้งที่ไม่น่าจะมีสิวขึ้นเลย นั่นแหละ อาการผิวหน้าแพ้ง่ายกำลังมา

จากที่กล่าวมาด้านบนนี้ หากสาวๆ สำรวจแล้วพบว่าผิวหน้ามีอาการทั้งสองแบบนี้ ก็ให้รีบหาผลิตภัณฑ์ ครีมล้างหน้า ครีมสำหรับผิวแพ้ง่าย  หรือ ครีมผิวแพ้ง่าย มาใช้ในการฟื้นบำรุงผิวหน้าอย่างเร่งด่วนเลย ใครที่มีสภาพผิวแบบไหน ก็ควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวนั้น ๆ หากผิวมีปัญหาสิวและความมันส่วนเกิน ก็ควรเลือกใช้ ครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นสิว โดยเฉพาะ เพราะจะมีการออกแบบมาให้มีเนื้อครีมที่บางเบา เหมาะกับผิวมัน และยังมีส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน และลดปัญหาสิวด้วย นอกจาก ครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นสิว สำหรับผิวมันแล้ว ผู้ที่มีผิวแห้งก็ควรเลือกใช้ครีมที่เน้นการฟื้นบำรุงและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ใครก็ตามที่มีผิวหน้าแพ้ง่าย หากหันมาดูแลผิวอย่างถูกวิธี อาจใช้ กันแดดผิวแพ้ง่าย หรือ ครีมทาหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย ก็จะสามารถช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้แบบไม่ยากเลย



14
กล้องน้องใหม่ในวงการ Mirrorless Fuji xt100 กระแสแรงแซงทางโค้ง

สำหรับแฟนคลับของค่ายกล้องยักษ์ใหญ่อย่าง FUJIFILM คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า FUJIFILM นั้นไม่ค่อยจะชอบปล่อยของกันพร่ำเพื่อสักเท่าไหร่ กว่าจะมี กล้อง Mirrorless หรือ กล้องเซลฟี่ รุ่นใหม่ออกมาสักตัวก็ต้องตั้งอกตั้งใจรอกันอยู่ค่อนข้างนาน กล้องถ่ายรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาจึงมั่นใจได้ว่าทางฟูจิฟิล์มนั้นได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว อย่าง Fuji xt100 ที่เพิ่งเปิดตัวมาเมื่อกลางปี 2018 ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวัง เพราะมีเซอร์ไพร้ท์มาให้หลายอย่างเลยทีเดียว

เริ่มจากเซอร์ไพร้ท์แรกของ Fuji xt100 ที่เปิดตัวมาด้วยสไตล์วินเทจ งานนี้ทำให้แฟน ๆ ที่ชื่นชอบกล้องสไตล์วินเทจต้องตกหลุมรักมากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยคลาสสิกและดูมีคลาสมาก ๆ เปิดตัวมาให้เลือกกัน 3 สี ได้แก่ Gold, Black และ Dark Silver เป็นโทนสีแบบเรียบ ๆ ที่ใช้งานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย Fuji xt100 ออกแบบมาในทรง DSLR ที่สวยและดูโปรกว่าเดิม ส่วนบอดี้ก็เล็กกะทัดรัด จับได้ถนัดมือ ถือง่าย ถ่ายได้สะดวก มีน้ำหนักเพียงแค่ 448 กรัมเท่านั้น

ความพิเศษถัดมา คือ มีการจัดวางปุ่มการทำงานบนบอดี้ให้ใช้งานสะดวกขึ้น ที่เด่น ๆ เลยก็คือ แฟลชป็อปอัพด้านบนช่องมองภาพที่เมื่อเรากดปุ๊บแฟลชก็จะเด้งขึ้นมาให้ใช้งานกันเลย ไม่ต้องต่อแฟลชนอกให้ยุ่งยาก ส่วนรอบ ๆ บอดี้ก็ดูเรียบ ๆ แต่น่าใช้งาน มีช่องสำหรับเสียบไมค์ ช่องใส่การ์ด ช่องใส่แบตเตอรี่ วงแหวนถ่ายภาพ ปุ่มชัตเตอร์ และวงแหวนเลือกฟังก์ชัน หน้าจอของ Fuji xt100 มีขนาด 3 นิ้ว ใช้งานง่ายด้วยระบบสัมผัส สามารถเลือกเมนูต่าง ๆ หรือสไลด์ดูรูปภาพได้ง่ายมากขึ้น และที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ สำหรับจอมองภาพคือ สามารถหมุนปรับระดับได้ ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่ ถ่ายวีดีโอ หรือถ่ายภาพแบบไหนก็ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ ให้เมื่อยเพราะแค่ปรับจอภาพก็ถ่ายได้ง่ายขึ้นแล้ว

ส่วนทางด้านของช่องมองภาพนั้นก็ยกมาจาก X-T20 มีช่องมองภาพแบบ EVF ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล ด้วยอัตราขยาย x0.62 ทำให้มองภาพได้ชัดมากขึ้นและให้รายละเอียดที่ชัดมากขึ้น การถ่ายภาพของ Fuji xt100 นั้นฉลาดขึ้นกว่าเดิม มีโหมด SR+ Auto ที่สามารถปรับความละเอียดได้เอง จับโฟกัสเองได้ และปรับแสงได้โปรมาก ๆ คนที่ถ่ายรูปไม่เก่งไม่ต้องกลัวเลยว่าจะถ่ายออกมาแล้วไม่สวย เพราะนั่งยันนอนยันเลยว่าถ่ายยังไงก็สวย ถ่ายยังไงก็ชัด เพราะมีโฟกัสทั้งหมด 91 จุด แถมยังมีความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 1/32000 วินาที และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้มาก 6 ภาพ/วินาที ส่วนการถ่ายวีดีโอนั้นทำให้ตะลึงไม่น้อยเลย เพราะนอกจากจะถ่าย VDO 4K ได้แล้วยังถ่ายได้นานถึง 29 นาทีกันเลยทีเดียว

15
Fuji xt100 กล้องถ่ายรูปที่ทำให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายขึ้น

เมื่อกล่าวถึง กล้อง Mirrorless หรือ กล้องเซลฟี่ ที่กำลังมาแรงในปีนี้คงต้องยกให้กับกล้อง Fuji xt100 เพราะกระแสดี แรงไม่ตกมาตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวและเป็นกล้องถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมาถึงทุกวันนี้ ด้วยเหตุเพราะเป็นกล้องที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 448 กรัม ทำให้พกพาได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังออกแบบมาด้วยรูปทรงสุดคลาสสิกในสไตล์ที่ทันสมัย ดูเรียบหรูแบบมีสไตล์ ใครเห็นก็อยากเป็นเจ้าของ

ถึงอย่างนั้นเจ้ากล้อง Fuji xt100 นั้นก็ไม่ได้มีดีแค่เรื่องดีไซน์ เพราะเรื่องการถ่ายภาพและการถ่ายวีดีโอก็ทำได้ดีเช่นกัน โดยได้เอาใจชาว VLOG, Youtuber หรือผู้ที่ชอบถ่ายวีดีโอเป็นพิเศษ เพราะมาพร้อมกับหน้าจอแบบพับได้เกือบ 180 องศา หมุนได้ 3 ทิศทาง เหมาะสำหรับการถ่ายงาน ถ่ายวิว หรือการถ่ายเซลฟี่ที่มีโหมดบิวตี้ให้เลือกปรับได้ 3 ระดับ ถ่ายแล้วผิวออกมาสวยหน้าใสดูน่ามอง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแฟลชป๊อบอัพในตัวที่สามารถถ่ายงานในสตูดิโอได้ หากใครอยากได้ไว้ถ่ายงาน ถ่ายภาพสินค้า หรืออื่น ๆ ก็ถือว่าสะดวกและดีไม่น้อยเลย

ภาพถ่ายจากกล้อง X-T100 นั้นมีความพิเศษอยู่ที่ช่องมองภาพแบบ EVF ด้วยความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซลในอัตราขยาย x0.62 ใช้เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ด้วยความละเอียดภาพมากถึง 24.3 ล้านพิกเซล ประมวลผลภาพถ่ายด้วยระบบ X-Processor II มาพร้อมกับโฟกัส 91 จุด ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดอยู่ที่ 1/32000 วินาที ทำให้มีการจับโฟกัสเข้าเป้ามากขึ้นถึง 96% ซึ่งถือว่ามีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่จะถ่ายออกมาแล้วไม่ชัด ส่วนความพิเศษอีกหนึ่งอย่างที่เข้าตามากที่สุดเลยก็คือ รองรับ Face Detection, Eye Detection และ Face Auto Shutter คือมีการตรวจจับใบหน้าและดวงตา สะดวกต่อการใช้ถ่ายภาพคนมาก ๆ

หากพูดถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นโหมดการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ที่สามารถถ่าย 4K 15P ได้นานถึง 29 นาที ส่วน Full HD 1920 x 1080 59.94p / 50p / 24p / 23.98p ถ่ายได้นาน 30 นาที เป็นกล้องที่สะดวกมาก ๆ สำหรับคนชอบถ่ายวีดีโอหรือทำ VLOG เพราะใช้งานง่าย มีช่องเสียบไมโครโฟนด้านข้าง ถ่ายเสร็จแล้วสามารถแชร์เข้าโทรศัพท์มือถือคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือแล็ปท็อปได้เลย ส่งข้อมูลได้มากถึง 3 ช่องทาง ได้แก่ WIFI, Bluetooth และ mini HDMI

จากที่กล่าวมาด้านบนนี้ หลายๆ คนอาจจะกำลังงให้ความสนใจกับเจ้ากล้องตัวนี้อยู่ หรือหากใครกำลังมองหากล้องบอดี้เล็ก ๆ แต่ทำงานได้หลากหลาย รวดเร็วและฉับไว กล้อง Fuji xt100 ก็ถือเป็นคำตอบที่ดีเพราะเปิดตัวมาด้วยราคาที่น่ารักและเป็นเจ้าของได้ อีกทั้งเลนส์ก็ยังเปลี่ยนได้ตามใจชอบ บอดี้เล็ก พกง่าย ไม่หนักกระเป๋าและไม่กินพื้นที่ แบตเตอรี่ทนทานสามารถถ่ายได้มากถึง 430 ภาพต่อการชาร์จแบตหนึ่งครั้ง ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้แต่ละวัน


16
Fuji xt100 กล้องน้องใหม่ของวงการกล้อง mirrorless ที่มีกระแสแรงแบบไม่มีตก

สำหรับแฟน ๆ ของ FUJIFILM ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า FUJIFILM นั้นไม่ค่อยจะชอบปล่อยของกันพร่ำเพื่อสักเท่าไหร่ กว่าจะมี กล้อง Mirrorless หรือ กล้องเซลฟี่ รุ่นใหม่ออกมาสักตัวก็ต้องอดใจรอกันค่อนข้างนาน กล้องถ่ายรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาจึงมั่นใจได้ว่าทางฟูจิฟิล์มนั้นได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว อย่าง Fuji xt100 ที่เพิ่งเปิดตัวมาเมื่อกลางปี 2018 ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวัง เพราะมีเซอร์ไพร้ท์มาให้หลายอย่างเลยทีเดียว

เริ่มจากเซอร์ไพร้ท์แรกของ Fuji xt100 ที่เปิดตัวมาด้วยสไตล์วินเทจ งานนี้ทำให้แฟน ๆ ที่ชื่นชอบกล้องสไตล์วินเทจต้องตกหลุมรักมากกว่าเดิม มีดีไซน์ที่สวยคลาสสิกและดูมีคลาสมาก ๆ เปิดตัวมาให้เลือกกัน 3 สี ได้แก่ Gold, Black และ Dark Silver เป็นโทนสีแบบเรียบ ๆ ที่ใช้งานได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย Fuji xt100 ออกแบบมาในทรง DSLR ที่สวยและดูโปรกว่าเดิม ส่วนบอดี้ก็เล็กกะทัดรัด จับได้ถนัดมือ ถือง่าย ถ่ายได้สะดวก มีน้ำหนักเพียงแค่ 448 กรัมเท่านั้น

เซอร์ไพร้ส์ต่อไปคือ มีการจัดวางปุ่มการทำงานบนบอดี้ให้ใช้งานสะดวกขึ้น ที่เด่น ๆ เลยก็คือ แฟลชป็อปอัพด้านบนช่องมองภาพที่เมื่อเรากดปุ๊บแฟลชก็จะเด้งขึ้นมาให้ใช้งานกันเลย ไม่ต้องต่อแฟลชนอกให้ยุ่งยาก ส่วนรอบ ๆ บอดี้ก็ดูเรียบ ๆ แต่น่าใช้งาน มีช่องสำหรับเสียบไมค์ ช่องใส่การ์ด ช่องใส่แบตเตอรี่ วงแหวนถ่ายภาพ ปุ่มชัตเตอร์ และวงแหวนเลือกฟังก์ชัน หน้าจอของ Fuji xt100 มีขนาด 3 นิ้ว ใช้งานง่ายด้วยระบบสัมผัส สามารถเลือกเมนูต่าง ๆ หรือสไลด์ดูรูปภาพได้ง่ายมากขึ้น และที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ สำหรับจอมองภาพคือ สามารถหมุนปรับระดับได้ ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่ ถ่ายวีดีโอ หรือถ่ายภาพแบบไหนก็ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ ให้เมื่อยเพราะแค่ปรับจอภาพก็ถ่ายได้ง่ายขึ้นแล้ว

ส่วนทางด้านของช่องมองภาพนั้นก็ยกมาจาก X-T20 มีช่องมองภาพแบบ EVF ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล ด้วยอัตราขยาย x0.62 ทำให้มองภาพได้ชัดมากขึ้นและให้รายละเอียดที่ชัดมากขึ้น การถ่ายภาพของ Fuji xt100 นั้นฉลาดขึ้นกว่าเดิม มีโหมด SR+ Auto ที่สามารถปรับความละเอียดได้เอง จับโฟกัสเองได้ และปรับแสงได้โปรมาก ๆ คนที่ถ่ายรูปไม่เก่งไม่ต้องกลัวเลยว่าจะถ่ายออกมาแล้วไม่สวย เพราะนั่งยันนอนยันเลยว่าถ่ายยังไงก็สวย ถ่ายยังไงก็ชัด เพราะมีโฟกัสทั้งหมด 91 จุด แถมยังมีความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 1/32000 วินาที และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้มาก 6 ภาพ/วินาที ส่วนการถ่ายวีดีโอนั้นทำให้ตะลึงไม่น้อยเลย เพราะนอกจากจะถ่าย VDO 4K ได้แล้วยังถ่ายได้นานถึง 29 นาทีกันเลยทีเดียว

17
ยกเลิกประกัน Cigna ระหว่าง ประกันอุบัติเหตุ กับ ประกันโรคร้ายแรง แผนไหนส่งผลกับเราที่สุด

ต้องยอมรับว่าการทำประกันในปัจจุบันกับ Cigna นั้นมีความสะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก เพราะนอกจากการซื้อกรมธรรม์ผ่านตัวแทนเหมือนเดิมแล้ว ยังสามารถซื้อผ่านทางออนไลน์และทางโทรศัพท์ได้อีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางคนจะมีประกันมากกว่าหนึ่งกรมธรรม์ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปหลายคนอาจตัดสินใจยกเลิกอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ ประกันโรคร้ายแรง และ ประกันอุบัติเหตุ ที่หลายคนมองว่าไม่ได้ประโยชน์จากการทำประกันและมีความรู้สึกว่าต้องเสียเงินเบี้ยประกันไปเปล่าๆ ทุกเดือน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะยกเลิกประกันแผนไหน ด้วยไม่รู้ว่าแผนไหนที่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตมากที่สุด

ซึ่งหากอยาก ยกเลิกประกัน Cigna สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างแรก คือ ‘ความเสี่ยง’ หากในชีวิตประจำวันมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ทั้งในระหว่างการเดินทางไปทำงานที่มีความเสี่ยงหรือแม้แต่นิสัยส่วนตัวบางอย่างที่ทำให้มีความเสี่ยง เช่น เป็นคนที่ขาดความระมัดระวัง  ประกันที่ไม่ควรยกเลิกอย่างยิ่งก็คือ ประกันอุบัติเหตุ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นสิ่งที่แบกรับ คือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่นับวันก็ยิ่งมีอัตราค่าบริการสูงขึ้น ดังนั้นหากในชีวิตมีความเสี่ยงมากประกันอุบัติเหตุจะช่วยทำให้อุ่นใจเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนั้นยังไม่ต้องกังวลว่าจะขาดรายได้เพราะมีแผนประกันอุบัติเหตุที่มีจ่ายเงินค่าชดเชยรายได้ต่อวันหากต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ เช่น ซิกน่า ประกันอุบัติเหตุ ส่วนบุคคล ชดเชยรายวัน บวกบวก ที่ชดเชยรายได้สูงสุด 1,000 บาทต่อวัน และรับเงินชดเชยรายได้เพิ่มอีกสูงสุด 50,000 บาทกรณีนอนพักรักษาตัวติดต่อกันเกินกว่า 15 วัน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ‘ความเสี่ยง’ นั้นไม่ได้มีแค่การเกิดอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียวเพราะโรคร้ายแรงยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตโดยเฉพาะโรคมะเร็งทุกชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนไทย รองลงมาคือ โรคหลอดเลือดในสมอง อีกทั้งยังมีโรคเรือรังอื่นๆ ที่ทำให้คุณภาพชีวิตต่ำลงและต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคไตวาย และ โรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล  ด้วยเหตุนี้ ประกันโรคร้ายแรง จึงมีความสำคัญมาก เพราะเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงจะได้เงินค่าชดเชยก้อนใหญ่เพื่อนำไปรักษาตัว เช่น  ประกันโรคร้ายแรง ประกันมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 1,800,000 บาท เมื่อตรวจพบ 4 โรคร้าย ไตวาย โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง ภาวะโคม่า และยังหมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะมีค่าชดเชยรายได้สูงสุดอีกวันละ 1,200 บาท หากต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลและค่าชดเชยรายได้เพิ่มสูงสุด 12,000 บาทต่อเดือน กรณีเจ็บป่วยนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกินกว่า 15 วันติดต่อกัน รวมถึงค่าห้อง ICU สูงสุด 1,200 บาทต่อคืน สูงสุด 15 วัน ด้วย

อย่างไรก็ตามไม่ว่าตัดสินใจ ยกเลิกประกัน Cigna แผนไหน ก็ส่งผลเสียได้พอๆ กัน เนื่องจากในปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมีค่าบริการสูงกว่าแต่ก่อนค่อนข้างมากและในบ้างกรณีต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่าจะหายเป็นปกติ หากประกันไม่ครอบคลุมอาจทำให้ได้รับการรักษาไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้นจึงควรมีประกันทั้ง 2 แผนนี้ไว้เพื่อรับมือทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต




18
ทริคถ่ายรูปด้วยกล้องเซลฟี่ เรียกยอดไลค์ง่ายนิดเดียว

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันการถ่ายรูป ไม่ใช่เพียงการเก็บไว้ดูคนเดียว แต่เป็นการนำภาพที่ถ่ายได้ไปลงในโซเชียลมิเดียของตัวเอง จึงทำให้มีทั้งผู้คนที่รู้จักและไม่รู้จักเข้ามาดู ดังนั้นก็หมายความว่าคุณจำเป็นที่จะต้องดูดีอยู่เสมอโดยเฉพาะเมื่อผ่านทางหน้าจออย่าง Facebook twitter หรือ  Instagram และกิจกรรมในแต่ละช่วงวันของคุณยังต้องถูกแชร์ออกไปให้เพื่อน ๆ ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระหว่างทำงาน การพักผ่อน การเดินทางจนถึงช่วงเวลาเข้านอนกันเลยทีเดียว กล้อง Mirrorless หรือ  กล้องเซลฟี่ อาจจะเป็นตัวช่วยที่ลงตัวกับทุกกิจกรรมและเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณเพื่อให้สามารถเรียกยอดไลค์ได้มากที่สุด มันก็จะฟินหน่อย ๆ ที่มีเพื่อน ๆ ให้ความสนใจกับเรื่องราวของของคุณ

ทริคการถ่ายรูปด้วย กล้อง เซลฟี่ ให้ดูดีเรียกยอดไลค์ ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปนักและเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ดี ไม่แพ้กันแล้วทุก ๆ วันจะเป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำของคุณ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1.   เซลฟี่บ่อย ๆ โดยการเลือกใช้กล้องถ่ายรูปตัวโปรด ซึ่งมีมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะอย่าง กล้อง mirrorless Fujifilm xt100 คุณค่าที่คู่ควรและใช่เลยอย่างลงตัวเหมาะแก่การถ่ายเซลฟี่ของคุณ
2.   การเลือกใช้มุมถ่ายรูปให้เป็นโดยที่จะต้องหามุมของตนเองให้เจอแบบที่ใช่ เนื่องจากเค้าโครงหน้าของแต่ละคนจะให้มุมที่ดูดีที่สุดไม่เหมือนกัน อย่างเช่นบางคนอาจจะเอียงซ้าย-ขวา การยิ้มมุมปาก หรือทำตาโตแก้มป่อง อาจจะต้องทดลองกดชัตเตอร์กันอยู่หลายท่า จนเจอในแบบที่ใช่จริง ๆ
3.   เรื่องแสงมีส่วนช่วยทำให้รูปถ่ายดูดีได้เช่นกัน แต่ถ้าได้กล้องที่สามารถใช้แฟลชเพื่อบาลานซ์เรื่องแสงได้แบบอัตโนมัติก็จะดีกว่ามากเลยทีเดียว เพื่อประหยัดเวลาในการกำหนดแสงในระดับที่เหมาะสม
4.   มีไม้ช่วยในการเซลฟี่ก็ดีได้อีกทางหนึ่ง เพื่อช่วยเรื่องโฟกัสระยะที่ใช่มากขึ้น นอกจากการปรับจูนโฟกัสได้ชัดเจนจากสเปคของกล้องเองแล้ว วิธีใช้ก็ง่ายดายเพียงแค่หนีบกล้องที่ปลายไม้แล้วดึงไม้เพื่อใช้ถ่ายภาพตามระยะและมุมที่ต้องการเท่านั้น

ทริคการถ่ายรูปที่ต้องใช้รวมกับคุณภาพของ กล้อง เซลฟี่ ก็มีรูปที่ดูดีได้ในสไตล์ที่ออกมาเอาใจสาวกเซลฟี่โดยเฉพาะ เหมาะเจาะและลงตัวได้ดีอย่างกล้อง mirrorless Fujifilm xt100 ที่จะทำคุณสามารถประหยัดเวลาในการหาโฟกัสให้กับรูปถ่ายพร้อมทั้งชัดเจนและแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย จึงได้แชะรูปสวย ๆ ได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าที่ต้องการ รับรองว่าเรียกยอดไลค์ได้เกินคาด เพราะคุณสามารถเลือกรูปที่ดีที่สุดมาลงในโซเชียลมิเดียได้ทุก ๆ วัน



19
5 อุปกรณ์ช่วยป้องกันไม่ให้เลนส์กล้อง mirrorless เป็นรอยที่ยิ่งใช้ยิ่งดี

เลนส์กล้องเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการถ่ายภาพ เปรียบเสมือนดวงตาที่ทำหน้าที่ในการมองหาสิ่งที่สนใจ หากสนใจที่จุดใดก็จะโฟกัสไปที่จุดนั้น การดูแลเลนส์กล้องให้ใสสะอาดอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้กล้องทุกคนเลือก เพราะหากเลนส์กล้องมัวหรือเป็นรอยก็จะทำให้ถ่ายรูปออกมามัวตามไปด้วย ซึ่งวิธีป้องกันเลนส์ กล้อง Mirrorless หรือ กล้องเซลฟี่ เป็นรอยนั้นก็ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่มีหนึ่งใน 5 อุปกรณ์นี้ก็ช่วยได้แล้ว

1.   ฝาครอบเลนส์ เป็นอุปกรณ์ที่มีมากับ กล้อง mirrorless อยู่แล้ว ใช้สำหรับปิดหน้าเลนส์เมื่อไม่ใช้งาน ช่วยป้องกันไม่ให้เลนส์เป็นรอยขณะพกพาหรือขณะที่เก็บใส่กระเป๋า

2.   ฟิลเตอร์ นิยมใส่เพื่อป้องกันแสงยูวีและละอองน้ำ ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และช่วยป้องกันหน้าเลนส์จากสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ฝุ่น แป้ง ควัน ฯลฯ

3.   เลนส์ฮูด เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันเลนส์กระแทกได้ดี เพราะโดยส่วนมากแล้วเรามักจะถ่ายรูปกันโดยใช้เลนส์เปล่า ๆ ทำให้มีโอกาสสูงที่เลนส์จะเหวี่ยงไปกระแทกกิ่งไม้หรือวัตถุอื่นจนเป็นรอย การใส่เลนส์ฮูดเอาไว้จึงช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี และที่สำคัญคือ ช่วยตัดแสงรบกวนภายนอกได้ ทั้งแสงอาทิตย์และแสงไฟต่าง ๆ ช่วยให้รูปสวยคมชัดไร้แสงรบกวน

4.   กระเป๋ากล้อง ช่วยป้องกันการกระแทกและการขีดข่วนได้ดี ช่วยดูแลได้ตั้งตัวกล้องและเลนส์ เนื่องจากเป็นกระเป๋าที่ออกแบบมาสำหรับใส่กล้องโดยเฉพาะ ตัวกระเป๋าช่วยป้องกันแรงกระแทกได้ ใส่ของได้หลายช่อง ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่มาขีดข่วนกล้อง

5.   สายคล้องกล้อง ช่วยป้องกันกล้องหล่นกระแทกได้ เช่น ในขณะที่ใช้กล้องถ่ายภาพก็ใช้สายกล้องคล้องไว้ที่แขนหรือข้อมือเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะถ่ายภาพแล้วกล้องหลุดมือ เช่น ลื่นล้ม ฯลฯ

การป้องกันเลนส์กล้องไม่ให้เป็นรอยเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ผู้ใช้งานทุกคนสามารถป้องกันได้ เพราะเลนส์กล้องเป็นหัวใจสำคัญของการถ่ายภาพและมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากเลนส์บางตัวมีราคาแพงยิ่งกว่าตัวกล้องเสียง นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราควรดูแลเลนส์ให้ดี ๆ หากใครไม่อยากให้เลนส์สุดหวงต้องเป็นรอยควรหาอุปกรณ์ป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เริ่มใช้งาน เพื่อให้เลนส์ของคุณมีสภาพที่ดีทั้งภายนอกและภายในอยู่เสมอ

การดูแลและป้องกันเลนส์ไม่ได้ทำได้แค่สำหรับ กล้อง mirrorless เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับกล้องที่มีเลนส์ทุกชนิด เพราะหากใช้งานโดยไม่ระวังปล่อยให้เป็นรอยหรือสกปรกแล้ว นอกจากจะทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยชัดแล้วยังทำให้เก่าเร็วและดูไม่สวยอีกด้วย

20
Fuji xt100 ประสบการณ์ใหม่ของการใช้กล้องถ่ายรูปที่ทำได้มากกว่าแค่ถ่ายรูป

ปัจจุบันนี้กล้องถ่ายรูป หรือ กล้องเซลฟี่ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนไปแล้ว เพราะเป็นยุคที่โซเชียลมีเดียต่าง ๆ เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็ว สามารถแชร์ข้อมูลข่าวสารได้แบบเรียลไทม์ กล้องถ่ายรูปจึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารเพื่อส่งต่อข้อมูลในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าเป็นเรื่องการท่องเที่ยว การตลาด อาหาร การค้า หรืออื่น ๆ การมีกล้องถ่ายรูปจึงไม่ใช่แค่การใช้ถ่ายรูปทั่วไปเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เพื่อสร้างรายได้ได้ด้วย และหนึ่งในกล้องถ่ายรูปรุ่นที่นิยมและตอบโจทย์คนสมัยใหม่เป็นอย่างดีก็คือ Fuji xt100 กล้อง Mirrorless มากความสามารถจาก FUJIFILM
Fuji xt100 เปิดตัวมาด้วย 3 ความสามารถสุดโดดเด่นที่เหมาะกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ในการใช้ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ Vlog และการเซลฟี่ ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน โดยปกติแล้วหากเราซื้อกล้องถ่ายรูปก็คงต้องการเพียงแค่กล้องที่ถ่ายรูปได้สวย ๆ เท่านั้น แต่สำหรับ X-T100 แล้วถือว่ามีประโยชน์มากกว่าที่คิด

•   การถ่ายรูป
o   4K Features เป็นโหมดการบันทึกภาพถ่ายจากถ่ายวีดีโอที่สามารถเก็บบันทึกภาพถ่ายขณะที่ถ่ายวีดีโอได้โดยที่ความชัดของภาพก็ยังคงความชัดเหมือนเดิม ส่วนภาพที่ดึงออกมาจะเป็นไฟล์รูปภาพพร้อมใช้งาน ไม่เหมือนกับการแคปหน้าจอแบบทั่วไป ทำให้เราได้ภาพสวย ๆ ทั้งไฟล์รูปภาพและไฟล์วีดีโอ

o   Film Simulation 11 ฟิลเตอร์ หรือฟิลเตอร์สี เป็นฟิลเตอร์ของ FUJIFILM ที่หลายคนชื่นชอบเพราะให้โทนสีที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ เลือกได้ถึง 11 ฟิลเตอร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพแนวคุมโทน ฟิลเตอร์ยอดนิยมคือ Vl (Velvia/VIVID) และ ASTIA/SOFT

•   การถ่ายวีดีโอ
o   ถ่าย 4K ได้นานต่อเนื่อง 29 นาที ด้วยเฟรมเรต 15 เฟรมต่อวินาที ให้ภาพที่สวยคมชัด
o   ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับสาย Vlog และผู้ที่ชอบถ่ายวีดีโอ นอกจากความคมชัดของภาพแล้วยังออกแบบหน้าจอมาให้พับได้ 3 ทิศทาง มีช่องเสียบไมโครโฟนด้านข้าง มีช่องมองภาพและมีแฟลชป๊อบอัพในตัว ทำให้ถ่ายวีดีโอออกมาได้แบบมือโปรด้วยฟังก์ชันที่อัดแน่น

•   การถ่ายเซลฟี่
o   หน้าจอออกแบบมาให้พับหมุนได้ 180 องศา และพับได้มากถึง 3 ทิศทาง ทำให้ถ่ายเซลฟี่สวยทั้งแนวตั้งและแนวนอน
o   มีโหมดภาพถ่ายบุคคลรองรับสำหรับสายเซลฟี่ ปรับความเนียนได้ 3 ระดับ ถ่ายออกมาแล้วได้ผิวหน้าที่เนียนใสกว่าโหมดทั่วไป
Fuji xt100 เป็นกล้องที่มีฟังก์ชันพร้อมใช้งานในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการส่งข้อมูลที่สามารถส่งได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ทาง WIFI, Bluetooth และ mini HDMI ที่ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่ ถ่ายรูป หรือถ่ายวีดีโอก็ส่งไฟล์ได้แบบเรียลไทม์พร้อมอัปโหลดได้ทันที ฟูจิฟิล์ม X-T100 จึงเป็นคำตอบของคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหา กล้อง mirrorless


21
อยาก เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี ?... ชี้เป้าบาหลี ชื่อนี้มีแต่ความมหัศจรรย์

ช่วงสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงกำลังมองหาที่เที่ยวคลายร้อนกันอยู่แน่ ๆ แต่ครั้นจะเดินทางไปไกล ๆ ก็รู้สึกว่าจะต้องหมดพลังไปกับการเดินทางและเสียเวลามากเกินไปเลยมองหาที่เที่ยวใกล้บ้านเราแทน หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะ เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี ... ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ‘บาหลี’ ให้ได้ไปสัมผัสกัน รับรองต้องตกหลุมรักกับความมหัศจรรย์แน่ ๆ
บาหลี เป็นเกาะหนึ่งของหมู่เกาะในประเทศอินโดนีเซีย การเดินทางไม่ยาก เราสามารถมองหาสายการบินในไทยแบบราคาประหยัดบินตรงไปลงบนเกาะบาหลีได้เลย ใช้เวลาในการเดินทางราว 4 ชั่วโมงเศษเท่านั้น เมื่อถึงสนามบินเดนปาซาร์ คราวนี้ก็เริ่มต้นพบกับความมหัศจรรย์แห่งการเดินทางของทุก ๆ คนกันได้เลย

ความมหัศจรรย์แรกที่อยากแนะนำคือการไปบนเกาะ Nusa Penida Island แล้วไปสัมผัสกับจุดที่เรียกว่า Kelingking Hill ไปยืนสัมผัสความงดงามของเกาะที่มีลักษณะคล้ายกับมังกรนอนทอดตัวยาวอยู่กลางทะเล แต่จุดนี้มีความอันตรายเหมือนกัน ควรระวังตกด้วย ไม่อย่างนั้นอาจเจ็บตัวและหมดสนุกเอาได้ แนะนำว่าก่อนไปให้ซื้อ ประกันการเดินทาง ติดตัวไว้ก่อน ชัวร์ที่สุด
ยังคงอยู่กันบนเกาะ Nusa Penida Island คราวนี้มายังพื้นที่ Angel’s Billabong ลักษณะเป็นเหมือนทะเลสาบเล็ก ๆ ระหว่างภูเขาไฟ หากมาตอนน้ำทะเลลง น้ำจะเงียบสงบ ดูสวยงามสุด ๆ แต่ถ้าเป็นช่วงน้ำขึ้น น้ำจะซัดแรง อันตรายไม่น้อยเหมือนกัน เดินมาจากจุดเมื่อสักครู่อีกนิดก็ยังคงพบความมหัศจรรย์ของบาหลีแบบไม่ขาดสาย นั่นคือ Broken Beach เป็นพื้นที่โดนน้ำทะเลเซาะจนกลายเป็นโพรงขนาดย่อมสวยงามมากเช่นเกัน

จากความมหัศจรรย์ของเกาะ Nusa Penida Island ที่ไม่เหมือนใครในโลกแล้วมาต่อกันที่ วัด Pura Luhur Lempuyang แนะนำนิดว่าก่อนขึ้นไปต้องนุ่งโสร่งที่มีให้เช่าก่อนให้เรียบร้อย โดยทางขึ้นนั้นเรียกว่า The Gateway to Heaven หรือแปลเป็นไทยก็ทำนอง “ประตูสู่สวรรค์” นั่นเอง ความมหัศจรรย์ของวัดนี้คือเมื่อขึ้นไปแล้วถ่ายรูปจะมองเห็นภูเขาไฟเป็นแบ็กกราวนด์สวยงามสุด ๆ
ปิดท้ายความมหัศจรรย์กับ วัด Tanah Lot วัดริมทะเลที่งดงามมาก ๆ เวลาคลื่นซัดกระแทกเข้ามา ช่วงน้ำขึ้นให้ความรู้สึกเหมือนวัดตั้งอยู่ในทะเลกันเลยทีเดียว

แม้คำตอบของ เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี คือบาหลี แต่ด้วยความที่มีสภาพเป็นเกาะ บวกกับยังคงมีภูเขาไฟพร้อมปะทุตลอดเวลา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหลายคนต้องประสบพบเจอกับปัญหาระหว่างเดินทางอยู่บ่อย ๆ คือ ไฟลท์บินดีเลย์จากพายุฝนฟ้าคะนองหรือภูเขาไฟปะทุ เพื่อความสบายใจแนะนำให้ซื้อ ประกันการเดินทาง ไว้ก่อน ซึ่งหากต้องการซื้อประกันแบบมีแผนเสริมคุ้มครองไฟลท์ดีเลย์ด้วยก็ควรเลือกเป็นประกันเดินทางรายเที่ยว หรือ ประกันการเดินทางรายปี จากซิกน่า ที่ให้ความคุ้มครองในการเดินทางอย่างคุ้มค่า ต่อให้เจอปัญหาก็ชิลล์ได้

22
5 อุปกรณ์สุดฮิตสำหรับกล้อง mirrorless ที่ควรมีติดกระเป๋าไว้

หลายต่อหลายคนอาจเคยสงสัยว่าทำไมช่างภาพต้องพกกระเป๋าหลายต่อหลายใบและมีอุปกรณ์เต็มกระเป๋ากล้องไปหมด ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า การถ่ายภาพไม่ใช่เพียงแค่การกดถ่ายเพียงอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงการใช้อุปกรณ์เสริม ใช้เทคนิคต่าง ๆ และมีการดูแลรักษากล้องและอุปกรณ์ไปพร้อม ๆ กันด้วย ช่างภาพจึงต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพแล้วก็จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ กล้องเซลฟี่ หรือ กล้อง Mirrorless ติดกระเป๋าไว้ใช้งานด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงเลือกอุปกรณ์ที่สำคัญ 5 ชนิดที่ควรมีติดกระเป๋ากล้องไว้มาบอกกันว่ามีอะไรบ้าง

1.   อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ผ้าเช็ดกล้อง กระดาษเช็ดเลนส์ ลูกยางเป่าลม ฯลฯ เพื่อใช้ทำความสะอาดกล้องและเลนส์ขณะใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนเลนส์ กล้อง mirrorless ควรใช้ลูกยางเป่าลมเป่าไล่เอาฝุ่นออกให้หมดก่อนจึงค่อยทำการเปลี่ยนเลนส์เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าในขณะที่ใส่เลนส์ใหม่ ช่วยให้หน้าเลนส์ใส ถ่ายรูปออกมาสวย
2.   ฝาครอบเลนส์ ใช้สำหรับครอบปิดหน้าเลนส์เมื่อไม่ใช้งาน เป็นอุปกรณ์ที่เรามักจะหลงลืมและทำหายกันอยู่บ่อย ๆ เพราะเมื่อถอดออกแล้วมักจะลืมว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหน เมื่อหาไม่เจอจึงไม่ใช้ ส่งผลให้หน้าเลนส์เป็นรอย หลังจากที่เปิดใช้งานแล้วควรเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากล้องทุกครั้ง เมื่อถ่ายเสร็จแล้วจะได้นำมาครอบเลนส์ก่อนเก็บเข้ากระเป๋าได้
3.   ฟิลเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการขีดข่วนจากหน้าเลนส์ ช่วยให้หน้าเลนส์จริงไม่เป็นรอย ช่วยกันน้ำ ละอองน้ำ หรือฝุ่นได้ เป็นอุปกรณ์ที่แนะนำให้ใช้ เพราะหากเลือกฟิลเตอร์ที่มีคุณภาพดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้มากขึ้น ไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบังหน้าเลนส์และรู้สึกมีความปลอดภัยในการใช้งาน
4.   เมมโมรี่การ์ด สำหรับกล้องถ่ายรูปควรเลือกใช้เมมโมรี่การ์ดที่มีคุณภาพสูงเพื่อรองรับการทำงานของกล้องถ่ายรูปและการจัดเก็บไฟล์ภาพอย่างสมบูรณ์ การมีเมมโมรี่การ์ดติดกระเป๋าไว้จะช่วยให้เก็บภาพได้มากขึ้นโดยการเปลี่ยนเมมโมรี่การ์ดที่เต็มแล้วออกแล้วใส่เมมใหม่เข้าไปเพื่อถ่ายใหม่ และเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในกรณีที่เมมเก่าเกิดปัญหา
5.   แบตเตอรี่ กล้อง mirrorless บางรุ่นออกแบบมาให้ชาร์จแบตผ่าน Power Bank ได้ แต่สำหรับการใช้งานจริงแล้วการมีแบตเตอรี่ไว้คอยเปลี่ยนช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากกว่า

และที่กล่าวมาด้านบนนี้ คือ 5 อุปกรณ์ที่ทางเราแนะนำให้ควรมีติดกระเป๋ากล้องไว้ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและช่วยถนอมกล้องถ่ายรูปไปในตัว หากใครที่กำลังใช้กล้องมิลเลอร์เลสแล้วยังไม่รู้ว่าต้องพกอะไรติดกระเป๋าบ้าง 5 ตัวเลือกนี้ก็จะช่วยให้คุณถ่ายรูปได้สะดวกสบายมากขึ้นแบบไม่ขาดตอนเลย

23
กล้อง mirrorless อุปกรณ์แทนไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคปัจจุบันนี้รูปถ่ายเป็นสื่อกลางที่นิยมใช้ในการสื่อสารมากขึ้น ซึ่งจากเดิมเรามักจะนิยมใช้ตัวหนังสือในการสื่อสารโดยการแชร์สถานะเพื่อบ่งบอกความรู้สึกต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันนี้รูปภาพได้ถูกนำมาใช้ในการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกกันมากขึ้นผ่านทางช่องทางออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย เพราะรูปภาพสามารถบ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกได้ คนสมัยนี้จึงนิยมถ่ายภาพแล้วนำมาแชร์กันมากขึ้นโดยใช้ กล้องเซลฟี่ หรือ กล้อง Mirrorless เป็นตัวแทนในการถ่ายทอดความรู้สึกออกมานั่นเอง

กล้อง mirrorless เป็นกล้องระดับ Semi - pro ที่มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบาทำให้พกพาได้สะดวก การพกกล้องถ่ายรูปติดตัวในสมัยนี้จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและไม่ได้ดูแปลกอะไรเลย เพราะแค่ออกจากบ้านไปทานอาหาร ไปเที่ยว หรือไป  ช้อปปิ้งก็พกกล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วยได้ เพื่อใช้สำหรับเก็บภาพถ่ายสวย ๆ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่พบเจอในแต่ละวันเพื่อทำไดอารี่ภาพถ่ายที่กำลังเป็นที่นิยมในสมัยนี้ เป็นการเก็บบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบเจอในแต่ละวันผ่านภาพถ่ายแทนการเขียน

และนอกจากนี้ยังนิยมพกกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายวีดีโอไว้ตัดต่อเป็นคลิปหรือการทำ Vlog เพื่อนำไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในการถ่าย Vlog หรือการทำคลิปนั้นก็กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้ได้ การนำเสนอคลิปที่ดีและน่าสนใจทำให้มีคนรู้จักมากขึ้นและมีโอกาสที่จะมีชื่อเสียงหรือได้รับการติดต่อในการทำงานต่าง ๆ เช่น Youtuber รีวิวสินค้า โฆษณาสินค้า โปรโมทร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย   

ทั้งการถ่ายรูปและการถ่ายวีดีโอในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และสร้างรายได้ได้ การพกกล้องติดตัวจึงไม่ใช่แค่เทรนด์หรือกระแสนิยมเท่านั้นแต่เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่เราจะเห็นคนข้าง ๆ นั่งถ่ายคลิปหรือถ่ายรูปอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า ร้านอาหาร หรือในสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ เพราะเป็นสิ่งที่ใครก็สามารถทำได้ เป็นการแสดงความสามารถส่วนบุคคลเริ่มทำได้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลย

และสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการทำคลิปหรือการทำเพจถ่ายภาพสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะเพียงแค่คุณมี กล้อง mirrorless เพียงตัวเดียวก็สามารถถ่ายทอดความเป็นตัวเองได้แล้ว หากชอบทำเพจถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยว รีวิวโรงแรม หรือร้านอาหาร ก็สามารถใช้ กล้องmirrorless ถ่ายได้เลย ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วเจอสถานที่สวย ๆ และอยากจะแชร์ต่อให้เพื่อน ๆ ได้ทราบก็สามารถเล่าผ่านภาพถ่ายได้เลย หรือจะเป็นการนำเสนอโดยการทำคลิปก็ได้เพราะกล้องมิลเลอร์เลสจะมีช่องเสียบไมโครโฟนไว้ด้านข้าง จะช่วยให้คลิปของคุณออกมาคุณภาพดีทั้งภาพและเสียง

24
กล้อง mirrorless ตัวแทนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ถ่ายทอดได้อย่างลงตัว

ปัจจุบันนี้รูปถ่ายเป็นสื่อกลางที่นิยมใช้ในการสื่อสารมากขึ้น จากเดิมเราจะนิยมใช้ตัวหนังสือในการสื่อสารโดยการแชร์สถานะเพื่อบ่งบอกความรู้สึกต่าง ๆ แต่ปัจจุบันนี้รูปภาพได้ถูกนำมาใช้ในการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกกันมากขึ้นผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพราะรูปภาพสามารถบ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกได้ คนสมัยนี้จึงนิยมถ่ายภาพแล้วนำมาแชร์กันมากขึ้นโดยใช้ กล้องเซลฟี่ หรือ กล้อง Mirrorless เป็นตัวแทนในการถ่ายทอดความรู้สึกนั่นเอง

กล้อง mirrorless เป็นกล้องระดับ Semi - pro ที่มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบาทำให้พกพาได้สะดวก การพกกล้องถ่ายรูปติดตัวในสมัยนี้จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและไม่ได้ดูแปลกอะไรเลย เพราะแค่ออกจากบ้านไปทานอาหาร ไปเที่ยว หรือไป  ช้อปปิ้งก็พกกล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วยได้ เพื่อใช้สำหรับเก็บภาพถ่ายสวย ๆ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่พบเจอในแต่ละวันเพื่อทำไดอารี่ภาพถ่ายที่กำลังเป็นที่นิยมในสมัยนี้ เป็นการเก็บบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบเจอในแต่ละวันผ่านภาพถ่ายแทนการเขียน

นอกจากนี้ยังนิยมพกกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายวีดีโอไว้ตัดต่อเป็นคลิปหรือการทำ Vlog เพื่อนำไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในการถ่าย Vlog หรือการทำคลิปนั้นก็กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้ได้ การนำเสนอคลิปที่ดีและน่าสนใจทำให้มีคนรู้จักมากขึ้นและมีโอกาสที่จะมีชื่อเสียงหรือได้รับการติดต่อในการทำงานต่าง ๆ เช่น Youtuber รีวิวสินค้า โฆษณาสินค้า โปรโมทร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย   

ทั้งการถ่ายรูปและการถ่ายวีดีโอในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และสร้างรายได้ได้ การพกกล้องติดตัวจึงไม่ใช่แค่เทรนด์หรือกระแสนิยมเท่านั้นแต่เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่เราจะเห็นคนข้าง ๆ นั่งถ่ายคลิปหรือถ่ายรูปอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า ร้านอาหาร หรือในสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ เพราะเป็นสิ่งที่ใครก็สามารถทำได้ เป็นการแสดงความสามารถส่วนบุคคลเริ่มทำได้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลย

สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการทำคลิปหรือการทำเพจถ่ายภาพสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ เพราะเพียงแค่มี กล้อง mirrorless ตัวเดียวก็สามารถถ่ายทอดความเป็นตัวเองได้แล้ว หากชอบทำเพจถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยว รีวิวโรงแรม หรือร้านอาหาร ก็สามารถใช้กล้องมิลเลอร์เลสถ่ายได้เลย ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วเจอสถานที่สวย ๆ และอยากจะแชร์ต่อให้เพื่อน ๆ ได้ทราบก็สามารถเล่าผ่านภาพถ่ายได้เลย หรือจะเป็นการนำเสนอโดยการทำคลิปก็ได้เพราะกล้องมิลเลอร์เลสจะมีช่องเสียบไมโครโฟนไว้ด้านข้าง ช่วยให้คลิปของคุณออกมาคุณภาพดีทั้งภาพและเสียง

25
5 อุปกรณ์ติดกระเป๋าสำหรับกล้อง mirrorless ที่ควรมีติดตัวไว้

เคยสงสัยไหมว่าทำไมช่างภาพต้องพกกระเป๋าหลายใบและมีอุปกรณ์เต็มกระเป๋ากล้องไปหมด ซึ่งที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าการถ่ายภาพไม่ใช่แค่การกดถ่ายเพียงอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงการใช้อุปกรณ์เสริม ใช้เทคนิคต่าง ๆ และมีการดูแลรักษาไปพร้อม ๆ กันด้วย ช่างภาพจึงต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพแล้วก็จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ กล้องเซลฟี่ หรือ กล้อง Mirrorless ติดกระเป๋าไว้ใช้งานด้วยเช่นกัน วันนี้จึงเลือกอุปกรณ์ที่สำคัญ 5 ชนิดที่ควรมีติดกระเป๋ากล้องไว้มาบอกกันว่ามีอะไรบ้าง

1.   อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ผ้าเช็ดกล้อง กระดาษเช็ดเลนส์ ลูกยางเป่าลม ฯลฯ เพื่อใช้ทำความสะอาดกล้องและเลนส์ขณะใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนเลนส์ กล้อง mirrorless ควรใช้ลูกยางเป่าลมเป่าไล่เอาฝุ่นออกให้หมดก่อนจึงค่อยทำการเปลี่ยนเลนส์เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าในขณะที่ใส่เลนส์ใหม่ ช่วยให้หน้าเลนส์ใส ถ่ายรูปออกมาสวย
2.   ฝาครอบเลนส์ ใช้สำหรับครอบปิดหน้าเลนส์เมื่อไม่ใช้งาน เป็นอุปกรณ์ที่เรามักจะหลงลืมและทำหายกันอยู่บ่อย ๆ เพราะเมื่อถอดออกแล้วมักจะลืมว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหน เมื่อหาไม่เจอจึงไม่ใช้ ส่งผลให้หน้าเลนส์เป็นรอย หลังจากที่เปิดใช้งานแล้วควรเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากล้องทุกครั้ง เมื่อถ่ายเสร็จแล้วจะได้นำมาครอบเลนส์ก่อนเก็บเข้ากระเป๋าได้
3.   ฟิลเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการขีดข่วนจากหน้าเลนส์ ช่วยให้หน้าเลนส์จริงไม่เป็นรอย ช่วยกันน้ำ ละอองน้ำ หรือฝุ่นได้ เป็นอุปกรณ์ที่แนะนำให้ใช้ เพราะหากเลือกฟิลเตอร์ที่มีคุณภาพดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้มากขึ้น ไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบังหน้าเลนส์และรู้สึกมีความปลอดภัยในการใช้งาน
4.   เมมโมรี่การ์ด สำหรับกล้องถ่ายรูปควรเลือกใช้เมมโมรี่การ์ดที่มีคุณภาพสูงเพื่อรองรับการทำงานของกล้องถ่ายรูปและการจัดเก็บไฟล์ภาพอย่างสมบูรณ์ การมีเมมโมรี่การ์ดติดกระเป๋าไว้จะช่วยให้เก็บภาพได้มากขึ้นโดยการเปลี่ยนเมมโมรี่การ์ดที่เต็มแล้วออกแล้วใส่เมมใหม่เข้าไปเพื่อถ่ายใหม่ และเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในกรณีที่เมมเก่าเกิดปัญหา
5.   แบตเตอรี่ กล้อง mirrorless บางรุ่นออกแบบมาให้ชาร์จแบตผ่าน Power Bank ได้ แต่สำหรับการใช้งานจริงแล้วการมีแบตเตอรี่ไว้คอยเปลี่ยนช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากกว่า

และนี่คือ 5 อุปกรณ์ที่แนะนำให้มีติดกระเป๋ากล้องไว้ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและช่วยถนอมกล้องถ่ายรูปไปในตัว หากใครที่กำลังใช้กล้องมิลเลอร์เลสแล้วยังไม่รู้ว่าต้องพกอะไรติดกระเป๋าบ้าง 5 ตัวเลือกนี้ก็จะช่วยให้คุณถ่ายรูปได้สะดวกสบายมากขึ้นแบบไม่ขาดตอนเลย

26
5 วิธีใช้กล้อง mirrorless ให้ใช้งานได้นานและไม่ตกกระแส

กล้องถ่ายรูปเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน หากใช้งานด้วยความระมัดระวังและมีการดูแลรักษาที่ดีก็จะช่วยให้ใช้งานได้หลายปี สำหรับใครที่มี กล้องเซลฟี่ หรือ กล้อง Mirrorless แล้วอยากให้กล้องของตัวเองให้ใช้งานได้นานวันนี้เรามี 5 วิธีการถนอมกล้องมาฝากกัน

1.   เก็บเข้ากระเป๋ากล้องหลังใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันกล้องหล่นกระแทกหรือได้รับการขีดข่วนจากวัตถุอื่น เพราะถ้าวางกล้องไว้ด้านนอกโดยไม่ใช้งานจะเสี่ยงต่อการชนกล้องหล่นกระแทกพื้นหรือทำน้ำหกใส่ ทางที่ดีใช้เสร็จแล้วเก็บเข้าที่เลยจะดีกว่า
2.   หลีกเลี่ยงน้ำ ละอองน้ำ และความชื้น กล้องเป็นอุปกรณ์ไอทีจึงไม่ควรเก็บไว้ใกล้น้ำ ละอองน้ำ หรือที่ที่มีความชื้นสูงเพราะอาจทำให้น้ำระเหยเข้าจนเกิดความเสียหายได้ หากต้องการถ่ายใกล้น้ำควรใช้อุปกรณ์ป้องกันบังไว้ไม่ให้ละอองน้ำเข้าเลนส์
3.   ใช้สายคล้องกล้องและกริปเมื่อใช้งาน สายคล้องกล้องและกริปเป็นอุปกรณ์เสริมที่แนะนำให้ใช้เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันกล้องหลุดมือได้ โดยสายคล้องกล้องจะช่วยป้องกันกล้องหลุดมือขณะถ่าย และกริปจะช่วยให้จับถนัดมือมากขึ้น ไม่หลุดมือง่าย
4.   ระมัดระวังไม่ให้หล่นหรือกระแทก แม้จะใช้อุปกรณ์เสริมแล้วแต่ก็ควรใช้งานด้วยความระวังไม่ให้กล้องหล่นหรือกระแทกทั้งในขณะที่ใช้งานและในขณะที่พกพา
5.   หมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ ควรเช็ดทำความสะอาดกล้องและเช็ดฝุ่นอยู่เสมอ เพราะหากปล่อยให้ฝุ่นจับมากเกินไปอาจทำให้ฝุ่นเข้าไปในเลนส์กล้องจนเกิดความเสียหายได้ หลังใช้งานแล้วควรใช้ผ้าเช็ดกล้องเช็ดให้สะอาดและใช้กระดาษเช็ดเลนส์ทำความสะอาดที่หน้าเลนส์เพื่อให้ถ่ายรูปออกมาชัดเจนไม่มีอะไรเข้ามาบังหน้าเลนส์ ส่วนข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้มือที่เปียกเหงื่อมาจับกล้องเพราะจะทำให้กล้องเกิดความชื้น

และนี่คือ 5 วิธีใช้งาน กล้อง mirrorless แบบง่าย ๆ ที่จะช่วยถนอมกล้องมิลเลอร์เลสของคุณให้ใช้งานได้นานและมีสภาพที่เหมือนใหม่อยู่เสมอ หยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็สัมผัสได้ถึงความใหม่และประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งาน อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการขายต่อที่จะช่วยให้ได้ราคาดีกว่ากล้องที่มีรอยขีดข่วนหรือผ่านการซ่อมมาแล้ว

กล้อง mirrorless เป็นกล้อง Semi-pro ที่ทำงานได้เทียบเท่ากล้อง DSLR ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่และการพกพา หากใครที่ต้องการกล้องสำหรับใช้ถ่ายรูปทั่วไป ถ่ายวีดีโอ หรือเซลฟี่ กล้องมิลเลอร์เลสก็ถือว่าเหมาะสำหรับการใช้งานและมีราคาไม่แพง

27
9 วิธีใช้กล้อง mirrorless ที่ช่างภาพมือใหม่ควรรู้

เมื่อพูดถึงกล้องถ่ายรูปหรือ กล้องเซลฟี่ แล้วคนส่วนใหญ่มักจะหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายสวย ๆ จนทำให้พลาดเรื่องที่ควรรู้อย่างวิธีการใช้ กล้อง mirrorless ไป ทำให้ใช้งานกันไม่ถูกวิธีและใช้ไปได้ไม่นานกล้องก็เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้น หากไม่อยากให้กล้องของคุณต้องพังลงก่อนถึงเวลาเรามาเช็คกันหน่อยดีกว่าว่าวิธีการใช้กล้องทั้ง 9 ข้อนั้นมีอะไรบ้าง

1.   ปิดเครื่องทุกครั้งก่อนเปลี่ยนอุปกรณ์ เช่น การเปลี่ยนการ์ด เปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือการเปลี่ยนเลนส์ เพื่อไม่รบกวนการทำงานของระบบต่าง ๆ ของ กล้อง mirrorless เป็นวิธีที่ช่วยถนอมกล้องให้ใช้งานได้นาน
2.   ควรศึกษาวิธีใช้กล้องก่อนใช้งาน หากใช้โหมดไหนไม่เป็นควรศึกษาเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตหรือผู้รู้เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง ไม่ควรตั้งค่ามั่ว ๆ เพราะจะทำให้แสงและสีเปลี่ยนไป ที่สำคัญคือ จะทำให้กลับไปตั้งค่าเดิมไม่ถูก
3.   หลีกเลี่ยงกล้องจากน้ำ แสงแดด และเม็ดทราย บ่อยครั้งที่เราอยากได้ภาพสวย ๆ เวลาไปเที่ยวทะเลจนลืมไปว่าแสงอาทิตย์ น้ำทะเล และเม็ดทรายนั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับกล้องสักเท่าไหร่ ในการใช้งานควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่เข้าใกล้น้ำทะเลมากเกินไปและไม่ควรใช้มือที่เปื้อนทรายมาจับกล้องเพราะอาจทำให้ทรายเข้าไปในเลนส์และตัวกล้องได้ อีกทั้งการใช้ถ่ายแสงอาทิตย์แรง ๆ ก็ไม่ควรถ่ายนานเกินไปด้วย
4.   ควรระวังไม่ให้ผุ่นจับ เนื่องจากฝุ่นเป็นอนุภาคขนาดเล็กจึงสามารถเข้าไปเกาะตามกล้อง หน้าเลนส์ และตัวกล้องได้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนเปลี่ยนเลนส์ ไม่ควรเปลี่ยนกลางแจ้งที่มีลมแรงเพราะจะทำให้ฝุ่นเข้าไปในเลนส์ได้
5.   อยู่ให้ห่างจากละอองน้ำ หากเห็นละอองน้ำสวย ๆ แล้วอยากถ่ายออกมาให้มีละอองน้ำติด ควรอยู่เหนือลมและอยู่ให้ห่างจากละอองน้ำเพราะอาจทำให้ละอองน้ำติดเลนส์และเข้ากล้องได้
6.   ทำความสะอาดมือทุกครั้งก่อนใช้กล้อง ไม่ควรใช้มือที่เปียกเหงื่อ เปียกน้ำ หรือเปื้อนมาจับกล้อง เพราะอาจทำให้กล้องเกิดความชื้นและเป็นรอยได้
7.   ห้ามหล่น ห้ามกระแทก เป็นสิ่งที่ควรระวังในการใช้กล้องมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะหากกล้องหล่นกระแทกพื้นแรง ๆ  อาจทำให้หน้าเลนส์แตกหรือเป็นรอยได้ ทั้งนี้ยังรวมถึงหน้าจอ LCD และส่วนประกอบอื่น ๆ ของกล้องที่อาจเสียหายได้ด้วย
8.   ใส่ฟิลเตอร์และฮู้ดเพื่อช่วยป้องกันหน้าเลนส์ การใส่ฟิลเตอร์และฮู้ดจะช่วยป้องกันหน้าเลนส์ไม่ให้เป็นรอย ช่วยป้องกันฝุ่นและละอองน้ำได้
9.   เก็บใส่กระเป๋ากล้องเมื่อไม่ใช้งาน หากเลิกใช้งานแล้วไม่ควรวางทิ้งไว้เพราะจะทำให้ฝุ่นเข้าได้ ควรเก็บเข้ากระเป๋ากล้องจะดีที่สุด เพราะช่วยกันฝุ่นและกันการกระแทกหรือการตกหล่นได้

กล้องถ่ายรูปมีราคาค่อนข้างสูง หากดูแลรักษาดีก็จะใช้งานได้นาน เป็นเทคนิคการใช้ กล้อง mirrorless แบบง่าย ๆ ที่ช่างภาพมือใหม่ควรรู้เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้องและการป้องกันที่ถูกวิธี

28
แบกเป้ไปเที่ยวอียิปต์คนเดียว เลือกทำ ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี

หากใครเป็นนักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คและชื่นชอบการท่องเที่ยวตามสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในต่างประเทศ เชื่อสิว่า ‘อียิปต์’ ต้องเป็นหนึ่งประเทศในฝันที่หลายคนนึกอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง เพราะนอกจากจะได้สัมผัสไอแดด สายลม และทะเลทรายของดินแดนฟ้าจรดทรายแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกหลายแห่งที่จะพาคุณสัมผัสกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมโบราณอย่างเต็มเปี่ยมตลอดเส้นทางลุ่มแม่น้ำไนล์ ราวกลับว่าย้อนกลับไปเดินเล่นในสมัยไอยคุปต์กันเลยทีเดียว

สำหรับสถานที่สำคัญที่เมื่อไปถึงอียิปต์แล้วไม่ไปไม่ได้ก็คือ มหาพีระมิดกีซ่า (Giza Plateau) สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ มหาพีระมิดที่ได้ชื่อว่าเป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอายุเก่าแก่กว่า 4,500 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ฝังพระศพกษัตริย์คีออปส์ (CHEOPS) หรือ คูฟู ประกอบไปด้วย 3 พีระมิด ได้แก่ พีระมิดคูฟู (Khufu) พีระมิดคาเฟร (Khafre) และพีระมิดเมนคูเร (Menkaure) และถ้าหากไปถึงมหาพีระมิดกีซ่าแล้ว สิ่งที่ต้องแวะไปเห็นด้วยตาและถ่ายรูปกลับมาเป็นที่ระลึกให้ได้คือ มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) หรือ สฟิงซ์ หนึ่งในตำนานสำคัญของอียิปต์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีตัวเป็นสิงโตแต่มีศีรษะเป็นมนุษย์ เชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเฝ้าดูแลสมบัติภายในพีระมิดและคอยเฝ้าดูแลพระศพขององค์กษัตริย์

ส่วนอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปสัมผัสความยิ่งใหญ่รองลงมาคือ มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel Temples) มหาวิหารหินสุดอลังการที่เกิดจากการเจาะสกัดภูเขา 2 ลูก สร้างขึ้นราวๆ 1,224 ปีก่อนคริสตศักราช เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของอียิปต์ในสมรภูมิแห่งคาเดส จุดเด่นที่ทำให้หลายคนแห่กันไปชื่นชมความยิ่งใหญ่คือ รูปแกะสลักฟาโรห์รามเสสที่สูงถึง 20 เมตรจำนวน 4 องค์ที่นั่งประทับอยู่บนบัลลังก์หน้าวิหารจนใครที่ได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองก็ต้องทึ่งในความสามารถของคนยุคโบราณ

อย่างไรก็ตามการเลือกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอียิปต์นั้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะเรื่องอุบัติเหตุ เนื่องจากการเดินทางผ่านทะเลทรายนิยมใช้การขี่อูฐหรือขับรถผจญภัย ดังนั้นสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ก่อนการเดินทางคือการ ซื้อประกันการเดินทาง โดยหาข้อมูลก่อนว่า ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ซึ่งประกันภัยการเดินทางที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพค คือ ประกันภัยการเดินทางแผนรายเที่ยวของ ซิกน่า ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุและเจ็บป่วยในทุกกรณีโดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงยังครอบคลุมบริการย้ายโรงพยาบาลและย้ายกลับมารักษาตัวในประเทศอีกด้วย สำคัญคือค่าใช้จ่ายไม่แพง เนื่องจากคิดเป็นรายเที่ยวจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นแผนประกันทุกแผนยังสามารถนำไปใช้ยื่นขอวีซ่ากับสถานทูตได้เลย การันตีว่าขอวีซ่าผ่านแน่นอน เรียกว่าเป็นประกันภัยที่คุ้มสุดคุ้มจนไม่ต้องถามซ้ำว่าต้องทำ ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี

29
ตัดสินใจให้ดีก่อน ยกเลิกประกัน Cigna สุดท้ายอาจได้ไม่คุ้มเสีย

โดยส่วนใหญ่แล้วการมีประกันมากกว่าหนึ่งกรมธรรม์นั้นถือเป็นเรื่องปกติของคนในยุคปัจจุบัน สาเหตุหลักๆ คือ แต่ละกรมธรรม์นั้นให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน หากเป็น ประกันอุบัติเหตุ ก็จะคุ้มครองกรณีประสบอุบัติเหตุเท่านั้น ในขณะที่ประกันโรคร้ายแรงจะคุ้มครองเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขของแผนประกันที่เลือกทำ ได้แก่ โรคมะเร็ง  โรคไตวาย โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะโคม่าต่างๆ  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนมองว่าไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากประกันทั้งสองแบบมากนัก บางคนแทบไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยสักครั้งตั้งแต่ทำประกัน ส่วน ประกันโรคร้ายแรง ยิ่งแล้วใหญ่เพราะหลายคนมักหลอกตัวเองว่าไม่มีโอกาสเป็นโรคร้ายแรง จึงทำให้มองว่าได้แต่จ่ายค่าเบี้ยประกันไปเปล่า ๆ ในแต่ละเดือน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนนึกอยากยกเลิกประกันอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลง แต่ในความจริงการยกเลิกประกันอาจทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะลูกค้า Cigna ประกันภัย

สำหรับการ ยกเลิกประกัน Cigna หากตัดสินใจยกเลิก ประกันอุบัติเหตุ ผลเสียที่เกิดขึ้น คือ ต้องสำรองเงินจ่ายเองทุกครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวเมื่อประสบอุบัติเหตุ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงจนไม่สามารถจัดการได้ โดยเฉพาะในกรณีมีภาวะโคม่าหรือจำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ แต่ถ้ามีประกันอุบัติเหตุก็จะช่วยตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้เลย เนื่องจากสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ  ตัวอย่างเช่น ประกันอุบัติเหตุ "คุ้มครองทันใจ" ที่ชดเชยค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 50,000 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง นอกจากนั้นประกันอุบัติเหตุบางแผนยังมีการชดเชยรายได้ให้ด้วย เช่น Cigna ประกันภัย ประกันอุบัติเหตุ รักครอบครัว ที่ชดเชยรายได้สูงสุด 1,000 บาท ต่อครั้ง เมื่อเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วยอุบัติเหตุและยังมีการชดเชยรายได้ครอบครัวต่อเดือนสูงสุดอีก 40,000 บาท รวม 12 เดือน
แต่หากตัดสินใจยกเลิก ประกันโรคร้ายแรง เมื่อเกิดโรคร้ายขึ้นสิ่งที่ตามมา คือ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแน่นอนว่าต้องมีการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานทำให้มีค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก แต่การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้มีเงินสำรองเพียงพอในการรักษาตัว เช่น ประกันโรคร้าย "มะเร็งไม่เคลมคืนเร็ว" ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 2,400,000 บาท เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง นอกจากนั้นยังได้เงินชดเชยรายได้ครอบครัวสูงสุดอีกเดือนละ 40,000 บาท นานถึง 12 เดือน และค่ารักษาพยาบาลพิเศษเพิ่มเติมสูงสุด 100,000 บาท กรณีมะเร็งระยะลุกลาม

จะเห็นได้ว่าการ ยกเลิกประกัน Cigna ไม่ว่าจะเป็นประกันแบบไหนก็ได้ไม่คุ้มเสียทั้งนั้น เพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นการมีประกันทั้ง 2 แบบ จะช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่าเพราะไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือโรคร้ายมีโอกาสเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกเวลา

30
วอดก้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยม

ถ้าคุณนึกถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะนึกถึงเครื่องดื่มรูปแบบใดลักษณะใดกันแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คงจะต้องมี วอดก้า เพื่อที่จะทำให้การปาร์ตี้สังสรรค์การพูดคุยเพื่อพักผ่อนหย่อนใจต่างๆนั้นจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานสำหรับตัวเครื่องดื่มลักษณะนี้เป็นอย่างมากเพราะว่าเครื่องดื่มในรูปแบบนี้สามารถที่จะมีการพัฒนามาเป็นส่วนผสมเป็นเครื่องดื่ม สูตรค็อกเทล ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นได้อีกโดยสามารถมีเมนูที่หลากหลายยิ่งขึ้นถ้านำมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกับค็อกเทลได้บอกได้เลยว่าถ้าคุณได้นำมาเป็นส่วนประกอบในส่วนนี้จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆและสามารถสร้างความประทับใจสำหรับผู้ที่ได้ดื่มเครื่องดื่มนี้ด้วย  
 
อย่างนี้แล้วถ้าพูดถึงเหล้าวอดก้าก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่มีลักษณะสีใสบริสุทธิ์ที่มีการแต่งกลิ่นอ่อนๆสามารถที่จะเชิญชวนในการลิ้มลองสัมผัสบอกได้เลยว่าถ้าคุณได้ลองสัมผัสการรับรสนั้นจะต้องมีความชื่นชอบในส่วนนี้ซึ่งเป็นเหล้าที่ไม่ว่าใครต่อใครนั้นก็มีความนิยมในการใช้งานในการใช้เป็นเครื่องดื่มที่สะดวกต่อการอยู่ในสถานที่ต่างๆสำหรับการปาร์ตี้เป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ร้านอาหารก็สามารถที่จะนำมาเป็นเครื่องดื่มในส่วนนี้กันได้โดยรูปแบบของเครื่องดื่มวอดก้าอาจจะมีลักษณะที่แตกต่างจากทั่วๆไปเพราะคุณสามารถที่จะนำมาเป็นส่วนผสมกับผลไม้ต่างๆหรือแม้กระทั่งส้มหรือมะนาวก็จะได้รูปแบบของค็อกเทลเมนูใหม่ที่จะทำให้คุณนั้นได้ลิ้มลองรสชาติที่แตกต่างไปกว่าเดิมและจะเป็นการสร้างความมีสีสันและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นสำหรับการอยู่ในสถานที่ปาร์ตี้นานๆถึงเป็นแนวทางเลือกที่ไม่ว่าใครต่อใครนั้นก็มีความชื่นชอบและมีการนำเอาวอดก้ามาเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการใช้งานเป็นเครื่องดื่มกันทั้งนั้นแล้วคุณนั้นมีการลองสัมผัสกับเหล้ารูปแบบนี้กันถึงยังถ้ายังก็ต้องบอกได้เลยว่ารีบที่จะมีการสัมผัสรีบรองเพราะว่าคุณจะต้องมีการเปลี่ยนใจอย่างแน่นอนเพราะด้วยรูปแบบที่ปฏิเสธกันไม่ได้เลยทีเดียว
 
วอดก้าที่มีความแปลกใหม่ในเรื่องของรสชาติให้คุณได้สัมผัสกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีรสชาติที่ดีกว่าอย่างแน่นอนและให้คุณสามารถนำไปผสมกับส่วนผสมต่างๆเพื่อทำให้มีความหลากหลายในเรื่องของรสชาติมากขึ้นต้องเป็นยี่ห้อนี้เท่านั้นและการนำไปผสมทำเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลที่สามารถแปลออกมาได้หลายรสชาตินั่นก็คือทางด้านของวอดก้ายี่ห้อ Smirnoff บอกได้เลยว่าเป็นวอดก้าที่  ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากให้ได้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติที่สามารถดื่มได้ง่ายไม่แรงมากเหมือนกับแอลกอฮอล์ในประเทศไทยหรือว่าเป็นอื่นๆและอีกทั้งยังนำมาผสมกับผลไม้หรือว่าส่วนผสมต่างๆเพื่อให้เกิดเป็นรสชาติใหม่หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเครื่องดื่มค็อกเทลที่มีความหลากหลายและมีความฉูดฉาดในเรื่องของรสชาติเป็นอย่างมาก    ให้คนที่ได้ลองลิ้มรสได้สัมผัสกับ การดื่มแอลกอฮอล์รสชาติใหม่ที่สามารถนำไปผสมกับอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นมะนาวหรือว่าผลไม้เกลือและน้ำตาล    ก็สามารถนำไปผสมได้เพื่อให้เกิดรสชาติใหม่และเพื่อให้ได้สัมผัสกับการดื่มแอลกอฮอล์รูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก นั่นจึงส่งผลให้เครื่องดื่มวอดก้าได้รับความนิยมในงานเลี้ยงต่างๆหรือในงานเทศกาลต่างๆมากมายถือได้ว่าเป็นของคู่กันเลยยังขาดกันไม่ได้ด้วย  ซึ่งถือได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่สามารถนำไปพัฒนาต่อในเรื่องของสูตรการชงให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นทุกวันนี้ได้มีการพัฒนาในเรื่องของสูตรการทำเครื่องดื่มค็อกเทลมากยิ่งขึ้นเพื่อให้การดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีความหลากหลายและเพื่อนำไปใช้ประกอบกับงานเลี้ยงหรือว่างานสังสรรค์ต่างๆให้มีความหลากหลายในเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์และรสชาติมากยิ่งขึ้นจึงถือได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่คาดไม่ได้เลยสำหรับใครที่อยากได้ในเรื่องของรสชาติใหม่ๆแนะนำให้ทำการลองศึกษาเกี่ยวกับวิธีการผสมวอดก้ากับผลไม้ต่างๆก็จะทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติใหม่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์และยังทำให้งานปาร์ตี้หรือว่างานสังสรรค์ของคุณนั้นได้ดื่มแอลกอฮอล์กันแบบง่ายด้วยเพราะว่าการดื่มแอลกอฮอล์แบบที่ผสมผลไม้นั้นจะทำให้คุณได้รสชาติที่แปลกใหม่เหมือนกับคุณกินน้ำผลไม้แต่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วย  


31
หุ้นกู้ GULF ฮอต! "สถาบัน/รายใหญ่" แห่ซื้อเกือบ 4 เท่า

นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่แห่ซื้อหุ้นกู้ GULF นำโดยกรรมการผู้จัดการอย่าง sarath ratanavadi แห่ซื้อเกินกว่าที่บริษัทเสนอขาย 7,500 ล้านบาท เกือบ 4 เท่า อายุหุ้นกู้ 3, 5, 7 และ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.73-3.85% ใช้รีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิม-รองรับแผนการลงทุนในต่างประเทศ

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ("GULF" หรือ "บริษัท") นำโดยนาย สารัชถ์ รัตนาวะดี ระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จในการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้เป็นอย่างสูง โดยเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทครั้งแรกหลังจาก IPO ท่ามกลางสภาวะตลาดดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่อย่างล้นหลาม โดยผู้ลงทุนแสดงความจำนงในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเกินกว่าที่บริษัทมีแผนเสนอขายถึงเกือบ 4 เท่า

หุ้นกู้ของ GULF โดยนาย สารัชถ์ รัตนาวะดี หุ้นชุดใหม่นี้ มีจำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.73% จำนวน 2,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.28% จำนวน 2,500 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.61% จำนวน 2,000 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.85% จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด มีมูลค่ารวม 7,500 ล้านบาทนั้น ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ "A-" จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2561

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ในช่วงวันที่ 23–24 ม.ค. 2562 และจัดออกหุ้นกู้ในวันที่ 25 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ รวมทั้งมีธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ด้วย

การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมและรองรับแผนการลงทุนของบริษัทในต่างประเทศ

32
อย่าทำลายรสชาติของวอดก้าแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ทุกคนพยายามที่จะหารูปแบบของการดื่ม วอดก้า ที่แตกต่าง ซึ่งมันทำให้เราได้รับเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายยิ่งขึ้นรวมไปถึง ค็อกเทล หลายร้อยรายการที่มี เหล้า vodka เป็นส่วนผสม  สิ่งที่มนุษย์ได้เพียรพยายามสร้างสรรค์เหล่านี้ล้วนเป็นการเสริมเติมแต่งให้วอดก้ามีรสชาติแตกต่างและกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป  แม้จะมีหลายเสียงค้านว่าการดื่มวอดก้าแบบเพียวๆให้อรรถรสที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เครื่องดื่มค็อกเทล เหล่านี้จะทำให้รสชาติของ วอดก้า เสียหายไป

แต่มีรูปแบบของการดื่ม วอดก้า หลายอย่างที่ดูจะผิดเพี้ยนและทำให้วอดก้าสูญเสียความเป็นตัวตนไปอย่างน่าเสียดาย เหล้า vodka ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยรสชาติที่ล้ำลึกเข้มข้นแม้ว่ามันจะถูกนำไปผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆอีกมากมายเพื่อกลายเป็น สูตรค็อกเทล ที่ทุกๆ คนชื่นชอบแต่เอกลักษณ์ของความเป็น วอดก้า ก็ยังคงปรากฏเด่นชัดอยู่ในสิ่งเหล่านั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์  ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้เราลองผสม เครื่องดื่มค็อกเทล ด้วยส่วนผสมที่เราใช้ตามปกติแต่ยังไม่ต้องใส่วอดก้ากับอีกแก้วนึงให้เราทำเหมือนกันแต่ใส่วอดก้าเข้าไปตามสัดส่วนของสูตรค็อกเทลเราลองชิมรสชาติของสิ่งที่เกิดขึ้นจากทั้ง 2 แก้วแล้วเราจะเข้าใจทันทีว่าทำไมในส่วนผสมของ ค็อกเทล  จึงจำเป็นที่จะต้องมีวอดก้าร่วมด้วยอยู่เสมอ

แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่ควรทำเลยกับวอดก้านั่นคือการนำ วอดก้า ไปแช่แข็งแน่นอนว่าทุกคนเข้าใจถึงกระบวนการในการทำความเย็นของตู้เย็นทั่วไปที่แม้แต่ความเย็นในช่องฟิตก็ไม่สามารถที่จะทำให้วอดก้ากลายเป็นน้ำแข็งได้เนื่องจาก  เหล้า vodka  มีจุดเยือกแข็งที่ต่ำกว่าน้ำมากทีเดียวถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ที่ประมาณ - 27 องศาเพราะฉะนั้นตู้เย็นธรรมดาตามบ้านไม่สามารถที่จะก่อให้เกิดการแข็งตัวของ เหล้า vodka ได้อย่างแน่นอนแต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความสามารถของมนุษย์เพราะมีหลายคนที่สามารถหาเครื่องทำความเย็นที่สามารถกดอุณหภูมิลงไปได้ต่ำถึงขีดสุดที่จะทำให้วอดก้ากลายเป็นน้ำแข็ง แต่หลังจากที่ทำออกมาแล้วคนๆนั้นจะรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังเพียรพยายามนั้นสูญเปล่าเพราะ เครื่องดื่มวอดก้า ที่เรากำลังอยากจะได้เนื้อสัมผัสเหมือนกันดื่มเบียร์วุ้นเป็นเรื่องที่ทำให้รสชาติขอ งเหล้า vodka เสียหาย  ที่สำคัญกว่านั้นมันยังเป็นอันตรายกับร่างกายของนักดื่มอีกด้วย

เหตุผลที่สำคัญอยู่ที่ว่าอุณหภูมิของ วอดก้า ที่จุดเยือกแข็งจะแตกต่างกับอุณหภูมิของร่างกายเราค่อนข้างมากดังนั้นมันอาจจะก่อให้เกิด ผลกระทบกับระบบทางเดินอาหารที่รุนแรงได้เช่นเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือทำให้ร่างกายอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุนั่นเป็นเพราะว่าร่างกายจะต้องปรับอุณหภูมิอย่างรวดเร็วซึ่งจะทำให้สูญเสียพลังงานค่อนข้างมากนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียลงทันทีหลังจากที่ดื่มวอดก้าที่อุณหภูมิต่ำสุด

คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับนักดื่มคือการที่เราควรจะดื่ม วอดก้า ในอุณหภูมิปกติ โดยเฉพาะถ้าเป็นอบอุ่นจนถึงร้อนในบ้านเราเพียงแค่เราแช่ เหล้า vodka เอาไว้ในช่องธรรมดาของตู้เย็น  ที่มีอุณหภูมิประมาณ 16-18 องศาเซลเซียสก็ทำให้มันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเกินบรรยายอยู่แล้ว  หรือถ้าใครใจร้อนรอให้ เหล้า vodka มีอุณหภูมิที่พอเหมาะไม่ไหวเราจะลองปรับเปลี่ยนมาดื่มเป็น Vodka on the rock ด้วยการใส่น้ำแข็ง 2-3 ก้อนลงในแก้วและเทวราชทับหลังจากนั้นก็ให้ดื่มครั้งเดียวให้หมดแก้วอย่าปล่อยให้น้ำแข็งในแก้วละลายมาปะปนกับรสชาติของ วอดก้า ซึ่งจะทำให้รสชาติของวอดก้ากร่อยลงทันที

แต่ถ้าใครคิดว่ารสชาติของ วอดก้า เพียวๆดูจะรุนแรงเกินไป ซึ่งคาดเอาไว้ว่ามันน่าจะทําให้คอลุกเป็นไฟได้อย่างง่ายดาย เราจึงพยายามที่จะลดทอนความรุนแรงของมันด้วยการผสมโซดาในสัดส่วนของวอดก้าต่อโซดาอยู่ที่ 1 ต่อ 2  และใช้มะนาวชิ้นเล็กๆฝานให้บางที่สุดหย่อนลงไปเพื่อให้เราได้รับกลิ่นอ่อนๆของมะนาวในช่วงเวลาของการดื่มซึ่งถือว่าเป็นศิลปะชั้นสูงที่มักจะนำมาประยุกต์ใช้กับการดื่มวอดก้าได้ดีอยู่เสมอ

การใส่มะนาวลงใน วอดก้า หรือ เครื่องดื่มค็อกเทล ถือว่าเป็นความชาญฉลาดอย่างหนึ่งของมนุษย์เพราะเรากำลังมองหาตัวเลือกที่ลงตัวที่สุดในการสร้างกลิ่นหอมแบบธรรมชาติที่ชวนดื่มมากที่สุด  มะนาวเลมอนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของการชูกลิ่นของเครื่องดื่มวอดก้าให้น่าดื่มยิ่งขึ้นดังนั้นเราจึงจะได้เห็นการ ทำ สูตรค็อกเทล ที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการนำเอามะนาวเลมอนหรือผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆมาช่วยเพิ่มกลิ่นและรสชาติแบบอ่อนๆให้กับ วอดก้า และ ค็อกเทล เพื่อให้มันกลายเป็นเครื่องดื่มที่คู่ควรกับการดื่มในทุกๆเวลาที่เราต้องการ


33
ตรวจเช็คอย่างไร ให้รู้ว่าเป็นวอดก้าแท้หรือปลอม

วอดก้า เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ในปัจจุบันได้มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยวอดก้านั้น เป็นเหล้าที่เกิดจากการหมักของพืช ธัญพืชต่างๆ แล้นำไปกลั่นจนออกมากลายเป็นเหล้าบริสุทธิ์ ที่เราได้วางจำหน่ายอยู่ทั่วไปนั่นเอง วอดก้า ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ตั้งแต่ราวๆ สมัยศตวรรษที่ 14 ในเรื่องแง่ของการใช้งาน วอดก้าก็ถือว่าถูกนำมาใช้ในเรื่องของการทำเครื่องดื่ม สูตรค็อกเทล และวงการทำอาหารมาอย่างยาวนาน ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องปรุงในการปรุงแต่งรสชาติอาหาร และที่สำคัญวอดก้าเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบหลักสำคัญสำหรับเครื่องดื่มที่ใช้ดื่ม กิน ในงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ต่างๆ อีกด้วย โดยรูปแบบของเครื่องดื่มที่เป็นที่รู้จักและนิยมนำมาดื่มกันในงานปาร์ตี้ คือ ค็อกเทล ที่มีส่วนผสมหลักเป็นวอดก้า ผสมเข้ารวมกับนำผลไม้ เพื่อให้เป็นเหล้ารสน้ำผลไม้ รวมถึงมีการเติมส่วนผสมอื่นๆ ลงไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศ ใบโหระพา ใบสะแหน่ เพื่อเพิ่มรสชาติต่างๆ ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมา ซึ่งพวกเราดูเหมือนว่าส่วนผสมจะไม่มีความเข้ากัน แต่ด้วยฝีมือของผู้ชง ปรุงแต่ง สามารถทำส่วนผสมเหล่านี้ให้เนียน สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวเลยนะครับ

จากการที่เราเห็นประโยชน์ใช้สอยในส่วนของวอดก้า ที่เป็นเหล้านอกแล้วนะครับ ทีนี้เมื่อเราต้องการซื้อเหล้านอก เราจะมีวิธีการสังเกตอยางไรว่าเป็นของแท้ หรือของปลอม วันนี้เราจะมาดูกันนะครับ

1. ตราของกรมสรรพสามิต ที่มีการยื่นเสียภาษี เครื่องหมาย สัญลักษณ์ต่างๆ จะต้องไม่มีการบิดเบือนหรือดัดแปลงนะครับ มีความชัดจนทั้งเรื่องของตัวอกษร มีความถูกต้อง และไม่มีรอยฉีกขาดใดๆ ก็ถือว่าวอดก้าขวดที่เราซื้อมานั้น เป็นวอดก้าที่ถูกนำเข้ามาอย่างถูกต้อง ถูกกฎหมาย ไม่ได้มีการทำขึ้นมาเลียนแบบอย่างแน่นอน

2. ลักษณะทางกายภาพของตัววอดก้า อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า วอดก้า เป็นเหล้ากลั่นบริสุทธิ์ ซึ่งจะทำให้ลักษณะของวอดก้านั้น ใส ไม่มีสี ซึ่งทำให้เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ว่า ถ้าเป็นวอดก้าที่ปลอมหรือมีการผสมนะครับ อาจจะมีตะกอน มีสิ่งแปลปลอมปนเข้าไป ทีนี้เราก็สามารถสังเกตได้แล้วว่า วอดก้าที่มีลักษณะแบบนี้อาจเป็นวอดก้าปลอม หรือเป็นวอดก้าที่มีการผสมนะครับ

3. กลิ่น สี รสชาติ ผิดไปจากปกติ ในข้อนี้นอกจากการสังเกตอาจจะไม่เพียงพอแล้วนะครับ อาจจะต้องอาศัยการดม การชิมเพียงเล็กน้อย ใช้ในกรณีที่เราเปิดฝาของขวดแล้ว แต่ในกรณีที่เราไม่เคยได้ชิมมาก่อน หรือเป็นผู้ที่ไม่เคยดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ยากที่จะตัดสินใจอีก ทางที่ดี อาจจะให้ผู้ที่เคยลิ้มลอง ได้เป็นคนตัดสินใจได้นะครับว่า วอดก้าขวดที่ทำการทดสอบ หรือขวดต้องสงสัยนั้นเป็นของแท้หรือของปลอม

4. ราคาถูกเกินไป หรือซื้อจากแหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ โดยมีการโฆษณาจากแหล่งโฆษณาที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เป็นแหล่งขายที่ไม่สามารถไว้ใจได้ อีกทั้งยังมีการซื้อขายในราคาที่ถูกเกินไป ถูกจากความเป็นจริงมาก เป็นราคาที่แตกต่างจากท้องตลาด ในข้อนี้เราก็สามารถสันนิษฐานได้เลยว่าวอดก้าขวดนั้นเป็นของปลอมอย่างแน่นอน

วอดก้า หรือเหล้านอก รวมถึงเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่มีการปลอมแปลงขึ้นมา ดังที่เป็นข่าว โดยปกติแล้ววิธีการของขบวนการพวกนี้จะใช้การผสมหัวเชื้อเปล้ากับสารอื่นๆ เพื่อให้ได้ปริมาณที่มากขึ้น จากนั้นก็แบ่งบรรจุกลับไปตามขวด แล้วทำการติดสลาก ตีตราให้เรียบร้อย เลียนแบบเช่นเดียวกับเป็นวอดก้าขวดเดิม หรือทำเป็นเครื่องดื่มขวดเดิม จากนั้นก็นำมาจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าปกติ ซึ่งการผสมหรือการเจือปนที่ทำนั้น ถ้าหากว่าผู้ที่ไม่เคยได้ลองชิม หรือไม่เคยรู้รสของวอดก้าของจริงมาก่อน ก็อาจจะยากที่จะสามารถตอบได้ว่าขวดต้องสงสัยนั้นเป็นของจริงหรือเปล่านะครับ ทั้งนี้เราก้ต้องพิจารณาเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถแยกแยะออกมาให้ได้ว่า ขดต้องสงสัยนั้น สรุปเป็นของแท้หรือเป็นของปลอม เพราะการที่เราดื่มของปลอม หรือถูกหลอกให้ซื้อนั้น แน่นอนว่าเราไม่ทราบว่ามีส่วนผสมอะไรที่ผสมลงไป เมื่อดื่มกินเข้าไปแล้ว ก็ย่อมจะทำให้เกิดอันตรายอย่างแน่นอนนะครับ

34
อ่านก่อนตัดสินใจยกเลิกประกัน Cigna: ประกันอุบัติเหตุ vs ประกันโรคร้ายแรง

ปัจจุบันคนจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันไม่ว่าจะเป็นประกันอุุบัติเหตุ ประกันสุขภาพหรือแม้แต่ประกันโรคร้ายแรง ต่าง ๆ ดังนั้นประกันแต่ละรายจึงแข่งขันกันเสนอแผนประกันที่น่าสนใจออกมาให้เลือกอย่างมากมาย

ประกันอุุบัติเหตุ ดีอย่างไร?
ประกันอุุบัติเหตุคือผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับคุณ ความคุ้มครองครอบคลุมตั้งแต่อุบัติเหตุเล็กไปจนถึงอุบัติเหตุใหญ่ เช่น สุนัขกัด แมวข่วน อุบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในที่สาธารณะ ที่ทำงาน ภายในบ้าน หากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุก็สามารถเบิกประกันได้ทันทีตามวงเงินที่เลือกทำ ในกรณีที่เหตุร้ายนั้นสร้างความเสียหายถึงชีวิตประกันอุุบัติเหตุก็จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงินให้ลดน้อยลงได้

ประกันสุขภาพ ดีอย่างไร?
ระยะหลังมานี้ประกันสุขภาพมีให้เลือกหลากหลายแบบมากขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยนอกหรือแบบผู้ป่วยในอีกต่อไปแล้วแต่ยังมีประกันโรคร้ายแรง ประกันโรคมะเร็งโดยเฉพาะและโรคร้ายแรงอื่น ๆ อีก ซึ่งประกันสุขภาพเหล่านี้จะทำหน้าทีรับมือกับความเสี่ยงทางด้านสุขภาพของเรา หลายคนทราบดีว่าค่ารักษาในปัจจุบันนั้นแพงมากแค่ไหน หากไม่มีประกันสุขภาพอาจกระทบกับการเงินส่วนตัวหรือการเงินของครอบครัวได้เลยทีเดียว ดังนั้นการจ่ายค่าเบี้ยเพียงหลักร้อยต่อเดือนหรือหลักพันต่อปีจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

ความสำคัญของ ประกันอุุบัติเหตุ กับประกันสุขภาพ
ประกันทั้งสองแบบนี้ให้ความคุ้มครองที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงขอตอบอย่างตรงไปตรงมาว่ามีความสำคัญด้วยกันทั้งคู่ เช่น หากคุณทำประกันอุุบัติเหตุและประกันโรคร้ายแรง ไว้กับทาง Cigna และกำลังคิดจะ ยกเลิกประกัน Cigna ตัวใดตัวหนึ่งซึ่งกำลังชั่งใจอยู่ระหว่างการยกเลิกประกันอุุบัติเหตุหรือประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง ซึ่งในที่สุดคุณก็ตัดสินใจยกเลิกประกันอุุบัติเหตุไปแต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับคุณ ถึงเวลานั้นคุณและครอบครัวจะกลับมาเห็นความสำคัญของประกันอุุบัติเหตุทันที ในกรณีที่เลือกจะยกเลิกประกัน Cigna ตัวที่เป็นประกันคุ้มครอง 4 โรคร้ายแรงก็เช่นกัน หากหลังจากนั้นคุณต้องประสบกับ 1 ใน 4 โรคร้าย คุณและครอบครัวจะสามารถรับภาระค่ารักษาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ ดังนั้นจึงขอสรุปว่าทั้งประกันอุุบัติเหตุและประกันสุขภาพต่างมีความสำคัญและจำเป็นกับชีวิตของเราทุกคน

สำหรับใครก็ตามที่ทำประกันไว้ครอบคลุมทุกด้านเรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะเป็นประกันอุุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ และประกันชีวิต ถือว่าเป็นบุคคลที่มีการวางแผนที่ดีอยู่แล้วแต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทำประกันเพื่อเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงควรเริ่มมองหาแผนประกันที่ถูกใจตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ควรรอให้เกิดเหตุขึ้นเสียก่อนแล้วจึงกลับมามองเห็นความสำคัญเพราะอาจไม่ทันการณ์









35
อยากเที่ยวแต่ไม่อยากทำวีซ่า จะไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี

ในความคิดของหลายคนการเตรียมเอกสารสำคัญเมื่อต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวนั้นคือเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขอวีซ่า ซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน แม้ว่าในปัจจุบันบางประเทศจะลดความยุ่งยากลงด้วยการยื่นขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ และ การยื่นขอวีซ่าผ่านสนามบินปลายทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องเสียเวลาเตรียมและกรอกเอกสารมากมาย ได้แก่ แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน รูปถ่ายหน้าตรงซึ่งแต่ละประเทศมีข้อกำหนดแตกต่างกัน หลักฐานทางการเงินที่แสดงศักยภาพทางการเงิน และเอกสารอื่น ๆ ที่แสดงเจตนาว่ามีวัตถุประสงค์ตามที่ขอวีซ่า แค่เห็นเอกสารที่ต้องเตรียมก็ทำให้หลายคนถอดใจ และตัดสินใจไปเที่ยวประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าแทน ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 32 ประเทศให้เลือก จนหลายคนไม่รู้ว่าจะเลือก เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี

แต่หากถามว่าเที่ยวต่างประเทศที่ไหนดีที่เดินทางง่าย สะดวก ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง และสำคัญคือไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก เชื่อว่า ‘ประเทศสิงคโปร์’ อาจเป็นคำตอบที่ทำให้หลายคนถูกใจ เพราะเดินทางโดยเครื่องบินประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง สนามบินชางงี สนามบินนานาชาติสิงคโปร์ที่เต็มไปด้วยความทันสมัยจนหลายคนบอกเห็นแค่สนามบินก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว สมกับที่ครองแชมป์สนามบินยอดเยี่ยมที่สุดในโลก 6 สมัยซ้อน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสิงคโปร์นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น สวนพฤษศาสตร์การ์เด้นส์บายเดอะเบย์ สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ จุดชมวิว 360 สิงคโปร์ ฟลายเออร์ ย่านช้อปปิ้งสุดทันสมัยอย่างถนนออร์ชาร์ด Fort Canning Park สวนสาธารณะชื่อดังที่ไม่ว่าใครไปก็ต้องแวะไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และสำหรับสิ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเมื่อไปถึงประเทศสิงคโปร์ คือการแวะทักทาย สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (Merlion) ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่หน้าอ่าวมาริน่าเบย์ แลนมาร์คสำคัญของประเทศสิงคโปร์ ที่ไม่ว่าใครไปก็ต้องไปถ่ายรูปคู่ด้วยเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่เช่นนั้นคงเหมือนมาไม่ถึงประเทศสิงคโปร์

สำหรับการเลือกท่องเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์นั้น นอกจากจะมีข้อดีตรงที่เดินทางสะดวกและมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกมากมายแล้ว ยังเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยมากอันดับหนึ่งของโลก จึงสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ คนเดียวได้อย่างสบายใจ อย่างไรก็ตามประกันการเดินทางก็ถือว่ายังมีความจำเป็นอยู่มากเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ขึ้นชื่อว่ามีค่าใช้จ่ายสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หากไม่ได้ทำเผื่อไว้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ดังนั้นก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรมองหาประกันเพื่อการเดินทาง ที่ครอบคลุมความเสียหายในทุกด้าน เช่น Cigna ประกันภัย ประกันการเดินทางต่างประเทศ ที่คุ้มครองทั้งกรณีเกิดอุบัติเหตุและเจ็บป่วย รวมถึงในกรณีเสียชีวิตด้วย เพียงเท่านี้ก็ทำให้อุ่นใจไม่ว่าเลือกไปประเทศไหนก็มั่นใจได้ว่ามีคนคอยดูแลตลอดการเดินทาง

36
สูตรค็อกเทลที่มีส่วนผสมของเหล้า Gin

เมื่อกล่าวถึงเรื่องแอลกอฮอล์นั้น แน่นอนว่าใครหลายๆ คนอาจจะมองเป็นเรื่องที่ไม่ดี ทำให้เกิดปัญหาสังคม แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังเป็นประโยชน์อยู่เหมือนกัน หากเราเลือกดื่มแต่พอเหมาะพอควร และเมื่อพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วหลายคนคงจะถึงแต่เหล้า เบียร์ หรือไวน์ ทั้งนี้ก็เพราะว่าเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นที่คุ้ยเคยกับคนโดยส่วนใหญ่เสียมากกว่า แต่ว่าเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นยังมีอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เครื่องดื่ม วอดก้า เครื่องดื่มค็อกเทล หรือแชมเปญ เป็นต้น และเครื่องดื่มที่เราได้กล่าวไปนั้นเป็นเครื่องดื่มที่โดยส่วนใหญ่แล้วมีอยู่ตามร้านอาหารใหญ่ หรือตามผับบาร์เสียมากกว่า อย่างเช่นค็อกเทลนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ต้องชงหรือผสมส่วนสัดส่วนวัตถุดิบตาม สูตรค็อกเทล จึงจะได้รสชาติที่ดีเยี่ยม ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน สูตรค็อกเทล มีมากมายหลายร้อยสูตร เพียงแต่ว่าร้านที่ขายเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นจะนำสูตรใดมาขายบ้างเท่านั้นเอง

เครื่องดื่มค็อกเทลในแต่ละแก้วนั้นเราต้องบอกเลยว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีวิธีการชงรวมถึงวิธีการเลือกวัตถุดิบนำมาชงจนเกิดเป็นเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ก็เพราะว่าบางวัตถุที่หยิบนำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มค็อกเทลแก้วนั้นๆ อาจจะมีความเข้ากันได้ยาก เพราะความเข้มข้นของมันแตกต่างกันนั่นเอง และในวันนี้ทางเรานั้นจะมาแนะนำ สูตรค็อกเทล ต่างๆ ที่จะใช้เหล้ายินเป็นเหล้าหลักในการชงค็อกเทลแต่ละแก้วกัน ซึ่งเรารู้กันอยู่แล้วว่าในเครื่องดื่มค็อกเทล 1 นั้นจะเหล้าเป็นส่วนผสมหลักอยู่ 1 ชนิด หรืออาจจะมีเหล้ามากกว่า 1 ชนิดก็ได้ในแก้วนั้น และโดยส่วนใหญ่แล้วเราจะรู้กันเพียงว่าเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นจะต้องมีวอดก้าเป็นเหล้าหลัก แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วเหล้าชนิดอื่นๆ ก็สามารถนำมาชงค็อกเทลได้เหมือนกัน อย่างเช่น เหล้ายิน ที่เราจะนำ สูตรค็อกเทล มาฝากทุกคนกันนั่นเอง

ก่อนที่เราจะไปดูว่าสูตรค็อกเทลที่สามารถใช้เหล้ายินหรือจินเป็นส่วนผสมหลักที่ให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้น เราไปดูกันก่อนดีกว่าเหล้ายินหรือจินคือเหล้าอะไร เป็นเหล้าชนิดใด แล้วแตกต่างอย่างไรกับเหล้าวอดก้าที่ สูตรค็อกเทล ต่างๆ เป็นจำนวนมากเลือกที่จะใช้เป็นส่วนผสมหลักในการชงเครื่องดื่มค็อกเทลในแต่ละแก้ว โดยเหล้า Gin หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า เหล้ายินหรือเหล้าจิน แต่ในที่นี้เราขออนุญาตเรียกว่า เหล้ายิน นั้นเป็นเหล้าที่ทำมาจากข้าวบาร์เลย์ผสมกับผลจูนิเปอร์ และสมุนไพรต่างๆ ประเทศต้นตำรับที่ได้มีการคิดค้นและผลิตขึ้นมา คือ ชาวดัชช์ (ฮอล์แลนด์) แต่ปัจจุบันนั้นจะนิยมดื่มเหล้ายินที่มาจากลอนดอนประเทศอังกฤษกันเสียมากกว่า เนื่องจากมีรสชาติหอมและชวนดื่มมากกว่า โดยเหล้า ยินแต่เดิมนั้นเป็นเหล้าพื้นฐานของฮอล์แลนด์ซึ่งมีปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 35–47% และลักษณะของเหล้ายินนั้นจะมีสีขาวใส กลิ่นหอมรากไม้และสมุนไพร ไม่มีรสหวาน ออกรสขมนิดหน่อย  ต่อไปเราไปดู สูตรค็อกเทล ที่ใช้เหล้ายินเป็นส่วนผสมหลักในการชงการบ้างดีกว่า

1.   สูตรค็อกเทล ที่มีชื่อว่า Aviation ซึ่งเครื่องดื่มค็อกเทลแก้วนี้จะใช้เหล้ายิน 4.5 cl น้ำมะนาว 1.5 cl และ maraschino liqueur (เหล้าเชอร์รี่) 1.5 cl โดย สูตรค็อกเทล แก้วนี้นั้นจะใช้การเชคเกอร์หรือเขย่านั่นเอง โดยการนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในกระบอกเชคเกอร์พร้อมกับใส่น้ำแข็งลงไปด้วย จากนั้นเขย่าแล้วเทลงในแก้วค็อกเทลที่แช่เย็นไว้ และให้ตกแต่งด้วยการใส่เชอร์รี่ลงไป

2.   สูตรค็อกเทล ที่มีชื่อว่า Casino โดยเครื่องดื่มค็อกเทลแก้วนี้จะมีส่วนผสมที่เป็นเหล้ายิน  4 cl น้ำเชื่อมกลิ่นส้ม 1 cl และน้ำมะนาวคั้นสด 1 cl ซึ่ง สูตรค็อกเทล นี้ให้ใช้การเขย่าในการผสมส่วนต่างๆ โดยใส่ส่วนผสมลงในกระบอกเชคเกอร์แล้วเขย่า ส่วนการตกแต่งนั้นให้ใช้มะนาวที่ฝากเป็นรูปเกลียวและมารัสชิโนเชอรรี่(maraschino cherry)

3.   สูตรค็อกเทล ที่มีชื่อว่า Dry Martini ซึ่งใช้เหล้ายิน 6 cl และ dry vermouth 1 cl และการชง สูตรค็อกเทล อันนี้นั้นให้ใส่ส่วนผสมทั้งหมดในกระบอกเชคเกอร์พร้อมน้ำแข็ง จากนั้นเขย่าให้ทั่วและเทลงในแก้วค็อกเทลที่แช่เย็นไว้ล่วงหน้า แล้วตกแต่งด้วยมะกอกดองเสียบไม้หรือมะนาวที่ฝากเป็นรูปเกลียว



37
สูตรค็อกเทลที่ใช้เหล้า Gin เป็นส่วนผสมหลักในการชง

หากพูดถึงเรื่องของแอลกอฮอล์นั้นแน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่แล้วใครหลายๆ คนก็คงจะมองเป็นเรื่องไม่ดี ก่อให้เกิดแต่ปัญหากับสังคม แต่ทว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังประโยชน์อยู่เหมือนกันหากเราเลือกดื่มแต่พอเหมาะพอควร และเมื่อพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วนั้นใครหลายคนก็คงจะถึงแต่เหล้า เบียร์ หรือไวน์ เป็นแน่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นที่คุ้ยเคยกับคนโดยส่วนใหญ่เสียมากกว่า แต่ทว่าเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นยังมีอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เครื่องดื่ม วอดก้า เครื่องดื่มค็อกเทล หรือแชมเปญ เป็นต้น และเครื่องดื่มที่เราได้กล่าวไปนั้นเป็นเครื่องดื่มที่โดยส่วนใหญ่แล้วมีอยู่ตามร้านอาหารใหญ่ หรือตามผับบาร์เสียมากกว่า อย่างเช่นค็อกเทลนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ต้องชงหรือผสมส่วนสัดส่วนวัตถุดิบตาม สูตรค็อกเทล จึงจะได้รสชาติที่ดีเยี่ยม ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน สูตรค็อกเทล มีมากมายหลายร้อยสูตร เพียงแต่ว่าร้านที่ขายเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นจะนำ สูตรค็อกเทล ใดมาขายบ้างแค่นั้นเอง

ซึ่งเครื่องดื่มค็อกเทลในแต่ละแก้วนั้นเราต้องบอกเลยว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีวิธีการชงรวมถึงวิธีการเลือกวัตถุดิบนำมาชงจนเกิดเป็น สูตรค็อกเทล ขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ก็เพราะว่าบางวัตถุที่หยิบนำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มค็อกเทลแก้วนั้นๆ อาจจะมีความเข้ากันได้ยาก เพราะความเข้มข้นของมันแตกต่างกันนั่นเอง และในวันนี้ทางเรานั้นจะมาแนะนำ สูตรค็อกเทล ต่างๆ ที่จะใช้เหล้ายินเป็นเหล้าหลักในการชงค็อกเทลแต่ละแก้วกัน ซึ่งเรารู้กันอยู่แล้วว่าในเครื่องดื่มค็อกเทล 1 นั้นจะเหล้าเป็นส่วนผสมหลักอยู่ 1 ชนิด หรืออาจจะมีเหล้ามากกว่า 1 ชนิดก็ได้ในแก้วนั้น และโดยส่วนใหญ่แล้วเราจะรู้กันเพียงว่าเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นจะต้องมีวอดก้าเป็นเหล้าหลัก แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วเหล้าชนิดอื่นๆ ก็สามารถนำมาชงค็อกเทลได้เหมือนกัน อย่างเช่น เหล้ายิน ที่เราจะนำ สูตรค็อกเทล มาฝากทุกคนกันนั่นเอง

และก่อนที่เราจะไปดูว่า สูตรค็อกเทล ที่สามารถใช้เหล้ายินหรือจินเป็นส่วนผสมหลักที่ให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้น เราไปดูกันก่อนดีกว่าเหล้ายินหรือจินคือเหล้าอะไร เป็นเหล้าชนิดใด แล้วแตกต่างอย่างไรกับเหล้าวอดก้าที่ สูตรค็อกเทล ต่างๆ เป็นจำนวนมากเลือกที่จะใช้เป็นส่วนผสมหลักในการชงเครื่องดื่มค็อกเทลในแต่ละแก้ว โดยเหล้า Gin หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า เหล้ายินหรือเหล้าจิน แต่ในที่นี้เราขออนุญาตเรียกว่า เหล้ายิน นั้นเป็นเหล้าที่ทำมาจากข้าวบาร์เลย์ผสมกับผลจูนิเปอร์ และสมุนไพรต่างๆ ประเทศต้นตำรับที่ได้มีการคิดค้นและผลิตขึ้นมา คือ ชาวดัชช์ (ฮอล์แลนด์) แต่ปัจจุบันนั้นจะนิยมดื่มเหล้ายินที่มาจากลอนดอนประเทศอังกฤษกันเสียมากกว่า เนื่องจากมีรสชาติหอมและชวนดื่มมากกว่า โดยเหล้า ยินแต่เดิมนั้นเป็นเหล้าพื้นฐานของฮอล์แลนด์ซึ่งมีปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 35–47% และลักษณะของเหล้ายินนั้นจะมีสีขาวใส กลิ่นหอมรากไม้และสมุนไพร ไม่มีรสหวาน ออกรสขมนิดหน่อย  ต่อไปเราไปดู สูตรค็อกเทล ที่ใช้เหล้ายินเป็นส่วนผสมหลักในการชงการบ้างดีกว่า

1.   สูตรค็อกเทล ที่มีชื่อว่า Aviation ซึ่งเครื่องดื่มค็อกเทลแก้วนี้จะใช้เหล้ายิน 4.5 cl น้ำมะนาว 1.5 cl และ maraschino liqueur (เหล้าเชอร์รี่) 1.5 cl โดย สูตรค็อกเทล แก้วนี้นั้นจะใช้การเชคเกอร์หรือเขย่านั่นเอง โดยการนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในกระบอกเชคเกอร์พร้อมกับใส่น้ำแข็งลงไปด้วย จากนั้นเขย่าแล้วเทลงในแก้วค็อกเทลที่แช่เย็นไว้ และให้ตกแต่งด้วยการใส่เชอร์รี่ลงไป
2.   สูตรค็อกเทล ที่มีชื่อว่า Casino โดยเครื่องดื่มค็อกเทลแก้วนี้จะมีส่วนผสมที่เป็นเหล้ายิน  4 cl น้ำเชื่อมกลิ่นส้ม 1 cl และน้ำมะนาวคั้นสด 1 cl ซึ่ง สูตรค็อกเทล นี้ให้ใช้การเขย่าในการผสมส่วนต่างๆ โดยใส่ส่วนผสมลงในกระบอกเชคเกอร์แล้วเขย่า ส่วนการตกแต่งนั้นให้ใช้มะนาวที่ฝากเป็นรูปเกลียวและมารัสชิโนเชอรรี่(maraschino cherry)
3.   สูตรค็อกเทล ที่มีชื่อว่า Dry Martini ซึ่งใช้เหล้ายิน 6 cl และ dry vermouth 1 cl และการชง สูตรค็อกเทล อันนี้นั้นให้ใส่ส่วนผสมทั้งหมดในกระบอกเชคเกอร์พร้อมน้ำแข็ง จากนั้นเขย่าให้ทั่วและเทลงในแก้วค็อกเทลที่แช่เย็นไว้ล่วงหน้า แล้วตกแต่งด้วยมะกอกดองเสียบไม้หรือมะนาวที่ฝากเป็นรูปเกลียว



38
สูตรค็อกเทลแต่ละสูตรต้องมีเหล้า แต่ทว่าเขาใช้เหล้าแบบใดกันบ้างนะ

หากกล่าวถึงเครื่องดื่มค็อกเทลแล้วแน่นอนว่าก็ต้องกล่าวถึง สูตรค็อกเทล ที่มีอยู่มากมายเสียเหลือเกินด้วย ซึ่งใครหลายๆ คนที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลองหรือยังไม่รู้จักมันดีพอนั้นอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมี สูตรค็อกเทล ได้มากมานขนาดนั้นเป็นแน่ ซึ่งเราขอตอบด้วยคำจำกัดความง่ายๆ ว่า เครื่องดื่มค็อกเทลนั้นเป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการนำเหล้า 1 ชนิด หรือมากกว่า 1 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นเหล้าตระกูล วอดก้า ยิน หรือรัม นำมาชงผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ ไซรัป หรือโซดา เป็นต้น และรูปแบบวิธีการชงของเครื่องค็อกเทลแก้วนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นค็อกเทลที่ชงตาม สูตรค็อกเทล ใดนั่นเอง ซึ่งอาจจะชงด้วยวิธีการเทริน ด้วยการคนผสม หรืออาจจะใช้วิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ของการชงค็อกเทลก็ได้ซึ่งก็คือการชงด้วยวิธีการเขย่านั่นเอง นอกจากนี้อาจจะใช้เทคนิคพิเศษอื่นๆ เข้ามาร่วมชงด้วยก็ได้

และเมื่อเรารู้แล้วว่าเครื่องดื่มค็อกเทลในแต่ละแก้วนั้นเกิดจากการผสมวัตถุดิบหลากหลายชนิด ตามสัดส่วนของ สูตรค็อกเทล ต่างๆ โดยจะมีส่วนผสมหลักที่เป็นแอลกอฮอล์อยู่ 1 ชนิดหรือมากกว่านั้นก็ได้ ฉะนั้นในวันนี้ทางเรานั้นจะมาแนะนำถึงเหล้าประเภทต่างๆ ที่มีฤทธิ์เป็นแอลกอฮอล์ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการชงค็อกเทลตาม สูตรค็อกเทล ต่างๆ และในการนี้เราก็จะมายกตัวอย่างของการใช้เหล้าชนิดนั้นๆ ในการชงเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลอีกด้วย

1.   เหล้า vodka ซึ่งเหล้าวอดก้านี้เป็นเหล้าที่ทำมาจากมันฝรั่งชนิดต่างๆ และโดยรสชาติของวอดก้านั้นจะร้อนแรงบาดคอ อีกทั้งยังเป็นเหล้าที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรสอีกด้วย ซึ่งระดับความแรงของดีกรีนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 35-180% ประเทศที่เป็นต้นตำรับในการผลิตวอดก้า คือ รัสเซีย แต่ในปัจจุบันนั้นมีหลายประเทศที่ผลิตเหล้าวอดก้าออกมามากมายและยังมีการเติม แต่งรสชาติต่างๆด้วย เช่น รสเลม่อน รสแบล็คเคอเรน เป็นต้น ส่วน สูตรค็อกเทล ที่ใช้เหล้าวอดก้าเป็นส่วนผสมก็คือ Sea Breeze ที่มีเหล้าวอดก้าเพียว 30 กรัม เข้ากับน้ำแครน,เบอร์รี่อีก 30 กรัม และน้ำเกรปฟรุต 113 กรัม ซึ่ง สูตรค็อกเทล นี้ใช้วิธีการคนผสมและตกแต่งด้วยมะนาวซีก
2.   เหล้า Whisky เป็นเหล้าที่ผลิตมาจากข้าวชนิดต่างๆ เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวโพด หรือข้าวไรน์ เป็นต้น ซึ่งรสชาตินั้นจะหอมแบบนุ่มๆ มีดีกรีประมาณ 35-45% โดยส่วนใหญ่ประเทศที่ผลิตหลักๆ ได้แก่ สก็อตแลนด์ อเมริกา แคนนา และไอซ์แลนด์ เป็นต้น และ สูตรค็อกเทล ที่ใช้เหล้าวิสกี้นี้ก็เช่น wiskey sour cocktail ที่ใช้วิสกี้ 2 ออนซ์, น้ำมะนาวคั้นสด 2 ออนซ์, น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ และไข่ขาว 1 ฟอง โดย สูตรค็อกเทล นี้ใช้การเขย่าด้วยกระบอกเชคเกอร์ในการชง
3.   เหล้า Gin เป็นเหล้าที่ผลิตจากสมุนไพรต่างๆ และผลจูนิเปอร์ ซึ่งชาวดัตช์ในประเทศโปแลนด์นั้นเป็นต้นตำรับผู้คิดค้นและผลิตมันขึ้นมา แต่ส่วนใหญ่จะนิยมเหล้ายินที่มาจากลอนดอนกันมาก เพราะมีรสชาติหอม โดยระดับดีกรีจะอยู่ที่ 35-43% ซึ่ง สูตรค็อกเทล ที่นำเหล้ายินมาเป็นส่วนผสมก็ได้แก่ Tom Collins ที่มีเหล้ายิน 2 ออนซ์, น้ำเชื่อม 1 ออนซ์, น้ำมะนาว 1 ออนซ์ และโซดา ซึ่ง สูตรค็อกเทล นี้ใช้การชงด้วยวิธีการคนให้เข้ากัน
4.   เหล้า Tequila เป็นเหล้าที่ทำมาจากต้นกระบองเพชรพันธุ์อากาเว้ซึ่งมีอยู่มากในเม็กซิโก โดยรสชาติจะร้อนแรงและบาดคอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนิยมดื่มกินกับมะนาวและเกลือ โดยเหล้าตากีล่านั้นจะมีอยู่ 2 สี คือ สีขาวหรือสีเงิน และสีทองนั่นเอง ซึ่ง สูตรค็อกเทล ที่นำเหล้าตากีล่ามาเป็นส่วนผสมก็คือ Margarita ที่ใช้เหล้าเตกีล่า 2 ออนซ์, เหล้า Triple Sec ครึ่งออนซ์, น้ำมะนาว 1 ออนซ์ และไซรัปครึ่งออนซ์ โดย สูตรค็อกเทล นี้จะใช้การชงด้วยการเขย่ากระบอกเชคเกอร์
5.   เหล้า Rum เป็นเหล้าที่ทำมาจากกากน้ำตาลอ้อย มีมากในประเทศทะเลแคริเบี้ยนคิวบา จาไมก้า โดยจะมีรสชาติหอมนุ่มแต่หอมน้อยกว่าเหล้ายิน ซึ่งจะมีดีกรี 30-40% และมี 3 สี ได้แก่ สีขาว ,สีทอง และสีดำ ซึ่ง สูตรค็อกเทล ที่นำเหล้ารัมมาเป็นส่วนผสม ได้แก่ Mojito ซึ่งใช้เหล้ารัมขาว 2 ออนซ์, น้ำเชื่อม 1 ออนซ์, ใบมิ้นท์, น้ำมะนาว 1 ออนซ์ โดยนำส่วนผสมทุกอย่างมารวมกันและชงด้วยการคนให้เข้า
   


39

ตัดสินใจให้ดีก่อน ยกเลิกประกัน Cigna สุดท้ายอาจได้ไม่คุ้มเสีย

โดยส่วนใหญ่แล้วการมีประกันมากกว่าหนึ่งกรมธรรม์นั้นถือเป็นเรื่องปกติของคนในยุคปัจจุบัน สาเหตุหลักๆ คือ แต่ละกรมธรรม์นั้นให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน หากเป็น ประกันอุบัติเหตุ ก็จะคุ้มครองกรณีประสบอุบัติเหตุเท่านั้น ในขณะที่ประกันโรคร้ายแรงจะคุ้มครองเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขของแผนประกันที่เลือกทำ ได้แก่ โรคมะเร็ง  โรคไตวาย โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะโคม่าต่างๆ  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนมองว่าไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากประกันทั้งสองแบบมากนัก บางคนแทบไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยสักครั้งตั้งแต่ทำประกัน ส่วน ประกันโรคร้ายแรง ยิ่งแล้วใหญ่เพราะหลายคนมักหลอกตัวเองว่าไม่มีโอกาสเป็นโรคร้ายแรง จึงทำให้มองว่าได้แต่จ่ายค่าเบี้ยประกันไปเปล่า ๆ ในแต่ละเดือน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนนึกอยากยกเลิกประกันอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลง แต่ในความจริงการยกเลิกประกันอาจทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะลูกค้า Cigna ประกันภัย

สำหรับการ ยกเลิกประกัน Cigna หากตัดสินใจยกเลิก ประกันอุบัติเหตุ ผลเสียที่เกิดขึ้น คือ ต้องสำรองเงินจ่ายเองทุกครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวเมื่อประสบอุบัติเหตุ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงจนไม่สามารถจัดการได้ โดยเฉพาะในกรณีมีภาวะโคม่าหรือจำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ แต่ถ้ามีประกันอุบัติเหตุก็จะช่วยตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้เลย เนื่องจากสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ  ตัวอย่างเช่น ประกันอุบัติเหตุ "คุ้มครองทันใจ" ที่ชดเชยค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 50,000 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง นอกจากนั้นประกันอุบัติเหตุบางแผนยังมีการชดเชยรายได้ให้ด้วย เช่น Cigna ประกันภัย ประกันอุบัติเหตุ รักครอบครัว ที่ชดเชยรายได้สูงสุด 1,000 บาท ต่อครั้ง เมื่อเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วยอุบัติเหตุและยังมีการชดเชยรายได้ครอบครัวต่อเดือนสูงสุดอีก 40,000 บาท รวม 12 เดือน

แต่หากตัดสินใจยกเลิก ประกันโรคร้ายแรง เมื่อเกิดโรคร้ายขึ้นสิ่งที่ตามมา คือ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแน่นอนว่าต้องมีการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานทำให้มีค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก แต่การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้มีเงินสำรองเพียงพอในการรักษาตัว เช่น ประกันโรคร้าย "มะเร็งไม่เคลมคืนเร็ว" ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 2,400,000 บาท เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง นอกจากนั้นยังได้เงินชดเชยรายได้ครอบครัวสูงสุดอีกเดือนละ 40,000 บาท นานถึง 12 เดือน และค่ารักษาพยาบาลพิเศษเพิ่มเติมสูงสุด 100,000 บาท กรณีมะเร็งระยะลุกลาม

จะเห็นได้ว่าการ ยกเลิกประกัน Cigna ไม่ว่าจะเป็นประกันแบบไหนก็ได้ไม่คุ้มเสียทั้งนั้น เพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นการมีประกันทั้ง 2 แบบ จะช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่าเพราะไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือโรคร้ายมีโอกาสเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกเวลา

40
อุปกรณ์ที่ใช้ในการชงค็อกเทลมีอะไรบ้าง มาทำความรู้จักกัน

หลายๆ คนอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่า กว่าจะได้เครื่องดื่มค็อกเทลมาแต่ละแก้วนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้เต็มไปด้วยศิลปะในการชง ทั้งนี้ก็เพราะว่าเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นเป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากนำส่วนผสมหลายๆ อย่างมาชงรวมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ขึ้น ซึ่ง สูตรค็อกเทล ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นจะมีส่วนประกอบที่เป็นเหล้าอยู่ 1 ชนิด หรือมากกว่า 1 ชนิด ผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ อย่างเช่น น้ำผลไม้ ไซรัป วอดก้า หรือโซดา เป็นต้น โดยจะผสมในอัตราส่วนเท่าใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเลือกว่าจะใช้ สูตรค็อกเทล ใดนั่นเอง และเมื่อพูดถึงค็อกเทลแล้วนั้นในวันนี้เราจะมาแนะนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการชงเครื่องดื่มชนิดนี้กัน

1. Shaker (เชคเกอร์) แน่นอนว่าเชคเกอร์นี้คือชื่อที่เราได้ยินกันเป็นประจำและคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแล้วเกี่ยวข้องอย่างไรกับการชงเครื่องดื่มตาม สูตรค็อกเทล ที่มี ฉะนั้นไปทำความรู้จักกับมันกัน จริงๆ แล้วเชคเกอร์นั้นมันเป็นอุปกรณ์ที่ไว้เพื่อทำให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันด้วยการเขย่าตามความหมายของชื่อ ซึ่ง สูตรค็อกเทล โดยส่วนใหญ่แล้วใช้รูปแบบการชงด้วยการเขย่า และการเขย่านี้จะทำให้เครื่องดื่มค็อกเทลมีความเย็นในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเชคเกอร์นี้จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่เป็นกระบอก, ส่วนที่เป็นฝากรอง และส่วนที่เป็นฝาปิดนั่นเอง และการเลือกซื้อเชคเกอร์นั้นควรเลือกที่เป็นสแตนเลสสตีลเพราะจะสามารถทำให้เครื่องดื่มเย็นได้ไวและมีความแข็งแรงทนทานมากกว่า

2. Jigger (จิ๊กเกอร์) หรือที่บางคนเรียกมันว่า "ที่ตวงเหล้า"  ถือเป็นว่าเป็นเครื่องมือสำคัญอันดับแรกๆ ของการทำค็อกเทลเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าจิ๊กเกอร์นั้นเป็นที่ใช้สำหรับตวงปริมาณของเหลวที่จะใช้ผสมเป็นค็อกเทล ซึ่ง สูตรค็อกเทล แต่ละสูตรนั้นจะใช้ปริมาณส่วนผสมที่มากน้อยแตกต่างกันไป ฉะนั้นบาร์เทรนเดอร์โดยส่วนใหญ่แล้วใช้กันทุกคนเลย เพราะว่าส่วนผสมที่ผิดพลาดจาก สูตรค็อกเทล เพียงเล็กน้อยนั้นจะทำให้รสชาติของเครื่องดื่มค็อกเทลเพี้ยนไปในทันที ฉะนั้นในการเลือกซื้อจิ๊กเกอร์ควรดูความแข็งแรงและความสะดวกในการทำความสะอาดด้วย และโดยหลักสากลแล้ว 1 jigger จะเท่ากับ 1.5 Oz. (ออนซ์) หรือประมาณ 45 ml. และไม่ว่าจะเป็น jigger ขนาดใดนั้น ส่วนที่เป็นด้านเล็กจะมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของด้านใหญ่เสมอ

3. Barspoon (บาร์สปูน) สูตรค็อกเทล บางสูตรนั้นจะใช้วิธีกาชงด้วยการเทรินแล้วคน ฉะนั้นการที่เรานำส่วนผสมของค็อกเทลแก้วเทรินใส่ในแก้วผสมแล้วก็ต้องมีการใช้ช้อนคน ซึ่งช้อนนี้ก็คือ ช้อนบาร์นี่เอง ซึ่งช้อนบาร์นี้จะมีลักษณะแตกต่างกับช้อนทั่วไปตรงที่จะมีก้านยาวกว่านั่นเอง ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการคนให้ถึงก้นแก้ว นอกจากนี้น้ำหนักและความหนาของช้อนบาร์ก็สำคัญเช่นกัน เพราะไม่ควรบางจนเกินไป เนื่องจากบางครั้งเราต้องใช้มันตีก้อนน้ำแข็ง อีกทั้งควรเลือกใช้ช้อนบาร์ที่จับถนัดมือจะดีที่สุด

4. Mixing Glass (แก้วผสม) อย่างเรารู้แล้วว่า สูตรค็อกเทล บางสูตรนั้นก็ต้องมีการผสมวัตถุดิบต่างๆ แยกต่างหากไว้ก่อนที่ใส่แก้วเพื่อเสิร์ฟ ฉะนั้นแก้วผสมนี้จึงมีหน้าที่ในการการผสมส่วนต่างๆ ของค็อกเทลให้ลงตัวเสียก่อน ซึ่งแก้วผสมนี้ควรเลือกใช้วัสดุที่เป็นเนื้อแก้วหรือโลหะสแตนเลส อีกทั้งต้องมีความแข็งแรงและมีความหนาพอสมควรที่ใช้ช้อนบาร์คนผสมด้วยวิธีการคนแบบหมุนหรือแบบกระทุ้งได้ และบาร์เทรนเดอร์บางคนนั้นก็ใช้ส่วนที่เป็นแก้วของบอสตันเชคเกอร์ในการเป็นแก้วผสม

5. Strainer (สเตรนเนอร์ ) ใครหลายๆ คนอาจจะเรียกมันว่า ที่กรองหรือฝากรองก็ได้ โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะใช้คู่กับแก้ว Boston Shaker เสมอ เพราะมันเป็นส่วนที่เอาไว้กรองน้ำแข็งออกจากเครื่องดื่มที่เราผสม ซึ่งในปัจจุบันนั้นไม่ค่อยจะเป็นที่นิยมนำมาใช้เท่าไหร่นัก

6. อุปกรณ์อื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องปั่น, ที่คั้นน้ำผลไม้ กล่องตกแต่งขอบแก้ว หรือที่รินเหล้า เป็นต้น ทั้งนี้เราจะใช้อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมก็ขึ้นอยู่กับว่า สูตรค็อกเทล นั้นเป็นอย่างไรต้องชงแบบไหนนั่นเอง

41
ยกเลิกประกัน Cigna ระหว่าง ประกันอุบัติเหตุ กับ ประกันโรคร้ายแรง แผนไหนส่งผลกับเราที่สุด

ต้องยอมรับว่าการทำประกันในปัจจุบันกับ Cigna นั้นมีความสะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก เพราะนอกจากการซื้อกรมธรรม์ผ่านตัวแทนเหมือนเดิมแล้ว ยังสามารถซื้อผ่านทางออนไลน์และทางโทรศัพท์ได้อีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางคนจะมีประกันมากกว่าหนึ่งกรมธรรม์ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปหลายคนอาจตัดสินใจยกเลิกอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ ประกันโรคร้ายแรง และ ประกันอุบัติเหตุ ที่หลายคนมองว่าไม่ได้ประโยชน์จากการทำประกันและมีความรู้สึกว่าต้องเสียเงินเบี้ยประกันไปเปล่าๆ ทุกเดือน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะยกเลิกประกันแผนไหน ด้วยไม่รู้ว่าแผนไหนที่ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตมากที่สุด
ซึ่งหากอยาก ยกเลิกประกัน Cigna สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างแรก คือ ‘ความเสี่ยง’ หากในชีวิตประจำวันมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ทั้งในระหว่างการเดินทางไปทำงานที่มีความเสี่ยงหรือแม้แต่นิสัยส่วนตัวบางอย่างที่ทำให้มีความเสี่ยง เช่น เป็นคนที่ขาดความระมัดระวัง  ประกันที่ไม่ควรยกเลิกอย่างยิ่งก็คือ ประกันอุบัติเหตุ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นสิ่งที่แบกรับ คือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่นับวันก็ยิ่งมีอัตราค่าบริการสูงขึ้น ดังนั้นหากในชีวิตมีความเสี่ยงมากประกันอุบัติเหตุจะช่วยทำให้อุ่นใจเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนั้นยังไม่ต้องกังวลว่าจะขาดรายได้เพราะมีแผนประกันอุบัติเหตุที่มีจ่ายเงินค่าชดเชยรายได้ต่อวันหากต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ เช่น ซิกน่า ประกันอุบัติเหตุ ส่วนบุคคล ชดเชยรายวัน บวกบวก ที่ชดเชยรายได้สูงสุด 1,000 บาทต่อวัน และรับเงินชดเชยรายได้เพิ่มอีกสูงสุด 50,000 บาทกรณีนอนพักรักษาตัวติดต่อกันเกินกว่า 15 วัน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ‘ความเสี่ยง’ นั้นไม่ได้มีแค่การเกิดอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียวเพราะโรคร้ายแรงยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตโดยเฉพาะโรคมะเร็งทุกชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนไทย รองลงมาคือ โรคหลอดเลือดในสมอง อีกทั้งยังมีโรคเรือรังอื่นๆ ที่ทำให้คุณภาพชีวิตต่ำลงและต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคไตวาย และ โรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล  ด้วยเหตุนี้ ประกันโรคร้ายแรง จึงมีความสำคัญมาก เพราะเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงจะได้เงินค่าชดเชยก้อนใหญ่เพื่อนำไปรักษาตัว เช่น  ประกันโรคร้ายแรง ประกันมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 1,800,000 บาท เมื่อตรวจพบ 4 โรคร้าย ไตวาย โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง ภาวะโคม่า และยังหมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะมีค่าชดเชยรายได้สูงสุดอีกวันละ 1,200 บาท หากต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลและค่าชดเชยรายได้เพิ่มสูงสุด 12,000 บาทต่อเดือน กรณีเจ็บป่วยนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกินกว่า 15 วันติดต่อกัน รวมถึงค่าห้อง ICU สูงสุด 1,200 บาทต่อคืน สูงสุด 15 วัน ด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ว่าตัดสินใจ ยกเลิกประกัน Cigna แผนไหน ก็ส่งผลเสียได้พอๆ กัน เนื่องจากในปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมีค่าบริการสูงกว่าแต่ก่อนค่อนข้างมากและในบ้างกรณีต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่าจะหายเป็นปกติ หากประกันไม่ครอบคลุมอาจทำให้ได้รับการรักษาไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้นจึงควรมีประกันทั้ง 2 แผนนี้ไว้เพื่อรับมือทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต




42
เครื่องดื่มสูตรค็อกเทล เครื่องดื่มที่งานรื่นเริงต่างๆ ควรมี

เครื่องดื่ม สูตรค็อกเทล เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับผู้คนที่ชื่นชอบในการดื่มเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์อยู่แล้ว วิธีการเลือกเครื่องดื่มเพื่อที่จะนำมาไว้ในงานรื่นเริงต่างๆ นั้นควรเป็นเครื่องดื่มแอลกฮอลล์หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ต่างๆ หรือส่วนผสมอื่นๆเป็นหลัก ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้มีมากมายหลากหลายสูตร สามารถนำมาใช้ในงานรื่นเริงได้อย่างหลากหลาย โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องดื่ม สูตรค็อกเทล นี้สามารถนำแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นตัวของ วอดก้า เข้ามาเป็นส่วนผสมหลักนั่นเอง

การนำเครื่องดื่มค็อกเทลมาพร้อมเสิร์ฟตามงานรื่นเริงต่างๆนั้น จะต้องมีการคิดค้นว่ามีสูตรใดบ้าง ที่จะเหมาะกับงานรื่นเริงประเภทนี้ เพื่อที่จะให้มีสีสันในงานที่ดูสดใส สวยงาม เพื่อมอบให้ผู้คนที่ได้รู้สึกผ่อนคลาย เมื่อได้รับเครื่องดื่มนี้ไปแล้วนั่นเอง ซึ่งเครื่องดื่มจะมีส่วนผสมของวอดก้าเป็นหลักนั้นเอง ซึ่งเป็นสุราที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นเป็นน้ำใสคล้ายคลึงกับน้ำเปล่า เกือบทั้งหมด ซึ่งในงานต่างๆนั้น ผู้จัดงานจะใช้แอลกอฮอล์ชนิดนี้ในการผสมกับเครื่องดื่มค็อกเทล เพราะสามารถที่จะผลิตสูตรให้ดูเข้ากันกับส่วนผสมต่างๆเพิ่มมากขึ้น ให้มีสีสัน และรสชาติที่แปลกใหม่ ในการที่เราจะนำเครื่องดื่มนี้ เข้ามาให้ผู้คนต่างได้ดื่มกัน เพื่อให้เกิดความสดชื่นนั้นเอง ต่างมีสูตรมากมาย แต่เราสามารถที่จะคิดค้นสูตรขึ้นมาเองได้ โดยที่มีส่วนผสมหลักอย่างของแอลกอฮอล์นี้ ซึ่งเครื่องดื่มวอดก้าที่นิยมดื่มเป็นอย่าง มากจากทั่วโลกไม่มีใครที่ไม่รู้จัก และผู้คนต่างเลือกดื่มในจำนวนมากอีกด้วยเช่นกัน

การนำเครื่องดื่มค็อกเทล มาให้บริการนี้ ในงานต่างๆเหล่านี้ ทำให้ผู้คนที่ได้เข้ามาร่วมงาน ต่างเกิดความประทับใจและความน่าสนใจ ต่อรูปแบบของเครื่องดื่ม เพราะจะมีสีสันที่สวยงาม พร้อมด้วยรสชาติที่รู้สึกสดชื่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรสชาติในแต่ละสูตรนั้น จะให้รสชาติที่หวานอมเปรี้ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเหมาะกับงานรื่นเริงอยู่แล้วนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราก็ได้มาแนะนำสูตรเครื่องดื่มค็อกเทล เพื่อที่จะให้ผู้คนในงานรื่นเริง ต่างได้ลิ้มลองกัน เพื่อให้เกิดความสดชื่น เพิ่มมากขึ้น ในการเข้าร่วมงานที่มีความสดใสนั่นเอง ซึ่งเราจะขอแนะนำเป็นสูตร Moscato Lemonade ซึ่งมีส่วนผสม Pink Moscato 750 มล. น้ำสตรอเบอร์รี่ ผสมน้ำมะนาวถ้วยวอดก้า 1/2 ถ้วย มะนาวสไลด์บางๆ ซึ่งขั้นตอนในการทำ นำ Pink Moscato น้ำสตอเบอรี่ผสมน้ำมะนาว และผสมให้เข้ากัน แล้วสไลด์มะนาวใส่ลงไป เพื่อความสวยงามพร้อมเสิร์ฟกับน้ำแข็ง ซึ่งหน้าตาเครื่องดื่มสูตรนี้ จะมีสีสันที่สดใส และรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว เพื่อให้ความสดชื่นต่อผู้คนที่ได้เข้ามาในงานรื่นเริงนั้นเอง

เครื่องดื่มค็อกเทล Moscato Lemonade ซึ่งเหมาะสำหรับงานรื่นเริงเป็นอย่างมาก หน้าตาที่ดูสดใสของเครื่องดื่ม พร้อมกับรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว ทำให้ผู้คนที่ได้เข้ามาในงานนั้น ต่างรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา ในการที่เราจะเลือกทำค็อกเทลมาเสิร์ฟในงานรื่นเริงต่างๆนั้น เราจะต้องดูก่อนว่าสูตรนี้ เหมาะสำหรับงานประเภทนี้หรือไม่ เพราะมีหลากหลายสูตรให้ได้เลือกทำกันอย่างมากมาย ไม่ว่าเราจะไปตามงานใดก็ตามนั้น ที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องดื่มในการเพิ่มความสดชื่นความสดใส ให้กับผู้คนที่ได้เข้ามาภายในงานให้เกิดความสนุก ซึ่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมนี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้คนทั้งหลายเป็นอย่างมาก เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา และกระปรี้กระเป๋าเมื่อได้ทานเครื่องดื่มเข้าไปแล้ว

เครื่องดื่มค็อกเทล มีส่วนผสมหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งส่วนผสมหลักก็คือวอดก้า มีสรรพคุณเป็นแอลกอฮอล์นั่นเอง และมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ที่ได้รับความนิยมและนำไปใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มค็อกเทลเป็นส่วนมาก นั่นก็คือ Smirnoff นั่นเอง เป็นแบรนด์ที่มีการผลิตที่มีคุณภาพ มีหลายสูตรให้ได้เลือกดื่มกัน และแต่ละสูตรนั้น จะมีความแตกต่างกันอย่างมากมาย และในการเลือกซื้อ Smirnoff สามารถที่จะซื้อผ่านทางร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าต่างๆพร้อมด้วยราคาที่สามารถเอื้อมถึงอย่างแน่นอน และเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับผู้คนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อได้ลองลิ้มรสชาติ ได้รับอรรถรสที่ดีพร้อมรสชาติที่เยี่ยมอย่างแน่นอน

43
ตอบคำถามคาใจ “ใช้ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ?” ด้วย ซิกน่า สิ

เราทราบกันดีว่าการเดินทางไปต่างประเทศนั้นช่วยมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แต่ในขณะเดียวกันคนจำนวนมากก็ยังไม่ลืมว่าการเดินทางมักมีความเสี่ยงแฝงอยู่ด้วยเสมอ ปัจจุบันกลุ่มคนเหล่านี้จึงเล็งเห็นความสำคัญของการ ซื้อประกันการเดินทาง ตั้งคำถามกับตัวเองก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่เสมอว่าควรจะเลือกซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี รวมทั้งวางแผนการเดินทางอย่างรัดกุม เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุไม่คาดฝันขึ้น จะได้รับมือได้อย่างทันท่วงที ซึ่งนั่นถือเป็นการตื่นตัวที่ดีมากทั้งยังเป็นการปลูกฝังความไม่ประมาทให้กับลูกหลานและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

การเดินทางแบบไหนที่ควร ซื้อประกันการเดินทาง ?
หลายคนอาจคิดว่าประกันเดินทางจะจำเป็นก็ต่อเมื่อเดินทางไกล หรือเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นชินเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วขึ้นชื่อว่าการเดินทางไม่ว่าจะใกล้ไกลก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน ดังนั้นหากขึ้นชื่อว่าเป็นการเดินทางต่างประเทศแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นประเทศใกล้ ๆ แค่เพื่อนบ้านกันหรือจะเป็นประเทศที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่ง การตั้งคำถามกับตัวเองว่าควรจะเลือกซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ

การ ซื้อประกันการเดินทาง ช่วยให้อุ่นใจได้อย่างไร?

ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน โดยใช้ประกันการเดินทางของ ซิกน่า มาอ้างอิง
-   ประกันเดินทางของซิกน่า คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและร่างกายตลอดการเดินทาง
-   ประกันเดินทางของซิกน่า คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สิน
-   ประกันเดินทางของซิกน่า ขยายความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง
-   ประกันเดินทางของซิกน่า เสมือนเป็นผู้ช่วยประสานงานและเป็นที่ปรึกษาในระหว่างเกิดเหตุไม่คาดฝัน

นั่นหมายความว่าผู้ทำประกันเดินทางของซิกน่าจะได้รับทั้งสิทธิประโยชน์ทั้งในด้านสุขภาพ ร่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงได้ผู้ช่วยและที่ปรึกษาที่ดีเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเดินทางไปต่างประเทศที่ไหนใกล้ไกลแค่ไหนก็สามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจเมื่อ ซื้อประกันการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม ประกันการเดินทางนั้นมีหลากหลายแผนและหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ แต่ส่วนมากเมื่อถามว่าเลือกซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี มักจะได้รับคำตอบว่า ประกันเดินทางของ ซิกน่า นั้นสะดวก รวดเร็วและมีความคุ้มครองครบถ้วน ประกันเดินทางของซิกน่า จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากในช่วงนี้ สามารถเปรียบเทียบหาความคุ้มครองที่ครบครันมากที่สุดรวมถึงการติดต่อและซื้อได้ ที่ https://www.cigna.co.th/our-plans/travel-insurance



44
สูตรค็อกเทลเครื่องดื่มชวนหลงใหล

สูตรค็อกเทล เป็นเครื่องดื่มค็อกเทล ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้คนหลายท่านต่างชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเหล้า เบียร์ แต่การเลือกเครื่องดื่มค็อกเทลนี้ ทำให้แลดูมีความน่าตื่นเต้น ความประทับใจเพิ่มมากขึ้น เพราะมีสีสันที่สวยงาม และโดดเด่น เหมาะสำหรับงานประเภทต่างๆอย่างเช่น งานปาร์ตี้ งานรื่นเริง เพื่อที่จะให้ผู้คนนั้น ต่างเลือกดื่มเครื่องดื่มได้อย่างเต็มที่ โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนต่างให้ความสนใจกับเครื่องดื่มประเภทนี้เป็นอย่างมากเพราะเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติ มีความกลมกล่อม และสดชื่นเป็นอย่างมาก จึงทำให้ผู้คนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่างเกิดความสนใจ เมื่อได้มาตามงานรื่นเริงต่างๆนั่นเอง
สูตรค็อกเทล ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ชวนน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก เพราะมีสีสันที่สวยงาม และรสชาติที่เข้ากัน ในการที่เราจะเลือกสูตรเครื่องดื่มค็อกเทลนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องดื่มค็อกเทลจะมีส่วนผสมหลักของแอลกอฮอล์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้คนต่างเลือกใช้ วอดก้า เข้ามาเป็นส่วนผสมหลักของเครื่องดื่ม ในแต่ละสูตรต่างๆนั่นเอง ซึ่งเครื่องดื่มชนิดนี้ มีหลากหลายสูตร เพื่อให้ผู้คนได้เลือกลิ้มลองรสชาติกันอย่างเต็มที่ และสามารถที่จะนำเครื่องดื่มนี้ไปดื่มเพื่อผ่อนคลาย ซึ่งตอบสนองต่อผู้คนทั้งหลายได้เป็นอย่างดี การที่เราจะเลือกเครื่องดื่มให้กับบุคคลใดก็ตาม หรือสำหรับดื่มตามสถานที่ใด จะต้องมีการคำนึงถึงว่า ในส่วนของงานที่จัดนั้น เป็นอย่างไร ในแต่ละสถานที่ ควรที่จะเลือกสูตรค็อกเทลชนิดใดตัวใด เพื่อให้ผู้คนมีความสนุกสนาน ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ มีหลากหลายชนิด และหลายรูปแบบ ให้ผู้คนได้ลิ้มลองกันอย่างมากมาย แต่สำหรับค็อกเทลนี้ จะต้องเลือกสูตรที่จะให้เหมาะกับสถานที่ต่างๆนั่นเอง เพื่อให้มีความกลมกลืน และรสชาดที่พึงพอใจพร้อมกับหน้าตาของเครื่องดื่มที่มีความสดใสด้วยเช่นกัน
การดื่ม เครื่องดื่มค็อกเทลนี้ ชวนน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก สามารถที่จะทำเองได้ง่าย หรือหากเพื่อนๆไปใช้บริการตามร้านอาหารสถานที่บันเทิงต่างๆ มีสูตรหรือขั้นตอนในการทำอย่างง่ายดาย โดยส่วนใหญ่ผู้คนต่างเลือกเครื่องดื่มตัวนี้ ซึ่งนั่นก็คือ Champagne Mules มีส่วนผสมดังนี้ วอดก้า 2 ออนซ์ น้ำมะนาว 2 ออนซ์ จิงเจอร์เบียร์ 4 ออนซ์ แชมเปญแช่เย็น มะนาวสไลด์ และใบมิ้น และขั้นตอนในการทำเทวอดก้า และน้ำมะนาวสดอย่างละ 1 ออนซ์ ลงในแก้วสองใบ แล้วใส่จิงเจอร์เบียร์ตามลงไป แก้วละ 2 ออนซ์ จากนั้นเทแชมเปญลงไป แล้วตกแต่งด้วยมะนาวสไลด์ และใบมิ้น ซึ่งมีสีสันที่น่ารับประทานเป็นอย่างมาก รสชาติที่อมเปรี้ยวหวานนั่นเอง เป็นตัวค็อกเทลตัวนึง ที่เมื่อได้รับประทานแล้วจะเกิดความรู้สึกสดชื่นพร้อมกับหน้าตาที่ดูน่าหลงไหลเป็นอย่างมาก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้คนที่ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดนี้ เป็นอย่างมาก
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นั้น มีอย่างหลากหลายมากมาย หลายชนิดให้ผู้คนหลายท่านได้ทดลองในการลิ้มรส ลองดูสักครั้งหนึ่ง ซึ่งรับรองว่าจะได้รับความประทับใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกสดชื่นในการดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้นั่นเอง ไม่ว่าเราจะไปตามสถานที่ใด ที่มีการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต่างก็ต้องพบเจอกับเครื่องดื่มวอดก้าเหล่านี้อย่างมากมาย ซึ่งทำให้เกิดความน่าสนใจ มีหน้าตาที่น่าลิ้มลอง พร้อมด้วยรสชาติที่มีความเอร็ดอร่อย อมเปรี้ยวหวาน และเหมาะกับการจัดงานตามสถานที่ต่างๆอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้คนหลายท่านต่างชื่นชอบในการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อได้มาทดลองเครื่องดื่มชนิดนี้ ต่างจะต้องประทับใจ และมีความสดชื่น เมื่อได้ดื่มเข้าไปในทันที
วอดก้าซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในตัว 35-70% เป็นสีใสคล้ายคลึงกับน้ำเปล่า แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งได้ผ่านกระบวนการหมักมาแล้วหลายครั้ง เพื่อให้เกิดการความบริสุทธิ์ จะหมักด้วยกากน้ำตาลเป็นอย่างดี ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อให้ผู้คนได้ลิ้มลองกันอย่างมากมาย และหลากหลายรสชาติหลากหลายกลิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Smirnoff ผู้คนหลายท่านต่างความรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมีรสชาติที่กลมกล่อมให้ความสดชื่น เป็นอย่างมากนั่นเอง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้คนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ต่างก็ต้องชื่นชอบกับเครื่องดื่มวอดก้าชนิดนี้ ด้วยเช่นกัน นำไปผสมกับค็อกเทล ให้แลดูมีความเอร็ดอร่อยได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถที่จะคิดค้นได้อีกด้วยเช่นกัน ว่าควรที่จะเป็นสูตรใด มาทำเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสม ที่น่ารับประทานน่าลิ้มลองเป็นอย่างมากนั่นเอง  

45
อยากเที่ยวแต่ไม่อยากทำวีซ่า จะไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี

ในความคิดของหลายคนการเตรียมเอกสารสำคัญเมื่อต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวนั้นคือเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขอวีซ่า ซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน แม้ว่าในปัจจุบันบางประเทศจะลดความยุ่งยากลงด้วยการยื่นขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ และ การยื่นขอวีซ่าผ่านสนามบินปลายทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องเสียเวลาเตรียมและกรอกเอกสารมากมาย ได้แก่ แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน รูปถ่ายหน้าตรงซึ่งแต่ละประเทศมีข้อกำหนดแตกต่างกัน หลักฐานทางการเงินที่แสดงศักยภาพทางการเงิน และเอกสารอื่น ๆ ที่แสดงเจตนาว่ามีวัตถุประสงค์ตามที่ขอวีซ่า แค่เห็นเอกสารที่ต้องเตรียมก็ทำให้หลายคนถอดใจ และตัดสินใจไปเที่ยวประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าแทน ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 32 ประเทศให้เลือก จนหลายคนไม่รู้ว่าจะเลือก เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี

แต่หากถามว่า เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี ที่เดินทางง่าย สะดวก ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง และสำคัญคือไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก เชื่อว่า ‘ประเทศสิงคโปร์’ อาจเป็นคำตอบที่ทำให้หลายคนถูกใจ เพราะเดินทางโดยเครื่องบินประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง สนามบินชางงี สนามบินนานาชาติสิงคโปร์ที่เต็มไปด้วยความทันสมัยจนหลายคนบอกเห็นแค่สนามบินก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว สมกับที่ครองแชมป์สนามบินยอดเยี่ยมที่สุดในโลก 6 สมัยซ้อน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสิงคโปร์นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น สวนพฤษศาสตร์การ์เด้นส์บายเดอะเบย์ สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ จุดชมวิว 360 สิงคโปร์ ฟลายเออร์ ย่านช้อปปิ้งสุดทันสมัยอย่างถนนออร์ชาร์ด Fort Canning Park สวนสาธารณะชื่อดังที่ไม่ว่าใครไปก็ต้องแวะไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และสำหรับสิ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเมื่อไปถึงประเทศสิงคโปร์ คือการแวะทักทาย สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (Merlion) ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่หน้าอ่าวมาริน่าเบย์ แลนมาร์คสำคัญของประเทศสิงคโปร์ ที่ไม่ว่าใครไปก็ต้องไปถ่ายรูปคู่ด้วยเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่เช่นนั้นคงเหมือนมาไม่ถึงประเทศสิงคโปร์

สำหรับการเลือกท่องเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์นั้น นอกจากจะมีข้อดีตรงที่เดินทางสะดวกและมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกมากมายแล้ว ยังเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยมากอันดับหนึ่งของโลก จึงสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ คนเดียวได้อย่างสบายใจ อย่างไรก็ตาม ประกันการเดินทาง ก็ถือว่ายังมีความจำเป็นอยู่มากเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ขึ้นชื่อว่ามีค่าใช้จ่ายสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หากไม่ได้ทำเผื่อไว้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ดังนั้นก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรมองหาประกันเพื่อการเดินทาง ที่ครอบคลุมความเสียหายในทุกด้าน เช่น Cigna ประกันภัย ประกันการเดินทางต่างประเทศ ที่คุ้มครองทั้งกรณีเกิดอุบัติเหตุและเจ็บป่วย รวมถึงในกรณีเสียชีวิตด้วย เพียงเท่านี้ก็ทำให้อุ่นใจไม่ว่าเลือกไปประเทศไหนก็มั่นใจได้ว่ามีคนคอยดูแลตลอดการเดินทาง

46
กล้อง เซลฟี่ ของมันต้องมีจริงหรือไม่ ใช้งานแบบไหนจะเหมาะ

ช่วงนี้เทรนด์กระแสของ กล้อง เซลฟี่ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากการนำดารานักร้องมาเป็นพรีเซนเตอร์ทำให้หลายคนสงสัยว่า กล้อง เซลฟี่ นั้นดีอย่างไรและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีหรือไม่ หากมีไว้ในครอบครองแล้วดีอย่างไร อีกทั้งกล้องชนิดนี้เหมาะกับการใช้งานแบบใด วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้ทราบกัน

เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนต้องการคำตอบว่า กล้อง เซลฟี่ นั้น เป็นสิ่งที่ควรซื้อหรือไม่ จัดอยู่ในสิ่งของที่ต้องมีหรือเปล่า? ข้อนี้ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนมากกว่า หากคุณไม่ได้ชอบเซลฟี่หรือแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้เลย การเลือกกล้อง mirrorless ทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอแล้ว นอกเสียจากว่าอยากซื้อไปแบ่งใช้กับแฟนด้วย แต่หากคุณเป็นที่ชอบการถ่ายเซลฟี่และมีการใช้งานเป็นประจำอยู่แล้วก็ถือว่าเป็นของมันต้องมีสำหรับคุณ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ถ่ายแล้วไม่ต้องเอาไปแต่งอีกหลายแอปแต่สามารถอัปลงโซเชียลได้เลย เพราะมีฟังก์ชันช่วยปรับผิวให้อยู่แล้ว เมื่อถ่ายออกมาแล้วให้ผิวที่เนียนสวยพร้อมใช้งาน

หากเป็นคนที่ชอบการถ่ายเซลฟี่การมีกล้องแบบเซลฟี่ติดตัวไว้ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะนอกจาการใช้ถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ แล้วยังใช้งานกล้องได้ปกติเหมือนกับกล้องทั่วไป เช่น การถ่ายภาพ Portrait หรือการถ่ายวีดีโอ 4K ก็ทำได้แบบสวย ๆ ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายภาพโดยเลือกโหมด Skin tone โหมดนี้จะช่วยปรับผิวให้สวยและสีภาพดูนุ่มนวล หรือจะเป็นการถ่ายวีดีโอเพื่อทำ Vlog ก็ให้ผิวที่ดูสวยใสได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้การถ่ายวีดีโอยังสามารถเสียบไมค์นอกเพื่อเพิ่มคุณภาพเสียงให้ชัดขึ้นได้ด้วย

ควรเลือกกล้อง เซลฟี่ ที่มีหน้าจอแบบหมุนได้ 180 องศาและปรับได้ 3 ทิศทาง เพราะคุณจะได้สนุกกับการหมุนปรับหน้าจอแบบตามใจชอบ ไม่ว่าจะชอบถ่ายรูปมุมสูงหรือมุมต่ำก็ถ่ายได้แบบไม่เมื่อย เพราะไม่ต้องหาอะไรมาตั้งกล้องหรือดันเลนส์ไว้แต่หมุนหน้าจอขึ้นมาเพื่อเช็คหน้าได้เลย และเวลาถ่ายก็กดถ่ายจากหน้าจอได้ อีกทั้งยังเลือกถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เป็นคุณสมบัติพิเศษที่มาควบคู่กับกล้องแบบเซลฟี่รุ่นใหม่ เช่น FUJIFILM X-T100 ฯลฯ ก่อนจะเลือกรุ่นไหนอย่าลืมเช็คหน้าจอกันให้ดีด้วยนะสาว ๆ เพราะมีแล้วถ่ายง่ายขึ้นเยอะเลย

จากที่กล่าวมาด้านบนจะเห็นได้ว่ากล้องแบบเซลฟี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะ ด้วยเหตุเพราะว่าประโยชน์ของมันค่อนข้างตรงตัวอยู่แล้ว แต่หากคุณเป็นคนที่ถ่ายบ้างเป็นครั้งคราวการเลือกกล้องที่ถ่ายเซลฟี่ได้เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งฟังก์ชันก็ถือว่าคุ้มค่ามากกว่า เพราะการใช้งานอื่น ๆ ก็เหมือนกับกล้อง mirrorless แบบทั่ว ๆ ไป


47
เหตุไฉนการลงทุน RMF จึงควรคู่กับเรา บทความนี้ตอบคุณได้

หลายๆ คนอาจจะยังคิดว่าการ เปิดกองทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF นั้นเป็นเรื่องที่ไกลตัวเรามากเกินไป เพราะกว่าจะขายหน่วยลงทุนได้ ก็ต้องมีอายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไป ต่างกับคนอีกจำนวนหนึ่งที่กลับมองว่าการ ลงทุน RMF คือ การเตรียมตัวก่อนเกษียณที่ดี และไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เราจึงขอมาไขข้อข้องใจ ว่าทำไมคนเหล่านั้นจึงเลือกที่จะวางแผนเกษียณ โดยใช้การ ลงทุน RMF เป็นหนึ่งในเครื่องมือชั้นยอด

1. เลือกลงทุนได้อย่างหลากหลาย
กองทุน RMF มีระดับความเสี่ยงที่หลากหลายมาก ตั้งแต่ระดับต่ำสุด คือ มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร เงินฝาก และ ตั๋วแลกเงิน จนถึงระดับสูงสุด คือ กองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกนโยบายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่เhttps://www.scb.co.th/th/corporate-banking/credit-facilities/guarantee/scb-acceptance-aval.htmlหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตัวเองได้ง่าย หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ ก็ควรเลือกกองทุน RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้ ในกรณีที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรเลือก กองทุนรวม RMF ที่ลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้น สำหรับท่านที่สามารถรับความเสี่ยงได้มาก ก็เลือกกองทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ หรือลงทุนในทองคำ ทั้งหมดนี้สามารถเลือกได้ตามความต้องการ

2. ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ประสบการณ์ตรงจากหลาย ๆ คน เกี่ยวกับการวางแผนลดหย่อนภาษี นั่นคือ หากใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีของการลงทุน LTF เต็มที่แล้ว สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีของ RMF เพิ่มเติมได้อีก ดังนั้น สำหรับท่านที่ยังไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามเป้า การ ลงทุน RMF ไม่ว่าจะมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ตั๋วแลกเงิน ตราสารทุน หุ้น กองทุนรวม ต่างประเทศ หรือทองคำ ก็จะกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยกันทั้งสิ้น

3. ช่วยสร้างความมั่งคั่งในช่วงวัยเกษียณ
สำหรับใครที่เริ่มคิดวางแผนการเงินในช่วงวัยเกษียณ การ ลงทุน RMF ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างความมั่งคั่ง เพื่อความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต เนื่องจาก กองทุนรวม RMF กำหนดขายหน่วยลงทุนไว้ที่อายุ 55 ปีขึ้นไป โดยก่อนหน้านั้นจะต้องซื้อหน่วยลงทุนทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท และตามหลักการปกติทั่วไปจะถือว่า การ ลงทุน RMF นั้นมักจะเอาชนะเงินเฟ้อได้สบาย ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นการ ลงทุน RMF สำหรับผู้ลงทุนที่ศึกษาและวางแผนการลงทุนมาเป็นอย่างดี จึงมีโอกาสได้สัมผัสความมั่งคั่งที่มากกว่าการชนะเงินเฟ้อได้อย่างไม่ยากเย็น

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า การ ลงทุน RMF นั้นมีประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในส่วนของทางตรง คือ การลงทุนในระยะยาว เพื่อความมั่นคงในอนาคต และในส่วนของทางอ้อม คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องวางแผนเพื่อลดหย่อนภาษี ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี กองทุนรวม RMF ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ลงทุน ช่วยลดความกังวลในการลงทุน สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงไม่ได้ และยังช่วยให้การลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถเข้ากับสไตล์การลงทุนได้ในหลากหลายรูปแบบนั่นเอง

48
เทคนิคการเลือกซื้อลิปสติกให้ใช้งานอย่างปลอดภัย และอุ่นใจทุกครั้งที่ทาบนริมฝีปาก

สาว ๆ บางคนได้กล่าวไว้ว่า ต่อให้ไม่ได้แต่งเติมอะไรบนใบหน้าเลย ก็ขอทา ลิปสติก ให้ปากให้แดงไว้ก่อน ก็ถือว่าผ่านแล้ว นั่นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของริมฝีปาก หากริมฝีปากมีสีสันที่สดใส จะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูมีออร่าได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจกันเลยทีเดียว ไม่แปลกใจที่เราจะเห็นสาว ๆ ชอบที่จะ แต่งหน้าฝรั่ง ต่างคัดสรรเลือกซื้อลิปสติกกันอย่างเมามัน เพื่อให้ได้ สีลิป ที่ตัวเองชื่นชอบ และพร้อมมาแต่งแต้มเรียวปากให้สวยใสได้อย่างไร้ขีดจำกัดกันเลยทีเดียว

ในเมื่อ สีลิปสติก กลายเป็นที่ต้องการของสาว ๆ อย่างไม่ขาดสาย ทำให้ผู้ผลิตเครื่องสำอางทั้งหลาย ต่างรังสรรค์ออกแบบลิปสติกมาให้สาว ๆ ได้เลือกซื้อใช้งานกันอย่างจุใจ มีหลายแบบหลากสีให้ได้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติกสีนู้ด แบบเนื้อแมท, แบบฟรอสตี้, แบบเนื้อเชียร์, แบบซาติน และ แบบเนื้อครีม ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ให้ความงามที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนกัน ทำให้สาว ๆ ได้มีทางเลือกในการนำมาตอบโจทย์เรียวปากได้อย่างพึงพอใจสูงสุด เรามาดูเทคนิคในการเลือกซื้อลิปสติกให้ใช้งานกันอย่างปลอดภัยดีกว่า

1.เลือกซื้อลิปสติกของแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐาน ใช้งานแล้วจะปลอดภัยต่อริมฝีปากของคุณ ผ่านการทดสอบแล้วว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัย ที่สำคัญยังได้รับการรับรองมาตรฐานว่าใช้งานแล้วจะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

2.เลือกซื้อลิปสติกที่มีส่วนผสมที่ปลอดภัย นั่นคือไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายหรือมีสารตกค้าง อย่างส่วนผสมพวก สารหนู, ตะกั่ว, สารปรอท, แอนติโมนี ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดการระคายเคือง และทำร้ายตับ และอาจเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย และควรเลือกลิปสติกที่ไม่ผสมสารกันเสีย และ ผสมน้ำหอมจนมีกลิ่นแรงมากจนเกินไป

3.เลือกซื้อลิปสติกที่ผลิตใหม่ ไม่หมดอายุ และไม่ผลิตมานานจนเกินไป เพราะลิปสติกอาจจะเสื่อมคุณภาพ ซึ่งเผลอ ๆ นอกจากใช้งานแล้วไม่สวยถูกใจยังเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานอีกด้วย ก่อนตัดสินใจซื้อควรดูฉลากวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุให้ดีก่อนซื้อทุกครั้ง

ลิปสติกที่ดีนอกจากจะทำให้คุณสวยแล้วต้องทำให้คุณปลอดภัยด้วย ถึงจะเรียกว่าเป็นลิปสติกที่ดีและมีคุณภาพอย่างแท้จริง สิ่งสำคัญอยู่ที่การเลือกซื้ออย่างชาญฉลาด ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าปล่อยผ่านจนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำร้ายตัวคุณเอง แม้อาจจะไม่เห็นผลลัพธ์ในทันที แต่ก็อาจเป็นการสะสมสารเคมีในร่างกายได้ อยากมีเรียวปากที่สวยและสุขภาพดี อย่าลืมนำเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ไปใช้เพื่อความปลอดภัยระยะยาว


49
แต่งตาให้ดูสวยหรู ดูแพง ทำได้ไม่ยากกับเทคนิคไม่ลับ ฉบับย่อ

เทรนด์แต่งหน้าอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น การแต่งหน้าสไตล์สาวสายไฮโซ ที่มองเมื่อไหร่ก็ดูแพงแบบไม่ต้องง้อของแบรนด์เนมให้มากมาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ ออฟฟิศที่วัน ๆ จะต้องเจอกับทั้งงานที่สุดแสนจะวุ่นวาย เจ้านายขี้จุกจิก แถมเราจะต้องออกไปสวยสู้กับลูกค้าข้างนอกอีก สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังต้องการวิธีการแต่งหน้า โดยเฉพาะการจับสีคู่ดวงตาและคิ้ว ให้ได้ลุคสวย และดูแพงแบบไม่ยุ่งยาก  ในวันนี้ทีมงานของเราก็ได้ทำการรวบรวมวิธีจับคู่สีแบบแต่งเมื่อไหร่ ก็ได้ลุคแพง ๆ มาบอกกัน ดังต่อไปนี้

น้ำตาล ชมพู คู่สีอายแชโชว์แพงสุดที่ไม่ควรมองข้าม   
สำหรับสาว ๆ คนใดที่คิดว่าสีชมพูเหมาะสำหรับสาวใส สาวแบ๊วเพียงอย่างเดียว คงต้องบอกให้เปลี่ยนความคิดใหม่  เพราะอันที่จริงแล้วสองสีนี้ถือเป็นคู่สีที่ช่วยเพิ่มความแพงให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี เพียงแต่เราต้องรู้จักเลือกโทนใช้โทนสีชมพูและน้ำตาลให้เหมาะสมกับสีผิวของเราเท่านั้นเอง ส่วนอายแชโดว์โทนชมพู และน้ำตาลที่เป็นที่นิยมเช่นพาเลทอายแชโดว์ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก เดอะบลัช นู้ดส์ พาเลทท์ ที่มาพร้อมกับสีชมพูและน้ำตาลแบบโรสโกลด์ ที่เหมาะอย่างมากกับสภาพผิวของสาวเอเชีย

กรีดอายไลเนอร์ สร้างลุคส์ที่แตกต่าง
ไม่ต้องกังวลว่าการกรีด อายไลเนอร์สีน้ำตาล จะทำให้ลุคส์ที่ดูแพง ดูแพงน้อยลง เพราะเราสามารถกรีดอายไลน์เนอร์ได้ตามต้องการ เพียงแต่หลังจากกรีดตาแล้วควรใช้อายไลเนอร์แบบเจลอย่างเมย์เบลลีน นิวยอร์ก ลาสติ้ง ดราม่า เจล ไลเนอร์ทาทับบริเวณหางตาและเกลี่ยให้กลมกลืนกัน เพื่อให้ได้ลุคส์ที่สวยละมุน แต่สะกดทุกสายตานั่นเอง

ปัดมาสคาร่าแบบไม่ต้องเน้นความหนา
สาว ๆ หลายคนมักคิดว่าถ้าอยากให้ดวงตาดูคม สวย ก็ควรปัดมาสคาร่าให้หนาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่เหมาะเลยกับลุคส์สวยและดูแพงอย่างที่เราตั้งใจ ดังนั้นเราจึงควรเลือกมาสคาร่าสูตรเจลที่ช่วยเพิ่มความงอน หนาให้ขนตาแต่บางเบาอย่างเมย์เบลลีน นิวยอร์ก วอลุ่ม เอ็กซ์เพรส เดอะ ไฮเปอร์เคิร์ล มาสคาร่าที่จะช่วยให้ดวงตาคู่สวยชวนมองไปตลอดทั้งวัน

เขียนคิ้วที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
สาว ๆ หลายคนมักตกม้าตายตรงเรื่องคิ้ว เพราะคิดว่ายิ่ง เขียนคิ้ว ด้วย เจลเขียนคิ้ว เข้มเท่าไหร่ หน้ายิ่งดูคุมสะดุดตามากเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าหัวใจของการแต่งหน้าแบบลุคส์แพง ๆ ก็คือการกลมกลืนแบบดูดี ดังนั้นคิ้วก็ควรที่จะชัด แต่ต้องเป็นธรรมชาติ ดูไม่หนักมาก ไม่แข็งจนเกินไป ดังนั้นการเลือกแต่งคิ้วสีน้ำตาลแบบฟุ้ง ๆ โดยใช้ที่ เขียนคิ้วแบบฝุ่น จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด (แนะนำเมย์เบลลีน นิวยอร์ก แฟชั่น บราว อัลตร้า ชอล์ก) เพื่อป้องกันปัญหาคิ้วเข้ม หนาและหน้าที่ทื่อดุมากเกินไป

จากสิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพียงเท่านี้ สาวๆ ก็วางใจได้เลยว่าสาวๆ สามารถมีลุคสวยหรู ดูแพง สามารถนำไปแต่งตามกันได้แบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก หรือหากสาวๆ คนไหนอยากเพิ่มลูกเล่นให้กับดวงตาของเราก็อาจเพิ่มกลิตเตอร์ลงไปที่หางตาเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็จะสวย หรู ดูแพง เกินห้ามใจได้ในทุกสถานการณ์อย่างแน่นอนค่ะ






50
ความหลากหลายของรสชาติ กับสูตรค็อกเทลที่มีส่วนผสมของวอดก้า

เมื่อเอ่ยถึงการจัดงานปาร์ตี้ หรืองานสังสรรค์ต่างๆ สิ่งที่จะมีในงานก็คือ อาหาร ผู้คนมากมาย และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องดื่ม เมื่อเอ่ยถึงเครื่องดื่มก็อาจจะนึกถึง เครื่องดื่มแอลกฮอลล์จาก สูตรค็อกเทล ที่เรามักจะเห็นในงานปาร์ตี้ต่าง ๆ เครื่องดื่มค็อกเทล มีต้นกำเนิดมานานมากแล้ว จุดประสงค์ในการทำก็เพื่อต้องการที่จะปรุงและเติมแต่งเหล้าต่าง ๆ ให้มีรสชาติและสีสันที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในสมัยแรก ๆ ที่มีการทำค็อกเทลนั้น จะมีการนำน้ำตาล  ผลไม้ เหล้าต่างๆ ที่ทำจากสมุนไพร หรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม นำมาเติมไปกับเหล้าต่าง ๆ ที่มีอยู่ ให้มีรสชาติและสีสันที่แตกต่างกันออกไป แต่ในยุคปัจจุบันเราอาจจะมีส่วนผสมอย่างอื่นเพิ่มขึ้นอีก และอาจจะตัดบางอย่างออกถ้ารู้สึกว่ามันไม่เข้ากัน

ดังนั้นเมื่อเราทราบแล้วว่า เครื่องดื่มค็อกเทล ที่มีในปัจจุบันนี้อาจจะถูกพัฒนามาจากในอดีตที่อาจจะมีทั้งรสชาติและสีสันที่ไม่ชวนให้ดื่มมากนัก เพราะอาจจะเป็นด้วยในสมัยก่อนส่วนผสมต่าง ๆ อาจจะมีให้เลือกน้อยเลยต้องใช้ไปเท่าที่มีหรือเท่าที่หาได้แต่ก็ยังคงรสชาติให้มีส่วนผสมหลักที่มีเหล้าอยู่นั่นเอง ค็อกเทล มีส่วนผสมที่มีแอลกอฮอร์อยู่แล้วทุกสูตรก็ว่าได้ ได้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสูตรที่เราต้องเลือกที่จะดื่มกันเอาเองว่าใครชอบรสชาติที่เข้มข้นดุดัน หรือรสชาติที่หอมหวานสีสันสดใส ซึ่งบอกได้เลยว่า ค็อกเทล ในปัจจุบันนี้มีให้เราได้เลือกดื่มอย่างมากมายที่มักจะเห็นบ่อยในงานปาร์ตี้

ค็อกเทล มีหลากหลายรสชาติ เราจะมาทำความรู้จักกับ เครื่องดื่มค็อกเทล ที่เราก็สามารถทำเองได้อย่าง Daiquiri ถือว่า ค็อกเทล สูตรนี้เป็นสูตรดั้งเดิมเลยก็ว่าได้ เพียงนำมะนาวครึ่งลูกมาบีบลงในแก้วที่เตรียมไว้ รินเหล้ารัมสีขาวประมาณ 60 มล.  น้ำตาลทราย 1 ชช. น้ำแข็ง ผสมทุกอย่างรวมกัน หรืออาจจะใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในกระบอกเขย่าก็ได้แล้วค่อยรินใส่แก้วที่เตรียมไว้ เราก็จะได้ เครื่องดื่มค็อกเทล ที่มีรสชาติดุนิด ๆ เปรียวหน่อย ๆ อีกสูตรหนึ่งที่อยากแนะนำ Gin Gimlet เป็นสูตรที่ค่อนข้างคลาสสิก ส่วนผสมหลักก็จะมี เหล้าจิน 45 . น้ำมะนาว 15 มล. น้ำเชื่อม 15 มล.  และนำส่วนผสมทั้งหมดผสมให้เข้ากันเติมโซดาและน้ำแข็งลงไป เพียงเท่านี้ก็จะได้รสชาติที่ร้อนวูบวาบเปรี้ยวสดชื่นแล้ว ถ้าเราไม่ชอบเหล้าจิน ก็สามารถจะเปลี่ยน เป็น วอดก้า ก็สามารถทำได้ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ ค็อกเทล ในรสชาติที่ค่อนข้างดุนิดหน่อยไว้ดื่มอย่างมีความสุขแล้ว

Smirnoff  เป็นแบรนด์ของ วอดก้า ชั้นดี ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลายให้เราได้เลือกที่จะดื่มวอดก้า ซึ่งในบางครั้ง Smirnoff ที่เป็นวอดก้าเกรดเอมักจะถูกเลือกไปเป็นส่วนผสมของ ค็อกเทล ที่เป็นเครื่องดื่มยอดฮิต ทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ กัน และเราสามารถเลือกดื่มวอดก้าได้หลายรูปแบบมีทั้งที่บรรจุในขวดแก้วที่มีให้เราได้เลือกกัน เพราะวอดก้า ชั้นดี ต้องไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และต้องไม่มีรสชาติด้วย และด้วยความที่ Smirnoff ได้เห็นถึงความสำคัญของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ทั้งที่ชอบนำไปผสมกับเครื่องดื่มค็อกเทล หรือที่ชอบดื่มแบบไม่ผสมก็จะนิยมซื้อแบบที่เป็นขวดแก้วไป และก็จะมีอีกกลุ่มที่มักจะเข้าไปใช้บริการร้านสะดวกซื้อ ก็อาจจะไปเลือกที่เป็นแบบบรรจุกระป๋องก็เป็นไปได้ เราจึงได้ชื่อว่าทำวอดก้าได้ตอบโจทย์ด้านการตลาดและความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีด้วย

เพราะเหตุนี้ หากเราชอบเครื่องดื่มแอลกฮอลล์แบบค็อกเทล ที่มีรสชาติและสีสันที่น่าลิ้มลอง ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ร้านอาหารชั้นนำ หรือสามารถเลือกที่จะทำเองก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนัก ในส่วนประผสมหลักที่ต้องใช้ผสมในเครื่องดื่มค็อกเทลให้ได้รสชาติที่ดี จะต้องเลือกซื้อวอดก้า Smirnoff เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมใน ค็อกเทล  สามารถหาซื้อได้ เพราะ Smirnoff เป็นวอดก้าชั้นดี เกรดเอ และมีคุณภาพ รับรองว่าหากคุณได้ลิ้มลอง คุณจะไม่ผิดหวัง


หน้า: [1] 2