ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - เล็กสัญชัย

หน้า: [1]
1

 

นักพัฒนาอสังหาฯหรือเจ้าของอสังหาฯที่ต้องการจะลงทุนสร้างห้องแถว หรือตึกแถวนั้น ทราบหรือไม่ว่ากฎหมายอสังหาฯมีความสำคัญอย่างไร?? และจำเป็นต้องรู้หรือไม่?? คำตอบคือจำเป็นมาก และต้องรู้อย่างชัดเจนและถูกต้อง ดังนั้นจำเป็นต้องดำเนินการโดยอ้างอิงตามกฎกระทรวงฉบับที่ 55 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2543

 

เกี่ยวกับขนาดความกว้างของตึกและระยะร่นอาคาร เพราะความไม่รู้อาจเป็นสาเหตุให้เจ้าของตึกต้องเสียเวลาแก้ไข แถมยังเสียค่าปรับตามกฎหมายมาแล้วหลายกรณี แต่ถ้าให้ดีก็ควรต้องเว้นที่ว่างเพื่อก่อสร้างหรือต่อเติมบ้าน ต่อเติมอาคารภายหลังด้วย เพราะการต่อเติมที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นก็ยังถือว่ามีโทษทางกฎหมายเช่นเดียวกัน สาระอสังหา ยกประเด็นระยะร่นอาคารและที่เว้นว่าง ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2543 มาอธิบายและสร้างความเข้าใจให้ผู้ลงทุน ตามหลักกฎหมายการเว้นที่ว่างและระยะร่นอาคาร คืออะไร

 



 

ระยะร่นอาคาร คือ ความสำคัญที่ควรคำนึงถึงลำดับต้น ๆ ของการสร้างบ้านหรืออาคาร เป็นการตรวจสอบระยะให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจะมีการวัดระยะร่นจากทางสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง ต้องมีระยะห่างจากที่ดินข้างเคียงแบ่งตามประเภทของอาคารและขนาดของถนน

 

การเว้นที่ว่าง คือ พื้นที่ที่ไม่มีหลังคาบ้านหรือสิ่งก่อสร้างปกคลุม ซึ่งพื้นที่ว่างดังกล่าวสามารถเปลี่ยนให้เป็น สระว่ายน้ำ บ่อพักน้ำเสีย ที่จอดรถยนต์นอกอาคาร โดยจะแบ่งตามข้อกฎหมายของอาคารเดี่ยวและอาคารชุดตามประเภทอาคารอีกครั้ง การก่อสร้างต้องมีความสูงไม่เกินเท่าไรถึงจะนับว่าเป็นที่ว่างสามารถใช้ประโยชน์ได้
ข้อกำหนดกฎหมายอสังหาฯ ลักษณะและระยะร่นของอาคาร ตึกแถว ห้องแถว บ้านแถว

 

1. ห้องแถวหรือตึกแถว

ห้องแถว คือ อาคารที่ก่อสร้างต่อเนื่องกันเป็นแถวยาว ตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป มีผนังแบ่งอาคารเป็นคูหาและประกอบด้วยวัสตุไม่ทนไฟเป็นส่วนใหญ่

ตึกแถว คือ อาคารที่ก่อสร้างต่อเนื่องกันเป็นแถวยาว ตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป มีผนังแบ่งอาคารเป็นคูหาและประกอบด้วยวัสตุทนไฟเป็นส่วนใหญ่

 

1.1 ลักษณะอาคาร

แต่ละดูหาต้องมีความกว้างที่วัดระยะตั้งฉากจากจุดกึ่งกลางของเสาหนึ่งไปยังจุดกึ่งกลางของเสาอีกดัานหนึ่งไม่น้อยกว่า 4 ม.
ความลึกของอาดารไม่น้อยกว่า 4 ม. และไม่เกิน 24 ม. หรือสำหรับกรณีที่ความลึกมากกว่า 16 ม. ต้องจัดให้มีพื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 10 ใน 100 ของพื้นที่ชั้นล่างของอาคารหลังนั้น ๆ (ระยะ 12 – 16 ม.)
พื้นที่ชั้นล่างของแต่ละคูหาไม่น้อยกว่า 30 ตร.ม. และต้องมีประตูให้เข้า – ออกได้
1.2 ระยะร่นอาคาร

อาคารสูงไม่เกิน 3 ชั้นและไม่ติดถนนสาธารณะ ต้องมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 6 ม.
อาคารสูงเกิน 3 ชั้นและไม่ติดถนนสาธารณะ ต้องมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 12 ม.
มีพื้นที่ว่างด้านหลังอาคารอย่างน้อย 3 ม.
เว้นระยะห่างระหว่างผนังตึกแถวและเขตที่ดินข้างเคียงอย่างน้อย 2 ม.
หากห้องแถวหรือตึกแถวติดถนนสาธารณะ ระยะร่นจะเป็นไปตามขนาดความกว้างของถนนนั้น ๆ
 



 

2. บ้านแถว

บ้านแถว คือ ห้องแถวหรือตึกแถวที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ซึ่งมีที่ว่างด้านหน้าและด้านหลังระหว่างรั้วหรือแนวเขตที่ดินกับตัวอาคารแต่ละคูหา สูงไม่เกิน 3 ชั้น

 

2.1 ลักษณะอาคาร

มีความกว้างที่วัดระยะตั้งฉากจากจุดกึ่งกลางของเสาหนึ่งไปยังจุดกึ่งกลางของเสาอีกด้านหนึ่งไม่น้อยกว่า 4 ม.
ความลึกของอาคารไม่น้อยกว่า 4 ม. และไม่เกิน 24 ม. หรือสำหรับกรณีที่ความลึกมากกว่า 16 ม. ต้องจัดให้มีพื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 20 ใน 100 ของพื้นที่ชั้นล่างของอาคารหลังนั้น ๆ (ระยะ 12 – 16 ม.)
พื้นที่ชั้นล่างแต่ละดูหาไม่น้อยกว่า 24 ตร.ม.
2.2 ระยะร่นอาคาร

บ้านแถวที่มีจุดประสงค์เพื่ออยู่อาศัย ต้องมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 3 ม. และด้านหลังอย่างน้อย 2 ม.
ระหว่างแถวด้านข้างทั้ง 10 คูหา หรือความยาว 40 ม. ต้องมีที่ว่าง- ระหว่างแถวด้านข้างของบ้านอย่างน้อย 4 ม. ตลอดช่วงความลึกของบ้านแถว
บ้านแถวที่สร้างรวมกันไม่ถึง 10 คูหา หรือความยาวน้อยกว่า 40 ม. มีที่ว่างระหว่างแถวด้านข้างของบ้านห่างน้อยกว่า 4 ม. จะไม่ถือว่าเป็นที่ว่าง แต่ถือว่าบ้านแถวสร้างต่อเนื่องเป็นแถวเดียวกัน
 



 

หลายคนอาจตั้งคำถามว่าทำไมกฎหมายอสังหาฯเกี่ยวกกับตึกแถว กฎหมายอาคาร ต้องมีการระบุตัวเลขพื้นที่ว่างหรือ ระยะร่นอาคาร นั่นเพราะความรู้สึกเสียดายพื้นที่เพียงไม่กี่เมตร แต่เว้นไว้สร้างความปลอดภัยให้ผู้อยู่อาศัยและเพื่อนบ้านข้างเคียงจะคุ้มค่ากว่า ซึ่งข้อดีของการเว้นพื้นที่นอกหนือจากนี้ยังเป็นเรื่องของสุขอนามัย ความเป็นส่วนตัว ระยะที่ไม่บดบังทัศนียภาพซึ่งกันและกัน ในอนาคตยังมีพื้นที่เพื่อก่อสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมอาคารอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้คิดลงทุนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไม่ควรพลาด อาจเจอโทษปรับทางกฎหมายหรือร้ายแรงถึงขั้นรื้อถอนกันเลยทีเดียว

 

ดังนั้นโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย สถาบันอบรมด้านอสังหาริมทรัพย์ ระดับนานาชาติจึงได้เปิดสอน หลักสูตร รวมข้อกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ (RE100) ขึ้นเพื่อให้เจ้าของกิจการ ผู้สนใจ และนักลงทุนที่ต้องการศึกษาข้อกฎหมายอสังหาฯขึ้นนั่นเอง

 



 

สนใจติดต่อและสอบถามบริการ TREBS (อบรม-สัมมนา) และ AREA (ประเมิน-วิจัย)

โทร: 02-295-3905 ต่อ 114 (K.สัญชัย)
ID: @trebs หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/@trebs

 

ขอขอบคุณ: สาระอสังหา.com


Tag : พรบ.ผังเมือง , กฎหมายคอนโด , กฎหมายบ้านจัดสรร , กฎหมายอสังหาฯ , รวมข้อกฎหมาย , กฎหมายที่ดิน , พรบ.ควบคุมอาคาร[img]

2

รายละเอียด
สิ่งที่จะได้รับ จากการเข้าสัมมนารอบพิเศษ

เห็นภาพสถานการณ์อสังหาฯปัจจุบัน
มองเห็นปัจจัยหลัก (หัวใจ) ในการลงทุนอสังหาฯ
เข้าใจเทคนิคการประเมินค่าอสังหาฯ และ การวิเคราะห์ทำเล เบื้องต้น
กรณีศึกษา การประเมินอสังหาฯ เพื่อการลงทุน อย่างง่าย
พบกับผู้เข้าอบรมที่ประสบความสำเร็จเป็นนักลงทุน นายหน้า นักพัฒนาที่ดิน หรือผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน
จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนท่านเข้าอบรมหลักสูตรการประเมินค่าทรัพย์สินระยะยาว AP101 หลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง
------------------------------------------

สิ่งที่จะได้รับจากการอบรมหลักสูตรประเมิน (AP101)

การประเมินอสังหาฯ แต่ละประเภท (Workshop On Site อาคารชุด, อะพาร์ตเมนต์, อาคาร สนง. , บ้านจัดสรร, อาคารพาณิชย์, ที่ดินเปล่า)
ลงมือทำจริง มีผู้ประเมินชั้นวุฒิ เป็นผู้ให้คำแนะนำตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ
(แถม) เครื่องมือวิเคราะห์ ที่มีประสิทธิผล เพื่อการลงทุน
ดูงานอสังหาฯ Eastern Sea Board 2 วัน 1 คืน (EEC- Eastern Economic Corridor)
ดูงานการทำนิติกรรมสัญญา สถานที่ราชการ
การคำนวณค่าเช่าอสังหาฯ ระยะสั้น - ยาว
การตั้งราคาขายอสังหาริมทรัพย์ในสถานการณ์ที่มีข้อมูลน้อย
ต้นทุนอาคาร อายุอาคาร และ ค่าเสื่อม
แนวคิดการจัดการอาคารเก่า
การประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้
การวิเคราะห์ความเป็นไปได้โครงการ
สามารถวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ เพื่อประโยชน์สูงสุด (Highest - Bestused)

3
วันอังคารที่ 10 - พุธที่ 11 มกราคม 2566 เวลา 08:30 - 17:00 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

รายละเอียด
การเลือกจัดรูปแบบโครงสร้างองค์กรที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางภาษีสูงสุด
การเลือกวิธีการรับรู้รายได้และประเภทภาษีที่ต้องชำระที่แตกต่างกัน จุดพึงระวังในการวางแผนภาษีอสังหาที่แตกต่างกับการจัดทำบัญชีธุรกิจประเภทอื่น

หัวข้ออบรม
-ผลกระทบของ พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีผลต่อ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
-ภาษีอากรตามบทบัญญัติประมวลรัษฎากร ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในสถานะนิติบุคคล – บุคคลธรรมดา และเทคนิคการคำนวณภาษี
-การวางแบบแผนของรายได้-รายจ่าย / การวางแผนประเด็นทรัพย์สิน – หนี้สิน และการวางแผนภาษีการให้เช่า อสังหาริมทรัพย์
-การวางแผนภาษีอากรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเทคนิคในการบริหารจัดการเสียภาษีให้มีประสิทธิภาพ
-การวางระบบบัญชีและวิธีการบันทึกบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
-เกณฑ์การรับรู้รายได้และเทคนิควิธีการวิเคราะห์งบการเงินของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

https://youtu.be/EC18VCm1zRY

--การนับชั่วโมงบัญชี--
รหัสหลักสูตร 6211-04-024-007-01 การวางแผนภาษีและการจัดทำบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
(ชั่วโมง บัญชี CPD 6.00 ผู้สอบอื่นๆ 8.00 ผู้ทำอื่นๆ 8.00)
 ***อัปเดต 10/05/2565***

ติดต่อ
02-295-2294
ID Line: @trebs
www.trebs.ac.th

4
วันอังคารที่ 10 - พุธที่ 11 มกราคม 2566 เวลา 08:30 - 17:00 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

รายละเอียด
การเลือกจัดรูปแบบโครงสร้างองค์กรที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางภาษีสูงสุด
การเลือกวิธีการรับรู้รายได้และประเภทภาษีที่ต้องชำระที่แตกต่างกัน จุดพึงระวังในการวางแผนภาษีอสังหาที่แตกต่างกับการจัดทำบัญชีธุรกิจประเภทอื่น

หัวข้ออบรม
-ผลกระทบของ พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีผลต่อ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
-ภาษีอากรตามบทบัญญัติประมวลรัษฎากร ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในสถานะนิติบุคคล – บุคคลธรรมดา และเทคนิคการคำนวณภาษี
-การวางแบบแผนของรายได้-รายจ่าย / การวางแผนประเด็นทรัพย์สิน – หนี้สิน และการวางแผนภาษีการให้เช่า อสังหาริมทรัพย์
-การวางแผนภาษีอากรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเทคนิคในการบริหารจัดการเสียภาษีให้มีประสิทธิภาพ
-การวางระบบบัญชีและวิธีการบันทึกบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
-เกณฑ์การรับรู้รายได้และเทคนิควิธีการวิเคราะห์งบการเงินของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

https://youtu.be/EC18VCm1zRY

--การนับชั่วโมงบัญชี--
รหัสหลักสูตร 6211-04-024-007-01 การวางแผนภาษีและการจัดทำบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
(ชั่วโมง บัญชี CPD 6.00 ผู้สอบอื่นๆ 8.00 ผู้ทำอื่นๆ 8.00)
 ***อัปเดต 10/05/2565***

ติดต่อ
02-295-2294
ID Line: @trebs
www.trebs.ac.th

5
วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ - เสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 เวลา 08:00 - 17:30 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

รายละเอียด
มาเรียนกับกูรูระดับชาติที่เป็นนักพัฒนาที่ดิน-อสังหาริมทรัพย์ที่มีความรับผิดชอบสูงยิ่งเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนหนทางการสร้างสรรค์

โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ จัดหลักสูตรสำหรับผู้บริหารเพื่อเข้าสู่วงการพัฒนาที่ดินได้อย่างมั่นใจและมีความรับผิดชอบสูงสุดต่อสังคมโดยได้รับความร่วมมือจากกูรูด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยมาแบ่งปันประสบการณ์ เรียนจบแล้วพัฒนาที่ดินได้ทันที

ผู้บรรยาย
อ. ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท
ดร. ประทีป ตั้งมติธรรม
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย
อ. มนตรี เหมวิจิตร
อดีตผู้บริหาร บมจ.ไรมอนด์แลนด์
คุณ สิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์
Chief Executive Officer Park Luxury & Chief Marketing Officer Origin Property บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
ดร. โสภณ พรโชคชัย
ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
อ. อิสระ บุญยัง
ประธานสาขาอสังหาฯ หอการค้าไทย อดีตนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร

ติดต่อ
02-295-2294
ID Line: @trebs
www.trebs.ac.th

6
วันจันทร์ที่ 6 - อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08:00 - 17:30 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

รายละเอียด
กฎกระทรวงโรงแรม เทรนด์ธุรกิจที่พักแนวใหม่ !!
เจาะลึกการบริหารโรงแรมขนาดกลางและเล็ก ครอบคลุมการวิเคราะห์ทำเล

ทำการตลาด คำนวณผลตอบแทน

ดูงาน 6 วัน ทฤษฏี 2 วัน !! ออก Work Shop ลงพื้นที่จริง
ฟังคำแนะนำจากเจ้าของโรงแรม

ผู้บรรยาย
ดร. โสภณ พรโชคชัย
ผู้อำนวยการโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย
เจ้าของโรงแรม
The Quarter หัวลำโพง
The Siamese Hotel Pattaya
KOON Hotel

ติดต่อ
02-295-2294
ID Line: @trebs
www.trebs.ac.th

7
เทคนิคการลงทุนซื้อทรัพย์บังคับคดีรุ่นที่ 10
วันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565 เวลา 09:00 - 17:00 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

รายละเอียด
สัมมนาเจาะลึก เทคนิคการลงทุนซื้อทรัพย์บังคับคดี
ทักษะจำเป็น แนวทางวิเคราะห์ และกรณีศึกษา
-โอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
-การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย
-วิธีการเลือกทรัพย์ที่ทำกำไรได้
-แนวทางการพิจารณาทรัพย์เพื่อการลงทุนในทรัพย์บังคับคดี ทริพย์สินรอการขาย
-เทคนิคการตั้งราคาขาย การคาดการผลตอบแทน ในทรัพย์มือสอง
-ประสบการณ์และทักษะที่จำเป็นการเลือกทรัพย์ มือสอง ทรัพย์บังคับคดี

ผู้บรรยาย
อ. เจริญชัย กิจเวคิน
นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์อิสระ ที่ปรึกษาบริษัทอสังหาฯ กว่า 100 บริษัท
อ. พรภักษ์ บูรณ์ทอง
รองกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและฐานข้อมูล บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
คุณ ลือศักดิ์ สุขเกษม
ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายบริหารทรัพย์สินพร้อมขายธนาคารกรุงไทย
คุณ สัณหกิจ ชูกำเนิด
ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ดร. โสภณ พรโชคชัย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดูงานซื้อทรัพย์บังคับคดีรุ่นที่ 6
วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 เวลา 08:00 - 17:00 น.
ณ กรมบังคับคดี

รายละเอียด
ดูงาน ซื้อทรัพย์บังคับคดี ลงภาคสนามพร้อมนักประเมินราคา
วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565
ราคา 4,000 บาท รวมค่ารถ+ค่าอาหาร (รับจำนวนจำกัด)

กำหนดการ
- ออกเดินทางหน้า รร.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย
- ฟังบรรยายที่กรมบังคับคดี ทรัพย์ประมูลครั้งที่ 1-2-3-4
- ชมบรรยากาศการประมูลทรัพย์
- รับประทานอาหารกลางวัน

บรรยายระหว่างเดินทาง
-วิเคราะห์ทรัพย์ก่อนลงทุน มูลค่าทรัพย์ ราคาที่ควรซื้อ การตรวจสอบราคาข้างเคียง
-ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าตกแต่ง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน
-เทคนิคการตั้งราคาขาย การประเมินผลตอบแทนในการลงทุน
-ข้อควรระวัง ทรัพย์ที่ไม่ควรซื้อแม้ราคาต่ำกว่าตลาด ระวังทรัพย์ติดมือ
-ดูทรัพย์ที่จะประมูล 1-2 รายการ พร้อมหลักการวิเคราะห์มูลค่าฯ ตรวจสอบราคาตลาดพร้อมหลักการตีราคาที่จะประมูลซื้อ
-ถามตอบ
-เดินทางกลับ รร.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

ผู้บรรยาย
อ. เกรียงไกร สุขถาวร
นักลงทุนอิสระ และ Managing Director บริษัท สุขทวี เรียลเอสเตท จำกัด
อ. ปัทมา จันทรานุกูล
กรรมการผู้จัดการ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ดร. โสภณ พรโชคชัย
ผู้อำนวยการโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

ติดต่อ
02-295-2294
ID Line: @trebs
www.trebs.ac.th

8
วันศุกร์ที่ 18 - อาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08:30 - 17:00 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

รายละเอียด
ผู้ผ่านการอบรมมีสิทธิ์เข้าสอบ
-ใบอนุญาตนายหน้ารับรองโดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย
-คุณวุฒิวิชาชีพนายหน้าอสังหาฯ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)

​หัวข้ออบรม
-แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
-ความรู้เรื่องการเงิน การลงทุนเพื่อซื้ออสังหาฯ ของผู้ซื้อ (ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ-มูลค่าในอนาคต / การคำนวณความคุ้มค่าในการลงทุนซื้ออสังหาฯ สำหรับผู้ซื้อเพื่อการอยู่อาศัย – ให้เช่า)
-ศิลปะเทคนิคการหาสินค้ามาขาย และ ความสำคัญของพื้นที่
-การขายและการบริหารการขายอสังหาริมทรัพย์แบบมืออาชีพ
-การขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ
-Mindset เพื่อความสำเร็จในงานนายหน้า
-เอกสารสัญญาที่เกี่ยวข้องกับนายหน้า
-กฎหมายอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับงานนายหน้าฯ
-เทคนิคเบื้องต้นการประเมินค่าทรัพย์สินและการวิเคราะห์ทำเลสำหรับนายหน้า
-วิธีวิเคราะห์มูลค่าจากต้นทุน วิธีเปรียบเทียบตลาดและวิธีแปลงรายได้เป็นมูลค่า ตัวอย่างมูลค่าทรัพย์สินที่ขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่พึงสังวร
-การทำสัญญาจะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์
-วิธีการจะทำสัญญาและตัวอย่างสัญญา ข้อพึงระวังในการทำสัญญา
-ประสบการณ์ในการบริหารงานขายอสังหาริมทรัพย์: ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
-CSR และ จรรยาบรรณวิชาชีพนายหน้าอสังหาฯ
* หมายเหตุ: หลักสูตรและเนื้อหาวิชาสงวนสิทธิ์สำหรับจัดอบรมโดย โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยเท่านั้น

ผู้บรรยาย
Mr. David Dennison
Chief Operation Officer (COO), Franchise Department,Century 21 (Thailand)
อ. กัญญมล แก้วพิศดาร
นายหน้าอิสระ ประสบการณ์นายหน้ามากกว่า 30 ปี
อ. ณัฐจิตา พุ่มเงิน
ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร วินเนอร์ เอสเตท
อ. ธนดล นาครัตน์
ผู้อำนวยการฝ่ายประเมิน บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
คุณ น้ำทิพย์ พรโชคชัย
MD, Area Research Co., Ltd.
อ. นิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์
ผู้อำนวยการสำนักบริหารคุณวุฒิวิชาชีพ 3 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)
อ. ประวิทย์ อนุศิริ
นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย
อ. ปัทมา จันทรานุกูล
กรรมการผู้จัดการ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
อ. ภาวิณีย์ ฐานิตพงศ์ภาวี
ผู้อำนวยการฝ่ายฝึกอบรม บจก.ดาร์วิด พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส
อ. รณิดา พลูเอี่ยม
Chief Operating Officer บจก.อีอาร์เอ เฟรนไชส์ (ประเทศไทย)
อ. ลรินธรณ์ สวัสดิกุลวัฒน์
กรรมการผู้จัดการ บจก.วินเวสเตอร
ดร. โสภณ พรโชคชัย
ผู้อำนวยการโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย
อ. อดิศักดิ์ สถิตธำมรงค์
กรรมการผู้จัดการบริษัท RE/MAX GreenWay
อ. เอกชัย เปลี่ยนโพธิ์
กรรมการ มูลนิธิประเมินค่า นายหน้าแห่งประเทศไทย
หลักสูตรแนะนำอื่นๆ

ติดต่อ
02-295-2294
www.trebs.ac.th

9
หลักสูตร การวางแผนภาษีและการจัดทำบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (RE151)
รุ่นที่ 51, วันอังคารที่ 27 - พุธที่ 28 กันยายน 2565 เวลา 08:30 - 17:00 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย




รายละเอียด
การเลือกจัดรูปแบบโครงสร้างองค์กรที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางภาษีสูงสุด
การเลือกวิธีการรับรู้รายได้และประเภทภาษีที่ต้องชำระที่แตกต่างกัน จุดพึงระวังในการวางแผนภาษีอสังหาที่แตกต่างกับการจัดทำบัญชีธุรกิจประเภทอื่น

หัวข้ออบรม

- ผลกระทบของ พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีผลต่อ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- ภาษีอากรตามบทบัญญัติประมวลรัษฎากร ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในสถานะนิติบุคคล – บุคคลธรรมดา และเทคนิคการคำนวณภาษี
- การวางแบบแผนของรายได้-รายจ่าย / การวางแผนประเด็นทรัพย์สิน – หนี้สิน และ การวางแผนภาษีการให้เช่า อสังหาริมทรัพย์
- การวางแผนภาษีอากรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเทคนิคในการบริหารจัดการเสียภาษีให้มีประสิทธิภาพ
- การวางระบบบัญชีและวิธีการบันทึกบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- เกณฑ์การรับรู้รายได้และเทคนิควิธีการวิเคราะห์งบการเงินของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
Line: @trebs
Call: 02-295-2294
Web: www.trebs.ac.th

10


หลักสูตร การวางแผนภาษีและการจัดทำบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (RE151)
รุ่นที่ 51, วันอังคารที่ 27 - พุธที่ 28 กันยายน 2565 เวลา 08:30 - 17:00 น.
ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไท


รายละเอียด
การเลือกจัดรูปแบบโครงสร้างองค์กรที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางภาษีสูงสุด
การเลือกวิธีการรับรู้รายได้และประเภทภาษีที่ต้องชำระที่แตกต่างกัน จุดพึงระวังในการวางแผนภาษีอสังหาที่แตกต่างกับการจัดทำบัญชีธุรกิจประเภทอื่น

หัวข้ออบรม
- ผลกระทบของ พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีผลต่อ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- ภาษีอากรตามบทบัญญัติประมวลรัษฎากร ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในสถานะนิติบุคคล – บุคคลธรรมดา และเทคนิคการคำนวณภาษี
- การวางแบบแผนของรายได้-รายจ่าย / การวางแผนประเด็นทรัพย์สิน – หนี้สิน และ การวางแผนภาษีการให้เช่า อสังหาริมทรัพย์
- การวางแผนภาษีอากรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเทคนิคในการบริหารจัดการเสียภาษีให้มีประสิทธิภาพ
- การวางระบบบัญชีและวิธีการบันทึกบัญชีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- เกณฑ์การรับรู้รายได้และเทคนิควิธีการวิเคราะห์งบการเงินของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
Line: @trebs
Call: 02-295-2294
Web: www.trebs.ac.th

11

ธุรกิจสุขภาพ หรือ Wellness Business เป็นเมกะเทรนด์ที่เติบโตได้ดีทั่วโลก สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา โดยเฉพาะหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์หดตัวลง ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ต้องเร่งปรับรูปแบบสินค้าและบริการ ผุดโครงการใหม่ ๆ และโมเดลธุรกิจใหม่จากการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล ศูนย์ดูแลสุขภาพ โครงการอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม หรือแพลตฟอร์ม เทคโนโลยีด้านสุขภาพ Telemedicine เป็นต้น

Wellness เค้กก้อนใหญ่ โอกาสของธุรกิจอสังหาฯ

แนวโน้มธุรกิจ Wellness ที่มาแรงทั่วโลกนั้นมีมูลค่าสูงถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 145 ล้านล้านบาท ในปี 2563 โดยแบ่งออกเป็นหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพความงาม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม (Wellness Real Estate) ซึ่งเติบโตได้ดี 22% ต่อปี ขณะที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างโดยรวมหดตัวลง -2.5% ต่อปีจากพิษโควิด-19 ในช่วงปี พ.ศ. 2562-2563 ตามรายงานของ Global Wellness Institute โดยปัจจุบันอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมมีมูลค่าสูงถึง 275 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 ล้านล้านบาท) ในปี พ.ศ.2563 จากเดิม 148 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.9 ล้านล้านบาท) ในปีพ.ศ. 2560
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายใหญ่ไปจนถึงรายเล็ก เปิดตัวโครงการอสังหาฯ ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาธุรกิจใหม่ผ่านการจับมือกับพันธมิตรธุรกิจสุขภาพเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง หลายบริษัททุ่มงบประมาณในการลงทุนโครงการสูง เนื่องจากเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ตามมา ยิ่งในภาวะที่ตลาดอสังหาฯ หดตัว ธุรกิจอสังหาฯ จึงต้องปรับตัวให้พร้อมเพื่อเจาะกลุ่ม Real Demand หาตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจ Wellness ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนเค้กก้อนใหญ่ที่ยังมีผู้เล่นไม่มากนัก
มูลค่าของธุรกิจ Wellness ในวงการอสังหาฯ ไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด หากนับเพียง 8 โครงการจากบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ของประเทศก็มีมูลค่ารวมสูงถึง 1.5 แสนล้านบาทแล้ว ยังไม่รวมโครงการอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่ผู้พัฒนาได้สอดแทรกการดูแลสุขภาพไว้ในรายละเอียดการออกแบบ หรือเพิ่มบริการ เทคโนโลยีด้านสุขภาพเข้ามาในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โรงแรมทั่วไปที่เพิ่มบริการดูแลสุขภาพ และฮอสพิเทล ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร และเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ทั้งนี้หากนับรวมโครงการเหล่านี้มูลค่าของตลาด Wellness จะใหญ่กว่านี้มาก


ความร่วมมือนำไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่

ที่น่าสนใจคือ บริษัทอสังหาฯ หลายรายไม่ได้หันมาทำโครงการหรือสร้างโมเดลธุรกิจใหม่เพียงลำพัง แต่เกิดจากความร่วมมือกับธุรกิจสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลินิก ศูนย์ดูแลผู้สุงอายุต่าง ๆ เพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น
บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ผู้พัฒนาโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส ซึ่งมีมูลค่าโครงการสูงถึง 125,000 ล้านบาท โดยมีพันธมิตร Baycrest Global Solutions ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสมองและการดูแลผู้สูงวัยชื่อดังระดับโลก ที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 100 ปี จากประเทศแคนาดามาเป็นที่ปรึกษา และสร้างโปรแกรม Health and Wellness Activity ในลักษณะ Preventive Care หรือการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ทั้งการลดปัจจัยและความเสี่ยงการเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงวัย และอีกหลายองค์ความรู้ที่นำมาผนวกเข้ากับการแพทย์ในเมืองไทยและเอเชีย เพื่อสร้างสุขภาพกายและสมองที่แข็งแรง และใจที่เป็นสุขแก่ผู้สูงวัย” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในโครงการ ดิ แอสเพน ทรี The Aspen Tree ซึ่งให้บริการในรูปแบบคอนโดผู้สูงอายุอีกด้วย นอกจากนี้ยังจับมือกับเมืองไทยประกันชีวิต ออกแบบประกันชีวิต "อีลิท เฮลท์" คุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่หลังเซ็นสัญญา และช่วงการก่อสร้างโครงการฯ และจะเพิ่มความคุ้มครองเป็น 40 ล้านบาทต่อปี เมื่อโครงการฯ แล้วเสร็จ และโอนสิทธิการเช่าสำเร็จ โดยมีความคุ้มครองยาวนานถึงอายุ 99 ปี สำหรับลูกบ้านโครงการ ดิ แอสเพน ทรี

บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หันมาจับธุรกิจสุขภาพ เปิดตัวโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเริ่มก่อสร้างช่วงปลายปี 2560 ด้วยงบประมาณ 5,000 ล้านบาท และเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2564 โดยเป็นก้าวแรกของพฤกษาในการทำธุรกิจสุขภาพรับเมกะเทรนด์สุขภาพ และสังคมผู้สูงวัย เป็นแหล่งรายได้ประจำใหม่ (Recurring Income) ในพอร์ตของบริษัทที่แต่เดิมเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 100% โดยมีแนวคิดว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะเพิ่มมูลค่าให้โครงการที่อยู่อาศัย ด้วยบริการ Nursing Home และโครงการ ViMUT Health Center ที่โครงการ Pruksa Avenue ในย่านบางนา-วงแหวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยใช้งบลงทุนรวม 150 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพ ที่ครอบคลุมบริการที่หลากหลาย อาทิ คลินิก ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมถึงบริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในปลายปี 2565 โดยปัจจุบันโรงพยาบาลสามารถทำร้านได้ทะลุเปิดเดิม 375 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตราว 15-20% ในปีถัดไป
มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจบริการด้านโรงแรมและที่พักระดับ Ultra Luxury เปิดตัวโครงการ “ตรีวนันดา” (Tri Vananda) ในจังหวัดภูเก็ต เป็นโครงการที่พักอาศัย Wellness Community ที่ดีแบบองค์รวม ผสานแนวคิด Integrative Wellness Community แห่งแรกของเอเชีย เดินหน้าขับเคลื่อน Phuket Medical Hub หนุนไทยก้าวสู่ “ศูนย์กลางด้านดูแลสุขภาพโลก” โดยโครงการสร้างบนพื้นที่ 600 ไร่ ใช้งบลงทุนราว 6,600 ล้านบาทประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนที่พักอาศัย รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ และสวนพฤกษศาสตร์ โดยบริษัทใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างเพียง 15% ส่วนพื้นที่ทั้งหมดยังคงเหลือพื้นที่ส่วนใหญ่ ไว้เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและสร้างสมดุลของแก่ระบบนิเวศน์อย่างดีที่สุด โดยเฉพาะทะเลสาบทั้ง 9 แห่งที่โอบล้อมรอบที่พักอาศัย มีระบบไฟฟ้าจากแสงแดดและการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบด้วยกลไกทางธรรมชาติ เพื่อให้สามารถนำน้ำมาใช้ในโครงการและเอื้อประโยชน์ให้กับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง
บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property) เปิดตัวโครงการ “นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ท” ศูนย์การแพทย์และความงามระดับเวิลด์คลาสควบคู่รีสอร์ทหรูระดับ 6 ดาวริมหาดส่วนตัว รับแนวโน้มธุรกิจสุขภาพที่มาแรงทั่วโลก สอดคล้องกับเป้าหมายที่ประเทศไทยจะเป็น เมดิคัลฮับ (Medical Hub) หรือ ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ โดยที่ดินแปลงนี้ถูกเทคโอเวอร์จากเจ้าของเดิม และซื้อที่ดินเพิ่มรวม 71 ไร่ ริมหาดนาใต้ จ.พังงา โดยประเมินงบลงทุนโครงการราว 4.6 พันล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 7 โซน ประกอบไปด้วย Life Clinic & Well-Being Resort ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพระดับพรีเมียม ควบคู่กับรีสอร์ทหรูระดับ 6 ดาว ห้องพักและพูลวิลล่า รวมของเดิมทั้งสิ้น 177 ยูนิต นำร่องเปิดปลายปี 2564 เฟสถัดไป คือ "เมดิคัล เซ็นเตอร์" ศูนย์การแพทย์พร้อมบริการผ่าตัดทางการแพทย์ และการวินิจฉัยโรค ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เวชศาสตร์การกีฬาชะลอวัย บริการ IVF และ ศูนย์กัญชาบำบัด เป็นต้น คาดแล้วเสร็จทั้งโปรเจกต์ในปี 2568
บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ชูแผนธุรกิจใหม่สร้างอาณาจักร Medical and Wellness ด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โรงพยาบาล แฟรนไชส์ แพลตฟอร์มออนไลน์ และผลิตภัณฑ์ เพื่อหาตลาดกลุ่มใหม่ หลังขาดทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ณุศาศิริ มีประสบการณ์ในธุรกิจสุขภาพมาแล้วในจีน เมื่อปี พ.ศ. 2563 ที่ บริษัทเข้าซื้อแฟรนส์ไชส์โรงพยาบาลจากเยอรมนี เพื่อรุกทำตลาดสุขภาพในประเทศจีนสร้างรายได้และผลกำไรมากกว่า 4 ล้านหยวน ในระยะเวลาเพียง 5 เดือน จากนั้นจึงต่อยอดเป็นแพลตฟอร์มช่วยแปลภาษาต่างชาติเป็นภาษาจีนและช่วยเรคคอร์ดข้อมูลให้กับลูกค้าที่เข้ารักษาตัวสามารถสื่อสารกับแพทย์ต่างชาติได้ เมื่อธุรกิจโรงพยาบาลในจีนเริ่มอยู่ตัว ณุศาศิริขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อแบรนด์โรงพยาบาลพานาซีในเยอรมนีและประเทศไทย ซึ่งดำเนินการเข้าซื้อเป็นที่เรียบร้อยและคาดว่าจะสามารถรวมเข้ากลุ่มธุรกิจได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 โดยใช้งบรวมกันกว่า 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ณุศาศิริ ยังมุ่งไปทางด้านการรักษาผู้ป่วยด้วยสารแคนนาบินอยด์ โดยจับมือกับ บริษัท CSR จากประเทศจีน ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ปั้น Medical Technology ลุยธุรกิจ “กัญชา กัญชง” ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำทั้งการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกหมวด ทั้งสกินแคร์ เครื่องดื่ม และอาหารเสริม ฯลฯ ที่มีสารสกัดจากกัญชาและกัญชงผ่านทุกช่องทาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ณุศาศิริ ยังสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ที่จะเป็นศูนย์กลางในเรื่องสุขภาพ ในนาม “ณุศาเทค” โดยใช้ AI วิจัยและเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของคนไทย อาทิ “MORHELLO” ที่ดึงกลุ่มแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความสนใจในการรักษาโดยใช้สารแคนนาบินอยด์

บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ร่วมพันธมิตร ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและชะลอวัยไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวโครงการ “รักษ” (รัก-ษะ) ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวม บนพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ บนคุ้งบางกะเจ้า สมุทรปราการ โดยตั้งเป้าให้เป็น “World Class medical wellness destination” มูลค่าลงทุนโครงการนี้เฉพาะเฟสแรก 2,000 ล้านบาท โดยในพื้นที่เฟสแรก 60 ไร่ ประกอบด้วยวิลล่า 60 หลัง (เปิดให้บริการก่อน 27 หลัง) พื้นที่ศูนย์สุขภาพต่างๆ แวดล้อมด้วยทะเลสาบและต้นไม้ ส่วนเฟสต่อไปยังอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุน ราคาเริ่มต้นที่ 60,000 บาท เป็นแพ็กเกจตรวจสุขภาพพร้อมที่พัก 1 คืน ส่วนแพ็กเกจรักษาบำบัดจะมีตั้งแต่ 3-14 คืน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโปรแกรมอะไร เช่น โปรแกรมดูแลสุขภาวะทางเดินอาหาร โปรแกรมเสริมภูมิคุ้มกัน โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก โปรแกรมผ่อนคลายความเครียด ราคาแพ็กเกจบำบัดเริ่มต้น 180,000 บาทต่อ 3 คืน โครงการนี้เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของ บมจ. มั่นคงเคหะ ที่ต้องการพัฒนาธุรกิจรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 50/50 และเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจสุขภาพอย่างเต็มตัว
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนาโครงการ ศุภวัฒนาลัย (Supalai Wellness Valley) หมู่บ้านสำหรับ “สังคมผู้สูงวัย 50+” โดยมีเนื้อที่ขยายจากโรงแรมป่าสัก สระบุรี ที่มีอยู่ 189 ไร่ บนโค้งแม่น้ำป่าสัก โครงการนี้เกิดจากแนวคิดของ คุณประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ บมจ. ศุภาลัย เพื่อตอบรับสังคมผู้สูงวัยในประเทศไทย เพื่อสร้างต้นแบบของการใช้ชีวิตของสังคมผู้สูงวัยยุคใหม่ที่มีการอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์สังคม โดยเริ่มต้นยังไม่ได้มองถึงผลทางธุรกิจ โครงการศุภวัฒนาลัย ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีดั้งเดิมในรีสอร์ท ได้แก่ ร้านอาหาร พื้นที่ออกกำลังกาย สวน และสปา รวมทั้งเพิ่มบริการพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ มีพยาบาลดูแลรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก การออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงวัย เช่น ประตูห้องนอนและห้องน้ำบานเลื่อนมีราวจับ แพทย์หรือพยาบาลประจำรองรับเหตุฉุกเฉินพร้อมนำส่งโรงพยาบาล มีกิจกรรมสันทนาการ มีการเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีติดตามตัวคอยเรียกได้ตลอด 24ชม ในโครงการมีบ้านพักรวม 144 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท เบื้องต้นจะแบ่งการก่อสร้างเป็น 4 เฟส โดยเฟสแรก 65 ยูนิต พร้อมเข้าอยู่ในปี พ.ศ. 2563
บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญในด้านอสังหาริมทรัพย์ ร่วมกับ เดอะ แคร์ แอนด์ เฮลธ์ กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์ด้านการฝึกอบรมบุคลากรทางด้านสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐาน พัฒนาโครงการ “ศิริอรุณแคร์” ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ ด้วยงบลงทุน 100 ล้านบาท โดยมี 2 สาขาในกรุงเทพฯและ 1 สาขาในอุบลราชธานี โดยให้บริการดูแลผู้อยู่ในระยะพักฟื้นและผู้สูงอายุ เน้นให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยการวางแผนการดูแลให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการ และสถานะสุขภาพเฉพาะราย
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไปสู่ “Wellness Residences” สร้างความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม (Well-being) ผ่านนวัตกรรม เทคโนโลยีการบริการ และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งจัดเตรียมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการมีสุขภาพที่ดี โดยจะเริ่มนำร่องในกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมหรูภายใต้เครือพาร์ค ลักชัวรี่ (Park Luxury) อาทิ โครงการ ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 4 โครงการ โซโห แบงค็อก รัชดา รวมถึงโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จอย่างพาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ นอกจากนี้ ลูกบ้านทุกโครงการในเครือพาร์ค ลักชัวรี่ จะได้รับบัตร ORIGIN Samitivej Club รับส่วนลดพิเศษเมื่อเข้าใช้บริการที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และศรีนครินทร์ และสามารถเข้าถึงบริการ Samitivej Virtual Hospital ผ่านแอป Origin Connect ร่วมกับนวัตกรรมชุดตรวจสุขภาพเบื้องต้น TytoCare และมีการจัดคอร์สดูแลสุขภาพที่สามารถใช้บริการได้ภายในโครงการโดยวิทยากรจากสมิติเวชอีกด้วย ขณะเดียวกัน จะมีการอำนวยความสะดวกและมอบสิทธิพิเศษให้ลูกบ้านเข้าถึงบริการสุขภาพต่างๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น บ้านจัดสรรเครือบริทาเนีย (Britania) บริการ FitLAB บริการสำหรับลูกบ้านที่รักการออกกำลังกาย รวมถึงผู้สูงอายุที่อยากจะออกกำลังกายด้วย เป็นตัวที่จะเข้ามาช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกายได้ดีขึ้น ถูกต้องถามสรรถภาพของร่างกาย รวมถึงยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายอีกด้วย โดยจะเริ่มในโครงการเบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ พูลวิลล่า บางนา-พระราม 9 โครงการบ้านจัดสรรแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

Wellness Technology ในวงการอสังหาฯ

นอกจากการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยต่าง ๆ แล้วยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในยุคนี้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม หรือ เทคโนโลยีการแพทย์ทางไกล (TeleMedicine) ที่จะทำให้คนสะดวกต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล สอดรับกับแนวโน้มธุรกิจสุขภาพ และสังคมผู้สูงวัย ซึ่งมีบริษัทรายใหญ่หลายรายก้าวเข้ามาทำธุรกิจนี้ ได้แก่
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จับมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช พัฒนาแพลตฟอร์ม WHAbit ล่าสุดได้ประกาศลงนามในบันทึกความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาดิจิทัลเฮลธ์แคร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการและโซลูชันการดูแลสุขภาพสำหรับพนักงานและลูกค้าทั้งหมดในนิคมอุตสาหกรรม โลจิสติกส์เซ็นเตอร์ และอาคารสำนักงานของดับบลิวเอชเอ ผ่านแพลตฟอร์ม WHAbit ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการ สามารถจัดการสุขภาพได้ โดยปรึกษาแพทย์ผ่านทางวิดีโอคอลกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรค การรักษา และการจ่ายยา ได้อย่างสะดวกสบาย โดยดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปมีแผนที่จะนำแอปพลิเคชัน WHAbit นี้ มาให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า หรือผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ภายในไตรมาส 3 ปี 2565
เป็นที่น่าจับตามองว่าแนวโน้มธุรกิจสุขภาพ Wellness ในวงการอสังหาฯ ของประเทศไทยจะเติบโตไปในทิศทางใด จากที่ได้เห็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้ง Startup ต่างพากันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่เข้ามามากมาย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาเปลีี่ยนวิถีชีวิต การดูแลสุขภาพของเรา ในอนาคตที่อยู่อาศัยทุกแห่งอาจเชื่อมกับโรงพยาบาลด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกล ทุกคนจะสามารถติดต่อ ตรวจสุขภาพ สั่งยา จากบ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลใหญ่ สามารถดูแลรักษาตัวเองจากที่บ้าน หรือมีบริการทางการแพทย์เดินทางมาหาเราเองได้ง่าย ๆ รวมไปถึงอสังหาฯ อื่น ๆ ก็อาจให้บริการได้มากกว่าเดิม บ้านอาจไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัย โรงแรมไม่ได้เป็นแค่สถานที่พักผ่อน แต่สามารถให้บริการด้านสุขภาพ และบริการทางการแพทย์เบื้องต้นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ไกลตัวเลย แต่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยของเรานี้เอง
. . . . . . . . . .


หากคุณสนใจเทรนด์สุขภาพในวงการอสังหาฯ
สัมมนาออนไลน์: The Future of Wellness Real Estate
เจาะแนวคิดการพัฒนาของวิทยากรชั้นนำในประเทศไทย
6 พฤษภาคมนี้ 8.30 - 18.00 น.
Online ผ่าน Facebook Group
เพียง 1200 บาท/ท่าน
ดูรายละเอียด >> https://bit.ly/34d1n9P

.
สิ่งที่คุณจะได้รับจากงานสัมมนานี้ ซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหน
TRENDS แสวงหาโอกาสของธุรกิจคุณ ในวันที่เทรนด์สุขภาพมาแรงในวงการอสังหาฯ และธุรกิจสุขภาพ
INSIGHT เจาะแนวคิดธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจสุขภาพจากวิทยากรชั้นนำในประเทศไทย
SMART SOLUTIONS อัพเดทนวัตกรรม เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง

.
โอกาสใหม่ของธุรกิจคุณ อยู่ที่นี่แล้ว
คุณพร้อมจะปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง?

.
ที่มา:
https://globalwellnessinstitute.org
https://www.bangkokbiznews.com/business/930055
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/904597
https://www.prachachat.net/property/news-669387
https://techsauce.co/news/wha-group-join-samitivej-hospital-develop-whabit
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9640000106115
https://www.thansettakij.com/business/492342
https://www.khaosod.co.th/economics/house-condo/news_3265645


Writer



คุณน้ำทิพย์ พรโชคชัย
นักประเมินค่าทรัพย์สินระดับชั้นสามัญ MD, Area Research ผู้พัฒนา Feasy โปรแกรมวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ

12

ในอนาคตที่คนวัยทำงานตอนนี้จะกลายเป็นผู้สูงอายุ ที่อยู่อาศัยแบบไหนที่เหมาะกับสังคมยุคใหม่ และเทรนด์อสังหาฯ จะพัฒนาไปอย่างไร? เรามาดู 5 ทางเลือกที่อยู่อาศัยที่เราคัดมาแล้วว่ากำลังเติบโตในประเทศไทยไว้เป็นทางเลือกกัน จากสถานการณ์ในตอนนี้ ประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ (Aged Society) แล้วในปี 2564 คือ เป็นสังคมที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุในช่วง 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศหรือประมาณ 13 ล้านคน และคาดว่าในปี 2583 หรืออีก 20 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 20 ล้านคน และมีผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไปมากถึง 3.5 ล้านคน ประกอบกับอัตราการมีบุตรที่น้อยลง คนเป็นโสดมากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุในยุคนี้ รวมถึงอนาคตข้างหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่จะอยู่ตัวคนเดียวในบั้นปลายชีวิตมากขึ้น เริ่มมองหาทางเลือกที่อยู่อาศัยในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากการอยู่อาศัยในบ้านเดิมของตัวเอง เพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป


งานสัมมนาออนไลน์ The future of Wellness Real Estate
สำหรับคนที่อยากอัพเดทเทรนด์สุขภาพในวงการอสังหาฯ ที่อยู่อาศัย โรงแรม ห้ามพลาด! ซื้อบัตร Early Bird ภายในวันที่ 1 เมษายนนี้!
ดูรายละเอียด >> https://www.feasyonline.com/wellness2022


เมื่อเรานึกถึงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทย เราก็มักจะถึงทางเลือกได้แค่ประมาณ 3 ประเภท ได้แก่ อยู่ในบ้านตัวเองต่อไป ไปอยู่บ้านพักคนชรา หรือ ซื้อบ้านและคอนโดผู้สูงอายุซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการพ่วงเข้ามาด้วย แต่แท้จริงแล้วมีทางเลือกของที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุนับสิบประเภทเลยทีเดียว โครงการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุหลายโครงการในประเทศไทยก็มีที่อยู่อาศัยมากกว่าประเภทเดียวอยู่ในนั้น เนื่องจากผู้สูงอายุแต่ละคนมีความต้องการต่างกัน ทางเลือกเหล่านี้จึงเหมาะสำหรับคนต่างกัน เช่น บางคนเป็นผู้สูงอายุที่โสด ไม่มีลูกหลาน ติดสังคม ดูแลตัวเองได้ อาจชอบไปอยู่คอนโดผู้สูงอายุมากกว่าอยู่บ้านตัวเอง หรือบางคนอาจต้องการการดูแลจากพยาบาล หรือ หมอเป็นครั้งคราวก็อาจต้องการทางเลือกอื่นเช่นกัน

จากข้อมูลของ SeniorLiving.org ได้แบ่งประเภทของที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุออกเป็น 15 ประเภทเลยทีเดียว โดยมี 2 ปัจจัยหลักที่ใช้ในการเปรียบเทียบทางเลือกที่อยู่อาศัยเหล่านี้ คือ ค่าใช้จ่าย และ ระดับการดูแล ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้สูงอายุต้องใช้ในการพิจารณาเลือกที่อยู่อาศัย เนื่องจากในวัยเกษียณ ผู้สูงอายุจะไม่มีรายได้จากงานประจำเข้ามาแล้ว จำเป็นต้องอยู่อาศัยด้วยเงินเก็บ หรือ รายได้ทางอื่น และยังต้องเก็บเงินเอาไว้รับความเสี่ยงด้านค่ารักษาพยาบาล อีกทั้งหากมีอายุขัยยาวนานก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนปัจจัยด้านระดับการดูแลนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าสุขภาพของผู้สูงอายุ ณ เวลานั้นเป็นอย่างไร หากสุขภาพแข็งแรงดี สามารถดูแลตัวเองได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีคนดูแลมากนัก



ที่มาภาพ: Seniorliving.org

จากภาพด้านบนจะเห็นว่า ที่อยู่อาศัยหลายประเภทมีลักษณะคาบเกี่ยว หรือ คล้ายกัน แต่ก็มีจุดต่างด้านราคา หรือ ระดับการดูแลทำให้ถูกแยกเป็นคนละประเภทนั่นเอง วันนี้ Feasy จะพามาดู 5 ประเภทที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Living) ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าที่อยู่อาศัยแบบใด เหมาะสำหรับผู้สูงอายุแบบไหน


5 ประเภทที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
1. Aging in place อยู่อาศัยในบ้านตัวเองต่อไป
2. Independent Living โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย
3. Residential care home ที่อยู่อาศัยเฉพาะผู้สูงอายุ
4. Nursing home สถานบริบาล
5. Continuing care retirement community (CCRC) ชุมชนคนเกษียณอายุที่มีระบบดูแลต่อเนื่อง



รับชมวิดีโอ >> https://youtu.be/yJ-t4WaA2Zk

1. Aging in place หรือ การอยู่อาศัยในบ้านตัวเองต่อไป
คือการปรับที่อยู่อาศัยเดิมของตัวเองให้เหมาะกับผู้สูงอายุ โดยไม่ต้องย้ายบ้าน

เหมาะสำหรับ: ผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้และชอบอยู่บ้าน มีครอบครัว หรือ สังคมเพื่อนบ้านให้ไปมาหาสู่ หากต้องการการดูแลเป็นพิเศษสามารถเดินทางไปโรงพยาบาล หรือ ใช้บริการพิเศษที่เข้ามาดูแลถึงที่บ้านได้ (Health at Home)

สิ่งสำคัญ: บ้านสำหรับผู้สูงอายุควรจะได้รับการออกแบบ ปรับปรุงให้เหมาะสำหรับการใช้ชีวิต เช่น ย้ายห้องนอนมาอยู่ชั้นล่างเพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินขึ้นบันได เพิ่มราวจับ พื้นกันลื่น ณ จุดต่าง ๆ ของบ้าน และ กล้องวงจรปิด เป็นต้น

ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั่วไป และค่าปรับปรุงบ้านเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุตามกำลังทรัพย์


2. Independent Living โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย
โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย หรือ บ้าน-คอนโดผู้สูงอายุ

เป็นโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่สามารถดูแลตัวเองได้ ส่วนใหญ่ระบุว่าผู้อยู่อาศัยต้องเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 55 – 60 ปีขึ้นไป แต่ในบางโครงการก็อนุญาตให้คนทุกช่วงวัยซื้อสิทธิ์อยู่อาศัยได้เช่นกัน โดยมีรูปแบบที่อยู่อาศัยหลากหลาย บางโครงการอาจจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม หรือ อะพาร์ตเมนต์ โดยผู้เข้าอยู่อาจซื้อสิทธิ์แบบกำหนดระยะเวลาเป็นปี หรือ ทำสัญญาเช่าตลอดชีพ ที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายที่ได้พัฒนา ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย Retirement Community ด้วยการจับมือกับโรงพยาบาล หรือ สถานบริบาล Nursing Home ต่าง ๆ เพื่อตอบรับดีมานด์ของผู้สูงอายุที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย

เหมาะสำหรับ: ผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้ หรือต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย ต้องการเข้าสังคมทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุอื่น ๆ เหมาะกับผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลาน หรือไม่ได้อยู่ใกล้กับลูกหลาน การมาอยู่ใน Retirement Community ช่วยให้ผู้สูงอายุไม่ต้องมีภาระในการดูแลบ้าน สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย มีกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุที่ครบครัน หากต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด บางโครงการจะมีบริการเสริมด้านการตรวจสุขภาพ พร้อมเจ้าหน้าที่ให้บริการอีกด้วย

ค่าใช้จ่าย: ปานกลาง

ขึ้นอยู่กับระดับโครงการที่เลือกซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการภาคเอกชนจะพัฒนาโครงการ สำหรับกลุ่มกำลังซื้อปานกลาง – สูง อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายมักยังไม่รวมค่าอาหารและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั่วไป


อ่านเพิ่มเติม >> อัพเดทราคา 7 บ้าน-คอนโดผู้สูงอายุทั่วไทย ล่าสุดปี 2022!

3. ที่อยู่อาศัยเฉพาะผู้สูงอายุ Residential care home

เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า Care Home และ Nursing Home กันมาบ้างแล้ว ที่อยู่อาศัยทั้งสองรูปแบบนี้มีลักษณะคล้ายกัน แต่จะต่างกันตรงที่ Nursing Home มีระดับการดูแลที่ใกล้ชิดจากแพทย์และพยาบาลเพิ่มขึ้นมา ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นนั่นเอง

เหมาะสำหรับ: Care Home เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเบื้องต้นในกิจวัตรประจำวัน Activities of Daily Living (ADLs) เช่น การเดิน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นต้น ผู้สูงอายุจะได้รับการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการอาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ

ค่าใช้จ่าย: ปานกลาง
ค่าบริการคิดเป็นรายวัน หรือ รายเดือน และมีค่าใช้จ่ายเสริมสำหรับการเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล


4. Nursing home สถานบริบาล

เหมาะสำหรับ: ผู้สูงอายุที่ต้องการบริการทางการแพทย์ การดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์และพยาบาล ในบางที่จะมีผู้ดูแลที่เฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ด้วย ผู้สูงอายุจะได้รับการดูอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในด้านอาหาร และกิจกรรม

ค่าใช้จ่าย: สูง
คิดค่าบริการเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือ รายเดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้องและบริการที่เลือก


5. ชุมชนคนเกษียณอายุที่มีระบบดูแลต่อเนื่อง Continuing care retirement community (CCRC)
โครงการในรูปแบบนี้ คือ โครงการขนาดใหญ่ที่มีทั้ง ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้ (Retirement Community) ที่อยู่อาศัยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแล 24 ชั่วโมง (Residential care home) รวมไปถึงสถานบริบาล (Nursing home) ที่มีพยาบาลและแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เหมาะสำหรับ: ผู้สูงอายุที่ต้องการจะจ่ายเงินเพื่ออยู่อาศัยในโครงการเดิมตลอดชีพ ในช่วงที่ดูแลตัวเองได้อาจอยู่ในส่วน Retirement Community และหากเจ็บป่วย ต้องการการดูแลก็สามารถย้ายไปอยู่ที่ Care home หรือ Nursing home ตามแต่ระดับการดูแลที่จำเป็นต้องได้รับ ข้อดีของโครงการใหญ่ คือ มีสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมมากมาย

ค่าใช้จ่าย: ปานกลาง – สูง ขึ้นอยู่กับแพคเกจที่เลือก

ในประเทศไทยก็มีหลายโครงการในรูปแบบนี้ซึ่งมักเป็นโครงการที่พัฒนาโดยโรงพยาบาล หรือ เป็นการร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น Senior Complex ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 1.82 ล้านบาท หรือ โครงการ Jin Wellbeing County


5 ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Living) นี้คือ 5 ประเภทที่อยู่อาศัยที่เราคัดมาเปรียบเทียบให้คุณได้เห็นชัด ๆ ว่าตอบโจทย์ผู้สูงอายุต่างกันอย่างไร ทั้งนี้เป็นที่น่าจับตามองว่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายได้ก้าวเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบรับความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ที่เปลี่ยนไปจากเดิม ได้แก่ โครงการบ้านผู้สูงอายุ คอนโดผู้สูงอายุ ที่ขายสิทธิ์การอยู่อาศัยเหมือนการเซ้ง 30 ปี แทนการซื้อขาด เนื่องจากคนยุคใหม่เริ่มนิยมเช่าบ้าน มากกว่าซื้อ อาจเป็นเพราะหลายคนไม่มีทายาทให้ส่งต่อมรดก และการเช่าสิทธิ์สามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าจะมีโครงการใหม่ๆ อะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัทพัฒนาอสังหาฯ สถานบริบาล (Nursing Home) และโรงพยาบาล ที่ให้เกิดผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย เช่น โครงการ Health at Home ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถรับบริการตรวจสุขภาพที่บ้านได้ หรือ บริการเดินทางรับส่งผู้สูงอายุไปโรงพยาบาลหรือสถานที่ต่าง ๆ ที่จะตอบโจทย์คนในยุคนี้มากขึ้น


อยากฟังแนวคิด การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ห้ามพลาด!
สัมมนาออนไลน์: รวมเทรนด์สุขภาพมาแรง สำหรับที่อยู่อาศัย-โรงแรม ยุค New Normal

The Future of Wellness Real Estate
6 พฤษภาคมนี้ 8.30 - 18.00 น.
Online ผ่าน Facebook Private Group
ดูรายละเอียด https://www.feasyonline.com/wellness2022



พบกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ

ด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงพยาบาลหลากหลายท่าน

มาเจาะแนวคิดการผสาน Wellness ในวงการอสังหาฯ


  • TRENDS การเปลี่ยนแปลงของที่อยู่อาศัยหลังยุคโควิด และเทรนด์การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
  • SUCCESS CASES เจาะแนวคิดการพัฒนาบริการและ ที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม
  • SMART SOLUTIONS อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อการอยู่อาศัยในยุคนี้

งานนี้เหมาะกับใคร?

  • นักพัฒนาอสังหาฯ ที่กำลังมองหาตลาดด้านสุขภาพสำหรับทุกช่วงวัย รวมถึงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
  • ผู้บริหารโรงแรม อะพาร์ตเมนต์ ที่กำลังมองหาตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ และสุขภาพแบบองค์รวม
  • ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ ที่มองหาโอกาสร่วมกับธุรกิจอสังหาฯ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ

ด่วน! ราคาพิเศษ

ซื้อบัตร Early Bird Ticket เพียง 900 บาท/ท่าน
หรือ Early Bird Group Ticket เพียง 4500 บาท/6 ท่าน
ภายในวันที่ 1 เมษายนนี้!

ดูรายละเอียด >> https://www.feasyonline.com/wellness2022


#WellnessRealEstate #Wellness


References

https://www.consumeraffairs.com/health/senior-living-options.html
https://dailycaring.com/senior-housing-options-overview/
https://www.dop.go.th/download/knowledge/th1512636145-109_4.pdf
https://www.thaipost.net/main/detail/103356


Writer

คุณน้ำทิพย์ พรโชคชัย
นักประเมินค่าทรัพย์สินระดับชั้นสามัญ
MD, Area Research ผู้พัฒนา Feasy โปรแกรมวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ

13


    Wellness Real Estate หรือ อสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม เป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในวงการอสังหาฯ นับว่าเป็นเค้กชิ้นใหญ่ที่นักพัฒนาอสังหาฯ ในไทยจับตามอง

    ทุกวันนี้เราจะได้ยินว่าอสังหาฯ ซบเซา มีการเปิดตัวโครงการน้อยลงมากตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 การซื้อขายก็หดตัวลง แต่ยังมีอสังหาฯ กลุ่มหนึ่งที่เติบโตดีสวนกระแส มีการพัฒนาโครงการรูปแบบนี้มากขึ้น และผู้บริโภคยังยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อซื้ออสังหาฯ กลุ่มนี้อีกด้วย นั่นก็คือ Wellness Real Estate หรือ อสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม จากข้อมูลของ Global Wellness Institute (GWI) อสังหาฯ กลุ่มนี้เติบโตเกือบ 2 เท่าภายในเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น
    จาก 148 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.9 ล้านล้านบาท) ในปีค.ศ. 2017
    เป็น 275 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 ล้านล้านบาท) ในปี ค.ศ. 2020
    สูงกว่าของเดิมที่ GWI คาดการณ์ไว้เมื่อปี 2017 ว่าในปี 2022 มูลค่าของอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม
    จะเติบโตถึง 180 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.9 ล้านล้านบาท)

    เรียกได้ว่าเทรนด์ Wellness Real Estate มาแรงกว่าที่คาดการ์ณอย่างมาก แม้แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบใด ๆ สวนทางกับตลาดอสังหาฯ โดยรวมที่หดตัวลงอย่างมากตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในปี 2019 จากข้อมูลของ GWI ในรายงาน The Global Wellness Economy: Looking Beyond COVID เมื่อเดืิอนธันวาคม ค.ศ. 2021 พบว่าในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือในช่วงปี 2017 – 2019 Wellness real estate เติบโตมากถึง 23% ต่อปีในขณะที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างโดยรวมเติบโตเพียง 5.4% ต่อปี ส่วนในช่วงปี 2019 – 2020 Wellness real estate ยังคงเติบโตได้ดีราว 22% ต่อปี ในขณะที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างโดยรวมหดตัวลง -2.5% ต่อปี
    โครงการอสังหาฯ ที

    จำนวนโครงการ Wellness Real Estate ทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าภายในเวลาเพียง 5 ปี จากการสำรวจของ GWI ใน 34 ประเทศทั่วโลกคาดว่ามีโครงการอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม Wellness Real Estate เพิ่มขึ้นจาก 740 โครงการในปี 2017 เป็นจำนวนมากกว่า 2,300 โครงการในปี 2021 (ในจำนวนนี้รวมทั้งโครงการที่กำลังสร้างอยู่ และสร้างเสร็จแล้วเอาไว้ด้วยกัน) ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวก็ไม่ต่างจากในประเทศไทยเลย เราจะเห็นว่าถึงแม้ตลาดอสังหาฯ ในไทยจะชะลอการเปิดโครงการใหม่ ยอดซื้อขายอสังหาฯ หดตัว แต่ก็มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ที่ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยที่ส่งเสริมสุขภาพสำหรับทุกช่วงวัย ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ บ้านพักคนชรา สถานดูแลผู้สูงอายุ สถานที่ทำงานที่ส่งเสริิมสุขภาพและไลฟ์สไตล์ที่ลงตัว โรมแรมที่ให้บริการด้านสุขภาพและการแพทย์ชะลอวัย รวมไปถึงธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดจากความร่วมมือของต่างธุรกิจ เป็นต้น

    ทำไมเราต้องสนใจ Wellness Real Estate

    หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อสังหาฯ โดยรวมหดตัว กำลังซื้อจากต่างชาติหายไป ทำให้ Developer นักพัฒนาอสังหาฯ ต้องเจาะกลุ่ม Real Demand ที่มีกำลังซื้อให้ได้ นั่นคือต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ โครงการอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้าภายในประเทศที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ๆ เราจะเห็นว่าตลาดอสังหาฯ ในช่วงหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หันไปพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น เช่น ต้อง Work-From-Homes หรือ Learn-From-Home ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพ สุขอนามัย และต้องการพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมภายในครอบครัวมากขึ้น พื้นที่อยู่อาศัยจึงมีความสำคัญขึ้นมาก ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม Wellness Real Estate เป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น

    คนยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี

    เพราะสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ เราจะได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าคนสมัยนี้ทำงานหนัก “เพื่อเก็บเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล” หากเราไม่เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาจจะไปบานปลายเมื่อเราล้มป่วย หรือ เข้าสู่วัยเกษียณได้ ผู้คนจึงเริ่มหันมาสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น เทรนด์ Wellness ทั่วโลกจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึง Wellness Real Estate อสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม ตามที่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ระบุว่าร้อยละ 80-90 ของผลลัพธ์ทางสุขภาพ เกี่ยวโยงกับสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างต่างๆ (built environment) ที่เราใช้ชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน ย่าน หรือเมืองที่เราอยูู่ล้วนส่งผลต่อสุขภาพเราอย่างมาก ดังนั้น Wellness Real Estate จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ ทางอารมณ์ ทางสังคม ทางจิตวิญญาณ ทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงทางการเงิน

    ข่าวดีสำหรับนักพัฒนาอสังหาฯ เพราะ ลูกค้ายอมจ่ายราคาแพงขึ้นราว 10 – 25% สำหรับอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม จากรายงานของ GWI ในปี 2018 ประมาณการว่า Wellness Lifestyle Real Estate ซึ่งส่วนใหญ่จะเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อระดับปานกลาง – สูง จะสามารถขายโครงการในราคาที่สูงกว่าอสังหาฯ ทั่วไปเฉลี่ยราว 10 – 25% ทั้งนี้จากข้อมูลที่สำรวจพบว่า Wellness Lifestyle Real Estate มีราคาขายที่สูงกว่าอสังหาฯ ทั่วไปตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 55% เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบโครงการ การออกแบบ สถาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการส่งเสริมสุขภาพที่เพิ่มขึ้นมาของแต่ละโครงการ โดยสาเหตุที่ลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้น เป็นเพราะว่าผู้บริโภคเห็นความสำคัญของสุขภาพ และคุณค่าของ Wellness Real Estate มากขึ้น อีกทั้งอุปทานยังมีน้อยกว่าอุปสงค์ เพราะยังมีการพัฒนาโครงการรูปแบบนี้ไม่มากนักเทียบกับความต้องการของผู้บริโภค โดย GWI คาดว่าเฉพาะในสหรัฐอเมริกามีผู้ซื้อที่มีศักยภาพมากถึง 1.3 ล้านคนต่อปีแล้ว



    เทรนด์สุขภาพในวงการอสังหาฯ ไทย

    เทรนด์สุขภาพในวงการอสังหาฯ ไทยก็มาแรงไม่แพ้ใคร ไม่จะเป็นความต้องการของคนทุกช่วงวัยที่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไปจนถึงผู้สูงอายุที่มีสัดส่วนประชากรมากขึ้น โดยประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ (Aged Society) แล้วในปี 2564 คือ เป็นสังคมที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุในช่วง 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 และคาดว่าในปี 2583 หรืออีก 20 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด เราจะเห็นเทรน์การพัฒนาอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน โรงแรม โรงพยาบาล ไปจนถึงสถานดูแลผู้สูงอายุต่าง ๆ

    ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยจำนวนเนิร์สซิ่งโฮมเพิ่มขึ้นจาก 200 กว่าแห่ง เป็น 450 แห่งหากนับเฉพาะเนิร์สซิ่งโฮมที่ได้มาตรฐาน และขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสมาคมฯ ยังไม่รวม เนิร์สซิ่งโฮมที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกนับ 1,000 – 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยนายแพทย์ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุและกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคมคาดว่าตลาดกิจการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงในประเทศไทยมีมูลค่ามากถึง 20,000 ล้านบาท/ปี เติบโตขึ้น โดยมีสถานบริการดุแลผู้สูงอายุกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ เติบโตมากถึง 150% จาก 3-5 ปีก่อน

    ในปัจจุบันยังมีโครงการอสังหาฯ มากมายที่เกิดจากการร่วมมือกันจากต่างธุรกิจเพื่อให้บริการด้านสุขภาพ เช่น ที่อยู่อาศัยร่วมมือกับโรงพยาบาล เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เช่น บ้าน-คอนโดผู้สูงอายุสำหรับผู้สูงวัยที่ดูแลตัวเองได้ และต้องการได้รับการบริการตรวจสุขภาพบ้าง หรือ ธุรกิจโรงแรมที่จับมือโรงพยาบาล ให้บริการตรวจ ดูแลสุขภาพโดยไม่ต้องไม่ที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็น Hospitel ไปจนถึงบริการตรวจสุขภาพทั่วไป บริการตรวจการนอน Sleep Test เป็นต้น เป็นที่น่าจับตามองว่าธุรกิจอสังหาฯ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม Wellness Real Estate ในประเทศไทยจะเติบโตมากแค่ไหน และจะมีผลิตภัณฑ์บริการอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจบ้าง

    “ในวิกฤต ย่อมมีโอกาสเสมอ” ถึงแม้ว่าอสังหาฯ ทั่วไปจะหดตัว แต่ Wellness Real Estate กลับเป็นเทรนด์ที่มาแรงจนต้องจับตามอง หากคุณอยู่ในธุรกิจอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัย โรงแรม อะพาร์ตเมนต์ สำนักงาน หรือธุรกิจไลฟ์สไตล์ สุขภาพความงาม คุณย่อมพลาดเทรนด์สุขภาพในวงการอสังหาฯ ไปไม่ได้ เพราะนี่คือโอกาสทางธุรกิจที่มาแรง และมีมูลค่าสูงอีกด้วย อย่าพลาดโอกาสนี้ แล้วมาเรียนรู้ไปพร้อมกันในงาน

    สัมมนาออนไลน์: รวมเทรนด์สุขภาพมาแรง สำหรับที่อยู่อาศัย-โรงแรม ยุค New Normal
    The Future of Wellness Real Estate
    6 พฤษภาคมนี้ 8.30 - 18.00 น.
    Online ผ่าน Facebook Private Group
    ดูรายละเอียด https://www.feasyonline.com/wellness2022

    พบกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ

    ด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงพยาบาลหลากหลายท่าน

    มาเจาะแนวคิดการผสาน Wellness ในวงการอสังหาฯ

    • TRENDS การเปลี่ยนแปลงของที่อยู่อาศัยหลังยุคโควิด และเทรนด์การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
    • SUCCESS CASES เจาะแนวคิดการพัฒนาบริการและ ที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม
    • SMART SOLUTIONS อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อการอยู่อาศัยในยุคนี้

    งานนี้เหมาะกับใคร?

    • นักพัฒนาอสังหาฯ ที่กำลังมองหาตลาดด้านสุขภาพสำหรับทุกช่วงวัย รวมถึงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
    • ผู้บริหารโรงแรม อะพาร์ตเมนต์ ที่กำลังมองหาตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ และสุขภาพแบบองค์รวม
    • ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ ที่มองหาโอกาสร่วมกับธุรกิจอสังหาฯ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ

    ด่วน! ราคาพิเศษ

    ซื้อบัตร Early Bird Ticket เพียง 900 บาท/ท่าน
    หรือ Early Bird Group Ticket เพียง 4500 บาท/6 ท่าน
    ภายในวันที่ 1 เมษายนนี้!

    ดูรายละเอียด >> https://www.feasyonline.com/wellness2022



    References

    Global Wellness Institute, Build Well to Live Well: Wellness Lifestyle Real Estate and Communities, January 2018.

    Global Wellness Institute, The Global Wellness Economy: Looking Beyond COVID, December 2021

    เว็บไซต์อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/social/932365

    Writer
    คุณน้ำทิพย์ พรโชคชัย
    นักประเมินค่าทรัพย์สินระดับชั้นสามัญ
    MD, Area Research ผู้พัฒนา Feasy โปรแกรมวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ[/list]

    14


    เทรนด์ Wellness หรือ สุขภาพที่ดีแบบองค์รวม เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในวงการอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากอสังหาฯ เป็นปัจจัยสี่ที่สำคัญต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน โรงแรม สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ก็ล้วนจัดเป็นอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันทั้งนั้น และสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะมีผลต่อสุขภาพทั้งกายและใจของเราอย่างมาก ในยุคหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ (Aged Society) แล้วในปี 2564 คือ ไลฟ์สไตล์ หรือ รูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคนี้จึงเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก คนหันมาใส่ใจด้านสุชภาพกันมากขึ้นในทุกช่วงวัย และความต้องการที่อยู่อาศัย ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ จึงเปลี่ยนไป

    Wellness-Content-6" border="0

    งานสัมมนาออนไลน์ <a herf="https://www.feasyonline.com/wellness2022">The future of Wellness Real Estate[/url]
    สำหรับคนที่อยากอัพเดทเทรนด์สุขภาพในวงการอสังหาฯ ที่อยู่อาศัย โรงแรม
    ห้ามพลาด! ซื้อบัตร Early Bird ภายในวันที่ 1 เมษายนนี้!
    ดูรายละเอียด >> https://www.feasyonline.com/wellness2022

    เทรนด์ Wellness ในวงการอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นที่น่าจับตามอง โดยรายงาน Build Well to Live Well ของ Global Wellness Institute (GWI) ในปี 2018 ได้คาดการณ์ว่ามูลค่าอุตสาหกรรมอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์สุขภาพ หรือ Wellness Real Estate จะมีมูลค่าสูงถึง 180 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5,940 พันล้านบาท) ในปี 2022 โดยเติบโตขึ้นจาก 134 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,422 พันล้านบาท) ในปี 2017 เท่ากับว่าเติบโตราว 6% ต่อปี เนื่องจากผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น จึงเกิดโครงการอสังหาฯ ที่ส่งเสริมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ตอบโจทย์ Wellness Lifestyle กันมากขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคยังยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อโครงการอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิต และสุขภาพที่ดีอีกด้วย โดย GWI ประมาณการว่า Wellness Lifestyle Real Estate และโครงการของชุมชนทั้งหลายที่อยู่ในตลาดระดับปานกลาง-สูง มักจะมีราคาสูงกว่าอสังหาฯ ทั่วไปในทำเลเดียวกันถึง 10-15%

    เป็นที่น่าจับตามองว่าในอนาคต Wellness Real Estate จะถูกพัฒนาไปในรูปแบบใด สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-THAI) โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (TREBS) และ บริษัท แอเรีย รีเสิร์ช จำกัด จึงร่วมกันจัดงานสัมมนาออนไลน์ The future of Wellness Real Estate ในวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2565 เวลา 8.30 – 18.00 น. ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook กลุ่มปิด ซึ่งเป็นงานที่รวมวิทยากรชั้นนำในประเทศไทย มาร่วมให้ความรู้ และข้อมูลด้านเทรนด์สุขภาพ การปรับตัวของธุรกิจทั้งในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย โรงแรม สถานพยาบาล ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ มากมายหลายท่าน มาให้ผู้ที่สนใจในธุรกิจสุขภาพ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้รับชมร่วมกัน

    สัมมนาออนไลน์: รวมเทรนด์สุขภาพมาแรง สำหรับที่อยู่อาศัย-โรงแรม ยุค New Normal

    The Future of Wellness Real Estate

    6 พฤษภาคมนี้ 8.30 - 18.00 น.

    Online ผ่าน Facebook Private Group

    ดูรายละเอียด >> https://www.feasyonline.com/wellness2022

    พบกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ
    ด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงพยาบาลหลากหลายท่าน
    มาเจาะแนวคิดการผสาน Wellness ในวงการอสังหาฯ

    • TRENDS
    การเปลี่ยนแปลงของที่อยู่อาศัยหลังยุคโควิดและเทรนด์การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ

    • SUCCESS CASES
    เจาะแนวคิดการพัฒนาบริการและที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม

    • SMART SOLUTIONS
    อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อการอยู่อาศัยในยุคนี้

    วิทยากร ได้แก่
    • พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ Jin Wellness รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง
    • Mr.Paul Hawco Corporate Director of Wellness, Dusit International
    • นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุตโฮลดิ้ง จำกัด
    • คุณกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ Project Director The Forestias, MQDC
    • นพ.ถาวร สกุลพาณิชย์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล
    • คุณกิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี CEO บจก. มนทาระ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ตรีสรา ภูเก็ต)
    • คุณณวิพัตรา โตเต็มโชคชัยการ นักวิจัยด้านการคาดการณ์อนาคต ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ
    • ดร.โสภณ พรโชคชัย นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-Thai)
    • คุณพิมพ์ชนก วรวัฒนนท์ Product Owner – Well-being, Nexter Living Co., Ltd. บริษัทในกลุ่มธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี


    งานนี้เหมาะกับใคร?
    • นักพัฒนาอสังหาฯที่กำลังมองหาตลาดด้านสุขภาพสำหรับทุกช่วงวัย รวมถึงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
    • ผู้บริหารโรงแรม อะพาร์ตเมนต์ ที่กำลังมองหาตลาดกลุ่มผู้สูงอายุ และสุขภาพแบบองค์รวม
    • ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ ที่มองหาโอกาสร่วมกับธุรกิจอสังหาฯ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ


    ด่วน! ราคาพิเศษ

    ซื้อบัตร Early Bird Ticket เพียง 900 บาท/ท่าน

    หรือ Early Bird Group Ticket เพียง 4500 บาท/ 6 ท่าน

    ภายในวันที่ 1 เมษายนนี้!

    ดูรายละเอียด >> https://www.feasyonline.com/wellness2022

    Writer
    คุณน้ำทิพย์ พรโชคชัย
    นักประเมินค่าทรัพย์สินระดับชั้นสามัญ
    MD, Area Research ผู้พัฒนา Feasy โปรแกรมวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ

    15
    ขั้นตอนการสมัครสมาชิกนายหน้าอสังหาริมทรัพย์



    ขั้นตอนการสมัครสมาชิกนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
    ขั้นตอนการอนุมัติการสมัครสมาชิก
    ผู้สมัครสมาชิกสามัญนิติบุคคล ต้องกรอกใบสมัครสมาชิกและใบสมัครสอบ
    • พร้อมชำระค่าบำรุงสมาคมฯ 2,000 บาท
    • ค่าลงทะเบียนแรกเข้า 500 บาท
    • ค่าสมัครสอบ 200 บาท
    • ค่าคู่มือสอบ 100 บาท
    • ค่าบัตรสมาชิก 300 บาท
    • ค่าสายคล้องคอ 100 บาท
    รวมทั้งหมด 3,200 บาท (สามพันสองร้อยบาทถ้วน)
     
    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=137

    16
    บริการทั่วไป | General Services / สำนักงานให้เช่า
    « เมื่อ: มิถุนายน 25, 2021, 02:38:58 AM »
    ถึงเวลาเป็นเจ้าของธุรกิจ หาโอกาสและความสุข ใช้เวลาของคุณควบคุมชีวิตของคุณเอง 

    ให้เช่าพื้นที่เปิดร้านขายของ ทำเลดี เปิดร้านได้ตลอด
    - ร้านทำเล็บ ทำผม ต่อขนตา สักคิ้ว
    - คลินิกความงาม ร้านขายยา
    - ร้านอาหาร สเต็ก ของหวาน อาหารทานเล่น
    - งานแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
    - เครื่องสำอาง
    - อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ

    พิกัด : ปาก ซ.นนทรี 5 ถ.นนทรี ใกล้โลตัสพระราม 3

    สนใจเช่าพื้นที่ติดต่อสอบถาม K.แอม
    โทร : 092-632-3000
    Line : 0850659657





    17
    พื้นที่สำนักงานให้เช่า 60-200 ตร.ม. ราคาถูกมาก 20,000 บาท ทำเลพระราม3 ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนสาธุฯ
    ออฟฟิศให้เช่า 250-300 บ./ตร.ม ติดถนน เดินทางสะดวก ย่านพระราม3 ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์
    ออฟฟิศให้เช่า 20,000 บาท/เดือน ติดถนน ย่านพระราม3 ใกล้สาทร

    รายละเอียด
     - ติดทางด่วนสาธุประดิษฐ์ ทางด่วนพระราม 3 ใกล้สาทร นราธิวาส เจริญกรุง
     - ใกล้โลตัสพระราม3, เซ็นทรัลพระราม3, ตลาดรุ่งเจริญ, สนง.เขตยานนาวา
     - จดทะเบียนบริษัทได้ เหมาะสำหรับธุรกิจ SME, ขายของออนไลน์, ธุรกิจไอที
     - ระบบเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน เปิดปิดเองได้
     - สามารถทำงานได้ 7 วัน / สัปดาห์ ตลอด 24 ชั่วโมง
     - ธุรกิจที่ต้องใช้พื้นที่เก็บสินค้าในที่เดียวกัน สามารถ stock สินค้าได้

    นัดชมออฟฟิศ โทร. 092-632-3000 คุณแอม
    Line ID : pattama1148
    E-mail : monthida.amp@gmail.com
    https://www.facebook.com/nonsi5.center/
    ที่ตั้ง : หน้าปากซอย นนทรี 5 ถนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120




    18
    ให้เช่า โฮมออฟฟิศ ใกล้สาทร พระราม 3 ราคาถูก ติดถนน ด่วน!! 45000
    อาคารพาณิชย์ให้เช่า 4 ชั้น ย่านพระราม 3 ราคาสุดคุ้ม ติดถนนพร้อมที่จอดรถ ด่วน!! 45000

    ทำเลดีใกล้สาทร นราธิวาส โลตัสพระราม3, เซ็นทรัลพระราม3, สนง.เขตยานนาวา, ตลาดรุ่งเจริญ
    อาคารถูกออกแบบอย่างทันสมัย พร้อมด้วยการแบ่งสรรพื้นที่ใช้สอย สำหรับการให้บริการสำนักงานให้เช่ากับองค์กรธุรกิจต่างๆ
    โครงการ @area ตั้งที่อยู่ ถ.นนทรี กทม. ติดกับทางด่วนสาธุประดิษฐ์ การคมนาคมสะดวก

    รายละเอียด
    - อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น พื้นที่ประมาณ 210 ตร.ม. มี 3 ห้องน้ำ จอดรถหน้าอาคาร
    - เหมาะสำหรับออฟฟิศ ร้านอาหาร สถาบันกวดวิชา คลินิก สามารถจดทะเบียนบริษัทได้
    - ทำเลดีลูกค้าหาเจอง่าย มีผู้คนสัญจรผ่านไปมามากมาย เดินทางสะดวก

    ราคาเช่า 45,000 บาท / เดือน

    นัดชมออฟฟิศ โทร. 092-632-3000 คุณแอม
    Line ID : pattama1148
    E-mail : monthida.amp@gmail.com
    https://www.facebook.com/nonsi5.center/
    ที่ตั้ง : หน้าปากซอย นนทรี 5 ถนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120






    19
    หลักสูตรนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเรียน



    อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อาจกลายจากอาชีพเสริมเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้เราได้มหาศาล ท่านทราบหรือไม่ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์อาชีพในประเทศไทยมีน้อยเหลือเกิน ดีมานด์มีมหาศาล

    ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้ฝึกอบรมเรื่องวิชาชีพนายหน้ามานับสิบปี และมีผู้ผ่านการอบรมและประสบความสำเร็จในแวดวงนายหน้า กลายเป็นนายหน้าชั้นแนวหน้าในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

    ในประเทศไทยมีนายหน้าอสังหาริมทรัพย์นับล้านคนก็ว่าได้ เพราะทุกคนต่างอ้างตนเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ได้หากมีใครมาถามหาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นใดที่ต้องการขาย และขอรับส่วนแบ่งค่านายหน้ากันตามแต่จะเรียกร้องกันไป  ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ไม่มีนักพัฒนที่ดินรายใหญ่ที่พัฒนาโครงการนับพันนับหมื่นล้านขัดผลประโยชน์ในการพัฒนาที่ดินจนฆ่ากันตาย  แต่ในวงการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มีการฆ่ากันตายหรือพิการมากมาย เพราะความไม่เป็นมืออาชีพนั่นเอง

    แต่หากเราเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ เราจะมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจมาก ความต้องการหรือ Demand ของนักวิชาชีพหรือที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นนายหน้ามีมาก โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจึงริเริ่มจัดหลักสูตรนายหน้าขึ้นเมื่อราว 20 ปีก่อน และให้ความรู้มาอย่างต่อเนื่อง  และยังต่อยอดให้มีโอกาสเติบโตในระดับสากล เช่น ดร.โสภณ ยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ASEAN Real Estate Network Alliance (ARENA) และเป็นประธาน ARENA ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งรวมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทั่วอาเซียน  นอกจากนี้ ดร.โสภณ ยังเป็นนายกสมาคม FIABCI-Thai ซึ่ง FIABCI เป็นสมาคมนักอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีทั้งนายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นักพัฒนาที่ดินและผู้เกี่ยวข้องอื่นเข้าร่วมด้วย โรงเรียนได้จัดสอนหลักสูตรของ FIABCI และอื่นๆ ด้วย

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=160

    20
    แนวทางการประเมินค่าต้นไม้


     
    สำหรับต้นไม้ต่างๆ นั้นจะสามารถประเมินค่า ประเมินมูลค่าหรือประเมินราคากันอย่างไรตามมาตรฐานสากลในฐานะที่ต้นไม้เป็นทรัพย์สิน เป็นหลักประกัน เป็นการลงทุนและเป็นสินทรัพย์สำหรับบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ เรามีคำตอบมาฝากสำหรับผู้ที่สนใจ
     
    ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่า “การประเมินค่า ถือเป็นศาสตร์และศิลป์หนึ่งของการประเมินค่าทรัพย์สินในฐานะที่ต้นไม้ก็เป็นทรัพย์ประเภทหนึ่งที่สามารถประเมินค่าได้  ที่ผ่านมาศูนย์ข้อมูลฯ ได้ประเมินค่าต้นไม้ทั้งในและต่างประเทศ”
     
    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=162

    21


    เคยสงสัยกันหรือเปล่า ว่าเรือที่เราเห็นขนสินค้ากัน เราจะประเมินค่าเรือได้อย่างไร เรือที่เราพูดกันถึงหมายรวมตั้งแต่เรือเดินทะเล เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ เรือลากเรือ เรือลากจูง เรือยอร์ช หรือวัตถุลอยน้ำที่ใช้บรรทุกสิ่งของต่างๆ

     

    ดร.โสภณ พรโชคชัย ได้ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการประเมินค่าเรือเดินทะเลโดยเริ่มต้นพิจารณาจากผู้ผลิต รุ่น และความจำเพาะ-เงื่อนไขต่างๆ  เป็นสิ่งที่แน่นอนว่า ถ้าเรืออยู่ในสภาพดี หรือเพิ่งผลิต ก็สามารถใช้วิธีต้นทุนได้ไม่ยาก  แต่ถ้าเรือที่อยู่ในสภาพไม่ดี ใช้งานมานานพอสมควรแล้ว หรือขาดการบำรุงรักษาเท่าที่ควร ราคาก็คงจะตกต่ำลงไปมาก ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิต ประสิทธิภาพ และความนิยมของรุ่นนั้น ๆ ก็มีส่วนสำคัญในการพิจารณามูลค่าของเรืออีกด้วย

     

    การประเมินค่าเรือก็คล้ายกับการประเมินค่าทรัพย์สินอื่นๆ ที่เราต้องพิจารณาถึงสภาวะตลาด ตัวอย่างเช่น เมื่อการประมงไทยกำลังเฟื่องฟู ราคาเรือประมงก็สูงตามไปด้วย  อาจกล่าวได้ว่ามูลค่าของเราจะสูงกว่าเมื่อเศรษฐกิจดี แต่ถ้าเศรษฐกิจตกต่ำ เรือก็ไม่ค่อยได้รับความต้องการ ทำให้มูลค่าที่ประเมินได้ตกต่ำตามไปด้วย  อย่างไรก็ตามผู้ประเมินก็พึงพิจารณาถึงภาวะตลาดให้ชัดเจน เช่น เรือที่ใช้ขนถ่ายน้ำมัน หากการขนส่งนี้ยกเลิกไป หรือหดตัวตกต่ำลง เรือนั้นๆ จะนำไปใช้ในกิจการเรือประเภทอื่นที่ยังอยู่ในภาวะที่ดีได้หรือไม่ เป็นต้น

     

    ในการผลิตเรือลำหนึ่ง อาจมีค่าแรงกับค่าเครื่อง ค่าอุปกรณ์ประกอบเรืออยู่ในองค์ประกอบที่ 40 : 60 โดย 40 คือค่าแรงนั่นเอง ที่ค่าแรงแพงเพราะมักประกอบในต่างประเทศ เช่น ไปประกอบเรือที่เกาหลี ค่าแรงจึงแพงกว่าค่าแรงในไทย เช่น คนทาสีอาจมีค่าแรงเดือนละ 70,000 – 80,000 บาท แต่เครื่องยนต์ อาจเป็นเครื่องยันมาร์จากประเทศญี่ปุ่น แต่ส่วนมากไม่ไปประกอบที่ญี่ปุ่นเพราะค่าแรงในญี่ปุ่นแพงหนักกว่าในเกาหลีเสียอีก  ในประเทศไทยก็สามารถต่อเรือเองได้บ้าง แต่ไม่นิยมต่อเรือในไทย เพราะเครื่องจักรต่างๆ ต้องนำเข้า (ไม่ใช่แบบจีนที่ทำเองได้แทบทุกอย่าง) ทำให้ต้นทุนอาจแพงพอๆ กับการไปสั่งทำจากต่างประเทศ

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=190

    22
    การประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง

    การประเมินมูลค่าทรัพย์สินต่างๆในโลกนี้นั้น มีหลากหลายรูปแบบและหลากหลายสิ่งมาก ทุกคนคงจะเคยได้ยินแต่การประเมินที่ดิน บ้าน และคอนโด เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงขอยกเรื่องการประเิมนมูลค่าสินคาคงคลัง เพื่อนำเอามาถ่ายทอดเป็นความรู้ ให้กับทุกๆท่านได้อ่านกัน

    การประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง คือเครื่องช่วยให้วิสาหกิจสามารถจัดหาเงินสำหรับการจัดหาสินค้าที่ประกอบเป็น สินค้าคงคลัง สินค้าคงเหลือ ซึ่งมักจะเป็นสินทรัพย์ในปัจจุบันที่สำคัญที่สุดของวิสาหกิจนั้นๆ และจำเป็นต้องมีการวัดมูลค่าที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่างบการเงินนั้นถูกต้อง หากสินค้าคงคลังไม่ได้รับการวัดอย่างเหมาะสม ค่าใช้จ่าย และ รายได้ จะไม่สามารถจับคู่ได้อย่างเหมาะสม และวิสาหกิจดังกล่าวก็อาจทำการตัดสินใจทางธุรกิจได้ไม่ดี มีความเสี่ยงต่อธุรกิจนั้นๆได้

    สินค้าคงคลังที่กล่าวถึงนี้อาจจะเป็นสินค้าใดๆ ก็ได้ของวิสาหกิจนั้นๆ ที่ผ่านมาสถาบันการเงินก็มักอำนวยสินเชื่อให้กับวิสาหกิจต่างๆ เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ โดยเอาสินค้าคงคลังของวิสาหกิจบางส่วนมาค้ำประกัน เช่น ถ้าวิสาหกิจหนึ่งไปกู้เงินของสถาบันการเงินมา สถาบันการเงินก็ต้องพิจารณาว่าวิสาหกิจนั้นมีสินค้าคงคลังสอดคล้องกับเงินกู้หรือไม่ และให้มีการตรวจนับจำนวนสินค้าคงคลังทุกระยะ เช่น ทุกเดือน เพื่อให้มั่นใจว่ามูลหนี้กับสินค้าคงคลังนั้นสอดคล้องหรือใกล้เคียงกัน

    สำหรับราคาอ้างอิงสินค้าต่างๆ ก็อาจพิจารณาจากราคาตลาด หรือราคากลางเป็นสำคัญ เช่น ราคาข้าว ก็อาจใช้ราคาของสมาคมโรงสีข้าวไทย (https://bit.ly/3efoanv)  ก็มีราคาข้าวสารและราคาข้าวเปลือกรายจังหวัด หรือราคากลางของสินค้าเกษตรประเภทต่างๆ ตามการแจกแจงรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (https://bit.ly/3nOXcGH) เป็นต้น รวมทั้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้อื่นๆ ซึ่งหาได้ไม่ยากในประเทศไทย

    วิธีการประเมินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเช่น the First-In, first-Out (FIFO) ซึ่งวิธีนี้จะถือว่าหน่วยแรกที่เข้าสู่สินค้าคงคลังเป็นการขายครั้งแรก ตัวอย่างเช่น สมมติว่าร้านเบเกอรี่ผลิตขนมปัง 200 ก้อนในวันจันทร์ ในราคาชิ้นละ 100 บาทและอีก 200 ก้อนในวันอังคารที่ราคาชิ้นละ 125 บาท FIFO ระบุว่าหากร้านเบเกอรี่ขายได้ 200 ก้อนในวันพุธ ต้นทุนของสินค้าที่ขาย จะอยู่ที่ 100 บาทต่อก้อน (บันทึกในงบกำไรขาดทุน) เนื่องจากเป็นต้นทุนของแต่ละก้อนแรกในสินค้าคงคลัง  ส่วนราคา 125 บาทต่อก้อนจะถูกจัดสรรให้กับสินค้าคงคลังที่สิ้นสุด (https://bit.ly/3nPQQXC)

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=189

    23


    นายหน้าหรือตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นงานอิสระ สามารถทำเป็นอาชีพหลัก และอาชีพเสริม รายได้ไร้ขีดจำกัด ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองเริ่มต้นท่านต้องมีความรู้ในงานที่ทำ โดยการเข้ารับการอบรมเพื่อสอบบัตรตัวแทนนายหน้า
    ดังนั้น การเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ควรเตรียมตัวอย่างไร ทางโรงเรียนอสังหาฯ ขอแนะนำ ดังนี้


               
    หลักสูตร นายหน้าอสังหาฯ (เพื่อสอบบัตรตัวแทนนายหน้า) : RE131

     

    เข้าอบรมกับสถานบันที่ให้ความรู้เบื้องต้น เช่น การเงินสำหรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนเพื่อซื้ออสังหาฯ ของผู้ซื้อ ขั้นตอนและวิธีการการขายทรัพย์มือสอง รู้มูลค่าทรัพย์สินที่ขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่พึงสังวรการทำสัญญาจะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์
    ควรมี Connection กับเพื่อนๆในกลุ่มนายหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หรือสายอาชีพที่ต้องติดต่อในการทำงาน เช่น เจ้าหน้าที่ธนาคาร(สินเชื่อ) เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เป็นต้น
    ใจรักในการบริการ การอำนวยความสะดวกในลูกค้าให้ดูเป็นมืออาชีพ การให้ข้อมูลต่างๆ ให้ลูกค้า
    การสอบบัตรตัวแทนนายหน้า เพื่อทำให้คุณน่าเชื่อถือ ในอาชีพนายหน้าอสังหาฯ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในสังกัดหน่วยงานใด
     

    ต่อมาคำถามที่ว่า อยากมีบัตรตัวแทนนายหน้าอสังหาฯ ต้องทำไง ??
    ขั้นตอนการอนุมัติการสมัครสมาชิก บัตรตัวแทนนายหน้า ที่รับรองโดย สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย
    สมาชิกวิสามัญบุคคลธรรมดา
    1. ผู้สมัครสมาชิกวิสามัญบุคคลธรรมดา ต้องกรอกใบสมัครสมาชิกและใบสมัครสอบ

    พร้อมชำระค่าบำรุงสมาคมฯ 1,000 บาท
    ค่าลงทะเบียนแรกเข้า 500 บาท
    ค่าสมัครสอบ 200 บาท
    ค่าคู่มือสอบ 100 บาท
    ค่าบัตรสมาชิก 300 บาท
    ค่าสายคล้องคอ 100 บาท
    รวมทั้งหมด 2,200 บาท(สองพันสองร้อยบาทถ้วน)

    2. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย ตรวจสอบใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครสมาชิก

    3. ผู้สมัครสมาชิกวิสามัญที่ยังไม่ได้ผ่านการอบรมหรือไม่มีใบรับรองผ่านการอบรม จะต้องเข้ารับการอบรมจากสถาบันอบรมที่สมาคมฯ ให้การรับรอง

    4. ผู้สมัครที่ผ่านการอบรมแล้ว สมาคมฯ จะนำเรื่องการสมัครเข้าที่ประชุม เพื่อการอนุมัติการเป็นสมาชิกและผู้มีสิทธิสอบ พร้อมกับเชิญผู้สมัครเข้าประชุมเพื่อการแนะนำตัวต่อคณะกรรมการสมาคมฯ ในคราวเดียวกัน

    5. ผู้สมัครสมาชิกหากผ่านการอนุมัติผู้มีสิทธิสอบ ทางสมาคมฯ จะประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

    6. สมาชิกวิสามัญที่ผ่านการอนุมัติผู้มีสิทธิสอบแล้ว จะต้องเข้ารับการสอบที่จัดโดยสมาคมฯ

    7. ผู้สมัครสอบที่ผ่านการสอบ ทางสมาคมฯ จะส่งผลการสอบให้ทราบพร้อมทั้งจดหมายยืนยันการเป็นสมาชิก

    8. สมาคมฯ จัดทำบัตรสมาชิกวิสามัญให้แก่ผู้สมัครพร้อมกับจัดส่งหนังสือข้อบังคับสมาคมฯ ให้สมาชิก
     


     

     
    ***สถานบันอบรมที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย รับรอง
    โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย การอบรมหลักสูตร นายหน้าอสังหาฯ เพื่อสอบบัตรตัวแทนนายหน้า (RE131)

     



    เปิดรับสมัครนายหน้าอิสระ ตัวแทนขายอสังหาฯ “ใครๆ ก็ขายได้ รับผลตอบแทน 3-12%” ขายทรัพย์ออนไลน์ 24 ชม. ง่าย ๆ เพียงหาลูกค้ามาซื้อโครงการ

    ลงทะเบียนฟรี(จำกัด 100 ที่นั่ง) ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย



    Tag: นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ , อสังหาฯ , นายหน้าอสังหาฯ , ขายอสังหาฯ , ซื้อ-ขายอสังหา ,ขายบ้าน ,ขายที่ดิน ,ที่ดิน , อบรมนายหน้าอสังหา ,ธุรกิจอสังหา , สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย
    https://oceancash.net/

    24



    นายหน้าหรือตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นงานอิสระ สามารถทำเป็นอาชีพหลัก และอาชีพเสริม รายได้ไร้ขีดจำกัด ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองเริ่มต้นท่านต้องมีความรู้ในงานที่ทำ โดยการเข้ารับการอบรมเพื่อสอบบัตรตัวแทนนายหน้า
    ดังนั้น การเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ควรเตรียมตัวอย่างไร ทางโรงเรียนอสังหาฯ ขอแนะนำ ดังนี้

               

    เข้าอบรมกับสถานบันที่ให้ความรู้เบื้องต้น เช่น การเงินสำหรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนเพื่อซื้ออสังหาฯ ของผู้ซื้อ ขั้นตอนและวิธีการการขายทรัพย์มือสอง รู้มูลค่าทรัพย์สินที่ขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่พึงสังวรการทำสัญญาจะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์
    ควรมี Connection กับเพื่อนๆในกลุ่มนายหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หรือสายอาชีพที่ต้องติดต่อในการทำงาน เช่น เจ้าหน้าที่ธนาคาร(สินเชื่อ) เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เป็นต้น
    ใจรักในการบริการ การอำนวยความสะดวกในลูกค้าให้ดูเป็นมืออาชีพ การให้ข้อมูลต่างๆ ให้ลูกค้า
    การสอบบัตรตัวแทนนายหน้า เพื่อทำให้คุณน่าเชื่อถือ ในอาชีพนายหน้าอสังหาฯ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในสังกัดหน่วยงานใด

    ต่อมาคำถามที่ว่า อยากมีบัตรตัวแทนนายหน้าอสังหาฯ ต้องทำไง ??
    ขั้นตอนการอนุมัติการสมัครสมาชิก บัตรตัวแทนนายหน้า ที่รับรองโดย สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย
    สมาชิกวิสามัญบุคคลธรรมดา

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=95

    25
    หลักสูตรนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเรียน


     
    อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อาจกลายจากอาชีพเสริมเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้เราได้มหาศาล ท่านทราบหรือไม่ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์อาชีพในประเทศไทยมีน้อยเหลือเกิน ดีมานด์มีมหาศาล

    ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้ฝึกอบรมเรื่องวิชาชีพนายหน้ามานับสิบปี และมีผู้ผ่านการอบรมและประสบความสำเร็จในแวดวงนายหน้า กลายเป็นนายหน้าชั้นแนวหน้าในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

     
    ในประเทศไทยมีนายหน้าอสังหาริมทรัพย์นับล้านคนก็ว่าได้ เพราะทุกคนต่างอ้างตนเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ได้หากมีใครมาถามหาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นใดที่ต้องการขาย และขอรับส่วนแบ่งค่านายหน้ากันตามแต่จะเรียกร้องกันไป  ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ไม่มีนักพัฒนที่ดินรายใหญ่ที่พัฒนาโครงการนับพันนับหมื่นล้านขัดผลประโยชน์ในการพัฒนาที่ดินจนฆ่ากันตาย  แต่ในวงการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มีการฆ่ากันตายหรือพิการมากมาย เพราะความไม่เป็นมืออาชีพนั่นเอง

     

    แต่หากเราเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ เราจะมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจมาก ความต้องการหรือ Demand ของนักวิชาชีพหรือที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นนายหน้ามีมาก โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจึงริเริ่มจัดหลักสูตรนายหน้าขึ้นเมื่อราว 20 ปีก่อน และให้ความรู้มาอย่างต่อเนื่อง  และยังต่อยอดให้มีโอกาสเติบโตในระดับสากล เช่น ดร.โสภณ ยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ASEAN Real Estate Network Alliance (ARENA) และเป็นประธาน ARENA ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งรวมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทั่วอาเซียน  นอกจากนี้ ดร.โสภณ ยังเป็นนายกสมาคม FIABCI-Thai ซึ่ง FIABCI เป็นสมาคมนักอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีทั้งนายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นักพัฒนาที่ดินและผู้เกี่ยวข้องอื่นเข้าร่วมด้วย โรงเรียนได้จัดสอนหลักสูตรของ FIABCI และอื่นๆ ด้วย
     

    ในเบื้องต้น โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยจัด หลักสูตร RE131: นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (3 วัน) เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยเรียน

    ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์และการประเมินค่าทรัพย์สิน
    หลักการเป็นนายหน้ามืออาชีพ
    การจัดหาทรัพย์สินเพื่อการขาย
    ทักษะที่จำเป็นในการเป็นนายหน้า การสำรวจที่ดิน วิธีการประเมินค่าทรัพย์สิน ฯลฯ
     
    โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยคัดเลือกวิทยากรหลากหลายที่มีความรู้จริงและปฏิบัติจริงด้านการเป็นนายหน้า โดยเป็นนายหน้าที่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่นายหน้าที่มีสังกัดกับบริษัทใหญ่ นายหน้าอิสระ บริษัท SMEs หรือนายหน้ากิจการคนเดียว เป็นต้น

    ท่านใดสนใจเรียน สามารถดูรายละเอียดได้ที่ หลักสูตร RE131 : นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (3 วัน) นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรระยะยาวสำหรับผู้บริหารธุรกิจนายหน้า ซึ่งเป็นหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการรับรองอีกด้วย

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=160

    26
    Thai Real Estate Markets as of Quarter 1/2021 (English Only)

    วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน 2564 เวลา 14.00 – 16:00 น.
    สดผ่าน Zoom Video



    รายละเอียด

    Thai Real Estate Markets as of Quarter 1/2021

    Let’s join our “Must Know” exclusive seminar on “Thai Real Estate Markets As Of Quarter 1/2021” on Thursday, April 22, 2021 2pm-4pm (Bangkok Time).

    This is the most comprehensive and reliable information ever happened in Thailand.  The presentation includes:

    – The Magnitude of Thai Housing Markets, Bangkok & 76 provinces

    – Launching of New Real Estate Projects, Quarter 1/2021

    – In-depth Analysis of Housing in the Bangkok Metropolitan Region

    – Highlight of Housing in 10 major Regional Cities

    – Best-Sellers Housing Projects in Quarter 1/2021

    – International House Price Comparison during Covid-19

    – Outlook for Policy and Plan Implications for foreign buyers/investors.

    This research is conducted by the Agency for Real Estate Affairs (AREA: http://www.area.co.th) which is the first and largest real estate information and valuation centre in Thailand since 1991.  We conduct surveys of newly launched real estate projects on monthly basis, updates of housing markets in Bangkok on quarterly basis and updates of housing markets in upcountry on half-year basis as well as surveys of land prices in Bangkok on annual basis as well.

    Dr.Sopon Pornchokchai is the President of the AREA.  He is also the President of FIABCI Thailand Chapter, Representative of the International Association of Assessing Officers and Council Member of the ASEAN Real Estate Network Alliance (ARENA).  He earned an He gained a PhD in land and housing from AIT and had further property valuation training from LRTI-Lincoln Institute of Land Policy and housing from KU Leuven (Belgium).

    His research master pieces include the discovery of 1,020 slums (1985), CAMA (computer-assisterd mass appraisal) modeling (1990), forecast of 300,000 unoccupied housing His research master pieces include the discovery of 1,020 slums (1985), CAMA (computer-assisted mass appraisal) modeling (1990), forecast of 300,000 unoccupied housing units (1995 and 1998), study for property information centre (2000), roadmap for valuation, Ministry of Finance, Vietnam (2006), Ministry of Finance, Indonesia (2008), World Bank Indonesia (2010), Ministry of Finance, Cambodia (2012), UN World Cities (2015), ASEAN Property Surveys (2017), Global Municipal (2017), and Bangkok Zoo Relocation (2019).

    The fee is USD 100.  You will receive the ppt prior to the seminar via zoom where you can ask questions and have discussion directly with Dr.Sopon.  Please add his cell phone at +66899229899 which is good for WhatsApp, Telegram and Line.

    This is a fundraising program for FIABCI-Thai.

    Check your time:

    Bangkok 2pm | London 8am | Paris 9am | Moscow 10am | Dubai 11am | Delhi 12:30pm | Bejing KL Manila Singapore 3pm | Tokyo 4pm | Sydney 5pm | New York 3am | Los Angeles 0am |

    For details and prices >>> https://www.trebs.ac.th/th/75/Thai-Real-Estate-Markets <<<

    27
    วิธีตรวจสอบราคาที่ดิน Online

    ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นๆทุกวัน แล้วแต่ที่ดินของเรานั้นราคาจะเป็นยังไงบ้าง ยิ่งบางที่รัฐบาลประกาศสร้างรถไฟฟ้าบนดินใต้ดินกันมากมาย มีผลกระทบต่อราคาซื้อขายแน่ๆ เราไปดูกันเลยว่า เราจะตรวจสอบราคาประเมินที่ดินแบบ Online ได้ยังไงบ้าง

    มาเช็คราคาที่ดิน เช็คราคาประเมินกันดูครับ ว่าตอนนี้ราคาบ้าน ราคาที่ดินเรา ประเมินเท่าไหร่กันนะ *-*

     ประโยชน์คือ ได้ทราบราคาประเมินที่อัพเดท บางพื้นที่สามารถใช้เป็นราคาขายได้เลย ( บางพื้นที่นะครับ ) ส่วนใหญ่ประโยชน์ของราคาประเมินคือ  ไว้คิดค่าใช้จ่าย ณ กรมที่ดิน
     

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    โฉนดที่ดินของเรา แบบชัดๆ(เพราะอ่านยากเหลือเกิน) จะตัวจริงหรือ Copy ก็ได้

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=27

    28


    นายหน้าหรือตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นงานอิสระ สามารถทำเป็นอาชีพหลัก และอาชีพเสริม รายได้ไร้ขีดจำกัด ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองเริ่มต้นท่านต้องมีความรู้ในงานที่ทำ โดยการเข้ารับการอบรมเพื่อสอบบัตรตัวแทนนายหน้า
    ดังนั้น การเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ควรเตรียมตัวอย่างไร ทางโรงเรียนอสังหาฯ ขอแนะนำ ดังนี้

    เข้าอบรมกับสถานบันที่ให้ความรู้เบื้องต้น เช่น การเงินสำหรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนเพื่อซื้ออสังหาฯ ของผู้ซื้อ ขั้นตอนและวิธีการการขายทรัพย์มือสอง รู้มูลค่าทรัพย์สินที่ขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่พึงสังวรการทำสัญญาจะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์
    ควรมี Connection กับเพื่อนๆในกลุ่มนายหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หรือสายอาชีพที่ต้องติดต่อในการทำงาน เช่น เจ้าหน้าที่ธนาคาร(สินเชื่อ) เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เป็นต้น
    ใจรักในการบริการ การอำนวยความสะดวกในลูกค้าให้ดูเป็นมืออาชีพ การให้ข้อมูลต่างๆ ให้ลูกค้า
    การสอบบัตรตัวแทนนายหน้า เพื่อทำให้คุณน่าเชื่อถือ ในอาชีพนายหน้าอสังหาฯ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในสังกัดหน่วยงานใด

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=95
     

    29


    การทำสัญญาไม่ว่าจะทำสัญญาอะไรก็ตามนั้น เป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ที่จะทำสัญญาจะต้องศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวสัญญานั่นก่อนที่จะลงมือเซ็นสัญญา ดังนั้น

    โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงได้รวบรวมแบบฟอร์มสัญญา ที่เป็นมาตราฐานทั่วไปที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน มาจากเว็บไซด์ Thailaw ซึ่งภายในแบบฟอร์มจะประกอบไปด้วยเงื่อนไขและข้อกำหนดหลักเท่านั้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะนำไปใช้ทางเราจึงขอแนะนำว่า ควรจะปรึกษาที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือทนายเพื่อที่จะได้เพิ่มเติมหรือแก้ไขให้มีความชัดเจนในการนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์

    ดังนั้น โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงได้ขอนำแบบฟอร์มสัญญาดังกล่าวมาช่วยเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ได้เข้ามาอ่านทุกท่านและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการนายหน้า พัฒนาที่ดิน รับเหมาก่อสร้าง และบริหารทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=187

    30

     
    การทำสัญญาไม่ว่าจะทำสัญญาอะไรก็ตามนั้น เป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ที่จะทำสัญญาจะต้องศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวสัญญานั่นก่อนที่จะลงมือเซ็นสัญญา ดังนั้น

    โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงได้รวบรวมแบบฟอร์มสัญญา ที่เป็นมาตราฐานทั่วไปที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน มาจากเว็บไซด์ Thailaw ซึ่งภายในแบบฟอร์มจะประกอบไปด้วยเงื่อนไขและข้อกำหนดหลักเท่านั้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะนำไปใช้ทางเราจึงขอแนะนำว่า ควรจะปรึกษาที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือทนายเพื่อที่จะได้เพิ่มเติมหรือแก้ไขให้มีความชัดเจนในการนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์

    ดังนั้น โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงได้ขอนำแบบฟอร์มสัญญาดังกล่าวมาช่วยเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ได้เข้ามาอ่านทุกท่านและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการนายหน้า พัฒนาที่ดิน รับเหมาก่อสร้าง และบริหารทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้

    อ่านต่อ: https://www.trebs.ac.th/th/news_detail.php?nid=187



    31
    กฎหมายเกี่ยวกับอสังหาฯที่ควรรู้ ก่อนการลงทุน



    สำหรับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ นอกจากจะมีความรู้เรื่องการลงทุน รู้จักวิเคราะห์ คาดการผลกำไรในอนาคตให้ได้แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องมีความรู้ประกอบควบคู่กันไปด้วย นั่นก็คือเรื่องของ “กฎหมายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งนักลงทุนทุกคนจะต้องศึกษาและรับทราบไว้ ไม่ว่าจะเป็น นิติกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้าน ค่าธรรมเนียมและภาษี ตลอดจนการปล่อยเช่าที่เพิ่งมีการแก้กฎหมายใหม่ไป


    กฎหมายอสังหาฯ ที่เกี่ยวข้องกับนิติกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

    นิติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกทางด้านกฎหมายที่นักลงทุนจำเป็นต้องรู้ เพราะเมื่อเกิดการซื้อขาย เปลี่ยนมืออสังหาริมทรัพย์ จะมีทั้งเรื่องการทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านและคอนโด การจดทะเบียน เอกสารสิทธิ์ การโอน โดยในเรื่องของนิติกรรม สิ่งที่นักลงทุนควรรู้ คือ

    การทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านและคอนโด

    การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จะต้องมีการเปลี่ยนมือการครอบครองบ่อยครั้ง และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านและคอนโด ส่วนประกอบสำคัญที่เป็นเครื่องยืนยันการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสัญญาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฉบับ คือ

    สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดหรือสัญญาซื้อขายที่จะใช้ในการจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่เป็นสัญญาที่กฎหมายบังคับให้ต้องมี และนำไปจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน โดยผู้ที่กำลังทำการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แต่ไม่พบว่ามีการทำสองขั้นตอนตามที่กล่าวมา ทางกฎหมายจะถือว่าการซื้อขายเป็นโมฆะ

    สัญญาจะซื้อจะขาย สัญญานี้กฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำ แต่เพื่อเป็นการแสดงเจตนาว่าจะมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นจริงในอนาคต ผู้ขายส่วนใหญ่จึงทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านและคอนโดฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำก่อนและภายหลังจึงจะสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ หากมีการโกงเงินมัดจำหรือมีการผิดสัญญาที่ผู้ซื้อผู้ขายตกลงกันไว้
     

    กฎหมายอสังหาฯ ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

    หากถามว่าทำไมนักลงทุนต้องรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กฎหมายได้กำหนดไว้ด้วยเมื่อเกิดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องบอกเลยว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีผลต่อการตั้งราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ให้ได้กำไร เพราะส่วนต่างการจ่ายค่อนข้างเยอะ โดยส่วนใหญ่จะใช้ราคาประเมินจากกรมธนารักษ์เป็นตัวกำหนดราคาในการเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ และภาษี โดยประกอบด้วยกัน 4 รายการ คือ

    ค่าธรรมเนียม ทุกครั้งที่มีการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์จะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 2% จากราคาประเมิน ไม่มีข้อยกเว้น โดยทั่วไปผู้ขายและผู้ซื้อมักจะแบ่งชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวที่อัตราร้อยละ 1%

    ค่าอากร ค่าอากรแสตมป์ ผู้ขายจำเป็นต้องชำระแต่เพียงผู้เดียวในอัตรา 0.5% จากราคาประเมินหรือราคาตลาด ขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า ซึ่งจะได้รับการยกเว้นก็ต่อเมื่อการซื้อขายสังหาริมทรัพย์มีการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะที่จะมีรายละเอียดในข้อถัดไป

    ภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้ขายที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปีหรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนานกว่า 1 ปี จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ในอัตราร้อยละ 3.3 จากราคาประเมินหรือราคาตลาดขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า ทั้งนี้จะได้รับการยกเว้นหากอสังหาริมทรัพย์ที่ทำการซื้อขายได้มาจากการรับมรดก

    ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เมื่อผู้ขายมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จึงจำเป็นที่จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผู้ขายจึงต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด โดยพิจารณาจากจำนวนปีที่ถือครอง เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมไปจนถึง 31 ธันวาคม หากมีการซื้อขายภายในปีเดียวกัน นับเป็นการถือครอง 1 ปี
     

    กฎหมายอสังหาฯ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเช่า

    กฎหมายข้อนี้เป็นเรื่องที่ต้องรู้เพราะเกี่ยวข้องกับนักลงทุนโดยตรง ซึ่งในปัจจุบันทางภาครัฐก็ค่อนข้างจะเข้มงวดกับการปล่อยเช่า และเมื่อกลางปี 2561 ก็ได้มีการเริ่มใช้กฎหมายใหม่ ดังนั้นกฎหมายข้อนี้จึงเป็นเรื่องที่นักลงทุนพลาดไม่ได้เลย โดยทั้งนี้จะขอกล่าวส่วนหลักๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนักลงทุนที่อยากปล่อยเช่าอสังหาฯ ด้วยตัวเอง 2 ส่วนด้วยกันคือ

    กฎหมายใหม่ว่าด้วยการปล่อยเช่าและเก็บค่าเช่าอาคารที่อยู่อาศัย ซึ่งนอกจากการปล่อยอาคารชุดให้เช่ารายวันไม่ได้แล้ว ยังประกอบไปด้วยเนื้อหาหลักๆ ที่นักลงทุนควรรู้ คือ

    ห้ามไม่ให้มีการเก็บค่าเช่า ล่วงหน้าเกินจำนวน 1 เดือนพร้อมรับเงินประกัน ซึ่งทางผู้เช่าสามารถที่จะยกเลิกสัญญาได้ โดยจะต้องมีการบอกล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 30 วัน

    อัตราค่าไฟและค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้ให้เช่าต้องส่งใบแจ้งหนี้และรายละเอียดต่างๆ ให้กับผู้เช่าล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 7 วัน ก่อนถึงกำหนดชำระ

    เมื่อสัญญาการเช่าสิ้นสุดหรือมีการแจ้งยกเลิกสัญญาตามกำหนดที่ถูกต้อง ทางผู้ให้เช่าจะต้องคืนเงินค่าประกันให้กับทางผู้เช่าทันที ยกเว้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหลังจากตรวจสอบความเสียหายภายในที่อยู่อาศัย

    ผู้เช่าสามารถยกเลิกสัญญาการเช่าได้ตลอดเวลา แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 30 วัน โดยผู้เช่าจะต้องไม่ค้างชำระค่าเช่า หรือไม่ผิดนัดการจ่ายค่าเช่า

    กฎหมายควบคุมการปล่อยเช่าคนต่างชาติ ข้อนี้กฎหมายไทยไม่ได้ห้ามใดๆ เกี่ยวกับการเช่า เพียงแต่ก่อนจะปล่อยเช่าผู้ให้เช่าต้องปฏิบัติข้อบังคับตามกฎหมาย ดังนี้

    ผู้ให้เช่าหรือเจ้าของคอนโดฯ ต้องแจ้งข้อมูลชาวต่างชาติที่เข้าพักในห้องชุดของตนกับที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง และผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติจะต้องได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวในช่วงเวลาที่ย้ายเข้าพักอาศัยนั้นด้วย

    ผู้ให้เช่าต้องแจ้งข้อมูลและยื่นเอกสารเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่เช่าห้องชุดให้เจ้าหน้าที่นิติบุคคลเก็บไว้เป็นหลักฐาน ประกอบไปด้วยสำเนาบัตรประจำตัวหรือหนังสือเดินทาง สำเนาใบสำคัญแสดงถิ่นที่อยู่ของผู้เช่าพักอาศัยและบริวารในห้องชุด สำเนาใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย นอกจากนี้ผู้เช่าต่างชาติไม่สามารถเข้าพักได้เกิน 3 คนต่อ 1 ห้องชุด

     

    จากที่กล่าวมาทั้ง 3 ข้อหลัก ถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับอสังหาฯ พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนหน้าเก่าจำเป็นจะต้องรู้ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกระบวนการ ซื้อ ขาย เช่า ที่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังสามารถป้องกันกลโกงที่จะเกิดขึ้นได้หลังการขายด้วย

    ที่มา : แสนสิริ

    32
    การศึกษา | Education / 15 บ้านราคาถูก "รีบซื้อ" !!!
    « เมื่อ: มีนาคม 10, 2021, 04:36:13 AM »
    15 บ้านราคาถูก "รีบซื้อ" !!!.



    หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็ยังมีบ้านเดี่ยวที่มีราคาถูก ซึ่งถ้าพูดถึงบ้านที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร หลายๆท่านอาจจะนึกและเห็นภาพว่าต้องมีราคาที่แพงมากอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงนั้นยังมีบ้านเดี่ยวราคาถูกในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งบ้านเดี่ยวราคาถูกที่สุดใน 15 อันดับนี้ คือราคา 1.89 ล้านบาทต่อหน่วย ส่วนอันดับ 15 ราคา 2.69 ล้านบาทต่อหน่วย


    ซึ่งประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้เปิดเผยข้อมูลว่าบ้านเดี่ยวแม้จะราคาถูกที่สุดแต่ราคาก็ยังเกือบ 2 ล้าน และส่วนใหญ่อยู่บริเวณเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานครจึงทำให้สามารถสร้างบ้านเดี่ยวในราคานี้ได้ ดังนั้นมาดูบ้านที่มีราคาถูกในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 15 อันดับ ดังนี้


    อันดับที่ 1: ราคาขายหลังละ 1.89 ล้านบาท ชื่อโครงการ เค.ซี.สุวินทวงศ์ 2 ที่ตั้งซอยสำนักสงฆ์วีรโชติ ถนนสุวินทวงศ์ แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ โทร. 08-9682-4305 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 77 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 51 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 14,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 264 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 498.96 ล้านบาท

    อันดับที่ 2: ราคาขายหลังละ 1.89 ล้านบาท ชื่อโครงการ บ้านรัก 9 (เฟสชมพู-เขียว) ที่ตั้งซอยคลองเก้า 5 ถนนคลองเก้า แขวงคลองสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย ผู้ประกอบการรายย่อย โทร. 091-228-2229, 062-420-4219 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 137 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 85 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 19,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 175 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 330.75 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 3: ราคาขายหลังละ 2.11 ล้านบาท ชื่อโครงการ วี-อไลฟ์ ลำลูกกา คลอง 8 (ALIVE) ที่ตั้งซอยเลียบคลอง 8 ถนนลำลูกกา แขวงลำลูกกา เขตลำลูกกา ปทุมธานี พัฒนาโดย บจก.ทีพีพีดีเวลลอปเมนท์ โทร. 0-2191-1088,02-191-1099 ประเภทบ้านเดี่ยว 1.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 90 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 20,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 221 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 466.31 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 4: ราคาขายหลังละ 2.19 ล้านบาท ชื่อโครงการ บ้านวรินทร คลอง 3 ที่ตั้งซอยเลียบคลอง 3  ถนนลำลูกกา แขวงลาดสวาย เขตลำลูกกา ปทุมธานี พัฒนาโดย บจก.พรจิราบ้านและที่ดิน โทร. 0-2152-8477 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 114 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 60 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 24,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 280 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 613.2 ล้านบาท
     
     
    อันดับที่ 5: ราคาขายหลังละ 2.19 ล้านบาท ชื่อโครงการ ไปรยา ลำลูกกกา คลอง 12 ที่ตั้งซอยเลียบคลอง 12 ถนนลำลูกาคลอง 12(ทางหลวงชนบท 3015) แขวงลำไทร เขตลำลูกกา ปทุมธานี พัฒนาโดย บจก.ผู้ประกอบการรายย่อย โทร. 087-0469922,086-8971150 ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 12,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 60 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 131.4 ล้านบาท

    อันดับที่ 6: ราคาขายหลังละ 2.2 ล้านบาท ชื่อโครงการ บ้านเอกธนาดล ที่ตั้งซอยสุวิมล  ถนนนนทบุรี-ปทุมธานี แขวงคลองหลวง เขตเมืองปทุมธานี ปทุมธานี พัฒนาโดย บจก.เอกสินการ์เด้นโฮม โทร. 0-2581-2128 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 55.25 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 40,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 80 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 176 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 7: ราคาขายหลังละ 2.3 ล้านบาท ชื่อโครงการ พระปิ่น โครงการ 9 เฟส 2 ที่ตั้งซอย- ถนนอุทัย-บางปะอิน (ทางหลวงหมายเลข 3056) แขวงอุทัย เขตอุทัย พระนครศรีอยุธยา พัฒนาโดย บจก.สมชายพัฒนาก่อสร้าง,หจก. โทร. 035-356-666 ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 48 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 20,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 50 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 115 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 8: ราคาขายหลังละ 2.349 ล้านบาท ชื่อโครงการ สิรารมย์ พาร์ค บางปะกง ที่ตั้งซอยอบต.บางปะกง 8 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางปะกง เขตบางปะกง ฉะเชิงเทรา พัฒนาโดย บจก.สิรารมย์7 โทร. 08-5835-0002 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 20,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 71 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 166.779 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 9: ราคาขายหลังละ 2.359 ล้านบาท ชื่อโครงการสินทวีท่าข้าม 3-4 ที่ตั้งซอยอนามัยงามเจริญ 31 ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.สินสวัสดิ์การเคหะ โทร. 0-2459-1555 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 29,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 242 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 570.878 ล้านบาท
     

    อันดับที่ 10: ราคาขายหลังละ 2.39 ล้านบาท ชื่อโครงการบ้านธรรมชาติ รังสิต คลอง 7 ที่ตั้งซอยหมู่บ้านดิสคอฟเวอร์รี่เพลส ถนนรังสิต-นครนายก แขวงลำผักกูด เขตธัญบุรี ปทุมธานี พัฒนาโดย บจก.ทริปเปิลพีดีเวลลอปเม้นท์ โทร. 02-577-4411-2,086-0178183,089-4964463 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 59 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 25000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 156 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 372.84 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 11: ราคาขายหลังละ 2.39 ล้านบาท ชื่อโครงการ บดินทร 3 รังสิตคลอง 7 ที่ตั้งซอยคลอง 7 (ฝั่งใต้) ถนนรังสิต-นครนายก แขวงบึงยี่โถ เขตลำลูกกา ปทุมธานี พัฒนาโดย บจก.บดินทรพร๊อพเพอร์ตี้ โทร. 0-2577-3995, 0-2577-6208-9 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 90 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 59 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 25,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 50 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 119.5 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 12: ราคาขายหลังละ 2.39 ล้านบาท ชื่อโครงการ รติรัตน์ คอทเทจ ลาดปลาดุก-คล้ายสอน ที่ตั้งซอย ถนนต้นเชือก-วัดมะสง แขวงทวีวัฒนา เขตไทรน้อย นนทบุรี พัฒนาโดย บจก.ปัญญาเทพพร็อพเพอร์ตี้ โทร. 09-7074-8258 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 90 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 25,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 10 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 23.9 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 13: ราคาขายหลังละ 2.49 ล้านบาท ชื่อโครงการ เพ็ญศิริ 4 ถนนเลียบวารี (คู้ขวา) ที่ตั้งซอย ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร พัฒนาโดย บจก.เพ็ญศิริบ้านและที่ดิน2008 โทร. 0-2989-6688, 0-2956-9558 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 90 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 30,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 107 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 266.43 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 14: ราคาขายหลังละ 2.49 ล้านบาท ชื่อโครงการ บางกอกวิลล์ ที่ตั้งซอยดอนไก่ดี ถนนสข.4056 แขวงดอนไก่ดี เขตกระทุ่มแบน สมุทรสาคร พัฒนาโดย ผู้ประกอบการรายย่อย โทร. 034-112-629-30 ประเภทบ้านเดี่ยว 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 81 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 25,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 19 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 47.31 ล้านบาท
     
    อันดับที่ 15: ราคาขายหลังละ 2.69 ล้านบาท ชื่อโครงการ ศิลปการ พาร์ค 1 ที่ตั้งซอย ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย แขวงพิมลราช เขตบางบัวทอง นนทบุรี พัฒนาโดย บจก.ศิลปการพร็อพเพอร์ตี้ โทร. 0-2979-9263-5 ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 20,000 บาท จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 152 หน่วย มูลค่าโครงการทั้งหมด 408.88 ล้านบาท
     
    จะเห็นได้ว่าราคาบ้านที่ถูกที่สุดในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็ยังมีราคาที่ถือว่าอยุ่ในเกณฑ์ที่รับได้และมีราคาสูงสุดอยู่ถึง 2 ล้านกว่าเลยทีเดียว ดังนั้น ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สามารถตรวจสอบสภาพอาคารและที่ดินได้ ทั้งนี้ยังรวมถึงการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ ใบอนุญาตต่างๆ อีกด้วย



    สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดของบริการได้ที่:
    โทร. 02-295-3905 ต่อ 106 (K.พงศธร)
    Email : area@area.co.th
    Line ID : @areavaluation หรือคลิก https://lin.ee/8pZYu1C

    33
    10 บริษัทพัฒนาที่ดินที่ใหญ่สุดในไทย



    ในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาได้มีการนำที่ดินต่างๆมาพัฒนาเพื่อสร้างเป็นโครงการมากมาย เช่น บ้าน คอนโด เป็นต้น ซึ่งในแง่ของอสังหาริมทรัพย์นั้นได้มีการจัดอันดับ 10 อันดับ บริษัทที่ได้ทำการพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไว้ 10 อันดับด้วยกัน  ซึ่ง 10 บริษัทพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั้น ได้อ้างอิงนำข้อมูลจากจำนวนและมูลค่าโครงการที่เปิดใหม่ในปี 2563

    ทั้งในแง่จำนวนหน่วยและมูลค่าการพัฒนา ทั้งนี้ในกรณีบริษัทมหาชน นับรวมการพัฒนาของบริษัทในเครือด้วย

    เมื่อดูจากข้อมูลตามรูปข้างบนจะสามารถสรุปได้เลยว่า บริษัทที่มีการพัฒนาสูงที่สุดในปี 2563 คือ  บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ซึ่งการพัฒนาสูงสุดในที่นี้คือ การพัฒนาจำนวนโครงการที่มากที่สุดถึง 38 โครงการ พัฒนาหน่วยขายมากที่สุดถึง 8,476 หน่วย และรวมมูลค่าการพัฒนาทั้งหมด 40,003 ล้านบาท โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 ล้านบาท โดยบริษัทนี้นำคู่แข่งอันดับสองถึงเกือบ 1 ช่วงตัวในแง่จำนวนหน่วยที่เปิดและมูลค่าที่เปิดในปี 2563

    สินค้าของ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) มีจำนวนหน่วยทุกๆ 1 ใน 9 หน่วยที่ขาย แต่ถ้าเทียบในแง่มูลค่าก็เท่ากับ 1 ใน 7 ของมูลค่าที่เปิดขายเลยทีเดียว อาจกล่าวได้ว่า บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ก้าวขึ้นอันดับหนึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากที่  บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท ครองแชมป์เป็นอันดับหนึ่งนับสิบปีที่ผ่านมา  และในปี 2563 นี้ บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตทกลับตกอันดับมาสู่อันดับที่ 7 ทั้งนี้เพราะยังมีหน่วยขายรอการขายอีกมาก จึงยังไม่รีบร้อนเปิดตัวโครงการ  อย่างไรก็ตาม บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตทก็ยังมีรายการ




    โครงการที่รอเปิดตัวอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจกลับมาทวงแชมป์อีกครั้งหนึ่ง เพราะในสมัยที่ครองแชมป์อยู่นั้น มีการเปิดตัวหน่วยขายใหม่นับหมื่นหน่วยต่อปี

    หากพิจารณาถึงบริษัทที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดก็คงเป็น บมจ.เอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่น ซึ่งราคาเฉลี่ยต่อหน่วยคือ 8.664 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2563 เปิดทั้งหมด 11 โครงการ รวม 1,632 หน่วย โดยมีมูลค่าสูงถึง 14,140 ล้านบาท นับได้ว่ามีสัดส่วนการเปิดตัวในเชิงมูลค่าสูงถึง 4.9% ของทั้งหมด  อาจกล่าวได้ว่าในบรรดาบ้านที่มีราคาสูง เช่น 15-20 ล้านบาทขึ้นไป กลุ่มบริษัทนี้จะครองแชมป์อยู่หลายสมัย  ทั้งนี้แต่ก่อนอาจเป็น บมจ.แสนสิริ ซึ่งมักสร้างบ้านราคาสูงออกสู่ตลาด แต่มาในระยะหลัง บมจ.แสนสิริ กลับพัฒนาโครงการในระดับราคาที่แตกต่างกันไป เพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง

    ส่วนบริษัทที่มักจะพัฒนาสินค้าราคา “กันเอง” หรือค่อนข้างถูก ได้แก่ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งในปี 2563 พัฒนาทั้งหมด 10 โครงการ รวม 2,102 หน่วย รวมมูลค่า 3,416 ล้านบาท หรือราว 2.9% ของสินค้าในตลาด โดยมีราคาเฉลี่ยเพียง 1.625 ล้านบาท และสามารถขายได้ดีมาก  อีกบริษัทหนึ่งก็คือ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งในปี 2563 พัฒนาไป 7 โครงการ รวม 4,795 หน่วย โดยมีมูลค่า 9,486 พันล้านบาท หรือตกเฉลี่ยหน่วยละ 1.978 ล้านบาท

    10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดนี้ยิ่งใหญ่มาก โดยประมาณ 49% ของหน่วยขายที่เปิดขายในปี 2563 ขายโดยบริษัท 10 แห่งนี้  และอีก 51% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมด ยังมาจากสินค้าของทั้ง 10 บริษัทนี้  อย่างไรก็ตามก็คงไม่มีใครสามารถครอบงำตลาดได้รายเดียว ต่างจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่อาจมีการ “ผูกขาด” เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ทางโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.trebs.ac.th) ได้มีการจัดหลักสูตรนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ จากผู้ที่มีประสบการณ์จากความสำเร็จในด้านอสังหาริมทรัพย์  โดยท่านสามารถเข้าร่วมงาน “ หลักสูตร นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ (RE162)” รุ่นที่ 29, วันจันทร์ที่ 15 - อังคารที่ 16 มีนาคม 2564 เวลา 08:30 - 17:00 น. ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย



    >>> https://bit.ly/3abVXJD <<<

    สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดของบริการได้ที่
    โทร.02-295-3905 ต่อ 114 (K.สัญชัย)
    Email : lek@trebs.ac.th
    Line ID : @trebs หรือคลิก  https://line.me/R/ti/p/%40tfw7135e

    34
    หลักสูตร RE:142 การจัดตั้งนิติบุคคล บ้านจัดสรร/อาคารชุด
    วันพฤหัสบดีที่ 23 - เสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560 เวลา 08:30-17:00 น. ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

    หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ เจ้าของโครงการ นิติบุคคล รวมถึงลูกบ้าน เพราะจำเป็นต้องรู้ถึงขั้นตอน วิธีการจัดตั้ง การบริหารเงินกองทุน การกำหนดเอกสารสิทธิ์ต่างๆ การจัดทำงบประมาณในการบริหาร และข้อกฏหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น และในหลักสูตรนี้เรายังมีกรณีศึกษา เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการจัดตั้งนิติบุลคล แล้วแนวทางการแก้ไข มาให้ทุกท่านได้เรียนรู้ในหลักสูตรนี้ด้วย
    *เรายังนำ พ.ร.บ. จัดสรรที่ดินฉบับใหม่ และการโอนสาธารณูปโภค  
    "เรียนรู้พรบ.จัดสรรที่ดินฉบับเปลี่ยนแปลงแก้ไขล่าสุดที่นักพัฒนาที่ดินต้องรู้"  

    หัวข้อการอบรม:
    - การกำหนดอัตราเงินกองกลางกับข้อกำหนดกฎหมาย
    - การคำนวณจำนวนเงินกองทุน
    - การออกเอกสารรับเงินและการเก็บรักษาเงินกองกลาง
    - การบริหารกองทุน
    - การจัดทำงบประมาณในการบริหาร
    - สาธารณูปโภค-การบริหารสาธารณะกับการโอนทรัพย์เป็นส่วนกลาง
    ระเบียบข้อกฎหมายด้านงานบริหารงานนิติบุคคล ที่นักพัฒนาที่ดินควรรู้
    - การกำหนดอัตราส่วนกลาง การกำกับและเก็บค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
    - บทกำหนดโทษการต่อเติม ตกแต่ง การใช้ประโยชน์ต่าง ๆ
    **ปัญหาและอุปสรรค กรณีศึกษาการจัดตั้งนิติบุคคลและแนวทางแก้ไข เป็นต้น
    ดูรายระเอียดหัวข้อการอบรมได้ที่: https://goo.gl/H1qMPM

    สามารถลงทะเบียนสำรองที่นั่งได้แล้วที่: https://goo.gl/H1qMPM
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: line: https://line.me/R/ti/p/@trebs1
    E-mail: info@trebs.ac.th หรือโทร: 02-295-3905

    35
    ประชาสัมพันธ์งานใหญ่ประจำปี!!
    งานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 2017
    ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

    โดยภายในงาน เราได้รวบรวมโครงการจากทั่วประเทศ มาร่วมออกบูธ แสดงโครงการพร้อมทั้งโปรโมชั่น

    มากมาย เพื่อให้ทุกท่านได้เลือกลงทุน กันอย่างเต็มที่

    แค่นั้นยังไม่พอ ทางเรามีการจัดงานจากโค้ชในหลากหลายวงการ คอยมา

    พลัดเปลี่ยนมอบความรู้ให้กับทุกท่านที่มาในงาน

    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมภายในงานได้ที่: https://www.facebook.com/TbEXx2017/
    อ่านรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่: https://goo.gl/joMNmj
    ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้ที่: https://goo.gl/o2hoVQ
    (การลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้ามีสิทธิลุ้นรับของรางวัลมากมายภายในงานด้วยนะครับ)

    แล้วพบกันภายใน
    งานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 2017
    วันที่ 2-4 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
    หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามรายละเอียดสามารถติดต่อได้ที่: E-mail: info@trebs.ac.th Tel:

    02.295.3905 ต่อ 102

    36
    มหกรรมอสังหาฯเพื่อการลงทุน รวบรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีโอกาสลงทุนเพื่อปล่อยเช่าทำรายได้ให้กับทั้งผู้ลงทุน
    และเจ้าของโครงการ  อีกทั้งราคาทรัพย์ยังสามารถขยับสูงขึ้นได้ในอนาคต  
    มหกรรมอสังหาฯเพื่อการลงทุน มีสัมมนาฟรีตลอด 3 วันโดยมีหัวข้อครอบคลุมทั้งเรื่องสาธารณูปโภคโครงข่ายทั่วประเทศไทยและอาเซียน
    Concept ONE Belt One Road ที่จะเชื่อม ASIAN  โครงการ EEC สนข รฟท รฟม  
    วิทยากรจากกลุ่มบริษัทพัฒนาเมือง กลุ่มวิทยากรวิเคราะห์หุ้น กลุ่ม Start Up โค๊ชเงินล้าน หลากหลายในวงการอสังหาฯ  
    จนถึงเรื่องฮวงจุ้ย โดย อ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล หลากหลายครบทุกแนว  
    ไปถึงแนวทางการพัฒนาอสังหาในรูปแบบบ้านพักคนชรา ฯลฯ

    กำหนดการ
    งานมหกรรมอสังหาฯ เพื่อการลงทุน 2017
    Thailand Property Best Buy EXPO 2017 (TbEX)
    วันที่ 2-4 ธันวาคม พ.ศ.2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร
    ...
    วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2560
    08.30น. ลงทะเบียน-รับเอกสาร   เพื่อลุ้นรับมือถือวีโว่ฟรี
    09.30น. พิธีเปิดงานมหกรรมอสังหาฯ เพื่อการลงทุน 2017
    11.00น. วิเคราะห์สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ แต่ละภูมิภาค และแนวโน้มในอนาคต
       (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ภาคตะวันออก(ECC) ภาคใต้)
                โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทย AREA
    12.00น. พักเที่ยงเพื่อไปเยี่ยมชมบูธ
    13.00น. อภิปรายหัวข้อแผนพัฒนาจังหวัดต่างๆ ของกลุ่มบริษัทพัฒนาเมือง: โครงข่ายสาธารณูปโภค
    ไทย กับ One Belt One Road แผนพัฒนาจังหวัดภูเก็ต โดย นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล กรรมการบริหาร บจก.ภูเก็ตพัฒนาเมือง
    แผนพัฒนาจังหวัดกรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่นๆ (วิทยากรอยู่ระหว่างเรียนเชิญ)
    14.30น. ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่และทางสายใหม่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
                นายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกร 8 กองก่อสร้าง เขต 1 การรถไฟแห่งประเทศไทย
    15.30น. ทำอย่างไรให้โครงการขายได้ และกิจการอยู่อย่างยั่งยืน: โค้ชพิชัย จาวลา กูรูบัดเจ็ตโฮเต็ล B2
    16.30น. Online Marketing for Apartment : อ.กรทิพย์  พฤกษ์ประเสริฐดี ผู้จัดการอาวุโส วิจัยข้อมูลอุตสาหกรรมและข้อมูลภายใน บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน
    17.30น. ภาวะตลาดหุ้น: ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล
    18.30น. เยี่ยมชมบูธ

    ----------------------------------------------------------------------

    ลงทะเบียนออนไลน์ ด่วนเพื่อลุ้นรับมือถือวีโว่ฟรี
    http://www.trebs.ac.th/Thai/SUMMARY/index.php?p=expo-real_estate.php
    มหกรรมอสังหาฯเพื่อการลงทุนจัดโดย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด

    หน้า: [1]