ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - ว่านโบตั๋น

หน้า: [1] 2 3 4 5
1
อยากจะไปต่างประเทศหนึ่งที ไม่ต้องพกเงินสดไปมากมาย เพราะตอนนี้เพียงแค่เราพกบัตรเดบิต Travel Card ใบเดียว บัตรที่ออกแบบเพื่อสายท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายที่คนชอบเที่ยวควรพกติดกระเป๋า

บัตรเดบิต ท่องเที่ยวคืออะไร

travel card คือเดบิตการ์ดประเภทหนึ่งที่นอกจากใช้รูดซื้อสินค้าและกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้แล้วยังสามารถใช้แลกสกุลเงินต่างประเทศได้อีกด้วย โดยจุดเด่นของบัตรประเภทนี้คือสามารถแลกสกุลเงินได้ในเรทพิเศษ รูดซื้อสินค้าและบริการได้โดยปราศจากค่าความเสี่ยง ซึ่งค่าความเสี่ยงที่เรียกเก็บนั้นก็เพราะค่าเงินมีการผันผวนตลอดเวลา นั่นทำให้การใช้บัตรเครดิตต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตามไปด้วย และยังมีดีลสิทธิพิเศษมากมายจากสถาบันการเงิน เช่น ฟรีประกันเดินทาง หรือรับส่วนลดในการซื้อสินค้าหมวดท่องเที่ยว เป็นต้น

เปรียบเทียบชัด 3 บัตร Travel Card ยอดนิยม แบบไหนเหมาะกับใคร

ปัจจุบันหลายสถาบันการเงินต่างออกผลิตภัณฑ์บัตร Travel Card เพื่อเอาใจคนรักการเดินทาง เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่าสมัครบัตรไหนถึงจะได้สิทธิพิเศษคุ้มค่าที่สุด เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเลือก สมัครบัตรเดบิต ท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการ

1. Krungthai Travel Card
นับเป็นสถาบันการเงินเจ้าแรกที่ออก บัตร atm ท่องเที่ยวมาเพื่อนักเดินทางโดยเฉพาะ จุดเด่นของบัตรนี้คือแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้มากถึง 17 สกุลเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม สะดวกสบายเพราะสามารถแลกเงินและเปิด-ปิดการใช้บัตรได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน ที่สำคัญยังใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ในต่างประเทศได้อีกด้วย

2. TMB All Free
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับนักเดินทาง สำหรับบัตร All Free มีจุดเด่นคือไม่ต้องแลกเงินก่อนแต่สามารถรูดซื้อสินค้าได้ทั่วโลกในอัตราสุดพิเศษ มาพร้อมสิทธิพิเศษด้านประกันเดินทาง หากบัตรหายธนาคารจะออกบัตรใหม่ให้ฟรี และนอกจากใช้งานต่างประเทศได้แล้วยังใช้เบิก-ถอนเงินในประเทศไทยได้อีกด้วย

3. You Trip Powered by K-Bank
บัตรเติมเงิน ตัวเลือกดี ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแบกรับค่าธรรมเนียม เพราะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ สามารถใช้ซื้อสินค้าได้ทุกสกุลเงินแม้เป็นสกุลเงินที่ไม่สามารถแลกได้ แต่ใครที่ใช้บัตรนี้ต้องเติมเงินเข้าบัตรก่อนจึงสามารถรูดซื้อสินค้าและบริการได้

ใครรู้ตัวว่าเป็นคนชอบเดินทางโดยเฉพาะเดินทางไปต่างประเทศ แนะนำให้สมัครบัตรท่องเที่ยว เปิดบัตรเดบิตออนไลน์เอาไว้ เพราะปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินสด แต่ยังรูดซื้อสินค้าและบริการได้อย่างสะดวก ที่สำคัญยังแลกเงินได้หลายสกุลเงินด้วยอัตราแลกเงินสุดคุ้ม และยังมักจะมีประกันการเดินทางติดมาด้วย ถือว่าครอบคลุม เที่ยวไหนก็อุ่นใจแน่นอน

2
ช่วงนี้ใครกำลังจะมีทริปไปเที่ยว อย่าลืมเปิดบัตรเดบิต ท่องเที่ยว หรือ travel card บัตรที่ใช้สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศ ใช้บัตรจ่ายเงินแทนเงินสดโดยไม่ต้องวุ่นวายแลกเงินก่อนเดินทาง บัตรเดบิตใช้ต่างประเทศ ใบเดียวใช้จ่ายสะดวก ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวจำนวนมาก กดเงินสดเบิกออกจากตู้ ATM ในต่างประเทศได้เลย บัตรเดบิตท่องเที่ยวได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง มีประกันการเดินทางให้ฟรีอีกด้วย วันนี้เรามีบัตรมาแนะนำกัน 5 ใบ ที่น่าสนใจ
   1.ธนาคารกรุงไทย บัตร Krungthai Travel Card ถือเป็นบัตรต้นแบบเนื่องจากธนาคารกรุงไทยเป็นรายแรกที่ออกบัตรท่องเที่ยวในเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2561 ลักษณะเป็นบัตรเติมเงินที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card
จุดเด่น
-ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตร
-แลกเงินและโอนเงินเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ง่ายๆ ตลอด 24 ชม.
-รองรับสกุลเงินที่แลกเก็บได้ 19 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR , NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-ถอนเงินในต่างประเทศได้ 100,000 บาท ต่อวัน
-จำนวนถอนเงินสดสกุลต่างประเทศ 25,000 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน
-มีประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ วงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท รับประกันโดย บมจ. ทิพยประกันภัย
จุดด้อย
-ไม่สามารถใช้จ่ายเงินสกุลที่ไม่รองรับ ไม่สามารถรูดได้ทันทีหากไม่แลกในสกุลเงินที่รองรับก่อน
2.ธนาคารทหารไทย บัตร TMB All Free
ตามมาติดๆ ด้วยบัตรท่องเที่ยวของธนาคารทหารไทยเปิดตัวตามมาในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2561 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card เช่นเดียวกัน ถือเป็นบัตรเดบิตท่องเที่ยวรายแรกที่ทำบัตรให้รูดใช้ง่ายสกุลเงินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องแลกเงินก่อน สามารถใช้จ่ายจากเงินในบัญชีได้เลย เสมือนกับบัตร atm สามารถเบิกเงินสดตู้ ATM ได้ทุกตู้ธนาคารทั่วไทยซึ่งเป็นข้อดีที่ต่างจากบัตรธนาคารอื่น
จุดเด่น
-รองรับทุกสกุลเงิน รูดจ่ายได้ทั่วโลกโดยตรง ไม่ต้องแลกก่อน ใช้ได้ตามยอดเงินในบัญชีซึ่งจะตัดเงินออกจากบัญชีเราโดยตรง
-ไม่มีชาร์จค่าความเสี่ยงการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5%
-ถอนเงินจากตู้ ATM ในไทยได้ทุกสาขา ถอนเงินในต่างประเทศมีค่าธรรมเนียมถูกสุด 75 บาท (บัตรอื่น 100 บาท)
-วงเงินที่สามารถรูดได้ต่อวันสูงสุด 500,000 บาทต่อวันต่อบัตร
-มีส่วนลดและสะสมแต้มสำหรับการใช้จ่ายในประเทศ
-มีประกันการเดินทางให้ฟรี
-ควบคุมวงเงินที่จะใช้จ่ายบัตรได้ด้วยตนเอง ผ่าน TMB TOUCH และระบบรักษาความปลอดภัยยกเลิกการใช้งานบัตรผ่านแอป
จุดด้อย
-มีการจ่ายค่าแรกเข้าและรายปี เหมือนบัตรเดบิตทั่วไป
-ไม่สามารถแลกเงินเก็บเอาไว้ได้ เรตแปรผันตามวันที่ใช้
-ต้องเตรียมเงินในบัญชีไว้ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายตลอดทริป
3.ธนาคารไทยพาณิชย์ บัตร PLANET SCB มีลักษณะเป็นบัตรเติมเงินที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งานเหมือนกับบัตร Krungthai Travel Card รูดใช้จ่ายได้ทั้งร้านค้าทั่วไปหรือร้านออนไลน์ที่รับบัตร VISA
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ ไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรหรือรูดจ่ายได้ด้วย
-รองรับการแลกเปลี่ยนทุกสกุลเงิน
-แลกเงินและโอนเงินง่าย ทุกที่ ตลอด 24 ชม. ผ่าน SCB EASY App
-ล็อกเรทได้ แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศเก็บไว้ได้ 13 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CHF, SGD, HKD, NZD, CAD, CNY, KRW และ TWD
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-วงเงินการกดเงินสดผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ สูงสุด 100,000 บาทต่อวัน (ค่าธรรมเนียมการกดเงินสดที่ต่างประเทศ 100 บาท ต่อครั้ง)
-มีประกันการเดินทาง 10 วัน บัตรเดบิตประกัน ดูแลค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล สูงถึง 1,000,000 บาท พร้อมดูแล 24 ชั่วโมง มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินยามเดินทาง
จุดด้อย
-ไม่สามารถกดเงินสดในประเทศไทยได้
   4.ธนาคารกสิกรไทย บัตร YouTrip powered by KBANK บัตรท่องเที่ยวของธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2562 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Mastercard รูดใช้ง่ายทุกสกุลเงินต่างประเทศ
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมสมัครบัตร และค่าธรรมเนียมรายปี
-รูด แตะ จ่าย ช้อปออนไลน์ทั่วโลกได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก
-ไม่มีการชาร์จค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ
-แลกเงินล่วงหน้าเก็บไว้ได้ 10 สกุลเงิน ได้แก่ THB, JPY, HKD, SGD, AUD, EUR, GBP, CHF, USD, CAD ผ่านแอป YouTrip ตามเรทที่ล็อกไว้ ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่แลก
-ถอนเงินสดในต่างประเทศ 50,000 บาทต่อเดือน ยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ ATM ที่ต่างประเทศ จนถึง 31 ธ.ค. 2565
-อัปเดตสเตตัสทุกรายจ่ายแบบ Real-time ช่วยให้วางแผนและตรวจสอบการใช้งานบัตรได้สะดวกสบาย
-บัตรสูญหาย สามารถระงับบัตรผ่านแอป YouTrip ได้ทันที
-มีระบบ SmartExchange กรณีที่แลกเงินล่วงหน้าไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย โดยระบบจะแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทในบัญชีเป็นสกุลเงินอื่นตามอัตราแลกเปลี่ยนในเวลานั้น
   -วงเงินที่รูดได้สูงสุด 500,000 บาทต่อวัน ผ่านร้านค้าทั่วโลกที่รองรับ Mastercard หรือร้านค้าออนไลน์โยดมียอดใช้จ่ายรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท / วัน
   -โปรโมชั่น ชวนเพื่อนมา สมัครบัตรเดบิต YouTrip รับโบนัสคนละ 100 บาท ชวนได้สูงสุด 10 คน ถึง 31 ธันวาคม 2565
จุดด้อย
-ไม่มีประกันการเดินทางให้
เมื่อพิจารณาแล้ว หากชอบบัตรแบบใดหรือบัตรไหนเหมาะกับต้องการใช้งานของแต่ละคน ต้องการเรตถูกที่สุด ควรเลือกบัตรที่ล็อกเรตแลกเก็บไว้ได้ หรือถ้าต้องการความสะดวกไว้ก่อนก็เลือกบัตรที่รูดจ่ายได้เลย หรือลองสอบถามกับแต่ละธนาคารเพื่อให้ได้บัตรเดบิตที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด

3
Krungthai Next ถือเป็นแอปพลิเคชันสถาบันการเงินที่สามารถใช้งานได้หลากหลายธุรกรรมมาก และยังได้รองรับบริการอื่นนอกเหนือจากธุรกรรมการเงินกับทางภาครัฐ อย่างเช่น รับเงินจากโครงการภาครัฐ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสมัครเข้าโครงการคนละครึ่ง หรือไทยชนะ นั่นคือมีธุรกรรมด้านการลงทุนด้วย  เช่น ลงทะเบียนสำหรับการเริ่มการซื้อขายกองทุน       เป็นต้น ซึ่งขั้นตอน การซื้อขายกองทุน นั้นทำได้ง่ายมาก

เริ่มต้นซื้อกองทุนรวมผ่านแอพพลิเคชั่น Krungthai Next ทำตาม 3 ขั้นตอนนี้เลย
   1.เข้าสู่แอพพลิเคชั่น เลือกเมนูบริการ จากนั้นเลือกรายการกองทุนรวม (หากซื้อขายบ่อยครั้งแนะนำให้ตั้งค่าหน้าทางลัด เพื่อให้เห็นเมนูได้สะดวกขึ้น)
   2.เมื่อเข้าสู่รายการกองทุนรวมแล้ว คุณจะเห็นหน้าบัญชีกองทุนที่ประกอบด้วยชื่อเจ้าของบัญชีและจำนวนเงิน (คล้ายกับหน้าบัญชีออมทรัพย์) จากนั้นเลือกรายการ “ซื้อ”
   3.ระบบจะให้คุณเลือกกองทุนที่คุณต้องการซื้อ ซึ่งจะเป็นกองทุนจากหลักทรัพย์ KTAM เท่านั้น และก่อนซื้อควรอ่านหนังสือชี้ชวนเกี่ยวกับกองทุนนั้นเข้าใจ และแต่ละกองทุนจะมีขั้นต่ำในการซื้อไม่เท่ากัน โดยมีราคาตั้งแต่หลักร้อย – หลักหมื่นต่อหน่วยลงทุน หากคุณกรอกจำนวนเงินมากกว่าขั้นต่ำเรียบร้อยแล้ว ให้กดยอมรับเงื่อนไขของความเสี่ยงกองทุน จากนั้นใส่รหัสยืนยัน เพียงเท่านี้ขั้นตอนในการซื้อก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ต้องการขายกองทุน ทำตาม 4 ขั้นตอนนี้เลย
   1.เลือกแถบเมนูขาย ซึ่งอยู่แถบเดียวกับเมนูซื้อ
   2.เลือกชื่อกองทุนที่ต้องการขาย ซึ่งก่อนเลือกทุกครั้งควรสังเกตให้ดีว่าเป็นกองทุนที่ต้องการขายจริงหรือไม่ เพราะชื่อแต่ละกองทุนค่อนข้างคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม Krungthai Next ได้ออกแบบระบบให้ผู้ขายสามารถยกเลิกธุรกรรมที่ผิดพลาดได้ง่ายๆ ผ่านการยกเลิกรายการย้อนหลัง
   3.กรอกข้อมูลที่ต้องการขาย ได้แก่ จำนวนหน่วยลงทุน และบัญชีรับเงินขายกองทุนคืน
   4.ตรวจสอบข้อมูล กดยืนยัน และกระบวนการขายก็เป็นอันเรียบร้อย

อยากสับเปลี่ยนกองทุนทำได้ไหม
   การสับเปลี่ยนกองทุนจะช่วยให้เราสามารถซื้อกองทุนใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นต้องขายกองทุนเดิมออกมาทั้งหมดก็ได้ เพียงแต่การสับเปลี่ยนต้องอยู่ภายใต้กลุ่มกองทุนเดียวกัน และไม่ต้องรอรับเงินขายกองทุนคืนแบบการขายปกติ โดยมี 5 ขั้นตอน
   1.กดเลือกรายการสับเปลี่ยนกองทุน ซึ่งอยู่แถบเดียวกับเมนูซื้อ-ขาย
   2.เลือกกองทุนรวมที่ต้องการสลับสับเปลี่ยน
   3.กรอกรายละเอียดวิธีของการสับเปลี่ยนกองทุน ได้แก่ หน่วยลงทุน และจำนวนเงิน เป็นต้น
   4.กดยอมรับความเสี่ยงทั้งหมด
   5.ใส่รหัสยืนยัน เพียงเท่านี้ขั้นตอนการสับเปลี่ยนกองทุนก็เป็นอันเสร็จสิ้น

   ถือว่าไม่อยากเลยสำหรับการซื้อขายเปลี่ยนกองทุน ซึ่งกระบวนการซื้อกองทุนรวมจะไม่ซับซ้อนมากนัก แต่ขั้นตอนการขายจะไม่สามารถดึงเงินออกจากบัญชีกองทุนได้ทันที เพราะการรับเงินขึ้นอยู่กับระยะเวลาตามกองทุนนั้นกำหนด เช่น กองทุน KT-mai ที่ลงทุนกับบริษัทในตลาด MAI ใช้ระยะเวลา T+3 หมายถึงใช้เวลาถอนเงิน 3 วันนับแต่ขายกองทุนออกไป ซึ่งจะเห็นได้ว่า กองทุนรวมถอนได้ ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเงินจะไม่เข้าบัญชีของคุณ โดยจะใช้ระยะเวลาในการคืนเงินไม่เกิน 5 วันทำการสูงสุด นอกจากนี้กรุงไทยยังสมารถทำการเปิดบัตร สมัครบัตรเดบิตออนไลน์ รวมถึงเรื่องสินเชื่อการยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน ได้เช่นกัน

4
   เรื่องของรายรับรายจ่าย เป็นสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป แต่เมื่อเข้าสู่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ เรื่องของการมีเงินออมเพื่อสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อความมั่นคงทางการเงินก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การนำเงินไปลงทุนอาจเกิดความเสี่ยงมากเกินไปสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง แต่รู้หรือไม่ว่าการ เปิดบัญชี   ใหม่ ออมทรัพย์ก็ถือเป็นการลงทุนชนิดหนึ่งที่มีผลตอบแทน วันนี้จะมาแนะนำว่าออมทรัพย์อย่างไรให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
   ปกติแล้วเงินออมทรัพย์กับธนาคารนั้นให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ต่ำ แต่ก็มีเงินฝากอีกประเภทที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติ และไม่มีความเสี่ยงขาดทุนเหมือนการลงทุนประเภทอื่น ๆ นั่นก็คือการ เปิดบัญชีฝากประจำ

รู้จัก บัญชีเงินฝากประจำ มีกี่ประเภท

บัญชีฝากประจำ แบบทั่วไป (General Fixed Deposit) คือ การฝากเงินเข้าไปในธนาคารโดยมีสัญญาว่าจะไม่ทำการถอนเงินจนกว่าจะครบกำหนดเวลา เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ ฝากประจำ12เดือน และไม่มีการกำหนดจำนวนครั้งในการฝาก รวมถึงไม่จำกัดยอดฝากขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ฝาก แต่แนะนำให้การฝากแต่ละครั้งควรเป็นเงินก้อนใหญ่เพราะธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแยกกันตามจำนวนเงินฝากในแต่ละครั้งและตามระยะเวลาของเงินฝากแต่ละก้อน โดยผู้ฝากจะได้รับผลตอบแทนจากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง   จะอยู่ที่ 0.4 – 3% ต่อปี และจะมีการปันผลในทุก 6 เดือน หรือตามข้อกำหนด สำหรับ เปิดบัญชีเงินฝากประจำ ประเภททั่วไปนี้จะมีการเก็บภาษีจากดอกเบี้ยที่ได้รับในอัตราร้อยละ 15 สามารถเปิดได้หลายบัญชีต่อหนึ่งคน

บัญชีฝากประจำ แบบปลอดภาษี (Tax Free Monthly Deposit) เป็นการฝากเงินด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในทุกเดือน ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาทต่อเดือน และในบางธนาคารอาจจะเพิ่มระยะเวลาได้ถึง 24 เดือน หรือ 36 เดือน การฝากประเภทนี้มีอัตราบัญชีเงินฝากอัตราดอกเบี้ยสูงอยู่ที่ 0.4 – 3% และมีการปันผลในทุก 6 เดือน หรือตามข้อกำหนดเหมือนกับการฝากประจำแบบทั่วไปแต่จะปลอดภาษีเมื่อฝากครบตามสัญญา หากมีความจำเป็นต้องถอนเงินก่อนครบกำหนดก็จะไม่ได้ดอกเบี้ยเต็มจำนวนของสัญญาและยังต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 15 อีกด้วย ดังนั้นจึงควรวางแผนในการออมให้ดี การฝากประเภทนี้จะกำหนดให้ 1 คน สามารถมีได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น

ถือว่าการฝากประจำมีดอกเบี้ยสูงกว่าการเปิดบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แต่ก่อนที่จะเปิดบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงประเภทนี้ต้องมีความมั่นใจว่าจะสามารถฝากเงินได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนโดยไม่กระทบต่อรายจ่ายในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเงินออมให้ปลอดภัยและได้ผลตอบแทนอย่างไม่มีความเสี่ยง แม้ว่าการนำเงินไปลงทุนแบบอื่นจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าแต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยง สำหรับใครที่อยากได้ความมั่นคงและมีเงินเย็นเก็บนาน แนะนำให้เปิดบัญชีฝากประจำเลย

5
หากเราพูดถึงการชำระเงินหรือส่งเงินให้กับผู้อื่น องค์กร บริษัท หรือร้านค้าที่อยู่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วจะชำระด้วยระบบ การโอนเงินระหว่างประเทศ ผ่านธนาคาร แต่ถ้ารอบนี้เรา้องการโอนเงินไปต่างประเทศอย่างเร่งด่วนจะทำอย่างไรดี มาดูกัน

เช็กรอบบิลที่ต้องจ่ายล่วงหน้า
หลังจากเช็กรอบบิลที่ต้องจ่าย วันที่กำหนด จำนวนเงิน หากไม่แน่ใจว่าจะโอนเงินทันหรือไม่ แนะนำให้สอบถามกับธนาคารที่ทำรายการก่อนล่วงหน้าว่า โอนเงินแบบ swift codeใช้เวลากี่วัน เพื่อกะเวลาให้พอดี และจะได้รู้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับการโอนเงินในครั้งต่อไปด้วย โดยปกติแล้วการโอนเงินแบบ Swift Code ใช้เวลา 1 - 2 วัน แต่ผู้โอนควรต้องมีการเผื่อเวลามากกว่านี้ เนื่องจากเงื่อนไขของเวลานั้นยังต้องคำนึงถึงกระบวนการที่ธนาคารแต่ละแห่งจะต้องดำเนินการหลังจากที่ผู้โอนทำรายการไปแล้ว เช่น ต้องมีการตรวจสอบการยืนยันตัวตนเพิ่ม หรือต้องมีการติดต่อกลับธนาคารต้นทาง และยังต้องคำนึงถึงปัญหาของรายการเอกสารผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจที่อาจเกิดขึ้นได้
กรอกข้อมูลอย่าให้ผิด
เอกสารและข้อมูลบัญชีสำหรับการ โอนเงินไปต่างประเทศ สำคัญมาก ต้องตรวจอย่างละเอียดและอย่าให้มีการผิดพลาด บ่อยครั้งที่พบว่าผู้โอนใส่เลขที่ผิดการโอนเงินจึงไม่เข้าบัญชีผู้รับ แม้แต่คนที่โอนเงินบ่อย ๆ ก็ยังพลาดกันได้ทำให้เสียเวลาในการติดตามเงินคืนอีกหลายวัน
การโอนเงินไปต่างประเทศส่วนใหญ่ใช้วิธี โอนเงินไประหว่างประเทศ swift code เป็นหลัก เพราะเป็นระบบมาตรฐานสากล ข้อมูลรหัสธนาคารจึงสำคัญและพลาดไม่ได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง Swift Code ธ.กรุงไทย คือ KRTHTHBK สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ก็คือผู้โอนใส่ Swift Code ผิดธนาคาร ซึ่งทำให้ต้องติดต่อธนาคารต้นทางเพื่อแก้ไขใหม่เสียเวลามากขึ้นไปอีก
โอนเพื่อสิ่งใดต้องมีเอกสารประกอบ
การ โอนเงินไปต่างประเทศ ต้องมีเอกสารประกอบเพื่อแสดงวัตถุประสงค์การโอน  เช่น การโอนชำระค่าสินค้า ต้องแนบใบแจ้งหนี้ Statement ที่เรียกเก็บเงิน การโอนเพื่อชำระค่าเรียนจะต้องใช้เอกสารจากมหาวิทยาลัยหรือใบแจ้งเก็บค่าเทอมจากโรงเรียน เป็นต้น  เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเราต้องการโอนเงินเพื่อวัตถุประสงค์อะไรอย่างชัดเจน ข้อนี้เป็นเงื่อนไขอย่างหนึ่งในการ โอนเงินข้ามประเทศ ที่แบงก์ชาติกำหนดไว้และธนาคารพาณิชย์ต้องปฏิบัติตาม

อีกวิธีหนึ่งที่รวดเร็วและไม่ต้องเดินทางไปธนาคาร ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาและเอกสาร แลกเงินต่างประเทศ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ไว้ในสมาร์ทโฟน หรือใช้บริการผ่าน www.ktbnetbank.com แล้วสมัครใช้บริการด้วยขั้นตอนที่ง่าย การโอนเงินจะเร็วขึ้น เพราะแค่มีมือถือก็สามารถทำ การโอนเงินระหว่างประเทศ ได้แล้ว สำหรับธุระด่วนที่ต้องรีบจ่ายผ่านแอปคือใช่ และชัวร์

6
เชื่อว่าเกือบทุกๆ คนน่าจะมีบัญชีเงินฝากอย่างต่ำคนละ 1  บัญชีใช่ไหมคะ แล้วทุกคนทราบไหมว่าบัญชีเนี่ยมีหลากหลายประเภทมากๆ  และได้ดอกเบี้ยหรือมีจุดเด่นต่างกัน วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักประเภทบัญชีเงินฝากที่คนนิยมกัน และจะฝากเงินอย่างไรให้ได้เงินแสน มาดูกัน

ออมทรัพย์ VS ฝากประจำ ฝากเงินแบบไหนได้ดอกเบี้ยสูง
การฝากแบบบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง เป็นบัญชีที่ไม่กำหนดระยะเวลาในการฝากหรือถอน ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินสูง จึงเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือมนุษย์เงินเดือนที่เริ่มต้นฝากด้วยเงินจำนวนไม่มาก เพราะเงินน้อยก็ฝากได้ แถมการันตีผลตอบแทนแน่นอน ซึ่งผลตอบแทนของเงินฝากออมทรัพย์จะมาในรูปแบบดอกเบี้ยรายวัน แต่จะได้คืนในบัญชีออมทรัพย์อัตราดอกเบี้ยสูงทุก 6 เดือน และถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับเงินฝากประเภทอื่น
การฝากแบบถัดมาคือบัญชีเงินฝากประจำ เหมาะกับคนที่มีเงินเย็นอยู่ติดตัว หรือตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อของหรือบริการบางอย่าง โดยการฝากประจำมีกำหนดระยะเวลาในการฝากแน่ชัด เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน และจ่ายดอกเบี้ยครั้งเดียวเมื่อครบกำหนด ซึ่งดอกเบี้ยจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
การฝากเงินแบบเงินฝากประจำนี้จะได้ดอกเบี้ยสูงกว่าแบบบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง แต่จะขาดความยืดหยุ่นและไร้สภาพคล่อง เพราะไม่สามารถถอนเงินออกก่อนกำหนดได้ (ถ้าจะถอนต้องปิดบัญชีและไม่ได้รับดอกเบี้ย หรือได้ดอกเบี้ยในอัตราออมทรัพย์) เหมาะกับคนที่แน่ใจว่ามีเงินเย็นในจำนวนเท่าเดิม เพื่อการลงทุย

อยากมีเงินแสนต้องเริ่มออมอย่างไร
ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยสามารถทำบัญชีรายรับรายจ่ายประกอบ เพื่อช่วยในการสำรวจค่าใช้จ่ายของเราเอง
หาตัวช่วยในการลงทุน เช่น การฝากประจำ และถ้าคุณกำลังมองหาว่า ฝากเงินแบบไหนได้ดอกเบี้ยสูง เราขอแนะนำบัญชีเงินฝากประจำ Zero Tax Max จากธนาคารกรุงไทย ฝากแบบตัดบัญชีอัตโนมัติได้ตามใจ จะฝาก 24 เดือน 36 เดือน หรือ 48 เดือนก็ได้ พร้อมได้คํานวณดอกเบี้ยเงินฝากแบบไม่โดนหักภาษี แถมถ้าเก็บเงินได้เดือนละ 3,000 บาท (วันละ 100 บาท) และนำมาฝากใน Zero Tax Max หรือเงินฝากประจำ 12 เดือนของธนาคารกรุงไทยเป็นเวลาต่อเนื่อง 3 ปี การันตีว่าได้เงินแสนแน่นอน

สำหรับใครที่สนใจสามารถลองดูวิธีเปิดบัญชีออนไลน์ ยิ่งปัจจุบัน Zero Tax Max จากธนาคารกรุงไทย ฝากประจำแบบปลอดภาษี แถมยังได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเงินฝากประจำที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

7
   เมื่อเรากำลังจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศ อีกหนึ่งสิง่ที่ไม่พกไปไม่ได้เลยคือ บัตร travel card บัตรที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศ ใช้บัตรจ่ายเงินแทนเงินสดโดยไม่ต้องวุ่นวายแลกเงินก่อนเดินทาง บัตรใบเดียวใช้จ่ายสะดวก ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวจำนวนมาก กดเงินสดเบิกออกจากตู้ ATM ในต่างประเทศได้เลย และยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทั้งเรื่องของการคุ้มครองการเดินทาง และส่วนลดต่างๆ ในต่างประเทศอีกมากมาย
แนะนำ บัตร Travel Card จากธนาคารใด ใบไหนน่าสมัครบัตรเครดิต บัตรเดบิต   

   1.ธนาคารกรุงไทย บัตร Krungthai Travel Card ถือเป็นบัตรต้นแบบเนื่องจากธนาคารกรุงไทยเป็นรายแรกที่ออกบัตรท่องเที่ยวในเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2561 ลักษณะเป็นบัตรเติมเงินที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card
จุดเด่น
-ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตร
-แลกเงินและโอนเงินเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ง่ายๆ ตลอด 24 ชม.
-รองรับสกุลเงินที่แลกเก็บได้ 19 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR , NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-ถอนเงินในต่างประเทศได้ 100,000 บาท ต่อวัน
-จำนวนถอนเงินสดสกุลต่างประเทศ 25,000 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน
-มีประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ วงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท รับประกันโดย บมจ. ทิพยประกันภัย
จุดด้อย
-ไม่สามารถใช้จ่ายเงินสกุลที่ไม่รองรับ ไม่สามารถรูดได้ทันทีหากไม่แลกในสกุลเงินที่รองรับก่อน

2.ธนาคารทหารไทย บัตร TMB All Free
บัตรท่องเที่ยวของธนาคารทหารไทยเปิดตัวตามมาในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2561 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card เช่นเดียวกัน ถือเป็นบัตรเดบิตท่องเที่ยวรายแรกที่ทำบัตรให้รูดใช้ง่ายสกุลเงินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องแลกเงินก่อน สามารถใช้จ่ายจากเงินในบัญชีได้เลย นอกจากนี้ยังเป็นเหมือน บัตร atm เบิกเงินสดตู้ ATM ได้ทุกตู้ธนาคารทั่วไทยซึ่งเป็นข้อดีที่ต่างจากบัตรธนาคารอื่น
จุดเด่น
-รองรับทุกสกุลเงิน รูดจ่ายได้ทั่วโลกโดยตรง ไม่ต้องแลกก่อน ใช้ได้ตามยอดเงินในบัญชีซึ่งจะตัดเงินออกจากบัญชีเราโดยตรง
-ไม่มีชาร์จค่าความเสี่ยงการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5%
-ถอนเงินจากตู้ ATM ในไทยได้ทุกสาขา ถอนเงินในต่างประเทศมีค่าธรรมเนียมถูกสุด 75 บาท (บัตรอื่น 100 บาท)
-วงเงินที่สามารถรูดได้ต่อวันสูงสุด 500,000 บาทต่อวันต่อบัตร
-มีส่วนลดและสะสมแต้มสำหรับการใช้จ่ายในประเทศ
-มีประกันการเดินทางให้ฟรี
-ควบคุมวงเงินที่จะใช้จ่ายบัตรได้ด้วยตนเอง ผ่าน TMB TOUCH และระบบรักษาความปลอดภัยยกเลิกการใช้งานบัตรผ่านแอป
จุดด้อย
-มีการจ่ายค่าแรกเข้าและรายปี เหมือนบัตรเดบิตทั่วไป
-ไม่สามารถแลกเงินเก็บเอาไว้ได้ เรตแปรผันตามวันที่ใช้
-ต้องเตรียมเงินในบัญชีไว้ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายตลอดทริป

3.ธนาคารไทยพาณิชย์ บัตร PLANET SCB อีกหนึ่งบัตรที่น่าสนใจเพราะมีลักษณะเป็นบัตรเติมเงินที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งานเหมือนกับบัตร Krungthai Travel Card รูดใช้จ่ายได้ทั้งร้านค้าทั่วไปหรือร้านออนไลน์ที่รับบัตร VISA
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ ไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรหรือรูดจ่ายได้ด้วย
-รองรับการแลกเปลี่ยนทุกสกุลเงิน
-แลกเงินและโอนเงินง่าย ทุกที่ ตลอด 24 ชม. ผ่าน SCB EASY App
-ล็อกเรทได้ แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศเก็บไว้ได้ 13 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CHF, SGD, HKD, NZD, CAD, CNY, KRW และ TWD
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-วงเงินการกดเงินสดผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ สูงสุด 100,000 บาทต่อวัน (ค่าธรรมเนียมการกดเงินสดที่ต่างประเทศ 100 บาท ต่อครั้ง)
-มีประกันการเดินทาง 10 วัน บัตรเดบิตประกัน ดูแลค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล สูงถึง 1,000,000 บาท พร้อมดูแล 24 ชั่วโมง มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินยามเดินทาง
จุดด้อย
-ไม่สามารถกดเงินสดในประเทศไทยได้

   4.ธนาคารกสิกรไทย บัตร YouTrip powered by KBANK สายท่องเที่ยวแทบไม่มีใครไม่รู้จักกับบัตรท่องเที่ยวของธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2562 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Mastercard รูดใช้ง่ายทุกสกุลเงินต่างประเทศ
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมสมัครบัตร และค่าธรรมเนียมรายปี
-รูด แตะ จ่าย ช้อปออนไลน์ทั่วโลกได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก
-ไม่มีการชาร์จค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ
-แลกเงินล่วงหน้าเก็บไว้ได้ 10 สกุลเงิน ได้แก่ THB, JPY, HKD, SGD, AUD, EUR, GBP, CHF, USD, CAD ผ่านแอป YouTrip ตามเรทที่ล็อกไว้ ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่แลก
-ถอนเงินสดในต่างประเทศ 50,000 บาทต่อเดือน ยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ ATM ที่ต่างประเทศ จนถึง 31 ธ.ค. 2565
-อัปเดตสเตตัสทุกรายจ่ายแบบ Real-time ช่วยให้วางแผนและตรวจสอบการใช้งานบัตรได้สะดวกสบาย
-บัตรสูญหาย สามารถระงับบัตรผ่านแอป YouTrip ได้ทันที
-มีระบบ SmartExchange กรณีที่แลกเงินล่วงหน้าไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย โดยระบบจะแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทในบัญชีเป็นสกุลเงินอื่นตามอัตราแลกเปลี่ยนในเวลานั้น
   -วงเงินที่รูดได้สูงสุด 500,000 บาทต่อวัน ผ่านร้านค้าทั่วโลกที่รองรับ Mastercard หรือร้านค้าออนไลน์โยดมียอดใช้จ่ายรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท / วัน
   -โปรโมชั่น ชวนเพื่อนมา สมัครบัตรเดบิต YouTrip รับโบนัสคนละ 100 บาท ชวนได้สูงสุด 10 คน ถึง 31 ธันวาคม 2565
จุดด้อย
-ไม่มีประกันการเดินทางให้
ข้อมูลข้างต้นชี้ได้ชัดเจนถึงข้อดีของบัตร travel card ของแต่ละธนาคาร สรุปว่าบัตรใบไหนดีกว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละคน ต้องการเรตถูกที่สุด ควรเลือกบัตรที่ล็อกเรตแลกเก็บไว้ได้ หรือถ้าต้องการความสะดวกไว้ก่อนก็เลือกบัตรที่รูดจ่ายได้เลย หรือบัตรที่อัพเดทข้อมูลการใช้จ่ายตลอดเวลาเพื่อให้วางแผนใช้เงินได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง   

ถือว่าทั้ง 4 ใบที่นำมาแนะนำกันนั้นมีข้อดี จุดด้อยที่ต่างกันไป แนะนำว่าให้ลองเปรียบเทียบและเลือกให้เหมาะกับการใช้งานในการท่องเที่ยวของเราดูนะคะ

8
สำหรับใครที่คิดว่าการโอนเงินไปต่างประเทศนั้น ทั้งยากและนาน จะบอกเลยว่าคิดไม่ผิดค่ะ เพราะเมื่อก่อนเราอาจจะต้องต้องไปทำธุรกรรมที่ธนาคารหรือตัวแทนรับโอนเงินที่มีใบอนุญาตเท่านั้น เช่น MoneyGram และ Western Union ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนโอน

แต่ในปัจจุบันการ โอนเงินไปต่างประเทศ ง่ายและสะดวกขึ้นด้วยการใช้รหัสธนาคารหรือ Swift Code ที่เราสามารถใช้แอพโอนเงินระหว่างประเทศด้วยระบบswift code ช่วยให้การรับหรือ การโอนเงินระหว่างประเทศ สามารถดำเนินการผ่านบัญชีที่เปิดในประเทศไทยได้โดยตรงจึงคล่องตัวและรวดเร็วกว่า

สำหรับการ โอนเงินแบบ swift code จะต้องใช้ใช้เพื่อระบุธนาคารและสาขาของธนาคาร เนื่องจากเป็นการโอนเงินระหว่างธนาคารและข้ามประเทศจึงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานขององค์การระหว่างประเทศ โดยมี SWIFT หรือ Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการลงทะเบียนรหัส ซึ่งนอกจากจะเรียกว่า Swift Code แล้ว รหัสนี้ยังถูกเรียกอีกชื่อว่า BIC Code หรือ Bank Identifier Code ด้วย
ด้วยขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ด้วยตนเองเพียงทำให้สะดวกสบาย เพียงแค่ต้องระบุ Swift Code ในระหว่างการกรอกข้อมูลเพื่อโอนเงิน โดยสอบถามรหัส Swift Code ได้ที่ธนาคารเจ้าของแอป เว็บไซต์ของธนาคาร และเว็บไซต์ที่รวบรวม Database เช่น www.swiftcodetoday.com
การ โอนเงินระบบ swift code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั้น ปลายทางจะได้รับเงินรวดเร็วแบบเรียลไทม์ตั้งแต่ 2 วินาที จนถึง 3 วันทำการ ซึ่งระยะเวลาจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT 

กลุ่มสหราชอาณาจักร (UK)
สุกลเงิน GBP
ภายใน 5 นาที - 1 วัน

สิงคโปร์ (SG)
สกุลเงิน SGD
ภายใน 5 นาที - 1 วัน

สหรัฐอเมริกา (US)
สกุลเงิน USD
ภายใน 1 - 2 วันทำการ

ฮ่องกง (HK)
สกุลเงิน HKD
ภายใน 1 - 2 วันทำการ


ในส่วนของค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ ยังถูกกว่าทำธุรกรรมผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารมักจะคิดค่าธรรมเนียมรับเงินโอนจากต่างประเทศเฉลี่ย 0.25% ของยอดเงินที่โอนมา ต่ำสุด 200 บาท สูงสุด 500 บาท และอาจจะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกหักเพิ่มเติมระหว่างธนาคารตัวกลางหรือธนาคารต้นทาง สำหรับการโอนเงินไปต่างประเทศค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 300 - 500 บาท ต่อรายการและอาจจะมีการบวกเพิ่ม 0.05% ของยอดเงินโอน แต่การ แอพโอนเงินต่างประเทศจะมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า ยกตัวอย่างเช่น  การโอนเงินแบบ Swift Code ผ่าน Krungthai NEXT มีค่าธรรมเนียม Charge Ben 300 บาท Charge Our 1,100 - 1,500 บาท หากโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารค่าธรรมเนียม Charge Ben 400 บาท Charge Our 1,200 - 1,600 บาท ทั้งนี้แต่ละธนาคารจะมีการกำหนดค่าธรรมเนียม อัตราแลกเปลี่ยน และโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน เพื่อความคุ้มค่าจึงควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมก่อนใช้บริการทุกครั้ง

การโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชันสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาจึงสะดวกรวดเร็วไม่ได้ใช้ยากอีกด้วย ใครที่ยังไม่เคยใช้บริการลองเลย

9
หากคุณกำลังมองหาการลงทุนที่มือใหม่ก็สามารถเริ่มลงทุนได้ และจำนวนเงินลงทุนไม่มาก ถือเป็นการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุนได้ดีอย่างหนึ่ง จนกลายเป็นประเภทการลงทุนที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
โดยการลงทุนกองทุนรวมนั้นไม่ได้ยากไปกว่าการฝากเงินเลย เพราะขั้นตอนการทำธุรกรรมซื้อขายหน่วยลงทุนกับการทำธุรกรรมฝาก-ถอน-โอนกลับมีความแตกต่างกันน้อยมากหรือแทบจะพูดได้ว่าไม่แตกต่างกันเลย เพราะเราสามารถทำรายการ ซื้อขายกองทุนผ่านแอพ กองทุน rmf คือ , ssf บนสมาร์ทโฟนได้จากทุกที่ทุกเวลา ไม่ต่างจากการฝาก-ถอน-โอนที่ทำกันอยู่เป็นประจำ

ขั้นตอนการลงทุนกองทุน อย่างไร 
ก่อนเริ่ม ลงทุนกองทุนรวม ลำดับแรกผู้ลงทุนควรทำความรู้จักกับ กองทุน ประเภทต่าง ๆ ให้ดีก่อน วิธีง่าย ๆ ในการใช้ศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลกองทุนนั่นคือการอ่าน “Fund Fact Sheet” ของกองทุนที่ตนเองสนใจ เมื่อพอจะทราบข้อมูลของแต่ละกองทุนผู้ลงทุนสามารถทดลองทำแบบประเมินความเสี่ยง ไม่ว่าจะกองทุน rmf คืออะไร กองทุน ssf เพื่อดูว่าตนเองเป็นนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ระดับใด แล้วเลือกลงทุนในกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงสอดคล้องกับผลประเมินที่ได้

เปิดบัญชี กองทุนรวม อย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง
โดยทั่วไปการเปิดบัญชีกองทุนรวมใช้เอกสารหลัก ๆ เพียง 2 รายการ นั่นคือบัตรประชาชนและสำเนาหน้าบัญชีธนาคารที่ต้องการให้โอนเงินเข้า นอกจากนั้นอาจเป็นแบบฟอร์มเอกสารที่ต้องกรอกเพิ่มเติม ซึ่งจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปตามแต่ละ บลจ. อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนสามารถเลือกเปิดบัญชีกองทุนรวมได้ตามสถานที่ที่ตนเองสะดวก ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่เป็นผู้ออกกองทุนรวมโดยตรง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน

ซื้อขายกองทุนผ่านแอพ อะไรดี
ปัจจุบันเราสามารถซื้อกองทุนผ่านแอป ด้วยกองทุนรวมได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
แอพนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ข้อดีคือผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนจาก บลจ. ต่าง ๆ ได้ในแอพเดียว เช่น แอพ FINNOMENA ซึ่งโดดเด่นด้วยฟังก์ชันแนะนำการลงทุนด้วยระบบ AI และยังมีพอร์ตลงทุนให้เลือกมากถึง 21 แบบ หรือแอพ True Money Wallet ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยยอดขั้นต่ำเพียง 1 บาทเท่านั้น
แอพจาก บลจ. นั้น ๆ โดยตรง เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการซื้อขายหน่วยลงทุนต่าง ๆ ภายใน บลจ. ดังกล่าวเท่านั้น เช่น K-My Funds แอพที่เปิดให้เริ่มลงทุนด้วยเงินเพียง 500 บาท พร้อมคำแนะนำจากผู้จัดการกองทุน หรือ Principal TH ซึ่งเป็นแอพที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำกองทุนที่เหมาะสมให้และมีฟังก์ชันสร้างแผนการลงทุนแบบอัตโนมัติ
แอพธนาคารที่ใช้ฝาก-ถอน-โอนเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น K PLUS จากธนาคารกสิกรไทย SCB Easy จากธนาคารไทยพาณิชย์ รวมไปถึง Krungthai NEXT จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งจัดเตรียมคู่มือการทำธุรกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมผ่านแอพ Krungthai NEXT ไว้แล้วในลิงค์นี้ https://krungthai.com/th/content/personal/krungthai-next/fund

อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนเริ่มสนใจที่จะลงทุนในกองทุนรวมอย่างจริงจังกันขึ้นมาบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ ลงทุน dca คืออะไร

10
เราทราบกันดีว่าในปัจจุบันหลาย ๆ ธนาคารพยายามพัฒนาแอปบนมือถือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารอย่างเต็มที่ แต่อาจมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ใช้แอปธนาคารบนมือถือได้อย่างชำนาญ รองลงมาคือกลุ่มผู้ติดตั้งแอปบนมือถือซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อยนัก หรืออาจใช้งานได้แต่ไม่ถนัดเท่าไร สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความไม่มั่นใจในการใช้งาน และอาจยังไม่ทราบว่าแอปธนาคารบนมือถือช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนเงินได้อย่างดีเยี่ยม

ในอดีต วิธีโอนเงิน ยอดนิยม ได้แก่ การโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม และการโอนเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ซึ่งหากเป็นการ โอนเงินเข้าบัญชี ต่างธนาคารหรือต่างพื้นที่ก็มักจะมี ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างธนาคาร หรือต่างพื้นที่อยู่ด้วยเสมอ อย่างน้อยประมาณ 25 - 35 บาทต่อรายการ ซึ่งเมื่อรวมค่าธรรมเนียมหลายรายการเข้าด้วยกันจะกลายเป็นเงินจำนวนไม่น้อย

ปัจจุบัน วิธีโอนเงิน ผ่านแอปบนมือถือได้รับการยกเว้น ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างธนาคาร ทั้งยังสามารถโอนเงินไปยังต่างพื้นที่ทั่วประเทศได้แบบไม่คิดค่าธรรมเนียม ผู้ใช้งานแอปธนาคารบนมือถือจึงสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนเงินได้เป็นจำนวนมากแบบไม่รู้ตัว เมื่อมีเครื่องมือทางการเงินดี ๆ แบบนี้ เราจึงขอมาแนะนำขั้นตอนโดยรวมของการ โอนเงินผ่านแอพ ให้ทุกคนได้ทราบและลองนำไปใช้กัน

วิธี โอนเงินผ่านแอพ แบบง่าย ๆ
เปิดแอปบนมือถือเพื่อเข้าใช้งาน
เลือกเมนู โอนเงิน จากนั้นเลือกประเภทการโอน เช่น โอนธนาคารเดียวกัน โอนต่างธนาคาร โอนระหว่างบัญชีตนเอง หรือโอนพร้อมเพย์
กรอกรายละเอียดตามที่แอประบุไว้ เช่น เลือกธนาคารปลายทาง กรอกเลขที่บัญชี กรอกยอดเงินที่ต้องการโอน
ตรวจสอบรายการก่อนกดยืนยัน แอปจะให้กรอกรหัสยืนยันอีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น
รับสลิปเงินโอนบันทึกเข้าเครื่องโทรศัพท์เพื่อส่งต่อให้กับผู้รับโอน แสดงเป็นหลักฐานการโอนเงิน
แม้ในแต่ละแอปจะมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันไป แต่ขั้นตอนโดยรวมก็จะเป็นไปในลักษณะที่ว่านี้ และยังสะดวกมากขึ้นหากเราใช้บริการโอนเงินด้วยแอปเป็นประจำ แอปจะเก็บประวัติการโอนเอาไว้เพื่อให้เราสามารถเรียกดูประวัติและทำรายการโอนซ้ำบัญชีเดิมแต่เปลี่ยนยอดเงินโอนได้ หรือแม้แต่การตั้งเวลาโอนเงินล่วงหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน สะดวกมากจริง ๆ
นอกจากความโดดเด่นด้านบริการโอนเงิน แอปธนาคารต่าง ๆ ยังมีความโดดเด่นด้านบริการ จ่ายบิลผ่านแอพ และบริการ กดเงินไม่ใช้บัตร อีกด้วย สำหรับบริการ จ่ายบิลผ่านแอพ นอกจากจะเลือกเมนูจ่ายบิลผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด/บาร์โค้ดได้แล้ว ยังสามารถกดเลือกเมนูเพื่อกรอกรายละเอียดของบิลเพื่อทำรายการจ่ายในกรณีที่ไม่มีใบแจ้งหนี้อยู่กับตัวได้อีกด้วย สำคัญที่สุดคือการจ่ายบิลด้วยแอปธนาคารน้อยมากที่จะคิดค่าธรรมเนียม การจ่ายบิลสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ประปา จ่ายบิลค่าไฟ เติมเงินมือถือ ค่าโทรศัพท์ จ่ายค่าทางด่วนในแอป ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมจึงช่วยประหยัดได้ดี

สำหรับบริการ กดเงินไม่ใช้บัตร ปัจจุบันกำหนดให้ทำรายการคู่กับตู้เอทีเอ็มของธนาคารเดียวกันเท่านั้น เพียงเปิดแอปเข้าใช้งานจากนั้นเลือกเมนู ถอนเงิน กรอกรายละเอียดตามแอปกำหนด แล้วไปทำรายการต่อที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารเดียวกัน เลือกเมนู ถอนเงินไม่ใช้บัตร จากนั้นทำตามลำดับขั้นตอนที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ แบ่งระบบออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การใช้แอปสแกนคิวอาร์โค้ดที่หน้าจอเอทีเอ็ม กับการกดรหัสซึ่งได้รับจากแอปลงไปที่ตู้เอทีเอ็ม เพียงเท่านี้ก็สามารถกดเงินสดออกมาได้โดยไม่ต้องพกบัตรเอทีเอ็มติดตัว ในอนาคตเราจะสามารถใช้บริการนี้กับตู้เอทีเอ็มต่างธนาคารได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันต่อไป

11
   บัตรเดบิต ท่องเที่ยว หรือ travel card คือ บัตรที่ใช้สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางไปต่างประเทศ ใช้บัตรจ่ายเงินแทนเงินสดโดยไม่ต้องวุ่นวายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผ่านแอพก่อนเดินทาง บัตรใบเดียวใช้จ่ายสะดวก ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวจำนวนมาก กดเงินสดเบิกออกจากตู้ ATM ในต่างประเทศได้เลย บัตรเดบิตท่องเที่ยวได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สมัครเปิดบัตรเดบิตออนไลน์ มีประกันการเดินทางให้ฟรี บัตรของแต่ละธนาคารคล้ายกันแต่มีจุดเด่นแตกต่างกัน มีรายละเอียดต่อไปนี้
เปรียบเทียบบัตรท่องเที่ยวจากธนาคารพาณิชย์ 5 รายของไทย

   1.ธนาคารกรุงไทย บัตร Krungthai Travel Card ถือเป็นบัตรต้นแบบเนื่องจากธนาคารกรุงไทยเป็นรายแรกที่ออกบัตรท่องเที่ยวในเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2561 ลักษณะเป็บัตรกดเงินต่างประเทศที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card
จุดเด่น
-ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ใช้จ่ายสบายไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตร
-แลกเงินและโอนเงินเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ง่ายๆ ตลอด 24 ชม.
-รองรับสกุลเงินที่แลกเก็บได้ 19 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR , NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-ถอนเงินในต่างประเทศได้ 100,000 บาท ต่อวัน
-จำนวนถอนเงินสดสกุลต่างประเทศ 25,000 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน
-มีประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ วงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท รับประกันโดย บมจ. ทิพยประกันภัย
จุดด้อย
-ไม่สามารถใช้จ่ายเงินสกุลที่ไม่รองรับ ไม่สามารถรูดได้ทันทีหากไม่แลกในสกุลเงินที่รองรับก่อน

2.ธนาคารทหารไทย บัตร TMB All Free
บัตรท่องเที่ยวของธนาคารทหารไทยเปิดตัวตามมาในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2561 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Visa Card เช่นเดียวกัน ถือเป็นบัตรเดบิตท่องเที่ยวรายแรกที่ทำบัตรให้รูดใช้ง่ายสกุลเงินต่างประเทศได้โดยไม่ต้องแลกเงินก่อน สามารถใช้จ่ายจากเงินในบัญชีได้เลย นอกจากนี้ยังเป็นเหมือน บัตร atm เบิกเงินสดตู้ ATM ได้ทุกตู้ธนาคารทั่วไทยซึ่งเป็นข้อดีที่ต่างจากบัตรธนาคารอื่น
จุดเด่น
-รองรับทุกสกุลเงิน รูดจ่ายได้ทั่วโลกโดยตรง ไม่ต้องแลกก่อน ใช้ได้ตามยอดเงินในบัญชีซึ่งจะตัดเงินออกจากบัญชีเราโดยตรง
-ไม่มีชาร์จค่าความเสี่ยงการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5%
-ถอนเงินจากตู้ ATM ในไทยได้ทุกสาขา ถอนเงินในต่างประเทศมีค่าธรรมเนียมถูกสุด 75 บาท (บัตรอื่น 100 บาท)
-วงเงินที่สามารถรูดได้ต่อวันสูงสุด 500,000 บาทต่อวันต่อบัตร
-มีส่วนลดและสะสมแต้มสำหรับการใช้จ่ายในประเทศ
-มีประกันการเดินทางให้ฟรี
-ควบคุมวงเงินที่จะใช้จ่ายบัตรได้ด้วยตนเอง ผ่าน TMB TOUCH และระบบรักษาความปลอดภัยยกเลิกการใช้งานบัตรผ่านแอป
จุดด้อย
-มีการจ่ายค่าแรกเข้าและรายปี เหมือนบัตรเดบิตทั่วไป
-ไม่สามารถแลกเงินเก็บเอาไว้ได้ เรตแปรผันตามวันที่ใช้
-ต้องเตรียมเงินในบัญชีไว้ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายตลอดทริป

3.ธนาคารไทยพาณิชย์ บัตร PLANET SCB มีลักษณะเป็นบัตรเติมเงินที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งานเหมือนกับบัตร Krungthai Travel Card รูดใช้จ่ายได้ทั้งร้านค้าทั่วไปหรือร้านออนไลน์ที่รับบัตร VISA
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ ไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
-เป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรหรือรูดจ่ายได้ด้วย
-รองรับการแลกเปลี่ยนทุกสกุลเงิน
-แลกเงินและโอนเงินง่าย ทุกที่ ตลอด 24 ชม. ผ่าน SCB EASY App
-ล็อกเรทได้ แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศเก็บไว้ได้ 13 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CHF, SGD, HKD, NZD, CAD, CNY, KRW และ TWD
-จำนวนเงินในบัตรสูงสุด (รวมทุกสกุลเงิน) ไม่เกิน 5 ล้านบาท
-วงเงินการกดเงินสดผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ สูงสุด 100,000 บาทต่อวัน (ค่าธรรมเนียมการกดเงินสดที่ต่างประเทศ 100 บาท ต่อครั้ง)
-มีประกันการเดินทาง 10 วัน บัตรเดบิตประกัน ดูแลค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล สูงถึง 1,000,000 บาท พร้อมดูแล 24 ชั่วโมง มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินยามเดินทาง
จุดด้อย
-ไม่สามารถกดเงินสดในประเทศไทยได้

   4.ธนาคารกสิกรไทย บัตร YouTrip powered by KBANK บัตรท่องเที่ยวของธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2562 บัตรออกมาภายใต้แบรนด์ Mastercard รูดใช้ง่ายทุกสกุลเงินต่างประเทศ
จุดเด่น
-ฟรีค่าธรรมเนียมสมัครบัตร และค่าธรรมเนียมรายปี
-รูด แตะ จ่าย ช้อปออนไลน์ทั่วโลกได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก
-ไม่มีการชาร์จค่าธรรมเนียม 2.5% ในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ
-แลกเงินล่วงหน้าเก็บไว้ได้ 10 สกุลเงิน ได้แก่ THB, JPY, HKD, SGD, AUD, EUR, GBP, CHF, USD, CAD ผ่านแอป YouTrip ตามเรทที่ล็อกไว้ ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่แลก
-ถอนเงินสดในต่างประเทศ 50,000 บาทต่อเดือน ยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ ATM ที่ต่างประเทศ จนถึง 31 ธ.ค. 2565
-อัปเดตสเตตัสทุกรายจ่ายแบบ Real-time ช่วยให้วางแผนและตรวจสอบการใช้งานบัตรได้สะดวกสบาย
-บัตรสูญหาย สามารถระงับบัตรผ่านแอป YouTrip ได้ทันที
-มีระบบ SmartExchange กรณีที่แลกเงินล่วงหน้าไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย โดยระบบจะแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทในบัญชีเป็นสกุลเงินอื่นตามอัตราแลกเปลี่ยนในเวลานั้น
   -วงเงินที่รูดได้สูงสุด 500,000 บาทต่อวัน ผ่านร้านค้าทั่วโลกที่รองรับ Mastercard หรือร้านค้าออนไลน์โยดมียอดใช้จ่ายรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท / วัน
   -โปรโมชั่น ชวนเพื่อนมา สมัครบัตรเดบิต YouTrip รับโบนัสคนละ 100 บาท ชวนได้สูงสุด 10 คน ถึง 31 ธันวาคม 2565
จุดด้อย
-ไม่มีประกันการเดินทางให้

ข้อมูลข้างต้นชี้ได้ชัดเจนถึงข้อดีของบัตร travel card ของแต่ละธนาคาร สรุปว่าบัตรใบไหนดีกว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละคน ต้องการเรตถูกที่สุด ควรเลือกบัตรที่ล็อกเรตแลกเก็บไว้ได้ หรือถ้าต้องการความสะดวกไว้ก่อนก็เลือกบัตรที่รูดจ่ายได้เลย หรือบัตรที่อัพเดทข้อมูลการใช้จ่ายตลอดเวลาเพื่อให้วางแผนใช้เงินได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง   

12
   ผู้ที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศควรทำความรู้จัก การแลกเงินต่างประเทศ บัตรเดบิตเติมเงินท่องเที่ยว หรือ Travel Card ว่าคืออะไร และช่วยอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางได้อย่างไรบ้าง บัตรท่องเที่ยวคือสามารถใช้รูดจ่ายเงินได้เหมือนบัตรเครดิต บัตรเติมเงินใช้ต่างประเทศ หรือเป็น บัตร atm กดเงินสดจากตู้ ATM ที่ต่างประเทศได้ มาดูข้อดีของบัตรเดบิตท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณเข้าใจการใช้งานบัตรนี้ง่ายขึ้น

   1.ท่องเที่ยวสะดวกและปลอดภัย
   ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ โดยปกติจำเป็นต้องแลกเงินสกุลของประเทศนั้นไว้ล่วงหน้า แต่หลายคนอาจติดขัดปัญหาเกี่ยวกับการแลกเงินหรือกังวลเรื่องความเสี่ยงเนื่องจากไม่ต้องการพกเงินสดจำนวนมากติดตัวไว้ระหว่างเดินทาง การใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต travel card พกบัตรใบเดียวรูดจ่ายได้สะดวก เมื่อบัตรสูตรหายหรือถูกขโมย สามารถยกเลิกการใช้บัตรผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที ไม่มีบัตรเครดิตก็ไม่เป็นปัญหา สามารถกดเงินสดจากตู้ ATM ในต่างประเทศก็ได้ ใช้จ่ายง่ายๆ ผ่านบัตรใบเดียวเท่านั้น
   
2.ใช้จ่ายประหยัดเงินยิ่งขึ้น
บัตรเดบิต ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นระบบการเติมเงินหรือแลกเงินผ่านแอปที่ใช้สะดวกมาก เมื่อนำบัตรท่องเที่ยวไปใช้ต่างประเทศได้อัตราแลกเปลี่ยนถูกเทียบเท่าร้านแลกเงินชั้นนำ ไม่ต้องไปหาแลกเงินสดกับธนาคารในประเทศไทยที่มีเรทสูงมาก ไม่ต้องจ่ายมีค่าธรรมเนียมความเสี่ยงในการแปลงสกุลเงินต่างประเทศในอัตราถึง 2.5% อีกด้วย

3.ใช้ได้ทั่วโลกทุกสกุลเงิน Travel Card ของแต่ละธนาคารมีเงื่อนไขการใช้งานแตกต่างกัน เช่น
-Krungthai Travel Card บัตรเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน ต้องแลกเงินเก็บไว้ในบัตรเท่านั้น โดยสกุลเงินที่แลกเก็บได้มี 19 สกุลเงิน
-PLANET SCB แลกเก็บไว้ในบัตรหรือรูดจ่ายได้เลย โดยสกุลเงินที่แลกเก็บได้มี 13 สกุลเงิน
-YouTrip powered by KBANK แลกเงินล่วงเก็บไว้ในบัตรได้ 10 สกุลเงิน หรือรูดจ่ายได้เลยเหมือนกับบัตรเครดิต
-TMB All free บัตรเดบิตที่รูดใช้จ่ายได้เลย ไม่ต้องแลกเงินก่อน
ทุกบัตรแลกเปลี่ยนได้ทุกสกุล ยกเว้น Krungthai Travel Card ที่รองรับการใช้งานเฉพาะ 19 สกุลเงินในบัตรและใช้จ่ายในไทยไม่ได้ ทั้งยังเป็นบัตรเดียวที่ต้องเติมเงินและจ่ายแบบเดบิต โดยที่รูดจ่ายแบบบัตรเครดิตไม่ได้
เลือกบัตรใบไหนคุ้มค่าที่สุด

พูดถึงความคุ้มค่าแล้ว หลายคนมองเห็นข้อดีและเลือกใช้บัตร Krungthai Travel Card จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งเปิดตัวบัตรท่องเที่ยวออกมาเป็นเจ้าแรก รองรับการใช้จ่ายในร้านค้าที่รับบัตรVisa จุดเด่นหลักๆ คือไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% รองรับสกุลเงินหลักๆ ที่ใช้กันมาก 19 สกุลเงิน บัตรของกรุงไทยเป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรได้สูงถึง 5 ล้านบาท ใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT สามารถกดเบิกเงินสดตู้ ATM ได้เหมือนกับ บัตร atm มาพร้อมประกันการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ บัตรเดบิตประกัน ได้รับการคุ้มครองวงเงินสูงสุด 6 ล้านบาท

ด้วยการจัดการผ่านแอปที่สะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าธรรมเนียมทำให้กระแสของบัตร Travel Card มาแรงมาก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ไม่มีบัตรเครดิต ผู้สนใจ สมัครบัตรเดบิต จะต้องมีบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวันกับธนาคารเสียก่อน สามารถสมัคร Travel Card ผ่านแอปพลิเคชันของแต่ละธนาคารได้เลย

13
ชื่อร้านแทบจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่เรารู้จักร้านค้านั้นๆ เลย นอกไปจากสินค้าและบริการที่ดีแล้วชื่อบริษัทก็มีส่วนเกี่ยวข้องไม่น้อย เมื่อต้องเปิดบริษัท ร้านค้า หรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่ การ ตั้งชื่อบริษัท มีส่วนสำคัญอย่างมาก ไม่เพียงแต่คุ้นหู จำง่าย ยังเป็นมงคลแก่ร้านค้าและบริษัทอีกด้วย วันนี้เรามี ึ8 เทคนิคการตั้งชื่อร้านให้ร่ำรวยมาแนะนำกัน

ศาสตร์ของตัวเลขและตัวอักษร
เจ้าของธุรกิจมากกว่า 80% ล้วนอาศัยหลักโหราศาสตร์ในการตั้งชื่อร้านให้ร่ำรวยดยแต่ละตัวอักษรและตัวเลขที่นำมาเรียงร้อยให้เป็นชื่อบริษัทได้นั้น จะต้องผ่านการดูฤกษ์และแปลตัวอักษรเป็นตัวเลขก่อนที่จะนำมารวมกัน ได้ผลเท่าไรสามารถที่จะเทียบกับตำราที่ใช้เรียนมาเพื่อให้รู้ว่าชื่อและตัวเลขที่นำมานั้นเป็นมงคล หนุนดวงให้เจ้าของกิจการค้าขายร่ำรวยเจริญรุ่งเรืองหรือไม่

แจก 8 เทคนิค ตั้งชื่อร้าน ให้เป็นที่จดจำและร่ำรวย
นำชื่อถิ่นฐานที่อาศัยอยู่มาใช้
การนำชื่อถิ่นฐานที่ตนเองอาศัยอยู่มาใช้ เพื่อที่จะช่วยให้คนจดจำได้ง่ายขึ้น เช่น บางกอกปริ้นท์ติ้ง, อ่อนนุชการไฟฟ้า, โคราชอะไหล่ยนต์, เหล็กกระโทก ฯลฯ ซึ่งชื่อเหล่านี้บ่งบอกได้ว่าถ้ามาจังหวัดหรือพื้นที่นี้จะมีร้านค้าร้านนี้ เป็นต้น
ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับกิจการ
การตั้งชื่อให้สอดคล้องกับกิจการจะเป็นการช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ว่า หากต้องการสินค้าตัวนี้จะต้องมาที่ร้านนี้เท่านั้น เช่น โชคชัยค้าเหล็ก นั่นหมายความว่าหากมาที่ร้านโชคชัยค้าเหล็กจะต้องมีเหล็กขายอย่างแน่นอน หรือธนาคารกรุงไทย คือสถานที่รับฝากเงินและแหล่งรวมธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ
ชื่อที่ใช้ ต้องสะกดง่าย ออกเสียงไม่ยาก
นอกจาก ชื่อบริษัทมงคล แล้วยังจะต้องสะกดและเรียกไม่ยากด้วย เพราะมีผลต่อการจดทะเบียนบริษัทเนื่องจากอาจทำให้เจ้าหน้าที่สะกดผิดและต้องนำเอกสารกลับไปแก้ไขใหม่ บางรายหากเป็นเอกสารสำคัญอาจทำให้เสียเวลาและโอกาสได้
ไม่ควรตั้งชื่อร้านซ้ำกับร้านอื่น
เพื่อความไม่สับสนของลูกค้า ในการ ตั้งชื่อบริษัท ห้ามตั้งชื่อให้มีเสียง ตัวอักษร และตัวเลขซ้ำกับร้านอื่น เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดแล้ว อาจทำให้เสียชื่อเสียงและอาจโดนฟ้องร้องได้
ใช้ชื่อในเชิงบวกและเป็นมงคล
ชื่อร้านดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งชื่อที่มีความหมายด้านบวก ด้านดี จะช่วยให้ดูมีภาพพจน์ที่ดีและน่าเชื่อถือ เช่น มั่งคั่ง รุ่งเรือง มีโชค รุ่งโรจน์ ฯลฯ
นำตัวเลขที่เป็นมงคลมาปรับใช้
ในการนำตัวเลขที่เป็นมงคลจำเป็นที่จะต้องอาศัยหมอดูหรือผู้ที่ร่ำเรียนในเรื่องของโหรศาสตร์และศาสตร์เกี่ยวกับตัวเลข เพราะไม่อย่างนั้นแล้วหากเลือกผิดอาจทำให้ชีวิตดิ่งลงตรงข้ามกับเลขมงคลก็เป็นได้
ชื่อร้านค้าและบริษัทควรสั้น กระชับ จำง่าย
คงไม่ดีแน่หากชื่อร้านค้าและบริษัทมีความยาวเกินกว่าที่จะจำได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มักจะนิยมเรียกชื่อสั้น ๆ เพราะจดจำได้ง่ายกว่า รวมถึงความหมายที่จะสื่อถึงลูกค้าก็ง่าย เพียงอยากซื้อสินค้าก็นึกถึงร้านได้ทันที
หลีกเลี่ยงการใช้อักษรย่อ
หากร้านค้าเพิ่งเปิดกิจการควรใช้ชื่อเต็มที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ควรตั้งชื่อด้วยการใช้อักษรย่อ เพราะอาจไปซ้ำกับบริษัทหรือร้านค้าขนาดใหญ่ได้ และเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของลูกค้าอีกด้วย

นอกจากชื่อร้านแล้วยังมีเรื่องของงบการเงินที่าสำคัญในการบริหารร้านอีกด้วย โดยสามารถขอสินเชื่อหมุนเวียน หรือกู้สินเชื่อเปิดร้าน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก หากเข้าเงื่อนไข อนุมัติไวแน่นอน

14
การเป็นหนี้เป็นสิ่งที่หลายๆ คนไม่อยากเป็นอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเรารู้สึกว่าหนี้ที่มีนั้นจ่ายไม่ไหว การปรับโครงสร้างหนี้ เป็นช่องทางออกสำหรับคนยุคปัจจุบันที่มีหนี้สินเยอะจนเริ่มจัดการไม่ไหว การปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร เราไปหาคำตอบด้วยกัน
“การปรับโครงสร้างหนี้” คือการขอปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการชำระหนี้ใหม่ จากที่เคยผ่อนจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนด้วยความยากลำบาก ก็ขยายระยะเวลาออกไป ทำให้เราสามารถจ่ายหนี้ได้โดยไม่ผิดนัดชำระหนี้ ช่วยบรรเทาผลกระทบความเสียหาย ไม่เกิดหนี้เสีย หรือ NPL ในกรณีที่จ่ายไม่ทันอาจส่งผลให้ถูกฟ้องร้องหรือยึดทรัพย์ ทำให้ชื่อเสียงทางการเงินไม่ดี ถูกขึ้นบัญชีดำเครดิตบูโรว่าค้างชำระไปนานถึง 3 ปี อาจกู้ไม่ผ่านในครั้งต่อไปยื่นขอปรับโครงสร้างหนี้ไม่ได้ทำให้หนี้ที่มีอยู่หายไป แต่เป็นการยืดเวลาการผ่อนให้นานขึ้นนั่นเอง

ข้อดีและข้อเสียของการปรับโครงสร้างหนี้
ข้อดีของการ ปรับโครงสร้างหนี้ คือเพิ่มเวลาการชำระหนี้ออกไป กรณีที่มีเหตุทำให้หาเงินมาจ่ายไม่ทันกำหนด อาจเกิดอุบัติเหตุ ตกงาน หรือมีเรื่องด่วนต้องใช้เงินฉุกเฉิน เจ้าหนี้ของเราซึ่งอาจเป็นธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจเสนอให้รวมหนี้เข้ากับเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล กลายเป็นยอดหนี้เดียวกันเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้ถูกลง เท่ากับเราได้ประโยชน์ ยืดระยะเวลาปลดหนี้ได้ จ่ายแต่ละงวดน้อยลง แม้โดยรวมจะเสียดอกเบี้ยมากขึ้น แต่ก็ช่วยป้องกันปัญหาลุกลามกลายเป็นหนี้เสีย
ข้อเสียของการ ปรับโครงสร้างหนี้ คือการ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยปกติจะรวมยอดหนี้เดิมทั้งหมด บวกกับดอกเบี้ย ค่าปรับ และค่าทวงถามหนี้ รวมกันเป็นยอดหนี้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากเดิม บวกกับดอกเบี้ยอีก 12% ต่อปี เท่ากับยอดหนี้ไม่ลดลง ทั้งยังต่อยอดเพิ่มเข้าไปอีก แต่ก็ดีกว่าเกิดหนี้เสีย เพราะไม่มีทางแก้ไขวิธีอื่นได้ เป็นทางออกของปัญหาในช่วงที่รายได้ลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้น จนหาเงินมาจ่ายหนี้ไม่ไหว

ทางเลือกปรับโครงสร้างหนี้ มีหลายรูปแบบ ดังนี้
1.การขยายเวลาชำระหนี้ ยืดระยะเวลาผ่อนหนี้ออกไป จากเดิมมีกำหนดผ่อน 5 ปี ผ่อนไปแล้ว 2 ปี อาจยืดเวลาออกไปเป็น 8 ปี โดยพิจารณาอายุของผู้กู้ด้วยว่าเหมาะสมไหม ถือเป็นวิธีที่ช่วยให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนน้อยลงและจ่ายไหว
2.การลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่างวดแต่ละเดือนลดลง ภาระดอกเบี้ยโดยรวมน้อยลง ถ้ามีประวัติการผ่อนชำระสม่ำเสมอ หรือมีหลักประกัน ก็จะมีโอกาสมากขึ้น
3.การผ่อนปรนดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ โดยปกติหากผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยสูงสุด เช่น เพิ่มจาก 8% ต่อปี ไปถึง 20% ต่อปี แต่การผ่อนปรนดอกเบี้ยทำให้จ่ายดอกเบี้ยผิดนัดชำระในส่วนที่เป็นเงินต้นเท่านั้น
4.การพักชำระเงินต้น ในเดือนที่ต้องการพักชำระเงินต้นจะจ่ายค่างวดเฉพาะดอกเบี้ย แต่เงินต้นไม่ลด ทำให้ต้องผ่อนนานขึ้น จ่ายดอกเบี้ยรวมเยอะขึ้น แต่ก็ช่วยให้รอดพ้นช่วงเงินช็อตไปได้
5.การปิดหนี้ด้วยเงินก้อน กรณีที่หาเงินก้อนใหญ่มาจ่ายปลดหนี้ก่อนกำหนด แม้จะยังปิดรวมหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็ช่วยให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง และอาจเจรจาขอส่วนลดสำหรับปิดหนี้ได้ด้วย
6.การเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน คือการขอกู้เงินเพิ่มจากสถาบันการเงิน ช่วยพยุงกิจการให้อยู่รอดต่อไปได้ในช่วงวิกฤต
7.การเปลี่ยนประเภทหนี้ เปลี่ยนประเภทหนี้ดอกเบี้ยแพงให้จ่ายถูกลง เช่น ปรับโครงสร้างเป็นติดหนี้บัตรเครดิต กลายเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล โดยนำเงินก้อนไปปิดหนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ยสูงก่อน วิธีนี้ทำให้แบกภาระดอกเบี้ยน้อยกว่าเดิม
8.รีไฟแนนซ์ เป็นการขอสินเชื่อเจ้าหนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่า ซึ่งคิดดอกเบี้ยแพง ช่วยให้จ่ายค่างวดถูกลง อาจเป็นการรวมหนี้ทั้งหมดมาจ่ายเจ้าหนี้รายเดียว ช่วยลดจำนวนเงินที่จ่ายในแต่ละงวดได้มาก

ทั้ง 8 วิธี ขอปรับโครงสร้างหนี้ รวมก้อนหนี้บัตรเครดิตเป็นทางออกฉุกเฉิน ช่วยให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนลดลง ก่อนจะเกิดหนี้เสียส่งผลให้ถูกฟ้องร้อง ยึดทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นเราควรที่จะปรึกษากับสถาบันทางการเงินก่อนที่จะเกิดปัญหา

15
ขึ้นชื่อว่า “อุบัติเหตุ” ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อไม่เลือกสถานที่และเวลาเกิด ถือเป็นสิ่งที่ยากจะคาดการณ์และวางแผนรับมือล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะทำประกันอุบัติเหตุไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างน้อยจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าการทำประกันอุบัติเหตุดีอย่างไร และควรเลือกซื้อ ประกันอุบัติเหตุที่ไหนดี  ดังนั้นเราจะมาบอกต่อสาระความรู้ดี ๆ ประกันสะสมทรัพย์เกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุที่จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเลือกประกันได้ง่ายขึ้น

ประกันอุบัติเหตุ คือ ประกันที่มุ่งเน้นความคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น กระดูกหัก หรือสูญเสียอวัยวะต่าง ๆ ไปจนถึงเสียชีวิต ซึ่งประกันจะออกค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยต่าง ๆ ให้ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยการทำประกันอุบัติเหตุมีข้อดีดังต่อไปนี้
ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาล 
ไม่ว่าจะบาดเจ็บเล็กน้อยหรือรุนแรง หากทำประกันอุบัติเหตุก็จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล ทั้งค่าหมอ ค่ายา ค่าผ่าตัด ไปจนถึงค่าห้องพักได้ตามวงเงินในกรมธรรม์
มีค่าชดเชยการขาดรายได้
ในกรณีที่ต้องพักรักษาตัวหากทำประกันอุบัติเหตุก็จะได้รับเงินชดเชยการขาดรายได้ระหว่างพักรักษาตัว ซึ่งในกรมธรรม์จะระบุจำนวนเงินชดเชยไว้ตามสัญญาที่ได้ทำกับบริษัทประกันภัย
เบี้ยประกันคงที่
ค่าเบี้ยประกันคงที่และค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับประกันประเภทอื่น แต่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลจนออกจากโรงพยาบาล


เลือกประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลอย่างไรให้ความคุ้มครองคุ้มค่า
สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกทำ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่ไหนดี ที่ให้ความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า วันนี้เรามีวิธีเลือกประกันมาฝากกัน
เลือกจากความคุ้มครอง
ก่อนจะตั้งคำถามว่าควรเลือก ประกันอุบัติเหตุที่ไหนดี อันดับแรกต้องศึกษาเงื่อนไขและรายละเอียดให้ดีก่อนว่าประกันนั้น ๆ ให้ความคุ้มครองถึงขั้นไหน เช่น คุ้มครองเฉพาะกรณีทุพพลภาพถาวรหรือทุพพลภาพชั่วคราว และให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือไม่ เพื่อให้ได้ประกันที่ตอบโจทย์กับเรามากที่สุด
เลือกจากค่าเบี้ยประกัน
ประกันที่มอบความคุ้มครองสูงสุดไม่ได้ดีที่สุดสำหรับตัวเราเสมอไป เพราะความคุ้มครองสูงก็ต้องเสียค่าเบี้ยประกันสูงตามไปด้วย แต่เมื่อเกิดเหตุจริง ๆ แทบไม่ได้ใช้ความคุ้มครองเต็มที่ เนื่องจากลักษณะการดำเนินชีวิตของแต่ละคนนั้นมีความเสี่ยงมากน้อยไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรเลือกประกันที่มีค่าเบี้ยประกันสอดคล้องกับศักยภาพทางด้านการเงินของตัวเองจะดีกว่า
เลือกจากเงื่อนไขกรมธรรม์
ควรเลือกกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น หากเป็นคนที่มีรายได้แบบรายวัน อย่างผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานส่งของหรือคนขับรถรับจ้าง ควรเลือกประกันที่จ่ายค่าชดเชยรายวันในอัตราสูงเป็นเวลายาวนาน ส่วนมนุษย์เงินเดือนควรเลือกประกันที่เน้นดูแลค่ารักษาพยาบาลแบบครอบคลุมทั้งค่าหมอ ค่ายา ค่าห้องพัก เป็นต้น
   
ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ แต่สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่ไหนดี เราขอแนะนำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันอุบัติเหตุ PA Health DIY ที่มอบความคุ้มครองทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก จ่ายค่าห้องพักผู้ป่วยปกติสูงสุดถึงวันละ 4,000 บาท และห้อง ICU สูงสุดวันละ 8,000 บาท พร้อมจ่ายค่าชดเชยรายวัน และในกรณีตรวจพบโรคร้ายแรงจะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันที่ค่าเบี้ยประกันไม่แพง ลดหย่อนภาษีแต่ได้ความคุ้มครองคุ้มค่า

16
   สำหรับใครที่กำลังสนใจการทำประกันสุขภาพ เชื่อว่าบางส่วนสับสนว่าแตกต่างจากประกันชีวิต หรือประกันอุบัติเหตุอย่างไร เนื่องจากประกันสุขภาพมักมีส่วนความคุ้มครองคล้ายกับประกันชีวิต และบางกรณีคุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุวันนี้เรามีข้อมูลประกันสุขภาพต่างๆ มาแนะนำกัน

ประกันสุขภาพแตกต่างจากประกันชนิดอื่นอย่างไร ทำไมจึงควรทำ
   ประกันสุขภาพ ความคุ้มครองจะอยู่ในขอบเขตของหลายโรคตั้งแต่โรคอายุกรรม รวมไปถึงในกรณีต้องพักฟื้นเป็นผู้ป่วยในด้วยอุบัติเหตุ หรือแม้แต่ซื้อประกันโรคร้ายแรง ประกันมะเร็งเข้ารับการผ่าตัดโรคมะเร็งร้ายแรง ในขณะที่ประกันชีวิตจะเคลมได้ก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต ทำประกันอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด บางครั้งออกแบบมาเพื่อเป็นบำนาญหลังเกษียณ ส่วนประกันอุบัติเหตุ (PA) เป็นประกันเพิ่มเติมของประกันสุขภาพที่สามารถทำได้ หากกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่ประกันสุขภาพฉบับเดียวไม่ได้คุ้มครอง ทั้งนี้แผนประกันสุขภาพก็มีหลายแผน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ทำประกันเลือกทำแบบเหมาจ่ายหรือแยกจ่ายตามอาการด้วย ประกันชนิดเหมาจ่ายจะคุ้มครองตั้งแต่ผู้ป่วยแบบ OPD, IPD หรือประกันโรคร้ายแรง แต่ประกันแยกตามอาการให้คุณเลือกได้ตามโรคที่ต้องการ โดยประกันสุขภาพควรเลือกความคุ้มครองโรคที่หลากหลายมากกว่าตัวประกันที่ระบุเป็นโรค ๆ ไป เพราะคุณไม่มีทางทราบว่าในอนาคตจะเจ็บป่วยจากโรคใดบ้าง

หากต้องการทำประกันสุขภาพต้องพิจารณาจากอะไร
   1.ระยะเวลารอคอย
   เมื่อคุณซื้อประกันสุขภาพสักฉบับจะมีระยะเวลาในการรอคอยไม่ได้เคลมได้ทันที ซึ่ง “ระยะเวลารอคอย” บริษัทประกันออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยเป็นโรคร้ายแรง แต่ไม่ยอมรักษาแต่แรกเนื่องจากต้องการเคลมเงินประกัน โดยระยะเวลารอคอยจะมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไปตามความรุนแรงของโรคตามความคุ้มครอง เช่น โรคอายุรกรรมทั่วไปอาจใช้ระยะเวลาดังกล่าวประมาณ 30 วัน หรือ 90 – 120 วันสำหรับโรคร้ายแรง เป็นต้น อย่างไรก็ตามหากผู้ทำประกันเสียชีวิตในเวลาดังกล่าว บริษัทประกันอาจจ่ายเงินค่ารักษา ถ้าตรวจพบว่าเป็นโรคเฉียบพลันที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
   2.ระยะเวลาคุ้มครอง
   ประกันสุขภาพแต่ละแผนมีระยะเวลาคุ้มครองแตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ 10 ปี จนไปถึงชนิดคุ้มครองตลอดชีพ ซึ่งบางแผนอาจได้รับเงินคืนหากไม่มีการป่วยเลยตามระยะเวลาคุ้มครอง เช่น คืนเงินค่าเบี้ย 20 % เป็นต้น หรืออาจมาในรูปแบบของการลดค่าเบี้ยประกันรายปี ดังนั้นหากรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็อาจประหยัดค่าเบี้ยไปได้ไม่น้อย และแน่นอนว่าระยะเวลาคุ้มครองตลอดชีพย่อมดีกว่าการคุ้มครองในระยะเวลาสั้น ๆ

เลือก ประกันสุขภาพแบบไหนดี ที่ความคุ้มครองสูง
   1.ประกัน Health DIY
   ประกันสุขภาพพ่วงประกันอุบัติเหตุ  ประกันโรคร้ายแรง ให้ผลประโยชน์ต่อผู้เคลมประกันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ค่าห้องปกติราคาตั้งแต่ 2,000 – 4,000 บาทต่อวัน ค่ารักษาอุบัติเหตุในกรณีฉุกเฉิน รวมไปถึงการจ่ายเงินประกัน 100, 000 บาท ทันทีหากตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง อาทิ โรคไตวายเรื้อรัง หรือโรคปอด และโรคอื่นที่แผนประกันระบุ
   2.ประกันสุขภาพเหมาจ่าย
   ประกันสุขภาพที่รองรับการรักษาทุกช่วงวัย เหมาะสำหรับคนที่อยากทำประกันสุขภาพในระยะยาว คุ้มครองโรคทั่วไปจนถึงโรคร้ายแรง ซึ่งครอบครัวที่วางแผนมีบุตร ประกันแผนระดับแพลตทินัมให้ความคุ้มครองถึงทารกแรกเกิดด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายด้านการตั้งครรภ์ หรือค่าคลอดบุตร
   นอกจากนี้ทางธนาคารกรุงไทยก็ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เปิดบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ประกันอุบัติเหตุ ประกันโรคมะเร็งใจแตกเพื่อช่วยคุ้มครองในกรณีที่เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ช่วยตอบโจทย์สำหรับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงในกลุ่มโรคดังกล่าว

17
การเก็บสะสมเงินออมแล้วนำไปต่อยอดด้วยการสร้างผลกำไร เป็นเส้นทางไปสู่การประสบความสำเร็จทางการเงิน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และทำให้ชีวิตมีความสุข ใครที่มีเป้าหมายทางการเงิน เช่น เก็บเงินเที่ยวต่างประเทศ เก็บเงินแสนภายใน1ปี เก็บเงินแต่งงาน จะต้องมองหาหนทางในการสร้างผลกำไรที่ทำได้ไม่ซับซ้อน และมีความเสี่ยงต่ำก็คือการฝากเงิน บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง    ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝากนั้นแตกต่างกันไปตามรูปแบบบัญชีเงินฝากที่เลือกใช้ ซึ่งบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วว่า ฝากเงินแบบไหนได้ดอกเบี้ยสูง

เงินฝากออมทรัพย์
บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง   เป็นเงินฝากที่ไม่มีการกำหนดจำนวนเงิน จำนวนครั้ง รวมไปถึงระยะเวลาในการฝากเงิน จึงมีความยืดหยุ่นและสภาพคล่องสูง สามารถถอนเงินไปใช้จ่ายได้โดยไม่เสียผลประโยชน์ใด ๆ โดยทั่วไปจะมีดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 0.3-0.5 เหมาะกับคนที่ต้องการฝากเงินระยะสั้น เงินต้นอยู่ครบ เน้นทำกำไรไม่หวือหวาแต่ยั่งยืน
เงินฝากประจำ
เงินฝากประเภทประจำจะมีการกำหนดระยะเวลาที่ต้องฝากเงินเอาไว้อย่างชัดเจน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน ยิ่งฝากไว้เป็นระยะเวลานานขึ้น ยิ่งได้ดอกเบี้ยสูง แต่ถ้าถอนเงินออกมาก่อนครบกำหนดจะได้ดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำมาก จึงเหมาะกับผู้มีเงินเย็น ต้องการฝากเพื่อออมเงินระยะยาวอย่างมีเป้าหมาย เช่น เก็บเงินเพื่อดาวน์รถ หรือท่องเที่ยว หรือเพื่อการอื่นใดก็ตาม เงินฝากแบบนี้สภาพคล่องค่อนข้างต่ำ แต่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์
เงินฝากปลอดภาษี
ตามปกติดอกเบี้ยที่ได้จากเงินฝากก็นับเป็นรายได้เช่นกัน จึงต้องมีการเสียภาษี 15% ถ้าได้ดอกเบี้ยจากธนาคารมากกว่า 20,000 บาท แต่อีกหนทางที่ทำให้สามารถได้รับดอกเบี้ยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็คือการเลือกฝากเงินกับบัญชีปลอดภาษี เช่น Krungthai ZERO TAX MAX โดยต้องทำตามเงื่อนไขพิเศษของธนาคาร เช่น กำหนดยอดเงินที่ฝากขั้นต่ำ ห้ามถอนก่อนกำหนด รวมทั้งห้ามฝากขาดเกินจำนวนที่กำหนดเป็นต้น โดยสามารถรับดอกเบี้ยสูงถึง 2.6-2.75%
เงินฝากเงินตราต่างประเทศ
เป็นการฝากเงินโดยฝากเป็นสกุลเงินประเทศอื่น ๆ เหมาะกับคนที่ต้องใช้เงินสกุลอื่นเป็นประจำหรือได้รับรายได้เป็นเงินสกุลอื่น นอกจากนั้นยังช่วยลดค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินไปมา ทำให้บริหารจัดการเงินได้ง่าย จะออมเงิน โอนเงิน หรือลงทุนในต่างประเทศก็สะดวกสบาย แถมได้ดอกเบี้ยมากกว่าเงินบาท
เงินฝากดิจิทัลดอกเบี้ยสูง
ในยุคนี้ถ้านึกถึง ฝากเงินบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง   แบบไหนได้ดอกเบี้ยสูง จะต้องมีบัญชีดิจิทัลอยู่ด้วยแน่นอน บัญชีรูปแบบนี้เป็นบัญชีออนไลน์ที่ไม่มีสมุดคู่ฝาก ธุรกรรมทำได้ง่ายผ่านออนไลน์ จึงมีต้นทุนในการดำเนินการต่ำ และให้ดอกเบี้ยได้สูงถึง 1.5-2% จึงเป็นบัญชีเงินฝากที่คนรุ่นใหม่มักนึกถึง ตัวอย่างบัญชีดิจิทัลที่ได้รับความนิยมได้แก่ Krungthai NEXT Saving

ส่วนใครที่กำลังมีเป้าหมาย เก็บเงินแสนภายใน1ปี ก็สามารถเลือกวิธีฝากเงินต่าง ๆ ข้างต้นได้ตามเหมาะสม เงินต้นไม่หาย และได้ดอกเบี้ยเพิ่ม หากทำอย่างต่อเนื่องและมีวินัย เก็บออมก่อนค่อยใช้จ่าย เป้าหมายเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาทภายใน 1 ปีก็เป็นไปได้

   หลังจากอ่านบทความนี้แล้วทุกคนคงรู้แล้วว่า เปิดบัญชีออนไลน์แบบไหนได้ดอกเบี้ยสูง ทุกคนคงจะมีตัวเลือกในการฝากเงินและสามารถบริหารการเงินได้ดีขึ้น และหวังว่าความรู้ที่ได้จากบทความนี้จะนำไปสู่การมีสุขภาพทางการเงินที่ดี รวมถึงบรรลุเป้าหมายทางการเงินต่าง ๆ ได้อย่างที่ต้องการ

18
สำหรับคนทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเป้าหมายทางการเงินและต้องการลงทุน แต่ติดอุปสรรคเรื่องไม่มีเวลาศึกษาตลาด ไม่มีประสบการณ์ และไม่มีเงินลงทุนก้อนใหญ่  กองทุนรวม คือ คำตอบสุดท้ายที่จะช่วยคุณได้ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า กองทุนรวมคืออะไร และจะลงทุนในกองทุนรวมอย่างไรให้ได้โอกาสทำกำไร วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน

 

กองทุนรวมคืออะไร แบบเข้าใจง่าย

อธิบายอย่างเข้าใจง่ายที่สุด กองทุนรวม คือ การระดมเงินทุนก้อนเล็ก ๆ จากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากมารวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล แล้วบริษัทก็จะนำเงินไปลงทุนตามแผนการลงทุนที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน  เมื่อลงทุนแล้วจะได้รับจัดสรร “หน่วยลงทุน” เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเงินที่ลงทุนไป ส่วนมูลค่าหรือราคาของหน่วยลงทุนในแต่ละกองทุนจะมีตัวเลขไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการบริหารกองทุนและปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งมีผลต่อสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน

 

ลงทุนในกองทุนรวมอย่างไรให้ได้โอกาสทำกำไร ?

สำหรับใครที่เข้าใจแล้วว่า กองทุนรวมคืออะไร แต่ยังไม่รู้ว่าควรลงทุนอย่างไรให้มีโอกาสได้กำไรกลับมา ให้ลองพิจารณาวิธีดังต่อไปนี้

ใช้กองทุนรวมพักเงินแทนการเปิดบัญชีออมทรัพย์  ปกติแล้วหากเราออมเงินในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยที่ 0.25% ต่อปี หมายความว่าฝากเงิน 100 บาท เป็นเวลา 1 ปี เราจะได้ดอกเบี้ยกลับมาเพียง 25 สตางค์ หรือฝาก 1,000 บาท เราจะได้ดอกเบี้ย 2.5 บาทเท่านั้น แต่สำหรับ การลงทุนในกองทุนรวม จะให้ผลตอบแทนมากกว่าการออมเงินกับธนาคาร โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนรวมที่มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ หรือตลาดเงิน ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินออมทรัพย์ แถมยังสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ โดยเงินจะเข้าบัญชีในวันถัดไป

ลงทุนในกองทุนรวมที่มีรายได้สม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ตราสารหนี้ หรือตราสารในหมวดอสังหาริมทรัพย์ ผลกำไรระหว่างปีจะถูกจ่ายคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปของเงินปันผล (กรณีที่ลงทุนในกองทุนที่มีการจ่ายเงินปันผล) หรือในรูปของกำไรจากส่วนต่าง (กรณีที่ลงทุนในกองทุนที่ขายคืนหน่วยลงทุน) โดยเงินปันผลจะต้องเสียภาษี 10% ส่วนกำไรจากส่วนต่างจากการขายคืนหน่วยลงทุนไม่ต้องเสียภาษี

ลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี เช่น กองทุน ssf คืออะไร กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (กองทุน rmf) นอกจากจะมีโอกาสได้ทำกำไรจากส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุนของราคาในวันที่เราซื้อกับวันที่เราขายแล้ว ยังจะสามารถนำเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีในปีที่ลงทุนได้ด้วย โดยสามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินเสียภาษี เมื่อนับรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

การซื้อกองทุนในกองทุนรวม ทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยงไม่มากก็น้อย ดังนั้นหากเราไม่มีความสามารถพิเศษอย่างการหยั่งรู้อนาคตก็ควรต้องทำความเข้าใจ ศึกษาเงื่อนไขและผลตอบแทนกองทุนรวม รวมถึงความเสี่ยงของกองทุนนั้น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน

19
เดินทางไปต่างประเทศจะเป็นครั้งแรกหรือครั้งที่เท่าไหร่ สิ่งสำคัญคือการวางแผนเดินทาง เช็กลิสต์สิ่งที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ เพื่อความสบายใจว่าการเดินทางจะราบรื่น วันนี้สำหรับใครที่เพิ่งเดินทางครั้งแรกหรืออยากจะทบทวนว่า ของที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ และมีอะไรที่ต้องรู้ก่อนเดินทางมาดูกัน

Passport หรือหนังสือเดินทาง
เอกสารสำคัญต้องมีเพื่อแสดงตัวตนก่อนเข้าประเทศปลายทาง เป็นเอกสารรับรองสัญชาตินั่นเอง อย่าลืมเช็กวันหมดอายุล่วงหน้าเพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินทาง

Vaccine Passport
หลังจากวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา การเดินทางไปต่างประเทศมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับการเข้ารับวัคซีนโรคก่อนเดินทาง ดังนั้น ในขั้นตอนการยื่นขอหนังสือเดินทางอย่าลืมที่จะยื่นขอ Vaccine Passport เพื่อการเดินทางด้วย ซึ่งเอกสารที่ใช้ประกอบไปด้วย เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนโควิด, บัตรประชาชน หนังสือเดินทางและค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองฯ สามารถยื่นขอที่หน่วยงานสาธารณสุข หรือจะยื่นขอผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม

เอกสารสำหรับจองที่พัก
ควรทำการจองที่พักก่อนเดินทางและนำเอกสารการจองที่พักไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ว่าเข้าเมืองมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีที่พักในประเทศนั้นแน่นอน

ของใช้จำเป็นและยารักษาโรคประจำตัว
ของใช้จำเป็นอยู่ในลิสต์สำคัญของการ เตรียมของไปต่างประเทศ เช่น เสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศปลายทาง
แปรงสีฟัน ครีมบำรุง และยารักษาโรคประจำตัว 

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
บางประเทศใช้ปลั๊กไฟแตกต่างจากประเทศไทย การพกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหัวแปลงปลั๊กชนิดต่าง ๆ จะช่วยให้คุณใช้งาน
มือถือ คอมพิวเตอร์ได้สะดวก

รู้สักนิดก่อนเดินทาง ไปต่างประเทศ
ควรอ่านกฎหมาย ข้อกำหนด ข้อบังคับและวัฒนธรรมให้เข้าใจก่อนเดินทาง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง ไปต่างประเทศ เป็นครั้งแรก ควรอ่านกฎหมาย ข้อกำหนด ข้อบังคับ เกี่ยวกับการเดินทางโดยสารเครื่องบิน, กฎหมาย, วัฒนธรรม ข้อบังคับของประเทศปลายทางให้เข้าใจและปฏิบัติตาม เพื่อที่จะได้ไม่กระทำผิดกฎหมายของประเทศนั้น ๆ

ทำประกันเดินทาง
อยากอุ่นใจในทุกทริป แนะนำให้คุณเลือกซื้อประกันการเดินทาง เลือกกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม เช่น คุ้มครองกระเป๋าเดินทางสูญหาย ให้ค่ารักษาพยาบาลเมื่อต้องเข้ารับการรักษาตัวจากอุบัติเหตุในต่างประเทศ หรือเจ็บไข้ได้ป่วยกะทันหันไม่ต้องออกเงินเอง อย่างประกันภัยการเดินทาง สมาร์ท ทราเวลเลอร์ พลัส จากธนาคารกรุงไทย มาพร้อมกับความคุ้มครองที่ครอบคลุม ค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 2,000,000 บาท เบี้ยประกันเริ่มต้น 190 บาท ที่สำคัญนำไปใช้ในการขอวีซ่าได้ทุกสถานทูต ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ

   สิ่งที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ และเรื่องควรรู้เหล่านี้ จะช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่นทุกทริป เซฟเก็บไว้อ่าน เดินทางไปเมื่อไหร่เปิดมาเช็กลิสต์ตาม ประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี ประกันรถยนต์มีแบบไหน มั่นใจได้เลยว่าทุกการ ไปต่างประเทศ จะทำงานหรือเที่ยวของคุณจะราบรื่น สบายใจ หมดห่วง

20
เมื่อเราเห็นเงินดอกเบี้ยที่ได้จากบัญชีออมทรัพย์ น่าจะรู้สึกว่าออมไปเยอะแต่ทำไมได้เงินตอบแทนค่อนข้างน้อย แต่ถ้าจะไปสายลงทุน ก็มีความเสี่ยงแถมต้องมีความรู้ด้านการลงทุนในระดับหนึ่ง แล้วคนธรรมดาแบบเรา ๆ ที่อยากฝากเงิน แต่ก็อยากได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นบ้างจะมีทางเลือกอะไรบ้าง? คำตอบนั้นก็คือบัญชีเงินฝากประจำนั่นเอง เพราะเป็นการออมเงินที่มีเงื่อนไขเพียงห้ามถอนในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 6 เดือน 12 เดือน หรือ 24 เดือน ทำให้บัญชีฝากประจำมีข้อดีสำหรับคนที่กำลังหา วิธีออมเงินแสน ผ่านบัญชีเงินฝากอัตราดอกเบี้ยสูงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงด้วย
 
ไม่เสียเงินต้น ความเสี่ยงต่ำ
เงินฝากประจำ คือ การออมที่ความเสี่ยงต่ำ เพราะธนาคารที่ผู้ออมเงินเปิดบัญชีด้วยจะมีการคุ้มครองเงินต้น เมื่อฝากเงินตามเงื่อนไขของบัญชีแล้วก็จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเงินฝากคืน ผ่านการคํานวณดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ไม่ต้องมานั่งลุ้นเวลาเศรษฐกิจตกต่ำเหมือนกับตลาดหุ้น

ดอกเบี้ยสูงกว่าฝากแบบออมทรัพย์
ปกติแล้วบัญชีออมทรัพย์จะมีดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 0.3-0.5 ในขณะที่บัญชีเงินฝากประจำ แต่ก็มีบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงที่ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นหน่อย ส่วนเมื่อเราคํานวณดอกเบี้ยเงินฝากประจำจะได้ดอกเบี้ยถึงร้อยละ 1.1 – 2.1 และอีกข้อดีของ เงินฝากประจำ คือ ยิ่งฝากเงินไว้นาน ยิ่งได้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ดังนั้นใครที่มีเงินก้อนหรือมีรายได้ที่แน่นอนและอยากได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง ๆ ความเสี่ยงต่ำ บัญชีเงินฝากประจำจะตอบโจทย์มากที่สุด

ฝึกวินัยในการออม
เนื่องจากบัญชีเงินฝากประจำเป็นการฝากเงินที่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะเงื่อนไขด้านเวลาในการออม สิ่งนี้จะช่วยฝึกฝนความอดทนและสร้างวินัยในการออมเป็นอย่างดี เพราะถ้าถอนเงินออกมาก่อนกำหนด คํานวณดอกเบี้ยเงินฝากจะทำให้ได้รับดอกเบี้ยต่ำมากหรือไม่ได้รับดอกเบี้ยเลย

วางแผนการเงินได้ชัดเจน
เป็นการวางแผนการเงินได้อย่างดี เพราะเนื่องจากเงินฝากประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน จึงสามารถคำนวณผลตอบแทนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เปิดบัญชี นอกจากนั้นยังเป็นการสะสมเงินก้อนเพื่อเป็นเงินสำรองหรือเตรียมเงินไว้ใช้ในการทำสิ่งต่าง ๆ นับเป็น วิธีออมเงินแสนด้วยบัญชีเงินฝากอัตราดอกเบี้ยสูง ที่ทำได้ง่ายและความเสี่ยงต่ำ

ส่งเสริมเครดิตทางการเงิน
การเงิน เงินฝากประจำ คือ หลักฐานยืนยันเครดิตทางการเงินได้เป็นอย่างดี นับเป็นประวัติทางการเงินที่ดี ได้รับความเชื่อถือจากธนาคาร จึงทำให้มีความคล่องตัว จะขอสินเชื่ออะไรก็มีโอกาสได้รับการอนุมัติง่ายขึ้น แถมบางครั้งบัญชีเงินฝากประจำสามารถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ได้อีกด้วย

   สำหรับใครที่อยากออมเงินก้อนและสร้างกำไรจากเงินฝากให้งอกงาม ใครที่กำลังมองหา วิธีออมเงินแสน ที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางการเงินมากมาย ก็สามารถเปิดบัญชีเงินฝากประจำได้กับกรุงไทย และเริ่มฝากได้เลย

21
หลายคนที่มีความรู้เรื่องการลงทุนต่างให้ข้อมูลตรงกันว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ไม่ลดมูลค่าลงแม้ว่าเวลาจะผ่านไป เนื่องจากมีจุดเด่นที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้ และในตอนนี้ที่ทั่วโลกต่างเจอกับภาวะเงินเฟ้อซึ่งไม่แน่ว่าจะดีขึ้นได้เมื่อไหร่ จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะเริ่มต้น ลงทุนทอง เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว แล้วการลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงอย่างทองคำมีกี่แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร และเหมาะกับใคร เราจะไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน ผ่าน 4 รูปแบบการลงทุนดังต่อไปนี้

ซื้อขายทองคำแท่ง
นี่คือวิธีง่ายที่สุดและไม่มีความซับซ้อน เหมาะกับคนที่ต้องการเก็บทองคำไว้กับตัว และต้องการวิธี ลงทุนกับทอง ในแบบพื้นฐาน เพราะรูปแบบคือการซื้อมาขายไป เริ่มโดยซื้อทองคำแท่งจากร้านทองจากนั้นดูจังหวะราคาที่เปลี่ยนแปลงเพื่อขายทำกำไร โดยราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ อ้างอิงจากราคากลางของสมาคมผู้ค้าทองคำ บางวันอาจมีการปรับราคาขึ้นลงถึง 5 ครั้ง ซึ่งมีแอปพลิเคชันหลายตัวที่คุณสามารถเช็กราคาได้ เช่น แอป Thai Gold ที่มีให้โหลดมาติดตั้งทั้งระบบ iOS และ Android โดยจุดเด่นของทุกแอปคือแจ้งเตือนคุณทันทีเมื่อราคาทองคำมีการเปลี่ยนแปลง

ลงทุนใน Gold Futures
   Gold Futures คือสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ซึ่งการทำกำไรจะเกิดจากการคาดการณ์ราคาทองคำที่จะเปลี่ยนแปลงในเดือนที่เป็นกำหนดการซื้อขาย โดยข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์ของไทย (TFEX) มีการซื้อขายสองแบบ คือ GF10 สำหรับทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท และ GF สำหรับทองคำแท่งน้ำหนัก 50 บาท การลงทุนประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ศึกษาด้านการลงทุนมาแล้วเป็นอย่างดี ติดตามข่าวสารด้านเศรษฐกิจจนกระทั่งคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำได้ อาจเป็นรูปแบบการลงทุนที่ยังไม่เหมาะกับมือใหม่ เพราะมีข้อมูลเทคนิคที่ต้องทำความเข้าใจค่อนข้างมาก

ลงทุนด้วยการเทรดผ่านระบบออนไลน์
วิธีนี้คือการเทรดทองผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งเราขอแนะนำแอปเป๋าตัง เพราะเป็นแอปที่ทุกคนคุ้นเคย โดยก่อนการลงทุนจำเป็นต้องเปิดบัญชี FCD ซื้อทองออนไลน์ ซึ่งทำผ่านแอปได้เช่นกัน จุดเด่นคือซื้อได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท หรือเทียบเท่ากับทองคำน้ำหนัก 0.1 ออนซ์ จึงเหมาะกับผู้ลงทุนตั้งแต่รายย่อยไปจนถึงการลงทุนด้วยวงเงินสูง และราคาจะอ้างอิงตามราคาตลาดโลก รวมถึงมีระบบส่งคำซื้อขายผ่ายแอปได้ตลอด ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง

ซื้อกองทุนรวม
การ ลงทุนทอง รูปแบบสุดท้ายคือซื้อกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในทองคำ จุดเด่นคือมีมืออาชีพมาช่วยบริหารจัดการกองทุน นอกจากนี้หลายกองทุนยังกระจายเงินลงทุนไปในสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงบางกองทุนยังเข้าเงื่อนไขลดหย่อนภาษีได้ด้วย จึงเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการออมเงินระยะยาว

   การลงทุนแต่ละแบบมีจุดเด่นที่ต่างกัน จึงเหมาะกับความต้องการที่ต่างกัน แต่นอกเหนือจากเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับคุณได้แล้ว จำเป็นต้องทำความเข้าใจเงื่อนไขของแต่ละรูปแบบด้วย เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากทำความเข้าใจและวางแผนอย่างดีจะสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน

22
การฝากเงินไว้กับธนาคารเป็นวิธีการเก็บเงินที่ยังคงได้รับความนิยมมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บัญชีฝากประจำ ที่ช่วยให้เงินสะสมหรือเงินออมของเรามีการงอกเงยจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ธรรมดานั่นเอง การฝากประจำจึงดูเหมือนเป็นทั้งวิธีเก็บเงินให้ได้และเป็นการลงทุนในคราวเดียวกัน
การฝากประจำ คือ การนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารโดยมีระยะเวลาเป็นเงื่อนไขในการฝาก ซึ่งผู้ฝากจะได้รับดอกเบี้ยเต็มจำนวนหากฝากครบตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา เช่น ฝากประจำ12เดือน ฝากประจำ 24 เดือน โดยทางธนาคารจะทำการจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน หรือ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับข้อตกลง

บัญชีเงินฝากประจำมี 2 ประเภท ดังนี้

บัญชีเงินฝากประจำแบบทั่วไป 
เป็นการฝากเงินก้อนใหญ่โดยไม่ระบุจำนวนเงินที่ตายตัว จะฝากกี่ครั้งก็ได้และแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินเท่าไรก็ได้เพียงแต่ต้องฝากให้ครบตามระยะเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งดอกเบี้ยคิดแยกตามอายุของเงินฝาก เช่น หากฝากเงินครั้งแรกในเดือนมกราคม จำนวน 100,000 บาท ฝากครั้งที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 200,000 บาท มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เมื่อถึงเดือนมิถุนายนจะได้รับดอกเบี้ยของเงินฝากก้อนแรก โดยคิดจากจำนวน 100,000 บาท และได้รับดอกเบี้ยจากยอดเงินฝาก 200,000 บาท ในเดือนกรกฎาคม สำหรับบัญชีเงินฝากประเภทนี้หนึ่งคนสามารถเปิดได้หลายบัญชีและมีการหักภาษีจากดอกเบี้ย 15% 

บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี
เป็นการฝากเงินด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทุกเดือนตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น ฝากประจำ12เดือน ฝากประจำ 24 เดือน หรือมากกว่าแล้วแต่เลือก วงเงินฝากในแต่ละเดือนอยู่ที่ 1,000 - 25,000 บาท เป็นบัญชีฝากประจำที่ได้รับการยกเว้นภาษี 1 คน เปิดได้แค่ 1 บัญชีเท่านั้น อัตราดอกเบี้ยคิดตามระยะเวลาที่กำหนดส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนทุก 6 เดือน
บัญชีเงินฝากประจำทั้ง 2 ประเภทนี้ต่างมีอัตราดอกเบี้ย 0.4 – 3% แล้วแต่เงื่อนไขและระยะเวลาในการฝาก ยิ่งฝากนานผลตอบแทนจะยิ่งสูงเนื่องจากมีการคิดดอกเบี้ยเป็นแบบขั้นได ส่วนจะเลือกฝากประจำแบบทั่วไปหรือแบบปลอดภาษีแล้วแต่ความสะดวก หากต้องการเก็บเงินก้อนไว้เป็นทุนสำรองควรเลือกแบบทั่วไป และหากไม่มีเงินก้อนใหญ่แต่อยากมีเงินเก็บสะสมควรเลือกฝากน้อยตามกำลังแต่สม่ำเสมอแบบปลอดภาษี เมื่อครบตามระยะเวลาที่กำหนดคุณจะมีเงินเก็บหนึ่งก้อนพร้อมดอกเบี้ยเป็นผลกำไรที่งอกเงยจากการออมนั้น ซึ่งการฝากแบบนี้จะช่วยสร้างวินัยในการออมได้เป็นอย่างดี 

เงินฝากประจำอาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงมากเหมือนการลงทุนแบบอื่น แต่ด้วยมีความเสี่ยงต่ำจึงปลอดภัยกว่าและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีเงินเก็บในอนาคต หากสนใจเงินฝากประจำไม่ว่าแบบไหนก็ตาม สามารถ เปิดบัญชีออนไลน์ กับธนาคารกรุงไทยด้วย 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้       

วิธีเปิดบัญชีออนไลน์
ดาวน์โหลด Krungthai NEXT
เลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่ต้องการ
กดเปิดบัญชีด้วยบริการ NDID เพื่อยืนยันตัวตน
กดยอมรับเงื่อนไขและกรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่ให้ระบุ
ใส่ PIN เพื่อยืนยันการลงทะเบียน

บัญชีฝากประจำของ Krungthai NEXT เป็นบัญชีออนไลน์ที่สามารถเลือกออมได้หลายระยะเวลา มีอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน และยังให้เลือกเงื่อนไขได้ตามความพึงพอใจ ที่สำคัญสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ทริคเก็บเงินได้ด้วยตนเองจึงมีความคล่องตัวสูง สะดวกและรวดเร็ว ตอบรับกับวิถีชีวิตในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

23
ประกันชีวิตนอกจากจะเป็นการบริหารความเสี่ยงที่ให้ความคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังถือเป็นการออมระยะยาวรูปแบบหนึ่งที่ได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากธนาคาร และที่สำคัญเบี้ยประกันชีวิตที่เราจ่ายในแต่ละปีก็ยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย ส่งผลให้เรามีเงินมากขึ้นจากภาษีที่ลดหย่อนได้ เพื่อนำไปใช้จ่ายหรือออมเงินได้มากขึ้น

ก่อนที่จะมาดูกันว่า ประกันโรคมะเร็ง ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ เรามารู้จักประกันชีวิตแต่ละประเภทกันก่อน เพราะเราไม่ได้แค่ต้องการซื้อ ประกันลดหย่อนภาษี เท่านั้น แต่เรายังต้องการเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเราด้วย
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองจนผู้เอาประกันอายุถึง 90 หรือ 99 ปี ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยประกันติดต่อกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 20 ปี เป็นต้น เหมาะกับผู้เอาประกันที่ต้องการมีมรดกให้ลูกหลาน
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันที่คุ้มครองชีวิตตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์โดยชำระเบี้ยประกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ไลฟ์ ซูเปอร์เซฟ 14/5 ของธนาคารกรุงไทย ที่คุ้มครองชีวิตถึง 14 ปี แต่จ่ายเบี้ยประกันเพียง 5 ปี เป็นต้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินและต้องการความคุ้มครองในเวลาเดียวกัน
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน เป็นประกันชีวิตที่แบ่งเบี้ยประกันออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในส่วนของบริษัทประกัน เงินลงทุน และค่าความคุ้มครอง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองและต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้นโดยที่สามารถยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้นได้ด้วย
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาในกรมธรรม์ เป็นประกันชีวิตที่ไม่มีเงินคืนเมื่อครบสัญญา เหมาะกับผู้เอาประกันที่ต้องการความคุ้มครองในช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือไม่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันสูง
ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองในรูปแบบของรายได้หลังเกษียณ โดยจะจ่ายเงินให้ผู้เอาประกันเป็นงวดเมื่อผู้เอาประกันอายุ 55 หรือ 60 ปี ตามจำนวนงวดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้ดังนี้
การ ลดหย่อนภาษีประกันชีวิต แบบตลอดชีพ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ และประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา จะต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป โดยจะสามารถนำค่าเบี้ยประกันมาแจ้งลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่จะลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี แต่หากผู้ทำประกันเป็นผู้ไม่มีรายได้สามารถนำค่าเบี้ยไปช่วยลดหย่อนภาษีให้กับคู่สมรสได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท   
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน สามารถลดหย่อนภาษีได้เฉพาะค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันและเบี้ยประกันในส่วนที่ให้ความคุ้มครอง ไม่รวมเบี้ยประกันในส่วนของเงินลงทุน โดยสามารถหักได้ตามยอดเงินที่จ่ายจริงแต่เมื่อรวมกับกรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับอื่นแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท โดยกรมธรรม์ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นประกันที่สามารถนำยอดเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่จะไม่เกิน 15% ของรายได้ก่อนหักภาษี หรือลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาทต่อปี หากผู้เอาประกันไม่ได้ซื้อประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แบบสะสมทรัพย์ หรือแบบชั่วระยะเวลา ก็สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อวัยเกษียณอื่น ๆ ได้แก่ SSF, RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เป็นต้น ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
   
จะเห็นว่าประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้ทุกประเภท แต่การเลือกประกันชีวิตให้คุ้มค่ามีเทคนิคดังต่อไปนี้
เลือกความคุ้มครองที่ต้องการ เช่น ต้องการให้เป็นมรดกลูกหลาน ควรเลือกประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หากต้องการมีเงินใช้หลังเกษียณ ควรเลือกประกันชีวิตแบบบำนาญ หรือหากไม่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันระยะยาวก็ควรเลือกประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นต้น
คำนวณวงเงินคุ้มครอง โดยคำนวณจากค่าใช้จ่ายและภาระหนี้ จากนั้นนำมาหักลบกับเงินออมที่ได้ จะได้เป็นวงเงินคุ้มครองที่ต้องการ
ตรวจสอบประกันชีวิตที่มีอยู่ว่าคุ้มครองครอบคลุมวงเงินที่ต้องการหรือไม่ จากนั้นจึงซื้อประกันเพิ่มเติมเฉพาะส่วนที่ต้องการได้วงเงินคุ้มครองเพิ่ม
คำนวณภาษีที่ต้องจ่าย โดยคำนวณจาก รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน = เงินได้ก่อนหักภาษี จากนั้นนำผลลัพธ์ไปคูณกับอัตราภาษี เพื่อดูว่าเราได้ลดหย่อนภาษีไปเท่าไร
   
หากต้องการทำประกันยื่นลดหย่อนภาษีกับบริษัทที่เชื่อถือได้ เราขอแนะนำซื้อ ประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี จากธนาคารกรุงไทย ที่มีประกันชีวิตทุกประเภทให้เลือกได้เหมาะกับความต้องการ เพียงคลิก https://krungthai.com/th/personal/insurance/life-insurance ประกันชีวิตของธนาคารกรุงไทย รวมครบ จบทุกความคุ้มครอง คลอบคลุมทุกความต้องการ   

24
หากถามว่าการนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารมีข้อดีอย่างไรบ้างนั้น แน่นอนว่าคำตอบที่คนส่วนใหญ่ตอบนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเงินทุกบาทจะได้รับการคุ้มครองอย่างดีในธนาคาร นอกจากนั้นหากเป็นการฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำยังเป็นการฝึกวินัยในการออมอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามเพื่อดึงดูดใจให้คนมาเปิดบัญชี เงินฝาก มากที่สุดธนาคารหลายแห่งจึงเพิ่มสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าของตัวเอง ดังนั้นวันนี้เราจึงมี 5 บัญชีออมทรัพย์ ที่ขั้นตอนการเปิดบัญชีออนไลน์ให้มากกว่าความปลอดภัยมาฝาก แต่จะมีธนาคารไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ มีแต่ได้ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
เริ่มบัญชีเงินฝากสุดพิเศษกันด้วยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ มีแต่ได้ จากธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่โดดเด่นในด้าน เงินฝากดอกเบี้ยสูง เพราะให้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% เมื่อสมัครผ่านช่องทาง Krungsri Mobile App โดยไม่กำหนดขั้นต่ำและได้รับดอกเบี้ยทุกเดือนตั้งแต่บาทแรกที่ฝากเงิน

บัญชีออมทรัพย์ ยูโอบี ซีเคียวร์ จากธนาคารยูโอบี
สำหรับบัญชีเงินฝากแบบต่อมาที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดคือ บัญชีออมทรัพย์ ยูโอบี ซีเคียวร์ จากธนาคารยูโอบี บัญชีออมทรัพย์ที่มาพร้อมความคุ้มครองอุบัติเหตุ 20 เท่าของเงินฝาก สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่เปิดบัญชีขั้นต่ำที่ 1,000 บาท และมียอดเงินคงเหลือในบัญชีเฉลี่ยตั้งแต่ 3,000 บาท ตั้งแต่วันเปิดบัญชีหรือวันที่ 1 มกราคมของปีปัจจุบัน จนถึงวันเกิดอุบัติเหตุ 1 วัน

บัญชีออมทรัพย์ ทวีโชค ยิ่งออมยิ่งดี จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
มาต่อกันด้วยบัญชีออมทรัพย์ที่ออกแบบมาเพื่ออาชีพเกษตรกรโดยเฉพาะ อย่างบัญชีออมทรัพย์ ทวีโชค ยิ่งออมยิ่งดี จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งนอกจากเจ้าของบัญชีจะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากและใช้วงเงินในบัญชีเป็นหลักประกันเงินกู้ การออกหนังสือค้ำประกัน สัญญาในงานจัดซื้อจัดจ้างของธนาคารแล้ว ยังมีสิทธิ์ลุ้นโชคจากธนาคารทุก 6 เดือน เมื่อมีเงินฝากคงเหลือในบัญชี 2,000 บาท ติดต่อกัน 3 เดือน

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษสำหรับผู้เยาว์ จากธนาคารกรุงไทย
ถือเป็นบัญชีเงินฝากที่น่าสนใจสำหรับเงินฝากออมทรัพย์พิเศษสำหรับผู้เยาว์จากธนาคารกรุงไทย เป็นบัญชีออมทรัพย์ที่ช่วยเตรียมความพร้อมให้กับลูก ๆ ในอนาคต โดยไม่สร้างความลำบากให้กับคุณพ่อคุณแม่  เพราะไม่ต้องฝากทุกเดือน ไม่บังคับจำนวนขั้นต่ำเหมือนบัญชีฝากประจำ มีมากฝากมาก เดือนไหนค่าใช้จ่ายเยอะก็ฝากน้อย แต่ถ้าเดือนไหนฝากเงินมากกว่าถอนออกจะได้รับโบนัสเพิ่ม 100% จากอัตราดอกเบี้ยที่จะได้ โดยทางธนาคารจะจ่ายให้ทุกต้นเดือนถัดไป

บัญชีออมทรัพย์ อีซี่ จากธนาคารไทยพาณิชย์
   ปิดท้ายกันด้วยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ อีซี่ บัญชีแบบ E PASSBOOK หรือบัญชีแบบไม่มีสมุดเงินฝาก จากธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งใน บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ที่คนรุ่นใหม่อยากออมเงินไม่ควรพลาด เพราะได้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% ตั้งแต่บาทแรกไปจนถึง 1 ล้านบาท ทั้งยังเปิดบัญชีและทำธุรกรรมได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทาง SCB EASY APP ได้อีกด้วย

   เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 5 บัญชีออมทรัพย์ สุดพิเศษที่เรานำมาฝากในวันนี้ เรียกได้ว่าคัดมาให้ครบทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งดอกเบี้ยเงินฝากสูง ดอกเบี้ยพิเศษ ลุ้นโชคและประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็มั่นใจได้เลยว่าถูกใจแน่นอน

25
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าหนี้นอกระบบนั้นเป็นการกู้ยืมเงินที่ผิดกฎหมาย เพราะนอกจากจะคิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังเป็นการกู้ยืมเงินที่ไม่มีการทำสัญญาอย่างถูกต้องและชัดเจน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดกรณีจ่ายดอกเบี้ยไม่จบสิ้นหรือผิดสัญญาเงินกู้จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้อยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะรู้ถึงผลเสียของเงินกู้นอกระบบแต่เนื่องจากต้องการใช้เงินด่วนและเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมายทำให้หลายคนยอมตัดใจและกู้หนี้นอกระบบ ดังนั้นเพื่อช่วยให้คนเป็นหนี้หลุดพ้นจากหนี้นอกระบบได้เร็วขึ้น วันนี้เราจึงมี 5 วิธีแก้หนี้นอกระบบ มาฝาก แต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

ลดรายจ่ายเพื่อนำเงินไปจ่ายหนี้
   วิธีปลดหนี้ก้อนนอกระบบที่อยากให้คนเป็นหนี้นอกระบบนำไปปรับใช้คือ ลดรายจ่ายของตัวเองให้มากที่สุดเพื่อให้มีเงินเหลือไปใช้หนี้ โดยหากอยากเริ่มจัดการหนี้นอกระบบด้วยวิธีนี้ประการแรกควรทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำวันอย่างละเอียด เพียงเท่านี้จะช่วยให้ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เหลือเงินไปใช้หนี้ได้มากขึ้นตามไปด้วย
หารายได้เพิ่มเพื่อใช้หนี้
   หากทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้วเห็นว่าเงินที่มีอยู่พอดีกับการใช้จ่ายทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยอย่างที่คิดไว้ แต่ อยากมีเงินใช้หนี้ มากขึ้น แนะนำว่าควรหารายได้เพิ่มจากงานที่ทำอยู่ อย่างการขายของออนไลน์ ขายอาหาร หรือรับงานฟรีแลนซ์ตามความสามารถ
เปลี่ยนทรัพย์ให้เป็นเงิน
   สำหรับใครที่เป็นหนี้นอกระบบอยู่สิ่งแรกที่ไม่ควรทำคือยึดติดกับทรัพย์สินที่มีอยู่ เพราะมีไม่น้อยที่ห่วงภาพลักษณ์จนยอมจ่ายดอกเบี้ยแสนแพงของหนี้นอกระบบ แต่เชื่อเถอะว่าการขายทรัพย์ที่มีอยู่จะช่วยให้เป็นอิสระจากเจ้าหนี้และมีความมั่นคงทางการเงินเร็วขึ้น  เมื่อถึงตอนนั้นจะซื้อหากลับมาเก็บเป็นสมบัติส่วนตัวใหม่ก็ไม่สาย
หาแหล่งเงินยืมที่ไม่เสียดอกเบี้ย
   ข้อเสียของหนี้นอกระบบคือดอกเบี้ยมหาโหด เพราะฉะนั้นการหาเงินยืมที่ไม่เสียดอกเบี้ยมาปลดหนี้นอกระบบจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่น้อย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ปิดหนี้เร็วขึ้นแล้วยังเป็นการลดดอกเบี้ยไปพร้อม ๆ กันด้วย
ขอสินเชื่อออนไลน์อนุมัติทันทีจากธนาคาร
   ในกรณีที่คนเป็นหนี้นอกระบบยังเครดิตไม่เสีย มีเงินเดินบัญชีสม่ำเสมอ หรือเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำ การเปลี่ยนจากหนี้นอกระบบมาเป็นหนี้ในระบบด้วยการขอสินเชื่อกับธนาคารหรือที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นการ  กู้เงินด่วนปิดหนี้ ย่อมดีกว่า เพราะมีความยุติธรรมในเรื่องของการคิดอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อนชำระ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงไม่ต้องกลัวว่าจะถูกทวงหนี้โหด
         
   เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 5 วิธีหา เงินก้อนปิดหนี้ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ซึ่งบอกเลยว่ารับประกันถ้านำไปใช้จะช่วยให้ปลอดหนี้เร็วขึ้นแน่นอน และสำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบด้วยการขอสินเชื่อจากธนาคาร เราขอแนะนำสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาการหาเงินก้อนไปปิดหนี้ โดยประกอบไปด้วยสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ สินเชื่อกรุงไทยเปย์เดะ สินเชื่อกรุงไทย Smart Money และสินเชื่อเอนกประสงค์ 5 Plus สามารถขอคำปรึกษาเพื่อเลือกสินเชื่อให้เหมาะกับกับตัวเองได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

26
การทำประกันชีวิตในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายทางเลือกมาก โดยอีกหนึ่งการทำประกันที่น่าสนใจคือ การทำประกันควบการลงทุน คือ ประกันชีวิตที่มาพร้อมกับการลงทุนในกองทุนรวม หรือเรียกว่าประกันชีวิต Unit linked เป็นประกันที่มีความยืดหยุ่นมาก สามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนความคุ้มครองและเงินลงทุนได้ตามใจเรา มาไขข้อสงสัยกันว่าประกันชีวิต Unit linked มีจุดเด่นอย่างไร แตกต่างจากประกันชีวิตทั่วไปอย่างไร


ประกันชีวิตควบการลงทุนเป็นประกันที่คุ้มครองชีวิตส่วนหนึ่ง และลงทุนในกองทุนรวมอีกส่วนหนึ่ง จัดเป็นประกันที่มีความพิเศษเพราะให้ความคุ้มค่าสองต่อ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ต้องการได้เองผ่านกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อที่ราคาผันผวนน้อย เน้นความปลอดภัยของเงินต้น ไล่ไปจนกระทั่งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เน้นสร้างผลตอบแทนสูง ราคาจึงผันผวนได้มากเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่มากขึ้นนั่นเองหรือสรุปคือเมื่อผู้เอาประกันจ่ายเบี้ยประกันให้บริษัทประกันชีวิตไปแล้ว

บริษัทประกันก็จะแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1.เงินประกันในส่วนของความคุ้มครองชีวิต ตามจำนวนทุนประกันที่กรมธรรม์กำหนดเอาไว้ หมายถึงเงินที่ได้รับภายหลังเสียชีวิต จะรับเงินมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนทุนเอาประกันภัย รวมถึงความเสี่ยงของเพศและอายุ
2.ต้นทุนการดำเนินการของบริษัท เช่น ค่านายหน้า ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
3.เงินลงทุนในกองทุนรวม เป็นเงินส่วนที่บริษัทประกันนำไปบริหารการลงทุนเอง และจ่ายผลตอบแทนกลับมาเป็นรายได้ให้กับบริษัทและเป็นผลประโยชน์ของผู้ถือกรมธรรม์หรือผู้รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของ “เงินสด” ที่สะสมไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิต, “เงินคืน” ที่จ่ายให้กับผู้ทำประกัน หรือ “เงินปันผล” ที่เป็นผลประโยชน์เพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
ประกันชีวิต Unit-Link แบ่งเบี้ยประกันออกเป็น 3 ส่วนเหมือนกัน ซึ่งผู้เอาประกันกำหนดได้เองว่าสัดส่วนเป็นเท่าไร จะจ่ายเบี้ยเน้นความคุ้มครองหรือจ่ายเบี้ยเน้นการลงทุนก็ได้ ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าประกันแบบดั้งเดิม
สำหรับมือใหม่ที่ยังสงสัยอยู่ว่า unit link ดีไหม ถ้าใครต้องการกำหนดสัดส่วนความคุ้มครองและเงินลงทุนเอง ก็เท่ากับได้อิสระจากความยืดหยุ่นของ unit link สามารถเลือกจำนวนเบี้ยที่อยากจ่ายและทุนประกันที่อยากได้ด้วยตัวเอง จึงดีและเหมาะกับคนที่ต้องการอิสระในการกำหนดสัดส่วนของความคุ้มครองและเงินลงทุนด้วยตัวเอง
ประกันยูนิตลิงค์ แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ
1.แบบชำระค่าเบี้ยประกันหลักเพียงครั้งเดียว เริ่มต้นขั้นต่ำโดยเฉลี่ยประมาณ 100,000 บาท กรณีนี้ไม่สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติม แต่ลงทุนเพิ่มเติมได้แบบที่ไม่มีความคุ้มครองให้
2.แบบชำระค่าเบี้ยประกันหลักรายงวด จะจ่ายรายเดือน, ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน หรือจ่ายรายปีก็ได้ จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำราว 200,000 บาท หากอยากได้ความคุ้มครองสูงก็เลือกทุนประกันที่สูงขึ้น หรือจะปรับลดทุนประกันชีวิตก็เลือกได้ตามความเหมาะสม
เปรียบเทียบประกันชีวิตแบบสามัญทั่วไปกับ unit link
-เบี้ยประกันภัย ประกันชีวิตทั่วไปจ่ายเบี้ยตามอัตราที่บริษัทประกันกำหนดไว้ ส่วนยูนิตลิงค์มีความยืดหยุ่นสูง เลือกจำนวนเบี้ยประกันที่จะชำระได้เอง
-ความคุ้มครองชีวิต ประกันชีวิตทั่วไปรับเงินเป็นจำนวนที่แน่นอน ส่วนยูนิตลิงค์อาจได้รับความคุ้มครองชีวิตสูงกว่าจำนวนเงินเอาประกันภัย
-นโยบายการลงทุน ประกันชีวิตทั่วไปมีบริษัทประกันชีวิตนำเงินไปลงทุน ส่วนยูนิตลิงค์ให้ผู้เอาประกันภัยเลือกลงทุนในกองทุนรวมเอง
-ผลตอบแทน ประกันชีวิตทั่วไปให้ผลตอบแทนคงที่แน่นอน ส่วนยูนิตลิงค์ไม่การันตีผลตอบแทน เพราะการลงทุนอาจได้รับเงินมากขึ้นหรือน้อยลงก็ได้
-เปิดเผยค่าใช้จ่าย ประกันชีวิตทั่วไปไม่เปิดเผยค่าใช้จ่าย ส่วนยูนิตลิงค์เปิดเผยค่าใช้จ่ายชัดเจน
-ผลประโยชน์ด้านภาษี ประกันชีวิตทั่วไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ถึง 100,000 บาท ส่วนยูนิตลิงค์ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับประกันชีวิตสูงสุด 100,000 บาท ไม่รวมส่วนของการลงทุน
สรุปง่าย ๆ ว่า unit link คือ การทำประกันชีวิตและการลงทุนควบคู่กันไป ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้ เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรมองข้าม ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ ลองใช้เวลาศึกษาให้เข้าใจอย่างรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วน ก่อนวางแผนลงทุนเพื่อความมั่นคงทางการเงินและความมั่นคงในชีวิต

27
ข่าวดีสำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องกำลังมองหา สินเชื่อต่อยอดธุรกิจ  สินเชื่อเพื่อรายย่อย ให้ก้าวไปต่อได้ไม่สะดุด มีโอกาสได้รับเงินทุนหมุนเวียนจาก สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันที่ภาคธนาคารเตรียมวงเงินสนับสนุนธุรกิจสีเขียวที่มีความใส่ใจด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม รับสิทธิกู้เงินง่าย ผ่อนยาวนาน สามารถต่อยอดธุรกิจไปอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์เศรษฐกิจในยุคที่โควิด-19 ยังไม่จากไปไหน หลายธุรกิจต้องการ สินเชื่อหมุนเวียน สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ เพื่อกอบกู้วิกฤตการเงิน มีเงินสำรองไว้เพิ่มการลงทุนหรือขยายธุรกิจออกไปอีก ซึ่งสินเชื่อเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม สินเชื่อเฉพาะทางอย่าง มีเป้าหมายชัดเจนในด้านการลดปัญหาผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากธุรกิจใดมีเป้าหมายชัดเจนในการดำเนินกิจการที่ไม่ก่อผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ก็มีสิทธิ์ได้รับ สินเชื่อขยายธุรกิจ เพื่อสนับสนุนแนวคิดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นิยามของโครงการสินเชื่อรักษ์สิ่งแวดล้อมประกอบไปด้วย
- การจัดการระบบดูแลบำบัดน้ำเสีย
- การป้องกันมลภาวะทางอากาศ
- ระบบกำจัดของเสีย ตลอดจนการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
- การควบคุมวัตถุดิบการผลิต ลดการสิ้นเปลือง ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
- การสนับสนุนพลังงานสะอาดที่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พลังงานทดแทน หรือเกษตรอินทรีย์
- สินค้าหรือบริการเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เช่น หลังคาโซลาร์เซลล์
   
หากธุรกิจ โรงงาน ร้านค้าที่มีคุณสมบัติตามข้างต้นนี้ มุ่งดำเนินกิจการและการลงทุนที่เน้นลดผลกระทบและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจะได้รับวงเงิน สินเชื่อรายย่อย ตามความจำเป็นของธุรกิจเพื่อนำมาไปใช้หลากหลายตามความต้องการ ครอบคลุมถึงการใช้เงินลงทุนจัดสร้างระบบอากาศและบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดขยะหรือรีไซเคิลกลับมาใช้งานใหม่ ในด้านอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 2%-3% ขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ค้ำประกัน ได้แก่ หนังสือค้ำประกันของธนาคาร การโอนสิทธิ์บัญชีเงินฝาก และหลักทรัพย์อื่น ๆ ระยะเวลากู้นานถึง 7 ปี ผ่อนนาน ระยะเวลาปลอดเงินต้นไม่เกิน 2 ปี
เจ้าของธุรกิจที่ตื่นตัวกับกระแสรักษ์โลก คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ต้องการลงทุนสร้างระบบจัดการพลังงานและขยะให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพลักษณ์สีเขียวอย่างเดียว สามารถยื่นขอเงินกู้สำหรับธุรกิจสีเขียวเป็น สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง ทางการเงินได้
โดยทั่วไปแล้ว การขอสินเชื่อสำหรับธุรกิจใหม่ค่อนข้างเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเป็นการจำกัดไม่ให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ลงทุนเกินตัว แต่สินเชื่อสำหรับธุรกิจสีเขียวเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการเงินเพื่อให้การเตรียมระบบบำบัดน้ำเสียและขยะของเสียต่าง ๆ เป็นไปด้วยดีโดยไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากงบประมาณการจัดสร้างระบบเหล่านี้มีมูลค่าลงทุนสูง แต่มีความจำเป็นเพราะต้องใช้งานตลอดเวลาและช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมดีขึ้น ในกรณีของเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินกิจการเกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือกและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว มองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าและบริการ สามารถใช้เงินจาก สินเชื่อธุรกิจ เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายธุรกิจหรือต่อยอดธุรกิจเดิมได้เช่นกัน

28
การออมเงินเป็นการจัดสรรเงินส่วนหนึ่งสะสมไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำรองหรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินก้อน การออมเงินมีหลายรูปแบบแต่หากการออมเงินนั้นได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีด้วยก็จะช่วยให้เรามีเงินเหลือมากขึ้น

   ลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ rmf ที่มาจากชื่อเต็มว่า Retirement Mutual Fund เป็นกองทุนรวมที่ตั้งขึ้นเพื่อการออมระยะยาว เช่นเดียวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานบริษัทเอกชน (Provident Fund) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินเพิ่มเพื่อใช้ในวัยเกษียณ ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ และเลือกระดับความเสี่ยงได้
   กองทุน rmf คือ ลดหย่อนภาษี ได้ในปีที่มีการซื้อ โดยไม่มีเงื่อนไขของเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนรวมเพื่อการออม ssf และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

rmf เงื่อนไข การซื้อแม้จะไม่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำไว้ แต่ก็ยังมีเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ ได้แก่
ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี สามารถเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี
ต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี ถ้ามีการเว้นการลงทุน  ปีนั้นจะไม่ถูกนับอายุ
การนับอายุจะนับแบบวันชนวัน
สามารถขายคืนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุ 55 ปีขึ้นไป โดยนับเมื่อครบอายุในวันเกิด

rmf มีข้อดีที่น่าลงทุน ได้แก่
ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านภาษี ซึ่งเงินที่ได้จากการลดหย่อนภาษีสามารถนำไปเพิ่มเป็นเงินออมหรือเงินลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนได้มากขึ้น
มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากธนาคาร
สร้างวินัยในการออม เนื่องจาก rmf กำหนดให้ซื้อต่อเนื่อง และสามารถขายคืนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุตั้งแต่ 55 ปี ทำให้สามารถเก็บเงินก้อนใหญ่เพื่อใช้ในวัยเกษียณได้

rmf มีข้อแตกต่างจาก ssfเงื่อนไขกองทุนรวมเพื่อการออมที่สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับ rmf ดังนี้
rmf ลดหย่อนภาษี ได้ ssf ก็ลดหย่อนภาษีได้ในอัตราเดียวกัน คือไม่เกินกว่า 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ ssf สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินลงทุนในกองทุนเพื่อวัยเกษียณรวมถึง rmf ด้วย ก็สามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
rmf กำหนดให้ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี แต่ ssf ไม่ได้กำหนดให้ต้องลงทุนต่อเนื่อง
rmf ขายคืนได้เมื่อลงทุนครบ 5 ปี แต่ ssf ขายคืนได้เมื่อลงทุนครบ 10 ปี
rmf ขายคืนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุ 55 ปีขึ้นไป ส่วน ssf ไม่กำหนดอายุของผู้ลงทุนเมื่อถึงเวลาขายคืน
rmf ไม่มีการจ่ายเงินปันผล ส่วน ssf มีทั้งแบบจ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล

rmf เงื่อนไข กำหนดให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยเฉพาะลูกจ้างบริษัทเอกชนที่บริษัทยังไม่มีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ rmf มีให้เลือกหลายประเภทและหลายระดับความเสี่ยง หากลงทุนเมื่ออายุยังน้อยสามารถเลือกแบบความเสี่ยงสูงเพราะมีระยะเวลาลงทุนนาน แต่หากลงทุนเมื่ออายุมากก็สามารถเลือกแบบความเสี่ยงต่ำได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกระดับความเสี่ยงแบบใดเงินที่ลงทุนไปและผลตอบแทนที่ได้ก็จะสะสมและทบเข้าไปในเงินต้นที่เราลงทุน ยิ่งกว่านั้นเราไม่สามารถถอนเงินออกใช้ได้จนกว่าจะถึงอายุเกษียณ rmf จึงเป็นการลงทุนที่ทำให้ผู้ลงทุนมีเงินพร้อมใช้ในวัยเกษียณอย่างแท้จริง

29
มั่นใจว่าคนไทยส่วนใหญ่มี บัญชีเงินฝาก ทั่วไปอย่างน้อยคนละ 1 บัญชี ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในวิธีเก็บเงินการเก็บรักษาเงินให้ปลอดภัย และยังเพิ่มความสะดวกสบายในการรับ-โอนเงินอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามนอกจากบัญชีธนาคารที่ใช้กันอยู่เป็นประจำแล้วยังมีบัญชีอีกประเภทที่คนชอบเก็บเงินไม่ควรพลาด นั่นคือบัญชีเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง แต่จะมีข้อดีอย่างไรบ้างนั้นวันนี้เรามีคำตอบมาฝาก

อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า
ข้อดีแรกของบัญชีฝากประจำคือได้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งผู้ฝากจะได้รับ ดอกเบี้ยเงินฝากดอกเบี้ยสูง เมื่อออมเงินครบตามจำนวนเดือนที่ธนาคารกำหนด โดยจะอยู่ที่ระยะเวลา 3, 6, 12, 24, 36, 48 และ 60 เดือน ส่วนอัตราดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงที่จะรับนั้นไม่เท่ากันและขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร แต่ส่วนใหญ่แล้วยิ่งฝากนานก็จะยิ่งได้ดอกเบี้ยสูง

มีความเสี่ยงน้อย
การฝากประจำกับธนาคารถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพราะได้รับผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ๆ อย่างการเล่นหุ้น กองทุน ตราสารหนี้แล้วถือว่าเป็นการลงทุนมีความเสี่ยงต่ำ ทั้งเป็นบัญชีที่รับ วงเงินคุ้มครองเงินฝาก จาก พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝากในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท  อาจกล่าวได้ว่าแค่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคารก็จะได้รับเงินก้อนใหญ่ของตัวเองและดอกเบี้ยอย่างแน่นอน

เป็นแหล่งเงินสำรองในอนาคต
หากใครที่ต้องการเก็บเงินก้อนไว้ใช้ทำตามแพลนในอนาคต การฝากเงินกับบัญชีเงินฝากประจำถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้หลายคนถึงเป้าหมาย เพราะเมื่อครบกำหนดเวลาที่ทางธนาคารกำหนดเจ้าของบัญชีจะได้เงินก้อนพร้อมดอกเบี้ย ส่วนถ้าใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนก็ยังสามารถถอนเงินออกมาใช้ก่อนได้โดยไม่เสียเครดิต แต่อาจมีผลต่อจำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับ

ได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
โดยปกติแล้วหลังจากเปิดบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปธนาคารก็มักจะมีของแถมเป็นของสมนาคุณให้กับผู้เปิดบัญชีเพื่อเป็นของขวัญที่มาใช้บริการ แต่ถ้าเปิดบัญชีเงินฝากประจำนอกจากจะได้ของสมนาคุณแล้ว ธนาคารยังเพิ่มสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างสิทธิยกเว้นภาษีจากดอกเบี้ยในกรณีเลือกบัญชี เงินฝากปลอดภาษี สิทธิความคุ้มครองอุบัติเหตุฟรี หรือสิทธิในการนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อกับธนาคาร

ฝึกฝนนิสัยการออมเงิน
การฝากเงินกับบัญชีฝากประจำจะช่วยฝึกฝนนิสัยการออมเงิน เนื่องจากเจ้าของบัญชีจะต้องนำเงินเข้าบัญชีทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำหรือมากกว่าตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเงื่อนไขขาดส่งได้ไม่เกิน 2 ครั้ง  ห้ามถอนหรือปิดบัญชีก่อน 3 เดือน ดังนั้นจึงเป็นการช่วยฝึกวินัยในการออมเงินไปในตัวได้
   
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 5 ข้อดีของ บัญชีเงินฝาก คํานวณดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ประจำดอกเบี้ยสูงที่เรานำมาฝากในวันนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นรูปแบบของบัญชีที่มีประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องการเก็บเงิน ดังนั้นหากกำลังมีแผนใช้เงินก้อนใหญ่และไม่อยากเสี่ยงกับการลงทุนแบบอื่น ๆ รับประกันเลยว่าการฝากเงินกับบัญชีฝากประจำตอบโจทย์และเป็นสิ่งที่ตามหาอยู่แน่นอน

30
เชื่อว่าทุกๆ คนอยากให้เงินของเรางอกเงยหากมีโอกาสได้ แต่ถ้าเราเป็น มือใหม่ควรลงทุนอะไรดี ขั้นตอนการวางแผนทางการเงินที่ไม่เสี่ยง หรือมีความเสี่ยงน้อย  วันนี้เรามีไอเดียการลงทุนมาแนะนำกัน

ปล่อยทรัพย์สินให้คนอื่นเช่า
หากเรามีอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินที่ให้เช่าได้ ลองเริ่มจากการปล่อยทรัพย์สินที่เรามีให้คนอื่นเช่า เป็นการลงทุนในรูปแบบของทรัพย์สิน แทนการลงทุนด้วยเงิน บางคนมีสิ่งของที่ตัวเองไม่ได้ใช้ หรือปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ ลองมองหาสิ่งเหล่านั้นมาเปลี่ยนเป็นการลงทุนแล้วคิดค่าเช่า เช่น พื้นที่หน้าบ้านปล่อยให้ร้านค้าเช่าเปิดร้าน ลานจอดรถหน้าบ้านที่ว่างก็แบ่งให้คนเช่าที่จอดเก็บค่าเช่ารายเดือน หรือแม้แต่เครื่องเล่นเกม หรือรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ก็สามารถให้ผู้อื่นเช่าได้

การลงทุนกับทองคำ
การลงทุนทองก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันเราสามารถลงทุนกับทองคำด้วยวิธีการ “ออมทอง” โดยเริ่มจากการซื้อทองมาสะสมด้วยเงินทุนที่เก็บได้ ซึ่งการออมทองมีทั้งแบบออนไลน์ และออมกับร้านขายทองคำ หากเป็นการออมทองก้อนใหญ่ ก็เหมือนเราไปผ่อนทองกับทางร้านทอง ผ่อนครบตามตามข้อตกลงก็รับทองไป สะสมทีละเล็กทีละน้อย แต่ถ้าใครชอบเป็นทองรูปพรรณก็ทยอยซื้อชิ้นเล็กตามที่เราไหว เมื่อราคาทองขึ้นก็เก็งกำไรจากทองที่สะสมได้ แต่ก็ยังคงต้องศึกษาความเคลื่อนไหวของทองอยู่เสมอ
ลงทุนกับหุ้น
สำหรับ มือใหม่ควรลงทุนอะไรดี อาจจะสงสัยว่า จะลงทุนกับหุ้นได้อย่างไร ความเสี่ยงเยอะกว่าการลงทุนแบบอื่นเสียด้วยซ้ำไป หากศึกษาดี ๆ จะมีวิธีการลงทุนผ่านหุ้นในรูปแบบของ DCA ในกลุ่ม SET 50 หรือ SET 100 กล่าวแบบเข้าใจง่ายคือการลงทุนกับหุ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำและลงทุนแบบระยะยาว ด้วยเงินจำนวนเท่ากัน เหมือนการฝากประจำ แม้ว่าจะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง แต่ก็มีความเสี่ยงน้อย เพราะการลงทุนผ่านหุ้นรูปแบบ DCA นี้จะเป็นการถัวเฉลี่ยของต้นทุนที่เราลงไปแต่ละครั้ง โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง เมื่อระยะเวลาผ่านไป มูลค่าหุ้นก็มีโอกาสเพิ่มขึ้น ได้ทั้งผลตอบแทนที่เป็นเงินปันผลและส่วนต่างของราคาหุ้นหากขายออกไป
ลงทุนกองทุนรวม
อีกหนึ่งการลงทุนที่เสี่ยงน้อย การลงทุนกองทุนรวมเป็นวิธีการลงทุนผ่านการซื้อกองทุน มีผู้บริหารกองทุนเป็นคนจัดการแทนเราผู้เป็นเจ้าของเงิน ว่าจะเอาเงินที่เราออม ไปจัดสรรซื้อกองทุนใด จำนวนเท่าไหร่ ภายใต้เงื่อนไขของกองทุนรวมนั้น ๆ แต่ละกองมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป บางกองปลอดภาษี บางกองมีเงินปันผล ซึ่งผลตอบแทนก็แตกต่างกัน ตัวเราเองควรศึกษารายละเอียดของกองทุนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับก็ถือว่าช่วยให้เงินต้นงอกเงยได้ 2-3% ต่อปี ซึ่งมากกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์หลายเท่า  ดูข้อมูลผลตอบแทนกองทุนรวมเลย https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1290


   ขั้นตอนการวางแผนทางการเงิน กรุงไทย ยังมีอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาล กรุงไทย หรือการเทรดแบบอื่นๆ หากเราไม่ศึกษาให้รู้ลึกรู้จริง โอกาสที่จะช่วยให้เงินงอกเงยก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เงินออมที่เรามีหายวับไปกับตาได้เช่นกัน ดังนั้น ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ต้องศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติของการลงทุนนั้น ๆ ให้ละเอียด อย่าเพียงฟังจากคนอื่นแล้วลงทุนตามเขา เพราะแต่ละคนก็มีนิสัยการลงทุน โอกาส และข้อจำกัดแตกต่างกันไป สามารถศึกษาข้อมูลการลงทุนในกองทุนรวม ได้เพิ่มเติมที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1242

31
ผู้ที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศควรทำความรู้จัก บัตรเดบิต ท่องเที่ยว หรือ Travel Card ว่าคืออะไร และช่วยอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางได้อย่างไรบ้าง บัตรท่องเที่ยวคือสามารถใช้รูดจ่ายเงินได้เหมือนบัตรเครดิต หรือเป็น บัตร atm บัตรประเภทเติมเงิน กดเงินสดจากตู้ ATM ที่ต่างประเทศได้ มาดูข้อดีของบัตรเดบิตท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณเข้าใจการใช้งานบัตรนี้ง่ายขึ้น
   1.ท่องเที่ยวสะดวกและปลอดภัย
   ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ โดยปกติจำเป็นต้องแลกเงินสกุลของประเทศนั้นไว้ล่วงหน้า แต่หลายคนอาจติดขัดปัญหาเกี่ยวกับการแลกเงินหรือกังวลเรื่องความเสี่ยงเนื่องจากไม่ต้องการพกเงินสดจำนวนมากติดตัวไว้ระหว่างเดินทาง การใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต travel card พกบัตรใบเดียวรูดจ่ายได้สะดวก เมื่อบัตรสูตรหายหรือถูกขโมย สามารถยกเลิกการใช้บัตรผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที ไม่มีบัตรเครดิตก็ไม่เป็นปัญหา สามารถกดเงินสดจากตู้ ATM ในต่างประเทศก็ได้ ใช้จ่ายง่ายๆ ผ่านบัตรใบเดียวเท่านั้น
   2.ใช้จ่ายประหยัดเงินยิ่งขึ้น
บัตรเดบิต ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นระบบการเติมเงินหรือแลกเงินผ่านแอปที่ใช้สะดวกมาก เมื่อนำบัตรท่องเที่ยวไปใช้ต่างประเทศได้อัตราแลกเปลี่ยนถูกเทียบเท่าร้านแลกเงินชั้นนำ ไม่ต้องไปหาแลกเงินสดกับธนาคารในประเทศไทยที่มีเรทสูงมาก ไม่ต้องจ่ายมีค่าธรรมเนียมความเสี่ยงในการแปลงสกุลเงินต่างประเทศในอัตราถึง 2.5% อีกด้วย
3.ใช้ได้ทั่วโลกทุกสกุลเงิน Travel Card ของแต่ละธนาคารมีเงื่อนไขการใช้งานแตกต่างกัน เช่น
-Krungthai Travel Card บัตรเติมเงินเข้าไปก่อนใช้งาน ต้องแลกเงินเก็บไว้ในบัตรเท่านั้น โดยสกุลเงินที่แลกเก็บได้มี 19 สกุลเงิน
-PLANET SCB แลกเก็บไว้ในบัตรหรือรูดจ่ายได้เลย โดยสกุลเงินที่แลกเก็บได้มี 13 สกุลเงิน
-YouTrip powered by KBANK แลกเงินล่วงเก็บไว้ในบัตรได้ 10 สกุลเงิน หรือรูดจ่ายได้เลยเหมือนกับบัตรเครดิต
-TMB All free บัตรเดบิตที่รูดใช้จ่ายได้เลย ไม่ต้องแลกเงินก่อน
ทุกบัตรแลกเปลี่ยนได้ทุกสกุล ยกเว้น Krungthai Travel Card ที่รองรับการใช้งานเฉพาะ 19 สกุลเงินในบัตรและใช้จ่ายในไทยไม่ได้ ทั้งยังเป็นบัตรเดียวที่ต้องเติมเงินและจ่ายแบบเดบิต โดยที่รูดจ่ายแบบบัตรเครดิตไม่ได้
เลือกบัตรใบไหนคุ้มค่าที่สุด
พูดถึงความคุ้มค่าแล้ว หลายคนมองเห็นข้อดีและเลือกใช้บัตร Krungthai Travel Card จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งเปิดตัวบัตรท่องเที่ยวออกมาเป็นเจ้าแรก รองรับการใช้จ่ายในร้านค้าที่รับบัตรVisa จุดเด่นหลักๆ คือไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% รองรับสกุลเงินหลักๆ ที่ใช้กันมาก 19 สกุลเงิน บัตรของกรุงไทยเป็นบัตรเติมเงินที่แลกเก็บไว้ในบัตรได้สูงถึง 5 ล้านบาท ใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT สามารถกดเบิกเงินสดตู้ ATM ได้เหมือนกับ บัตร atm มาพร้อมประกันการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ บัตรเดบิตประกัน ได้รับการคุ้มครองวงเงินสูงสุด 6 ล้านบาท
ด้วยการจัดการผ่านแอปที่สะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าธรรมเนียมทำให้กระแสของบัตร Travel Card มาแรงมาก เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ไม่มีบัตรเครดิต ผู้สนใจ สมัครบัตรเดบิต จะต้องมีบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวันกับธนาคารเสียก่อน สามารถสมัคร Travel Card ผ่านแอปพลิเคชันของแต่ละธนาคารได้เลย

32
   ก่อนหน้านี้การโอนเงินอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกสบายมากนัก แต่ปัจจุบันนี้การโอนเงินข้ามธนาคาร สามารถทำได้ง่ายๆ ในไม่กี่นาที ซึ่งใครจะเลือกใช้วิธีการโอนเงินแบบไหนขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกของแต่ละบุคคล โดย วิธีการโอนเงิน ต่างธนาคารในปัจจุบันนั้นสามารถทำได้หลายช่องทาง ดังนี้

สาขาธนาคาร สามารถโอนเงินได้โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากในเวลาทำการของธนาคาร
เครื่อง ATM มีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
Internet Banking มีให้บริการ 24 ชั่วโมงผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ Laptop
Mobile Banking มีให้บริการ 24 ชั่วโมงผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ Tablet

ตัวอย่างค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างธนาคาร กรุงไทย และธนาคารอื่นๆ
   
ธนาคาร
สาขาธนาคาร
ATM
Internet Banking
Mobile Banking
ไทยพาณิชย์
50–120 บาท
25–35 บาท
ไม่มีค่าธรรมเนียม
ไม่มีค่าธรรมเนียม
กสิกรไทย
50–120 บาท
25–35 บาท
ไม่มีค่าธรรมเนียม
ไม่มีค่าธรรมเนียม
กรุงไทย
50–120 บาท
25–35 บาท
5 บาท
ไม่มีค่าธรรมเนียม
ออมสิน
50–120 บาท
25–35 บาท
ไม่มีค่าธรรมเนียม
ไม่มีค่าธรรมเนียม


นอกจากนี้ยังมีข้อดีของการโอนเงินผ่านแอปธนาคาร

ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเข้าแถวรอรับบริการ ใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่มีค่าธรรมเนียม
สามารถตั้งเวลาทำรายการ คุณสามารถตั้งเวลาการ โอนเงินเข้าบัญชี ได้ล่วงหน้าแบบครั้งเดียวหรือต่อเนื่องได้ ไม่ต้องมาทำรายการใหม่ทุกครั้ง (ขึ้นอยู่กับธนาคารที่ให้บริการ)
สามารถเลือกบันทึกผู้รับโอนเป็นรายการโปรด ทำให้การโอนเงินครั้งต่อไป ไม่ต้องใส่เลขที่บัญชีหรือหมายเลขพร้อมเพย์ (ขึ้นอยู่กับธนาคารที่ให้บริการ)
บันทึกการทำรายการเป็น E-Slip และจัดเก็บไว้ในโทรศัพท์อัตโนมัติ

   ขั้นตอนการโอนเงินผ่านแอป ดูการโอนเงิน เลย https://krungthai.com/th/personal/cash-management/payment-transfer

เลือกเมนู ‘โอนเงิน’ เลือกบัญชีที่ต้องการโอนออก เลือกธนาคารหรือพร้อมเพย์ของผู้รับโอน หรือเลือกผู้รับโอนเงินจากรายการโปรด (กรณีตั้งรายการโปรด)
ใส่เลขที่บัญชีหรือหมายเลขพร้อมเพย์ของผู้รับโอน และใส่ยอดเงินที่ต้องการโอน กรณีที่เลือกจากรายการโปรด ข้อมูลการโอนครั้งล่าสุดจะแสดงขึ้นมา คุณสามารถเปลี่ยนยอดเงินได้ตามที่ต้องการ จากนั้นกด ‘ตรวจสอบข้อมูล’
ตรวจสอบความถูกต้องของชื่อผู้รับโอน (ชื่อตามบัญชี) เลขที่บัญชี หรือหมายเลขพร้อมเพย์ จำนวนเงิน และค่าธรรมเนียม และกด ‘ยืนยัน’

นอกจากการโอนเงินผ่านแอปแล้ว Mobile Banking ยังมีบริการ จ่ายบิลผ่านแอป และกดเงินไม่ใช้บัตรที่ทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่มีค่าธรรมเนียม

การจ่ายบิลผ่านแอป

ขั้นตอนการ จ่ายบิลผ่านแอป มีง่าย ๆ ดังนี้
เลือกเมนู ‘จ่ายบิล’ เลือกผู้ให้บริการ หรือเลือก SCAN บาร์โค้ด หรือคิวอาร์โค้ดบนใบแจ้งหนี้
ใส่หมายเลขบริการ และจำนวนเงิน กรณีที่คุณ SCAN จะมีรายละเอียดของผู้ให้บริการและหมายเลขบริการใส่มาให้เลย กด ‘ตรวจสอบข้อมูล’ และกด ‘ยืนยัน’
กรณีที่ธนาคารมีบริการตั้งเวลาทำรายการไว้ล่วงหน้า คุณสามารถกำหนดวันชำระเงินได้ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ได้รับบิล ไม่จำเป็นต้องรอวันที่กำหนดแล้วค่อยทำรายการ ช่วยให้คุณไม่ลืมชำระเงิน หรือไม่จำเป็นต้องชำระเงินก่อนถึงกำหนด

กดเงินไม่ใช้บัตร

ขั้นตอนการกดเงินไม่ใช้บัตร มีดังนี้
เลือกเมนู ‘กดเงินไม่ใช้บัตร’ ใส่จำนวนเงินที่ต้องการถอน แล้วกด ‘ยืนยัน’
นำรหัสที่คุณได้ ไปกดเงินที่เครื่อง ATM
เลือกเมนู ‘กดเงินไม่ใช้บัตร’ ใส่หมายเลขโทรศัพท์ และรหัสกดเงิน แล้วกด ‘ยืนยัน’
รับเงินจากเครื่อง ATM

นอกจากนี้เรายังสามารถจ่ายบิล กรุงไทย และทำธุรกรรมอื่นๆ ได้อีกเพียบเลยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และมีค่าใช้จ่ายน้อยลง  สามารถดูขั้นตอนการชำระค่าไฟ ได้ที่ https://krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/809

33
ต้องยอมรับว่าการเปิดบัญชีเงินฝาก กับธนาคารนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าในอดีตมาก เพราะนอกจากธนาคารแต่ละแห่งจะมีสาขาให้ลูกค้าได้เลือกเดินเข้าไปใช้บริการมากมายแล้ว ปัจจุบันยังสะดวกยิ่งขึ้นเพราะสามารถเปิดบัญชีผ่านช่องทางแอปพลิเคชันของธนาคาร ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะมีบัญชีกับธนาคารมากกว่า 1 แห่ง แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะตัดสินใจ ฝากเงิน แบบฝากประจำกับธนาคารไหนควรพิจารณา อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ก่อนเป็นอันดับแรกเนื่องจากเป็นผลประโยชน์ที่ผู้ฝากเงินต้องได้รับ แต่ตอนนี้มีธนาคารไหนให้อัตราดอกเบี้ยน่าสนใจบ้างนั้นมาดูกันเลย

บัญชีเงินฝากปลอดภาษี Tax Free Account จากธนาคารไทยเครดิต
สำหรับบัญชีเงินฝากประจำแบบแรกที่ไม่อยากให้คนอยากได้ ดอกเบี้ยฝากประจำ พลาดคือ บัญชีเงินฝากปลอดภาษี Tax Free Account จากธนาคารไทยเครดิต โดยกำหนดการฝากขั้นต่ำเพียงเดือนละ 1,000 บาท หากระยะการฝาก 24 เดือน สามารถฝากได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 1.90%  ส่วนระยะการฝาก 36 เดือน ฝากได้สูงสุดไม่เกิน 16,500 บาท อัตราดอกเบี้ย 2.00%

บัญชีเงินฝากประจำ Krungthai ZERO TAX MAX จากธนาคารกรุงไทย
มาต่อกันด้วยบัญชีเงินฝากประจำ Krungthai ZERO TAX MAX จากธนาคารกรุงไทย เป็นบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว โดยอ้างอิงจากเงินฝากประจำระยะเวลา 24 เดือน (บุคคลธรรมดา) วงเงินต่ำสุด บวกเพิ่มด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 แผนดังนี้
แผน 24 เดือน จำนวนเงินเปิดบัญชี 1,000 – 25,000 บาท อ้างอิงเงินฝากประจำ 24 เดือน  วงเงินต่ำสุด +0.75% ต่อปี
แผน 36 เดือน จำนวนเงินเปิดบัญชี 1,000 – 16,500 บาท อ้างอิงเงินฝากประจำ 24 เดือน  วงเงินต่ำสุด +1.00% ต่อปี
แผน 48 เดือน จำนวนเงินเปิดบัญชี 1,000 – 12,500 บาท อ้างอิงเงินฝากประจำ 24 เดือน  วงเงินต่ำสุด +1.00% ต่อปี

บัญชีเงินฝากประจำเพิ่มค่าสบายใจ Plus 24 เดือน และ 36 เดือน จากธนาคารซีไอเอ็มบี

   หากเป็นสมาชิก CIMB Preferred กับธนาคารซีไอเอ็มบีอยู่แล้ว แนะนำให้เปิดบัญชีเงินฝากประจำเพิ่มค่าสบายใจ Plus 24 เดือน และ 36 เดือน เพราะนอกจากจะได้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1.60% ตลอดระยะเวลาฝากแล้วยังได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลฟรีตลอดระยะเวลาการฝากเงิน และยังไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนอีกด้วย สำหรับการ ฝากเงิน เริ่มต้นที่ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 ต่อเดือน เปิดบัญชีได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 65 ปีบริบูรณ์

บัญชีเงินฝากยูโอบี ปลอดภาษี ทวีสิน จากธนาคารยูโอบี
   หากใครที่อยากจะออมเงินยาวพร้อมได้ดอกเบี้ยสูง มั่นใจว่าบัญชีเงินฝากยูโอบี ปลอดภาษี ทวีสิน จากธนาคารยูโอบีเป็นบัญชีที่กำลังมองหา เพราะสามารถเลือกระยะเวลาฝากเงินได้ตั้งแต่ 24, 36, 48 และ 60 เดือน นอกจากนั้นยังได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุทั่วโลกตลอดระยะการฝาก วงเงินสูงสุด 2 เท่าของวงเงิน สูงสุดไม่เกิน 1,180,000 บาทต่อบัญชี สำหรับเงินฝากดอกเบี้ยสูงอยู่ที่ 1.50%

บัญชีฝากประจำ
โบนัส จากธนาคารไทยพาณิชย์

   ปิดท้ายกันด้วยบัญชีเงินฝากโบนัส จากธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีเงินฝากประจำแบบไม่มีสมุดคู่ฝาก ระยะฝากแบบ 24 และ 36 เดือน อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1.35% - 1.60% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารในแต่ละช่วงเวลาด้วย สำหรับบัญชีเงินฝากโบนัสสามารถเปิดบัญชีง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY โดยเปิดบัญชีขั้นต่ำที่ 500 บาท ฝากครั้งต่อมาเพิ่มขั้นละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 16,500 บาท

จะเห็นได้ว่าทั้ง 5 บัญชีเงินฝาก เป็นบัญชีเงินฝากประจำที่น่าสนใจ ซึ่งบอกเลยว่านอกจากจะได้รับดอกเบี้ยสูงแล้วยังได้รับการยกเว้นภาษีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากด้วย อย่างไรก็ตามการออมเงินกับเปิดบัญชีเงินฝากประจําควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจ เพราะหากผิดเงื่อนไข ถอนเงินก่อนกำหนด หรือขาดส่งติดต่อกันจะไม่ได้รับดอกเบี้ยอย่างที่ตั้งใจ


34

หากพูดถึง บัตรเดบิต เชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จัก เพราะนอกจากนำไปใช้กดเงินสดได้แล้วยังสามารถรูดซื้อสินค้าและบริการได้อีกด้วย แต่สำหรับใครที่เป็นนักเดินทางแล้วการพกบัตรเดบิตธรรมดา ๆ อาจไม่ตอบโจทย์เท่าใดนัก เพราะในปัจจุบันนี้มี travel card ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรักการท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะ มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายที่คนชอบเที่ยวควรพกติดกระเป๋า

บัตรเดบิต ท่องเที่ยวคืออะไร
บัตรท่องเที่ยว หรือที่หลายคนนิยมเรียกว่า travel card คือเดบิตการ์ดประเภทหนึ่งที่นอกจากใช้รูดซื้อสินค้าและกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้แล้วยังสามารถใช้แลกสกุลเงินต่างประเทศได้อีกด้วย โดยจุดเด่นของบัตรประเภทนี้คือสามารถแลกสกุลเงินได้ในเรทพิเศษ รูดซื้อสินค้าและบริการได้โดยปราศจากค่าความเสี่ยง ซึ่งค่าความเสี่ยงที่เรียกเก็บนั้นก็เพราะค่าเงินมีการผันผวนตลอดเวลา นั่นทำให้การใช้บัตรเครดิตต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตามไปด้วย นอกจากนี้บัตรท่องเที่ยวยังมีข้อดีคือมาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายจากสถาบันการเงิน เช่น ฟรีประกันเดินทาง หรือรับส่วนลดในการซื้อสินค้าหมวดท่องเที่ยว เป็นต้น

เปรียบเทียบจุดเด่น บัตร atm ท่องเที่ยวจาก 3 ธนาคาร บัตรไหนมีดีอย่างไร
เพราะหลายสถาบันการเงินต่างออกผลิตภัณฑ์บัตร Travel Card เพื่อเอาใจคนรักการเดินทาง เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่าสมัครบัตรไหนถึงจะได้สิทธิพิเศษคุ้มค่าที่สุด เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเลือก สมัครบัตรเดบิต ท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการ
Krungthai Travel Card
นับเป็นสถาบันการเงินเจ้าแรกที่ออก บัตร atm ท่องเที่ยวมาเพื่อนักเดินทางโดยเฉพาะ จุดเด่นของบัตรนี้คือแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้มากถึง 17 สกุลเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม สะดวกสบายเพราะสามารถแลกเงินและเปิด-ปิดการใช้บัตรได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน ที่สำคัญยังใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ในต่างประเทศได้อีกด้วย
TMB All Free
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับนักเดินทาง สำหรับบัตร All Free มีจุดเด่นคือไม่ต้องแลกเงินก่อนแต่สามารถรูดซื้อสินค้าได้ทั่วโลกในอัตราสุดพิเศษ มาพร้อมสิทธิพิเศษด้านประกันเดินทาง หากบัตรหายธนาคารจะออกบัตรใหม่ให้ฟรี และนอกจากใช้งานต่างประเทศได้แล้วยังใช้เบิก-ถอนเงินในประเทศไทยได้อีกด้วย
You Trip Powered by K-Bank
ตัวเลือกดี ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแบกรับค่าธรรมเนียม เพราะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ สามารถใช้ซื้อสินค้าได้ทุกสกุลเงินแม้เป็นสกุลเงินที่ไม่สามารถแลกได้ แต่ใครที่ใช้บัตรนี้ต้องเติมเงินเข้าบัตรก่อนจึงสามารถรูดซื้อสินค้าและบริการได้

ใครรู้ตัวว่าเป็นคนชอบเดินทางโดยเฉพาะเดินทางไปต่างประเทศ แนะนำให้สมัครบัตรท่องเที่ยวเอาไว้ เพราะปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินสด แต่ยังรูดซื้อสินค้าและบริการได้อย่างสะดวก ที่สำคัญยังแลกเงินได้หลายสกุลเงินด้วยอัตราแลกเงินสุดคุ้ม ทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้แบบเห็น ๆ นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ บัตรเดบิตประกัน บัตรประเภทเติมเงินที่นอกจากใช้ซื้อสินค้าได้แล้วยังพ่วงด้วยประกันการเดินทางที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณอุ่นใจยิ่งกว่าเดิม

35
หากพูดถึงสินทรัพย์ที่มีมูลค่า ทองคำ น่าจะเป็นสิ่งที่เข้ามาในหัวของเราเป็นอันดับต้นๆ  และยังเพิ่มมูลค่าขึ้นตามเวลา หาซื้อง่าย และเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย ทองคำจึงเป็นทรัพย์สินที่คนนิยมซื้อสะสมไว้ทั้งเพื่อการออมและการลงทุน

   ปัจจุบันการ ลงทุนกับทอง มีหลากหลายรูปแบบ ไม่จำกัดแค่เพียงการซื้อขายทองคำจากร้านทองเท่านั้น แต่จะมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง เราสรุปมาแล้ว

   1. ซื้อทองคำแท่ง
   การซื้อทองมาเก็บไว้และนำออกขายเมื่อทองมีราคาสูงขึ้น เป็นวิธีดั้งเดิมในการ ลงทุนทอง ทองคำแท่งมีข้อดีคือมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าทองรูปพรรณ
ข้อดี คือ สะดวกในการซื้อและขาย เห็นทองคำจริง ตรวจสอบได้
ข้อเสีย คือ การที่ต้องเก็บรักษาทองคำไว้เอง ซึ่งกรณีสูญหายก็ติดตามได้ยากเนื่องจากทองคำมีลักษณะที่เหมือน ๆ กัน นอกจากนี้การขายจะคำนวณเพียงน้ำหนักทองไม่มีการบวกค่าธรรมเนียมให้ และต้องไปร้านทองเพื่อซื้อหรือขายทอง

2. การซื้อทองคำรูปพรรณ
   อีกหนึ่งวิธีดั้งเดิมในการลงทุนกับทอง ถึงแม้ทองรูปพรรณจะมีค่ากำเหน็จที่สูงกว่าค่าบล็อกของทองคำแท่ง แต่หลายคนก็เลือกที่จะสะสมเป็นทองรูปพรรณแทน เนื่องจากสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกายได้
ข้อดี คือ ได้สัมผัสกับทองคำจริง หาซื้อง่าย และขายออกได้ง่ายด้วย นำมาใช้งานได้ ไม่ได้แค่ซื้อมาเก็บไว้รอขาย
ข้อเสีย คือ การที่ต้องเก็บรักษาทองไว้เอง มีความเสี่ยงต่อการสูญหายระหว่างการสวมใส่หรือนำมาขายที่ร้านทอง ทองรูปพรรณที่นำมาใช้งานอาจมีน้ำหนักหายเนื่องจากการสึกหรอ

   
3. การ เทรดทองคำ ออนไลน์
   การเทรดทองหมายถึงการซื้อขายทองผ่านช่องทางออนไลน์ที่ซื้อขายตามราคาตลาด ณ เวลาที่ซื้อหรือขาย ซึ่งปัจจุบันสามารถซื้อขายผ่านแอปเป๋าตังค์ได้แล้ว ซึ่งเป็นช่องทางที่น่าเชื่อถือ ทำให้สามารถเทรดทองด้วยความสบายใจมากยิ่งขึ้น
   เมื่อซื้อทองคำผ่านแอปเป๋าตังค์ ทองคำจะถูกเก็บไว้ใน Gold Wallet ซึ่งสามารถตรวจสอบน้ำหนักและราคาได้ตลอดเวลา สามารถซื้อขายขั้นต่ำที่น้ำหนัก 0.1 ออนซ์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีลงทุนมากเหมือนการซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณกับร้านทอง
   การ เทรดทองคำ ออนไลน์ผ่านแอปเป๋าตังค์เป็นการซื้อขายทองคำแท่ง 99.99% ที่เลือกรับเป็นทองคำก็ได้
ข้อดี คือ ไม่มีค่าธรรมเนียม ใช้เงินทุนไม่มาก ทยอยซื้อได้ ไม่ต้องเก็บทองไว้กับตัว สามารถซื้อขายโดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านทอง
ข้อเสีย ซื้อขายเป็นเงินดอลล่าร์ ซึ่งมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

4. ออมทองผ่านผู้ให้บริการ
   การออมทอง เป็นการสะสมเงินกับผู้ให้บริการเพื่อแลกเป็นทองคำ หรือถอนเป็นเงินสดตามมูลค่าทอง ณ วันที่ขายจริง การสะสมเงินจะเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ให้บริการ และการซื้อขายจะทำผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้ให้บริการ
ข้อดี คือ เงินลงทุนต่ำ ไม่ต้องเก็บรักษาทอง และไม่ต้องเดินทางเพื่อซื้อหรือขาย
ข้อเสีย คือ ความน่าเชื่อของผู้ให้บริการ และมีความเสี่ยงจากการที่ผู้ให้บริการเลิกกิจการ

   สำหรับใครที่เริ่มสนใจการ ลงทุนทอง แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับแต่ละบุคคล  สามารถดูข้อมูลการเทรดทองคำได้ที่   https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1169

36
ในยุคที่คนไทยจำนวนมากนิยมหาโอกาสท่องเที่ยวต่างประเทศ นั่นจึงทำให้หลายสถาบันการเงินออกผลิตภัณฑ์ travel card เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทาง และสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักบัตรประเภทนี้ ลองมาทำความรู้จักกันว่าคืออะไร พร้อมเปรียบเทียบความน่าสนใจของทั้ง 5 บัตร ที่เชื่อว่าจะต้องตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

Travel Card คืออะไร
สำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยวอาจจะเคยได้ยินชื่อ บัตรเดบิต ท่องเที่ยวกันอยู่แล้ว เพราะบัตรนี้ทำหน้าที่เหมือนเพื่อนรู้ใจนักเดินทาง จุดเด่นคือใช้แลกเงินต่างประเทศได้ด้วยอัตราสุดพิเศษ รวมถึงยังรูดซื้อสินค้าและบริการในต่างประเทศโดยไม่ต้องแบกรับค่าความเสี่ยงอันเกิดจากความผันผวนของสกุลเงิน นั่นทำให้ไม่ต้องพกเงินสดไปต่างประเทศเยอะ ๆ แถมยังได้สิทธิพิเศษมากมายจากการถือบัตรอีกด้วย

เปรียบเทียบบัตร 5 ใบ ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนชอบเที่ยว
 KRUNGTHAI TRAVEL CARD
ธนาคารแห่งแรกที่ให้ สมัครบัตรเดบิต ท่องเที่ยว จุดเด่นคือไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี เมื่อเติมเงินแล้วสามารถแลกเงินเก็บไว้ได้ ล็อกเรทได้เมื่อได้เรทสกุลเงินที่ถูกใจ รองรับได้มากถึง 17 สกุลเงิน และหากไม่เดินทางไปต่างประเทศยังสามารถใช้รูดซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ได้ในเรทเงินสุดพิเศษอีกด้วย

PLANET SCB
อีกหนึ่งตัวเลือก บัตร atm ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี สมัครง่ายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เริ่มต้นใช้งานด้วยการเติมเงินเข้าบัตรจากนั้นจึงใช้รูดซื้อสินค้าและบริการ ล็อกเรทที่ต้องการได้ และสามารถแลกเงินได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก

YOUTRIP POWERED BY K-BANK
บัตรเดบิต ที่ออกแบบมาให้ปราศจากค่าธรรมเนียม ใช้งานง่ายเพียงเติมเงินเข้าบัตรจากนั้นใช้แลกเงินต่างประเทศได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก เมื่อมีแผนเดินทางไปประเทศใดสามารถแลกเงินเก็บไว้ได้เพื่อให้ได้เรทราคาดีที่สุด

K-BANK JOURNEY
อีกหนึ่งประเภทบัตรจากธนาคารกสิกรไทย ข้อดีคือรูดซื้อสินค้าและบริการได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องเติมเงิน สามารถเบิกถอนเงินสดในไทยได้ มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย แต่มีข้อเสียคือมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและมีค่าความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน

TMB ALL FREE
บัตร All Free ที่ให้รูดซื้อสินค้าได้ทั่วโลกอย่างสุดคุ้ม โดยไม่ต้องเติมเงินเข้าบัตร ซื้อสินค้าออนไลน์ได้อย่างมั่นใจเพราะมีประกันการซื้อสินค้า ที่สำคัญเมื่อบัตรหายธนาคารจะออกบัตรใหม่ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่มีค่าธรรมเนียมรายปีและไม่สามารถล็อกเรทสกุลเงินได้

บัตรเดบิต travel card จากแต่ละธนาคารมาพร้อมจุดเด่นและความน่าสนใจแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเลือกบัตรที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด และนอกจากการเป็นเจ้าของบัตรท่องเที่ยวที่ทำให้การแลกเงินคุ้มค่ายิ่งกว่าเคยแล้ว อย่าลืมสมัครบัตรเติมเงิน    บัตรเดบิตประกัน ติดตัวเอาไว้ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างเดินทางจะได้ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายคนเดียว เพราะมีประกันเดินทางจากบัตรเดบิตทำหน้าที่คุ้มครองยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็อุ่นใจเสมอ

37
ในยุคที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง การออมเงินด้วย บัญชีออมทรัพย์ ซึ่งให้ผลตอบแทนแสนน้อยนั้นไม่ใช่คำตอบเก็บออมเงินแบบไหนดีที่ต้องการอีกต่อไป การเลือกฝากเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

บัญชีเงินฝากประจำ เป็นลักษณะของการออมเงินระยะยาวผสมผสานกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เมื่อฝากครบตามระยะเวลาที่กำหนดจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยในอัตราสูง ถึงแม้ว่าเงินฝากประจำอาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนแบบอื่นแต่ก็สบายใจได้ว่ามีความเสี่ยงต่ำ จึงปลอดภัยกว่าเนื่องจากเงินต้นไม่ได้หายไปไหน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีเงินเก็บในอนาคต โดย อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ประจำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและระยะเวลาในการฝาก ยิ่งฝากนานผลตอบแทนยิ่งสูง ซึ่งบัญชีเงินฝากประจำมีทั้งแบบทั่วไปที่ต้องจ่ายภาษีดอกเบี้ยและเงินฝากแบบปลอดภาษี

บัญชีเงินฝากปลอดภาษีเป็นการ ฝากเงิน เข้าธนาคารจำนวนเท่ากันทุกเดือนตามระยะเวลาที่ระบุในสัญญา เช่น 12 เดือน 24 เดือน 36 เดือน หรือ 48 เดือน เมื่อครบกำหนดธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้โดยไม่มีการหักภาษี เราจึงได้รับเงินก้อนพร้อมดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากทั่วไปเป็นผลตอบแทน ซึ่งเงินฝากปลอดภาษี หรือ เงินฝากดอกเบี้ยสูง นี้มีเงื่อนไขในการใช้บริการ คือ

- หนึ่งคนมีได้เพียงหนึ่งบัญชี
- ต้อง ฝากเงิน ในจำนวนที่เท่ากันทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง จนครบตามเงื่อนไข และขาดฝากได้ไม่เกิน 2 ครั้ง
- งดเว้นการได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไขหากขาดฝากเกิน 2 ครั้ง จะไม่ได้รับดอกเบี้ยหากถอนหรือปิดบัญชีก่อน 3 เดือน และหากถอนก่อนกำหนดต้องปิดบัญชีเท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารด้วย
- จำนวนเงินนำฝากขั้นต่ำขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 1,000 - 25,000 บาท โดยจำนวนเงินฝากรวมตลอดระยะเวลาการฝากต้องไม่เกิน 600,000 บาท

เมื่อทราบเงื่อนไขในการเปิดบัญชีแล้วมาลองเช็กอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารก่อนตัดสินใจ โดยจะเปรียบเทียบเฉพาะ 5 ธนาคารที่จดทะเบียนในไทยและมีเงินฝาก วิธีเก็บเงินให้อยู่อยู่ในระบบมากที่สุด

ธนาคารกรุงเทพ      
บัญชีเงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี 24 เดือน ดอกเบี้ย 1.25%
บัญชีเงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี 36 เดือน ดอกเบี้ย 1.50%
ธนาคารออมสิน          
บัญชีเงินฝากประจำรายเดือนยกเว้นภาษี ดอกเบี้ย 1.30%   
เงื่อนไขเพิ่มเติม - เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปสามารถเปิดบัญชีได้ โดยเป็นเจ้าของบัญชีร่วมกับบิดาหรือมารดา และสามี-ภรรยาเปิดบัญชีร่วมกันได้
ธนาคารกรุงไทย    
บัญชีเงินฝากประจำ KTB Zero Tax MAX- มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว โดยคิดจาก
ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 24 เดือน (บุคคลธรรมดา) วงเงินต่ำสุด + 0.75% ต่อปี     
ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 36 เดือน (บุคคลธรรมดา) วงเงินต่ำสุด + 1.00% ต่อปี     
ธนาคารกสิกรไทย    
บัญชีเงินฝากทวีทรัพย์ 24 เดือน ดอกเบี้ย 1.25%
เงื่อนไขเพิ่มเติม  ฝากขั้นต่ำได้ที่ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท
ธนาคารไทยพาณิชย์   
บัญชีเงินฝากโบนัส 24 เดือน ไม่มีสมุดคู่ฝาก (E-Passbook) ดอกเบี้ย 1.35%
บัญชีเงินฝากโบนัส 36 เดือน ไม่มีสมุดคู่ฝาก (E-Passbook) ดอกเบี้ย 1.60%
เงื่อนไขเพิ่มเติม เปิดบัญชีและฝากขั้นต่ำ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ยอดเงินฝากต้องเป็นจำนวนเต็มหลัก 500 บาท เช่น 1,000 บาท 1,500 บาท เป็นต้น

จะเห็นได้ว่ายิ่งฝากนาน อัตราเงินฝากดอกเบี้ยสูง ก็จะยิ่งสูงมีลักษณะเป็นขั้นบันได นอกจากนี้บัญชีเงินฝากปลอดภาษียังช่วยสร้างวินัยในการออมได้ดี ไม่จำเป็นต้องมีรายได้สูงก็สามารถมีเงินเก็บได้ ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนเปิดบัญชีเงินฝาก

38
เมื่ออุบัติเหตุคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะฉะนั้นเพื่อการใช้ชีวิตอย่างอุ่นใจ การทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้จึงเป็นวิธีที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างเบาใจยิ่งขึ้น เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ยังมีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายได้ต่าง ๆ และแม้ปัจจุบันจะมีตัวเลือกประกันอุบัติเหตุจากหลายบริษัทประกันภัย แต่อีกตัวเลือกที่น่าสนใจคือ บัตรเดบิต พ่วงประกันภัยจากสถาบันการเงินที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีงบน้อย โดยบัตรประเภทนี้ถือเป็นเดบิตการ์ดประเภทหนึ่งที่นอกจากใช้รูดซื้อสินค้าได้แล้วยังพ่วงด้วยความคุ้มครองอีกด้วย

แนะจุดเด่นของ 3 บัตรเดบิตประกัน ภัย
ปัจจุบันหลายสถาบันการเงินต่างออกผลิตภัณฑ์บัตรเดบิตพ่วงประกันภัย ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือก สมัครบัตรเดบิต กับสถาบันการเงินแห่งไหนดี เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่าจะมีบัตรไหนน่าสนใจและตอบโจทย์ด้านความคุ้มครองบ้าง
บัตรกรุงไทย ช้อปสมาร์ท เพิร์ล จากธนาคารกรุงไทย (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
ชำระค่าธรรมเนียมเพียงปีละ 599 บาท แต่ได้รับความคุ้มครองแบบอุ่นใจ เพราะบัตรนี้คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าและยังเข้ารับการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลคู่สัญญาได้มากกว่า 200 แห่ง นอกจากนี้ยังมีบัตรที่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ๆ ละ 999 บาท แต่คุ้มครองทั่วโลก จ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 10,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง และยังมีเงินชดเชยรายได้ให้อีกด้วย
บัตรเอส สมาร์ท พลัส จากธนาคารไทยพาณิชย์ (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
หมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลเพราะบัตรเอส สมาร์ท พลัส จากธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมมอบความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท และยังมีวงเงินคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท แต่หากต้องการความคุ้มครองมากขึ้นแนะนำให้สมัครบัตรเอส สมาร์ทเอ็กซ์ตร้า พลัส ค่าธรรมเนียมปีละ 999 บาท คุ้มครองวงเงินสูงกว่า ทั้งยังมีเงินชดเชยรายได้ให้กรณีต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุด 30 วันต่อครั้ง
บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท ศิริราช จากธนาคารกรุงเทพ (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
ธนาคารกรุงเทพมอบความคุ้มครองแบบคุ้มค่าผ่าน บัตรเดบิตออนไลน์ บีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท ศิริราช คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุทั่วไป รวมถึงการถูกทำร้ายร่างกายครั้งละ 5,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุดถึง 200,000 บาท

สำหรับใครที่สนใจบัตรจากสถาบันการเงินใด ก่อนสมัคร บัตร atm หรือ บัตรเดบิตรวมถึง travel card ซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว  บัตรเติมเงินสด   แนะนำให้ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสิทธิพิเศษและความคุ้มครองเพื่อประกอบการตัดสินใจ นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ควรระมัดระวังคือการชำระค่าธรรมเนียมรายปี เพราะหากชำระไม่ตรงตามกำหนดอาจทำให้ความคุ้มครองหมดอายุและเสียผลประโยชน์ได้

39
เชื่อว่าหลายคนมีปัญหาเมื่อต้องจัดการกับ สินเชื่อระยะยาว สำหรับธุรกิจเพราะเป็นหนี้นานหลายปี ระหว่างเอาเงินใช้หนี้อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเงิน ส่วนข้อดีคือจะมีดอกเบี้ยจ่ายน้อยลงเมื่อระยะเวลาการผ่อนชำระนานกว่าสินเชื่อระยะสั้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สินเชื่อขยายธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน ที่ใช้เพื่อให้ธุรกิจเติบโตขึ้น เราจึงนำเทคนิคการจัดการหนี้ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจสำหรับคนที่เป็นหนี้ทั้ง 2 แบบมาฝากทุกคนกัน

จัดการหนี้ส่วนบุคคลก่อนจะจัดการหนี้ของธุรกิจในระยะยาว
หนี้ส่วนบุคคลหรือ สินเชื่อรายย่อย เป็นปัญหาอย่างหนึ่งของสังคมไทย เพราะคนไทยมีสัดส่วนหนี้สินต่อครัวเรือนสูงถึง 90% ของ GDP ทั้งประเทศ โดยสินเชื่อประเภทนี้ครอบคลุมหลายแบบ ได้แก่ หนี้บัตรเครดิต หนี้การศึกษา และสินเชื่อรายย่อยเพื่อผู้ประกอบอาชีพหรือนาโนไฟแนนซ์ ด้วยจุดเด่นของหนี้ที่ยกตัวอย่างมาคือไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันแต่อัตราดอกเบี้ยจะสูงมาก (ยกเว้นหนี้การศึกษาที่หากกู้กับ กยศ. จะมีอัตราร้อยละ 1 ต่อปี) ซึ่งหนี้ส่วนบุคคลเปรียบเสมือนชนักติดหลังที่จะทำอะไรก็ติดขัดไปหมด จึงควรจัดการเป็นอันดับแรกก่อนที่ไปจ่ายหนี้ในส่วนของธุรกิจที่กำลังทำอยู่ โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่ไม่ควรก่อให้เกิดเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อเกิดหนี้ในส่วนนี้ขึ้นแล้วทางแก้คือต้องไปเจราจากับทางธนาคารเบื้องต้นเพื่อหาทางรักษาเครดิตทางการเงินไว้

หาสภาพคล่องก่อนที่เงินจะหมด
ในการทำธุรกิจทุกครั้งจำเป็นต้องใช้เงินสดเพื่อให้ธุรกิจอยู่ต่อไปได้ แต่เมื่อขาดสภาพคล่อง
จากการเผชิญภาวะวิกฤตโควิด19 จำเป็นต้องหาเงินทุนมาหมุน ดังนั้น สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง จึงตอบโจทย์สำหรับการหาเงินเพิ่มเติม อีกทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ถือว่าต่ำกว่าสินเชื่อระยะยาว นอกจากนี้ทางเจ้าของธุรกิจควรเจรจากับลูกหนี้การค้าในการขอเวลาจ่ายเงินสดเร็วขึ้น เช่น จากเดิม 30 วัน มาเป็น 15 วัน และขอขยายเวลาการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้การค้าซึ่งจะช่วยให้สภาพคล่องยังแข็งแรงอยู่

Refinance ช่วยคุณได้
ในกรณีที่มีหนี้สินระยะยาวอย่าง เช่น บ้าน หรือขยายธุรกิจที่ต้องมีการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมจำเป็นต้องใช้เงินกู้ยืมระยะยาวเพื่อบริหารสภาพคล่อง แต่รู้หรือไม่ว่ามีน้อยคนมากที่รู้ว่าจะสามารถขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ได้ ซึ่งข้อดีของรีไฟแนนซ์คือจะรวมหนี้หลายก้อนมาเป็นหนี้ก้อนเดียว ธนาคารจะเสนออัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ หากคุณเป็นลูกหนี้ชั้นดีจะได้เงื่อนไข -1% ของ MMR และหนี้บ้านถือว่าใช้เวลาผ่อนนานที่สุดส่วนใหญ่จะใช้เวลา 30 ปีขึ้นไป เมื่อรีไฟแนนซ์จะช่วยลดดอกเบี้ยไปได้ค่อนข้างมากทำให้ผ่อนบ้านเสร็จเร็วก่อนกำหนด ส่วนในกรณีของธุรกิจ สินเชื่อต่อยอดธุรกิจ ที่ขอมาหลายธนาคาร
สามารถยุบหนี้เป็นก้อนเดียวได้เช่นกัน โดยวงเงินจะกู้ได้หลัก 10 ล้านบาท และบางธนาคารยังให้สิทธิการกู้วงเงินเบิกเกินบัญชี O/D สินเชื่อธุรกิจ od    แบบกรณีพิเศษด้วย

จะเห็นได้ว่าการบริหารหนี้ในระยะยาวสามารถทำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่ากู้หนี้ประเภทใดอยู่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องศึกษาการลดหนี้ในระยะยาวให้มากที่สุดเพื่อไม่เป็นภาระในอนาคต และในปัจจุบันหลายธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อธุรกิจ Solar Rooftop เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่คิดนวัตกรรมสิ่งแวดล้อม หากธุรกิจใดสนใจสามารถขอสินเชื่อได้ และแน่นอนว่ามีภาระดอกเบี้ยถูกมากในระยะยาว

40
ในยุคที่การทำธุรกรรมทางการเงินสามารถทำได้เพียงปลายนิ้ว การ เปิดบัญชีออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อคิวที่ธนาคารอีกต่อไป ซึ่งง่ายแสนง่ายไม่กี่ขั้นตอน เพียงแค่เรามีสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา

ขั้นตอนกาเปิดบัญชีออนไลน์ KTB
ขั้นตอนในการเปิดใช้บริการบัญชีธนาคารออนไลน์ KTB นั้น สิ่งที่เราต้องเตรียมก็คือข้อมูลบัตรประชาชนเพียงใบเดียวเท่านั้น ซึ่งขั้นตอนในการ เปิดบัญชีเงินฝากประจําออนไลน์ครั้งแรก มีดังนี้
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT สามารถโหลดได้ทั้งโทรศัพท์ระบบ Android และ IOS เมื่อโหลดแล้วก็เข้าไปในแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานในขั้นตอนต่อไป
เลือกเมนู “เปิดบัญชีออนไลน์” ที่หน้าจอแอปพลิเคชัน ซึ่งระบบจะให้อ่านรายละเอียดการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์จากนั้นกดปุ่ม “เปิดบัญชี” และทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ โดยในส่วนนี้จะต้องใส่อีเมลที่สามารถติดต่อได้และสามารถเลือกสาขาที่จะเปิดบัญชีได้เองตามความต้องการ
เตรียมบัตรประชาชนเพื่อกรอกเลขรหัสหลังบัตรลงไป ไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะเกิดการรั่วไหลเพราะแอปพลิเคชันมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความปลอดภัยสูงเชื่อถือได้
ขั้นตอนต่อมาคือขั้นตอนของการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลด้วยการสแกนใบหน้า ระบบจะถ่ายภาพใบหน้าของผู้ใช้ในกรอบที่กำหนด และทำการตรวจสอบใบหน้าจนสำเร็จว่าคือเจ้าของบัตรตัวจริง
ขั้นตอนสุดท้ายคือการกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อาชีพ วัตถุประสงค์ของการเปิดบัญชีเงินฝาก เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วกดยืนยันเพื่อทำการ ยืนยันตัวตนเปิดบัญชีออนไลน์ เพียงเท่านี้เราก็จะมีบัญชีธนาคารโดยที่ไม่ต้องไปต่อคิวที่ธนาคารให้เสียเวลา

ข้อดีของการเปิดบัญชี เงินฝากออนไลน์
สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะไม่ต้องเดินทางไปที่ธนาคารก็สามารถเปิดบัญชีได้ทันทีที่ต้องการ
ปลอดภัยด้วยระบบการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) โดยระบบจะทำการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าที่มีความปลอดภัยสูง และที่สำคัญหากเคยยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลสำเร็จไปแล้วหนึ่งครั้งจะสามารถใช้ข้อมูล NDID ในการเปิดบัญชีครั้งต่อไปเพิ่มเติมได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการยืนยันตัวตนใหม่ และยังใช้ข้อมูลส่วนนี้ในการสมัครหรือใช้บริการต่าง ๆ จากองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอื่น ๆ ผ่านแอปพลิเคชันที่ต้องมีการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลได้ด้วย
เปิดบัญชีออนไลน์ ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ในการใช้บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล ไม่ต้องเสียค่าบริการ ไม่ต้องฝากเงินขั้นต่ำเพื่อเปิดบัญชี และไม่ต้องทำบัตร ATM

ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถจัดการเกี่ยวกับ เงินฝากออนไลน์ดอกเบี้ยเงินฝากสูง    ได้จากทุกสถานที่ ไม่ต้องเดินทางไปธนาคารให้เสียเวลาหรือยุ่งยากอีกต่อไป ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก

41
ต้องยอมรับว่าระยะหลังมานี้เทรนด์การ กู้เงินออนไลน์ กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะสามารถขอยื่นกู้ได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังให้ประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจกับผู้ขอกู้อีกด้วย แต่สินเชื่อประเภทใดที่สามารถขอกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ได้บ้าง และสินเชื่อประเภทใดจะเหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้จ่ายรวมถึงไลฟ์สไตล์ทางการเงินของเรามากที่สุด นี่คือคำถามที่ต้องค้นหาคำตอบไปพร้อมกันวันนี้

สินเชื่อส่วนบุคคล
หนึ่งในสินเชื่อที่สามารถขอกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ และเป็นหนึ่งใน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ที่ครองใจใครหลายคน คุณสมบัติเด่นของสินเชื่อชนิดนี้คือให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนชำระได้ยาวนานหลายปีตามหลักเกณฑ์ที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนดไว้ โดยทั่วไปจะเลือกผ่อนชำระได้นาน 3 - 5 ปี ดอกเบี้ยต่ำกว่า เงินกู้ด่วน ประเภทอื่น ๆ เช่น บัตรกดเงินสด หรือการกดเงินสดออกจากบัตรเครดิต จึงเหมาะกับผู้กู้ที่ต้องการกู้ สินเชื่อวงเงินสูง มีความสามารถในการชำระหนี้แบบผ่อนน้อยผ่อนนาน เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินของตนเองให้ดีอยู่เสมอ
บัตรกดเงินสด
สินเชื่อประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกับสินเชื่อประเภทแรก แตกต่างตรงที่บัตรกดเงินสดเมื่อสมัครผ่านช่องทางออนไลน์แล้วจะได้รับบัตรกดเงินสดพร้อมวงเงินที่สามารถเบิกถอนหรือกดออกจากตู้เอทีเอ็มได้ตลอด 24 ชม. หากไม่กดเงินสดออกมาก็ไม่มีการคิดดอกเบี้ย ในกรณีที่กดเงินสดออกมาใช้บางส่วน เช่น กดออกมาใช้ 30,000 บาท จากวงเงิน 50,000 บาท ผู้ถือบัตรจะเหลือวงเงินเบิกถอนได้อีก 20,000 บาท โดยเมื่อปิดหนี้ 30,000 บาทแรกได้เรียบร้อยแล้ว ผู้ถือบัตรจะมีวงเงินพร้อมใช้เต็ม 50,000 บาทเหมือนเดิม บัตรกดเงินสดจึงเหมาะกับผู้มีไลฟ์สไตล์ทางการเงินแบบต้องการใช้เงินด่วนเป็นครั้งคราว และสามารถปิดหนี้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงผู้ต้องการมีวงเงินฉุกเฉินพร้อมใช้ติดตัวตลอดเวลานั่นเอง
บัตรเครดิต
สามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน แต่เดิมบัตรเครดิตมีจุดประสงค์เพื่อรูดใช้จ่ายแทนเงินสด แต่ปัจจุบันบัตรเครดิตทำได้มากกว่านั้น ทั้งการรูดจ่ายแทนเงินสด ซื้อของออนไลน์ ผ่อนชำระ 0% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ สะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัล/ส่วนลด/รับเครดิตเงินคืน รวมถึงการกดเงินสดจากวงเงินบัตรเครดิต อย่างไรก็ตามการกดเงินสดจากบัตรเครดิตอาจได้วงเงินไม่สูงเท่าการกดจากบัตรเงินสดและมีแนวโน้มที่จะคิดค่าธรรมเนียมแพงกว่า ดังนั้นบัตรเครดิตจึงเหมาะกับผู้ต้องการใช้บัตรเครดิตจับจ่ายใช้สอยแทนเงินสดไปล่วงหน้าก่อน จากนั้นค่อยชำระคืนให้สถาบันการเงินเมื่อมีใบแจ้งหนี้มาถึงตามรอบบัตรมากกว่า
สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อวงเงินสูงให้เวลาผ่อนชำระยาวนานประมาณ 30 - 40 ปี แล้วแต่ข้อกำหนดของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง แม้ว่าปัจจุบันสินเชื่อประเภทนี้จะยังไม่สามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์แบบเบ็ดเสร็จได้ แต่ผู้สนใจก็สามารถติดต่อสถาบันการเงินต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสินเชื่อประเภทนี้ได้เช่นกัน
สินเชื่อธุรกิจ
ปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่งเปิดช่องทางให้ผู้ต้องการยื่นกู้สินเชื่อขอสินเชื่อออนไลน์ธุรกิจดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs สินเชื่อแม่ค้า หรือสินเชื่อที่เรียกกันว่า สินเชื่ออาชีพอิสระ และด้วยความที่สถาบันการเงินต่าง ๆ มักมีนโยบายให้การสนับสนุนภาคธุรกิจ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อซึ่งผสมผสานระหว่างสินเชื่อธุรกิจและ สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็ว จึงเริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อธุรกิจได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วกว่าในอดีต

เมื่อทำความรู้จักกับสินเชื่อประเภทต่าง ๆ แล้วก็จะสามารถประเมินได้ว่าความต้องการกู้ของเราในตอนนี้เหมาะสมที่จะยื่นกู้สินเชื่อประเภทใด หลังจากนี้จะไปสู่ขั้นตอนการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ประเมินคุณสมบัติของตนเองเปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์ของสินเชื่อต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ ซึ่งตัวเลือกลำดับต้น ๆ ของสถาบันการเงินที่ปล่อยสมัครสินเชื่อบริการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ก็คือสถาบันการเงินที่ภาครัฐให้การสนับสนุนอยู่ เช่น ธนาคารกรุงไทย  ดังนั้นหากมีบัญชีกับธนาคารกรุงไทยอยู่แล้วควรสอบถามเข้าไปยังธนาคารกรุงไทยเป็นแห่งแรก เพื่อรับข้อมูลเปรียบเทียบกับสถาบันการเงินแห่งอื่น ๆ ต่อไป

42
ในยุคที่คนไทยจำนวนมากนิยมหาโอกาสท่องเที่ยวต่างประเทศ นั่นจึงทำให้หลายสถาบันการเงินออกผลิตภัณฑ์ travel card เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทาง และสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักบัตรประเภทนี้ ลองมาทำความรู้จักกันว่าคืออะไร พร้อมเปรียบเทียบความน่าสนใจของทั้ง 5 บัตร ที่เชื่อว่าจะต้องตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

Travel Card คืออะไร
สำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยวอาจจะเคยได้ยินชื่อ บัตรเดบิต ท่องเที่ยวกันอยู่แล้ว เพราะบัตรนี้ทำหน้าที่เหมือนเพื่อนรู้ใจนักเดินทาง จุดเด่นคือใช้แลกเงินต่างประเทศได้ด้วยอัตราสุดพิเศษ รวมถึงยังรูดซื้อสินค้าและบริการในต่างประเทศโดยไม่ต้องแบกรับค่าความเสี่ยงอันเกิดจากความผันผวนของสกุลเงิน นั่นทำให้ไม่ต้องพกเงินสดไปต่างประเทศเยอะ ๆ แถมยังได้สิทธิพิเศษมากมายจากการถือบัตรอีกด้วย

เปรียบเทียบบัตร 5 ใบ ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนชอบเที่ยว
KRUNGTHAI TRAVEL CARD
ธนาคารแห่งแรกที่ให้ สมัครบัตรเดบิต ท่องเที่ยว จุดเด่นคือไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี เมื่อเติมเงินแล้วสามารถแลกเงินเก็บไว้ได้ ล็อกเรทได้เมื่อได้เรทสกุลเงินที่ถูกใจ รองรับได้มากถึง 17 สกุลเงิน และหากไม่เดินทางไปต่างประเทศยังสามารถใช้รูดซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ได้ในเรทเงินสุดพิเศษอีกด้วย
PLANET SCB
อีกหนึ่งตัวเลือก บัตร atm ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี สมัครง่ายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เริ่มต้นใช้งานด้วยการเติมเงินเข้าบัตรจากนั้นจึงใช้รูดซื้อสินค้าและบริการ ล็อกเรทที่ต้องการได้ และสามารถแลกเงินได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก
YOUTRIP POWERED BY K-BANK
บัตรเดบิต ที่ออกแบบมาให้ปราศจากค่าธรรมเนียม ใช้งานง่ายเพียงเติมเงินเข้าบัตรจากนั้นใช้แลกเงินต่างประเทศได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก เมื่อมีแผนเดินทางไปประเทศใดสามารถแลกเงินเก็บไว้ได้เพื่อให้ได้เรทราคาดีที่สุด
K-BANK JOURNEY
อีกหนึ่งประเภทบัตรจากธนาคารกสิกรไทย ข้อดีคือรูดซื้อสินค้าและบริการได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องเติมเงิน สามารถเบิกถอนเงินสดในไทยได้ มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย แต่มีข้อเสียคือมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและมีค่าความเสี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน
TMB ALL FREE
บัตร All Free ที่ให้รูดซื้อสินค้าได้ทั่วโลกอย่างสุดคุ้ม โดยไม่ต้องเติมเงินเข้าบัตร ซื้อสินค้าออนไลน์ได้อย่างมั่นใจเพราะมีประกันการซื้อสินค้า ที่สำคัญเมื่อบัตรหายธนาคารจะออกบัตรใหม่ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่มีค่าธรรมเนียมรายปีและไม่สามารถล็อกเรทสกุลเงินได้

travel card จากแต่ละธนาคารมาพร้อมจุดเด่นและความน่าสนใจแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเลือกสมัครบัตรเติมเงินบัตรที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด และนอกจากการเป็นเจ้าของบัตรท่องเที่ยวที่ทำให้การแลกเงินคุ้มค่ายิ่งกว่าเคยแล้ว อย่าลืมสมัคร บัตรเดบิตประกัน บัตรเติมน้ำมันติดตัวเอาไว้ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างเดินทางจะได้ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายคนเดียว เพราะมีประกันเดินทางจากบัตรเดบิตทำหน้าที่คุ้มครองยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็อุ่นใจเสมอ

43
เมื่อเราเริ่มเข้าสู่วัยทำงานแล้ว การวางแผนทางการเงินนั้นถือว่าต้องวางแผนตั้งแต่วัยหนุ่มสาว rmf กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะคุ้มค่าน่าลงทุน และยังช่วยลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

RMF หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพคืออะไร
rmf กรุงไทยสรุปให้ว่าเป็นกองทุนที่เน้นนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ให้มีความหลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง สินทรัพย์ที่ลงทุนจะมีตั้งแต่ตราสารหนี้เอกชน ตราสารการเงินอื่น ๆ หุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ รวมถึงทองคำ ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้มีความเสี่ยงไม่เท่ากัน  การกระจายความเสี่ยงจะช่วยให้การลงทุนมีความปลอดภัยมากขึ้น ผู้ลงทุนสามารถเก็บเกี่ยวผลตอบแทนไว้ใช้หลังจากเกษียณอายุการทำงาน

ลงทุนอย่างไรดี ถ้าเราไม่ได้มีเงินเยอะ
ที่หลายๆ คนต่างหันมาสนใจลงทุนกองทุน RMF ก็เพราะซื้อหน่วยลงทุนครั้งละเท่าไรก็ได้ และจะซื้อเมื่อใดก็ได้ ปีไหนไม่สะดวกก็เว้นไปก่อน แค่ว่าไม่กระทบกับความเป็นอยู่ ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง เป็นการลงทุนที่มีความชิลเหมาะกับคนรุ่นใหม่
เรามาดูกันว่าถ้าลงทุนกับกองทุนรวม คือ กรุงไทย rmf เงื่อนไข น่าสนใจอื่น ๆ มีอะไรอีกบ้าง
จำนวนเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี
ถ้าหากว่าจะลงทุนในกองทุนอื่นด้วย เช่น กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)  กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมถึงการทำประกันชีวิตแบบบำนาญเพื่อลดหย่อนภาษีรวมกันจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ซื้อหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น ซื้อทุกปี แต่การลงทุน rmf เงื่อนไข ข้อนี้ไม่ได้บังคับจนเกินไป ถ้าไม่พร้อมสามารถเว้นไปก่อน แต่ต้องเว้นไม่เกิน 1 ปี
จะเห็นว่าเงื่อนไขการลงทุนนั้นเป็นแบบสบาย ๆ หากว่ามีเงินน้อยลงไปบ้างก็ยังสามารถเดินหน้าต่อได้จนกว่าจะครบกำหนดเวลาซึ่งผู้ลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้นาน 5 ปี โดยไม่ขายออก และจะได้รับเงินคืนเมื่อผู้ลงทุนมีอายุครบ 55 ปี ข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกคือ กองทุนรวม คือ rmf ลดหย่อนภาษี ได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด คล้ายกับกองทุนรวมเพื่อการออมหรือ SSF แต่สำหรับ SSF นั้นจะมีความยืดหยุ่นเรื่องของการลงทุนมากกว่าเล็กน้อย ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องก็ได้ สามารถดูตัวอย่างขั้นตอนการวางแผนทางการเงิน ได้ที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1245

โดยสำหรับใครที่สนใจแนะนำกองทุน rmf ผลตอบแทนจากกองทุนรวมที่น่าลงทุนของ บลจ.กรุงไทย คือกองทุน กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HiDiV RMF), กองทุนเปิดเคแทม โกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-GOLD RMF) และกองทุนเปิดกรุงไทย SET50 เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTSET50RMF) สามารถเข้าไปดูรายละเอียดลักษณะการลงทุนเหล่านี้ได้ที่ www.krungthai.com   หรือดูผลตอบแทนกองทุนรวม ได้ที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1290

44
ไม่ว่าใครก็อุบัติเหตุขึ้น เพราะฉะนั้นเพื่อการใช้ชีวิตอย่างอุ่นใจ การทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้จึงเป็นวิธีที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างเบาใจยิ่งขึ้น เพราะยังช่วยครอบคลุมในส่วนของค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาลได้บ้าง และแม้ปัจจุบันจะมีตัวเลือกประกันอุบัติเหตุจากหลายบริษัทประกันภัย แต่อีกตัวเลือกที่น่าสนใจคือ เปิดบัตรเดบิตพ่วงประกันภัยจากสถาบันการเงินที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีงบน้อย เพราะจะช็อป หรือคุ้มครองก็ทำได้ทั้ง 2 อย่าง โดยวันนี้เรามี 3 บัตรที่น่าสนใจมาแนะนำกัน

แนะจุดเด่นของ 3 บัตรเดบิตประกัน ภัย
หลายสถาบันการเงินต่างออกผลิตภัณฑ์บัตรเดบิตพ่วงประกันภัย ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือก สมัครบัตรเดบิต กับสถาบันการเงินแห่งไหนดี เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่าจะมีบัตรไหนน่าสนใจและตอบโจทย์ด้านความคุ้มครองบ้าง
บัตรกรุงไทย ช้อปสมาร์ท เพิร์ล จากธนาคารกรุงไทย (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
สำหรับบัตรเดบิต กรุงไทย เพียงชำระค่าธรรมเนียมเพียงปีละ 599 บาท แต่ได้รับความคุ้มครองแบบอุ่นใจ เพราะบัตรนี้คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าและยังเข้ารับการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลคู่สัญญาได้มากกว่า 200 แห่ง นอกจากนี้ยังมีบัตรที่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ๆ ละ 999 บาท แต่คุ้มครองทั่วโลก จ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 10,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง และยังมีเงินชดเชยรายได้ให้อีกด้วย
บัตรเอส สมาร์ท พลัส จากธนาคารไทยพาณิชย์ (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
หมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลเพราะบัตรเอส สมาร์ท พลัส จากธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมมอบความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท และยังมีวงเงินคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท แต่หากต้องการความคุ้มครองมากขึ้นแนะนำให้สมัครบัตรเอส สมาร์ทเอ็กซ์ตร้า พลัส ค่าธรรมเนียมปีละ 999 บาท คุ้มครองวงเงินสูงกว่า ทั้งยังมีเงินชดเชยรายได้ให้กรณีต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุด 30 วันต่อครั้ง
บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท ศิริราช จากธนาคารกรุงเทพ (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
สุดท้ายกับธนาคารกรุงเทพมอบความคุ้มครองแบบคุ้มค่าผ่าน บัตรเดบิต บีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท ศิริราช คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุทั่วไป รวมถึงการถูกทำร้ายร่างกายครั้งละ 5,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุดถึง 200,000 บาท

สำหรับใครที่สนใจไม่ว่าจะสมัคร บัตร atm หรือ บัตรเดบิต debit card รวมถึง travel card ซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว  แนะนำให้สอบถามและศึกษาข้อมูลสิทธิพิเศษและความคุ้มครองเพื่อประกอบการตัดสินใจ นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ควรระมัดระวังคือการชำระค่าธรรมเนียมรายปี เพราะหากชำระไม่ตรงตามกำหนดอาจทำให้ความคุ้มครองหมดอายุและเสียผลประโยชน์ได้ เพื่อให้เราได้รับสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับใครสนใจสมัครบัตรเดบิต ดูเลย https://krungthai.com/th/personal/cards/debit-card

45
ปัจจุบันนี้เรื่องขอการขอ สินเชื่อกู้เงินด่วน กรุงไทย กับธนาคารเป็นเรื่องที่สะดวกขึ้น  เพราะไม่ต้องเดินทางไปที่สาขาธนาคารอีกต่อไป เพียงมีแอปพลิเคชั่น หรือมีเว็ปไซต์ก็สามารถยื่นขอพิจารณากู้เงินด่วน กรุงไทย ได้แล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าการสมัครสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ขอแนะนำว่าก่อนยื่นสินเชื่อควรเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการผ่านอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น เรารวม 3 เทคนิคเตรียมตัวกู้เงินยังไงให้ผ่านมาแนะนำกัน

สร้างเครดิตการเงินให้ดี
ไม่ว่าจะทำการธุรกรรมทางการเงินใดก็ตาม แนะนำว่าการสร้างเครดิตทางการเงินก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องทำ เพราะไม่มีใครรู้ว่าตัวเองต้องการ กู้เงินด่วน ตอนไหน สำหรับวิธีการสร้างเครดิตทางการเงินนั้นไม่ยาก เพียงแค่จำกัดการสร้างหนี้ไม่ให้เกิน 30% ของรายได้ ผ่อนชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด เดินบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญไม่สร้างยอดหนี้เพิ่มเติมควรผ่อนชำระหนี้ทีละก้อน เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่าน สินเชื่อวงเงินสูง เนื่องจากธนาคารจะนำความสามารถในการใช้หนี้มาใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการอนุมัติวงเงินด้วย


หาข้อมูลรายละเอียดของสินเชื่อเงินด่วนอนุมัติไวให้พร้อม
ศึกษาให้ละเอียดคือข้อมูลของสินเชื่อที่ต้องการสมัคร เพราะสินเชื่อแต่ละประเภทและต่างธนาคารกันมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของจุดประสงค์ของสินเชื่อ วงเงินสูงสุด อัตราดอกเบี้ย คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ คุณสมบัติของผู้ค้ำประกันในกรณีที่เป็น สินเชื่อวงเงินสูง ซึ่งการตรวจสอบรายละเอียดสินเชื่อก่อนสมัครนอกจากจะทำให้เลือกสินเชื่อง่ายและเหมาะกับความต้องการของตัวเองที่สุดแล้ว ยังส่งผลดีต่อการเตรียมข้อมูลส่วนตัวและเอกสารสำคัญที่ใช้ในการสมัครสินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็ว คลิกเลย https://krungthai.com/th/personal/loan/personal-loan/524


เตรียมเอกสารให้พร้อม
แน่นอนว่าเอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อสมัครสินเชื่อออนไลน์ กรุงไทยคือเอกสารส่วนตัวและเอกสารทางการเงิน อย่างสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน Statement หนังสือรับรองเงินเดือน และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง เมื่อนำเอกสารทั้งหมดไปที่ธนาคารแล้วหลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยให้คำแนะนำการกรอกเอกสารสมัครให้กับผู้ขอสินเชื่อ แต่ถ้าการสมัคร สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็ว ผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้ขอสินเชื่อจะต้องกรอกข้อมูลและอัปโหลดเอกสารทั้งหมดตั้งแต่ขั้นตอนแรก เพราะฉะนั้นก่อนการสมัครควรเตรียมข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลสถานที่ทำงาน ระยะเวลาการทำงาน ข้อมูลหนี้สินปัจจุบัน และเอกสารทางการเงินให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วในการกรอกข้อมูลและไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารในภายหลังเกี่ยวกับสินเชื่อ คลิกเลย https://krungthai.com/th/personal/loan/personal-loan/


   เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและมีเครดิตที่ดีก็สามารถช่วยให้เราผ่านการพิจารณรา สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็ว ที่ดีกว่า เงินกู้นอกระบบอย่างแน่นอน

46
ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคาดฝันได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หากเราอยากอุ่นใจแนะนำให้มีประกันเหตุไว้เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ยังมีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายได้ต่าง ๆ และแม้ปัจจุบันจะมีตัวเลือกประกันอุบัติเหตุจากหลายบริษัทประกันภัย แต่อีกตัวเลือกที่น่าสนใจคือ บัตรเดบิต พ่วงประกันภัยจากสถาบันการเงินที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีงบน้อย โดยบัตรประเภทนี้ถือเป็นเดบิตการ์ดประเภทหนึ่ง ที่มาพร้อมกับประกันภัยอีกด้วย

รวมจุดเด่น 3 บัตรเดบิตประกันภัยสถาบันการเงินดัง
ปัจจุบันหลายสถาบันการเงินต่างออกผลิตภัณฑ์บัตรเดบิตพ่วงประกันภัย ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือก สมัครบัตรเดบิต กับสถาบันการเงินแห่งไหนดี วันนี้เรารวมข้อดีมาให้แล้ว
บัตรกรุงไทย ช้อปสมาร์ท เพิร์ล จากธนาคารกรุงไทย (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
บัตรเดบิตกรุงไทยมีค่าธรรมเนียมเพียงปีละ 599 บาท แต่ได้รับความคุ้มครองแบบอุ่นใจ เพราะบัตรนี้คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าและยังเข้ารับการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลคู่สัญญาได้มากกว่า 200 แห่ง นอกจากนี้ยังมีบัตรที่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ๆ ละ 999 บาท แต่คุ้มครองทั่วโลก จ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 10,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง และยังมีเงินชดเชยรายได้ให้อีกด้วย
บัตรเอส สมาร์ท พลัส จากธนาคารไทยพาณิชย์ (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
หมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลเพราะบัตรเอส สมาร์ท พลัส จากธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมมอบความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุสูงสุดครั้งละ 5,000 บาท และยังมีวงเงินคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท แต่หากต้องการความคุ้มครองมากขึ้นแนะนำให้สมัครบัตรเอส สมาร์ทเอ็กซ์ตร้า พลัส ค่าธรรมเนียมปีละ 999 บาท คุ้มครองวงเงินสูงกว่า ทั้งยังมีเงินชดเชยรายได้ให้กรณีต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุด 30 วันต่อครั้ง
บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท ศิริราช จากธนาคารกรุงเทพ (ค่าธรรมเนียมปีละ 599 บาท)
ธนาคารกรุงเทพมอบความคุ้มครองแบบคุ้มค่าผ่าน บัตรเดบิต บีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท ศิริราช คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุทั่วไป รวมถึงการถูกทำร้ายร่างกายครั้งละ 5,000 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุดถึง 200,000 บาท

สำหรับใครที่สนใจอยากเปิดบัตร บัตร atm หรือ debit card รวมถึง travel card ซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว  แนะนำให้ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสิทธิพิเศษและความคุ้มครองเพื่อประกอบการตัดสินใจ และศึกษาเงื่อนไขให้ครบถ้วนก็จะมีประโยชน์ต่อเราสูงสุด

47
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะมีบัญชีเงินฝาก ทั่วไปอย่างน้อยคนละ 1 บัญชี  ที่ทั้งเก็บเงินของเราให้ปลอดภัย และยังสามารถรับ-โอนเงินอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามนอกจากบัญชีธนาคารที่ใช้กันอยู่เป็นประจำแล้วยังมีบัญชีอีกประเภทที่คนชอบเก็บเงินไม่ควรพลาด โดยหากเป็นสายออมเงิน แนะนำให้เลือกเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง

อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า
ข้อดีแรกของบัญชีฝากประจำคือได้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งผู้ฝากจะได้รับบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง เมื่อออมเงินครบตามจำนวนเดือนที่ธนาคารกำหนด โดยจะอยู่ที่ระยะเวลา 3, 6, 12, 24, 36, 48 และ 60 เดือน ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่จะรับนั้นไม่เท่ากันและขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร แต่ส่วนใหญ่แล้วยิ่งฝากนานก็จะยิ่งได้ดอกเบี้ยสูง

มีความเสี่ยงน้อย
หลายๆ คนอาจจะอยากมีเงินที่งอกเงยต่อ ด้วยการเล่นหุ้น กองทุน ตราสารหนี้แล้วถือว่าเป็นการลงทุนมีความเสี่ยงต่ำ ดอกเบี้ยเงินฝากของกรุงไทย ทั้งเป็นบัญชีที่รับ วงเงินคุ้มครองเงินฝาก จาก พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝากในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท  อาจกล่าวได้ว่าแค่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคารก็จะได้รับเงินก้อนใหญ่ของตัวเองและดอกเบี้ยอย่างแน่นอน

เป็นแหล่งเงินสำรองในอนาคต
หากใครที่ต้องการเก็บเงินก้อนไว้ใช้ทำตามแพลนในอนาคต การฝากเงินกับบัญชีเงินฝากประจำถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้หลายคนถึงเป้าหมาย เพราะเมื่อครบกำหนดเวลาที่ทางธนาคารกำหนดเจ้าของบัญชีจะได้เงินก้อนพร้อมดอกเบี้ย ส่วนถ้าใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนก็ยังสามารถถอนเงินออกมาใช้ก่อนได้โดยไม่เสียเครดิต แต่อาจมีผลต่อจำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับ

ได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
นอกจากการเปิดบัญชีแล้วยังได้รับสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างสิทธิยกเว้นภาษีจากดอกเบี้ยในกรณีเลือกบัญชี เงินฝากปลอดภาษี สิทธิความคุ้มครองอุบัติเหตุฟรี หรือสิทธิในการนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อกับธนาคาร

ฝึกฝนนิสัยการออมเงิน
การฝากเงินกับบัญชีเงินฝากกรุงไทยประจำจะช่วยฝึกฝนนิสัยการออมเงิน เนื่องจากเจ้าของบัญชีจะต้องนำเงินเข้าบัญชีทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำหรือมากกว่าตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเงื่อนไขขาดส่งได้ไม่เกิน 2 ครั้ง  ห้ามถอนหรือปิดบัญชีก่อน 3 เดือน ดังนั้นจึงเป็นการช่วยฝึกวินัยในการออมเงินไปในตัวได้
   
เห็น 5 ข้อดีของ เปิดบัญชีเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูงที่เรานำมาฝากในวันนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนที่อยากเปิดบัญชีเงินฝากอยู่ หรือกำลังมีแผนใช้เงินก้อนใหญ่และไม่อยากเสี่ยงกับการลงทุนแบบอื่น ๆ รับประกันเลยว่าการฝากเงินกับบัญชีฝากประจำตอบโจทย์และเป็นสิ่งที่ตามหาอยู่แน่นอน สามารถศึกษาข้อมูลเงินฝากดอกเบี้ยสูง ที่ https://krungthai.com/th/personal/deposits/212/345 หรือบัญชีเงินฝาก เปิดที่ https://krungthai.com/th/personal/deposits/208

48
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการจะเปิดกิจการเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง บางครั้งสถานการณ์อาจไม่เอื้ออำนวย ทำให้รายรับลดลงบ้างจากปัญหาที่อาจเกิดได้ในการทำธุรกิจก็คือ เงินขาดมือหมุนไม่ทัน หากต้องเจอปัญหานี้เราอาจจะต้องมองหาสถาบันการเงิน, เลือกสมัครสินเชื่อออนไลน์ กรุงไทย   หรือหาทางออกได้เงินด่วนมาใช้มาแนะนำกัน
ใช้บัตรกดเงินสด
สำหรับใครที่มีบัตรกดเงินสดอยู่แล้ว เมื่อ อยากได้เงินก้อนด่วน ก็จะสามารถใช้บัตรกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ทันที เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่ง แม้ว่าการใช้บัตรกดเงินสดจะมีดอกเบี้ยสูงหน่อยแต่ถ้ายังไม่ได้กดเงินมาใช้ก็ยังไม่เสียดอกเบี้ย หรือกดเงินเท่าไรก็เสียดอกเบี้ยจากยอดเงินที่กดเท่านั้น  โดยบัตรนี้สามารถสมัครที่สถาบันการเงินได้เลน หลังจากอนุมัติแล้วจะสามารถกดเงินได้ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ บัตรนี้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ก็สามารถสมัครเก็บไว้ได้ ทำไว้เผื่อเป็นตัวช่วยฉุกเฉินที่ดีไม่น้อย
สมัครบริการเงินกู้ด่วน
สำหรับเจ้าของกิจการอาจจะเลือกยื่นกู้สินเชื่อประเภทกู้เงินด่วนได้ภายในไม่กี่วัน ซึ่งบริการนี้เหมาะกับกิจการที่กำลังช็อตเงิน แต่ในการค้นหาต้องดูให้ดีเพราะมีสินเชื่อแบบออนไลน์อยู่ค่อนข้างมาก เช่น บริการเงินกู้ผ่านแอป ต้องเลือกเฉพาะสถาบันการเงินที่อยู่ในระบบเท่านั้น อย่าง กู้เงินด่วน กรุงไทย ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ บริษัทเงินทุนที่อยู่ภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อไม่ต้องเจอกับปัญหาดอกเบี้ยเกินอัตรา และหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้นอกระบบ
สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคาร
กรณี อยากได้เงินก้อน ที่รวดเร็วและปลอดภัย สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เป็นสินเชื่อที่สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย กิจการขาดสภาพคล่องก็ใช้ได้ เมื่อได้เงินก้อนมาใช้แล้วจึงทยอยผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ไป และเมื่อกิจการพอฟื้นตัวขึ้นมาได้ ก็รีบเก็บเงินก้อนแล้วนำมาโปะคืน วิธีนี้เพื่อลดยอดสินเชื่อที่ต้องผ่อนให้น้อยลง อย่าง ธ.กรุงไทยมีบริการสินเชื่อส่วนบุคคลกรุงไทยใจป้ำ สมัครออนไลน์ได้ทางแอป Krungthai NEXT และสินเชื่อกรุงไทย Smart Money สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย สมัครได้ที่สาขา
โดยทั้ง 3 วิธีนี้เป็นช่องทางเงินด่วนที่มีความปลอดภัยถูกกฎหมายอย่างแน่นอน โดยอาจจะเตรียมเอกสารเหล่านี้เพื่อให้พร้อมกับการกู้สินเชื่อ เช่น เอกสารแสดงรายได้เพื่อยื่นสมัครกู้เงินด่วน สำหรับสินเชื่อ ธ.กรุงไทย หากผู้ขอสินเชื่อเป็นเจ้าของกิจการ สามารถยื่น Statement บัญชีที่แสดงรายรับ-จ่ายในธุรกิจย้อนหลัง 1 ปี พร้อมสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน หรือสำเนาหนังสือทะเบียนผู้ถือหุ้น หรือสำเนาใบทะเบียนการค้า หรือสำเนาเอกสารที่แสดงอายุกิจการ  แต่เมื่อได้เงินมาแล้วก็ต้องบริหารใช้อย่างดีที่สุด เพื่อพยายามฟื้นธุรกิจให้เร็วที่สุดและนำเงินกลับมาชำระคืนสินเชื่อ เพื่อป้องกันการเป็นหนี้และเสียดอกเบี้ยระยะยาว  โดยสามารถศึกษาข้อมูลสินเชื่อเงินสด ได้ที่ https://krungthai.com/th/personal/loan/personal-loan/ หรือสินเชื่อเงินด่วน ที่ https://krungthai.com/th/personal/loan/personal-loan/524

49
หลายคนมีข้อสงสัยว่า โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ ใช้เวลากี่วันถึงได้เงิน ซึ่งที่จริงแล้วแม้ว่าจะโอนเงินผ่านแอปก็ใช่ว่าจะมีความรวดเร็วเหมือนกับการโอนเงินภายในประเทศ หนึ่งในเหตุผลของการ โอนเงินข้ามประเทศ ใช้เวลานานเพราะต้องผ่านระบบ Swift อันเป็นระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ
ด้วยมาตรฐานสากลที่ต้องมีบริการหลายขั้นตอนกว่าเงินจะถึงมือผู้รับ เราจึงมาดูกันว่า แอพโอนเงินต่างประเทศ Swift คืออะไร ค่าธรรมเนียมเท่าไร? และการโอนเงินผ่านแอปยุ่งยากหรือไม่

ระบบ Swift และ Swift Code
ในอดีตการโอนเงินไประหว่างประเทศ   ไม่ได้ง่ายเหมือนในปัจจุบัน เพราะต้องใช้ระบบ Correspondent Banking ผ่านการใช้งานของโทรเลขระหว่างธนาคารของผู้โอนและธนาคารผู้รับ ซึ่งข้อเสียคือการทำธุรกรรมทำได้จำกัดและการประมวลผลของธุรกรรมค่อนข้างช้า ระบบใหม่จึงถูกพัฒนามาที่มีชื่อว่า “Swift” อันเป็นระบบมาตรฐานสากลทุกธนาคารบนโลกนี้ใช้ ด้วยโครงสร้างของรหัสการทำธุรกรรม (Swift Code) จะมีความคล้ายคลึงกันทำให้การค้าระหว่างประเทศรวมถึงการ โอนเงินต่างประเทศ มีความสะดวกรวดเร็ว ซึ่ง Swift Code จะมีรหัสเฉพาะของสถาบันการเงินปลายทางจำนวน 8 – 11 หลัก เช่น KRTHTHBK ความหมายของ 4 ตัวแรก “KRTH” คือตัวย่อของธนาคารกรุงไทย “TH” คือรหัสของประเทศไทย ส่วน “BK” คือที่ตั้งของตำแหน่งธนาคาร (กรุงเทพ) หรือในบางกรณี Swift Code ของธนาคารจะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษอีก 3 ตัวอักษรเพิ่มเติมด้วยซึ่งคือรหัสของสาขาย่อย และทุกธนาคารจะใช้โครงสร้างเช่นเดียวกับตัวอย่างที่ยกมา ดังนั้นการ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code ของธนาคาร
สิ่งที่จำเป็นต้องรู้คือความหมายของตัวย่อเบื้องต้นเพื่อการทำธุรกรรมของผู้โอนทำได้ง่ายขึ้น
ค่าธรรมเนียมในการโอน
ระบบหลักของโลกการเงินในตอนนี้คือโอนเงินผ่านระบบ swift codeซึ่งแน่นอนว่ามีระบบอื่นด้วย เช่น Western Union หรือ PayPal โดยค่าธรรมเนียมของการ  โอนเงินแบบ swift code จะมี ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ อยู่ราว 300 – 500 บาทต่อรายการ และอาจจะมีการบวกเพิ่มขึ้นอีก 0.05% ของยอดเงินโอน และเนื่องจากมีขั้นตอนที่ไม่เหมือนการโอนเงินด้วยรูปแบบอื่นที่เงินถึงเร็วกว่า เป็นเพราะระบบ Swift Code การโอนเงินจากธนาคาร A ไป E ระหว่างทางต้องผ่านหน่วยงาน B C D ที่มีหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรม ทำให้ต้องใช้เวลาในการโอนอย่างน้อย 3 – 5 วัน และยังมีขั้นต่ำของการโอนเงินในบางสกุลเงิน เช่น JPY ที่ธนาคารกรุงไทยกำหนดขั้นต่ำที่ 5,000 เยน และการโอนเงินด้วยระบบนี้ยังแบ่งเรทของการเก็บค่าธรรมเนียมตามลักษณะของการทำธุรกรรม เช่น การโอนเงินผ่าน Mobile App จะเสียค่าธรรมเนียมถูกกว่าการโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร และเรทของการเก็บค่าธรรมเนียมในแต่ละสกุลเงินก็ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะสกุลเงินยูโรจะเสียค่าธรรมเนียมในการโอนสูงกว่าสกุลเงินเอเชีย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารเป็นผู้กำหนด
การโอนเงินผ่านแอป
ทุกธนาคารจะมีหลักการโอนเงินต่างประเทศคล้ายกันหมด คือต้องเริ่มเปิดแอปของธนาคาร เลือกหมวดโอนเงินระหว่างประเทศ ที่เหลือคือการกรอกที่อยู่ของผู้ต้องการโอนเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นเลือกบัญชีของผู้รับเงินโอนด้วยการกรอก Swift Code และระบุจำนวนเงินที่ต้องการลงไป เพียงเท่านี้ก็โอนเงินข้ามประเทศได้แล้ว ส่วนระยะเวลาของเงินที่เข้าขึ้นอยู่กับ Time Zone และการตรวจสอบจากระบบ Swift
   
แม้ทุกวันนี้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใดแต่การโอนเงินระหว่างประเทศผ่านแอปยังต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอยู่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันข้อมูลของผู้โอนและผู้รับเงินไม่ให้รั่วไหลและเพื่อความโปร่งใสด้วย

50
หากเราซื้อประกันอุบัติเหตุเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการนอนโรงพยาบาล ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าชดเชยรายได้ เมื่อได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่คาดฝันเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมทำกัน เนื่องจากมีความคุ้มค่ากับค่าประกันภัยที่ได้ชำระเป็นรายปี แแต่หากเราสมัครบัตรเดบิต กรุงไทย ที่ให้ทั้งความคุ้มครองเรื่องของประกัน และยังสะดวกสบายในการใช้จ่าย ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สุดคุ้มค่าที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างอุ่นใจมากกว่าที่เคยด้วยการให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุได้อย่างคุ้มค่า

ทางเลือกสุดคุ้มกับบัตรเดบิตมีประกัน ช่วยคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุและชดเชยรายได้
บัตรเดบิตที่มีประกันภัยมอบให้แก่ผู้ถือบัตร ถือเป็นบัตรเดบิตหรือ บัตร atm ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ถือบัตรเดบิตจะได้รับความคุ้มครองจากบัตรหลากหลายอย่างตามเงื่อนไขของบัตรนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลสูงสุดต่อครั้ง วงเงินความคุ้มครองสูงสุดของการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น โดยอุบัติเหตุนั้นหมายรวมถึงอุบัติเหตุทั่วไปและอุบัติเหตุการขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ด้วย
โดยบัตรเครดิตนี้ยังให้ความครองมากกว่าบัตรเดบิตประกันบางประเภท เพราะจะมีโรงพยาบาลคู่สัญญาหลายแห่งจึงช่วยครอบคลุมพื้นที่ให้บริการได้กว้างขึ้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลคู่สัญญาในส่วนของค่ารักษาพยาบาลก็ไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วนำไปทำเรื่องเบิกเงินคืนในภายหลัง
มากไปกว่านั้นสำหรับบัตรเดบิตที่มีประกันบางประเภทมีการอัพเกรดความคุ้มครองให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถคุ้มครองและให้การดูแลในส่วนของการชดเชยรายได้จากการต้องหยุดงานหลังประสบอุบัติเหตุด้วย ซึ่งจะมีข้อกำหนดไว้ว่าต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่ากี่วันจึงจะมีสิทธิรับการชดเชยรายได้ ทั้งนี้วงเงินและรายละเอียดต่าง ๆ ก็จะอ้างอิงตามเงื่อนไขของบัตรเดบิตที่มีประกันนั้น ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าการคุ้มครองในรูปแบบนี้ถือว่าเหมาะกับผู้ที่มีการนับวันทำงานจริงในแต่ละเดือนและมีการจ่ายเงินเดือนตามวันทำงาน ซึ่งสามารถลาป่วยได้แต่จะไม่ได้รับค่าจ้างในวันที่ลาหรือขาดงาน

จะเห็นได้ว่าบัตรเดบิตที่มีประกันอุบัติเหตุมีความแตกต่างจากบัตรเดบิตประเภทอื่น ๆ อย่างสมัครบัตรเดบิต travel card หรือ บัตร atm โดยบัตรเดบิตมีประกันจะมีคุณลักษณะเฉพาะที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการคุ้มครองด้านอุบัติเหตุที่มีขั้นตอนไม่เยอะ สะดวก ประหยัดเวลา และมีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายในแต่ละปี แนะนำว่าให้ลองศึกษาความคุ้มค่าของบัตรเดบิตเพราะบางใบยังเป็น บัตรเติมน้ำมัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเลย https://krungthai.com/th/personal/cards/cash-card-top-up-card/310

หน้า: [1] 2 3 4 5