ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - เคซี่ หวัง

หน้า: [1]
1
    หนึ่งในรูปแบบการเสริมความงามที่หลายๆ คนให้ความสนใจนั่นก็คือการฉีดคอลลาเจนเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสดใส แต่ในการหาคลินิกที่มีความไว้ใจได้ ถึงการใช้คอลลาเจนที่มีคุณภาพรวมถึงมาพร้อมกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแล สาวๆ อาจจะต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากเราเลือกไปฉีดคอลลาเจนราคาถูกกับหมอที่ไหนก็ไม่รู้ ผลลัพธ์ร้ายแรงอาจตามมาได้
    หากใครที่กำลังมองหาการฉีดคอลลาเจนราคาโดนใจ ที่มาพร้อมกับบริการที่ตอบโจทย์ วันนี้เรามีสิ่งที่คุณควรมองหาสำหรับการไปใช้บริการในคลินิกมาฝากกัน เรื่องไหนบ้างที่คุณต้องรู้ก่อนไปใช้บริการมาหาคำตอบกันได้เลย


1. ตามไปใช้บริการจากรีวิวปัง!
    ในยุคสมัยที่ต้องใช้สื่อโซเซียลมีเดียให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งการเลือกไปฉีดคอลลาเจนราคาแบบโดนใจ เราก็ต้องพึ่งจากการเช็กในโซเซียลมีเดียนี่ล่ะ เพราะจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า คลินิกที่เราหมายตาอยากจะไปทำสวย จะมาพร้อมกับความปลอดภัยและผลลัพธ์อย่างที่เราต้องการหรือไม่ เอาเป็นว่าใครที่กำลังหาข้อมูลในการทำสวยด้วยการเติมคอลลาเจนอยู่ล่ะก็ ลองเข้าไปตามอ่านรีวิวต่างๆ ถึงคลินิกเหล่านั้น แล้วคุณจะได้รู้ว่า มีคำชื่นชม หรือคำเตือนว่าอย่าไปใช้บริการ โดยอาจหาข้อมูลจากหลายๆ แพลตฟอร์ม เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุด เพราะคนจะสวยทั้งทีก็ต้องมาพร้อมกับความสบายใจด้วยนะ

2. บริการดีมีชัยไปกว่าครึ่ง!
    เพราะคลินิกความงามสมัยนี้ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งข้อดีก็คือ ผู้บริโภคได้รับประโยชน์แบบเต็มๆ เพราะคลินิกความงามทั้งหลายต่างงัดกลยุทธ์ หรือโปรโมชันต่างๆ ออกมาแข่งกันอย่างดุเดือด ซึ่งไม่ว่าคุณจะต้องการไปทำศัลยกรรมประเภทไหน หรือจะเลือกไปเติมวิตามินผิวและฉีดคอลลาเจนในราคาที่คุณถูกใจ ยิ่งถ้าหากคลินิกเหล่านั้นมาพร้อมกับงานบริการที่ดีงาม รวมถึงหลายคนบอกต่อว่าดีเหลือเกิน เชื่อว่าคุณจะต้องลองแวะไปสักครั้ง ยิ่งถ้าผลลัพธ์หลังการไปใช้บริการคุณเกิดความประทับใจแบบสุดๆ แล้ว เชื่อเถอะว่าคุณจะแวะไปคลินิกนั้นๆ บ่อยมากแน่นอน

3. เลือกใช้สารฉีดที่เป็นของแท้ และไม่ก่ออันตรายแก่ผู้ใช้บริการ
    อีกหนึ่งข้อที่คุณควรให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะในการไปใช้บริการคลินิกเสริมความงามนั้น สิ่งที่คุณจะต้องระวังก็คือ อุปกรณ์รวมถึงสารที่คลินิกนั้นๆ เลือกใช้ ว่าจะต้องเป็นของแท้ ซึ่งปัจจุบันคลินิกที่ไว้ใจได้ จะให้ผู้ที่ใช้บริการตรวจดูสภาพกล่องของสารที่ใช้เสริมความงามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสารอย่างโบท็อกซ์ วิตามินที่ใช้ฉีดผิว หรือแม้กระทั่งการเลือกไปใช้บริการฉีดคอลลาเจนในราคาไม่แพง คลินิกก็ต้องสามารถให้เราตรวจดูสภาพกล่องต่างๆ รวมถึงมีเลขการผลิตและขึ้นทะเบียนกับทางอย. อย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของผู้ที่ไปใช้บริการ ว่าจะต้องได้รับความปลอดภัยสูงสุดด้วย

2
   เรื่องราวทั้งหมดอาจเริ่มต้นขึ้นที่ร้านอาหารสักแห่ง เมื่อมีโอกาสได้ลองชิมไวน์เป็นครั้งแรก รู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักสุนทรียทางรสชาติที่เครื่องดื่มชนิดนี้มอบให้เสียแล้ว จนนึกอยากซื้อมาดื่มเองที่บ้าน และสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับการดื่มไวน์ที่บ้านก็คือตู้แช่ไวน์สักตู้

   อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่การเลือกตู้แช่ไวน์ที่เหมาะสมนับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงหลายข้อ ซึ่งทั้งหมดนั้นบทความนี้จะมาอาสาไขให้กระจ่าง แล้วเรื่องยากก็จะไม่ยากอีกต่อไป


   กำหนดความต้องการและงบประมาณ
   สิ่งที่ต้องคำนึงถึงประการแรก และอาจเป็นข้อที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้ นั่นก็คือก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ คุณควรต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องการตู้แช่ไวน์แบบไหน และมีงบประมาณเท่าไร เนื่องจากในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ไล่ตั้งแต่สบายกระเป๋า ไปจนถึงแพงระยับ

   สำหรับมือใหม่ในโลกของไวน์ อาจจะเริ่มที่ตู้ขนาดเล็ก ที่สามารถแช่ได้ 10-20 ขวด ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หลักหมื่นต้นถึงกลาง แต่ถ้าหากมีกำลังทรัพย์เหลือเฟือ และมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว เผื่อในอนาคตผันตัวจากนักดื่มธรรมดามาเป็นนักสะสมจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนให้วุ่นวายอีก ก็อาจจะเลือกขนาดใหญ่ ที่สามารถบรรจุได้หลักร้อยขวด แต่ก็แน่นอนว่าราคาก็จะสูงกว่าพอสมควร อาจจะถึงระดับหลักแสนบาท

   สำรวจทำเลที่ตั้ง
   ประการต่อมาที่ต้องคำนึงถึงคือ มันจะวางอยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน แล้วพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีลักษณะเช่นไร ซึ่งหากมีพื้นที่มากเพียงพอ หรืออยู่ในช่วงกำลังปรับปรุงบ้าน ตู้แช่ไวน์แบบบิวท์อินก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากจะไม่มีช่องว่างระหว่างตู้กับพื้นและผนัง ซึ่งเป็นแหล่งที่ฝุ่นละอองจะเกิดขึ้นได้ง่าย อีกทั้งยังกลมกลืนเข้ากับบรรยากาศโดยรอบได้เป็นอย่างดี

   อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความตู้แช่ไวน์แบบไม่บิวท์อินจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ถึงแม้จะเกิดฝุ่นละอองได้ง่ายกว่า แต่ในทางตรงกันข้าม หากต่อมาอยากเปลี่นใจโยกย้ายไปตั้งที่อื่น ก็สามารถทำได้โดยง่าย นอกจากนั้นหากเลือกสีของตู้ให้เข้ากับบรรยากาศ ผลลัพธ์ก็สามารถกลมกลืนได้อย่างสวยงามเช่นกัน

   อุณหภูมิคือเรื่องสำคัญ
   หนึ่งในเรื่องที่หลายคนอาจเข้าใจผิดคือไวน์ขาวและไวน์แดงควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่างกัน ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงคืออุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับไวน์ทั้งสองประเภทอยู่ที่ ประมาณ 45 ถึง 55 องศาฟาเรนไฮต์ (7-12 องศาเซลเซียส)

   อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แตกต่างกันคืออุณหภูมิตอนเสิร์ฟ ในขณะที่ไวน์ขาวมักเสิร์ฟแบบรักษาความเย็น ไวน์แดงกลับมีรสชาติที่ดีกว่าหากปล่อยทิ้งไว้ให้อุณหภูมิอุ่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนนำไปเสิร์ฟ ดังนั้นหากคุณไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องอุณหภูมิที่เหมาะสม และอยากให้บรรยากาศการดื่มเป็นไปอย่างลื่นไหล ก็ควรเลือกตู้แช่ไวน์ที่สามารถแบ่งโซนอุณหภูมิได้ เพื่อให้ไวน์อยู่ในอุณหภูมิที่ดีที่สุดก่อนลิ้มรสชาติ

   ฟีเจอร์พิเศษ
   ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลเท่าไร ตู้แช่ไวน์ก็ยิ่งล้ำสมัยมากขึ้นเช่นกัน ทุกวันนี้มีฟีเจอร์พิเศษมากมายที่มาอำนวยความสะดวกการใช้งานให้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น เช่นไฟ LED, หน้าจอแสดงอุณหภูมิแบบดิจิตอล และวัสดุชั้นวางชนิดพิเศษ เพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้น

   อย่างไรก็ตามฟีเจอร์เหล่านี้ก็มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นควรถามตัวเองให้แน่ใจว่าต้องการมันหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น

3
   กรอบพระทองถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องประดับทอง ที่มีเนื้อเป็นโลหะ ที่ถึงแม้อาจจะมีสนิมขึ้นได้ยากกว่าโลหะประเภทอื่นๆ แต่การดูแลรักษากรอบพระทองนั้นก็มีความจำเป็นอย่างมาก ที่ในบางครั้ง คุณอาจจะไม่รู้ว่ามีคราบสกปรกหรือเชื้อโรค แบคทีเรียต่างๆ จากการใช้งานหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น น้ำหอม สเปรย์แอลกอฮอล์ เครื่องสำอาง ฯลฯ แต่ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เราได้รวบรวมวิธีง่ายๆ ในการดูแลรักษาความสะอาดกรอบพระเลี่ยมทองให้ดูเหมือนใหม่ แวววาวอยู่ตลอดเวลา แถมไม่เป็นอันตรายต่อตัวเนื้อหรือลวดลายบนนั้นอีกด้วย จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย!
 

1. ใช้ยาสีฟัน
ยาสีฟันถือเป็นตัวช่วยในการขัดทำความสะอาดคราบหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่บนตัวกรอบได้อย่างง่ายและสะดวก โดยเราขอแนะนำให้คุณใช้แปรงสีฟันขจัดคราบที่ใช้กันทั่วไป ป้ายยาสีฟันลงบนตัวกรอบทอง หลังจากนั้นให้ขัดถูเบาๆ แล้วนำมาล้างในน้ำก๊อกที่ไหลผ่าน จากนั้นให้คุณผึ่งและเพียงเท่านี้เครื่องประดับทองของเราก็จะสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน

2. ถอดเครื่องประดับก่อนอาบน้ำ ว่ายน้ำ หรือดำน้ำทุกครั้ง
รู้หรือไม่? ว่าศัตรูตัวฉกาจของทองนั่นก็คือสบู่ หรือครีมอาบน้ำนั่นเอง เพราะสบู่นั้นมีผลทำให้เครื่องประดับทองหมองลงได้ หากคุณใส่กรอบพระทองขณะอาบน้ำ ว่ายน้ำ หรือดำน้ำ อาจจะทำให้ตัวกรอบหมองโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง

3. ห้ามให้กรอบพระเลี่ยมทองถูกน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ
อีกหนึ่งสารซักล้างที่เราขอแนะนำให้คุณเลี่ยงอย่าให้ตัวกรอบพระที่เป็นเนื้อทองถูกตัวน้ำยา นั่นก็คือ น้ำยาฟอกขาว น้ำยาล้างขจัดคราบกระจก ฯลฯ ที่อาจจะทำให้สีของทองนั้นเปลี่ยนไปนั่นเอง

4. ใช้น้ำยาล้างจาน
แต่สำหรับน้ำยาล้างจานแล้วนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถนำมาทำความสะอาดกรอบพระเลี่ยมทองได้ โดยให้คุณบีบน้ำยาล้างจานเพียงเล็กน้อย แล้วใส่ไว้ในถ้วยผสมกับน้ำอุ่น หรือหากต้องการผลลัพธ์ที่สะอาดหรือมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คุณสามารถใช้น้ำแร่หรือน้ำโซดาแทนน้ำเปล่าได้ เนื่องจากฟองแก๊สมีประสิทธิภาพในการช่วยทำให้คราบที่ติดอยู่นั้น หลุดออกมาได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อตัวเนื้อทองอีกด้วย หลังจากที่คุณแช่กรอบพระทองลงในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยาล้างจานได้ประมาณ 15 นาทีแล้ว ให้ขัดถูเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม และให้ทำการล้างให้สะอาด และใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ เช็ดให้แห้ง

    เพียงเคล็ดลับ 4 ข้อง่ายๆ นี้ ก็สามารถช่วยให้กรอบพระทองของคุณดูสะอาด แวววาว เหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา บอกลาคราบสกปรกต่างๆ ที่ติดอยู่ตามซอกได้เลย ซึ่งถือเป็นการเพิ่มสุขอนามัยที่ดีให้กับตัวคุณอีกด้วย

4

   หากคุณคือคนที่อยู่ในแวดวงสินค้าหรือของแบรนด์เนมก็น่าจะทราบอยู่แล้วเป็นอย่างดี นอกจากสินค้าแบรนด์เนมมือหนึ่งที่วางขายตามช็อปหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไปแล้ว อีกหนึ่งช่องทางการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมนั่นก็คือการมองหาสินค้ามือสองจากร้านรับซื้อของแบรนด์เนม ร้านที่ทั้งรับซื้อ และจำหน่ายสินค้ามือสอง หากใครที่อยู่ในแวดวงนี้และมีการซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมอยู่เป็นประจำอยู่แล้วก็อาจจะทราบดีว่าสามารถนำสินค้าไปฝากขาย ตลอดไปจนถึงการ Trade หรือแลกเปลี่ยน ได้กลับมาเป็นสินค้าแบรนด์เนมมือสองอีกชิ้นหนึ่งก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน ถ้าหากอยู่ในราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันแล้วอย่างลงตัว แต่ทั้งนี้ถ้าหากคนที่เป็นมือใหม่กำลังหัดเข้าวงการสินค้าแบรนด์เนม จะมีข้อควรทราบ หรือการเตรียมตัวอะไรก่อนเข้าร้านรับซื้อของแบรนด์เนมบ้าง ตามมาหาคำตอบกันต่อได้จากบทความนี้เลย

ศึกษาข้อมูลโดยคร่าวๆ ของสินค้าแบรนด์เนม
   เริ่มต้นที่การศึกษาข้อมูลของสินค้าแบรนด์เนมโดยคร่าวๆ เริ่มต้นจากชิ้นที่สนใจและอยู่ใกล้ตัวก่อนเป็นอันดับแรกก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นถ้าหากคุณคือสาวๆ ที่กำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองดีๆ สักใบ สิ่งสำคัญที่คุณควรทราบเกี่ยวกับกระเป๋าแบรนด์ยี่ห้อนั้นๆ ก็คือการนับปี เลขรุ่น อะไหล่หรือวัสดุที่ใช้ ฯลฯ เรียกได้ว่าเตรียมตัวศึกษาข้อมูลไปโดยคร่าวๆ เมื่อไปถึงที่หน้าร้านรับซื้อของแบรนด์เนมแล้วจะได้มีคำถามหรือมีเรื่องพูดคุยกับที่ร้าน ไม่ทำเพียงแค่รับฟังเพียงอย่างเดียว

ของแท้ vs ของปลอม ดูอย่างไร?
   คำถามยอดฮิตที่ทุกคนคงอยากจะทราบก่อนเดินเข้าร้านรับซื้อของแบรนด์เนม นั่นก็คือ แบรนด์เนมชิ้นนี้ของแท้หรือของปลอม หากคุณในฐานะลูกค้าทำหน้าที่ในการศึกษาหาข้อมูลมาโดยคร่าวๆ วิธีการดูสินค้าแบรนด์เนมชิ้นที่เราสนใจให้เป็นว่าของแท้หรือของปลอม ก็เปรียบเสมือนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองแล้วในระดับหนึ่ง เพราะสินค้าแบรนด์เนมนั้นไม่ใช่ของราคาถูก อีกทั้งของปลอมสมัยนี้ก็ทำลอกเลียนแบบได้อย่างแนบเนียน หากรู้จักสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองเสียตั้งแต่เนิ่นๆ บอกเลยว่าการเดินเข้าร้านรับซื้อของแบรนด์เนมจะเป็นเรื่องสนุกสำหรับคุณอย่างแน่นอน

ร้านรับซื้อต้องมีความน่าเชื่อถือมากเพียงพอ
          สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับร้านรับซื้อของแบรนด์เนมลำดับสุดท้ายนั่นก็คือการถามหาความน่าเชื่อถือจากทางร้านนั้นๆ ซึ่งสมัยนี้การจะตรวจสอบร้านค้าอะไรสักร้านหนึ่งก็สามารถทำได้ไม่ยาก สามารถค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเอาจากรีวิวของลูกค้าคนก่อนๆ ประสบการณ์โดยคร่าวของลูกค้าที่เคยเข้าใช้บริการร้านรับซื้อของแบรนด์เนมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ไม่ยากว่าควรเลือกเดินเข้าร้านนี้หรือไม่

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจในลักษณะนี้ การจะเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมมือหนึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆ คน ดังนั้นสินค้าแบรนด์เนมมือสองจึงก้าวเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมเนื่องจากสินค้าแบรนด์เนมมือสองสภาพดีนั้นสามารถหาได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องซื้อราคาเต็มเท่ากับสินค้าแบรนด์เนมมือหนึ่ง กำไรคือได้ใช้หรือได้สวมใส่ ถ้าหากเบื่อหรือต้องการปล่อยของต่อก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เลือกร้านรับซื้อของแบรนด์เนมที่ไว้ใจได้ เวลาขายออกก็ไม่ต้องกังวลหรือคิดเยอะว่าราคาจะตกเท่ากับการปล่อยสินค้ามือหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตลาดการรับซื้อหรือแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมมือสองจะตีตื้นขึ้นมาในท้องตลาดได้มากขนาดนี้

5
   ยุคนี้เป็นยุคของ Smart items! ไม่ว่าจะเป็นบรรดา Smart Devices ที่ประกอบไปด้วยโทรศัพท์มือถือ Laptop และ Gadget ต่าง ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ Smart Home ที่ช่วยเปลี่ยนบ้านของเราให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะสุดทันสมัย และทำให้การใช้ชีวิตของเราสบายยิ่งขึ้น วันนี้เราจะขอมาแนะนำ 4 อุปกรณ์ Smart Home ที่ต้องมีในปี 2022 รับรองว่าจะช่วยให้บ้านของเราทันสมัยและเปลี่ยนการอยู่บ้านให้กลายเป็นเรื่องที่สนุกขึ้นกว่าเดิม มาดูกันเลย!


3 อุปกรณ์ Smart Home ที่ต้องมี เพื่อชีวิตที่สบายกว่าที่เคย

1. หลอดไฟอัจฉริยะ
   สำหรับอุปกรณ์ Smart Homeแรกที่อยากจะมาแนะนำกันในวันนี้ หลายคนอาจจะนึกว่าเป็นของที่ธรรมดาและดูน่าจะไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้วเจ้าหลอดไฟอัจฉริยะนี้มีประโยชน์มากมายกว่าที่คิดทีเดียว เพราะด้วยความที่สามารถสั่งการได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ทำให้เราสามารถควบคุมการเปิด-ปิด ได้ตลอดเวลา จากทุกที่ทั่วโลก ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเมื่อไหร่ ก็สามารถควบคุมได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวลืมเปิดไฟ หรืออยากจะเปิดให้คนในบ้าน อยากจะปิดไฟแบบไม่ต้องลุกจากที่นอนก็สามารถทำได้ รวมถึงสั่งเปิดไฟก่อนที่จะเข้าบ้านหรือลงจากบ้านในตอนกลางคืนเพื่อป้องกันอันตรายก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งสะดวกแถมช่วยประหยัดไฟ และเพิ่มความปลอดภัยได้อีกด้วย

2. หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ
   ใครที่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้าน ในทุกอาทิตย์ใช้เวลาตลอดวันหยุดไปกับการกวาดถู หรือต้องรู้สึกเซ็งทุกครั้งที่กลับถึงบ้านเพราะฝุ่นเจ้าปัญหาคอยมากวนใจอยู่เสมอ ยิ่งหากบ้านไหนที่เลี้ยงสัตว์ล่ะก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่อุปกรณ์ Smart Home ดี ๆ อย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะจะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป เพราะเพียงแค่เราตั้งเวลาเปิด-ปิด และปล่อยให้เจ้าหุ่นยนต์สุดทันสมัยนี้เดินเล่นไปรอบ ๆ บ้าน ทุกพื้นที่ก็จะสะอาดหมดจด ปราศจากฝุ่น แถมยังเก็บกวาดขนของสัตว์เลี้ยงได้แบบเกลี้ยงเกลา ยิ่งหากใครที่เลือกรุ่นที่มาพร้อมระบบถูพื้น รับรองว่าบ้านจะดูแวววับอยู่เสมอเลยทีเดียว

3. เครื่องชั่งน้ำหนักอัจริยะ
   อีกหนึ่งอุปกรณ์ Smart Home สุดอัจฉริยะที่หลายคนอาจจะรู้จักคุ้นเคยกันดี กับเครื่องชั่งน้ำหนักสุดล้ำสมัยที่ไม่ได้บอกแค่น้ำหนัก แต่ยังสามารถคำนวณผลรวมของร่างกาย รวมถึงบอกรายละเอียดของไขมันที่สะสมอยู่ตามร่างกายได้อย่างครบถ้วน! เรียกได้ว่าถึงแม้ไม่ใช่สายออกกำลังกายควบคุมน้ำหนัก แต่แม้แต่คนที่แค่อยากจะดูแลสุขภาพหรือตรวจเช็กร่างกาย ก็สามารถมีติดบ้านไว้ได้เช่นเดียวกัน รับรองว่าได้ใช้ประโยชน์ด้วยกันทุกคนทุกวัยในบ้านอย่างแน่นอน

6
ของเล่นอัจฉริยะ ของเล่นไฮเทค ที่เด็กยุคใหม่ทุกบ้านต้องมี เพราะนอกจากของเล่นไฮเทคจะมอบความสนุกสนานให้กับพวกเขาแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านการเรียนรู้ให้ด้อย่างก้าวกระโดด เรามาดูกันดีกว่าจะมีวิธีการเลือกของเล่นไฮเทคให้เด็ก ๆ ได้อย่างไร ที่จะได้คุณภาพ มอบทั้งความสนุก เพลิดเพลิน ตลอดจนการเรียนรู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


พ่อแม่ยุคใหม่ รู้ไหมอะไรคือ “ของเล่นไฮเทค”
สำหรับของเล่นอัจฉริยะ นับได้ว่าเป็นของเล่นยุคใหม่ที่มีการผสมผสานระหว่างการพัฒนาเพื่อการเรียนรู้ ตลอดจนความสนุกสนาน และความคิดสร้างสรรค์ เข้าร่วมกับการใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังสร้างความน่าสนใจ และวัดระดับการเรียนรู้ได้อย่างเห็นผล

ลักษณะของเล่นในยุคใหม่ ๆ นอกจากจะสามารถเคลื่อนไหว หรือบังคับได้อย่างอิสระผ่านรีโมทควบคุมแล้ว ยังต้องสามารถควบคุมได้ผ่านสัญญาณไร้สายอินเตอร์เน็ต โดยมีตัวกลางผ่านแอปพลิเคชันที่สามารถสั่งการได้มากกว่าการกดปุ่มคำสั่ง แต่ใช้เสียงได้เพื่อความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ในของเล่นบางชิ้นอาจมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

แล้วจะเลือกของเล่นไฮเทคอย่างไรให้ตอบโจทย์ความสนุก?

วัสดุที่ปลอดภัย ผลิตได้มาตรฐาน
จะไฮเทคแค่ไหนแต่สิ่งแรกที่ต้องคำนึง ยังตคงเป็นเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเป็นสิ่งที่ลูกเล็กเด็กแดงจะต้องใกล้ชิด เราถึงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะมีสิ่งแปลกปลอม หรือระบบอะไรที่ก่ออันตรายกับร่างกายของเด็กได้หรือไม่ ดังนั้น ต้องพิจารณาตั้งแต่วัสดุที่ใช้ในการผลิต มีการเคลือบสารที่ก่ออันตรายต่อระบบร่างกายไหม หรือมีชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่จะสามารถไปติดในร่างกายได้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเปล่า รวมถึงระบบไฟฟ้าในการควบคุมที่ต้องตรวจสอบให้ดี ว่าเชื่อมวงจรได้มาตรฐานเพียงพอพอที่จะไม่เกิดการรั่วไหลใช่หรือไม่ หากทั้งหมดนี้ผ่านการตรวจสอบที่ถี่ถ้วนแล้วว่าปลอดภัย ก็ถือว่าไว้ใจในการเลือกซื้อในระดับนึง

จัดมาตรฐานเหมาะสมกับวัย
ความเหมาะสมของวัยถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ความปลอดภัยแม้แต่น้อย เพราะไอเดียในการผลิต รวมถึงกระบวนการที่ใช้เล่นนั้นจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ในแต่ละช่วงวัยอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น อย่าลืมสังเกตให้ดีว่าของเล่นไฮเทคที่กำลังเลือกซื้อนั้น เหมาะสมกับวัยของลูกรักหรือเด็กที่กำลังจะซื้อให้หรือไม่ เพื่อให้เจ้าตัวเล่นแล้วได้ทั้งความสนุก ทั้งยังได้ประสบการณ์ และประโยชน์จากการเล่นได้อย่างจัดเต็ม

ความสนใจของเด็กเองก็สำคัญ
สิ่งสำคัญลำดับสุดท้าย คือความสนใจของเด็ก เพราะถึงจะซื้อของเล่นที่ดี ืที่แพงมากแค่ไหน แต่ถ้าเจ้าตัวไม่ได้อยากเล่นก็เปล่าประโยชน์ หรือถ้าความสนใจไม่ตรงกัน เล่นสักพักก็อาจจะวางทิ้งไว้จนฝุ่นจับ ให้เปลืองเงินโดยใช่เหตุ ดังนั้น อย่าลืมสำรวจความสนใจของลูกรัก โดยการสังเกตความชอบ ทั้งจากการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้กะทั่งสื่อที่เขาสนใจเป็นพิเศษก็สามารถใช้เป็นหลักในการพิจารณาได้เช่นเดียวกัน

7
    ความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานเป็นเรื่องที่เราจะต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะหากใครที่เคยประสบปัญหาใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจานชามบางชนิด แล้วเกิดอาการแพ้ ซึ่งบางครั้งอาจถึงขั้นร้ายแรงจนต้องไปพบแพทย์ ส่งผลให้กลัวการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ไปเลยทีเดียว หนึ่งในทางเลือกที่หลายๆ คนเลือกใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ต่างๆ จากสารเคมี นั่นก็คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีฉลากเขียว เพราะเป็นการการันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะปลอดสารพิษ ไม่ทำให้เกิดอันตรายขณะใช้งาน อีกทั้งยังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
     ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีฉลากสีเขียวแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอีกหลากหลายรูปแบบที่ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติไม่ทำร้ายผิว สร้างความปลอดภัยขณะใช้งาน ผู้ที่แพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้อย่างสะดวก
    เรามาดูถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีฉลากสีเขียวกันดีกว่าว่า ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง


1. ล้างจานได้หมดจด ไม่ต่างจากน้ำยาล้างจานปกติ
    สำหรับคนที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ล้างที่มีความปลอดภัยทั้งครอบครัว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีฉลากสีเขียว จะช่วยการันตีได้ว่าคุณจะไม่ได้รับสารเคมีต่างๆ ในการใช้งาน และถึงแม้ว่าจะเป็นส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ แต่ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดก็ไม่ต่างไปจากผลิตภัณฑ์ล้างจานทั่วไป เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สีเขียวดีหรือไม่ บอกเลยว่าจะสร้างความคุ้มค่าทั้งในเรื่องประสิทธิภาพการทำความสะอาด และไม่ต้องมากังวลว่าจะเกิดการแพ้อีกด้วย

2. ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
     ผลิตภัณฑ์สีขาวที่มีการผลิตออกมาในท้องตลาด มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดมลภาวะสิ่งแวดล้อมโดยรวมภายในประเทศ รวมถึงในขั้นตอนการผลิต ผู้ผลิตเองจะต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีความสะอาด ไม่ส่งผลกระทบหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยให้เรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจให้เกิดความยั่งยืนด้วย จะเห็นได้ว่าเมื่อเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากสีเขียวก็เท่ากับว่า เราได้ช่วยให้ประเทศของเราเกิดความพัฒนารวมถึงใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในขณะเดียวกันด้วย

3. ปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัว
    ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีฉลากสีเขียว หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฉลากสีเขียวในแบบอื่นๆ คุณยังจะสามารถอุ่นใจได้ถึงเรื่องความปลอดภัยที่ทุกคนภายในบ้านใช้ได้ ไม่ว่าคุณจะใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นภายในบ้าน ที่มีเด็กเล็กอยู่ในบ้าน พวกเขาก็จะไม่ได้รับอันตรายใดๆ จากสารพิษ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์สีเขียวเหล่านี้ ยังอ่อนโยนต่อผิวของคุณ เรียกได้ว่าสามารถช่วยถนอมผิวของคุณได้อีกด้วย

8
   การมีปัญหาทางการเงินไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลวในการบริการจัดการเงินตัวเองเสมอไป เพราะในบางครั้ง ปัญหาและวิกฤตก็อาจถาโถมเข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวจนทำให้สภาพคล่องมีปัญหา หรืออาจเป็นหนี้สินได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งนอกจากจะหันหน้ามาพิจารณารายรับ รายจ่าย ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว การมองหาบริการสินเชื่อเงินสดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินได้เช่นกัน ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าควรจะขอสินเชื่อเงินสดที่ไหนที่มีเงื่อนไขไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน แต่ยังถูกต้องตามกฎหมายและไม่เสี่ยงเจอหนี้นอกระบบ วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 3 ผู้ให้บริการสินเชื่อที่น่าเชื่อถือ ไม่เสี่ยงเป็นเงินกู้ที่ผิดกฎหมาย แถมไม่ใช้คนค้ำและมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นสุด ๆ อีกด้วย แล้วแต่ละที่จะมีข้อดีอย่างไร มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย


SILKSPAN
หากใครกำลังมองหาแหล่งขอสินเชื่อเงินสดอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่สามารถให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยเริ่มต้นไม่แรง และมีความยืดหยุ่นในการผ่อนชำระ บอกเลยว่า SILKSPAN ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งขอสินเชื่อเงินสดคุณภาพดีที่ไม่ควรมองข้าม โดยการขอสินเชื่อกับ SILKSPAN นั้นจะมาพร้อมกับดอกเบี้ยต่ำสุด 7.99% ต่อปี ให้วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท แถมไม่ใช้คนค้ำและหลักทรัพย์อีกด้วย ที่สำคัญ ยังสามารถเลือกผ่อนได้นานกว่า 60 เดือนเลยทีเดียว หากใครกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน อย่าลืมมองหา SILKSPAN ได้ทันที

ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ
   ไม่ว่าจะรถยนต์ มอเตอร์ไซต์ บ้าน หรือมีทรัพย์สินไหน “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ก็พร้อมเป็นอีกหนึ่งแหล่งขอสินเชื่อเงินสดให้ทุกคนได้เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดยสินเชื่อของศรีสวัสดิ์มาพร้อมกับเงื่อนไขสุดลงตัวที่ให้กู้เงินได้สูง 5 เท่าของรายได้ หรือ ไม่เกิน 2 ล้านบาท อีกทั้งยังไม่มีค่าธรรมเนียมในการสมัคร และผู้ใช้บริการยังสามารถวางแผนผ่อนชำระได้ตรงกับความสะดวกของตัวเองอีกด้วย หากใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อกับศรีสวัสดิ์ได้ตลอดเช่นกัน

สมหวัง เงินสั่งได้
   สำหรับใครที่ยังต้องการทางเลือกของผู้ให้บริการขอสินเชื่อเงินสดเพิ่มเติม บอกเลยว่า สมหวัง เงินสั่งได้ ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการที่เต็มไปด้วยคุณภาพ แถมยังมีเงื่อนไขที่ลงตัวต่อคนทุกอาชีพอีกด้วย ซึ่งต่อให้มีรายได้ไม่แน่นอนก็ยังมีโอกาสของสินเชื่อกับทางสมหวังได้ แถมยังมีดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก แต่สามารถได้รับวงเงินที่สมเหตุสมผล และหากใครต้องการปิดบัญชีก่อนกำหนดก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย ถ้าใครอยากได้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการล่ะก็ ติดต่อ “สมหวัง เงินสั่งได้” ได้เลย

เพียงเท่านี้ทุกคนก็ได้รู้จักกับผู้ให้บริการขอสินเชื่อเงินสดที่ถูกต้องตามกฎหมายไปแล้ว หากใครต้องการต่อยอดทางการเงิน หรือ จำเป็นต้องใช้เงินสดเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง อย่าลืมมองหาผู้ให้บริการทั้ง 3 แห่งที่นำมาฝากนี้ด้วยนะ

9
ถ้าพูดถึงเรื่องริดสีดวงหลายคนอาจจะซี๊ดปากไปตาม ๆ กัน เมื่อคิดถึงความทรมานและความเจ็บปวดที่ได้พบ แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นริดสีดวงแตก หรือต้องผ่าริดสีดวง เราจะพาทุกคนไปส่องยาแก้ริดสีดวงที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ว่าแท้จริงแล้ว มีสมุนไพรอะไรบ้างที่เป็นส่วนประกอบ และมีสรรพคุณที่เด็ด ๆ อะไรบ้าง เราลองไปดูกันเลย


เพชรสังฆาต
สำหรับสุดยอดยาแก้ริดสีดวง ที่เป็นสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ต้องเป็นเพชรสังฆาต ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีลักษณะเป็นเถาอ่อนสีเขียว มีเหลี่ยมข้อต่อกัน
สรรพคุณของเพชรสังฆาตที่เป็นยาแก้ริดสีดวงคือ สามารถลดอาการอักเสบ ปวดบวม อันเนื่องมาจากหลอดเลือดดำขยายตัวได้อย่างได้ผล ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำเพชรสังฆาตมาผสมเป็นยาแก้ริดสีดวงแบบเม็ดในรูปแบบสมุนไพร โดยส่วนมากมักจะนำเถามาตากแห้ง จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด ใส่ในแคปซูล เป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดคู่กับการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน
   นอกจากสรรพคุณในการรักษาโรคริดสีดวงแล้ว เพชรสังฆาตยังมีสรรพคุณในเรื่องของการขับลมในลำไส้อีกด้วย

อัคคีทวาร
อัคคีทวารเป็นหนึ่งในยาแก้ริดสีดวงที่เป็นสมุนไพรที่หลายคนชอบใช้กัน โดยอัคคีทวารเป็นพุ่มไม้ยืนต้น ที่ช่วยขับลม และฆ่าเชื้อโรคได้ ที่สำคัญยังใช้เป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคได้ทั้งต้น ราด ดอก และใบ
สำหรับการใช้เป็นยาแก้ริดสีดวง โดยสมุนไพรอัคคีทวาร ให้เรานำรากหรือลำต้นมาาฝนกับน้ำปูนใส ทาที่ริดสีดวงทวาร หรือนำใบมาตาแห้ง บดให้ผง เติมน้ำผึ้งปั้นเป็นเม้ด รับประทานติดต่อกัน 7-10 วัน
อย่างที่บอกว่าอัคคีทวารสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ตั้งแต่ต้น ใบ ราก และดอก ดังนั้น นอกจากใช้เป็นยาแก้ริดสีดวง ยังเป็นสมุนไพรที่บรรเทาได้ทั้งอาการปวดศีรษะเรื้อรัง ความดันโลหิต ยาแก้ไข้ ยาแก้ไข้ คออักเสบ จุกเสียด และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย

ครอบฟันสี
ครอบฟันสีเป็นหนึ่งในยาแก้ริดสีดวงทวาร และเป็นสมุนไพรที่พบเจอได้ง่ายตามริมถนนและพื้นที่รกร้าง ในภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศไทย
ลักษณะต้นของครอบฟันสีจะเป็นต้นขนาดเล็ก ดอกสีเหลือง สามารถใช้รักษาโรคได้นานาชนิด โดยใช้ทั้งต้น ราก และเมล็ดมาล้างให้สะอาด แล้วตากเก็บเอาไว้ใช้เป็นยารักษาโรคได้นาน 
สำหรับการใช้เป็นยาแก้ริดสีดวง จะใช้ส่วนของราก ซึ่งมีรสจืดมาต้มและปรุงเป็นยา โดยสามารถใช้ได้ทั้งดื่ม และล้างภายนอก

สมุนไพรทั้งสามชนิดนี้ สามารถนำมาใช้เป็นตัวยาในการช่วยรักษาโรคริดสีดวงได้ และสามารถใช้ควบคู่ไปกับการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน ช่วยรักษาอาการให้หายป่วยได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

10
   ทุกวันนี้การจะซื้อบ้านสักหลังดูจะเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวกว่าสมัยก่อนไม่น้อย เพราะนอกจากราคาที่สูงขึ้นแล้ว เรื่องของทำเลยังกลายมเาป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คิดไม่ตกอีกด้วย บ้านทำเลดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นชานเมืองหรือในเมืองต่างก็ถูกจับจองไปเสียหมด ครั้นจะอยู่คอนโดก็ดูจะไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หากใครที่กำลังมองหาบ้านทาวน์เฮ้าส์ดี ๆ สักหลัง เราอยากจะขอแนะนำให้รู้จักกับทาวน์เฮ้าส์ย่านรังสิตคลอง 3 ที่เป็นทำเลน่าสนใจไม่น้อย มาดูกันว่าเพราะอะไรย่านรังสิตคลอง 3 จึงเป็นย่านที่น่าอยู่ และการซื้อทาวน์เฮ้าส์คลอง 3 นั้นดีอย่างไร


เหตุผลที่ควรซื้อทาวน์เฮ้าส์ย่านรังสิตคลอง 3

รู้จักย่านรังสิตกันก่อน
   ย่านรังสิตอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ติดกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นย่านที่ไม่ว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพหรือเดินทางออกต่างจังหวัดโซนภาคเหนือหรือภาคอีสานก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก เหมาะกับพนักงานออฟฟิศและคนทุกวัย ซึ่งคลอง 3 ก็คือโซนหนึ่งในรังสิตนั่นเอง

   ถึงแม้จะอยู่แถบชานเมือง แต่การคมนาคมนั้นก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายเพราะมีทางด่วนที่เชื่อมต่อไปทุกย่านในกรุงเทพ และยังอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมืองอีกด้วย

ข้อดีของการซื้อทาวน์เฮ้าส์แถวคลอง 3
1. อยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
   การซื้อบ้านทาวน์เฮ้าส์คลอง 3 นั้นเป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่สาธารณะมากมาย หากจะวางแผนไว้สำหรับอนาคตก็ย่อมทำได้ เพราะมีทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ และสนามบิน มีครบจบในย่านนี้

2. พื้นที่กว้างขวาง
   ปกติแล้วทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านในใจกลางเมืองจะมีพื้นที่จำกัด ทำให้ได้บ้านที่มีขนาดเล็กและแทบจะไม่มีพื้นที่ใช้สอย แต่ทาวน์เฮ้าส์คลอง 3 นั้นมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะกับการพักอาศัยและพักผ่อน มีพื้นที่ใช้สอยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเล็กหรือครอบครัวใหญ่ก็สามารถอยู่ได้สบาย และยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้แบบไม่ต้องกังวลอีกด้วย

3. มีโครงการให้เลือกหลากหลาย
   ทาวน์เฮ้าส์แถวรังสิตคลอง 3 นั้นมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการก็มีดีไซน์ที่แตกต่างกันไป ทั้งดีไซน์มินิมอล ญี่ปุ่น วินเทจ และดีไซน์ยุโรป มีให้เลือกตามสไตล์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะชอบแบบไหนก็สามารถมองหาได้ที่นี่

4. ราคาย่อมเยา
   เพราะเป็นทำเลที่ยังไม่ค่อยมีโครงการเกิดขึ้นใหม่ ๆ มากนัก ราคาจึงย่อมเยากว่าการซื้อทาวน์เฮ้าส์ในตัวเมือง ใครที่มีงบประมาณจำกัด ต้องการจะเผื่องบไว้สำหรับตกแต่งบ้านหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ การซื้อทาวน์เฮ้าส์ย่านรังสิตคลอง 3 ตอบโจทย์แน่นอน

11
เปิดโพลคนชอบกินป๊อกกี้ รสชาติไหนโดนใจสุด มาดูกันเลย

เชื่อว่าคงจะไม่มีใครไม่รู้จักกูลิโกะ ป๊อกกี้ ขนมแท่งเคลือบช็อกโกแลต หรือสตรอว์เบอร์รี บรรจุอยู่ในกล่อง เวลาเครียด ๆ กินเพลิน ๆ แป๊บเดียวก็หมดกล่อง เรียกว่าถูกใจทั้งผู้หญิงและผู้ชายกันเลยทีเดียว

นอกจากการนำมากินแบบเล่น ๆ ก็มีหลายคนนำป๊อกกี้ไปใส่ประดับเอาไว้ในขนมชนิดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม เค้ก หรือว่าคัพเค้ก วันนี้เราเลยจะลองพาทุกคนลองไปสำรวจดูว่า ป๊อกกี้รสชาติไหน โดนใจคนกินแบบสุด ๆ ไปดูกันเลย

ขอขอบคุณภาพจาก Makroclick.com

รสช็อกโกแลต
   ป๊อกกี้รสยอดฮิตที่สุด เห็นทีจะไม่พ้นรสช็อกโกแลตที่ทุกคนโปรดปราน เรียกว่าถ้าพูดถึงกูลิโกะ ป๊อกกี้ กล่องสีแดงของรสช็อกโกแลตก็แทบจะขึ้นมาในหัวมาทันที เรียกว่าเป็นรสยอดนิยมที่แทบทุกคนจะชอบกินกัน เพราะความขมและหวานกำลังดี บวกกับแท่งบิสกิตที่กรุบกรอบ ทำให้รสช็อกโกแลตครองใจของผู้บริโภคในทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว

รสสตรอว์เบอร์รี
   สำหรับรสชาติที่สองที่ตามกันมาติด ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น รสสตรอว์เบอร์รี ที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี ทำให้ครองใจสาว ๆ และในบางครั้งก็มีหนุ่ม ๆ มาติดใจไม่น้อย แม้ว่าจะมีกล่องสีชมพูหวานแหววก็ไม่หวั่นอยู่ดี นอกจากรสชาติแล้ว ความหอมของรสสตรอว์เบอร์รีที่แต่งกลิ่นมาเบา ๆ มาให้ได้ฟีลเหมือนกับกินลูกสตรอว์เบอร์รีจริง ๆ ก็ช่วยทำให้ป๊อกกี้มีรสชาติและความหอมครองใจใครหลาย ๆ คน

รส Almond Crush
   สำหรับใครที่ชื่นชอบความกรุบกรอบของอัลมอนด์ และชอบรสชาติของช็อกโกแลตต้องลองรส Almond Crush ที่กินเพลิน และเหมาะมากเวลาที่เครียด ๆ แล้วอยากจะเคี้ยวอะไรกรุบ ๆ แต่ยังมีรสชาติหวาน ๆ อยู่ เรียกได้ว่า ถ้าใครชื่นชอบถั่วและช็อกโกแลตละก็ จะต้องยอมแพ้ให้กับป๊อกกี้รสนี้อย่างแน่นอน

รสนม
   ป๊อกกี้รสนม แม้ว่าจะไม่ได้ฮิตเท่ากับ 3 รสชาติแรก แต่ก็มีหลายคนที่ความหอม มัน และหวานของนมที่เคลือบแท่งบิสกิตอยู่เช่นกัน แต่เหมือนกับว่าตอนนี้ป๊อกกี้รสนมจะเลิกผลิตในไทยแล้ว จะต้องซื้อแบบที่ Import มาจากต่างประเทศเท่านั้น แต่รสชาติความอร่อยนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย

รสคุกกี้แอนด์ครีม
   แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีรสนมผลิตในไทย แต่ก็มีรสคุกกี้แอนด์ครีมวางขายอยู่ ซึ่งนอกจากจะมีรสครีมที่เหมือนรสชาติของนมแล้ว ยังมีรสชาติของคุกกี้ช็อกโกแลตผสมอยู่ในเนื้อ เพิ่มมิติของรสสัมผัสได้ และด้วยเหตุนี้ รสคุกกี้แอนด์ครีมจึงเบียดเข้าเส้นชัยในท้ายที่สุดนั่นเอง

ป๊อกกี้ได้มีการผลิตรสชาติต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมีรสชาติที่หารับประทานไม่ได้ มีเฉพาะในพื้นที่ก็มีมาก และแต่ละรสชาติก็มีเอกลักษณ์ที่ทำให้หลายคนติดใจ

12
   ช่วงนี้ การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องและล้นหลาม เนื่องมาจากเทรนด์ของการทำการตลาดออนไลน์เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคโลกาภิวัตน์และยุค New Normal เมื่อคนมีแนวโน้มเสิร์ชหาคำตอบจาก Search Engine หลายเว็บจึงอยากลองทำ SEO ให้ติดอันดับดี ๆ บ้าง ซึ่ง SEO ก็มีทั้งสายขาว สายดำ และสายเทา บทความนี้จะพาไปรู้จักกันว่า SEO สายดำ คืออะไร แตกต่างและเสี่ยงกว่าการทำแบบอื่นอย่างไรบ้าง ถ้าหากไม่อยากให้เว็บโดนแบน ต้องอ่าน!


SEO สายดำคืออะไร?
   การทำ SEO สายดำ เป็นการใช้เทคนิคในการปรับปรุงเว็บไซต์ที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ทาง Google Webmaster Guidelines หรือ Search Engine อื่น ๆ กำหนดไว้ โดยอาจใช้เทคนิคซิกแซกหลบเลี่ยงเพื่อใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของอัลกอริทึม มักจะเป็นคอนเทนต์ในลักษณะที่ไม่ได้ตอบโจทย์ผู้อ่านโดยตรง แต่เน้นปั๊มคีย์เวิร์ดหรือคอนเทนต์ซ้ำ ๆ เพื่อหวังผลทางตัวเลขมากกว่า ซึ่งแม้จะทำให้อันดับของเว็บเลื่อนอย่างรวดเร็ว แต่ก็อาจเสี่ยงในการโดนแบนได้
   การทำ SEO สายดำอาจทำได้โดยการซ่อนคอนเทนต์หลายเวอร์ชั่นให้บอทกับผู้อ่านจริงเห็น หรือเลือกใช้ตัวอักษรสีเดียวกับพื้นหลังเพื่อไม่ให้ผู้อ่านเห็นคอนเทนต์ที่อัดแน่นไปด้วยคีย์เวิร์ด การจงใจใช้คีย์เวิร์ดซ้ำ ๆ และรวมไปถึงการใส่ลิงก์สแปม

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง SEO สายขาว สายเทา และสายดำ
   SEO สายขาวเป็นการทำ SEO ที่ยึดหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องตาม Google ประกาศ แม้อาจจะต้องใช้เวลาในการลงมือและลงสมองเพื่อสร้างทั้งคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์และตัวเว็บที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ แต่คุณภาพของเว็บจะสูงและไม่เสี่ยง ตรงกันข้ามกับการใช้เทคนิคแบบ SEO สายดำ คือการทำ SEO แบบหลบเลี่ยงเพื่อหวังผลในการไต่อันดับอย่างรวดเร็วโดยไม่แคร์คุณภาพของคอนเทนต์ ส่วน SEO สายเทาคือการใช้เทคนิคทั้งสองแบบผสมผสานกัน ซึ่งในทางปฏิบัติสามารถทำได้ แต่จะให้มั่นใจจริง ๆ ควรทำให้ถูกหลักการจะดีกว่า เพราะการโดนปิดเว็บอาจได้ไม่คุ้มเสีย

บทลงโทษของ SEO สายดำ ที่คุณต้องระวัง
   ความเสี่ยงของการทำ SEO สายดำ คือ อาจโดนตัดคะแนนเว็บไซต์ โดนลดอันดับในผลการค้นหา หน้าเพจไม่แสดงใน Search Engine และร้ายแรงที่สุดคือเว็บถูกสั่งแบนหรือปิดไปเลย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายแล้วไม่คุ้มค่าเอามาก ๆ จึงแนะนำว่าใครที่ต้องการทำการตลาดด้วย SEO ควรใช้วิธีการที่ถูกต้องจริง ๆ

ได้รู้กันไปแล้วว่า SEO สายดำคืออะไร แล้วควรทำหรือไม่ หากใครที่ต้องการทำ SEO อย่าลืมทำตามขั้นตอนและไกด์ไลน์ต่าง ๆ ให้ถูกต้อง เพื่อจะได้ประโยชน์จากการปรับปรุงเว็บไซต์มากที่สุด

13
   ถ้าพูดถึงอาหารทะเลจากแดนอาทิตย์อุทัย นอกจากปลาดิบหรือซาชิมิที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากความสด อร่อย ไม่เหมือนเนื้อปลาชนิดไหน ๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่า “เนื้อหอยเชลล์” นี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดป๊อปปูลาร์ ที่มอบความหนึบ เด้ง และสดใหม่จากท้องทะเล แถมยังสะอาดจริงจนถึงขนาดที่รับประทานสด ๆ แบบซาชิมิได้เลย แต่ด้วยความที่บ้านเราต้องอาศัยการนำเข้า หลายคนจึงไม่รู้ว่าจะซื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่นเกรดซาชิมิที่ไหนให้ได้ของสดจริง ไม่เก่าหรือผ่านกระบวนการแช่แข็งจนเสียรสชาติที่ดีที่สุดไป วันนี้เราก็ได้รวบรวมร้านที่น่าสนใจมาให้แล้วถึง 3 แห่งด้วยกัน


หอยเชลล์จากญี่ปุ่น สั่งในไทยได้ของสดจริงหรือ?
   ก่อนจะไปดูร้านที่เราแนะนำ มาทำความเข้าใจกันก่อน เพราะหลายคนสงสัยว่า ในเมื่อซื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่นเกรดซาชิมิก็ต้องมีขั้นตอนการขนส่งและนำเข้าที่นาน แล้วจะต่างอะไรกับการกินอาหารแช่แข็ง ต้องบอกก่อนว่า หอยเชลล์เกรดซาชิมิที่นำเข้ามานั้นได้ผ่านนวัตกรรมการแช่แข็งที่ทันสมัยมาก ๆ เรียกว่า เทคโนโลยี CAS (Cells Alive System) ซึ่งใช้การสร้างสนามแม่เหล็กเพื่อให้น้ำในอาหารสั่นจนกระทั่งลดอุณหภูมิลง ไม่ใช่การพ่นลมเย็นจนอาหารแข็งตัวเหมือนการแช่แข็งทั่วไป เพราะฉะนั้น เมื่อละลายน้ำแข็งแล้วหอยจึงมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มเหมือนเดิม เนื่องจากเซลล์เนื้อเยื่อยังไม่ถูกทำลาย

แนะนำ 3 ร้าน ซื้อหอยเชลล์เกรดซาชิมิได้จากที่ไหน

1. Food Guru - ร้านแรกเป็นเจ้าแม่อาหารนำเข้า โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จากญี่ปุ่น ซึ่งคัดแต่สินค้าเกรดพรีเมียม สด สะอาด ทั้งยังมีเทคโนโลยีรักษาคุณภาพขณะขนส่งตามมาตรฐานสากล การซื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่นเกรดซาชิมิที่นี่มั่นใจได้เลย เพราะหอยได้จากชายฝั่งซันริกุ จังหวัดมิยากิ แหล่งที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและระบบนิเวศอันเกิดจากการไหลมารวมกันของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็น สั่งซื้อได้ที่ foodguru.co.th

2. SeaMeNow Seafood อีกหนึ่งตัวเลือกหอยเชลล์สดใหม่พรีเมียมที่โอมากาเสะหลายร้านเลือกใช้ เพราะส่งตรงจากชายฝั่งซันริกุ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งหอยเชลล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน มั่นใจได้เลยในความอร่อยและไซส์ใหญ่ รับประทานสดได้เต็มคำ สามารถซื้อแยกตัวหรือแพ็ก 4 ชิ้นก็ได้ สั่งได้ที่ seamenow.co

3. Omakanesh Thailand แหล่งรวมเซ็ตโอมากาเสะเจ้าดังอีกแห่งหนึ่งที่สามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสด ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นไปรับประทานได้ จะซื้อแยกชนิดหรือจัดเซ็ตรวมหลายอย่างก็มีให้เลือกมากมาย หอยเชลล์ที่นี่เป็นหอยเชลล์โฮตาเตะซาชิมิจากฮอกไกโด ได้เนื้อที่นุ่ม เด้ง สดใหม่ สั่งซื้อได้ทาง omakaneshthailand.com

ใครอยากสั่งซื้อหอยเชลล์ญี่ปุ่นเกรดซาชิมิ และเมนูซาชิมิอื่น ๆ สามารถเลือกดูจาก 3 ร้านที่เราแนะนำกันไปได้เลย มั่นใจ สดชัวร์

14
   หลังฉีดฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าไปแล้ว จะต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ให้ปลอดภัย พร้อมได้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างดีที่สุด วันนี้เรามีคำตอบมาให้ ไขทุกข้อสงสัย ว่าหลังฉีดฟิลเลอร์แล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง พร้อมข้อห้ามและสิ่งที่ควรทำเพื่อให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวคุณเอง จะมีสิ่งที่ต้องทำตามหลังหลังฉีดฟิลเลอร์อะไรบ้างต้องไปดูพร้อมกัน


หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วห้ามทำอะไรบ้าง?
   ข้อห้ามหลังจากการฉีดฟิลเลอร์นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นข้อห้ามที่น่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แต่เพื่อความชัดเจนในสิ่งที่ไม่ควรทำและความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทุกคนที่ไปฉีดฟิลเลอร์มาควรทำตามอย่างเคร่งครัด โดยมีข้อห้ามดังต่อไปนี้
        - ไม่ควรจับ นวดหรือบีบบริเวณที่ไปฉีดฟิลเลอร์มา เพราะช่วงแรก ๆ นั้นอาจจะมีการเกิดเป็นก้อนแข็งหรือเป็นก้อนนูนขึ้นมาได้ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไป คนที่ไม่รู้ก็อาจจะนวดหรือกดบริเวณนั้น ซึ่งความจริงแล้วไม่ควรกด นวด หรือบีบบริเวณที่เป็นก้อน เพราะจะสามารถทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ อาจจะส่งผลให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปนั้นไม่ได้ผล หรือเกิดความคลาดเคลื่อนได้
        - ทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์นั้น สิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดเลยก็คือการรับประทานยาที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างเช่นแอสไพริน บูโทเฟนและยาแก้ปวดต่าง ๆ เพราะเมื่อเราทำหการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในผิวนั้น ตัวฟิลเลอร์อาจจะเข้าไปกระทบกับเส้นเลือดฝอยและทำให้เส้นเลือดฝอยเกิดการแตกตัวได้ การกินยาประเภทที่ต่อต้านการแข็งตัวของเลือก จะทำให้มีอาการที่อันตรายหรือเกิดรอยช้ำแดงมากกว่าปกติตามมาได้
        - ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์และไม่ควรสูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะสิ่งเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับผลลัพธ์ที่ได้หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว เพราะทั้งแอลกอฮอล์และบุหรี่นั้นจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้ได้ผลน้อยลง ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อยมากกว่าเดิม อีกทั้งยังไม่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย

นอกจากข้อห้ามทำแล้ว มีอะไรบ้างที่ควรทำเพื่อผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ดี?
   นอกจากสิ่งที่ห้ามทำข้างต้นแล้ว ก็มีสิ่งที่คุณควรปฏิบัติตาม เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์นั้นดีมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ในนานขึ้น อย่างเช่นการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่ดูดซับน้ำเอาไว้ ดังนั้นการดื่มน้ำเยอะ ๆ จึงช่วยทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น อีกทั้งการดื่มน้ำอย่างพอดียังช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกอีกด้วย ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และหลีกเลี่ยงอาหารประเภทปิ้งย่างหรือหม้อร้อนในช่วง 7 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามที่ต้องการ

15
   “คลีนเซอร์” หรือผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้านั้นมีคุณสมบัติในการล้างทำความสะอาดใบหน้า โดยมีสูตรที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย สำหรับผู้เป็นสิว สูตรหน้าแห้ง หรือแม้กระทั่งสูตรหน้ามัน ที่เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความเหมาะสม ยิ่งใครที่เป็นคนที่มีผิวหน้ามันแล้วละก็ แน่นอนว่าคุณจะต้องเจอกับปัญหาสิวต่าง ๆ มากมาย ซึ่งวิธีที่จะช่วยลดปัญหาสิวได้นั้นก็ต้องเริ่มจากการดูแลผิวหน้าให้สะอาดด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าที่เหมาะสมกับผิวหน้า วันนี้เราเลยขออาสามารีวิวคลีนเซอร์สำหรับคนหน้ามันว่ามียี่ห้อไหนบ้างที่เราอยากแนะนำ ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยดีกว่า


Acne-Aid Liquid Cleanser
     ก่อนอื่นเราขอมารีวิวคลีนเซอร์สำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน และเป็นสิวง่ายก็ต้องลองใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เลยกับ Acne-Aid Liquid Cleanser ขวดสีขาวแดงที่มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษในการลดความมันของใบหน้าที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดสิว ด้วยเนื้อสัมผัสที่มีความเบานุ่มลื่น อ่อนโยน ปราศจากสบู่และสารเคมีอื่น ๆ ที่ทำให้การล้างหน้าทำความสะอาดสามารถทำได้อย่างล้ำลึก โดยไม่เกิดการระคายเคืองแต่อย่างใด ที่สำคัญคุณยังสามารถซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกทั่วไป อาทิ Watson’s, Lotus, Big C หรือ Boost ในราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนที่มีผิวหน้ามันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

Cerave Foaming Cleanser
     ผลิตภัณฑ์คลีนเซอร์สำหรับคนผิวมันตัวถัดมาที่เราจะมารีวิวกันนั้นก็คือ Cerave Foaming Cleanser ที่สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายบริเวณแผ่นหลังที่เกิดสิวได้ง่าย ซึ่งจุดเด่นของคลีนเซอร์ตัวนี้อยู่ที่ส่วนประกอบสำคัญที่มาพร้อมกับเซราไมด์ที่จำเป็น 3 ชนิด ได้แก่ 1, 3 และ 6-II โดยส่วนประกอบนี้ทำให้การล้างหน้าทำความสะอาดสามารถทำได้อย่างเกลี้ยงเกลาและช่วยขจัดความมันส่วนเกินต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังมีกรดไฮยาลูโรนิกที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้าไม่ดูแห้งกร้านหรือเหี่ยวย่นอีกด้วย

La Roche Posay Effaclar
     รีวิวคลีนเซอร์ตัวสุดท้ายกับผลิตภัณฑ์ La Roche Posay Effaclar สูตรสำหรับคนหน้ามันที่มีปัญหาสิวเป็นหลัก โดยสูตรนี้มีส่วนผสมของ pH5.5 ที่สมดุล ใช้แล้วไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง อ่อนโยนต่อผิว ด้วยเนื้อโฟมที่มีลักษณะขาวใส หอมสะอาด ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสดชื่นทุกครั้งหลังใช้ อีกทั้งไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะให้ใบหน้าแต่อย่างใด พกพาง่ายสะดวก ในราคาหลักร้อยเท่านั้น

     จบไปแล้วกับการรีวิวคลีนเซอร์กับ 3 ผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการล้างทำความสะอาดที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นสิวได้ง่าย หากใครกำลังมองหาโฟมล้างหน้าตัวใหม่ ก็ลองอ่านรายละเอียดของผลิตภัณฑ์แต่ละตัวก่อนตัดสินใจซื้อก่อนได้
 

หน้า: [1]