1
แฟรนไชส์เครื่องดื่มและไอศกรีม | Beverage & Icecream Franchises / Re: สอบถามค่ะ
« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2009, 04:47:33 AM »
ตอบคุณ sarunwalai ครับ
เรียนว่าในการซื้อแฟรนไชส์เพื่อเปิดดำเนินธุรกิจนั้น เงินลงทุนจะแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือค่าเครื่องมืออุปกรณ์ และค่าสิทธิหรือค่าแฟรนไชส์ซึ่งมีราคาสูงบ้างต่ำบ้าง แต่ก็มีแฟรนไชส์เป็นจำนวนมากที่คิดค่าแฟรนไชส์ และก็มีแฟรนไชส์อีกหลายแห่งที่ไม่คิดราคาค่าแฟรนไชส์ (หรือฟรีค่าแฟรนไชส์นั่นเองครับ) กาแฟสวัสดี และ Coffee Love นี่ก็เป็นแฟรนไชส์ประเภทที่ไม่คิดค่าแฟรนไชส์
การลงทุนเป็นธุรกิจกาแฟ เป็นการลงทุนที่เรียกว่า "ต่ำ" มากครับ เงินลงทุนทั้งหมดเบื้องต้น เบื้องต่ำอยู่ที่ไม่เกิน ๑ แสนบาท ซึ่งหลายๆ ครั้ง สามารถกำหนดให้ต่ำกว่าห้าหมื่นบาทด้วยซ้ำไป อันเป็นการลงทุนต่ำกว่าหลายธุรกิจมาก
หลายครั้ง ความ"อยากเปิด" ของลูกค้าโดยไม่มีความพร้อมทั้งด้านเวลา เงินทุน ความตั้งใจจริง ไม่ได้หมายความว่าเมื่อได้เปิดแล้วจะสามารถนำพาธุรกิจให้ไปรอดเกินกว่า ๓ เดือน ๖ เดือนได้นะครับ จากประสบการณ์ในการเป็นพี่เลี้ยงให้ร้านกาแฟสดมานับพันรายทั่วประเทศ ทัศนคติแบบ "ถูกเข้าว่า" ทำให้เราเองและเจ้าของแฟรนไชส์หลายๆแห่งไม่ขายแฟรนไชส์ให้ลูกค้าที่มีทัศนคติแบบนี้
เพราะ "ขาดคุณสมบัติ"ในการเป็นเจ้าของกิจการครับ
ส่วนการลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์แบบประหยัดที่สุด ก็จะได้รับเครื่องชงกาแฟยี่ห้อฝรั่งที่ผลิตในจีนอันมีอายุการใช้งานจริงไม่เกิน ๒ เดือนก็พังเสียเวลาซ่อม เจ้าของแฟรนไชส์ก็ต้องวิ่งบริการลูกค้ากันแทบแย่
และเครื่องเล็กๆ ก็ไม่มีความสามารถในการชงกาแฟให้อร่อยได้ เมื่อลูกค้า "พลาด"มาเสียเงินซื้อกาแฟแล้วครั้งหนึ่ง ก็ย่อมไม่กลับมาซื้อซ้ำ ร้านกาแฟนั้นก็ไปได้ไม่นาน
เปรียบกับร้านกาแฟที่ลงทุนอย่างชาญฉลาด ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงมาก แต่ต้องเป็นเครื่องชงกาแฟที่มีประสิทธิภาพสมราคา แม้จะไม่ถูกที่สุด แต่ก็ไม่แพงมากนัก ทนทาน และมีประสิทธิภาพในการชงคั้นกลิ่นและรสชาติกาแฟออกมาอย่างครบถ้วน ที่ลูกค้าบังเอิญผ่านมาซื้อชิมเข้า แล้วเกิดความประทับใจ แวะเข้ามาซื้อทุกครั้งที่มีโอกาส
การลงทุนในเมล็ดกาแฟก็เช่นกัน ไม่มีทางที่ร้านกาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟราคาถูกที่สุด จะมีกลุ่มลูกค้าประจำได้
ในฐานะเจ้าของแฟรนไชส์หรือเจ้าของแบรนด์ เราต้องจับจุดยืนให้ได้ครับ ว่าต้องการขายแบรนด์ที่มั่งคงยืนยาว แม้จะไปช้า หรือต้องการให้ขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็วแบบเอาจำนวนเข้าว่า...
การขายเงินผ่อนให้กับลูกค้าเป็น "ข้อควรหลีกเลี่ยง" ครับ คงไม่ต้องอธิบายว่าทำไมนะครับ
ที่เรียนแนะนำเช่นนี้ ก็พยายามให้คุณดำรงจุดยืนให้แน่วแน่ครับ ขายแฟรนไชส์ยาก ดีกว่าขายแล้วมีปัญหา ทำให้เสียชื่อแบรนด์อีกนะครับ
ตอบโดยสรุป คือ เราไม่เน้นขายแฟรนไชส์ครับ เราเน้นให้แฟรนไชส์เราอยู่ได้ มีผลประกอบการที่ดีครับ
เรียนว่าในการซื้อแฟรนไชส์เพื่อเปิดดำเนินธุรกิจนั้น เงินลงทุนจะแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือค่าเครื่องมืออุปกรณ์ และค่าสิทธิหรือค่าแฟรนไชส์ซึ่งมีราคาสูงบ้างต่ำบ้าง แต่ก็มีแฟรนไชส์เป็นจำนวนมากที่คิดค่าแฟรนไชส์ และก็มีแฟรนไชส์อีกหลายแห่งที่ไม่คิดราคาค่าแฟรนไชส์ (หรือฟรีค่าแฟรนไชส์นั่นเองครับ) กาแฟสวัสดี และ Coffee Love นี่ก็เป็นแฟรนไชส์ประเภทที่ไม่คิดค่าแฟรนไชส์
การลงทุนเป็นธุรกิจกาแฟ เป็นการลงทุนที่เรียกว่า "ต่ำ" มากครับ เงินลงทุนทั้งหมดเบื้องต้น เบื้องต่ำอยู่ที่ไม่เกิน ๑ แสนบาท ซึ่งหลายๆ ครั้ง สามารถกำหนดให้ต่ำกว่าห้าหมื่นบาทด้วยซ้ำไป อันเป็นการลงทุนต่ำกว่าหลายธุรกิจมาก
หลายครั้ง ความ"อยากเปิด" ของลูกค้าโดยไม่มีความพร้อมทั้งด้านเวลา เงินทุน ความตั้งใจจริง ไม่ได้หมายความว่าเมื่อได้เปิดแล้วจะสามารถนำพาธุรกิจให้ไปรอดเกินกว่า ๓ เดือน ๖ เดือนได้นะครับ จากประสบการณ์ในการเป็นพี่เลี้ยงให้ร้านกาแฟสดมานับพันรายทั่วประเทศ ทัศนคติแบบ "ถูกเข้าว่า" ทำให้เราเองและเจ้าของแฟรนไชส์หลายๆแห่งไม่ขายแฟรนไชส์ให้ลูกค้าที่มีทัศนคติแบบนี้
เพราะ "ขาดคุณสมบัติ"ในการเป็นเจ้าของกิจการครับ
ส่วนการลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์แบบประหยัดที่สุด ก็จะได้รับเครื่องชงกาแฟยี่ห้อฝรั่งที่ผลิตในจีนอันมีอายุการใช้งานจริงไม่เกิน ๒ เดือนก็พังเสียเวลาซ่อม เจ้าของแฟรนไชส์ก็ต้องวิ่งบริการลูกค้ากันแทบแย่
และเครื่องเล็กๆ ก็ไม่มีความสามารถในการชงกาแฟให้อร่อยได้ เมื่อลูกค้า "พลาด"มาเสียเงินซื้อกาแฟแล้วครั้งหนึ่ง ก็ย่อมไม่กลับมาซื้อซ้ำ ร้านกาแฟนั้นก็ไปได้ไม่นาน
เปรียบกับร้านกาแฟที่ลงทุนอย่างชาญฉลาด ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงมาก แต่ต้องเป็นเครื่องชงกาแฟที่มีประสิทธิภาพสมราคา แม้จะไม่ถูกที่สุด แต่ก็ไม่แพงมากนัก ทนทาน และมีประสิทธิภาพในการชงคั้นกลิ่นและรสชาติกาแฟออกมาอย่างครบถ้วน ที่ลูกค้าบังเอิญผ่านมาซื้อชิมเข้า แล้วเกิดความประทับใจ แวะเข้ามาซื้อทุกครั้งที่มีโอกาส
การลงทุนในเมล็ดกาแฟก็เช่นกัน ไม่มีทางที่ร้านกาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟราคาถูกที่สุด จะมีกลุ่มลูกค้าประจำได้
ในฐานะเจ้าของแฟรนไชส์หรือเจ้าของแบรนด์ เราต้องจับจุดยืนให้ได้ครับ ว่าต้องการขายแบรนด์ที่มั่งคงยืนยาว แม้จะไปช้า หรือต้องการให้ขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็วแบบเอาจำนวนเข้าว่า...
การขายเงินผ่อนให้กับลูกค้าเป็น "ข้อควรหลีกเลี่ยง" ครับ คงไม่ต้องอธิบายว่าทำไมนะครับ
ที่เรียนแนะนำเช่นนี้ ก็พยายามให้คุณดำรงจุดยืนให้แน่วแน่ครับ ขายแฟรนไชส์ยาก ดีกว่าขายแล้วมีปัญหา ทำให้เสียชื่อแบรนด์อีกนะครับ
ตอบโดยสรุป คือ เราไม่เน้นขายแฟรนไชส์ครับ เราเน้นให้แฟรนไชส์เราอยู่ได้ มีผลประกอบการที่ดีครับ