(https://www.img.live/images/2020/02/12/mother-84628_640.md.jpg) (https://www.img.live/image/abcxx5)
เวลาที่ลูกร้องไม่หยุด (https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1729148) เชื่อว่าคุณแม่คุณพ่อมือใหม่หลายๆ คนจะต้องกังวลแน่นอนว่า ลูกน้อยเป็นอะไร แต่ถ้าลูกร้องไห้ไม่หยุด อาจจะเป็นอาการที่บ่งบอกว่าลูกของเรามี อาการโคลิค สัญญาณของปัญหาที่พบมากคือ ทารกท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องป่อง หงุดหงิด ร้องไห้มาก คุณแม่ส่วนใหญ่รับมือกับอาการเหล่านี้ด้วยการอุ้มพาดบ่าให้เรอออกมา ลูบหรือตบหลังเบา ๆ รวมทั้งใช้มหาหิงคุ์ทาบริเวณหน้าท้อง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของลูกโดยไม่เป็นอันตราย สิ่งที่ควรระวังคือ การซื้อยามากินเอง แม้จะเป็นยาสำหรับเด็กแต่มีความเสี่ยงให้กินยาเกินขนาดหรือกินยารักษาไม่ถูกโรค ทำให้อาการเจ็บป่วยของลูกไม่บรรเทาลง ส่งผลให้เกิดความเครียดทั้งต่อตัวเด็กเองและภาวะเครียดในครอบครัว
โดยอาการของโคลิคที่เราเห็นได้ชัดก็คือ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ (https://pantip.com/topic/30755282)ใน ช่วงเวลาเย็นหรือกลางดึกเป็นประจำ ร้องนานเป็นชั่วโมงหรือหลายชั่วโมง เป็นแบบนี้ติดต่อกันหลายวัน มีอาการที่อาจสังเกตได้บางอย่าง เช่น ท้องแข็ง ปวดท้อง เรอบ่อย พ่อแม่ส่วนใหญ่ซื้อยามาให้ลูกกินเองเพราะดูเหมือนไม่ใช่อาการร้ายแรง อีกทั้งเจ้าตัวน้อยมักจะหยุดร้องไห้เองเสมอ เมื่อเด็กต้องกินยา ต้องกินตามอายุหรือน้ำหนัก ถ้าเป็นยาที่แพทย์ไม่ได้สั่งโดยตรงจะให้ปริมาณที่ถูกต้องแม่นยำ การซื้อยาให้กินเองพบว่า กินเกินขนาดบ่อย ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายของเด็ก แม้แต่ยาแก้ไอหรือยาแก้ปวดก็ยังเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจได้เหมือนกัน โดยถ้าเด็กมีอาการร้องไห้แนะนำให้พ่อแม่รีบปลอบโยนลูกโดยทันทีนะ
การดูแลลูกน้อยที่เป็นโคลิคควรสังเกตอาการว่า เด็กร้องไห้ ด้วยเหตุผลใดบ้าง ในเบื้องต้นอาจเกิดจากลมหรือแก๊สในท้องทำให้ปวดท้อง กินนมอิ่มแล้วไม่เรอออกมาทำให้จุกเสียดแน่นท้อง การแพ้โปรตีนจากนมวัว กรดไหลย้อน ผื่นผ้าอ้อม เสียงหรือแสงมากเกินไปจนนอนไม่หลับ อาการร้องไห้โยเยเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กอ่อนแต่ถ้ามีอาการผิดปกติร่วมด้วยอย่างเช่นอาเจียน ตัวอ่อนปวกเปียก ไม่ยอมกินนมเกิน 2 มื้อ ท้องเสีย ท้องผูกนาน แต่หากลูกน้อยของเรามีอาการค่อนข้างหนัก แนะนำให้ไปพบแพทย์โดนทันทีเลย
ทั้งนี้ อาการโคลิค ส่งผลต่อร่างกายร้ายแรงกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ ปัญหานอนไม่หลับ ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกน้อย หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อโตขึ้น ดังนั้นหากลูกมีอาการโคลิคแนะนำให้ขอคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้ได้ดูแลลูกได้อย่างดีนะ