ThaiFranchiseCenter Webboard

การให้บริการทางธุรกิจ | Business Service => การเงิน | Finance => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ ธันวาคม 30, 2019, 08:03:06 AM

หัวข้อ: แอลทีเอฟ
เริ่มหัวข้อโดย: อัญณา ที่ ธันวาคม 30, 2019, 08:03:06 AM
เชื่อได้เลยว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากมีเรื่องของการทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษี (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/10-things-to-know-before-buy-insurance-to-reduce-tax.html)แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องของ กองทุน ltf (https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/fund/long-term-equity-fund.html) ซึ่งเมื่ออ่นมาจนถึงตอนนี้แล้ว ย่อมมีคนที่สงสัยใช่หรือไม่ว่าตกลงแล้ว การรวมเงินทุนอย่างกองทุนแอลทีเอฟคืออะไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้กันแล้ว
สำหรับแอลทีเอฟนั้น เป็นการรวมเอาเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป โดยจะมีการรวมเงินเป็นก้อนที่มีขนาดใหญ่มากๆ แล้วนำเงินที่รวมได้ไปลงทุนที่หลักทรัพย์ต่างๆ จากการที่นโยบายของการโฆษณาได้ทำไว้นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นช่องทางสำหรับการออมเงินนั่นเอง เพราะปกติแล้ว การออมเงินกับมนุษย์เงินเดือนต่างๆ นั้น มีได้หลายแบบ บ้างก็ฝากประจำบ้าง บ้างก็เก็บเงินซื้อทองบ้าง แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนในกองทุนรวมนั้น คือช่องทางการออมเงินที่มนุษย์เงินเดือนอยากจะให้เงินทำงาน ทำให้เงินนั้นมีความงอกเงย และเป็นการลงทุนที่ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไปนัก ไม่ต้องมาอ่านหรือศึกษาเรื่องการเทรดหุ้น อย่างบางคนที่ศึกษาเรื่องการเทรดหุ้นและล้มเหลว บางทีก็เกิดจากการที่หลายๆ คนไม่ได้ศึกษาอย่างถี่ถ้วนนั่นเอง
1.   อันดับหนึ่งนั้นให้คุณต้องรู้ว่า ระยะเวลาของการลงทุนของเรานั้น เป็นอย่างไรกันแน่ บางคนอยากลงทุนระยะยาว บางคนอยากลงทุนระยะสั้น หรือบางคนมีเงินทุนที่อยู่ในแบบจำกัด และที่สำคัญก็คือ เงินที่เราจะเอาไปลงทุนนั้นจะต้องเป็นเงินก้อนที่เราไม่ได้อยากจะไปใช้อะไรสักเท่าไรนัก และต้องมีการวางแผนด้วยว่า เราจะใช้เงินก้อนนี้ในการลงทุนไปจนถึงเมื่อไร เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเลือกลงทุนนั่นเอง
2.   ต่อจากนั้นไปดูกันว่าเป็นกองทุนปิดหรือเปิดกันแน่ เพราะว่ากองทุนปิดก็จะมีการขายแค่ครั้งเดียวตอนจะเริ่มโครงการ จากนั้นเวลาที่เราได้ถือหน่วยลงทุน ก็จะไม่มีการซื้อในระหว่างที่ถือหน่วยลงทุน โดยทางบริษัทนั้นจะจัดการกับเงินทุน เพื่อรับซื้อมูลค่าที่ครบกำหนด ซึ่งอาจจะมากขึ้นหรือลดลงก็ได้เช่นกัน โดยสำหรับเป็นกองทุนเปิด ก็อาจจะบอกว่าเป็นกองทุนที่ขายให้นักลงทุนแบบไม่กำหนดเวลาสำหรับการไถ่ถอน นักลงทุนก็ซื้อได้แบบง่ายๆ ตอนที่เริ่มโครงการ และจะขายเมื่อไรก็ได้เลยทีเดียว
ก็อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว เราจะต้องเลือกกองทุนให้เหมาะสม ว่าเรามีเงินมากพอหรือไม่ หากว่าเรามีเงินเก็บหรือว่าเงินก้อน ก็เลือกได้ตามที่ใจปรารถนา และต้องใช้เงินเลือกประเภทกองทุน
3.   ต้องรู้ความเสี่ยงของการลงทุน ว่าจะรับความเสี่ยงได้อย่างไรกันแน่ เพราะว่าแต่ละกองทุนก็มีลักษณะที่แตกต่างกัน โดยการเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ก็ถือว่าเป้นสิ่งที่น่าสนใจเช่นกัน
และนี่ก็คือหลักของการเลือกกองทุนสำหรับทุกคน หากว่าใครที่กำลังมองหาการให้เงินทำงาน แนะนำว่าลองนำวิธีที่เรานั้นเอาไปทำนั้น เป็นสิ่งที่ดีมากอย่างแน่นอน แล้วเราจะไม่ผิดหวังกับสิ่งที่เราได้ตัดสินใจไปแล้ว และยังมีความสุขกับชีวิตของเราอีกด้วย