ThaiFranchiseCenter Webboard

พูดคุยทั่วไป สบายๆ | General Talk => หลักสูตรอบรม - สัมมนา | Training & Seminar => ข้อความที่เริ่มโดย: โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ พฤศจิกายน 28, 2019, 03:27:23 AM

หัวข้อ: การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
เริ่มหัวข้อโดย: โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ พฤศจิกายน 28, 2019, 03:27:23 AM
การศึกษาความเป็นไปได้เพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

 

การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ระดับจุลภาคประกอบด้วยปัจจัย 4 ประการก็คือ ความเป็นไปได้ทางกายภาพ ความเป็นไปได้ทางข้อกฎหมาย ความเป็นไปได้ทางการตลาด และความเป็นไปได้ทางการเงิน

สามารถแยกแยะการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในกาารพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับจุลภาคไว้ 4 ข้อใหญ่ๆ ได้ดังนี้


หลักสูตร ศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงินโครงการอสังหาฯ Cash Flow (RE121)
รุ่นที่ 65, วันพุธที่ 15 - เสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 08:30 - 17:00 น.
(https://nontiyaphoto.files.wordpress.com/2019/10/e0b8a8e0b8b6e0b881e0b8a9e0b8b2e0b884e0b8a7e0b8b2e0b8a1e0b980e0b89be0b987e0b899e0b984e0b89be0b984e0b894e0b989e0b897e0b8b2e0b887e0b881e0b8b2e0b8a3e0b980e0b887e0b8b4e0b899-e0b8a3e0b8b8e0b98-1.jpg?w=550)


กายภาพ
   การศึกษาความเป็นไปได้ทางกายภาพมีความสำคัญ เช่น ในกรณี
น้ำท่วม ทำให้บางพื้นที่ไม่อาจก่อสร้างได้
ไม่มีน้ำประปา – น้ำบาดาล ทำให้ความเป็นไปได้ในการสร้างที่อยู่อาศัยลดลง หรือต้นทุนในการอยู่อาศัยสูงขึ้น
ไม่มีไฟฟ้า โดยเฉพาะในโครงการที่ร้าง ทำให้ผู้ลงทุนเข้าอยู่อาศัยในโครงการไม่ได้ แม้จะมีสาธารณูปโภคอื่นก็ตาม
 แผ่นดินทรุด ทำให้การก่อสร้างมีความเป็นไปได้ลดลง หรือเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ส่งผลลบต่อมูลค่าที่ดิน
ปกติแล้วความเป็นไปได้ทางกายภาพไม่ค่อยมีความจำเป็น เพราะในเขตเมืองมักมีความเป็นไปได้สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว ประเด็นที่กล่าวข้างต้นนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาในเขตนอกเมือง เป็นสำคัญ

กฎหมาย
   มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์จะแตกต่างกันในตัวเองอย่างมีนัยสำคัญเพียงเพราะข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น
กรณีที่ดินตั้งอยู่คนละฝั่งถนนราคาก็แตกต่างกันเพราะผังเมืองกำหนดการก่อสร้างไว้แตกต่างกัน ฝั่งหนึ่งสร้างได้เฉพาะบ้านเดี่ยว อีกฝั่งหนึ่งอาจก่อให้สร้างอาคารพาณิชย์ได้ เป็นต้น
กรณีแฟลตหรือห้องเช่า อาจมีราคาต่ำกว่าอาคารโรงแรมเพราะไม่สามารถใช้สอยได้เข้มข้นเท่า หรือในกรณีเป็นสถานอาบอบนวด ก็ยิ่งมีการใช้สอยต่อเนื่องที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับใบอนุญาตใช้อาคารที่แตกต่างกันในทางกฎหมายนั่นเอง


ในปัจจุบันพื้นที่หลายแห่งมีข้อกำหนดและข้อจำกัดต่าง ๆ ในการก่อสร้าง เช่น ห้ามสร้างอาคาร (สูง) รอบสถานที่สำคัญ ห้ามก่อสร้างอาคารในระยะ 15 เมตรแรกบนถนนบางสาย มีข้อกำหนดพื้นที่ก่อสร้างต่อพื้นที่ดิน (Building Coverage Ratio) และข้อกำหนดการก่อสร้างตามขนาดที่ดิน (Floor Area Ratio) เป็นต้น


ตลาด
   ประเด็นหนึ่งที่ชี้ขาดความเป็นไปได้หรือไม่ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ก็คือความเป็นไปได้ทางการตลาด กล่าวคือ โครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นที่ต้องการของตลาดในพื้นที่และในห้วงเวลาของการศึกษาหรือไม่ หากไม่มีความเป็นไปได้  ก็ไม่ควรดำเนินการโครงการนั้น ๆ ต่อไป เพราะจะไม่ประสบความสำเร็จ  ในเชิงรูปธรรม ความเป็นไปได้ทางการตลาดหมายถึงการวิเคราะห์อุปสงค์และอุปทานเพื่อการคาดการณ์ความสมดุลและโอกาสการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ
   อาจกล่าวได้ว่า สินค้าในทำเลต่าง ๆ ที่ขายดี ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งก็คือการมีรถไฟฟ้า หากมีรถไฟฟ้ามากขึ้น ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสสร้างที่อยู่อาศัยมากขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยไม่ถีบตัวสูงขึ้นนัก เพราะมีทำเลใหม่ ๆ ให้เลือกนั่นเอง  นอกจากนี้ บ้านที่ขายในระดับราคาที่ไม่แพงนัก เหมาะสมกับทำเลและประเภทที่อยู่อาศัย ย่อมขายได้ดี มีลูกค้ามาก นัยนี้แสดงถึงความเป็นไปได้ทางการตลาดของอสังหาริมทรัพย์

การเงิน
ความเป็นไปได้ทางการเงินเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ประกอบด้วยการวิเคราะห์รายได้ รายจ่าย อัตราผลตอบแทน และระยะเวลาดำเนินโครงการ

ที่มา : ดร.โสภณ พรโชคชัย

[Tag] : นิติบุคคล , บ้านจัดสรร , อาคารชุด , การเงิน , การเงินอสังหา , ความเป็นได้ของโครงการ , พัฒนาโครงการ , ความเป็นไปได้ทางการเงิน , Project Feasibility Study (https://www.trebs.ac.th/th/3/RE121)