ThaiFranchiseCenter Webboard

สุขภาพ ความสวยความงาม | Health & Beauty => แม่และเด็ก | Child => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ กรกฎาคม 26, 2019, 02:40:11 AM

หัวข้อ: ลูกร้องโคลิค
เริ่มหัวข้อโดย: อัญณา ที่ กรกฎาคม 26, 2019, 02:40:11 AM
สิ่งที่พ่อแม่กลัวที่สุดในการเลี้ยงลูกน้อย นั่นก็คือลูกน้อยไม่สบายนั่นเอง หลายๆ คน เวลาลูกน้อยเกิดอาการโคลิค (https://www.meadjohnsonni.com/th/บทความ/ลูกไม่สบายท้องรับมือง่ายๆด้วยนมสูตรย่อยง่าย)ก็จะรู้สึกกังวลใจอย่างมาก จริงอยู่ แม้ว่าการที่ลูกร้องโคลิกนั้นจะเป็นเรื่องปกติ แต่หากว่าเวลาผ่านนานๆ ไป สิ่งที่จะรบกวนจิตใจของลูกน้อยและตัวคุณแม่ก็คือเสียงร้องนั่นเอง แม้อาหารนี้จะเป็นอาการชั่วคราวก็ตามที
รู้ได้อย่างไรว่าลูกของเรานั้นเป็นโคลิก
ลูกของเรานั้นมีอาการโคลิกหรือไม่ นั้น คุณแม่อาจจะไม่รู้หรือว่าไม่เคยสังเกต ก็ต้องขอตอบว่าหากลูกมีอาการโคลิก จะมีอาการหน้าแดงและกำมือแน่น จากนั้นก็ชูขาสูงขึ้นมาอีกด้วย ร้องเสียงดังอย่างยาวนานเป็นสองหรือสามชั่วโมงเลย และหลังจากนั้นอาการก็จะหายไปในเวลาราวๆ 15 นาทีเท่านั้น ส่วนเวลาอื่นๆ ก็ไม่ร้องสักเท่าไ และที่สำคัญอาการโคลิกก็จะหายไปเองในเวลาราว 2-3 เดือนหลังจากที่คลอดนั่นเอง
ทำไมลูกน้อยเป็นโคลิก
อะไรที่ทำให้ลูกน้อยของเราเป็นโรคโคลิก หลายๆ คนก็อาจจะสงสัย  สำหรับสาเหตุของอาการโคลิกนั้น ต้องบอกเลยว่ายังไม่เป็นที่แน่นอนเท่าไรนัก แต่อย่างไรก็ดี อาจจะมีปัจจัยที่ทำให้เกี่ยวข้องหลายต่อหลายอย่างด้วยกัน ปัจจัยแรก ที่ทำให้เด็กน้อยเป็นโคลิก ก็คือมีมวลอากาศเข้าไปในท้องของลูกมาก ทำให้ลูกน้อยไม่ได้เรอออกมา ในท้องของลูกก็เต็มไปด้วยมวลอากาศที่เป็นลม ทำให้ลูกน้อยปวดท้อง และอีกหนึ่งปัจจัยก็คือลำไส้ลูกน้อยทำงานอย่างหนักหน่วง เพื่อจะขับของเสียออกมา ทำให้ท้องเป็นตะคริวนั่นเอง
แม่ช่วยอะไรลูกได้บ้าง
หลายๆ ครั้งที่คุณแม่เห็นลูกน้อยเป็นโรคโคลิก ก็เกิดอาการกังวล เพราะลูกน้อยดูทรมานมากๆ แต่อย่างไรก็ดี ขอให้คุณแม่เย็นใจไว้ด้วยว่าอาการเหล่านี้ ไม่ใช่อาการที่ถาวรสักเท่าไร และจะหายไปเองเมื่อลูกของเราโต แต่อย่างไรก็ดี ย่อมเป็นเรื่องชวนประสาทเสียไม่ใช่น้อย ที่แม่จะต้องฟังเสียงร้องไห้งอแงวอแวของลูกติดต่อกันนานนับชั่วโมงทุกๆ วัน เราเลยพามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วย
อาบน้ำอุ่นให้ลูกน้อยก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ค่อยเอาผ้าห่อตัวลูกให้มีความอบอุ่น จากนั้นนวดท้องให้ลูกอย่างนุ่มนวล โดยเน้นไปที่การนวดตามเข็มนาฬิกาจะดีที่สุด หรือหากว่ามีเวลา ก็ให้ปรึกษากุมารแพทย์ หรือพยาบาลในโรงพยาบาล ว่าทำอย่างไร ลูกของเราถึงจะเรอ  อย่าลืมขยับขาให้ลูกโดยหมุนเป็นวงกลมจะดีที่สุด โยกลูกด้วยจะดี หรือพาลูกไปนั่งรถเล่น เพราะการที่ทำให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวจะทำให้สงบลงกว่าเดิม
นอกจากจะดูแลเรื่องโคลิกแล้ว การมองหาอาหารที่ดีและมีประโยชน์ให้ลูกน้อยก็คือสิ่งที่แม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เน้นไปที่การดูนมที่มีสาร Dha (https://www.meadjohnsonni.com/th/บทความ/DHAสารอาหารสำหรับสมอง) หรือ วิตามินบี 6 (https://www.meadjohnsonni.com/th/บทความ/โภชนาการคุณแม่ตั้งครรภ์/ไตรมาส1) ในขณะเดียวกันคุณแม่เองก็อย่าลืมกินอาหารเพิ่มน้ำนมแม่ (https://www.meadjohnsonni.com/th/บทความ/เพิ่มน้ำนมง่ายๆด้วยอาหารเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่)พร้อมกันไปด้วย เพียงเท่านี้ก็เป็นการดูแลลูกน้อยแบบที่คุณพ่อคุณแม่มีความสุขและปรารถนาอย่างแน่นอนเลยทีเดียว