(https://cdn.pixabay.com/photo/2018/07/15/20/36/newborn-3540491__340.jpg)
การที่คุณแม่ได้มีความรู้อย่างถูกต้องและเข้าใจถึงพัฒนาการของ ทารกแรกเกิด (https://www.enfababy.com/พัฒนาการและสุขภาพ/พัฒนาการ360อัจฉริยะรอบด้านของลูกน้อยวัยแรกเกิด) ได้อย่างถ่องแท้แล้ว ย่อมจะส่งผลดีทั้งต่อตัวคุณแม่เองและลูกน้อย ทั้งทางด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ทำให้คุณแม่มีความพร้อมในทุก ๆ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องตื่นตะหนกตกใจหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบผิด ๆ ที่สำคัญการจะเป็นคุณแม่ที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณแม่ทุกคนมีความตั้งใจจะเลี้ยงลูกน้อยอย่างดี และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ก็เพียงศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จากตำรา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงผู้มีประสบการณ์เป็นคุณแม่มาก่อน เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องนั่นเอง และในวันนี้เราก็มีวิธีการดูแลลูกน้อยตามพัฒนาการต่าง ๆ ของเค้า มาฝากคุณแม่ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
การดูแลลูกน้อยในแต่ละวัย
1.การดูแล ทารกแรกเกิด จนย่างเข้าเดือนที่ 6
คุณแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว เพราะในน้ำนมแม่จะมีภูมิคุ้มกันที่ยอดเยี่ยมรวมถึงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและดีที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด ช่วยให้เค้าไม่เจ็บป่วยง่าย มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และเมื่อเค้าย่างเข้าเดือนที่ 4 โดย พัฒนาการเด็ก 4 เดือน (https://www.enfababy.com/การกระตุ้นพัฒนาการ/การกระตุ้นพัฒนาการลูกน้อยเดือนที่4) นั้นจะเริ่มเด่นชัดในเรื่องของสมอง ทั้งด้านความจำ การเรียนรู้ ส่วนในด้านร่างกาย เซลล์และอวัยวะต่าง ๆ เริ่มพัฒนาและสมบูรณ์แบบมากขึ้นเมื่อย่างเข้าเดือนที่ 7
2.เมื่อลูกน้อยเข้าสู่เดือนที่ 7 จนครบ 1ปี
ในช่วงนี้ลูกน้อยจะเริ่มสัมผัสและรับรู้ได้ในเรื่องของอารมณ์ที่เด่นชัดขึ้น รวมถึงการสื่อสารที่ลูกน้อยเข้าใจได้มากขึ้น คุณแม่อาจเริ่มเรียกชื่อลูกน้อย ซึ่งการตั้งชื่อลูก (https://www.enfababy.com/ตั้งชื่อลูก) นั้นอาจ ตั้งชื่อลูกตามชื่อพ่อแม่ (https://www.enfababy.com/ตั้งชื่อลูก) ที่สัมพันธ์กันก็ได้ อย่างเช่นพ่อชื่อสงกรานต์ แม่ชื่อดาวิกา ก็อาจตั้งชื่อลูกว่า กานดา และเรียกชื่อลูกบ่อย ๆ เพื่อให้เค้าจดจำชื่อตัวเองได้เร็วขึ้น และควรปรับเรื่องการกินของลูก เพราะ อาหารทารก 6-7 เดือน (https://www.enfababy.com/โภชนาการ/โภชนาการลูกน้อยอาหารเด็ก7เดือน) ควรได้รับนมแม่ 4-6 มื้อ และอาหารอีก 1 มื้อ ซึ่งควรเป็นอาหารบดละเอียด เช่น กล้วยน้ำว้า ข้าวโพดพร้อมผักต้ม อย่าง ฟักทอง ตำลึง มะเขือเทศ และในช่วงการปรับการกินนี้ คุณแม่จะต้องระวังเป็นพิเศษ ถึงอาการท้องผูกของลูกน้อย เพราะระบบย่อยอาหารยังทำงานไม่สมบูรณ์มากนัก หากเดือนที่ 6 เค้ามีอาการท้องผูก ก็อาจรอไปเดือนที่ 7 ก็ได้ จึงจะเริ่มปรับการกินให้ลูกน้อยทานอาหารควบคู่กับนม ที่สำคัญจะต้องให้ลูกทานน้ำบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น
เห็นไหมว่าการเป็นคุณแม่ที่ดีนั้นไม่ได้ยากเลย แค่เพียงคุณแม่เข้าใจพัฒนาการในวัยต่าง ๆ ของลูกน้อย ตั้งแต่ ทารกแรกเกิด ไปจนถึงวัยที่เค้าจะต้องปรับเรื่องการกิน การเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัย เพียงเท่านี้คุณแม่ก็จะเลี้ยงลูกน้อยให้ปลอดภัยมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และมีพัฒนาการที่ดีต่อไปได้นั่นเอง