ThaiFranchiseCenter Webboard
พูดคุยทั่วไป สบายๆ | General Talk => สมัครงาน, ร้านแฟรนไชส์, ร้านสาขา, หางาน, สมัครงาน, ประกาศรับสมัครงาน | Find a job => สมัครงาน จัดซื้อ/ธุรการ/ประสานงานทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: สุทัตตาแสงวัน ที่ เมษายน 11, 2017, 10:52:05 AM
-
เพียงแค่ลวดลาย หรือไม่ก็การติด สติกเกอร์รถยนต์
ไปจากนั้นผู้เอาประกันรถหรือตัวแทนค้าขายต้องที่จะจำต้องบอกบริษัทประกันภัย เพื่อให้ที่จะกระทำการการกำหนดในกรมธรรม์ว่ามีวัสดุอุปกรณ์ชิ้นส่วนใดบ้างที่เหนือจากตัวรถยนต์ ที่ร.ง.ผลิตมา ซึ่งในเงื่อนไขของประกันภัยรถยนต์นั้น ได้ระบุไว้ว่า หากผู้เอาประกันภัยหรือทางคนแทนจัดจำหน่าย ติดตั้งเพิ่มขึ้นหรือเติมให้ให้เปล่า หรือได้ขายวัสดุอุปกรณ์เติมแต่งเพิ่ม (Accessory) จัดเป็นวัสดุอุปกรณ์เติมแต่งเพิ่มทั้งสิ้นยกตัวอย่างเช่น ล้อแม็ก, สปอยเลอร์, เครื่องเสียง, ชุดกันขโมย, ฟิมล์กรองแสง, กรอบป้ายทะเบียน, สติกเกอร์รถยนต์ (http://wraparena.com) สติกเกอร์รถยนต์
ลายต่างๆ ฯลฯ ซึ่งนั่นเป็น ไม่ว่าจะหมายถึงการติด สติกเกอร์รถยนต์
ที่เจาะจงด้วย และจะได้ไม่เป็นข้อแม้ข้อโต้แย้งว่าด้วยเหตุใดบริษัทประกันภัยไม่ยอมรับผิดชอบทั้งสิ้น “ถ้าเราไม่บอกเขา บริษัทประกันภัยก็จะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเราไปติดตั้งสิ่งไร และมีราคาเท่าใด” สติกเกอร์รถยนต์
ว่าด้วด้วยว่ายเรื่องราวของการติด สติกเกอร์รถยนต์
เพียงบางชิ้นส่วนหรือทั้งมวล จำต้องจะต้องบอกกับบริษัทประกันภัย ถ้าต้องการให้กรมธรรม์ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นซึ่งประกันภัยรถยนต์ชั้น1 จะให้ความคุ้มครองแต่วัสดุมาตรฐานจากโรงงานเท่านั้น เพราะว่าบริษัทประกันภัยจะรับทราบได้จากค่ายรถที่ประกอบขึ้นในรุ่นต่างๆแค่นั้น (ตามหลักการแล้วบริษัทประกันภัยจะมิรับผิดชอบความเสียหายในส่วนสติกเกอร์ติดรถยนต์) หากไม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมไว้ล่วงหน้า การแต่งรถเพิ่มเติม จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากกรมธรรม์เดิมเป็นแน่…เบี้ยประกันภัยในส่วนนี้เพิ่มเติมแต่ไม่มากมายครับ แต่กระนั้นจะเป็นผลประโยชน์สำหรับตัวผู้บริโภค เพราะเมื่อเกิดความเสียหายกับ สติกเกอร์รถยนต์
หลังจากที่เจ้าของรถหรือตัวแทนของผู้ถือครองรถได้ทำการการติด สติกเกอร์รถยนต์
หรือรถหายไปก็จะได้รับการทดแทนในส่วนวัสดุอุปกรณ์และ สติกเกอร์รถยนต์
สไตล์พิมพ์อิงค์เจ็ท หรือไม่ก็ไม่ว่าจะเป็นการติด สติกเกอร์รถยนต์