(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/Ge2EQD.png)
ถ้าพูดถึงเรื่องของยาคุมกำเนิดกันแล้ว หลายคนคงสงสัยว่า ถ้าจะทานยาคุมกำเนิด ควรเลือกยาคุมกำเนิดยี่ห้อไหนดี แล้วยาคุมกำเนิดมีกี่แบบ แต่ละแบบต่างกันอย่างไรบ้าง ควรเลือกทานแบบไหน หรือยี่ห้อไหนถึงจะเหมาะกับตัวเรา แล้ววิธีการทานเป็นอย่างไร วันนี้เรามี ยาคุมซูซี่ (https://sistalk.in.th/sucee-birth-control/) หรืออีกชื่อคือ ยาคุม Sucee มาแนะนำ เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการทานยาคุมกำเนิดค่ะ
รู้จักยาคุมกำเนิด
ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดของยาคุมซูซี่ เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับรายละเอียดของยาคุมกำเนิดกันซักเล็กน้อยนะคะ เบื้องต้นแล้ว ปกติสาวๆ ก็จะทานยาคุมกำเนิดเมื่อต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะยาคุมกำเนิดประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ช่วยยับยั้งกระบวนการตกไข่ของผู้หญิง ส่งผลให้ผนังมดลูกบาง ทำให้ไข่ไม่สามารถฝังตัวที่ผนังมดลูกได้ และยาคุมกำเนิด ยังสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ละประเภทจะบรรจุปริมาณของฮอร์โมนแตกต่างกันไป
ยาคุมกำเนิดมีกี่ประเภท
ยาคุมกำเนิด จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestogen – only pills – POP) ประกอบไปด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ช่วยคุมกำเนิดได้ แต่ประสิทธิภาพจะไม่เทียบเท่ากับชนิดฮอร์โมนรวม
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COC) เป็นชนิดที่นิยมมากที่สุด ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้หากทานอย่างถูกวิธี
- ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน (Emergency Contraception pill) ใช้ทานเฉพาะช่วงฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถุงยางรั่ว อาจส่งผลค้างเคียงต่อร่างกาย เช่น ปวดท้อง มีไข้ ปวดศีรษะ รอบประจำเดือนเปลี่ยนแปลง หรือปวดท้องประจำเดือนมากขึ้น จึงไม่ควรรับประทานเป็นประจำ
ยาคุมกำเนิดซูซี่ (Sucee)
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/Ge2P9q.png)
ยาคุมกำเนิด Sucee เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ประเภทฮอร์โมนต่ำ (Low dose pills) ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinyl Estradiol 0.035 มิลลิกรัม และฮอร์โมนโปรเจสติน Cyproterone acetate 2 มิลลิกรัม ซึ่งจะลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงต่างๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มากกว่ายาประเภทฮอร์โมนสูง (High dose pills) อีกทั้งฮอร์โมนโปรเจสตินยังออกฤทธิ์ในการต้านฮอร์โมนแอนโดรเจน ส่งผลให้หน้ามันน้อยลง และสิวขึ้นน้อยลง
ยาคุมซูซี่มีกี่ชนิด
ยาคุมซูซี่ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
ยาคุมซูซี่ 21 เม็ด
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/Ge2sjz.png)
ยาคุมแบบมีจำนวน 21 เม็ดใน 1 แผง บรรจุฮอร์โมนรวมครบในทุกๆ เม็ด
ยาคุมซูซี่ 28 เม็ด
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/Ge2uNR.png)
ยาคุมแบบมีจำนวน 28 เม็ดใน 1 แผง บรรจุฮอร์โมนรวม 21 เม็ด และอีก 7 เม็ดที่เหลือจะเป็นเม็ดยาหลอก หรือเม็ดแป้งเคลือบน้ำตาล ไม่มีฮอร์โมน ทำมาเพื่อให้ผู้ทานไม่ลืมต่อแผงใหม่ตามกำหนด
สรรพคุณของยาคุมซูซี่ ช่วยอะไรบ้าง
ฮอร์โมนโปรเจสติน จะช่วยลดสิว ทำให้หน้ามันน้อยลง ขนดกน้อยลง เพราะออกฤทธิ์ในการยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย และฮอร์โมนเอสโตรเจนจะยับยั้งการตกไข่ จึงช่วยคุมกำเนิดได้
ยาคุมซูซี่ กินแล้วอ้วนไหม
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/Ge280Z.png)
ฮอร์โมนโปรเจสตินในตัวยา ไม่มีฤทธิ์ในการลดการบวมน้ำ จึงอาจส่งผลให้อ้วนขึ้นได้
ยาคุมซูซี่กับการรักษาสิว
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/GeC7lW.png)
ฮอร์โมนรวมในยาคุมซูซี่ สามารถช่วยรักษาสิวได้ เพราะตัวยาจะทำการลดระดับฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจนลง ทำให้หน้ามันน้อยลงเพราะการผลิตไขมันซีบัม (Sebum) จากต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลง แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องการลดรอยแดงจากสิว ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย
ข้อควรระวังก่อนใช้ยาคุมกำเนิดซูซี่
ข้อควรระวังก่อนใช้ยาคุมกำเนิดซูซี่ มีดังนี้
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่ และผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคตับ โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง เพราะจะเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตันได้
- หากต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกจากการคุมกำเนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- หลังคลอดลูกแล้ว หากไม่ได้ให้นมลูก ควรเริ่มรับประทานยาหลังจากที่คลอดแล้วไม่เกิน 28 วัน เพราะอาจส่งผลให้ลิ่มเลือดอุดตันได้
แนะนำการกินยาคุมซูซี่อย่างถูกวิธี
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/GeCQFP.png)
เนื่องจากยาคุมซูซี่มี 2 ชนิด วิธีการกินจึงต่างกัน ซึ่งการกินอย่างถูกวิธี มีดังนี้
วิธีทานยาคุมซูซี่ 21 เม็ด
- เริ่มทานวันแรกที่มีประจำเดือน
- ทานตามลูกศรจนครบ 21 เม็ด แล้วหยุดยา 7 วัน
- เลือดประจำเดือนจะมาช่วงที่หยุดยา หลังจากครบ 7 วันแล้ว ให้ทานแผงใหม่ต่อได้ทันที ถึงแม้ว่าเลือดประจำเดือนจะยังไม่หยุด
วิธีทานยาคุมซูซี่ 28 เม็ด
- ทานยาที่เวลาเดิมทุกวันติดต่อกันเป็นเวลา 28 วัน
- ทานตามลูกศร เม็ดแรกคือแถวที่มีหมายเลข1 กำกับ
- ช่วงที่ทานเม็ดยาขนาดเล็ก เลือดประจำเดือนจะเริ่มมา อาจพบได้ช่วงประมาณ 2 – 3 วันหลังทานเม็ดใหญ่เม็ดสุดท้าย
- หลังหมดแผงแล้ว สามารถทานแผงใหม่ต่อได้ทันทีถึงแม้ว่าเลือดประจำเดือนจะยังไม่หยุด
ควรทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาคุมซูซี่
ในแง่ของการคุมกำเนิด การลืมทานยา 1 เม็ดจะไม่ค่อยส่งผลมากนัก แต่การลืมทานยาตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป จะเริ่มส่งผลต่อการตกไข่ อาจต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย จนกว่าจะทานยาติดต่อกันครบ 7 วัน เพราะจะทำให้วงจรกลับมาสมดุลอีกครั้ง
- หากลืมทานยา 1 เม็ด ให้ทานยาทันทีที่นึกได้ ถึงแม้จะต้องทานยา 2 เม็ดพร้อมกันในเวลาเดียวกันก็ตาม และทานยาเม็ดต่อไปตามตารางเวลาเดิม แต่ถ้าหากลืมทานยาในสัปดาห์ที่ 3 ให้ทานแผงใหม่ต่อทันทีหลังทานยาครบทั้ง 21 เม็ด สามารถละยาอีก 7 เม็ดที่ไม่บรรจุฮอร์โมนได้ ไม่ต้องรอให้ครบ 28 วันแล้วค่อยทาน เลือดประจำเดือนจะมาหลังทานครบ 2 แผง หรืออาจมากะปริบกะปรอยในระหว่างการทานแผงที่ 2
- หากลืมทานยา 2 เม็ด ให้ทานยา 2 เม็ดทันทีที่นึกได้ และทานเม็ดต่อๆ ไปในเวลาเดิม
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากยาคุมซูซี่
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/12/13/GeuQYy.png)
ฮอร์โมนเอสโตรเจน อาจส่งผลให้เต้านมคัดตึง น้ำนมไหล มีฝ้าขึ้นบนใบหน้า หรือคลื่นไส้อาเจียน ส่วนฮอร์โมนโปรเจสติน อาจส่งผลให้อ้วนขึ้นหรือบวมน้ำได้ เพราะไม่มีฤทธิ์ในการลดการบวมน้ำ
ยาคุมซูซี่ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไหร่
ยาคุม Sucee เป็นยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคาประมาณแผงละ 100 – 130 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา อาจมีขายออนไลน์บางร้าน แต่เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ควรเลือกซื้อตามร้านขายยาเพื่อที่จะได้ปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง
ข้อสรุป
ยาคุมซูซี่ สามารถออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิดได้ดี เพราะเป็นฮอร์โมนชนิดรวม ซึ่งเป็นชนิดที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากที่สุด อีกทั้งยาคุมซูซี่ยังสามารถใช้รักษาสิวได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ในบางรายอาจมีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง และเป็นอันตราย โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติมีโรคประจำตัว อีกทั้งการทานยาบางชนิดร่วมด้วย อาจส่งผลให้ยาคุมซูซี่มีประสิทธิภาพลดลง
ทั้งนี้ทั้งนั้น การทานยาคุมซูซี่ ควรศึกษาการทานอย่างถูกวิธี และทานติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ