ThaiFranchiseCenter Webboard

พูดคุยทั่วไป สบายๆ | General Talk => ตลาดกลาง COVID-19 ฝากร้าน ฟรี! => ข้อความที่เริ่มโดย: DigitalK ที่ ธันวาคม 05, 2022, 05:05:33 AM

หัวข้อ: หลอดไฟ LED คืออะไร? แตกต่างจากหลอดไฟทั่วไปอย่างไร?
เริ่มหัวข้อโดย: DigitalK ที่ ธันวาคม 05, 2022, 05:05:33 AM
   เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของหลอดไฟ LED มาบ้างไม่มากก็น้อย ว่าเป็นหลอดไฟที่มีความทันสมัย และช่วยประหยัดพลังงาน แล้วเคยสงสัยไหมว่าจริง ๆ แล้วหลอดไฟ LED (https://www.thaielectricity.com/th/lamp) คืออะไรกันแน่ แล้วทำไมหลอดไฟ LED ถึงได้ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟแบบเดิม เราไปทำความเข้าใจกันได้ที่บทความนี้เลย

(https://i.imgur.com/ArZKjdN.jpg)

หลอดไฟ LED คืออะไร? แตกต่างจากหลอดไฟทั่วไปอย่างไร?
   LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode หรือสามารถเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ไดโอดชนิดเปล่งแสง” ซึ่งในปัจจุบันมีการนำเอาหลอด LED ไปติดตั้งยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการแสดงสถานะต่าง ๆ ทั้งยังใช้เพื่อเป็นแหล่งกำเนิดแสงสว่าง อย่างเช่นหลอดไฟ ใกล้เคียงกับแบบที่เราคุ้นเคยนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันมีหลอดไฟ LED ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ

ส่วนประกอบหลักของ LED มีอะไรบ้าง?
   ในเมื่อเรารู้จักเกี่ยวกับหลอดไฟ LED แล้ว เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับส่วนประกอบของ LED กันก่อนดีกว่า โดยในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ไฟ LED แสดงสถานะ(indicator-type) และ ไฟ LED ให้แสงสว่าง (illuminator-type)
   มาเริ่มทำความรู้จักกับ ไฟ LED แสดงสถานะ(indicator-type) กันก่อน โดยไฟ LED ประเภทนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างแพง แต่มีข้อดีคือกินไฟต่ำ จึงช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้มากกว่า แต่มีข้อด้อยในเรื่องของการให้ความสว่างที่ไม่มากนัก เหมาะที่จะนำไปใช้สำหรับการใช้เป็นไฟแสดงสถานะในจอแสดงผลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น นาฬิกาดิจิทัล วิทยุ และภายในรถยนต์ เป็นต้น
   มาต่อกันที่ในส่วนของไฟ LED หรืออย่างที่เรารู้จักมักคุ้นกันดีในชื่อของหลอดไฟ LED มีประสิทธิภาพสูงในแง่ของการให้แสงสว่าง ที่สำคัญคือยังเป็นอุปกรณ์ที่มีความทนทานสูงมาก ทั้งยังสามารถนำมาใช้ให้แสงสว่างแทนหลอดไปในแบบดั้งเดิม เพราะช่วยประหยัดไฟ และประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากมีความทนทาน จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า โดยไฟ LED ทั้งสองประเภทมีโครงสร้างพื้นฐานแบบเดียวกัน คือประกอบไปด้วย
-LED chip หรือ แหล่งกำเนิดแสงสว่าง
-Gold wire หรือ สายเชื่อมต่อวงจรภายใน
-Ceramic Substrate หรือ ตัว Body
-Thermal Heat Sink หรือ แผ่นระบายความร้อน
-Plastic lens หรือ ตัวควบคุมทิศทางของแสง

มาตอกย้ำข้อดีของหลอดไฟ LED กันอีกครั้ง
-ให้ความสว่างมากกว่าหลอดไส้แบบเดิม
-แสงสว่างที่ส่องออกมาจากหลดเป็นแบบมีทิศทางชัดเจน
-มีความทนทานใช้งานได้ยาวนาน และเสื่อมสภาพช้า แต่แสงไฟจะค่อย ๆ ลดลงน้อยตลอดอายุการใช้งาน
-เปิดไฟแล้วสว่างทันที
-ไม่ปล่อยรังสี UV ไม่เป็นอันตรายต่อผิว
-ไม่แผ่รังสีความร้อน
-ไม่มีสารปรอท
-ทนต่อแรงสั่นสะเทือน

   ทั้งหมดนี้ คือ เรื่องราวของไฟ LED หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจเปลี่ยนหลอดไฟอยู่พอดี ให้คุณได้เลือกใช้หลอดไฟคุณภาพดี ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย