ในยุคที่โรคภัยไข้เจ็บพร้อมเข้ามาหาเราได้อยู่เสมอ เชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมก็มีมากมาย ไหนจะบรรดาโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ การมีประกันสุขภาพที่ดี ที่มีความคุ้มครองและรับประกันค่ารักษาพยาบาล (https://www.mticonnect.com/health-me-plus)ให้แก่เรา หรือทำให้แก่คนในครอบครัวของเรา ก็จะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเราลงไปได้ ในยามที่เกิดเจ็บป่วยขึ้นมา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าประกันสุขภาพแบบไหนถึงจะดี และตอบสนองความต้องการของเราได้มากที่สุด วันนี้เราจะพาทุกคนไปส่องประกันค่ารักษาพยาบาลที่ดี ต้องคุ้มครองอะไรบ้าง? หากอยากรู้แล้ว ตามไปอ่านที่บทความนี้กันได้เลย
(https://i.imgur.com/suaEPXa.jpg)
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย
การทำประกันสุขภาพที่รับประกันค่ารักษาพยาบาล จะทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น เพราะสามารถมั่นใจได้ว่าถ้าเกิดต้องเจ็บป่วยฉุกเฉิน เราจะสามารถรักษาตัวในโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจ โดนไม่ต้องมากังวลว่าถ้านอนโรงพยาบาลแล้ว จะมีเงินจ่ายค่ายา ค่าห้อง และค่าหมอหรือเปล่า พลอยทำให้ไม่อยากนอนโรงพยาบาล และพอถึงเวลาเจ็บป่วยก็ไม่อยากไปหาหมอ ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิดและถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายเป็นอย่างมาก
คุ้มครองค่ารักษาแบบผู้ป่วยนอก กรณีเกิดอุบัติเหตุภายใน 72 ชั่วโมง
ประกันค่ารักษาพยาบาล ต้องไม่ครอบคลุมแค่ค่ารักษาพยาบาล แต่ต้องครอบคลุมครอบคลุมค่ารักษาอุบัติเหตุด้วย เพราะความเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ การทำประกันสุขภาพ ก็เป็นเหมือนการวางแผนชีวิต และเตรียมพร้อมหากต้องเผชิญกับสิ่งไม่คาดฝัน
คุ้มครองโรคร้ายแรง
เพราะนอกจากโรคภัยไข้เจ็บที่อุบัติใหม่แล้ว เรายังต้องเสี่ยงกับโรคภัยที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคร้ายแรงอื่น ๆ อีกมากมาย หากประกันสุขภาพของเรามีประกันค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมโรคเหล่านี้ด้วย ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะในชีวิตของเราอะไรก็เกิดขึ้นได้ เตรียมการไว้แต่แรกก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
ไม่ต้องสำรองจ่าย
การทำประกันสุขภาพ เพราะเราต้องการมีทุนสำรองไว้ดูแลเรายามเจ็บป่วย และมีประกันค่ารักษาพยาบาล ที่ทำให้เราไม่ต้องเดือดร้อนเมื่อต้องนอนโรงพยาบาล แต่ถ้าเราต้องมาจ่ายเงินสำรองไปก่อน ทั้งที่มีประกันสุขภาพ เป็นเรื่องไม่เรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง ดังนั้นควรเลือกประกันสุขภาพไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน
ลดหย่อนภาษีได้
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกทำประกันสุขภาพ คือการที่เราสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย ก็จะเป็นประโยชน์แก่เราเป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 25,000 บาท
พอรู้กันแล้วใช่ไหมว่าประกันสุขภาพที่ดีควรมีความคุ้มครองอย่างไรบ้าง ก็ลองนำไปปรับใช้กับการเลือกทำประกันดู โดยลองเปรียบเทียบทุนประกัน ความคุ้มครอง และค่าเบี้ยประกันให้เหมาะสม และตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด