(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfKodP.png)
เมื่อใดก็ตามที่มีอาการปวดศีรษะมาก และอาจเข้าข่ายของอาการโรคไมเกรน นั่นเป็นการเตือนให้รู้ว่าระบบ
ร่างกายมีความผิดปกติเกิดขึ้น สมควรที่จะเข้ารับการตรวจเพื่อหาสาเหตุ หลายคนอาจจะประมาทคิดว่าเป็นเเค่อาการปวดหัวธรรมดา ที่กินยาเพื่อแก้ปวดแล้วจบ
อาการไมเกรน หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม สามารถที่จะรุนแรงยิ่งขึ้นได้ และช่วงเวลาที่ปวดจะมากขึ้น
เรื่อย ๆ จาก 4-7 ชั่วโมง ก็อาจเป็นทั้งวัน ส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันชะงัก สุขภาพอ่อนแอ ดังนั้น
การเข้ารับการปรึกษาเพื่อป้องกันและรักษาโรคไมเกรนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก
ดังนั้นหากมีอาการไมเกรนเเล้ว สิ่งที่ควรต้องรีบตัดสินใจก่อน คือ จะรักษาไมเกรนที่ไหนดี (https://www.migrainethailand.com/migraine-treatment-center/) ซึ่งบทความในวันนี้จะช่วยให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกโรงพยาบาล หรือศูนย์รักษาไมเกรน เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และหายจากอาการได้โดยเร็ว
รักษาไมเกรนที่ไหนดี
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfKupE.png)
โรคไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่งที่แตกต่างจากอาการปวดศีรษะธรรมดา สาเหตุเกิดจากหลอดเลือดในสมองขยายตัวและเกี่ยวข้องกับสารเคมีในสมองด้วย
อาการไมเกรนที่สามารถสังเกตได้ง่ายคือ ปวดศีรษะตุบ ๆ เป็นระยะมักจะเกิดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ อาการปวดจะมีความรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก และในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไวต่อแสง เสียง และกลิ่นมากขึ้น
ส่วนมากพบว่าผู้หญิงเป็นโรคไมเกรนมากกว่าผู้ชายประมาณ 2 – 3 เท่า และผู้ที่เป็นมักจะมีอาการเครียดทาง
อารมณ์และจิตใจสูง เหล่านี้นอกจากจะเป็นการรบกวนชีวิตประจำวันแล้ว ยังส่งผลต่อปัญหาสุขภาพในระยะ
ยาวอีกด้วย
โรคไมเกรนสามารถบรรเทาได้ด้วยการกินยาและพักผ่อนให้เพียงพอ โดยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
อยู่เสมอ ไม่เคร่งเครียดมากจนเกินไป วิธีนี้เป็นแค่วิธีช่วยป้องกันจากไมเกรนเท่านั้น
แต่ถ้าต้องการจะรักษาโรคไมเกรน ควรต้องมีการค้นหาไปถึงปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดศีรษะ ทั้งนี้ควรได้รับคำแนะนำและวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในโรงพยาบาลหรือคลีนิคต่าง ๆ หรือจากศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางก็ได้
การเลือกคลินิกรักษาไมเกรนสำคัญอย่างไร
เนื่องจากอาการปวดหัวไมเกรน ไม่สามารถหายขาดได้ มีแต่การรักษาเพื่อลดโอกาสการเกิดอาการปวดหัว
ไมเกรน ฉะนั้นหลักสำคัญในการรักษาไมเกรน คือ การรับมือและการป้องกันอาการปวดมากกว่า เพื่อให้
ลดความทรมานจากการปวดหัวและสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการเลือก
สถานพยาบาลที่จะทำการรักษาให้ถูกต้องเหมาะสม
การรักษาไมเกรนจะต้องพิจารณาระดับความรุนแรงของอาการปวด แต่หลัก ๆ แล้วก็จะเป็นการให้ยาเพื่อ
บรรเทาอาการปวด แต่ถ้าบ่อยเกินไปก็มีสิทธิ์ส่งผลให้อาการปวดรุนแรงและถี่ยิ่งขึ้น ดังนั้นต้องให้ยาป้อง
กันอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย
วิธีการรักษาไมเกรนอื่น ๆ ก็มี การฉีดยาระงับการทำงานของเส้นประสาทเฉพาะที่ , การนวดกดจุด ,
การฉีดโบท็อกซ์ ในผู้ป่วยที่ไม่สนองตอบต่อการใช้ยาป้องกัน หรือล้มเหลวจากวิธีการป้องกันการปวด
ศีรษะอื่น ๆ
6 วิธีเลือกศูนย์รักษาไมเกรนที่ไหนดี
สำหรับโรคไมเกรนนั้น คนทั่วโลกประมาณ 1 ใน 7 จะต้องเคยประสบกับอาการปวดศีรษะอย่างน้อย 1 ครั้ง
นั้น จัดเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าโรคไมเกรนนั้นจะปวดศีรษะมากกว่าปวดหัวธรรมดามาก แต่ว่าเราไม่
จำเป็นต้องทนกับอาการปวดแบบนี้อีกต่อไป ทางออกคือเลือกแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการรักษาซึ่งมีพร้อม
ให้บริการที่ BTX MIGRAINE CENTER ที่เป็นอันดับต้น ๆ ของการรักษาโรคไมเกรน
1. ศูนย์รักษาไมเกรนที่ได้มาตรฐาน
ศูนย์สำหรับรักษาไมเกรนที่ได้มาตรฐานนั้นจะถึงพร้อมด้วยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางและทีมพยาบาลที่ได้รับการอบรมตามมาตรฐานวิชาชีพ พร้อมนำ อุปกรณ์ เครื่องมือที่ทันสมัยเข้ามาวินิจฉัยเพื่อผลการตรวจที่
แม่นยำส่งผลให้การรักษามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfKpyW.png)
2. แพทย์ผู้ทำการรักษาต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
การรักษาโรคไมเกรนนั้น จำเป็นต้องใช้แพทย์เฉพาะทางโรคไมเกรน เช่น อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท เพราะโรคไมเกรนเป็นโรคทางประสาทชนิดเรื้อรัง พบได้มากถึง 20% ของประชากร และจาก
หลักฐานข้อมูลทางระบาดวิทยา ทำให้เชื่อว่า โรคไมเกรนสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่จะเกิดอาการหรือไม่ก็ขึ้นกับปัจจัยรอบตัวที่มากระทบผู้ป่วย
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfKyU9.jpg)
3. คลินิกรักษาไมเกรนที่เดินทางสะดวก
โรคไมเกรนนั้นอาจเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ บางครั้งมาแบบเฉียบพลัน ดังนั้นควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่
ใกล้ ๆ หรือเดินทางไปกลับได้สะดวก ถ้าให้ดี สถานพยาบาลนั้นน่าจะอยู่ใกล้ ๆ กับขนส่งสาธารณะเพื่อ
สะดวกในการเดินทาง
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfZ0yq.png)
4. ค่าใช้จ่ายในการรักษาไมเกรนมีความเหมาะสม
ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคไมเกรนนั้นจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เนื่องจากความแตกต่างในการ
ตอบสนองต่อการรักษาพยาบาลเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกัน จึงใช้วิธีรักษาที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ดีก็
ควรจะมีเจ้าหน้าที่ประเมินราคาที่พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องค่าใช้จ่าย เพื่อตรวจเช็คว่าตรงกับงบที่เตรียมไว้
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfZk0I.png)
5. มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ
ควรเป็นสถานพยาบาลที่เป็นที่รู้จัก และมีความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการรักษาโรคไมเกรน โดยสามารถหาอ่านได้จากอินเตอร์เน็ต เราสามารถหาอ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการคนก่อนหน้า ว่ามีความเห็นอย่างไรต่อ
สถานพยาบาลเเห่งนั้น
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfZKvv.png)
6. มีการบริการที่เหมาะสม
มีบริการด้านการรักษาทางการแพทย์ การพยาบาลที่รวดเร็วได้มาตรฐานและปลอดภัยโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
มีบริการช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรง และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ นอกจากนี้ผู้ให้บริการ ทั้งแพทย์ และพยาบาลมีอัธยาศัยดี มีความตั้งใจในการช่วยรักษา
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/07/25/XfZx7Q.png)
ข้อสรุป
เมื่อไรก็ตามที่มีอาการโรคไมเกรนกำเริบ ให้หยุดพัก แต่ถ้าผ่านไป 10-20 นาทีแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็ควรกิน
ยาตามแพทย์สั่ง แต่สำหรับระยะยาวแล้ว การใช้ยาบ่อยเกินไปก็อาจมีผลทำให้โรคไมเกรนรุนแรงขึ้น ดังนั้น
ควรที่จะหาโรงพยาบาลรักษาไมเกรน หรือศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทาง เพื่อจะได้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีป้องกัน และรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อให้หายขาดจากอาการไมเกรน